Saturday, 18 May 2024
POLITICS NEWS

รัฐบาลเผยเหตุ 'สี จิ้นผิง' ไม่จับมือนายกฯ เหตุ!! จีนเข้มมาตรการป้องโควิด-19

'โฆษกรัฐบาล' แจงปมดราม่า 'สี จิ้นผิง' เมิน จับมือ 'บิ๊กตู่' เหตุ จีนเข้มมาตรการป้องโควิด-19 

(18 พ.ย. 65) ที่ศูนย์สิริกิติ์ฯ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์กรณีที่ปรากฎภาพประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ปฎิเสธการจับมือทักทายกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่า...

‘ตรีชฎา’ แนะ ‘ทิพานัน’ เลิกชม ‘ชายใช้รถถังยึดอำนาจ’ พร้อมชู ‘ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์’ ผู้นำที่คนไทยยกย่องจดจำ

(18 พ.ย. 65) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุว่าพรรคเพื่อไทยหวั่นไหวและหวาดกลัวกับความสำเร็จของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในการจัดการประชุมเอเปคว่า อยากให้น.ส.ทิพานันนำพาตัวเองออกมาจากฝัน และรับความจริงให้ได้ว่าหลังเป็นนายกฯ มา 8 ปี ความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างไร จากผลโพลหลายสำนักพบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แม้เพิ่งเข้าสู่การเมืองไม่นาน ยังเอาชนะใจประชาชนได้ทุกภูมิภาคของประเทศ คะแนนความเป็นผู้นำแซงพล.อ.ประยุทธ์แบบไม่เห็นฝุ่น เพราะพี่น้องประชาชนสิ้นหวังแล้ว อยากได้ผู้นำคนใหม่ที่นำพาความหวังมาสู่ประเทศไทย อยากหลุดพ้นจากวงจรแห่งความตกต่ำนี้เต็มที่แล้ว 

ส่วนที่น.ส.ทิพานันระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มาจากเผด็จการ แต่มาจากการเลือกตั้งที่มีกติกาเดียวกันกับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งปี 2562 นั้น ในคราวนั้นน.ส.ทิพานันลงสมัคร ส.ส.แต่สุดท้ายประชาชนไม่ได้เลือกเข้ามา คงยังไม่เข้าใจว่าการมีที่มาจากการเลือกตั้งอย่างสง่างามนั้นเป็นอย่างไร อาจจะยังไม่รู้ชัดแจ้งว่าแท้จริงแล้วพล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ยึดอำนาจมาจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในปี 2557 ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์มาจากการเลือกของพี่น้องประชาชนเช่นเดียวกับนายทักษิณ ชินวัตร 

น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า การเข้ามาเป็นผู้นำประเทศจากเสียงบริสุทธิ์ของประชาชน กับผู้นำซึ่งมีที่มาจากปลายกระบอกปืน แบบไหนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความสง่างามมากกว่ากัน และในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ตามกติกาในระบอบประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยต้องได้เป็นรัฐบาล แต่ภายใต้กติกาที่บิดเบี้ยว ให้อำนาจ ส.ว.ที่มาจากการสรรหาโดยหัวหน้าคณะรัฐประหาร สามารถเลือกนายกฯ ได้ แม้แต่สมาชิกของพรรคพลังประชารัฐที่น.ส.ทิพานันสังกัดอยู่ยังออกมายอมรับว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับดีไซน์มาเพื่อพวกเรา การเข้าสู่อำนาจจากกติกาที่ไม่เป็นธรรมเป็นเรื่องที่ไร้ศักดิ์ศรี น่าละอายและขายหน้าไปทั่วโลกใช่หรือไม่

'โรม' ประณามตำรวจใช้ปืนกระสุนยางยิงใส่ผู้ชุมนุม ชี้!! สร้างความอับอายขายหน้าต่อชาวโลก

(18 พ.ย. 65)  นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า...

ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ไม่มีตรงไหนเลยที่ห้ามมิให้ประชาชนเดินขบวนไปยังสถานที่จัดประชุม APEC

แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี กำหนดให้ศูนย์ประชุมสิริกิติ์เป็นสถานที่ตามความในมาตรา 8 ของ พ.ร.บ.ชุมนุม แต่มาตรา 8 กำหนดแค่ว่าการชุมนุมต้องไม่ขวางทางเข้าออกหรือทำให้ไม่สามารถใช้งานสถานที่ได้ 

ดังนั้นต่อให้ประชาชนเดินขบวนไปถึงหน้าศูนย์ประชุมฯ ถ้ายังจัดการให้การประชุมดำเนินต่อไปได้ ประชาชนก็ย่อมมีสิทธิชุมนุมได้ (ซึ่งในความเป็นจริงกำลังตำรวจที่มีสามารถบริหารจัดการได้แน่ ๆ)

‘อัษฎางค์’ เปิดผลดี-ผลเสีย’ ม็อบเอเปค หวัง ‘ทำลายชาติ’ แต่ดัน ‘ทำลายตัวเอง’

(18 พ.ย. 65) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค’ ระบุเนื้อหาดังนี้...

