Saturday, 24 May 2025
NEWS

รู้จัก ‘ทุ่งลาวามอส’ สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแห่งไอซ์แลนด์ สนามซ้อมของทีมอพอลโล 11 ก่อนได้ประทับรอยเท้าแรกบนดาวต่างดวง

ไม่เพียงแค่ ‘แสงเหนือ’ ที่ลอยล่องสู่สายตานักท่องเที่ยวที่ ‘ไอซ์แลนด์’ ยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าจะเป็นความมหัศจรรย์ที่ดึงดูดผู้คนทั่วโลกเท่านั้น

หากแต่ดินแดนแห่งนี้ ยังมีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ อย่าง ‘ทุ่งลาวามอส’ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม ‘พืชจิ๋ว’ ที่เติบโตบนซากลาวาอันแข็งแห้งและกระจายไปทั่ว ‘วงแหวนทองคำ’ อีกด้วย

ทั้งนี้ ‘วงแหวนทองคำ’ (Gullni hringurinn หรือ Golden Circle) คือ อีกชื่อหนึ่งของเกาะไอซ์แลนด์ หรือ ‘สาธารณรัฐไอซ์แลนด์’ (Republic of Iceland) ประเทศนอร์ดิกในยุโรปเหนือ ตั้งอยู่บนเกาะในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ระหว่างกรีนแลนด์ นอร์เวย์ และ สหราชอาณาจักร มีเมืองหลวงคือ ‘เรคยาวิก’ (Reykjavík) 

โดย ‘ไอซ์แลนด์’ เป็นประเทศที่ตั้งที่อยู่ตรงกลางระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือ และ แผ่นเปลือกยูเรเชียน เป็นประเทศเดียวที่สามารถมองเห็นหุบเขาแนวแผ่นเปลือกโลกแยกตัว ‘สันเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก’ (Mid-Atlantic Ridge) ที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลได้ ซึ่งการแยกตัวออกจากกันอย่างต่อเนื่องของแผ่นเปลือกโลกทั้ง 2 ทำให้ไอซ์แลนด์มีภูเขาไฟจำนวนมากนั่นเอง

ดังนั้น ไอซ์แลนด์ จึงได้รับฉายาว่า ‘ดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง’ โดยส่วนของ ‘ไฟ’ มาจากการปะทุของภูเขาไฟนับครั้งไม่ถ้วนในอดีต

>> แล้วทุ่งลาวามอสเกิดจากอะไร? 
ในช่วงปี 1783 ถึง 1784 ได้เกิดการปะทุขนาดใหญ่ของภูเขาไฟ ‘Skaftáreldar’ ที่เป็นอีกหนึ่งภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดของไอซ์แลนด์ หลังจากภูเขาไฟปะทุ ลาวาร้อนๆ ก็ไหลไปสู่ด้านล่าง ตามแม่น้ำ หลอมละลายต้นไม้ต่างๆ จนเหลือแต่ซากของทุ่งลาวาขนาดใหญ่

แต่ในปัจจุบันนั้น นักท่องเที่ยวมีโอกาสน้อยมากที่จะได้เห็นลาวาไหลออกมา ทำให้สิ่งที่จะได้พบเห็นในประเทศนี้ คือ ‘ทุ่งลาวาแห้ง’ ที่มีอายุต่างๆ กันไป เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่สามารถเจริญเติบโตได้ และแพร่ขยายไปทั่วประเทศ จนกลายเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ถือกำเนิดขึ้น และเชิญชวนให้ทุกคนต้องมาดูด้วยตาให้ได้สักครั้งในชีวิต ในชื่อ ‘ทุ่งลาวามอส’ (Lava field moss)

สำหรับ ทุ่งลาวามอสที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์และถือว่าใหญ่ที่สุดในโลกด้วยนั้น จะมีชื่อว่า ‘Eldhraun’ (เอลธรอน) ครอบคลุมพื้นที่ 565 ตร.กม. เกิดการปะทุในปี 1783-1784 (200 กว่าปีที่แล้ว) ถือเป็นการปะทุที่อันตรายที่สุด มีก๊าซพิษปริมาณมากที่ยังหลงเหลือจนถึงปัจจุบัน เหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลกระทบเชิงลบต่อไอซ์แลนด์ ประชากรทั้งหมดถูกบังคับให้อพยพไปยังเดนมาร์ก สัตว์เลี้ยงบนเกาะมากกว่าครึ่งหนึ่งตาย

