Saturday, 24 May 2025
NEWS

โกอินเตอร์!! ‘หวยไทย’ โผล่ขายพรึบ!! ที่เมียนมา  คอหวยงงเอาไปขายได้ยังไง? แถมราคาแพงเวอร์

เพจดังแฉ หวยไทยโผล่ขายที่เมียนมา บรรดาคอหวยงง เอาไปขายได้ยังไง! แถมราคาแพงเวอร์ ตั้งแต่ 120-270 บาท ทั้งที่อนุญาตให้ขายที่ไทยในราคา 80 บาทเท่านั้น

เพจเฟซบุ๊ก ไทย – พม่า : เพราะแผ่นดินเราติดกัน ได้นำรูปภาพแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลของไทย ที่ตั้งอยู่ในเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา พร้อมทั้งข้อความระบุว่า “เพิ่งสังเกตว่า ในเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา มีแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลของไทยเยอะมาก มีตั้งแผงหลายร้านมาก โดยขายกันตั้งแต่ ใบละ 120 ไปจนถึงใบละ 270 บาทแล้วแต่ความสวยของเลขแต่ละเลข และสลากฯ บางใบก็เป็นสลากฯ ในโควตาที่ถูกปั๊มระบุบนหน้าสลากให้จำหน่ายในราคา 80 บาทด้วย แต่ก็ขายใบละ 120 -270 บาทนะครับ ส่วนการซื้อนั้น แต่ละร้านก็ขายเป็นเงินบาทของไทยนะครับ ใครสนใจเสี่ยงโชคก็เชิญนะครับ เมืองท่าขี้เหล็ก สามารถเดินทางออกข้ามไปจากด่านชายแดน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ครับ”

จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตตั้งข้อสังเกตว่า สลากฯ ดังกล่าวเหตุ เป็นสลากฯ ที่ออกโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลของไทย ซึ่งมีรหัสบาร์โค้ดชัดเจน เหตุไฉนจึงไปโผล่ขายยังประเทศเมียนมาได้ หากย้อนไปเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ได้กำหนดเปิดจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท ทั้งสิ้น 1,000 จุด ทั่วประเทศ โดยให้ผู้จำหน่ายสลากฯ ต้องดาวน์โหลด QR Code ยืนยันตัวตน เพื่อจำหน่ายสลากฯ ในราคา 80 บาทเท่านั้น

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยหลอกลงทุน Forex หลังพบผู้เสียหายทยอยแจ้งความหลายราย  ความเสียหายหลายสิบล้านบาท 

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขอฝากประชาสัมพันธ์เตือนภัยกรณีการหลอกลวงลงทุนในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (Forex) สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ดังนี้

ที่ผ่านมา พงส. บช.สอท. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายหลายราย ผ่านระบบการรับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com ว่าถูกผู้ต้องหาชักชวนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ หลอกลวงให้ฝากเงินลงทุนในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (Forex) ในระบบฝากเทรดของ Xpower Team ซึ่งอ้างว่าเป็นระบบฝากเทรดประกันเงินทุน จะได้รับผลกำไรมากถึง 20-35% ของเงินฝากต่อเดือน มีโปรโมชันลงทุนเพื่อรับของสมนาคุณต่างๆ โดยเมื่อลงทุนตั้งแต่ 3,000 - 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะได้รับนาฬิกา ไอแพด หรือสิ่งของอื่นๆ ตามจำนวนเงินลงทุน มีการทำสัญญาการลงทุนในระยะเวลาต่างๆ ทั้งนี้ผู้ต้องหาอ้างว่าตนเป็นเจ้าของกิจการโรมแรม มีธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ รวมถึงเป็นผู้มีความชำนาญในด้านการลงทุน ที่ผ่านมาพบมีการโพสต์รูปภาพใช้ชีวิตหรูหรา โพสต์รูปทรัพย์สินหลายรายการ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ กระทั่งผู้ต้องหาไม่สามารถจ่ายเงินปันผล หรือกำไรให้ผู้เสียหายได้ อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาตรวจสอบ มีปัญหาเรื่องภาษี และไม่สามารถแสดงบัญชีการลงทุนให้ผู้เสียหายตรวจสอบได้ ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวงและได้รับความเสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย  

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยจากการถูกชักชวนหลอกลวงให้ลงทุนในทรัพย์สินต่างๆ ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ผ่านมามีการดำเนินคดีในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด 
การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 

โฆษก บช.สอท. กล่าวต่ออีกว่า กรณีการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาพบการหลอกลวงมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งมักมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และมีความเสียหายสูง วิธีการที่มิจฉาชีพนำมาใช้ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก เพียงแต่เปลี่ยนเรื่องราวไปตามกระแสความสนใจของสังคมในปัจจุบัน โดยอาศัยความไม่รู้ และความโลภของประชาชนเป็นเครื่องมือ ซึ่งจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งว่าในปัจจุบันยังไม่มีสถาบันการเงินในประเทศไทยที่รับรองการลงทุนประเภทดังกล่าว ผู้ที่สนใจลงทุนต้องสมัครสมาชิก และเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ในต่างประเทศ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะถูกหลอกลวงได้รับความเสียหาย

เติมอากาศ (ดี) ให้เพื่อนบ้าน EA 'เซ็น MOA - ร่วมมือ' รัฐบาลแห่ง สปป.ลาว 'ยกระดับ-พัฒนา EV' ช่วยลาวเดินหน้าสู่สังคมไร้มลพิษ

EA ร่วมมือรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว เซ็น MOA เพิ่มขีดความสามารถพลังงานสะอาด และพัฒนาระบบขนส่ง EV เชิงพาณิชย์ครบวงจร ยกระดับ สปป.ลาว สู่สังคมไร้มลพิษ

เมื่อไม่นานมานี้ (10 มี.ค.66) ได้มีการจัดงานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (Memorandum of Agreement) ว่าด้วย ความร่วมมือเพื่อการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องร่วมกับรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว โดยกระทรวงการเงิน (กระทรวงการคลัง) แห่ง สปป.ลาว จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางด้านพลังงานสะอาด โครงสร้างสายส่ง และพัฒนาระบบขนส่ง EV เชิงพาณิชย์ของ สปป.ลาว อย่างครบวงจร เพื่อยกระดับสู่สังคมไร้มลพิษ ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ท่านสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ของ สปป. ลาว เป็นประธานในพิธี โดยมี ดร. ภูทนูเพชร ไซสมบัตร รองรัฐมนตรีกระทรวงการเงิน (กระทรวงการคลัง) และนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)  ร่วมในพิธีลงนาม ณ โรงแรม ลาว พลาซ่า นครหลวงเวียงจันทน์ สปป. ลาว 

ดร. ภูทนูเพชร ไซสมบัตร รองรัฐมนตรีกระทรวงการเงิน (กระทรวงการคลัง) สปป. ลาว ได้กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นขีดหมายสำคัญระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถทางด้านพลังงานและระบบขนส่งด้วยยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของ สปป.ลาว ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่า บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และสิทธิบัตรที่หลากหลายในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจน้ำมันชีวภาพ ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงการพาณิชย์แบบครบวงจรทั้งทางบกและทางน้ำ ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า รวมถึงธุรกิจแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงานที่ทันสมัย โดยพัฒนานวัตกรรม Ultra Fast Charge Technology ที่สามารถอัดประจุไฟฟ้ายานยนต์ทุกชนิด 80% ในระยะเวลาเพียง 15-20 นาที บริษัทฯ มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ กับรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว จะประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมให้ สปป.ลาว ก้าวสู่สังคมไร้มลพิษในอนาคตอันใกล้”

คลิปภาพมัดตัว ‘นันทิวัฒน์’ เผย หลายพรรคเสี่ยงโดนยุบพรรค ชี้!! นักการเมืองมักคิดว่าทำอะไรก็ได้ ไม่ผิด

(13 มี.ค.66) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สุ่มเสี่ยงผิดกฏหมาย

คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นนักการเมืองมีความเก่งในการทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงผิดกฏหมาย หรือจะพูดว่า ไม่กลัวการทำผิดกฏหมาย ชอบเดินไต่ลวด ชอบเลี่ยงกฏหมาย หรือพูดง่าย ๆ ว่า ชอบโกง จับไม่ได้ ไล่ไม่ทันก็รอด นักการเมืองพวกนี้มักมีความเชื่อว่า เป็นนักการเมืองจะทำอะไรก็ได้ไม่ผิด แต่ถึงจะผิด สักวันจะสามารถออกกฏหมายยกเว้นความผิดที่ตัวเองก่อไว้ได้

มันเกิดอะไรขึ้น โมฆะบุรุษ คนที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยตัดสิทธิทางการเมืองจะไม่สามารถเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ แต่คนเหล่านี้กลับเข้ามาแสดงบทบาททางการเมืองแบบเย้ยกฎหมาย บางคนบางพรรคตั้งให้มีตำแหน่งบนเวทีหาเสียง กระโดดขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงทางการเมือง ชี้นำ โฆษณานโยบายพรรคในการหาเสียงเลือกตั้ง มีบทบาทมากกว่าคนอื่น ๆ

พรรคการเมืองหลายพรรคกำลังสุ่มเสี่ยงใช้คนนอกพรรคชี้นำ ครอบงำพรรค บางพรรคเข้าใจเอาเองว่า คนเหล่านั้นสามารถเป็นผู้ช่วยหาเสี่ยงได้ อันเป็นความเข้าใจผิด

ปัจจุบัน ยังไม่ยุบสภา ยังไม่เปิดรับสมัคร ยังไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น จึงยังไม่มีผู้ช่วยหาเสียงแน่นอน ไก่จะเกิดก่อนไข่ไม่ได้

ภาคประชาชนอัดรัฐลักไก่ ทิ้งทวน เตรียมดันหวยรูปแบบใหม่เข้า ครม. ไม่สนเสียงค้าน ด้านนักวิชาการชี้ไม่ควรออกหวยตัวใหม่ หวั่นซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจ ไม่เคยมียุคไหนที่เพิ่มสลากมากเท่านี้

ต่อกรณีข่าวรมต.คลังเตรียมเสนอต่อที่ประชุมครม.ในวันอังคารที่ 14 มีนาคมนี้ เพื่อขอความเห็นชอบในการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลรูปแบบใหม่ L6 และ N3   รศ.ดร.นวลน้อย  ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน แสดงความเห็นว่า


​“ต้องถามก่อนว่ารัฐบาลต้องการอะไรจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ เพื่อหารายได้เพิ่มหรือเพื่อแก้ปัญหาสลากเกินราคา  หากเป็นประเด็นการหารายได้เพิ่ม ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมามีการเพิ่มสลากจาก 36 ล้านฉบับเป็น 100 ล้านฉบับ เพิ่มเป็น 3 เท่า  ทำให้รัฐบาลมีรายได้จากสลากเพิ่มขึ้นเยอะมากจากการซื้อสลากของประชาชน   ประเทศไทยไม่เคยมีสลากมากเท่านี้มาก่อน”


“สำหรับสลากตัวใหม่ L6 และ N3 ไม่แน่ใจว่าโครงสร้างของราคาจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าออกมาคล้าย ๆ เดิม  เท่ากับรัฐบาลจะมีส่วนแบ่งด้วย ซึ่งเป็นรายได้ที่รัฐบาลได้มาจากผู้มีรายได้น้อย  ถามต่อว่าในลักษณะแบบนี้มันไปกระตุ้นเศรษฐกิจไหม คำตอบคือไม่กระตุ้น เพราะกิจการสลากเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีห่วงโซ่การผลิตสั้นมาก จึงไม่ได้ก่อให้เกิดผลต่อวัฏจักรการผลิตสักเท่าไหร่   แต่จะมีผลต่อการบริโภคมากกว่า  ลองคิดง่าย ๆ สลาก 1 ชุด มี 1 ล้านใบ เป็นเงินรางวัล 60% มีผู้ถูกรางวัลเพียง 14,168 รางวัล และคนถูกรางวัลใหญ่จะนำเงินมาใช้ไม่มาก สลากจึงเป็นกิจกรรมที่แย่งชิงตลาดการบริโภคสินค้าอื่นๆ ดึงเงินออกจากระบบเศรษฐกิจจริง การที่ประชาชนซื้อสลากงวดละ 100 ล้านใบ ๆ ละ 80 บาท คิดเป็นเงิน 8,000 ล้านบาทต่องวด หรือปีละ 192,000 ล้านบาท แทนที่ประชาชนจะนำเงินจำนวนนี้ไปใช้เพื่อการบริโภคสินค้าและบริการอื่นๆ  การเพิ่มสลากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการบริโภคในลักษณะที่ไม่เป็นผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม”


“ส่วนการออกผลิตภัณท์ตัวใหม่เพื่อสู้กับหวยใต้ดินนั้น ต้องถามว่าจะสู้อย่างไร เพราะถ้าไปดูบทเรียนสมัยที่ออกหวยเขียน 2 ตัว 3 ตัว ทำได้แค่ดึงส่วนแบ่งมาบางส่วน บางส่วนก็ดึงไม่ได้  ในขณะนี้เศรษฐกิจไทยก็ไม่ค่อยจะดี รัฐบาลก็ยังคิดจะหารายได้จากการออกผลิตภัณฑ์หวยเพิ่มขึ้น ก็รู้สึกเป็นกังวลว่าหวยใต้ดินก็ยังอยู่ และจะมีหวยอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีก  ส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยเพราะไม่อยากให้เพิ่มการพนันในสังคม ” รศ.นวลน้อยกล่าว


​ด้านนายธนากร  คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า “การแก้ปัญหาสลากแพงด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ เป็นวิธีการที่ล้มเหลวซ้ำซาก ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 11 ของรัฐบาลพลเอกประยุทธตั้งแต่สมัยคสช. มีการพิมพ์สลากเพิ่มทั้งหมด 11 ครั้ง ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นวิธีที่ไม่ได้ผล    

ขณะที่การเปลี่ยนผ่านการจำหน่ายสลากใบมาสู่การจำหน่ายผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตังค์ แสดงให้เห็นผลว่าทำให้สามารถจำหน่ายสลากได้ในราคา 80 บาทจริง เพียงแต่ว่ายังเป็นสลากส่วนน้อยเท่านั้น จึงยังดึงราคาสลากทั้งตลาดลงมาไม่ได้  สิ่งที่ควรทำต่อคือ การเพิ่มจำนวนสลากเข้าสู่ระบบดิจิตัลให้มากพอ  อย่างน้อย 50% ของสลากทั้งหมด หรือ 50 ล้านใบ  ก็น่าจะมีผลทำให้ราคาสลากลงมาที่ 80 บาทได้ เรื่องนี้สำนักงานสลากฯ ควรทำโดยเร็ว แต่ก็ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลอะไรถึงเพิ่มจำนวนสลากฯเข้าระบบได้ช้ามาก  ทั้งที่เดินมาถูกทางแล้ว และก็ยังไม่เห็นความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องออกสลาก L6 มาซ้ำซ้อนกับสลากใบที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน และดูมีแนวโน้มจะเกิดการ “ตีกิน” เติมจำนวนสลากเพิ่มเข้ามาอีก นอกเหนือจากสลาก 100 ล้านใบเดิม”


​“ในช่วงปลายรัฐบาลอย่างนี้ หากครม.มีมติที่ดูเป็นการทิ้งทวนเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่าง จะทำให้รัฐบาลถูกครหาได้ กลายเป็นการจบที่ไม่สวยของรัฐบาลนี้  อีกทั้งเป็นการตอกย้ำว่าที่เคยสัญญาว่าจะแก้ปัญหาสลากแพง 8 ปีผ่านไปยังทำไม่สำเร็จ และกลายเป็นยุคที่ทำให้หวยเฟื่องฟูมากที่สุด

เชียงใหม่-สวนสัตว์เชียงใหม่ จัดกิจกรรมวันช้างไทย ประจำปี 2566 

สวนสัตว์เชียงใหม่ จัดกิจกรรมวันช้างไทย ประจำปี 2566 ณ ส่วนจัดแสดงช้างเอเชีย “ช้างไชโย” สัญลักษณ์การจัดแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ปี ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2541

13 มีนาคม วันช้างไทย สวนสัตว์เชียงใหม่ร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญของช้างไทย ช้างเป็นสัตว์คู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์ไทย ช้างเป็นสัตว์ที่ดำรงอยู่คู่กับประเทศไทยมาเป็นเวลานาน

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เผยว่า เนื่องในวันที่ 13 มีนาคมของทุกปี เป็นวันช้างไทย เพื่อเป็นการยกย่องและให้เกียรติช้างที่มีความสำคัญต่อบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน รวมทั้งเพื่อให้นักท่องเที่ยวร่วมกันอนุรักษ์และเห็นความสำคัญของช้างไทย สำหรับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2552 ภายหลังจากที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงโปรดให้องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ดูแลและอนุรักษ์พันธุ์ช้างไทย  เนื่องจากช้างเป็นสัตว์สำคัญ คู่บ้าน คู่เมือง และถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของชาติ ควรได้รับการคุ้มครองและปกป้องให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้น้อมนำมาปฏิบัติต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนี้ มีช้างอยู่ในความดูแลร่วม 200 เชือก 

ตัวตึงจอมโกง! เซียนพระกำมะลอ ตุ๋นเหยื่อทัวสารทิศ ติดหนี้การพนัน เช็คประวัติมีหมายจับเพียบ ก่อคดีตั้งแต่จบม.6

วันที่ 13 มีนาคม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หัวหน้าชุด PCT ชุดปฏิบัติการ 5 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.ฯ พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม
 นายภัทระ หรือฟลุ๊ค ฤทธาภินันท์ อายุ 25 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 181 หมู่ 9 ตำบลกุดแห่ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ จ.356/2565 ข้อหาฉ้อโกง จับตัวได้ที่หน้าบ้านไม่ทราบเลขที่ ภายในซอยวัดร่าง บ้านกุดแห่ ถ.ชยางกูร ตำบลกุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ขณะหลบหนีมาพักอาศัย

สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ตั้งตนเรียนจบชั้นม. 6 เริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2560 โดยขณะนั้นอายุประมาณ 19 ปี ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพระเครื่องใหม่สายภาคอีสานใต้ เคยมีเฟซบุ๊กสำหรับโพสต์ประกาศเช่าบูชาพระเครื่องส่งพระให้ลูกค้าจริง ชื่อบัญชี “ ชรัณ มุกธวัตร” มีเครดิต มีคนติดตาม มีรายได้จากการปล่อยเช่าบูชาพระเครื่องกว่าเดือนละ 100,000 ถึง 200,000 บาท/ต่อเดือน แต่เนื่องจากติดการพนันตามบ่อนวิ่ง ไม่สามารถมีเงินมาหมุนทำการเช่าซื้อขายพระได้ จึงใช้เครดิตการเช่าซื้อขายพระที่ตนพอมีชื่อเสียง หลอกเช่าบูชาพระเครื่องกับลูกค้าที่สนใจในกลุ่มเฟซบุ๊ก อาทิ กลุ่มสุดยอดวัตถุมงคลหลวงปูแสง ญาณวโร กลุ่มพระเครื่องหลวงพ่อเล็กวัดท่าขนุน กลุ่ม ครูบากฤษดา

