รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้ง พบปะกับผู้สมัครในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้ง พบปะกับผู้สมัครในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูลและสงขลาเพื่อแถลงนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อใช้ในการหาเสียง และสอบถามถึงปัญหาในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่โหมดเลือกตั้งที่ใกล้จะถึงในเร็วๆ นี้

ที่ ห้องประชุมย่อย ศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้ง พบปะกับผู้สมัครในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูลและสงขลาเพื่อแถลงนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อใช้ในการหาเสียง และสอบถามถึงปัญหาในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่โหมดเลือกตั้งที่จะถึงในเร็วๆ นี้ หลังจากนั้น นายนิพนธ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้เปิดแถลงข่าวแก่สื่อมวลชน ถึงความพร้อมของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการเตรียมความพร้อมของพรรคปชป.ชายแดนใต้ ตั้งแต่สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ซึ่งหลังจากประชุมที่จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว วันนี้ก็ประชุมเตรียมความพร้อมทุกอย่าง และที่ประชุมก็ได้รับการยืนยันว่าทุกเขตมีความพร้อมในการเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนใต้ ประชาธิปัตย์ได้ชูนโยบาย สันติภาพสู่สันติสุข ดังนั้นจึงคิดว่าเกือบ 20 ปีที่ผ่านมาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนใต้ ถ้าไม่สามารถแก้เรื่องความเห็นต่างหรือความขัดแย้งไม่ได้ก็ยากที่จะนำสันติสุขมาสู่ชายแดนใต้ วันนี้ประชาธิปัตย์จึงได้นำเสนอยุทธศาสตร์สำคัญนั่นคือ การทำให้เกิดสันติภาพ และนำไปสู่สันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฉะนั้นเราสนับสนุนการที่จะพูดคุยในความเห็นที่ต่างกันอยู่ในพื้นที่ ทุกฝ่ายจึงต้องมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนใต้ 

ตลอดเวลาที่เราใช้ความมั่นคงหรือการแก้ปัญหาด้วยอาวุธมันไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใจ้ได้ วันนี้เราใช้งบประมาณไปเกือบ 5 แสนล้าน ในช่วง 19 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มีเหตุปล้นปืน ดังนั้นถ้าจะแก้ปัญหาโครงสร้างซึ่งได้มีความพยายามแก้กันมาตั้งแต่เรื่องของการศึกษาก็ดี เรื่องความยุติธรรมหรือเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินก็ดี วันนี้ได้แก้ปัญหาเหล่านี้ไปเยอะเหลืออีกหนึ่งปัญหาทีาราต้องเร่งรัดในการแก้ไขคือในเรื่องของการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื่นที่ที่จังหวัดชายแดนใต้ ฉะนั้นการที่จะแก้ปัญหาความยากจนได้ก็คือ การสร้างงานให้เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยสร้างอาชีพให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และยุทธศาสตร์ของประชาธิปัตย์ที่สำคัญคือ ทำให้พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทสงด้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นดารปนะมง การเพาะเลร้ยงแลาในกะชัง หรือแศุสัตว์ต่างๆ ซึ่งกระทรวงเกษตร และกระทรวงพาณิชย์ได้ส่งเสริมเรื่องนี้มาตลอด โดยการส่งเสริมให้แนะชาชนรวมกลุ่มเลี้ยงโค ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเลี้ยงโคอาลังสึกะก็ดี หรือหาแหล่งทุนต่างๆมอบให้กลุ่มเกษตรกรทำการเลี้ยงปลาหรือโค ฉะนั้นนี่คือรูปแบบการส่งเสริมอาชีพ ตลอดจนถึงการทำการเกษตรพืชสวน ทำนาร้างให้เป็นนาข้าว สิ่งเหล่านี้จะเป็นการทำรายได้ให้กับประชาชน คือการสร้างงานในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่ และจะเชื่อได้ว่าจังหวัดชายแดนใต้จะคืนสู่สันติสุขอย่างแท้จริง 

ดังนั้นยืนยันได้ว่าวันนี้ พวกเราในจังหวัดชายแดนใต้พร้อมเข้าสู่สถานการณ์การเลือกตั้ง และนำเอายุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ไปสู่การแก้ปัญหา นำสันติภาพมาสู่จังหวัดชายแดนใต้ นำสันติภาพมาสู่พื้นที่อย่างแท้จริง และเชื่อว่าเราจะเกิดความสันติสุขอย่างแท้จริง ดังนั้นในนามของผู้สมัครในนามพรรคปชป.ยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า การที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้ต้องพูดถึงเรื่องสันติภาพ ให้เข้าใจตรงกัน บทเรียนในอดีตที่เรามีปัญหาในช่วงความเห็นต่างมันจบลงได้ด้วยการพูดคุยกัน จบลงได้ด้วยนโยบายการเมืองที่ชัดเจน 