แม้ปัจจุบัน ‘เอลธรอน’ จะถูกปกคลุมไปด้วยมอสที่ใช้เวลาเกือบร้อยปีกว่าจะโต แต่ดินในทุ่งลาวาเอลธรอน ก็ยังมีความเปราะบางมาก และเป็นสาเหตุที่ทางการไอซ์แลนด์ไม่อนุญาตให้เดินบนทุ่งลาวามอส วิธีที่ดีที่สุดที่จะเก็บความประทับใจคือ จอดรถในบริเวณลานจอดที่จัดเตรียมไว้ และเดินบนเส้นทางที่กำหนด ถ่ายภาพ ซึ่งไม่ว่าจะหันไปมุมไหน ก็สามารถถ่ายภาพความประทับใจได้ทุกมุม ด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา 

อย่างไรก็ตาม ก็มีอีกเรื่องที่น่าสนใจของที่นี่ เพราะหลังช่วงลาวาแข็งตัว ประกอบกับในช่วงเวลาที่พื้นแห่งที่ถูกปล่อยรกร้าง ทำให้ในปี 1969 สถานที่แห่งนี้ได้ถูกนำมาใช้เป็นที่ฝึกลูกเรือยานอวกาศอพอลโล 11 ของ NASA เพื่อซ้อมเดินบนดวงจันทร์ เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับพื้นผิวดวงจันทร์ ก่อนที่มนุษย์จะได้ขึ้นไปประทับรอยเท้าแรกบนดาวต่างดวงนั่นเอง 

‘หนูน้อย’ กำลังสอบคณิตฯ ต้องนับนิ้วบวกลบ แต่คงไม่พอ ถึงขั้นงัดวิธีคิดเลขในตำนานขึ้นมาช่วย ทำชาวเน็ตแห่เอ็นดู

(30 ก.ย.66) ผู้ใช้ TikTok : pudong87 เผยคลิปน่าเอ็นดู ของน้องนักเรียนที่ต้องเข้าสอบวิชาคณิตศาสตร์ โดยหนูน้อยคนนี้พยายามใช้นิ้วมือขึ้นมานับเลข แต่ไม่พอ จึงต้องใช้นิ้วเท้าขึ้นมานับด้วย ซึ่งเชื่อว่าใครหลายคนที่เห็นคลิปนี้ก็อดยิ้มตามไม่ได้ ทำให้มีพี่ๆ ชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์จำนวนมาก จินตคณิตต้องเข้าแล้วละ เห็นเด็กๆ เขานับง่ายๆ มาก, ผมนับหัวเพื่อนเอาบางทีไม่พอก็รวมหัวครูไปด้วย 5555, อยากให้ทุกๆ รร.มีหลักสูตรจินตคณิต นร.จะได้เก่งทุกคนแบบไม่ต้องไปเรียนพิเศษ, เพื่อความชัวร์ ทำไปลูก เอาที่เราถนัด, หนูมีความตั้งใจ มุ่งมั่น บากบั่น เพียรพยายาม และจดจ่อรับผิดชอบต่อหน้าที่, วิธีคิดเลขในตำนานค่ะ 555, ขอโทษด้วยนะลูกป้าขำจนน้ำพุ่งเพราะเหมือนหนูเหมือนลูกสาวป้าเลย 

อาลัย ‘วิจิตร ศรีสอ้าน’ อดีตรมว.ศึกษาธิการ เสียชีวิตลงแล้ว ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว

(30 ก.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ธีระชัย เชมนะสิริ นายกสภามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Teerachai Chemnasiri’ ระบุว่า…

“ขอกราบคารวะดวงวิญญาณของท่าน ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน นายกสภามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อดีตนายกสภามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีตนักการศึกษาผู้มีแต่เมตตาธรรม

ขอให้ท่านจงสู่สวรรค์ชั้นสูงสุดด้วยคุณงามความดีที่ท่านได้กระทำเทอญ”

ขณะเดียวกัน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีกิตติคุณผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรังสิต อดีตรองประธาน​รัฐสภา​และประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์ภาพและข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Arthit Ourairat’ ระบุว่า…

“ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งในการจากไปของ ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน เพื่อนรักรุ่นเดียวกัน แม้ ดร.วิจิตร อยู่อักษรศาสตร์ ผมอยู่รัฐศาสตร์

ดร.วิจิตร สนับสนุนมหาวิทยาลัยรังสิตมาโดยตลอด เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยรังสิตตั้งแต่ต้นจนไปเป็น รมว.ศึกษาธิการ

ขอดวงวิญญาณท่านจงไปสู่สุคติ ณ สัมปรายภพ”

'ผศ.ดร.อานนท์' โพสต์!! ปม ‘หมอพรทิพย์’ ถูกไล่ออกจากร้านอาหาร ชี้!! การเลือกปฏิบัติแบบนี้ นับเป็นสิ่งผิดกม.ที่ทุกประเทศบัญญัติไว้

(30 ก.ย.66) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก 'Arnond Sakworawich' ระบุว่า…

การไล่คุณหญิงหมอพรทิพย์ออกจากร้านอาหารที่ไอซ์แลนด์ ​เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายเรียกว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ โดยความแตกต่างทางความเชื่อด้านการเมือ​ง​ รัฐธรรมนูญ​ของแทบทุกประเทศได้บัญญัติเรื่อง​ Unfair treatment กับ​ Discrimination เอาไว้แทบทั้งนั้นรวมทั้งประเทศไทยด้วย​ ทั้งนี้ยังเป็นการหมิ่นประมาทร้ายแรงด้วย

ในทางประชาธิปไตยนั้นสิ่งที่เชฟคนไทยทำกับคุณหญิงหมอก็ไม่เป็นประชาธิปไตยเพราะไม่ยอมรับความเห็นต่าง ในทางมารยาทสังคมก็ถือว่าทรามมาก ในทางธุรกิจก็ถือว่าล้มเหลวสุดที่ปฏิบัติกับลูกค้าเช่นนี้​ ชื่อเสียงของร้านพังย่อยยับ​ เชฟสามกีบคงต้องตกงาน​ในไม่ช้า

สวัสดี

'คนไทยในเบลเยียม' แห่ให้กำลังใจ 'คุณหมอพรทิพย์' ฝาก!! ขอให้ไปเที่ยวเบลเยียม ยินดีต้อนรับเสมอ

(30 ก.ย.66) หลังจากกระแส ชาวเน็ตแชร์คลิป หมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เดินทางไปท่องเที่ยวอยู่ที่ประเทศไอซ์แลนด์ ถูกเจ้าของร้านอาหารชาวไทยในประเทศไอซ์แลนด์ ชี้นิ้วขับไล่ให้ออกจากร้าน โดยเจ้าของร้านให้เหตุผลว่า รับไม่ได้สิ่งที่ สว.พรทิพย์ ทำกับประเทศไทย เกลียดฝังใจมาก ทั้งที่เคยชื่นชอบ สว. คนนี้มากในอดีต แต่ตอนนี้รับไม่ได้ จึงต้องไล่ออกจากร้าน

ล่าสุด กลุ่มคนไทยในเบลเยียม ได้ร่วมกันโพสต์ข้อความให้กำลังใจ #หมอพรทิพย์ กันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น…

“คุณหมอคะ มาเบลเยียมได้ไหมคะ ร้านเล็กๆ ของหนู ยินดีต้อนรับคุณหมอด้วยใจค่ะ หนูเห็นคลิปแล้วแทบอยากร้องไห้เลยค่ะ หนูเป็นอีกหนึ่งเสียงที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยใจจริง ถึงหนูจะมีไม่มาก แต่หนูจะต้อนรับคุณหมอด้วยใจทั้งหมดที่หนูมีเลยค่ะ”, “เป็นกำลังใจให้คุณหมอทำดีต่อไปค่ะ” เป็นต้น

ซึ่งคุณหมอพรทิพย์ ก็ได้เข้ามาตอบกลับคอมเมนต์เหล่านี้ว่า “ขอบคุณค่ะ ไม่รับมันมา ทุกสิ่งที่ทำก็กลับเข้าตัวค่ะ” 

‘เดชพล’ เจ้าของเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ประกาศจะไม่ควักเงินหนุนสโมสรอีก หลังแฟนบอลแสดงพฤติกรรมล้ำเส้น แนะ!! หยุดเห็นแก่ตัว-ควรเคารพกัน

เมื่อวันที่ 29 ก.ย.66 เดชพล จันศิริ นักธุรกิจชาวไทย เจ้าของสโมสร ‘นกเค้าแมว’ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ แห่งลีกแชมเปียนชิพ อังกฤษ ประกาศกร้าวจะไม่ยอมเสียเงินเพื่อลงทุนกับสโมสรแห่งนี้อีก โดยอ้างว่าแฟนบอลบางรายแสดงพฤติกรรมล้ำเส้นตนเกินไป

สำหรับเดชพลเข้ามาเทกโอเวอร์เชฟฯ เวนส์เดย์ตั้งแต่เมื่อปี 2015 ส่วนผลงานของทีมในปัจจุบันนั้น ‘นกเค้าแมว’ ลงเตะในลีกฤดูกาลปัจจุบันไปแล้ว 8 นัด ยังไม่ชนะใครเลย เพิ่งเก็บได้เพียง 2 คะแนน อยู่อันดับ 24 ซึ่งเป็นบ๊วยของตาราง

เดชพล กล่าวว่า “ตั้งแต่นี้ไปผมจะไม่สนับสนุนเงินเพิ่มเติมอีก แฟนบอลบางคนจำเป็นต้องเคารพเจ้าของสโมสรให้มากกว่านี้ จงเลิกเห็นแก่ตัวโดยที่ไม่ได้ทำอะไรดีๆ ให้สโมสร ผมถูกแฟนบอลปฏิบัติด้วยอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งนั่นทำให้ผมไม่อยากสนับสนุนการเงินให้สโมสร”

'โบว์ ณัฏฐา' ยกข้อความ 'หมอพรทิพย์' แจ้งสังคม ทริปนี้ ใช้เงินส่วนตัว วางแผนมานาน และไม่โกรธใคร

(30 ก.ย.66) คุณโบว์ ณัฏฐา มหัทธนา ผู้ดำเนินรายการ Ringside การเมือง กล่าวถึงกรณีหมอพรทิพย์ ถูกเจ้าของร้านคนไทยในไอซ์แลนด์ไล่ออกจากร้านไว้ โดยระบุว่า...

เมื่อสามเดือนก่อน โบว์เคยได้แลกเปลี่ยนพูดคุยสัมภาษณ์ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ในรายการทาง Ringsideการเมือง เมื่อได้เห็นคลิปเหตุการณ์คุณหมอถูกคุกคามที่เผยแพร่กันจึงส่งข้อความไปให้กำลังใจวันนี้

คุณหมอฝากข้อมูลให้ได้รับทราบกัน ดังนี้ค่ะ

“1. เราเป็นเพื่อนเที่ยวถ่ายรูปด้วยกันมานาน หมอเป็นยายกล้อง
2. ทุกปีจะมีทริปต่างประเทศด้วยกัน
3. ใช้เงินส่วนตัว
4. ปกติจะไปช่วงนี้เพราะปิดประชุมสภา ทริปนี้วางแผนมานานเป็นปี แต่บังเอิญปีนี้มีการเลือกตั้ง ทำให้ช่วงปิดประชุมสภาขยับออก
5. หมอและน้องสส.ต่างลาประชุม
6. ส่วนตัวไม่เคยถือสา ไม่โกรธ ไม่อยากให้มีประเด็นวุ่นวายอะไรอีก ไม่อยากต่อความขยายประเด็น
ขอบคุณค่ะ”

กองทัพเรือไทย ต้อนรับทัพเรือแคนนาดา เยือนประเทศไทย เสริมสร้างความสัมพันธ์

เมื่อวันที่ 29 ก.ย.66 พลเรือโท สุทิน หลายเจริญ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ มอบหมายให้ นาวาเอก มาฆะพงศ์ ดาราพันธุ์ หัวหน้าท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ ให้การต้อนรับ เรือ HMCS OTTAWA เนื่องในโอกาสเดินทางมาเข้าจอดตามกิจวัตรปกติ ระหว่างวันที่ 29 กันยายน 2566 - 6 ตุลาคม 2566  ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