ม็อบทำลายชาติ = ทำลายตัวเอง

ม็อบโจมตีว่า ลุงตู่ไม่เหมาะกับการเป็นผู้จัดงานประชุมระดับนานาชาติ เพราะรัฐบาลนายกลุงตู่เป็นเผด็จการ

สงสัยโลกต้องหาคำนิยายใหม่ของคำว่าเผด็จการ

>> เผด็จการอะไร มีม็อบเกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน
>> เผด็จการอะไร ปล่อยให้คนมาด่าประมุขของชาติ ด่าผู้นำของรัฐบาล ได้ทุกวัน

ผู้นำประเทศชั้นนำของโลก พร้อมผู้ติดตามและสื่อมวลชนนานาชาติ ได้เห็นกับตาว่า จะเป็นรัฐบาลเผด็จการไปได้อย่างไรในเมื่อประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม

‘ก้าวไกล' สวน 'วราวุธ' ใช้เวที COP27 ฟอกเขียวเอื้อทุนใหญ่ ไม่จริงใจแก้ไขปัญหาภูมิอากาศโลก

(18 พ.ย. 65) นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนสิ่งแวดล้อม พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นภายหลัง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศกลางที่ประชุมระดับสูงของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาแห่งสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP27 ว่า ประเทศไทยต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก โดยมีหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางสำคัญ ส่งเสริมในเรื่องของเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว หรือ Bio-Circular-Green Economy (BCG  Economy) สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่อการดูดกลับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเชิงพาณิชย์ก่อนปี 2040 รวมถึงการกำหนดเป้าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เป็น 55% ของพื้นที่ประเทศเพื่อเพิ่มแหล่งเก็บก๊าซเรือนกระจกในปี 2037 โดยมีการจัดทำแนวทาง กลไกการบริหารการจัดการคาร์บอนเครดิตเพื่อถ่ายโอนผลการลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศไทยภายใต้ข้อตกลงปารีส

"สิ่งที่ท่านรัฐมนตรีวราวุธ ประกาศต่อเวที COP27 เป็นวาทกรรมฟังแล้วชวนเคลิ้ม แต่สวยแต่เปลือกทั้งสิ้น เพราะข้างในไม่เคยมีประชาชนอยู่ในสมการ เป็นเพียงการฟอกเขียวที่มีผลประโยชน์ของนายทุนซ่อนอยู่เป็นเนื้อในทั้งสิ้น และท้ายที่สุดจะไม่นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงใดต่อสภาพภูมิอากาศโลกหรือมลพิษทางอากาศของไทยเลย"

ทั้งนี้ นิติพล ชี้ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตทางภูมิอากาศในหลายมิติ รวมถึงมลพิษทางอากาศจากการเผาพื้นที่เกษตรในภูมิภาคแม่น้ำโขงตอนบน โดยมีฝุ่นพิษลอยข้ามพรมแดนมายังประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รับรู้กันดีว่าเป็นผลมาจากการปล่อยให้กลุ่มทุนใหญ่ทางการเกษตรต่าง ๆของไทยทำธุรกิจได้อย่างไร้ความรับผิดชอบ โดยไม่มีการผลักดันทางกฎหมายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือคนไทยทางภาคเหนือโดยเฉพาะเชียงใหม่ต้องป่วยเป็นมะเร็งปอดมากที่สุด จากการสูดฝุ่นพิษ P.M.2.5 จากการเผาไหม้

‘ศิโรตม์’ ประณามโรงพยาบาลหยุดช่วงเอเปก ด้านชาวเน็ตถล่มยับ!! ไล่ไปเช็กข้อมูลก่อนวิจารณ์

(17 พ.ย. 65) เมื่อวานนี้ (16 พ.ย. 65) นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ อาจารย์และผู้ดำเนินรายการทีวีช่องหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยระบุว่า “ขอประณามรัฐบาลที่สั่งปิดโรงพยาบาลรัฐช่วงเอเปค คำสั่งนี้ต้องยกเลิกทันที ต้องไม่มีใครป่วยหรือตายจากการอยากได้หน้าช่วงเอเปคของรัฐบาล #เอเปค2022 #เอเปค2565”