นายภัทระ กล่าวต่อว่า เมื่อมีลูกค้าเริ่มทราบข่าวถูกตนโกง ผมจะเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊ก โดยใช้วิธีสลับเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊ก มาเป็นชื่อบัญชี Charun , ชื่อบัญชี Pat Pat , ชื่อบัญชี Pattara , ชื่อบัญชี Watpa และช่วงใดที่เล่นพนันได้พอมีเงินก้อนก็จะหยุดโกง เพื่อให้เรื่องซา แล้วกลับมาทำใหม่อีกเช่นเดิมวนไป  เรื่อยๆ
  
“ที่ผ่านมามีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อเดือนละ 20 ราย มีรายได้จากที่หลอกเหยื่อ 5,000-400,000 บาท ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2560 มีมูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

ู้รู้คุณ รู้โทษ กลุ่ม ‘THE NEXT GEN’ จัดงาน ‘Cannabis Literacy’ สร้างเสริมความรู้เรื่อง ‘กัญชง-กัญชา’ ให้เยาวชนภาคเหนือ

เมื่อวานนี้ (12 มี.ค.66) กลุ่มเยาวชน ‘THE NEXT GEN’ รวมกลุ่มเยาวชนภาคเหนือ จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความรอบรู้ทางสุขภาวะที่เกี่ยวข้องกับกัญชาและกัญชงโดยเด็กเยาวชนภาคเหนือตอนบน (Cannabis Literacy) ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยจัดเสวนาในหัวข้อห่วงใยนโยบาย ‘กัญชาเสรี’ และการปกป้องเด็กและเยาวชนไทย บริเวณลานหน้า ห้างเมญ่าไลฟ์สไตล์ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ โดยวิทยากรในการบรรยายครั้งนี้ได้แก่ ผศ.ดร.พีระ จูน้อยสุวรรณ ที่ปรึกษา THE NEXT GEN ต่อมาคือ ธันวา พานิช นายกองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และ ประธานเครือข่ายเยาวชน SEED Thailand ภาคเหนือ และ ศุภวิชญ์ อยุทธ์ ตัวแทนกลุ่ม THE NEXT GEN โดยภายในงานได้มีการดึงตัวแทนกลุ่มเยาวชนในภาคเหนือหลายองค์กรเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่าง ๆ ในครั้งนี้ 

โดย ผศ.ดร.พีระ จูน้อยสุวรรณ ที่ปรึกษา THE NEXT GEN ให้ความคิดเห็นว่า “ความรอบรู้เรื่องกัญชามีความจำเป็นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งและเท่าทัน ให้กับเด็กและเยาวชน การให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชาต้องเป็นหน้าที่ของสถานศึกษาเพื่อความปลอดภัยจากการใช้ที่ผิด อาจเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่อยากคาดเดาได้ในอนาคต หลังจากนี้คงเห็นหลาย ๆ สถาบันการศึกษาทุกระดับจะให้ความจริงจังกับเรื่องนี้”

ในส่วนของ นายธันวา พานิช นายกองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา, ประธานเครือข่ายเยาวชน SEED Thailand ภาคเหนือ ให้ความคิดเห็นว่า “ควรสร้างกระบวนการเรียนรู้สู่เด็กและเยาวชน เพื่อปลูกฝังให้กลุ่มเยาวชนมีภูมิคุ้มกันที่ดี และสามารถต่อยอดในการขยายชุดความรู้ตัวนี้สู่ครอบครัวของตนเอง สู่ชุมชนของตนเองต่อไป เนื่องจากปัจจุบันกัญชาเข้ามามีส่วนผสมในอาหารค่อนข้างหลากหลายช่องทางทั้งเป็นขนม อย่างเจลลีกัญชา น้ำหวานกัญชา ที่เด็กจะเข้าถึงได้ง่าย และถ้าเด็กและเยาวชนหรือคนอื่น ๆ ขาดความตระหนักรู้หรือข้อมูลถึงโทษของการใช้สารกัญชาที่ผิด หรือหากผู้บริโภคแพ้ อาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงถึงขั้นการสูญเสียเลยก็ว่าได้”

นอกจากนี้ นายศุภวิชญ์ อยุทธ์ ตัวแทนกลุ่ม THE NEXT GEN กล่าวว่า “พืชนี้มีประโยชน์มาก หากดึงส่วนสำคัญมาใช้ในการแพทย์ ส่วนในเรื่องของการใช้เพื่อนันทนาการนั้นก็คงจะต้องปรับแก้ทางกฎหมายกันต่อไป”

EA ร่วมมือรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว เซ็น MOA เพิ่มขีดความสามารถพลังงานสะอาด และพัฒนาระบบขนส่ง EV เชิงพาณิชย์ครบวงจร ยกระดับ สปป.ลาว สู่สังคมไร้มลพิษ