ด้านเจะอาเมง ผู้สมัครในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสกล่าวเสริมว่า จากการพูดคุยของผู้สมัคร 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้เรามีข้อสรุปว่า พวกเราต้องขอบคุณคณะกรรมการบริหารพรรคที่ได้มีมติให้ท่านจุรินทร์ เป็นเคดิเดทนายกรัฐมนตรี และมติของพวกเราก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนท่านจุรินทร์เป็นนายกคนต่อไปในวันข้างหน้า ซึ่งที่ประชุมได้มีการพูดคุยถึงเหตุผลที่ให้การสนับสนุน เหตุเพราะท่านจุรินทร์เป็นผู้ที่มีความเหมาะสม ทั้งด้านการศึกษา และเคยเป็นรัฐมนตรีมาแล้ว 16 กระทรวง เป็นส.ส. 11 สมัย รวมถึงเป็นทั้งวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาล จึงเป็นคนที่มีความเหมาะสม และสามารถทำงานได้แม้กระทั่งในการแก้ไขปัญหาในขณะนี้ จนเป็นที่จับตา และต้องใจของพี่น้องประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ และยังเป็นคนเดียวที่สามารถยืนผงาดในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพวกเรา จึงมีความมั่นใจว่า ท่านจะพาพรรคและพาบ้านเมือง ต่อไปในอนาคตข้างหน้าได้ 

นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้พรรคปชป.มีความหวังว่า วันนี้เราจะฟื้นสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาให้ได้ เพราะทุกเขตที่พูดคุยกันแล้วทุกคนมีความมั่นใจหลังจากที่พรรคออกยุทธศาสตร์ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติมา และเริ่มออกนโยบาย 8 นโยบาย โดยเฉพาะด้านสร้างเงินด้านการเกษตร ได้รับการตอบรับจากพื้นที่อย่างดียิ่ง ว่าให้ประโยชน์กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้จริง และสามารถทำได้ไว ทำได้จริงซึ่ง 8 นโยบายของยุทธศาสตร์ สร้างเงินภาคการเกษตร ตอบโจทก์ให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของการให้ทุนกลุ่มประมงพื้นบ้าน ประมงท้องถิ่น 100,000 บาทต่อปี รวมถึงประมงพาณิชย์ ซึ่งพรรคจะเข้ามาแก้ไขในเรื่องของกฏหมายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพื่อให้กลับมาทำอาชีพประมงได้ปรกติ 

การออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลง ภายใน 4 ปี ในที่ดินที่มิใช่ของรัฐ รวมถึงที่ดินของรัฐที่จะจัดสรรในที่ทำกินให้ถูกต้องตามกฏหมายต่อไป รวมถึงกลุ่มชาวนาที่พรรคจะให้ทุน 30,000 บาท โดยให้ไร่ละ 2000 แต่ไม่เกิน 15 ไร่ ซึ่งพรรคจะทำควบคู่กับการประกันรายได้ ในส่วนต่างๆ ในเรื่องข้าว ยางพารา ปาล์ม มันสำปะหลัง และข้าวโพด หรือแม้แต่ชาวนาที่ทำกินไม่ได้ขายก็ได้ นี่คือสิ่งที่ปชป.จะทำทั้งหมด ทั้งในเรื่องของธนาคารชุมชนและหมู่บ้านละ 2 ล้านบาท นี่คือ 8 นโยบายของยุทธศาสตร์สร้างเงิน ที่สำคัญที่จะทำควบคู่กับเรื่องการศึกษา และในรอบนี้การศึกษาก็จะเป็นเป้าหมายหลักหลังจากที่เคยทำในเรื่องของนมโรงเรียน เรื่องอาหารกลางวัน เรื่องเงินยืมกยศ. ในอนาคตจะทำในเรื่องของการเรียนฟรีจนถึงระดับปริญญาตรีของพรรคปชป. นี่คือการที่ตั้งใจจะมาแก้ปัญหาในเรื่องของโครงสร้างทางการศึกษาในจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อคนจบแล้วต้องมีงานทำ และสามารถอยู่กับครอบครัว สร้างความอบอุ่นในครอบครัว และทำอย่างไรให้คนสามวัยอยู่กันให้ได้ ความสันติสุขและความสุขในครอบครัวก็จะเกิดขึ้น และสิ่งที่ประชาธิปัตย์พูด ประชาธิปัตย์ทำได้ทุกเรื่อง และประชาธิปัตย์ยุคนี้ ทำได้ไว ทำได้จริง


ที่มา: นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา