Friday, 6 June 2025
NEWS

เรือโดยสารไฟฟ้าสายแรกในประเทศไทย

เปิดบริการล่ะจ้า!!

 

กำลังพูดถึง ‘เรือโดยสารไฟฟ้า’ สายแรกในประเทศไทย ไทย ไทย! เป็นไง เล่นใหญ่รัชดาลัยกันไปเล้ย! วันนี้เป็นวันแรก 27 พ.ย. 63 ที่เรือโดยสารไฟฟ้าจะให้บริการตลอดเส้นทางคลองผดุงกรุงเกษม

 

โดยรายละเอียดของเรือโดยสารไฟฟ้านี้ เป็นเรือที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% มีขนาดความยาว 9.90 เมตร กว้าง 2.98 เมตร ใช้เครื่องยนตร์ขนาด 10 กิโลวัตต์ จำนวน 2 เครื่อง เทียบเท่าเครื่องยนตร์แรงม้า 20 แรงม้า รวมทั้งมีแบตเตอรี่ทำความเร็วได้สูงสุด 17 กม./ชม. โดยชั่วโมงการทำงานต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สามารถให้บริการได้นาน 4 ชั่วโมง รองรับผู้โดยสาร 30 ที่นั่ง แถมยังจัดพื้นที่รองรับผู้โดยสารที่ใช้วีลแชร์ได้ 1 คัน นอกจากนี้บนหลังคาเรือยังมีแผงโซลาร์เซลล์ 12 แผง เพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าในระบบส่องสว่างภายในเรืออีกด้วย

 

ส่วนเส้นทางเดินเรือนั้นก็น่าสนใจ เพราะมีทั้งหมด 11 ท่า ได้แก่ ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง ท่าเรือหัวลำโพง ท่าเรือนพวงศ์ ท่าเรือยศเส ท่าเรือกระทรวงพลังงาน ท่าเรือแยกหลานหลวง ท่าเรือนครสวรรค์ ท่าเรือราชดำเนินนอก ท่าเรือประชาธิปไตย ท่าเรือเทเวศร์ และท่าเรือตลาดเทวราช รวมระยะทาง 5 กม.

 

เรือโดยสารไฟฟ้านี้สามารถเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว มีจุดเชื่อมต่อการเดินทาง จำนวน 4 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 ต่อเรือด่วนเจ้าพระยา ที่ท่าเรือตลาดเทวราช จุดที่ 2 ต่อเรือแสนแสบ ที่ท่าเรือกระทรวงพลังงาน จุดที่ 3 ต่อรถไฟชานเมือง ที่ท่าเรือรถไฟหัวลำโพง และจุดที่ 4 ต่อรถไฟฟ้า MRT ที่ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง

 

เรือจะให้บริการในวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น. วันละ 39 เที่ยว ความถี่ในการเดินเรือประมาณ 15 นาทีต่อลำ ส่วนวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น. วันละ 23 เที่ยว ความถี่ในการเดินเรือประมาณ 30 นาทีต่อลำ โดยเปิดให้บริการฟรีเป็นระยะเวลา 6 เดือน จากนั้นจะเริ่มจัดเก็บค่าโดยสารในอัตราไม่เกิน 10 บาทตลอดสาย

 

นั่งเรือต่อรถไฟ บอกเลยว่า เธอคือคุณครู เอ้ย! เธอคือคนคูลๆ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ แถมยังเป็นพาหนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย คูลเข้าไปอี๊ก! แต่ก็ต้องให้ความใส่ใจเรื่องความปลอดภัยด้วยนะ ไปจ้ะพี่สุชาติ ไปขึ้นเรือกัน!!

 

ผิดกฎหมายชัด!! ศรีสุวรรณ ชี้ คูปองเป็ดเหลือง ผิดหนักโทษแรงถึงจำคุกตลอดชีวิต

หลังจากเมื่อวาลุ่มคณะราษฎร หรือ ม็อบ 25 พฤศจิกายน ได้นัดรวมตัวชุมนุมกันบริเวณหน้าสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ถนนรัชดาภิเษก

.

โดยมีการผลิตธนบัตรหรือแบงค์เป็ด หรือ คูปองเป็ดเหลือง 3,000 ใบ แจกจ่ายให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมในกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งคูปองเป็ดเหลืองมีมูลค่าใบละ 10 บาท หน้าคูปองประกอบด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย – ลูกชิ้นทอด – นกพิราบขาว – หมุดราษฎร – เป็ดยาง โดยสามารถใช้ได้เฉพาะวันที่ 25 พ.ย. 63 และใช้ได้กับร้านค้าที่ร่วมรายการประมาณ 10 ร้านเท่านั้น

.

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องแล้วกับผู้ที่นำคูปองดังกล่าวไปใช้ หลังจาก นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกมาชี้ชัดว่า การผลิต การจ่ายแจก หรือนำออกมาใช้ซึ่งธนบัตรเป็ดดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งผู้ผลิต ผู้จ่ายแจก ผู้นำไปใช้ และร้านค้าผู้รับธนบัตรดังกล่าว

.

เนื่องจากประเทศไทยมีกฎหมายที่ควบคุมเรื่องดังกล่าวไว้ คือ พระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ.2501 ซึ่งในมาตรา 9 ได้บัญญัติไว้ว่า ห้ามผู้ใดทำ จำหน่าย ใช้หรือนำออกใช้ซึ่งวัตถุหรือเครื่องหมายใดๆ แทนเงินตรา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และมีการกำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนไว้ คือ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

.

นอกจากนั้นยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 อีกด้วย โดยบัญญัติไว้ว่า ผู้ใดทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกระษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นๆ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเงินตรา ‘ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต’ หรือจำคุกตั้งแต่ 10 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาทถึง 400,000 บาท

.

ส่วนผู้ที่นำธนบัตรเปิดออกใช้จ่ายก็มีความผิดตาม มาตรา 244 ที่บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งใดๆ อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมตามมาตรา 240 หรือของแปลงตามมาตรา 241 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 300,000 บาท

.

ดังนั้น การผลิตและนำออกมาจ่ายแจกให้ผู้ชุมนุมและร้านค้าใช้ธนบัตรเป็ด จึงเข้าข่ายความผิดทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถดำเนินการจับกุมดำเนินคดีได้ทันที

ดีเอโก้ มาราโดน่า กับ 5 เรื่องราวในความทรงจำนักเตะมหัศจรรย์ของโลก

วันนี้คงเป็นวันที่แฟนฟุตบอลมากมายต่างรู้สึกใจหาย เมื่อได้ทราบข่าวการจากไปของ  ‘ดีเอโก้ มาราโดน่า’ หนึ่งในตำนานหมายเลข 10 ของโลก The States Time Lite ขอรวบรวม 5 เรื่องราวที่ทำให้แฟนบอลต้องจดจำนักเตะมหัศจรรย์คนนี้มาบอกกัน

 

1 ช็อตเลี้ยงหลบนักเตะอังกฤษในฟุตบอลโลก 1986: ใครที่เกิดทัน หรือไม่ทันลองเซิร์ชในยูทูบ ลองตามไปดูแมทซ์ที่มาราโดน่า นำทีมชาติอาร์เจนติน่า พบกับทีมชาติอังกฤษ ในฟุตบอลโลก 1986 รอบ 8 ทีมสุดท้าย มีอยู่จังหวะหนึ่งที่มาราโดน่ากระชากบอลลากเลื้อยหลบนักเตะอังกฤษ จากคนแรกไปคนที่สอง ไปคนที่สาม คนที่สี่ แล้วสุดท้ายก็ยิงประตู ถือเป็นช็อตมหัศจรรย์แห่งความทรงจำ ที่ไม่ได้ทำกันง่ายๆ แต่ผู้ชายคนนี้ทำได้!

 

2 หัตถ์พระเจ้า: ถ้าจะหาจังหวะในเกมฟุตบอลที่เป็นที่จดจำ และยังถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ ต้องเป็นเหตุการณ์ในแมทซ์อาร์เจนติน่าพบอังกฤษ ในฟุตบอลโลก 1986 เช่นกัน มันเป็นจังหวะที่มาราโดน่าตั้งใจจะกระโดดโหม่งบอล แต่มีปีเตอร์ ชิลตัน ผู้รักษาประตูของอังกฤษ กระโดดขึ้นไปบล็อกไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งความสูงของมาราโดน่าเพียงน้อยนิด ยังไงก็โหม่งไม่ถึง ไม่มีทางส่งบอลเข้าประตูแน่นอน แต่เขากลับทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด ใช้จังหวะฉาบฉวยเอามือยื่นไปชกลูกบอลเข้าประตูไป แถมกรรมการก็ให้ลูกนั้นเป็นประตูอีกด้วย ซึ่งต่อมาภายหลัง มาราโดน่าออกมาให้ข่าวว่า เขาไม่ได้ใช้มือทำประตูนะลูกนั้น แต่นั่นมันคือ ‘หัตถ์ของพระเจ้า’ ประโยคนี้ได้กลายเป็นประโยคในตำนานมาจนถึงวันนี้

 

3 ช็อตเสียน้ำตาของมาราโดน่า: หลังจากที่พาทีมชาติอาร์เจนติน่าได้แชมป์โลกในปี 1986 หลังจากนั้นอีก 4 ปี มาราโดน่าก็ได้นำทีมฟ้าขาวกลับมาป้องกันแชมป์อีกครั้งในศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศอิตาลี แต่ว่าเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนัก แต่สุดท้ายเขาก็พาอาร์เจนติน่าเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศจนได้ แถมยังได้มาล้างตากับทีมชาติเยอรมัน ที่พ่ายแพ้กันมาในรอบชิงเมื่อปี 1986 ในเกมนั้น มาราโดน่าทำทุกวิถีทางให้อาร์เจนติน่าได้เป็นแชมป์โลกอีกครั้ง แต่ผลสุดท้ายต้องพ่ายแพ้แก่เยอรมันด้วยลูกจุดโทษ 1-0 ภายหลังเกม ในจังหวะที่เยอรมันกำลังชูถ้วย ภาพตัดไปที่มาราโดน่าที่ยืนหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจ ช็อตดังกล่าวกลายเป็นภาพจำที่ทำให้แฟนบอลต่างสะเทือนใจร่วมไปกับเขาด้วยเช่นกัน

 

4 นักฟุตบอลเสพยา: ในความเป็นเทพเจ้าลูกหนัง เป็นไอดอลของเด็กๆ ที่ชื่นชอบฟุตบอล แต่มาราโดน่ากลับทำให้แฟนบอลต่างอึ้งอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวถูกจับได้ว่าติดโคเคน รวมไปถึงมีส่วนพัวพันกับการค้ายาเสพติด นี่อาจจะเป็นมุมดาร์กๆ ที่ทำให้วีรบุรุษคนนี้มีความด่างพร้อยในเส้นทางอาชีพลูกหนัง ซึ่งหลังจากผ่านช่วงปี 1990 เป็นต้นมา มาราโดน่าก็มักจะมีข่าวด้านลบๆ ทำนองนี้เกิดขึ้นอยู่เสมอ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ความเป็นอัจฉริยะฟุตบอลของเขา ค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อโลกก้าวสู่ปี 2000

 

5 ผู้จัดการทีมชาติสุดมันส์: แม้ชื่อเสียงของมาราโดน่าจะไม่ค่อยสวยหรูนักหลังเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ แต่ด้วยความรักในฟุตบอล เจ้าตัวก็ยังวนเวียนอยู่ในเส้นทางฟุตบอลอยู่เสมอ กระทั่งเมื่อปี 2010 ใครจะไปคาดคิดว่า มาราโดน่าจะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้จัดการทีมชาติอาร์เจนติน่า พาทีมฟ้าขาวลุยฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ นี่เป็นภาพที่แฟนบอลยุค 80-90 ต่างพากันตื่นเต้น เหมือนได้เห็นไอดอลในวัยเด็กกลับมาเชิดฉายอีกครั้ง มาราโดน่าทำผลงานกับอาร์เจนติน่าได้ไม่ดีนัก พาทีมไปจบที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย พ่ายแพ้ให้กับคู่ปรับเก่าตลอดกาลอย่างทีมชาติเยอรมันไป 4-0 แต่ถึงกระนั้น ภาพแอ็คชั่นข้างสนามของเขา รวมทั้งลีลายียวนอันเป็นเอกลักษณ์ ก็ได้สร้างสีสันให้กับฟุตบอลโลกหนนั้น รวมทั้งแฟนบอลอย่างพวกเราเป็นอย่างมาก

 

 

 

 

Q&A ลุงตู่!! เคลียร์ปมประเด็นร้อน...หลังเกิดเหตุยิงสนั่นหน้า SCB

จากเหตุการณ์ยิงกันที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ หรือ SCB ภายหลังการชุมนุมเมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) ทำให้นักข่าวต่างกรูกันไปสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จนลุงตู่ต้องออกมาพูดถึงการชุมนุมของกลุ่มราษฎรในหลายประเด็น

.

“ตนเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า หากเป็นการชุมนุมที่ถูกกฎหมายก็ห้ามอะไรไม่ได้ แต่ต้องเป็นการชุมนุมที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตามต้องเคารพกฎหมาย อย่าทำผิดกฎหมาย กฎหมายเขียนว่าอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามนั้น รัฐบาลก็มีหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ไม่ว่าจะกี่พวกก็ตาม แต่ไม่ว่าจะพวกไหน ก็ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ใครทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกัน” นายกกล่าวและว่า

.

“สำหรับเหตุการณ์ยิงกันหลังการชุมนุมที่ SCB ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ตนกำลังให้เจ้าหน้าที่สอบสวนติดตามอยู่ เห็นว่ามีภาพถ่ายมีอะไรตลอด สื่อก็ได้บันทึกไว้ ก็จะได้พิสูจน์ได้ว่าใครทำกันแน่ ไม่อย่างนั้นก็โยนกันไปโยนกันมาว่าอีกพวกหนึ่งทำ ว่ารัฐบาลทำ ทั้งที่รัฐบาลมีแต่ทำหน้าที่ดูแลให้ทุกคนปลอดภัย มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เข้าใจหรือไม่ การชุมนุมจะต้องช่วยกัน อย่าให้เกิดขึ้นอีก จะต้องเป็นการชุมนุมที่ปลอดภัย ถ้าคนไปร่วมชุมนุม ไปแล้วไม่ปลอดภัยเขาก็ไม่ไป”

.

ทั้งนี้มีการสอบถามลุงคู่เพิ่มเติมถึงกรณีการลดความขัดแย้งตรงนี้ว่าจะทางยุติได้อย่างไรต่อไป

.

Q: ควรจะดำเนินการแก้ไขและธรรมนูญให้เสร็จสิ้นโดยเร็วหรือไม่?

ลุงตู่: “การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการของรัฐสภา ซึ่งประธานสภาดูแลอยู่แล้วในเรื่องนี้ รัฐบาลจะไม่ก้าวล่วง เพราะเราเป็นฝ่ายบริหาร ซึ่งการแก้ไขตรงโน้น เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน อะไรก็แล้วแต่ เราไม่มีส่วนร่วมตรงนั้น อย่าเอาปัญหานี้ไปใส่ปัญหานั้น เราเป็นฝ่ายบริหาร ตรงนั้นเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญเราเพียงอำนวยความสะดวกให้มีการแก้ไขเท่านั้นก็จบแล้ว สั่งใครได้ที่ไหนล่ะ”

.

Q: นายกฯได้ประเมินหรือไม่ว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อจะส่งผลกระทบมากแค่ไหน?

ลุงตู่: “ผมอยากฝากคนทั้งประเทศให้กังวลด้วยแล้วกัน เพราะผมกังวลอยู่แล้ว ยิ่งชุมนุมนานไป ก็ยิ่งเสียหายมากขึ้น ยิ่งนานไปเศรษฐกิจก็ขับเคลื่อนไม่ได้ ยิ่งนานไปการจราจรก็ติดขัดมากขึ้น ขอถามหน่อยว่า ได้ประโยชน์กับใคร เขาอาจจะได้ประโยชน์ของเขา แต่หาวิธีการอื่นไม่ได้หรือ ที่ดีกว่า ที่มันสงบ ไม่ให้เกิดอันตราย หรือไปล่วงละเมิดใคร ผมว่ามันควรมองตรงนั้นมากกว่า สื่อช่วยกันพูดหน่อย”

 

พระราชทานบัตรอวยพรปีใหม่ ๒๕๖๔

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานบัตรอวยพรปีใหม่ ๒๕๖๔ แก่ปวงชนชาวไทย เป็นภาพฝีพระหัตถ์ "สวัสดีปีฉลูวัว" รูปวัว หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส และพระราชทานพรปีใหม่ ความว่า

 

"ปีที่แล้วโรคร้ายหมายชีวิต                 มีคนติดทั่วโลกอยู่มากหลาย
คนยังอยู่จนยากลำบากกาย                ที่ทุกข์คลายเพราะความรักสามัคคี

ปีฉลูวัวใจดีเข้ามาหา                     มีนมมาให้ดื่มเป็นสุขี
สุขภาพของเด็กเติบโตดี                  ผู้ใหญ่ที่ดื่มนมก็แข็งแรง"

สวัสดีปีฉลูวัว พ.ศ.๒๕๖๔

นับถอยหลัง ‘พิฆาตโควิด-19’ วัคซีนไทยพร้อมชน...กลางปี 64

น่าจะเป็นกระแสแรงที่สยบทุกข่าวร้อนได้เลยสำหรับความคืบหน้าอีกก้าวของวัคซีนโควิด-19 ในบ้านเรา

.

เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะเป็นประธานพิธีลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยการจองล่วงหน้าและสัญญาจัดซื้อวัคซีน กับ ‘บริษัทแอสตร้าเซเนก้า’ บริษัทผู้ผลิตชีวภัณฑ์ชั้นนำสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน

.

โดยคณะรัฐมนตรีต่างมีมติเห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แก่ประชาชนไทยโดยการจองล่วงหน้าและการจัดซื้อวัคซีน ในวงเงิน 6,049,723,117 บาท โดยให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จัดทำสัญญาการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้า ภายใต้เงื่อนไขว่ามีโอกาสที่จะได้รับวัคซีนหรือไม่ได้รับวัคซีนดังกล่าว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการวิจัยพัฒนาหรือเหตุอื่น ๆวงเงิน 2,379,430,600 บาท

.

สำหรับการลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้าและสัญญาการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว ‘จะทำใหัคนไทยมีโอกาสเข้าถึงวัคซีนมากกว่าประเทศอื่น’

.

และคาดว่าจะได้รับวัคซีน ‘กลางปี 2564’ โดยความร่วมมือดังกล่าว ยังหมายรวมถึงการผลิตวัคซีนในประเทศไทย ที่จะใช้โรงงานของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นแหล่งการผลิต ซึ่งไทยจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นโอกาสในการสร้างขีดความสามารถของประเทศ ลดความสูญเสีย สร้างโอกาสทางด้านเศรษฐกิจได้อีกมหาศาล

.

