Tuesday, 20 May 2025
NEWS

กองทัพเรือ เรียกกำลังพลสำรองฝึกทบทวนวิชาทหาร ให้มีความรู้ความเข้าใจในสายวิทยาการที่สังกัดอยู่ตามบัญชีบรรจุกำลังพลสำรอง

พลเรือโท สุเทพ  ปุจฉาการ รองเสนาธิการทหารเรือ เป็นประธานเปิดการเรียกกำลังพลสำรอง เพื่อฝึกวิชาทหาร และเรียกกำลังพลสำรองเพื่อปฏิบัติราชการ ของกองทัพเรือ ประจำปีงบประมาณ 2566 ณ ศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การเรียกกำลังพลสำรองเพื่อฝึกวิชาทหาร และเรียกกำลังพลสำรองเพื่อปฏิบัติราชการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อฝึกทบทวนวิชาทหาร และฝึกการปฏิบัติราชการ ให้ได้มีความรู้ความเข้าใจในสายวิทยาการที่สังกัดอยู่ตามบัญชีบรรจุกำลังพลสำรองของ สอ.รฝ. และสามารถปฏิบัติงานร่วมกับกำลังพลประจำการได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมได้รับทราบถึงความก้าวหน้าด้านวิชาการและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ ทร.ได้รับ

โดยมีการฝึกต่างๆ อาทิ การอ่านแผนที่ การฝึกทหารราบบุคคลท่ามือเปล่า การรักษาฝั่ง การตรวจการณ์ การป้องกันภัยทางอากาศ การยิงอาวุธประจำกาย การบรรเทาสาธารณภัย และการบรรยายในหัวข้อต่างๆ เป็นต้น

โดยมีกำลังพลสำรองประเภทนายทหารสัญญาบัตรกองหนุน และนายทหารประทวนกองหนุน สังกัดหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ประเภทละ 30 นาย รวม 60 นาย เข้าทำการฝึกวิชาทหาร และประเภทละ 10 นาย รวม 20 นาย เพื่อปฏิบัติราชการ รวมทั้งสิ้น 80 นาย จะทำการฝึกตั้งแต่ 19 - 28 เม.ย.66 เป็นระยะเวลา 10 วัน


นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

วันฮารีรายอ อีดิ้ล ฟิตรี

สุขสันต์ วันฮารีรายอ อีดิ้ล ฟิตรี

สวนนงนุชพัทยา ต้อนรับเอกอัครราชทูตเบลเยียม ชมสวนนงนุชพัทยา พร้อมปลูกต้นไม้บริเวณ “สวนรุกขชาติ” เชิงเขาบันไดกฤษ

สวนนงนุชพัทยา ให้การต้อนรับ นางซีบีย์ เดอ การ์ทีเย ดีฟว์ (H.E.Ms.Sibille de Cartier d,Yves) เอกอัครราชทูตเบลเยียม ประจำประเทศไทย ให้เกียรติปลูกต้นไม้ บริเวณ“สวนรุกขชาติ” เชิงเขาบันไดกฤษ ตามโครงการ“ปลูกสวนพฤกษศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์” โดยทำการปลูกต้นลำไยเครือจำนวน1ต้น พร้อมถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก   

สำหรับ “สวนรุกขชาติ”ทางสวนนงนุชพัทยาดำเนินการให้แก่ประเทศไทย โดยขออนุญาตเช่าพื้นที่จากกรมป่าไม้จำนวน43ไร่ และดำเนินการไปแล้ว14 ไร่ โดยค่าใช้จ่ายและค่าดำเนินการต่างๆทางสวนนงนุชพัทยาเป็นผู้ดูแลทั้งหมด โดมีคณะฑูตและหน่วยงานภาครัฐ,บุคคลทั่วไปมาปลูกต้นไม้อย่างต่อเนื่อง

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยรายวัน ล่าสุดปลอม SMS บริษัท ทิพยประกันภัย อ้างให้เงินปันผล และบัตรเติมน้ำมันฟรี

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นพนักงาน บริษัททิพยประกันภัย ส่งข้อความสั้น (SMS) และโทรศัพท์ไปยังประชาชนแจ้งว่าได้รับสิทธิ์เงินปันผล หรือได้รับบัตรเติมน้ำมันฟรี โดยให้แอดไลน์ปลอมของบริษัท แล้วหลอกลวงกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์มือถือ ดังนี้