สำหรับ เรือหลวงของประเทศแคนาดา ที่ชื่อว่า "ออตตาวา" (Ottawa) เป็นหนึ่งในเรือฟริเกต ชั้นฮาลิแฟ็กซ์ ของกองทัพเรือแคนาดา ซึ่งมีทั้งหมด 12 ลำ จะจอดเทียบท่าที่ประเทศไทย อันเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ที่มีอย่างต่อเนื่อง เรือหลวงออตตาวา และเฮลิคอปเตอร์ ประจำการบนเรือ รุ่นไซโคลน ซีเอช-148 (CH-148 Cyclone) ที่พร้อมปฏิบัติการ มีทหารเรือ ทหารบก และนักบิน ซึ่งล้วนได้รับการฝึกฝนขั้นสูงและมีความเป็นมืออาชีพ ประจำเรือ รวม 250 นาย  

เรือหลวงออตตาวา มีการติดตั้งระบบอาวุธและเซนเซอร์สำหรับการปราบเรือดำน้ำ การรบผิวน้ำ

ตร.ภ.ภาค 2 เชิดชูเกียรติข้าราชการตำรวจ เกษียณอายุราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566

พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 เป็นประธานในพิธีเชิดชูเกียรติ ในวาระข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการ ประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2566 ของตำรวจภูธรภาค 2 

โดยมีผู้บังคับบัญชาของตำรวจภูธรภาค 2 คณะที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 เข้าร่วมพิธี ณ ห้องประชุม NICE สวนนงนุช พัทยา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี

‘อ.วิริยะ’ ชี้ ‘การศึกษา’ คือ ‘การลงทุน’ ที่คุ้มค่าที่สุด

“การศึกษา คือ การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด…
และส่งผลระยะยาวต่อเศรษฐกิจและสังคม”

อาจารย์วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ นักวิชาการอิสระ นักพูด นักเขียนด้านการศึกษา กล่าว

‘สาว’ แชร์ประสบการณ์แฟนติด ‘ตม.เกาหลีใต้’ ก่อนโดนส่งตัวกลับไทย เหตุภาษาไม่ได้-ไม่มีศักยภาพมาเที่ยว แนะ ใครจะมาต้องสื่อสารให้รู้เรื่อง

(30 ก.ย.66) เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นร้อนที่หลายคนพากันเข้าไปอ่านจำนวนมาก กับปัญหา ‘ตม.เกาหลี’ หรือ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของสาธารณรัฐเกาหลี กับนักท่องเที่ยวชาวไทยแลนด์แดนสยามประเทศ ที่ล่าสุดก็เกิดเหตุการณ์บินไปถึงสถานที่แล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องตีตั๋วกลับโดยพลันชนิดฟ้าผ่า คล้ายทำนองเดียวกับที่ บิว วราภรณ์ ยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ ไปติด ตม.เกาหลี ส่งตัวเข้าห้องเย็น ให้นอนหนาวทั้งคืน สุดท้ายถูกส่งกลับประเทศด้วยสภาพน้ำตานอง

โดยประสบการณ์ติด ตม.เกาหลีใต้ ที่กำลังเป็นไวรัลวิพากษ์วิจารณ์สนั่น เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) หลังจากมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมารีวิวประสบการณ์ที่เธอกับคนรักได้โอกาสเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศดังกล่าว แต่ก็ต้องมาเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น

ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้ลงเนื้อหาทั้งหมดไว้ผ่านกลุ่มเฟซบุ๊กกลุ่ม คนชอบตะลอนเที่ยวเกาหลี ซึ่งมีสมาชิกกว่า 200,000 ราย ข้อความว่า รีวิวการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีรีวิวตมเกาหลีกันค่ะ เราแต่งตัวแบบนี้ไปนะคะ แล้วก็มีกระเป๋าน้องเหลืองแบบนี้แหละไปเลย โหลดใต้เครื่อง ตม.ถามแป้งแค่ 2 ประโยคนะคะแล้วแป้งก็ผ่านเลย…

How long you stay here? ตอบ 4 days

This is your hotel, right? พร้อมกับหันแผ่น Arrival card มาที่เรา ตรงช่องที่อยู่ที่เราเขียน

ตอบ Yes…For the 2 first night and the second one is ibis ambassador Myeongdong.