ด้าน ไตรศุลี ตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งข่าวดีเกี่ยวกับการวิจัยวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทแอสตร้าเซเนก้า โดยผลการวิจัยวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีประสิทธิผลเกินข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่กำหนดมาตรฐานการรับรองวัคซีนป้องกันโควิด 19 ต้องมีประสิทธิผลไม่ต่ำกว่า 50% ซึ่งการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 แบบ

.

- แบบแรก พบว่าประสิทธิผลในการป้องกันโรคโควิด 19 สูงถึง 90%

- ส่วนแบบที่สอง พบว่ามีประสิทธิผลในการป้องกันโรคโควิด 19 ที่ 62%

.

ส่งผลให้ค่าเฉลี่ยประสิทธิผลโดยรวมของทั้ง 2 แบบ อยู่ที่ 70.4% แสดงให้เห็นว่าตัววัคซีนนั้นมีความปลอดภัยสูง

กลัวโดนแกง!! จนท. เอาชัวร์ จัด3 จีโน่ พร้อมตรึงกำลังรอบสำนักงานทรัพย์สินฯ 

ถึงแม้ว่าม็อบ 25 พ.ย. จะย้ายพิกัดกะทันหัน จากหน้าสถาบันทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตามกำหนดเดิม แล้วเปลี่ยนไปที่ SCB สำนักงานใหญ่แทน
.
แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ดูจะยังไม่วางใจเท่าไรนัก โดยช่วงเช้ามานี้ได้มีการวางกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนไว้หลายกองร้อย 
.
อีกทั้งยังได้ส่งรถฉีดน้ำ ‘จีโน่’ ไปประจำในพื้นที่รอบสถาบันทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 3 คัน พร้อมวางตู้คอนเทรนเนอร์ปิดถนนโซนราชดำเนินตรงสะพานมัฆวานซ้อนกัน 2 ชั้น รวมถึงที่สะพานขาวด้วย 
.
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังมีการปิดการจราจรแยกอุรุพงษ์ เส้นทางมุ่งหน้าสนามม้านางเลิ้ง ถนนหลานหลวง-ถนนพิษณุโลก-ทำเนียบ โดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนและจราจร สน.นางเลิ้งอำนวยการจราจรบริเวณดังกล่าว 
.
พร้อมนำตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ และรั้วสังกาสี - ลวดหนามปิดการจราจรก่อนถึงทางลงทางด่วนอุรุพงษ์ 
.
จะเกิดเหตุแกงไปแกงมาหรือไม่ แต่นาทีนี้เจ้าหน้าที่คงหวังเพลย์เซฟไว้ก่อน เอาชัวร์!!

ออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยต้านโควิด-19

โควิด-19 ยังรุกรานคนทั้งโลกอย่างหนักหน่วง แม้จะเริ่มมีข่าวการคิดค้นวัคซีน หรือเริ่มทำการทดลองใช้กันบ้างแล้ว แต่สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในตอนนี้สำหรับตัวเราก็คือ ต้องดูแลตัวเองให้ดี

 

ล่าสุดที่เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล มีผลการศึกษาเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ที่น่าสนใจ โดยเป็นการศึกษาจากมูลนิธิสนับสนุนการวิจัยแห่งรัฐเซาเปาโล ระบุว่า อัตราของคนที่ป่วยโควิด-19 ในกลุ่มของคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่ากลุ่มอื่นๆ กว่าร้อยละ 34

 

การศึกษาชิ้นนี้อ้างอิงจากแบบสำรวจของผู้คนกว่า 938 คน ซึ่งผู้ที่ออกกำลังกายระดับปานกลางอย่างน้อย 15 นาทีขึ้นไป หรือออกกำลังกายหนักหน่วงอย่างน้อย 75 นาทีต่อสัปดาห์ จะเป็นกลุ่มที่พบการป่วยด้วยโควิด-19 ต่ำที่สุด ในทางกลับกัน ผลสำรวจยังพบว่า ผู้ที่มีอัตราการรักษาตัวด้วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลสูงที่สุด คือกลุ่มผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวเกิน หรือเป็นโรคอ้วนนั่นเอง

 

ถึงจะเป็นผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่ไม่ใช่ขนาดใหญ่นัก แต่หากข้ามจากผลศึกษานี้ไป การดูแลรักษาให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ ย่อมเป็นการป้องกันตัวที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้น หยิบรองเท้ากีฬาแล้วไปออกกำลังกายกันเถอะพวกเรา!!