ตามที่ บช.สอท. ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์เตือนภัยกรณี การเปิดเผยรายชื่อ 29 หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่มิจฉาชีพมักนำมาแอบอ้างหลอกลวงประชาชน ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่เดือน ต.ค.65 - เดือน มี.ค.66 ปรากฏว่ายังคงมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้รับรายงานจากกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) ว่า พบผู้เสียหายหลายรายได้รับข้อความสั้น (SMS) จากมิจฉาชีพซึ่งแอบอ้างเป็นพนักงาน บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด แจ้งว่า ผู้เสียหายได้รับสิทธิ์เงินปันผล จำนวน 2,000 บาท หรือได้รับบัตรน้ำมันฟรี มูลค่า 3,000 บาท เมื่อผู้เสียหายกดลิงก์ที่แนบมากับข้อความดังกล่าว จะเป็นการเพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ของ บริษัท ทิพยประกันภัย ที่มิจฉาชีพปลอมขึ้นมา

จากนั้นผู้เสียหายจะถูกสอบถามรายละเอียดต่างๆ มักเริ่มจากสอบถามว่าได้รับการแจ้งมาจากช่องทางใด ขอทราบชื่อนามสกุล พร้อมทั้งขอหมายเลขโทรศัพท์ไว้เพื่อติดต่อกลับ เมื่อตอบคำถามเสร็จสิ้น จะมีหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยโทรมายังผู้เสียหาย อ้างเป็นพนักงานบริษัทฯ สอบถามว่าอยู่บุคคลเดียวหรือไม่ หากอยู่บุคคลเดียวให้เปิดลำโพงโทรศัพท์มือถือเพื่อทำตามขั้นตอน จากนั้นมิจฉาชีพจะส่งลิงก์ทางไลน์ซึ่งได้เพิ่มเพื่อนไว้ก่อนหน้านี้ ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันของบริษัทปลอม อ้างว่าจะต้องขอสิทธิ์ผ่านช่องทางนี้เท่านั้น เมื่อผู้เสียหายกดลิงก์จะมีการขอสิทธิ์ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก แจ้งว่าเป็นไฟล์ที่อาจเป็นอันตราย หรือไฟล์นามสกุล .apk หรือแจ้งว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย มีการหลอกให้ตั้งรหัสผ่าน 6 หลัก จำนวนหลายๆครั้ง เพื่อหวังให้ผู้เสียหายกรอกรหัสชุดเดียวกับรหัสการเข้าถึง หรือการทำธุรกรรมการเงินของแอปพลิเคชันธนาคารต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย รวมไปถึงขอสิทธิ์ในการควบคุมอุปกรณ์ หรือโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ เช่น ดูและควบคุมหน้าจอ ดูและดำเนินการ เป็นต้น โดยในขั้นตอนนี้มิจฉาชีพจะคอยสอนผู้เสียหายว่าต้องทำอย่างไร

กระทั่งเมื่อมิจฉาชีพได้สิทธิ์ควบคุมอุปกรณ์หรือโทรศัพท์มือถือแล้ว จะทำการล็อกหน้าจอโทรศัพท์ ทำให้เสมือนโทรศัพท์ค้าง โดยมักจะแสดงข้อความว่า อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ ห้ามใช้งานโทรศัพท์มือถือ หรือมิจฉาชีพอาจจะให้ทำการคว่ำโทรศัพท์มือถือไว้ จากนั้นมิจฉาชีพจะสามารถนำรหัสที่ผู้เสียหายเคยกรอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ทำการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย

ทั้งนี้นับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 – 16 เม.ย.66 พบว่าการหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมโทรศัพท์มือถือ มีผู้เสียหายดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบการรับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กว่า 3,346 เรื่อง มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจัดอยู่ในลำดับที่ 9 จาก 14 ประเภท ของการหลอกลวงออนไลน์ทั้งหมด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแอบอ้างเป็นหน่วยงานต่างๆ หลอกลวงให้ประชาชนติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมเอาทรัพย์สินของประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน

ที่ผ่านมา บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบมาโดยตลอด มุ่งเน้นการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า การหลอกลวงในรูปแบบดังกล่าวยังคงเป็นการหลอกลวงในรูปแบบเดิมๆ เพียงแต่มิจฉาชีพจะเปลี่ยนชื่อหน่วยงาน และเปลี่ยนเนื้อหา หรือสิทธิประโยชน์ไปตามวันเวลา และสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งว่าได้รับสิทธิต่างๆ หรือได้รับเงินคืน หรือให้อัปเดตข้อมูล โดยในขั้นตอนสุดท้ายจะหลอกลวงให้เหยื่อกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมของหน่วยงานที่นำมาแอบอ้าง ที่ผ่านมาก็ปรากฏในหลายๆ หน่วยงาน มิจฉาชีพจะอาศัยความไม่รู้ และความโลภ ของประชาชนเป็นเครื่องมือ ใช้ความสมัครใจของเหยื่อให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม และมีการใช้สัญลักษณ์ของหน่วยงาน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

 

กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ชวนร่วมคุ้มครองโลก เพื่อให้โลกคุ้มครองเรา

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) เชิญชวน ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการคุ้มครองโลก เพื่อให้โลกคุ้มครองเรา กระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนร่วมกันตระหนักถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมรวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพราะโลกมีเพียงใบเดียว

นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า วันที่ 22 เมษายน ของทุกปี โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งองค์การสหประชาชาติ (United Nations Environment Program : UNEP) กำหนดให้เป็นวันคุ้มครองโลก หรือ Earth Day โดยจัดขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) เป็นการระดมพลังประชาสังคม สร้างการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงนโยบายระดับประเทศ นับเป็นจุดกำเนิดของการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม กระตุ้นให้ผู้คนและหน่วยงานต่าง ๆ อนุรักษ์ ปรับปรุง และฟื้นฟูสภาพแวดล้อม ถือเป็นวันสำคัญที่ได้รับการยอมรับมากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่ได้จัดกิจกรรมวันคุ้มครองโลกขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2533 จนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามนุษย์ได้ใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจนเกินขีดความสามารถในการฟื้นตัว ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงภาวะโลกร้อนหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น อุณหภูมิโลกสูงขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย เกิดอุทกภัย วาตภัย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่และสุขภาพของมนุษย์ กลายเป็นวาระระดับโลกที่นานาประเทศให้ความสำคัญ และไทยตระหนักในความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่าย จึงได้ประกาศเจตนารมณ์ในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 รวมถึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2065

สืบนครบาลรวบเสี่ยกำมะลอสุดแสบคาม่านรูดโจรลวงลักสินสอด ภัยร้ายของผู้หญิง

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริต โดยสืบนครบาลได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากคู่สามีภรรยาผู้เสียหายว่าถูกเสี่ยแป๋ม ต้อม หรือหนึ่ง และอีกหลายชื่อ ลักทรัพย์สินเงินทองเป็นค่าสินสอดไว้ โดยคนร้ายมาตีสนิทกับพี่สาวของผู้เสียหาย มีการหลอกลวงให้เชื่อว่าเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง มีฐานะดี และ หวังอยู่กินแบบสามี-ภรรยา กับพี่สาวผู้เสียหาย โดยก่อนวันแต่งงานเหตุ 1 วัน ได้ลักทรัพย์สินที่เตรียมไว้เป็นสินสอด ซึ่งเก็บอยู่ในห้องดังกล่าว เป็นทองคำหนัก 14 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์ และ มีเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง สร้างความเดือดร้อนให้คู่บ่าวสาว  และเป็นที่ต้องการตัวมากเพราะสร้างความเดือนร้อนไปทั่วพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส. บช.น. จัดทีมสืบสวน บก สส บช น แกะรอย ไล่ล่าคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 22.00 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส. บช.น. , พ.ต.อ.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท ณัฐวุฒิ สีเสมอ , พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รองผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ , พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก.สส.๒ บก.สส.บช.น . พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.๒ บก.สส.บช.น. ทำการจับกุมตัวนายปิยะศักดิ์  เรืองฤทธิ์ อายุ 45 ปี อยู่ที่ บ้านเลขที่ 74 ซ.เอกชัย 81 ต.คลองบางบอน อ.บางบอน จ.กรุงเทพฯ

โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.1400/2563 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 จับกุมได้ที่บริเวณ ห้องพักเลขที่ 317 โรงแรม 39 อินน์ 26/5 ม.4 ซอยสุขสวัสดิ์ 39 ถนนสุขสวัสดิ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับอีกจำนวน 2 หมายจับ(รวมจับกุม 3 หมายจับ) ดังนี้
 - หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่90/2566 ลงวันที่20มีนาคม2566 ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน
 - หมายจับศาลแขวงชลบุรี ที่41/2563 ลงวันที่16 มีนาคม 2563 ข้อหายักยอก

ตำรวจไซเบอร์ แจ้งข้อหาสองพี่น้องแสบ เปิดเพจหลอกขายเกมส์ “Moshi Game : Gift Cards” พบมีความเชื่อมโยงมากกว่า 80 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 1.7ล้านบาท

เมื่อวันที่ (20 เม.ย. 2566) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงขายสินค้าออนไลน์ ลักษณะอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน

พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พบว่ามี ขบวนการเครือข่ายเพจ Facebook “Moshi Game : Gift Cards” โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะโพสต์ขายเครื่องเล่นเกมส์ และอุปกรณ์เกี่ยวกับเกมส์คอมพิวเตอร์ จนมีประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ จำนวนมากกว่า ๘๐ ราย มีมูลค่าความเสียหายกว่า ๑.๗ ล้านบาท

ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 สอท.2 เร่งรัดสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้พบว่า 
กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกลวงผ่าน แอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก ชื่อว่า “Moshi Game : Gift Cards” ซึ่งเป็นบัญชีที่เปิดสาธารณะ พบมีการเปลี่ยนแปลงชื่อเพจรวม ๓ ครั้ง แล้วได้โพสต์ขายเครื่องเล่นเกมส์ ราคาถูกกว่าท้องตลาดให้กับประชาชนทั่วไป โดยจะหลอกให้เหยื่อโอนเงินให้ก่อน ซึ่งแจ้งว่าจะส่งสินค้าให้ภายหลังประมาณ 1 เดือน เนื่องจากต้องรอสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ แต่เมื่อถึงกำหนดก็ไม่มีสินค้าส่งให้ผู้ซื้อ มีผู้ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อ จำนวนมากกว่า ๘๐ ราย มีมูลค่าความเสียหายกว่า ๑.๗ ล้านบาท

นิพนธ์ มั่นใจ กวาด ส.ส.ใต้ ไม่ต่ำกว่า 40 ที่นั่ง ชี้ ภาคใต้ชายแดน คะแนนดีขึ้นตามลำดับ พร้อม ฝากเขตสาม โกถึก สมยศ พลายด้วง หมายเลข 4 ไว้รับใช้พี่น้องประชาชน 

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เขต 3 ช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายสมยศ พลายด้วง เบอร์ 4 พร้อมกับขอคะแนนเสียงสนับสนุนเลือกพรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 26 โดยมีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ สลับกันขึ้นเวทีปราศรัย เพื่อขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน  ท่ามกลางพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลคอหงส์ ที่มาร่วมฟังการปราศรัยกว่า 5,000 คน ณ บริเวณคลอง ร.5, ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

นายนิพนธ์ได้กล่าวถึง ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ ได้มาบรรยายที่หาดใหญ่เมื่อวันที่ผ่านมาว่า เป็นความตั้งใจของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีเป้าหมายให้ทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์มาพูดเกี่ยวกับเมกกะโปรเจ็คในภาคใต้ และพูดถึงโครงสร้างที่จะพัฒนาหาดใหญ่ โดยเฉะาะอย่างยิ่งท่านอาจารย์สามารถ ราชพลสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญเมกกะโปรเจ็คได้มาพูดชัดเจนถึงเรื่องของรถไฟรางคู่ ที่จะต่อจากปาดังเบซาร์มาหาดใหญ่ เชื่อมกับมาเลเซีย นี่จะเป็นการเปิดศักราขการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับมาเลเซียใหม่ จะทำให้หาดใหญ่มีนักท่องเที่ยวมากขึ้น การเดินทางสะดวกขึ้น ประการต่อมาก็คือความเร่งรัดในการผลักดันมอเตอร์เวย์ จากหาดใหญ่ไปสะเดา ไปด่านนอก นั่นคือสองโปรเจ็คใหญ่ ตามด้วยโมโนเรลที่ครั้งหนึ่งผมเคยศึกษาไว้สมัยเป็นนายก อบจ. สงขลา และบัดนี้ได้มีการศึกษาสิ่งแวดล้อม และออกแบบเสร็จหมดแล้ว

ฉะนั้นเหลือแต่ว่าจะทำอย่างไรที่จะร่วมมือกับภาคเอกชนที่จะทำโครงการนี้ให้เดินหน้าให้ได้ สิ่งสำคัญนั่นคือสิ่งที่ ท่านพิสิษฐ์ ลี้อาธรรมได้ประกาศว่า พร้อมที่จะผลักดันให้หาดใหญ่เป็นศูนย์กลางการเงินของภูมิภาคเอเซีย ซึ่งเราจะไปดูต้นแบบฮ่องกงก็ดี สิงคโปร์ก็ดีหรือลาบวนก็ดี สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ท่านพิสิษฐ์  ลี้อาธรรมบอกว่าหาดใหญ่มีความพร้อมทุกอย่างที่จะทำให้หาดใหญ่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ และของเอเซียให้ได้ ฉะนั้นประชาธิปัตย์จึงกล้าประกาศว่าถ้าเราเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เราจะผลักดันหาดใหญ่ให้เป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจ ให้เป็นเมืองศูนย์กลางการเงิน เพราะหาดใหญ่มีพร้อมทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคมทางอากาศ และสงขลาเราจะปรับให้มีท่าเรือน้ำลึกให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ นี่คือศักยภาพของจังหวัดสงขลา จึงเป็นที่มาของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่งทีมเศรษฐกิจมาพูดที่หาดใหญ่ และประกาศที่หาดใหญ่ว่า นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์จะทำ

นักท่องเที่ยว ทยอยร่วมไว้อาลัย หมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” 

วันนี้!! พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมและเขียนการ์ดแสดงความไว้อาลัย ภายในส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า
       
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เผยว่า บรรยากาศโดยทั่วไปภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ในวันนี้ ยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมกันตามปกติ ส่วนบริเวณรูปปั้นหมีแพนด้า ด้านหน้าทางเข้าส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ได้จัดเตรียมดอกไม้สดสีขาว ไว้ให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการร่วมแสดงความไว้อาลัย เพื่อวางตรงด้านหน้ารูปถ่ายขนาดใหญ่ของหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” ซึ่งมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจร่วมกิจกรรมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก ทยอยกันเข้ามาอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน 

‘กองทัพอากาศ’ พร้อมลุย!! อพยพคนไทย ในซูดาน พร้อมปฏิบัติทันที เมื่อได้รับคำสั่งจากรัฐบาล

กองทัพอากาศ พร้อมปฏิบัติภารกิจได้ทันที เมื่อได้รับสั่งการจากรัฐบาล บินไป ‘ซูดาน’ อพยพคนไทยหนีไฟสงคราม


(21 เม.ย.66) ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในสาธารณรัฐซูดาน จากการปะทะกันระหว่างกองทัพซูดานกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ Rapid Support Forces (RSF) ในกรุงคาร์ทูม และพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ

พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) มีความห่วงใยในสถานการณ์ดังกล่าว และได้สั่งการให้จัดผู้แทนกองทัพอากาศ เข้าร่วมประชุมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยเกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการ และหาหนทางปฏิบัติกรณีอพยพคนไทยกลับประเทศ

เบื้องต้นกองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบินแบบ Airbus A340-500 ซึ่งเป็นเครื่องเดียวกับที่เคยใช้ในการอพยพคนไทยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศตุรกีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเครื่องบินแบบ C-130

รวมถึงเตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น การพิจารณาความพร้อมของสนามบินปลายทาง การเตรียมขออนุญาตบินผ่านน่านฟ้าประเทศต่าง ๆ การเตรียมการลำเลียงทางอากาศสายแพทย์ การรักษาความปลอดภัย เป็นต้น โดยพร้อมปฏิบัติภารกิจได้ทันทีเมื่อได้รับสั่งการจากรัฐบาล ทั้งนี้ จะติดตามสถานการณ์และประสานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด


ที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7624333

ผบ.ตร. มอบรางวัลแก่อาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ นำทีมสร้างชื่อให้หน่วยต่อเนื่อง

วันนี้ (21 เม.ย.66) เวลา 12.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่อาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ หัวหน้าทีมไซเบอร์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า สำหรับโครงการ “ทำดี มีรางวัล” 
นั้นเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจและประชาชนที่ประกอบคุณงามความดีมีจิตสาธารณะ จนเป็นที่ยอมรับของสังคม ตลอดจนข้าราชการตำรวจที่มุ่งมั่นทุ่มเททำงานจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างชื่อเสียงให้แก่หน่วยงาน และกรณีนี้คือ พ.ต.ต.วงศ์ยศ เกิดศรี อาจารย์ (สบ 2) กลุ่มงานคณาจารย์ คณะนิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผู้สร้างและผลักดัน “ทีมไซเบอร์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ” 
จนได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย ทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ 
- รางวัลชนะเลิศ (3 สมัยติดต่อกัน) ระดับเหล่าทัพ การแข่งขันทักษะทางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ระดับโรงเรียนทหาร-ตำรวจ ประจำปี 2020-2022 (ถึงปัจจุบัน) 
- รางวัลชนะเลิศระดับเหล่าทัพ การแข่งขันแข่งทักษะทางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์กองทัพไทย ประจำปี 2021-2022 
- รางวัลชนะเลิศระดับชาติ การแข่งขันทักษะทางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์รายการ Thailand Cyber Top Talent 2022 (เป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย) 
- รางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง และรองชนะเลิศอันดับสองระดับชาติ การแข่งขันทักษะทางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์รายการ KPMG Cyber Security Challenge 2022 (กวาดทุกรางวัลจากการแข่งขัน) 
- รางวัลชนะเลิศระดับนานาชาติ การแข่งขันทักษะทางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์รายการ OFPPT-CTF 2022 จากประเทศโมร็อกโก (Morocco) 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่า พ.ต.ต.วงศ์ยศฯ เป็นผู้ที่มีความสามารถสูง ทำงานด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเท จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างชื่อเสียงให้กับหน่วยงาน สมควรแก่การยกย่องสรรเสริญ ตามโครงการ “ทำดีมีรางวัล” เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจและสังคมสืบไป 

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า “ตนขอชื่นชมในความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผลักดันและพัฒนาหน่วยงานจนสามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่องค์กร ตนจึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” และเงินรางวัล 5,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่จะมอบรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจหรือประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน ประกอบคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน หรือทางราชการ ประพฤติตนดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและช่วยเหลือประชาชนจนเป็นที่ยอมรับต่อสังคม”

ขอนแก่น-คนอีสานไม่เอา!บุหรี่ไฟฟ้า

รวมพลังภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ 20 จังหวัดภาคอีสาน ร่วมประกาศเจตนารมณ์ "คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า"ย้ำจุดยืน คนอีสานจะร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันประชาชนภาคอีสานทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ


เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 21 เมษายน 2566 ที่ห้องออคิดบอลรูม โรงแรมพูลแมนขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น  นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดประกาศเจตนารมณ์คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า"ภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ 20 จังหวัดภาคอีสาน โดยมี นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ,นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น, ตัวแทนสื่อมวลชนศูนย์ข่าวปลอดควันภาคอีสาน, ตัวแทนเครือช่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่, ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปลอดบุหรี่, ตัวแทนเยาวชน Gen Z Gen Strong เลือกไม่สูบ และตัวแทนผู้รับผิดชอบงานด้านควบคุมยาสูบจังหวัดต่าง ๆ กว่า 200 คน ร่วมประกาศเจตนารมณ์ "คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า" ในงานสัมมนาเรื่อง "คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า" ซึ่งจัดขึ้นที่ โรงแรมพูลแมนขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น ย้ำจุดยืน คนอีสานจะร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันประชาชนภาคอีสานทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ


นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในการประกาศเจตนารมณ์ "คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า" ครั้งนี้ การระดมทุกภาคส่วนของภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ 20 จังหวัดภาคอีสาน ให้มาร่วมกันรณรงค์ป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ากับกลุ่มเด็กและเยาวชนถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยคำประกาศเจตนารมณ์ "คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า" มีแนวทางดังนี้1. พวกเราจะร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันประชาชนภาคอีสานทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ  2.พวกเราจะร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในโรงเรียน และสถานศึกษาทุกระดับ เพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิดของเด็กและเยาวชนภาคอีสาน โดยการบังคับใช้กฎหมายการห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเคร่งครัด 
3.พวกเราจะร่วมกันสื่อสารข้อมูล เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนภาคอีสาน ได้รับรู้ถึงอันตรายของการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า และรู้เท่าทันกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมยาสูบ 4.พวกเราจะร่วมกันสร้างกลไกขับเคลื่อนงานของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมให้เกิดการเชื่อมประสานการทำงานในเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง 5.พวกเราจะดำเนินการป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นวาระแห่งชาติ และประกาศเจตจำนงที่ชัดเจนในการสนับสนุนให้รัฐบาลคงนโยบาย และมาตรการในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้

นราธิวาส-แม่ทัพภาคที่ 4 ส่งคำอวยพรพี่น้องชาวไทยมุสลิม เนื่องในโอกาสวันฮารีรายออีฎิ้ลฟิตรี​ ฮ.ศ.1444

พลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวอวยพร​ชาวไทยมุสลิม เนื่องในโอกาสวันฮารีรายอ​อีฎิ้ลฟิตริ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1444 “ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามทุกท่าน ที่ประสบความสำเร็จจากความเพียรพยายามปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอดตลอดห้วงเดือนรอมฎอน ปีฮิจเราะห์ศักราช 1444 ที่ผ่านมา ขอให้ผลจากความอดทน และความพากเพียรของทุกท่าน จงได้รับการตอบรับ และได้รับความโปรดปรานจากองค์อัลลอฮฺ ขอให้ท่านได้รับการปลดปล่อยจากความทุกข์ทั้งปวง มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง มีอายุยืนยาว เพื่อที่จะได้พบกับรอมฎอนในปีถัดไป ในโอกาสวันฮารีรายอ​อีฎิ้ลฟิตรินี้ เป็นโอกาสสำคัญที่ท่านจะได้ร่วมเฉลิมฉลองและแสดงความยินดีและขออภัยต่อกันในสิ่งที่ได้ล่วงละเมิดจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่จะได้เดินทางออกไปพบปะเยี่ยมเยียนญาติสนิท มิตรสหาย เพื่อส่งมอบความสุขซึ่งกันและกัน" 

"ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 4 และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้จัดเตรียมกำลังพลและสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ท่าน ให้สามารถเดินทางสัญจร ด้วยความคล่องตัว และปลอดภัย ปรับลดมาตรการความเข้มงวดของจุดตรวจ ด่านตรวจ ให้เป็นจุดอำนวยความสะดวก เพื่อที่ท่านจะได้ใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งในโอกาสเทศกาลวันฮารีรายอ​อีฎิ้ลฟิตริในปีนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ทั้งหญิงและชาย ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจ และเป็นความสวยงามของสังคมพหุวัฒนธรรมร่วมกันจัดกิจกรรมที่แสดงออกถึงความรักในสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันจะส่งผลให้สังคมของเรามีความน่าอยู่เกิดความกลมเกลียว ความสามัคคี และมีความเจริญรุ่งเรืองสืบไป" 

 "ขอวิงวอนต่อองค์อัลลอฮฺ ได้โปรดประทานพรให้พี่น้องประชาชนทุกท่าน ประสบแต่มีความสุข ความเจริญ สมความปรารถนา มีความอิ่มเอมใจ คลาดแคล้ว จากอุบัติภัยทั้งปวง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ขอให้ปราศจากเหตุการณ์ความรุนแรงในเร็ววัน เพื่อความสันติสุขของพี่น้องประชาชน อย่างยั่งยืน ตลอดไป สลามัตฮารีรายออีฎิ้ลฟิตรี…"🎉🎉

