(11 ม.ค. 68) ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งล้อมวงพูดคุยกับตัวแทนเด็กและเยาวชนโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จากกรุงเทพมหานคร นครปฐม และสมุทรปราการ จำนวน 40 คน และผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จำนวน 6 คน จากภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ประกอบด้วย โรงเรียนอนุบาลสุราษฎร์ธานี โรงเรียนนารีนุกูลอุบลราชธานี โรงเรียนสมาคมพยาบาลไทยจังหวัดน่าน และโรงเรียนมัธยมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน
นายกฯ กล่าวว่า พี่จบจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย เป็นโรงเรียนหญิงล้วน จบแล้วไปต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 1 ถึงปี 4 และเรียนปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ เรียนจบสาขาโรงแรมเพราะว่าที่บ้านทำธุรกิจโรงแรมก็เลยอยากทำต่อ สรุปมาทำการเมืองแทน ความจริงอะไรที่เราแพลนไว้ไม่ได้ตามที่เราแพลนทุกอย่าง คำขวัญวันเด็กถึงได้พูดว่าพร้อมปรับตัวสู่อนาคตวันนี้น้อง ๆ มีคำถามอะไรถามได้เลย
โดยนักเรียนจากโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ถามนายกฯว่าเหนื่อยหรือเปล่ากับการทำงานในตำแหน่งนายกฯ ซึ่งนายกฯ ตอบว่า คิดว่าทุกตำแหน่งเหนื่อยคนละแบบ ความจริงเป็นนายกฯเหนื่อยแต่เหนื่อยปกติ อาจจะมีวันหยุดน้อยหน่อย เพราะเราหยุดอาจจะโดนว่าก็เลยทำให้ไม่ได้หยุด เป็นนายกฯหยุดอาจจะผิดเล็กน้อย แต่ความจริงไม่เหนื่อยเพราะมีกำลังใจที่ดีเวลาผลงานที่ทำออกไปแล้ว เราทำด้วยความตั้งใจเพราะเราตั้งใจทำ บางคนบอกว่าได้รับประโยชน์มันอิ่มใจ ใจมันฟู สิ่งที่พี่กำลังจะทำเรื่องของทุนการศึกษา ถ้ามีใครได้มีโอกาสในการศึกษาเพิ่มขึ้นจากรัฐบาลนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้หายเหนื่อย เพราะฉะนั้นต้องตั้งใจทำงานให้นโยบายออกเยอะๆ ประชาชนได้ประโยชน์เยอะ ก็จะหายเหนื่อย
จากนั้นเด็กนักเรียนจากโรงเรียนหอวัง เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ถามว่าเป็นผู้นำหญิงที่อายุน้อยที่สุดคิดว่ามันยากหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ทุกอายุมีความสามารถ การเป็นนายกฯอายุน้อยที่สุดสร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทย ความจริงแล้วคิดว่าเนื้องานของการทำงานไม่ได้ต่างกับผู้ชาย แน่นอนมันก็ยังมีในเรื่องของความบูลลี่นิดนึงในความที่เราเป็นผู้หญิง อันนี้ถ้าสังคมเปิดกว้างขึ้น โลกเปิดกว้าง มีการพัฒนาตรงนี้มากขึ้น และเข้าใจมากขึ้นคิดว่าตรงนี้จะน้อยลง ซึ่งเคยอ่านหนังสือเขาบอกว่านักการเมืองหญิงทั่วโลกจะถูกบูลลี่ในเรื่องต่างๆ สมมุติว่าเป็นผู้หญิงทำไมใส่ชุดนี้ ชุดนั้น แต่ผู้ชายใส่ชุดสูทชุดเดียวจบ ก็เลยไม่มีใครสนใจ สิ่งที่ยากคือตรงนี้ เพราะเราเป็นผู้หญิงโดนบูลลี่ในเรื่องนี้ ถามว่าทำอย่างไร เราต้องรู้คุณค่าของตัวเราก่อน ต้องรู้ว่าเรามาทำตรงนี้ เพื่ออะไร มีความตั้งใจอย่างไร เรามีดีอะไรบ้าง เราอยากทำเรื่องดี ๆ ให้ใครบ้าง อันนี้คือสิ่งที่เราตั้งใจ และต้องมีสติเยอะ ๆ คำว่าสติสอนกันมาตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ ว่าให้มีสติ เราฟังผ่านๆ แต่เมื่อโตขึ้น เมื่อชีวิตมีเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น เราก็จะคิดว่าคำนี้มันสำคัญ พี่ขอบอกไว้ก่อน เผื่อโตขึ้นไปจะรู้สึกว่าคำนี้สำคัญมากคือคำว่าสติ
