‘มือเศรษฐกิจจุลภาค’ มอง 6 ผลกระทบหลัง Zhongzhi Enterprise ล้ม ‘ธนาคารเงา-วิกฤติอสังหาฯ’ อาจพาเศรษฐกิจจีนอ่วม

(6 ม.ค. 67) นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ มือเศรษฐกิจจุลภาค อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Ta Plus Sirikulpisut’ ถึงกรณี Zhongzhi Enterprise, Shadow bank อันดับ 1 ประเทศจีนล้ม!! ความเสียหายมูลค่าหลายล้านล้าน โดยระบุว่า…

‘Shadow Bank’ คืออะไร? จะมีผลกระทบอะไรต่อไป?

เราจะมาวิเคราะห์กันครับ!!

ระบบสถาบันการเงินในจีน มีความซับซ้อน โดยปิรามิดบนสุด คือ ธนาคารขนาดใหญ่ที่เป็นระดับนานาชาติ เช่น ICBC, Bank of China, Agriculture Bank, Construction Bank ... 4 ธนาคารนี้ติด Top 20 ของโลก... รองมา คือ ระดับประเทศ และระดับ State นอกจากนี้ ยังมี FinTech เช่น Ant เข้ามามีบทบาทด้านการเงินในระบบเศรษฐกิจจีน และนอกจากนี้ Shadow Bank ก็มีบทบาทสำคัญซ้อนอยู่ด้านใน

‘Shadow Bank’ คือ บริษัทที่ทำธุรกิจการเงินคล้ายแบงก์ (Non Bank) แต่ไม่ได้มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคาร กล่าวคือ ธนาคารพาณิชย์จะรับฝากเงินและปล่อยกู้ แต่ Shadow Bank จะระดมเงินจากการออกพันธบัตร ตั๋วเงิน (Bill of Exchange) Note ต่างๆ จากคนที่ต้องการเงินออมสูงกว่าดอกเบี้ยธนาคาร แล้วมาปล่อยกู้คนที่กู้เงินธนาคารไม่ได้ หรือต้องการกู้เงินด้วยเงื่อนไขที่ยุ่งยากน้อยกว่า

Shadow Bank เติบโตซ้อนขึ้นมากับระบบเศรษฐกิจจีน… เมื่อหลายปีก่อนญาติผู้ใหญ่ผมในฮ่องกงเล่าให้ฟังว่า เขาลงทุนฝากเงิน หรือ ซื้อพันธบัตรใน Shadow Bank เหล่านี้… ผลตอบแทนสูงมาก ราว 100%+ จนคนฮ่องกง, กวางตุ้ง เริ่มเปิด Shadow Bank เองกันเยอะ 

กลไกหลักทำงานยังไง? คุณลุงเล่าว่า ธนาคารจีน เริ่มเข้มงวดโดยเฉพาะภาคอสังหาฯ บริษัทที่กู้เงินธนาคารจะ Roll due ไม่ได้ต้องตัดจ่ายต้นก่อนค่อยกู้ต่อ บริษัทเหล่านี้จึงมากู้ Shadow Bank เพื่อเอาเงินไปชำระธนาคาร ธนาคารก็ปิดยอดทำงบการเงินรายไตรมาส… เวลาธนาคารแห่งชาติมาตรวจ ก็สุขภาพดี ส่วน Shadow Bank ก็ได้ดอกเบี้ยสูงแถมมีหลักประกัน ที่ได้รับการไถ่ถอนจากธนาคารหลัก เรียกได้ว่า Refinance ช่วงสั้นๆ แต่ดอกเบี้ยได้ใจมาก 

ต่อมารัฐบาลจีนเริ่มนโยบาย ลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคอสังหาฯ ส่งผลให้เงินกู้ที่ปล่อยภาคอสังหาฯ เริ่มยากขึ้น โครงการต่างๆ เริ่มสร้างไม่จบ นอกจากนี้ ลูกค้าก็ซื้อบ้านยากขึ้น ด้วยกติกาที่ต้องวางดาวน์สูง และซื้อบ้านหลังที่สองที่สามกู้ยาก ลดการเก็งกำไร บริษัทอสังหาฯ ต้องหันมาพึ่งพา Shadow Bank มากขึ้น… นอกจากนี้ ยังออก Bond เองมากขึ้นด้วย 

รัฐบาลจีนเหยียบเบรกรอบนี้ จึงกระทบหนักและจะแก้ไขก็ไม่ทัน ยักษ์ใหญ่อย่าง ‘China Evergrande’ เบอร์หนึ่งด้านอสังหาฯ ไม่รอดแล้ว จ่ายดอกเบี้ยผิดนัด และมีอีกหลายรายตามมา 

สุดท้าย Shadow Bank อันดับ 1 อย่าง Zhongzhi ก็ขาดสภาพคล่องผิดนัดชำระหนี้ โดยมีมูลหนี้ราว 400 Billion RMB (4 แสนล้านหยวน) ซึ่งใหญ่กว่า China Evergrande มาก… ก็ธนาคารอะนะ!! 

เมื่อธนาคารแบบนี้ล้ม ระบบ Refinance หลังบ้านก็พังตาม ถ้าเป็น Domino ธนาคารจีน จะมีหนี้เสียขนาดใหญ่ตามมา และส่งผลให้จีนต้องเร่งปฏิรูปภาคธนาคาร รวมถึงการจัดการหนี้ Municipal, State Government, State Enterprise รวมถึงหนี้ครัวเรือนโดยเฉพาะอสังหาฯ โชคดีที่จีนมี Consumer Finance ไม่มากแบบเรา แต่อสังหาฯ ก็จะสร้าง Ghost Town, Ghost Building และบั่นทอนประชาชนมาก 

ระบบกฎหมายจีนต้องเร่งปรับหลายเรื่อง กฎหมายล้มละลาย การจัดการหนี้เสีย หนี้ดี บริษัทบริหารสินทรัพย์ ตลาดรองอสังหาริมทรัพย์ (ที่ไทยปิดไปแล้ว) การทำ SPV, Securitization และ FinTech

ผลกระทบที่ตามมา…
1.) เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวเพิ่ม การบริโภคหาย การลงทุนภาคเอกชนชะงักงัน
2.) วัสดุก่อสร้างขายไม่ออก ต้องเน้นส่งออก หรือย้ายโรงงานมาต่างประเทศ
3.) ธุรกิจที่ต้องซื้อของด้วย Finance อย่างรถยนต์ และอื่นๆ จะได้รับผลกระทบ ค่ายรถจีนอาจหนีมาไทยมากขึ้น
4.) เงินออมประชาชนได้รับความเสียหายหนัก จากการผิดนัด
5.) กระทบทิศทางนโยบายการเงินจีนและโลก
6.) ไทยจะได้รับผลกระทบจากการส่งออกไปจีน และนักท่องเที่ยว