 

อ้างอิง: https://www.xinhuathai.com/high/155671_20201124

S&P การันตี...ไทยเข้มแข็ง!! หลังศก.ไทยแรงบวกหนุนเพียบ

S&P Global Ratings สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)
.
โดยนางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า บริษัท S&P Global Ratings (S&P) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) โดยมีรายละเอียดดังนี้
.
1. คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) เนื่องจากประเทศไทยมีความเข้มแข็งภาคการคลังและภาคการเงินต่างประเทศอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ หนี้รัฐบาลอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล และสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า
.
2. ภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) มีความแข็งแกร่งเป็นผลจากการบริหารจัดการทางการคลังอย่างรอบคอบและเป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 เพื่อรักษาวินัยทางการคลัง แม้ว่าการดำเนินนโยบายการคลังผ่านมาตรการต่างๆ ของภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะทำให้การขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563-2564 และหนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น แต่ยังคงไม่ส่งผลกระทบต่อสถานภาพทางการคลัง
.
3. S&P เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวและเติบโตในระยะปานกลางได้ โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นร้อยละ 6.2 เป็นผลจากภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากสามารถควบคุมการระบาดของ COVID-19 ได้ อีกทั้งรัฐบาลยังสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่องให้เป็นไปตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) และโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง และยังส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน (Public Private Partnership) เพื่อลดความเสี่ยงทางการคลังของรัฐบาลให้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังของภาครัฐ
.
4. ภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง สภาพคล่องและทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง โดย S&P คาดว่าสภาพคล่องต่างประเทศ (External liquidity) ของประเทศไทยยังอยู่ในระดับคงที่และไม่น่ากังวล นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายทางการเงินและการรักษาเสถียรภาพด้านราคา เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
.
ประเด็นที่ S&P ให้ความสนใจและจะติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่องและเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งอาจมีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะปานกลาง

รับ 'เป็ด' แบบไหนดีครับ?

เป็ดฟีเวอร์!!!

กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญในม็อบไปเรียบร้อย หลังจากเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา ผู้ร่วมชุมนุมได้ถือ ‘เป็ด’ ไปรัฐสภา หมายใจว่าจะพา ‘เป็ด’ ไปลงแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ไปๆ มาๆ ‘เป็ด’ กลายเป็นเครื่องป้องกันการฉีดน้ำสลายม็อบ หลังจากนั้น ‘เป็ด’ ก็กลายเป็นมาสคอตสำคัญ ผู้ชุมนุมหอบหิ้ว ‘เป็ด’ ไปร่วมชุมนุมด้วยทุกที่ เมื่อ ‘เป็ด’ แรงเวอร์ได้ใจขนาดนี้ งั้นรับ ‘เป็ด’ ไปไว้ที่บ้านสักตัวไหมครับ?

สายโสด...สนไหม!! ททท. ปิ๊งไอเดียชวนคนโสดเที่ยว ‘สลัดคาน’

สายโสด...สนไหม!!

ททท. ปิ๊งไอเดียชวนคนโสดเที่ยว ‘สลัดคาน’

.

โอกาสทองของคนที่ Need เที่ยวไปด้วย แถมอาจฟลุ้กได้ ‘สลัดคาน’ ไปในตัวมาถึงแล้ว หลังนโยบายใหม่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 64 ได้ออกมาวางทริปเส้นทางท่องเที่ยว หรือแห่งท่องเที่ยวใหม่เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวแบบเฉพาะกลุ่ม

.

หนึ่งในแนวคิดของ ททท. เป็นการคลิกไอเดีย ‘เส้นทางท่องเที่ยวสละโสด’ ทั้งในเส้นทางเที่ยวบนเครื่องบิน หรือเส้นทางล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อไปทำกิจกรรม เช่น ไหว้พระและทำบุญ

.

โดยเป้าหมายของแนวคิดนี้ เป็นการสร้างสัมพันธ์ใหม่ให้คนโสดได้เจอ ‘เนื้อคู่’ (รอลุ้นว่าจะออกมาหน้าตายังไง) เพื่อต้อนรับเดือนแห่งความรัก (ก.พ.)

.

อย่างในส่วนเส้นทางเรือนั้น เบื้องต้นได้หารือกับทางผู้ประกอบการเรือแล้ว และน่าจะนำร่องในเส้นทางนี้ได้ก่อนในช่วงต้นปีหน้า

.

ส่วนทางอากาศ ได้มีการดึง ‘การบินไทย’ เข้ามาช่วยทริปการไหว้ขอคู่ ซึ่งจะเป็นการไหว้บนเครื่องบินทั่วประเทศไทย ในทริปชื่อ ‘บินทั่วไทยได้มงคลทั่วทิศ’ ระยะที่ 2 (เคยทำมาแล้ว)

.