ต่อมาเด็กนักเรียนจากโรงเรียนราชวินิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ อยากถามนายกฯว่าอะไรคือแรงบันดาลใจของนายกฯ โดยนายกฯ ตอบว่า แรงบันดาลใจมีหลายอย่าง แรงบันดาลใจที่หนึ่ง คือ คุณพ่อพี่เคยเป็นนายกฯเคยทำนโยบายไว้ให้ประเทศชาติ จนถึงทุกวันนี้คือนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนฝั่ง นโยบายนี้ยังอยู่ ยังได้ประโยชน์จากนโยบายนี้ ทำให้พี่รู้สึกว่าพี่อยากทำนโยบายนี้ ไม่ว่าตัวพี่ไปอยู่ที่ไหน แต่ประโยชน์นี้ยังอยู่ที่ประชาชนอยู่ ถ้าทำได้พี่จะรู้สึกมีความภูมิใจ และรู้สึกว่าเรื่องดีๆยังตกอยู่ที่ประชาชนไม่ว่ามันจะเปลี่ยนไปกี่ยุค กี่สมัยก็ตาม อันนี้คือแรงบันดาลใจแรก ส่วนแรงบันดาลใจที่สอง พี่คิดว่าจากที่เห็นประเทศชาติวุ่นวายแล้วเรามีโอกาสมานั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ทำเรื่องต่าง ๆ ให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ และแรงบันดาลใจที่สาม คือลูก ๆ อย่างน้อย ๆ ในเทอมที่เป็นนายกฯ พี่ได้สร้างสิ่งดี ๆ ไว้ให้กับประเทศ นั่นก็เป็นการเตรียมพร้อมอนาคตส่วนหนึ่งให้กับลูก ๆ ด้วย
จากนั้นเด็กจากโรงเรียนสมาคมพยาบาลไทยจังหวัดน่าน ถามนายกฯว่าได้เห็นพี่อิ๊งค์ทำกับข้าวให้ลูก ๆ กิน คิดว่าพี่อิ๊งค์เป็นแม่ที่ใจดี และมีเมนูอาหารที่จะมาแนะนำพวกหนูหรือไม่ โดยนายกฯ ยิ้มเขินก่อนตอบว่า พี่ตอบเสร็จแล้วไม่ต้องเชิญพี่ไปออกรายการทำอาหารที่ไหน สมัยตอนที่พี่มีลูกคนแรกลูกสาว 4 ขวบตอนนั้นเป็นช่วงโควิด-19 ทำอาหารให้ลูกทานได้ 3 มื้อ เพราะว่าเราอยู่บ้านไปซูเปอร์มาร์เกตเอง ซื้ออาหารทำเอง แต่ว่าลูกยังพูดไม่ได้ก็เลยไม่มีคอมเมนต์ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบ แต่พอทานได้อยู่ และเมนูโปรดที่ทำกับลูกคือทำอะไรที่เด็ก ๆ ชอบทาน ที่บ้านปลูกผักปลอดสารพิษให้น้องๆไปเก็บผักและนำมาทอดกรอบ เราเรียกกันง่าย ๆ ในบ้านว่า “บุ้งกรอบ” มันทำง่าย ๆ ก็แค่ผสมแป้งสำเร็จรูปและชุปให้เด็ก ๆ ทอด ซึ่งคนถามว่าไม่กลัวร้อนหรอ ซึ่งเด็กประมาณ 3-4 ขวบ เราบอกเขาได้ อย่าไปห้าม ไปตัดโอกาสเขาทุกอย่าง เขาบอกว่าเด็กอย่าไปตัด แต่ให้เติม ทั้งนี้ ที่ทำเมนูบุ้งกรอบเพราะเด็ก ๆ ชอบทานผักบุ้งทอดกรอบ เมื่อเขาทำเองจะได้มีความภูมิใจในการทอดทีละอัน และอีกเมนูหนึ่งที่ทำง่าย ๆ คือให้ฝึกทอดไข่เจียว ให้เลือกรสชาติที่ชอบ แต่แม่คอยย้ำว่าอย่าเค็มเกินไป แต่จะให้ตนทำเมนูที่ยากมากกว่านี้คงต้องไปเรียน อย่างแกงพะแนง และแกงเขียวหวานแม่ทำไม่เป็น
ต่อจากนั้นนายกฯถ่ายภาพกับนักเรียน Thailand Zero Dropout นักเรียนนอกระบบการศึกษาที่ได้รับการนำกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง และกลุ่มเยาวชนที่ชนะการแข่งขันกีฬาประเภทจักรยานทรงตัวในรายการแข่ง RSR Runbike Championship in Songkhla ทั้งนี้ตัวแทนนักเรียนได้มอบตุ๊กตาทำมือให้กับนายกฯด้วย
ขณะที่บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีเด็ก ๆ ขอถ่ายรูปและขอลายเซ็นนายกฯ