ต่อมาได้ทวีตข้อความเพิ่มเติมพร้อมแนบลิงก์ข่าวสำนักหนึ่ง และระบุว่า “วิจารณ์สนั่น! รพ.สมุทรปราการประกาศหยุด 16-18 พ.ย. บริการเฉพาะเหตุฉุกเฉิน เหตุมีการจัดประชุมผู้นำเอเปก”

หลังจากนั้นไม่นานชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ทวิตตอบโต้ว่า “ป่วยฉุกเฉิน ห้องฉุกเฉินก็เปิดนะคะ ไม่ได้ปิด มีหมออยู่เวรตลอด รวมทั้งในหอผู้ป่วยก็มีหมอและเจ้าหน้าที่อยู่เวรตลอด เดินเข้ารพ.เป็นโรคฉุกเฉินไม่มีใครไม่รักษานะคะ ไม่น่าจะมีใครตายเพิ่มจากการให้รพ.เป็นวันหยุดราชการนะคะ #ไม่ใช่สลิ่มไม่ได้โปรประยุทธแต่อันนี้รบกวนหาข้อมูลนิดนึงค่ะ”

โดยนายศิโรตม์ ได้ตอบกลับว่า “ทราบครับว่าฉุกเฉินเปิด แต่ประเด็นคือโรงพยาบาลไม่ควรถูกปิดแม้แต่นิดเดียวครับ ยิ่งโรงพยาบาลรัฐใหญ่ ๆ ผู้ป่วยนอกบางแห่งวันละ 5-6,000 คำสั่งปิดทำประชาชนเดือดร้อนรวมกันเป็นหมื่นจากทุกโรงพยาบาลในกรุงเทพ-นนทบุรี-สมุทรปราการแน่นอนครับ”

นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายอื่นเข้ามาแสดงความคิดเห็นอีก เช่น 

- เสาร์ - อาทิตย์เขาก็ปิดครับท่าน ในความหมายเดียวกันเลย ไม่ได้หมายความว่าไม่รักษา แต่เปิดบริการเหมือนวันหยุด เสาร์ - อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ครับ เป็นเรื่องปรกตินะครับ แค่เหมือนเพิ่มวันหยุดกรณีพิเศษเข้ามาแค่นั้น

- ปกติอะไรงง ทุกทีเวลาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ มันคือเว้นว่าง 2 วัน รวมนักขัตฤกษ์ก็ไม่น่าเกิน 3 แต่อันนี้
มันติดต่อกันเกือบสัปดาห์ แล้ววันหยุดเขาประกาศล่วงหน้าเป็นปี มันต้องทบคิวไปกี่วัน

'คนช่วยชาติ' กับ 'คนถ่วงชาติ' แบบไหนที่คนไทยต้องการ?

ช่วงนี้เราเห็นภาพการปรับภูมิทัศน์ของประเทศให้แลดูมีระเบียบ สะอาดตา เพื่อต้อนรับผู้นำชาติต่างๆ ที่มาร่วมงาน APEC 2022

ช่วงนี้เราเห็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ลงมาเตรียมงานเพื่อสร้างความประทับใจในหลายๆ มิติ ตั้งแต่รูปแบบการจัดงาน การเดินทาง อาหารการกินที่พิถีพิถัน การแสดง วัฒนธรรม ที่พัก แหล่งท่องเที่ยว และอีกมากมายเพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน จนนางรีเบคกา สตามาเรีย ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการเอเปค ยังต้องพูดว่านี่มัน 'งานเวิลด์คลาส' ที่ทำให้เอเปคกลายเป็นอีเวนต์ใหญ่ที่โลกต้องจับตา

ช่วงนี้เราได้เห็นเยาวชนไอเดียสร้างสรรค์นำ 'ชะลอม' มาประยุกต์เป็นโลโก้เอเปค ที่ไม่ได้คิดแค่งานเท่ๆ สวยๆ แต่พยายามสะท้อนให้เห็นถึงงานฝีมือ ที่ยั่งยืน ซึ่งสะท้อนความสมดุลของวิสัยทัศน์การประชุมฯ ในปีนี้ และปลุกให้ภูมิปัญญาท้องถิ่น หวนคืนมาสู่สำนึกรักษ์ของคนไทยและต่างชาติ