แต่ครั้งนี้อาจมีเพิ่มเติมนอกจากบินวนบนฟ้า เช่น การบินลงไปไหว้พระในวัดป่า หรือวัดสำคัญๆ ที่คนต้องการลงไปไหว้ขอพร โดยใช้เครื่องบินของการบินไทย แอร์บัสเอ 380

.

...อย่างไรเสียต้องขอย้ำว่าทริปนี้เป็นการ ‘เปิดให้คนโสด’ เท่านั้นที่จะขึ้นไปเที่ยวในเส้นทางที่จะแจ้งในอนาคต

.

นอกจากนี้โปรเจ็กต์พาเที่ยวของททท. ในปีหน้า (64) น่าจะยังมีอีกเพียบ ทั้งทริปเพื่อกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความชื่นชอบทางด้านอาหารทุกประเภท กลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานด้านดิจิทัล หรือ ดิจิทัล นอแมด กลุ่มเส้นทางศรัทธาทัวร์ กลุ่มที่ต้องการไปสถานที่เพิ่มพลังฟื้นฟูสุขภาพ หรือสมดุลในร่างกาย และกลุ่มการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์

.

เรียกว่าแต่ละกลุ่มนั้นจะมีเส้นทางการท่องเที่ยวของตัวเอง ซึ่งถือเป็นสินค้าการท่องเที่ยวหนึ่งที่จะออกมาในปี 64 หวังดึงนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ กลุ่มชาวต่างชาติที่พำนักในไทย หรือ เอ็กซ์แพท และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเปิดให้เดินทางเข้ามาในปีหน้าไปในตัว

.

แต่เอาใกล้ๆ ตอนนี้ใครอยากเที่ยวและอยากสมหวังในความรักในเวลาเดียวกัน รอตามข่าวจากทางททท. ได้เป็นระยะๆ โลด...

.

ที่มารูป: https://www.lamarieeauxpiedsnus.com/en/real-weddings-en/un-mariage-aux-forges-de-paimpont-en-bretagne/

 

ชงเข้ม ‘คนละครึ่งเฟสใหม่’ ได้ครบ ‘ทู้กกกกคน’

ยังไง...ยังไง...จะเอามั้ยยย (เสียงลุง)

ชงเข้ม ‘คนละครึ่งเฟสใหม่’ ได้ครบ ‘ทู้กกกกคน’

.

เสียงลุงแถวทำเนียบแอบกระซิบข่าวโครงการคนละครึ่งระลอกใหม่ ใครอยากได้ เตรียมตัวไว้ให้ว่อง

.

ล่าสุด กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เผยว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาโครงการคนละครึ่ง รวมทั้งการเติมเงินช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามข้อสั่งการของ ‘ลุงตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

.

เรื่องนี้คาดว่าจะต้องสรุปให้เสร็จในต้นเดือนธ.ค.นี้ ก่อนเสนอให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (ศบศ.) และครม.เห็นชอบ ตามขั้นตอนแต่ต้องด่วน

.

โดยเฉพาะไฮไลท์เด็ดอย่าง ‘โครงการคนละครึ่ง’ ที่กระทรวงการคลังพยายามจะเปิดโอกาสให้ ‘ทุกคน’ ที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ทั้งหมด

.

สำหรับการพิจารณาแนวทางเบื้องต้นโครงการคนละครึ่งระลอกใหม่นั้น อาจเปิดโอกาสให้ผู้ที่ได้รับสิทธิในรอบแรกที่กำลังใช้สิทธิอยู่ สามารถเตรียมได้สิทธิ์อีกในรอบถัดไปโดยอัตโนมัติ

.

หรือๆๆ อาจมีการเพิ่มเติมวงเงินลงไปอีก และขยายเวลาใช้จ่ายไปถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนต้นปีหน้าด้วย

.

นอกจากนี้ยังรวมถึงการเปิดให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับสิทธิระยะแรกมาลงทะเบียนได้อีก ส่วนจำนวนคนนั้น ยังต้องไปหารือกันก่อนว่าจะให้จำนวนเท่าใด เช่นเดียวกับวงเงินด้วย...

มาตรการเข้มจัดการฝุ่น PM 2.5

ช่วงเดือนสองเดือนนี้ วาระสำคัญที่อย่าเพิกเฉย หรือห้ามละเลย คือ ‘วาระแห่งฝุ่น’ เนื่องจากฝุ่น ไม่ได้หายไปไหน ฝุ่นยังอยู่กับเรา แม้ว่าเราจะไม่อยากอยู่กับฝุ่นก็ตามทีเถอะ  

 

ปลายสัปดาห์ก่อน กรุงเทพมหานครได้ประกาศมาตรการเข้มๆ ที่มีทั้งการป้องกัน และตัดตอน ปัญหาการเกิดฝุ่น PM 2.5 ในรอบเขตเมืองหลวง และปริมณฑล มาตรการไหนน่าสนใจบ้าง สรุปออกมาได้ดังนี้