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ติดแสตมป์ให้แล้วยื่น พาสปอร์ต ผ่านไปได้เลยค่า (เจ้าหน้าที่ผู้หญิงค่ะ)

แต่ของแฟนเราไม่ผ่าน เพราะตอบคำถามตม.ได้ไม่เคลียร์ โดนส่งกลับไทย ด้วยความที่เดินทางครั้งแรก นางเลยตื่นเต้น รู้ทั้งรู้ว่าจะตอบอะไร แต่ปากดันไปตอบไม่รู้ แฟนก็บ่นว่า งงตัวเองโมโหตัวเอง แต่ถือว่าได้เรียนรู้ ไว้มาแก้ตัวใหม่

เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า ‘ไม่มีศักยภาพมากพอที่จะเที่ยวประเทศเขาค่ะ’ และ ‘ไม่สามารถระบุรายละเอียดแจกแจงได้อย่างชัดเจน’ เลยส่งกลับไทย

Additional** จน.บอกแฟนอีกว่า แฟนดูไม่มีความพร้อมที่จะเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลี การสื่อสารไม่สามารถเอาตัวรอดได้** ประมาณนี้เลย ที่จำ ๆ ได้

ย้ำว่ามันเป็น Case แล้วแต่บุคคล ไม่อยากให้คนอ่าน อ่านแล้วคิดว่าตัวเองจะเจอแบบนี้ แค่อยากเป็นอีกนึงประสบการณ์บอกเล่า ไม่ต้องเชื่อ 100% นะคะว่าทุกคนจะเจอเหมือนกัน เพราะคนละคน คนละกรณี

ส่วนตัวเราเข้าใจทั้งตัวแฟนแล้วก็เข้าใจทางเจ้าหน้าที่นะคะ ว่าทำไมเขาถึงส่งกลับแล้วก็เข้าใจแฟนมาก ๆ เพราะว่ามันเป็นครั้งแรกของเขา แล้วก็เขาเป็นคนที่ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษขนาดนั้นแบบฟิลเหมือนว่าเราตื่นเต้นมาก ๆ แล้วพอเราทำอะไรผิดไปครั้งแรกปุ๊บทุกอย่างมันก็จะล้ม ๆ ไปหมดเลย

ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเราก็ซ้อมก็คุยกันมาค่อนข้างเยอะ เขาโอเคเขาเข้าใจหมดว่าเราจะไปไหนทำอะไรแต่พอไปอยู่หน้าตม.จริงๆ อ่ะ คือเหมือนเขาตื่นเต้นด้วยความที่แบบเพิ่งลงจากเครื่อง

อะไร ๆ ก็แล้วแต่มันเลยทำให้แบบพอได้ทำพลาดไป 1 ครั้ง มันก็คือแตกตื่นไปหมดเลย … ก็เลยคุยกันว่า ถือว่าเป็นบทเรียนอย่างน้อย เขาก็ไม่ได้ห้ามเราเข้าประเทศตลอดไป เขาก็บอกว่าเออเราไม่มีประสิทธิภาพพอเฉยๆ ก็ไว้ครั้งหน้าเราก็อุดรอยรั่วทำทุกอย่างใหม่ก็แค่นั้น ปลอบใจกันไป

ดังนั้นนะคะใครที่จะเข้าเกาหลีเนี่ย แต่งตัวดีอาจจะมีส่วนก็ได้แต่ว่าที่แน่ ๆ คือต้องสื่อสารให้รู้เรื่องค่ะให้ชัดเจนว่า จะไปไหน ทำอะไร มายังไงแบบไหน ซึ่งข้อมูลพวกนี้มันเป็นข้อมูลพื้นฐานเลยเพราะว่าเราไม่ได้อยู่ประเทศตัวเองอ่ะ

เพราะฉะนั้นเวลาเราไปเที่ยวต่างประเทศเราต้องรู้ว่าเราจะไปไหนทำอะไรเพื่อที่เราจะได้มีชีวิตรอดในเกาหลีค่ะ แล้วก็สกิลภาษาก็สำคัญ เพราะว่าภาษาอังกฤษของเราถ้ามันอ่อนมากๆ สื่อสารไม่รู้เรื่องเนี่ย มันก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เจ้าหน้าที่เริ่มคิดแล้วว่าเออควรส่งเขากลับไม่ควรให้เข้ามาในเกาหลี เพราะกลัวว่านักท่องเที่ยวคนนี้จะเอาตัวรอดไม่ได้