และช่วงนี้เรายังได้เห็นเหล่าเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีความตระหนักในการเชิดชูและผลักดันหน้าตาของประเทศให้มีชื่อเสียงผ่านเวทีนี้ ร่วมผสานใจทำหน้าที่ในมิติต่างๆ เพื่อชื่อเสียงหน้าตาของประเทศ นำเสนอภาพวัฒนธรรมที่ดีงามของประเทศสู่สายตานานาชาติ ซึ่งสุดท้ายแล้วภาพเหล่านี้จะกลับมาเป็นเงินในกระเป๋าของคนทั้งประเทศจากการท่องเที่ยว

‘จิราพร’ ชี้ ‘ประยุทธ์’ เป็นได้แค่ผู้จัดเอเปก แต่ไม่ได้เป็น ‘ผู้นำ’ ที่เชิดหน้าชูตาให้ประเทศ

‘จิราพร’ ชี้ ภาพลักษณ์เผด็จการประยุทธ์เป็นอุปสรรคในเวทีโลก เย้ยเป็นได้แค่ผู้จัดประชุมเอเปค แต่ไม่เป็นผู้นำที่เชิดหน้าชูตา ยกนโยบายเศรษฐกิจสองทางสมัยทักษิณทำให้จัดเอเปคแล้วปัง

นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 นี้ว่า ในอดีตประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ครั้งที่ได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จมากที่สุด คือการจัดการประชุมเมื่อปี 2546 ในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่นอกจากจะโดดเด่นในการดำเนินนโยบายการต่างประเทศเชิงรุก สามารถแสดงบทบาทนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ทั่วโลกต้องจับตามองไทย และพาผู้นำประเทศมหาอำนาจ และเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่มาร่วมเวทีเดียวกันได้สำเร็จแล้ว

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุดจากเวทีการประชุมเอเปคในครั้งนั้น คือ รัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจสองแนวทาง หรือ Dual Track Policy ที่เน้นให้ไทยแสวงหาประโยชน์จากการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างกลไกภายในประเทศให้แข็งแกร่ง จึงเกิดการผลักดันนโยบายอย่างเป็นระบบเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากในประเทศให้เข้มแข็ง เช่น นโยบายหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ การพักชำระหนี้เกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน รวมถึงนโยบายการเตรียมความพร้อมประเทศสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ฯลฯ โดยดำเนินการไปพร้อมกับการดำเนินนโยบายการทูตเชิงเศรษฐกิจ ใช้เวทีการประชุมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะโอกาสการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ประสานประโยชน์เพื่อยกระดับนโยบายในประเทศเชื่อมโยงไปยังต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจไทยที่เคยประสบปัญหาจากวิกฤตต้มยำกุ้งและการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส สามารถกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดด จนเกือบเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าการพัฒนากลับต้องสะดุดหยุดลงเพราะการทำรัฐประหาร

ในขณะที่ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำที่มาจากการทำรัฐประหารสืบทอดอำนาจ มีสถานะที่อ่อนด้อยไม่ได้รับการยอมรับในเวทีโลก และยังไม่มีนโยบายภายในประเทศที่ช่วยวางรากฐานให้โครงสร้างเศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตในระดับนานาชาติได้ เน้นเพียงมาตรการระยะสั้น และการแจกเงิน ซึ่งไม่ใช่นโยบายที่สามารถช่วยพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน นับวันยิ่งทำให้คนจนในประเทศเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทะลุ 22 ล้านคน ท่ามกลางหนี้สาธารณะประเทศทะลุ 10 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนสูงเกือบ 15 ล้านล้านบาท 

‘อัษฎางค์’ ฟาดพวก 3 นิ้ว รู้ดี ‘เรื่องเท็จ-ข่าวปลอม’ แต่ประโยชน์ของ APEC กลับอ้าง “ไม่รู้อะไรเลย”

(17 พ.ย. 65) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า มันแปลกดีน่ะ ข้อมูลข่าวสารดีๆ มีรายงานอยู่ตลอดมา ทั้งจากภาครัฐและภาคสื่อมวลชน แต่คนบางคนหรือบางกลุ่มมักมองไม่เห็นหรือไม่เคยมอง แล้วก็มักพูดว่า ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย เพราะรัฐไม่เคยชี้แจงแถลงไข แต่กับข่าวปลอม ข้อมูลเท็จ กลับรู้กันดีจริงๆ แถมยังเชื่อว่าเป็นข้อเท็จจริง

นายอนุชา บรูพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงประโยชน์ที่ประเทศ และประชาชนไทยจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค APEC 2022 อันได้แก่

1.) ส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือ ทำให้ธุรกิจทั้งรายเล็กรายใหญ่ได้เข้าถึงประโยชน์จากระบบเศรษฐกิจยุคใหม่ได้อย่างเต็มที่