คนเขาดูออก แบบนี้ต้องใช้กฎหมาย

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมว่า ทุกคนทราบเจตนาของแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะถ้าจุดหมายคือประชาธิปไตยผู้ชุมนุมต้องมีความจริงใจในการทำอย่างไรให้มุ่งสู่ความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น

 

ซึ่งขณะนี้ทางด้านรัฐสภาเองก็ได้พิจารณาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทางผู้ชุมนุมก็ควรแสดงความเห็นตั้ง สสร. เพื่อจะได้ดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น แต่ดูเหมือนผู้ชุมนุมไม่ได้สนใจในประเด็นสำคัญนี้ กลับมุ่งใช้ถ้อยคำหยาบคาย ก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบัน ซึ่งประชาชนมองออกว่าเป็นจุดมุ่งหมายหลักของแกนนำผู้ชุมนุม

นายราเมศ ยังกล่าวต่อว่า “นี่คือสิ่งที่ทุกคนรับไม่ได้  นับวันยิ่งเหิมเกริม ทำสิ่งที่ไม่สมควร คนไทยไม่สามารถรับได้ การที่นายกรัฐมนตรีได้มีหลักในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด คือหลักการที่ถูกต้อง ต้องสนับสนุน เพราะการกระทำความผิดชัดเจน เข้าองค์ประกอบกฎหมาย ไม่มีทางอื่นใดเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด ผู้ชุมนุมควรยุติการกระทำต่างๆ ใช้สติปัญญาในการคิด อย่าคิดว่าประเทศนี้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง หรือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ประเทศเป็นของคนไทยทุกคน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คือสิ่งที่คนไทยยึดมั่นตลอดระยะเวลาที่ผ่าน หากมีใครคิดมาทำลาย เชื่อว่าคนไทยไม่มีใครยอม ความคิดและการกระทำของผู้ชุมนุมที่แสดงออกมา เคยบอกไปแล้วว่าเราอยู่คนละข้างกัน เจ้าหน้าที่จึงต้องมีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นความวุ่นวายก็จะตามมา”

 

มีกันยัง? แอปแปลภาษาเหมียว

เมี้ยว!! มีของเล่นมาให้บรรดาทาสแมวได้สนุกกันอีกแล้ว เมื่อล่าสุด มีการเปิดตัวแอปชื่อ ‘MeowTalk’ เป็นแอปที่เอาไว้แปลเสียงร้องของเจ้าเหมียวของเราว่า มันกำลังหมายความว่าอย่างไร

แอปฯ ตัวนี้มีระบบประมวลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งเบื้องต้นระบบได้ทำการประเมินค่าเสียงของเจ้าเหมียวเพื่อแปลออกมาเป็นความหมายอยู่ที่ 13 ความหมาย เช่น ให้อาหารฉัน, ฉันโกรธ หรือออกไปให้พ้น แต่เจ้าของแมวสามารถบันทึกเสียงร้องของเจ้าเหมียวได้เพิ่มเติม เพื่อให้ AI ได้ทำการบันทึกและเรียนรู้เสียงแมวของคุณ จนรู้ได้ว่าเสียงร้องในแบบเฉพาะของมันนั้น หมายความว่าอย่างไร

เคยมีการวิจัยกันว่า แมวมีวิธีสื่อความหมายที่เฉพาะตัว และที่สำคัญ พวกมันมีวิธีสื่อสารกับทาส เอ้ย! มนุษย์ได้จริง ๆ เพียงแต่เราต้องแยกแยะเสียงและพฤติกรรมขอบมันสักหน่อย

แต่เบื้องต้น แอปฯ ดังกล่าวนี้ยังอยู่ในช่วงพัฒนา จึงมีฟีดแบ็คจากผู้ที่โหลดไปใช้ต่างๆ นานากันไป บางคนบอกว่า ดูเหมือนแมวฉันกำลังโวยวาย แต่เจ้าแอปฯ กลับประเมินด้วยคำว่า I’m in love ซะอย่างนั้น แต่ก็มีประเภทที่บอกว่า ถ้าเราไม่ซีเรียสจนเกินไป แอปฯ นี้ก็มาช่วยสร้างสีสันให้กับคนและแมวได้เป็นอย่างดี

เรียกว่าเป็นแอปฯ สันทนาการระหว่างคนกับแมวก็แล้วกัน สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ แอนดรอยด์ แต่โหลดมาแล้วก็อย่าลืมไปเทอาหารให้มันด้วยล่ะ ไม่งั้นพี่เขาอาจจะเดินมาเตะชามอาหารเอาได้ ให้มันรู้ซะมั่งนะเจ้าทาส!! เมี้ยว!!

.

อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/technology-54991693?fbclid=IwAR2xQVR-ccycVN6pFV8uYhAmyLW_dmoowY1Ku4xWVxmfBUTBN_-KNKWheAs


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top