2. เนี่ยจำนวนเงินก็สำคัญค่ะ มากไปก็ไม่ดีน้อยไปก็ไม่ได้นะคะ ก็ต้องแบบพอดีพอกัน แจกแจงให้ชัดเจนว่า มีทั้งเงินสดมีทั้งเงินในการ์ดอะไรยังไง…

แต่ทั้งนี้สุดท้ายมันก็อาจจะขึ้นกับดวงก็ได้นะคะ เพราะว่าทุกอย่างที่เขียนมาเนี่ยมันก็เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัว จากประสบการณ์ของแป้งเองนะ ไม่ได้แบบรู้ลึกรู้จริงอะไร เล่าจากประสบการณ์ที่เจอมาแล้ว ก็เล่าจากความคิดเห็นของตัวเองนะคะ ขอย้ำว่าเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของเรา เพราะว่ามันก็มีรีวิวว่าแบบบางคนเขาทำทุกอย่างถูกต้องหมดเลยมีทุกอย่างแจกแจงได้หมดแต่ก็ยังโดนส่งกลับเราก็ไปเจอรีวิวนี้มาเหมือนกันเพราะฉะนั้นดวงก็อาจจะมีส่วนก็ได้ค่ะ #สู้ๆนะคะ”

นอกจากนี้ หญิงสาวเจ้าของเรื่องก็ยังเข้ามาอธิบายเพิ่มเติม ถึงกรณีถูกส่งตัวกลับนั้นมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย โดยเธอให้คำตอบไว้ว่า “เคสส่งกลับ เจ้าหน้าที่ฯ จะไปหาตั๋วที่กลับไทยด่วนที่สุดให้เรา และดีลกับสายการบินราคาที่ถูกที่สุดให้ค่ะ และคนที่โดนส่งกลับจะอยู่ในสนามบินตลอด ออกไปไหนไม่ได้ ขากลับก็จะพาไปส่งโซนรอขึ้นเครื่องเลยค่ะ

ส่วนกระเป๋าเขาก็จะส่งกลับไปให้ด้วย และค่าตั๋วจ่ายเงินสด เงินไทยหรือเงินวอนเท่านั้น ไม่รับโอน รูด หรือเครดิตการ์ดใดๆ เงิน us, aud ก็ไม่รับค่ะ ค่าตั๋วที่จ่ายล่าสุดคือ 90,000 วอน”

เจ้าของร้านอาหารคนไทยในไอซ์แลนด์ ไล่ 'หมอพรทิพย์' ออกจากร้าน อ้าง!! เกลียดฝังใจ รับไม่ได้กับสิ่งที่ สว.พรทิพย์ ทำกับประเทศไทย

(30 ก.ย. 66) ชาวเน็ตแชร์คลิป หมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เดินทางไปท่องเที่ยวอยู่ที่ประเทศไอซ์แลนด์ ถูกเจ้าของร้านอาหารชาวไทยในประเทศไอซ์แลนด์ ชี้นิ้วขับไล่ให้ออกจากร้าน โดยเจ้าของร้านให้เหตุผลว่า รับไม่ได้สิ่งที่ สว.พรทิพย์ ทำกับประเทศไทย เกลียดฝังใจมาก ทั้งที่เคยชื่นชอบ สว. คนนี้มากในอดีต แต่ตอนนี้รับไม่ได้ จึงต้องไล่ออกจากร้าน

ขณะที่ หมอพรทิพย์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Porntip Rojanasunan’ ว่า เช้าวันสุดท้ายที่ไอซ์แลนด์ เราเดินท่องในเมืองหาร้าน Hotdog ที่ผู้คนแนะนำ อร่อยจริงสมคำร่ำลือ เสียดายที่ไม่ทันถ่ายรูปร้านเบอร์เกอร์ไก่อร่อยอีกแห่งชื่อ YuZu มาไอซ์แลนด์แนะนำ

โดยหนึ่งในผู้ที่เดินทางไปเที่ยวด้วยกันมี นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี พรรคภูมิใจไทย รวมอยู่ด้วย

รมว.พิพัฒน์ มอบนโยบาย สสปท ทำงานเชิงรุก เน้นสร้างวัฒนธรรมเชิงป้องกันให้สังคมไทย

วันที่ 28 กันยายน 2566 เวลา 14.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายแก่ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) สสปท.  ณ ห้องประชุมกองความปลอดภัยแรงงาน ชั้น 4 อาคารกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ส่วนแยกตลิ่งชัน  