#สลามัตฮารีรายออีฎิ้ลฟิตรี
#ศูนย์ประชาสัมพันธ์
#กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า
ข่าว.แวดาโอ๊ะ​ หะไร​  จ.นราธิวาส

เปิด 6 สิ่งที่ห้ามลืม!! ทิ้งไว้บนรถ เมื่อจอดกลางแดด หากปล่อยไว้ อาจเกิดอันตรายต่อรถ-ผู้ขับขี่

‘จอดรถกลางแดด’ ระวังให้ดี กรมการขนส่งทางบก เปิดข้อควรรู้ สิ่งของ 6 ประเภทดังต่อไปนี้ ห้ามลืม ห้ามทิ้ง ไว้ในรถกลางแดดเป็นเวลานาน ๆ เพื่อความปลอดภัย

(21 เม.ย.66) โดยทางด้านเพจเฟซบุ๊ก กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News ได้ระบุข้อมูลว่า ประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว แดดแรงเกือบตลอดทั้งปี คงหลีกเลี่ยงไม่ได้หากมีเหตุจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้กลางแดดเป็นเวลานาน ๆ จนภายในตัวรถร้อนระอุ เพื่อความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้รถเกิดความเสียหาย เพราะวัสดุบางชนิดไวต่อความร้อน

ดังนั้น สิ่งของไม่ควรลืมไว้ในรถเมื่อจอดกลางแดด มีดังนี้

1. แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)
ความร้อนอาจทำให้แบตเตอรี่สำรองเสื่อมประสิทธิภาพได้ มีอายุการใช้งานสั้นลง เช่น ชาร์จเข้าโทรศัพท์ได้ช้าลง หรือชาร์จได้จำนวนรอบไม่เท่าเดิม

2. โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ค หรืออุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่ทุกชนิด
ความร้อนอาจทำให้วงจรภายในได้รับความเสียหาย เสี่ยงต่อการช็อตและระเบิดได้

3. สเปรย์แอลกอฮอล์ สเปรย์กระป๋อง
ความร้อนทำให้แก๊สในกระป๋องขยายตัว มีแรงดันสูงขึ้นจนเกิดการระเบิดได้

4. ไฟแช็ก
เป็นสารเคมีอันตราย ที่ไม่ควรโดนความร้อน

5. แผ่นยางกันลื่นหน้ารถ
หากโดนแดดเผาจนละลาย จะกลายเป็นคราบเหนียวติดคอนโซลหน้ารถ

6. ยา
แสงแดด ทำให้ตัวยาเสื่อมสภาพ คุณสมบัติในการรักษาลดลงหรือเสียไป และอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ได้

https://www.topnews.co.th/news/671862?izo=&utm_source=izooto&utm_medium=push_notifications&utm_campaign=%22%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%94%22%20%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%206%20%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%97%20%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%96%20%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซับน้ำตา บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยบริเวณชุมชนโรงปูนฝั่งเหนือ เขตห้วยขวาง มอบเงินสดพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภครวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท

วันนี้ (21 เมษายน 2566 ) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล  รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ และนางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยบริเวณชุมชนโรงปูนฝั่งเหนือ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จำนวน 34 ครอบครัว 119 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,000 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภครายครอบครัว 34 ชุด รายบุคคล 13 ชุด ในการนี้ มูลนิธิไกรสิทธิการกุศล มอบเงินสดคนละ 400 บาท จำนวน 119 คน และมูลนิธิพุทธสมาคมปทุมรังษี  ได้มอบข้าวสารให้คนละ 10 กิโลกรัม จำนวน 119 คน  คิดเป็นมูลค่าการช่วยเหลือทั้งสิ้น 526,950 บาท 

โดยมี นายอุกฤษฏ์ องตระกูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง ร่วมในพิธี  ณ  บริเวณชุมชนโรงปูนฝั่งเหนือ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ

ตลอดระยะเวลากว่า 113 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา  เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” ต่อไป

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung  

#ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต 
“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” 
#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418 
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top