2.) เนื่องจากการประชุมผู้นำเอเปคครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ผู้นำเอเปคได้เดินทางมาพบหน้ากัน แบบตัวต่อตัว จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ไทยได้แสดงศักยภาพ และความพร้อมให้โลกได้เห็นผ่านความสำเร็จในการจัดประชุมที่จะมีตลอดทั้งปี ท่ามกลางความท้าทายในสถานะการณ์โควิด-19 และสถานการณ์โลกที่ผันผวน

3.) เป็นโอกาสอันดีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้สนใจกลับมาเที่ยงเมืองไทย ผ่านภาพความสำเร็จ การจัดประชุมที่จะมีตลอดทั้งปี ท่ามกลางความท้าทายในสถานะการณ์โควิด -19

4.) เป็นโอกาสในการนำเสนอภาพความโดดเด่นทางวัฒนธรรม อาหาร การแสดง และเอกลักษณ์ความสวยงามของไทยจะถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและงานบริการ

5.) ในช่วงสัปดาห์การประชุมเอเปคจะมีผู้นำเอเปคและผู้แทนจากต่างประเทศเดินทางมาเยือนไทยประมาณ 3,000 คน และสื่อต่างชาติอีกกว่า 2,000 คน

และนอกจากการประชุมผู้นำเอเปคครั้งนี้ ยังมีการประชุมที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายการ อาทิ APEC CEO summit, ABAC, APEC SME ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ไทยได้ต้อนรับผู้นำจากหลายประเทศ ทั้งที่เป็นผู้นำเขตเศรษฐกิจและที่เป็นแขกพิเศษ ได้แก่ มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย และประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งทุกคนที่มาร่วมงานประชุม ตลอดจนโลกทั้งโลกที่ติดตามข่าวสารในการประชุมในครั้งนี้ จะได้เห็นศักยภาพของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสการค้าและการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น

6.) เป็นโอกาสให้รัฐบาลได้นำเสนอวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นตั้งใจในการส่งเสริมความยั่งยืน นวัตกรรม ควบคู่ไปกับศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม ความสำคัญ ความหวังและผลประโยชน์มหาศาลจากการประชุมเอแปก

รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เขียนบทความบอกเล่าถึงความสำคัญของ APEC 2022 Thailand เอาไว้ว่า APEC (ย่อมาจาก Asia-Pacific Economic Cooperation) เป็นเวทีการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่มีความสำคัญระดับโลก มีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าการลงทุน ความร่วมมือในด้านมิติสังคมและการพัฒนาด้านอื่น ๆ

'นิพนธ์' มั่นใจ!! 'จุรินทร์' พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี หากรวมเสียงข้างมากในสภาได้ ยัน! พรรคประชาธิปัตย์ให้การสนับสนุนฯ โว หากได้เป็นจะทำได้ดี

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีภายหลังที่ 'นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์' รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาประกาศตัวว่า พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากพรรคประชาธิปัตย์ จะเสนอชื่อเพียงคนเดียว และมั่นใจว่าตัวเองมีความพร้อม หากหลังการเลือกตั้งแล้วไม่พร้อมสมาชิกเลือกไปก็เสียของ แต่ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนเห็นชอบด้วย รอผลจากการเลือกตั้ง

โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า การที่หัวหน้าพรรคได้ออกมาให้สัมภาษณ์นั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนเองได้พูดมา 2 ปีแล้ว ว่าประชาธิปัตย์ ได้สนับสนุนให้ 'จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์' เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า พรรคเรา มีหัวหน้าพรรคมาแล้วทั้งหมด 8 คน และได้เป็นนายกรัฐมนตรี ไปแล้ว 4 คน โดยหัวใจสำคัญที่สมาชิกพรรคใช้ตัดสินในการเลือกหัวหน้าพรรรค มี 2 อย่างคือ 1. จะต้องนำพาพรรคไปข้างหน้าได้ และ 2. คนๆ นั้นต้องพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อเราได้เลือก 'จุรินทร์' ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค นั้นหมายความว่า เราพร้อมที่จะสนับสนุนให้เป็น 'นายกรัฐมนตรี' … ซึ่งในระบอบประชาธิปไตย การที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ต้องขึ้นอยู่กับระบบรัฐสภาฯ ซึ่งหมายความว่า หัวหน้าพรรคการเมืองพรรคไหน ที่ไปรวบรวมเสียงข้างมากในสภาได้ คนนั้นก็จะได้รับการสนับสนุน ให้เป็นนายกรัฐมนตรี เหล่านี้จึงอยู่ที่จำนวนมือของ ส.ส.ที่สนับสนุน ในสภาผู้แทน”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top