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566  ได้มีการจัดงานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (Memorandum of Agreement) ว่าด้วย ความร่วมมือเพื่อการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องร่วมกับรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว โดยกระทรวงการเงิน(กระทรวงการคลัง) แห่ง สปป.ลาว จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางด้านพลังงานสะอาด โครงสร้างสายส่ง และพัฒนาระบบขนส่ง EV เชิงพาณิชย์ของ สปป.ลาว อย่างครบวงจร เพื่อยกระดับสู่สังคมไร้มลพิษ ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ท่านสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ของ สปป. ลาว เป็นประธานในพิธี โดยมี ดร. ภูทนูเพชร ไซสมบัตร รองรัฐมนตรีกระทรวงการเงิน (กระทรวงการคลัง) และนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)  ร่วมในพิธีลงนาม ณ โรงแรม ลาว พลาซ่า นครหลวงเวียงจันทน์ สปป. ลาว 

ดร. ภูทนูเพชร ไซสมบัตร รองรัฐมนตรีกระทรวงการเงิน (กระทรวงการคลัง) สปป. ลาว ได้กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นขีดหมายสำคัญระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถทางด้านพลังงานและระบบขนส่งด้วยยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของ สปป.ลาว ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่า บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และสิทธิบัตรที่หลากหลายในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจน้ำมันชีวภาพ ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงการพาณิชย์แบบครบวงจรทั้งทางบกและทางน้ำ ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า รวมถึงธุรกิจแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงานที่ทันสมัย โดยพัฒนานวัตกรรม Ultra Fast Charge Technology ที่สามารถอัดประจุไฟฟ้ายานยนต์ทุกชนิด 80% ในระยะเวลาเพียง 15-20 นาที บริษัทฯ มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือระหว่างบริษัทฯกับรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว จะประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมให้ สปป.ลาว ก้าวสู่สังคมไร้มลพิษในอนาคตอันใกล้”

วัคซีนมาแล้ว!! ‘อนุทิน’ รับวัคซีน ‘โมเดอร์นา’ ล็อตใหม่ จากฝรั่งเศล เร่งเคาะฉีด ‘ครึ่งโดส-เต็มโดส’ คาด!! ส่งต่อ รพ.ทั่วประเทศวีกหน้า

(12 มี.ค. 66) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการรับมอบวัคซีนโควิด-19 จากสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยมี นายตีแยรี มาตู เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนส่งมอบ ว่า วันนี้ สธ. ได้รับมอบวัคซีนโควิด-19 โดยบริษัทโมเดอร์น่า ชนิดไบวาเรนท์ ซึ่งเป็นวัคซีนสองสายพันธุ์ จำนวน 1,000,200 โดส จากรัฐบาลฝรั่งเศสเป็นครั้งที่ 3 รวมทั้งสิ้น 4.2 ล้านโดส โดยวัคซีนที่ได้รับสนับสนุนมานี้อยู่ระหว่างการตรวจรับรองรุ่นการผลิต (Lot release) คาดว่าจะสามารถกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ภายในวันที่ 20 มี.ค. นี้ และพร้อมฉีดให้กับประชาชนได้ทันที

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยวัคซีนเข็มแรกมากกว่าร้อยละ 83 ของประชากรทั้งหมด และได้รับวัคซีนเข็มที่สองร้อยละ 78 ทำให้การระบาดของโรคลดความรุนแรงลง ประกอบกับการมีเวชภัณฑ์ ยา มีความพร้อมของระบบสาธารณสุข ทำให้ประเทศไทยควบคุมสถานการณ์ได้เปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 มีนักท่องเที่ยว นักลงทุน ทำให้เกิดการสัญจรได้สะดวกตามปกติ ทั้งยัง สร้างความเชื่อมั่นให้ชาวต่างชาติ โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยในปี 2566 สูงถึง 15 ล้านคน แต่ทาง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา มั่นใจว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยเกินหลัก 20 ล้านคน ดังนั้น สธ.ยังขอเชิญชวนให้คนไทยมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

หาหมอออนไลน์!! ‘รัชดา’ เผย สิทธิบัตรทองหาหมอ ‘ฟรี’ ผ่านแอปฯ Clicknic ยัน!! ครอบคลุมถึง 42 โรค ขอนำร่องแค่ กทม. ก่อน

(13 มี.ค. 66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้เปิดบริการทางเลือกให้แก่ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สิทธิบัตรทอง 30 บาท) ที่ป่วยด้วยโรคทั่วไปที่ไม่ซับซ้อน 42 กลุ่มอาการโรค สามารถพบแพทย์เพื่อรักษาทางไกลหรือเทเลเมดิซีน (telemedicine) โดยแอปพลิเคชัน  Clicknic โดยคลิกนิกเฮลท์ คลินิกเวชกรรม 42 โรค เช่น ตาแดง ท้องร่วง ไข้ หวัด อาหารเป็นพิษ กระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ กล้ามเนื้อ ข้ออักเสบ ลมพิษ ผื่น รวมถึงโรคโควิด 19 กลุ่มสีเขียวหรือกลุ่มที่มีอาการเล็กน้อย ฯลฯ