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า  สสปท.เป็นองค์การมหาชน ที่อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งมีภารกิจในการส่งเสริมความรู้ด้านความปลอดภัยในการทำงานให้กับผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ในการส่งเสริมความรู้ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ให้กับแรงงานทุกระดับ  โดยใช้งานวิชาการ จากการทำงานวิจัย การจัดทำมาตรฐาน และการพัฒนานวัตกรรม ในการทำงานเชิงรุก และนำไปสู่การสร้าง “วัฒนธรรมความปลอดภัย”ในการทำงาน ซึ่งที่ผ่านมา สสปท.ได้เผยแพร่ความรู้จากงานวิจัยและการจัดทำมาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยอบรมให้กับ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านความปลอดภัย จำนวนกว่า 25,000 คนทั่วประเทศ จากสถานประกอบการ 6,000  แห่ง  จัดทำคู่มือและแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัย จำนวน 28 เรื่อง และงานวิจัยด้านความปลอดภัยเพื่อต่อยอดเป็นแนวปฏิบัติจำนวน  5 เรื่อง ซึ่งมีผู้สนใจดาวน์โหลดจากเวปไวต์ สสปท.มากถึง 5 แสนกว่าครั้ง             

“ภารกิจของ สสปท.เรียกได้ว่า มีบทบาทที่สำคัญกับสังคมไทยมาก ในการที่จะสร้างความตระหนักรู้ ปลุกจิตสำนึกด้านความปลอดภัย ในการทำงานให้เกิดขึ้นในภาคแรงงานและสังคมโดยรวม  เพราะหากที่ไหนมีความปลอดภัย ที่นั่นย่อมลดการสูญเสียทั้งเศรษฐกิจ และชีวิต” นายพิพัฒน์กล่าว

จากนั้น นายพิพัฒน์ ได้มอบนโยบายให้กับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ สสปท. โดยขอให้ สสปท.ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ในการ คุ้มครองสิทธิแรงงาน ให้มีความปลอดภัยในการทำงาน นำไปสู่การลดสถิติการประสบอันตรายและโรคจากการทำงานได้ในระยะยาว  และขอให้ สสปท. ประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน ทั้งภายในกระทรวงแรงงาน และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อร่วมบูรณาการในการทำงานด้านความปลอดภัยให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ประชาชน ชุมชน โดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ร่วมกัน ในการก่อให้เกิดความปลอดภัยเชิงป้องกันกับทุกภาคส่วนในสังคม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดพิธีอำลาตำแหน่งแก่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ตร.

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดจัดพิธีอำลาตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และจเรตำรวจแห่งชาติ เนื่องในโอกาสที่เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2566 

ในวันศุกร์ ที่ 29 ก.ย.66 เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีตรวจแถวกองเกียรติยศ และพิธีสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 ณ บริเวณด้านหน้าอาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพิธีถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อ รัชกาลที่ 9 ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีฯ ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดให้จัดพิธีอำลาตำแหน่งแก่ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ๋ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.ชินภัทร  สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.วิษณุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการตำรวจเข้าร่วมพิธีฯ อย่างพร้อมเพรียงกัน

สำหรับในช่วงท้ายของพิธีฯ ข้าราชการตำรวจจากหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตั้งแถวร่วมแสดงมุฑิตาจิต ในการส่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เกษียณอายุราชการ ประจำปี พ.ศ. 2566 ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทรภ.1 ส่งหมู่เรือ ไปปฏิบัติราชการชายแดนไทย-กัมพูชา ในหมวดเรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่ 1

เมื่อวานนี้ (29 กันยายน 2566) นาวาเอก ศรยุทธ พุ่มสุวรรณ์ รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้บังคับหมวดเรือตระเวนชายแดน เป็นประธานในพิธีส่งหมู่เรือไปปฏิบัติราชการในหมวดเรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่ 1 เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล บริเวณพื้นที่ชายแดนทางทะเล ไทย - กัมพูชา 

ประกอบด้วย เรือหลวงศรีราชา เรือ ต.83 เรือ ต.232 และ เรือ ต.269 พร้อมให้โอวาทและมอบกระเช้า เพื่อให้กำลังพลมีขวัญและกำลังใจที่ดี ในการเดินทางไปปฏิบัติราชการชายแดนในครั้งนี้ ณ ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top