สาระสำคัญคือเป็นโรคที่ไม่มีความซับซ้อนมากและพบได้บ่อย โดยนำร่องใน กทม. ก่อน รวมทั้งคนที่มีสิทธิอยู่ในต่างจังหวัดแต่ตัวอยู่ที่ กทม. ก็ใช้บริการได้เช่นกัน บริการนี้เป็นทางเลือกที่มุ่งอำนวยความสะดวก สำหรับขั้นตอนการรับบริการนั้น ก่อนอื่นต้องดาวน์โหลดแอปฯ Clicknic มาติดตั้งในมือถือก่อน เมื่อเข้าไปในแอปฯ แล้วจะมีแบนเนอร์ "ผู้ป่วยกลุ่มโรคทั่วไป (สปสช.)" เมื่อคลิกเข้าไปจะมีช่องบันทึกข้อความสำหรับระบุที่อยู่และสถานที่จัดส่งยา พร้อมระบุอาการ รวมทั้งระบุข้อมูลสุขภาพ เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก และยังสามารถใช้เทคโนโลยีตรวจสัญญาณสุขภาพผ่านกล้องมือถือ เพื่อให้แพทย์มีข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการรักษาได้ด้วย

การ์ดอย่าตก!! ‘กรมควบคุมโรค’ แจ้ง!! ยอดผู้ติดเชื้อ ‘โควิด’ สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ป่วย 122 ราย เสียชีวิต 6 คน

(13 มี.ค. 66) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 5 -11 มีนาคม ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) จำนวน 122 ราย เฉลี่ยรายวัน จำนวน 17 ราย/วัน รวมสะสม 4,385 ราย และมีผู้เสียชีวิต (รายสัปดาห์) จำนวน 6 คน เฉลี่ยรายวัน จำนวน 1 คนต่อวัน

ทั้งนี้ ยอดเสียชีวิตสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 จำนวน 255 คน มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 46 คน และผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจ 27 คน


ที่มา : https://mgronline.com/uptodate/detail/9660000023353
 

สวนนงนุชพัทยา จัดงานวันช้างไทยอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมพิธีฮ้องขวัญช้าง

วันจันทร์ ที่ 13 มีนาคม  2566  ถึงว่าเป็นวันช้างไทย และในเวลา 07.00 น. นายกัมพล ตันสัจจา  ประธานสวนนงนุชพัทยา  จ.ชลบุรี  และคณะผู้บริหาร นำช้าง 19 เชือก ร่วมประกอบพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูป จากวัดสามัคคีบรรพต โดยมีพระครูเกษมกิตติโสภณ ( อาจารย์จ่อย) เจ้าอาวาสเป็นประธาน ฝ่ายสงฆ์ พร้อมประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้โขลงช้างเพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในวันช้างไทย ประจำปี 2566

ต่อมาเวลา 08.30 น. ได้มีพิธีฮ้องขวัญช้าง (ทำขวัญช้าง) โดยมีนาย กัมพล  ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา พร้อมด้วยนายอำนาจ    เจริญศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี , นายสุนทร    มูเนาวาเราะ  นายอำเภอสัตหีบ นางพัทธนันท์ ขันติสุขพันธ์ ผู้จัดการทั่วไปสวนนงนุชพัทยา,นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา , นายวรฉัตร   วิรัชลาภ ปศุสัตว์เขต 2 ,  นายชวนะ ทองเย็น  ปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี ,นายไพโรจน์ มาแสง  ปศุสัตว์อำเภอบางละมุง , นายอริญชย์พนธ์  ไชยพิเดช   ปศุสัตว์อำเภอสัตหีบ ร่วมเป็นประธานเปิดงาน

“วันช้างไทย” ประจำปี 2566  โดยบรรยากาศภายในงานได้มีขบวน “คชคชาคู่บารมี”  และเปิดโต๊ะจีนช้าง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ห่วงประชาชน!! ‘บิ๊กตู่’ สั่งเข้มทุกฝ่าย ยกระดับแก้ปัญหา PM 2.5 บังคับใช้ กม. ‘ติดตาม-ประเมิน-ปรับแผน’ ลดผลกระทบทุกด้าน

(13 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของประเทศไทย ห่วงใยประชาชนที่อาศัยและทำกิจกรรมในพื้นที่ที่สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 รุนแรง กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรุงเทพมหานคร ตลอดจนกระทรวงต่างประเทศและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ บูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการเร่งแก้ไขปัญหา PM 2.5 ตามแนวทางปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ภายใต้ 3 มาตรการสำคัญ คือการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง (แหล่งกำเนิด) และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ รวมทั้งแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ภายใต้แผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566  

นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำชับให้ยกระดับเชิงปฏิบัติการให้เข้มข้นขึ้น ทั้งการปรับแผนเพิ่มตรวจสกัดรถควันดำ เข้มงวดเรื่องการก่อสร้าง ตรวจโรงงาน การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้นจริงจัง ควบคู่ส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงงดการเผาในที่โล่งทุกชนิด (เช่น พืชทางการเกษตร วัชพืชต่าง ๆ ขยะ และการเผาป่า) ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศ หากเผา มีความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ได้มีการประกาศห้ามเผา ปี 2566 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือแล้วจนถึง 30 เม.ย. 66 ยกเว้นจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ประกาศห้ามเผาที่ในโล่งถึง 16 เม.ย. 66 อีกทั้งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงการดำเนินการตามแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองปี 2566 ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น Single Command ในการยกระดับการลดการเผาอย่างเด็ดขาดในช่วงวิกฤต รวมทั้งการบริหารจัดการเชื้อเพลิงผ่านโปรแกรม Burn Check เพื่อให้สามารถควบคุมจุดความร้อนได้ในระดับที่เหมาะสม ไม่ทำให้ค่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานจนสูงเกินไป เพราะเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน เป็นอีกปัจจัยและสาเหตุสำคัญของปัญหา PM 2.5 ที่เกิดขึ้นขณะนี้ ทั้งนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการติดตามเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแผนและการปฏิบัติให้สอดคล้องทันกับสถานการณ์ เพื่อลดผลกระทบด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนให้มากที่สุด 

นายอนุชา กล่าวว่า จากรายงาน GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) (วันที่ 11 มีนาคม 2566) ระบุไทยพบจุดความร้อนจำนวน 1,061 จุด ซึ่งส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 383 จุด  พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 278 จุด พื้นที่เกษตร 192 จุด พื้นที่เขต สปก. 123 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่น ๆ 78 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 7 จุด โดยจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือแม่ฮ่องสอน 127 จุด ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา พบจุดความร้อนจำนวน 4,363 จุด สปป.ลาว 2,868 จุด กัมพูชา 1,182 จุด เวียดนาม 647 จุด และมาเลเซีย 32 จุด โดยสถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ซึ่งปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ PM2.5 นอกจากส่งผลกระทบกับสุขภาพประชาชนแล้วยังส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ด้วย ทั้งระบบเศรษฐกิจ และระบบสังคม เป็นต้น ดังนั้น การแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควันและ PM 2.5 นอกจากการบูรณาการร่วมมือร่วมใจกันภายในประเทศแล้ว นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืนผ่านกลไกระหว่างประเทศเพื่อให้การป้องกัน และแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนมีประสิทธิภาพสูงสุด 

นายอนุชา กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขับเคลื่อนโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ฝึกซ้อมระดมพล ดับไฟป่าและจัดทำแนวกันไฟ 2 แผ่นดิน โดยส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหมอกควันกับประเทศเพื่อนบ้าน (เมียนมา) ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและระดับพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดกับพื้นที่บริเวณชายแดนประเทศเพื่อนบ้านให้ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควันและ PM 2.5 อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง เช่น ประสานขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านในการใช้รถไฟฟ้า รวมถึงการปรับใช้พลังงานหมุนเวียน หรือพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นและลดใช้พลังงานหรือเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาด้านพลังงานของทั่วโลกในการที่จะร่วมมือกันลดโลกร้อน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อไปสู่การพัฒนาและการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน

ตามแต่สมัครใจ ทีมทนาย 'ส.ว.อุปกิต' จ่อตัด 'บิ๊กปั๊ด' พ้นบัญชีพยาน คดีฟ้อง 'อัจฉริยะ'

(13 มี.ค.66) นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณียื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ข้อหาหมิ่นประมาท และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท ต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ว่า คดีนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 10 เมษายน 2566 เวลา 09.00 น. ซึ่งทีมทนายความได้มีการซักซ้อมพยานและแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติม พบว่า รูปคดีฝ่ายโจทก์มีข้อมูลเพียงพอที่จะสามารถเอาผิดจำเลยได้ โดยสามารถตัดพยานบางปากออกไปได้เพื่อความรวดเร็วในการพิจารณาคดีของศาล

นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในการไลฟ์สดของนายอัจฉริยะ บางครั้งมีการนำภาพของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข (บิ๊กปั๊ด) อดีต ผบ.ตร มาประกอบการอ้างอิงต่าง ๆ นานาด้วย จึงเป็นประเด็นที่ทีมกฎหมายต้องนำสืบข้อเท็จจริงต่าง ๆ หักล้าง โดยเห็นสมควรต้องนำพยานที่ถูกพาดพิง ขึ้นเบิกความต่อศาลด้วยตัวเอง เพื่อประกอบการบรรยายพฤติการณ์การกระทำผิดต่างๆ ของนายอัจฉริยะ ตามคำฟ้อง และคิดว่า เป็นประโยชน์ต่อตัวของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ที่ถูกกล่าวพาดพิงด้วย 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top