Wednesday, 14 May 2025
NEWS

พท.ปูด พณ.ปล่อยสมาคมผู้ส่งออกข้าวเก็บค่าบริหารจัดการ 150 บาทต่อตัน ส่วนต่างถึง 255 ล.ส่อทุจริตหรือไม่ ใครได้ประโยชน์ บี้ พณ.แจง

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย มีหนังสือด่วนมากแจ้งผลการจัดสรรปริมาณข้าว เพื่อส่งมอบให้รัฐวิสาหกิจจีน (COFCO) ลงวันที่ 18 พ.ค.64 โดยเนื้อหาระบุเรียกเก็บค่าการบริหารจัดการจากสมาชิกในอัตราตันละ 150 บาท และต้องจ่ายค่าดำเนินการดังกล่าวภายในวันที่ 25 พ.ค.นี้ว่า กรมการค้าต่างประเทศ ผู้รับผิดชอบการค้าข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และเป็นผู้จัดโอนโควต้าข้าวให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เหตุใดจึงปล่อยให้สมาคมฯ เรียกเก็บค่าดำเนินการดังกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกต 4 ข้อดังนี้

1.) กรมการค้าต่างประเทศ ใช้วิธีการมอบโอนข้าวปริมาณ 20,000 ตันให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยดำเนินการจัดหา เพื่อส่งออกขายให้รัฐในต่างประเทศแต่เพียงผู้เดียว และสมาคมฯ จำกัดเพียงสมาชิกเท่านั้นที่จะมีสิทธิจัดส่งข้าวตามปริมาณที่สมาคมฯ จัดสรรให้ใช่หรือไม่

2.) จดหมายมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยระบุเนื้อหาการส่งมอบข้าวที่กำลังจะเกิดขึ้นช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค.นี้ COFCO สั่งซื้อข้าวขาว 5% จัดส่งแบบ FOB (ราคาส่งที่ท่าเรือ) ที่ราคาตันละ 520 เหรียญสหรัฐ แต่ข้อมูลที่ทราบมาข้าวชนิดเดียวกันนี้ ราคาตลาดอยู่ที่ตันละ 480 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ดังนั้นส่วนต่างตันละ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันต่อปริมาณข้าว 20,000 ตัน จะเกิดส่วนต่างสูงถึง 8 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือ 25 ล้านบาท  จึงอยากให้กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงข้อมูลดังกล่าวว่าเป็นจริงหรือไม่ 

3.) การโอนข้าวแบบรัฐต่อรัฐ จำนวน 20,000 ตัน ซึ่งถือเป็นสิทธิและเป็นผลประโยชน์ของประเทศไทยให้แก่สมาคมผู้ส่งออกข้าวโดยไม่มีการประมูล เป็นการทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พ.ศ.2560 หรือไม่

4.) การดำเนินการของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย มีการเรียกเก็บเงินเพื่อการบริหารจัดการตันละ 150 บาทนั้น เงินจำนวนนี้ได้ถูกนำไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ตามจุดประสงค์ของการค้าข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือไม่ อย่างไร นำไปใช้อะไร เพราะมีผลต่อการผลิตข้าวของชาวนา 
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2558-ปัจจุบัน มีการซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐระหว่าง COFCO กับกรมการค้าต่างประเทศรวม 1.7 ล้านตัน หากมีการคิดส่วนต่างจากราคาส่งออกตามโควต้านี้จริง คงจะประเมินมูลค่าไม่ได้ และหากมีการเก็บค่าดำเนินการ 150 บาทต่อตันจริง อาจคิดเป็นมูลค่าเงินกว่า 255 ล้านบาท เงินเหล่านี้ใครได้ประโยชน์และใครเสียประโยชน์ ทั้งนี้ พรรค พท.จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด


 

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความ คลายข้อสงสัยและการเตรียมตัวก่อนไปฉีดวัคซีนโควิด ว่า โควิด-19 วัคซีน ข้อห้ามหรือใครไม่ควรรับวัคซีน และการเตรียมตัว

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความ คลายข้อสงสัยและการเตรียมตัวก่อนไปฉีดวัคซีนโควิด ว่า โควิด-19 วัคซีน ข้อห้ามหรือใครไม่ควรรับวัคซีน และการเตรียมตัว

มีคำถามเข้ามามากจริง ๆ จะรับวัคซีนได้ไหม ขอชี้แจงเลยว่าข้อห้ามสำหรับผู้ที่ไม่ควรรับวัคซีน

1.) ผู้ที่รับวัคซีนแล้วเกิดแพ้วัคซีนอย่างรุนแรง ถึงขั้นช็อก (Anaphylaxis) วัคซีนนี้เป็นวัคซีนใหม่ถ้าให้เข็มแรกก็คงไม่มีใครรู้ ทุกคนจึงไม่อยู่ในข้อนี้ แต่ถ้าให้เข็มแรกแล้วแพ้รุนแรง เข็ม 2 ให้ไม่ได้แน่นอน ต้องเปลี่ยนชนิดวัคซีน ผู้ที่รู้ว่าแพ้ส่วนประกอบในวัคซีน ก็ไม่สมควรให้ ในทางปฏิบัติก็คงเป็นการยากพอสมควรที่แพ้ส่วนผสมในวัคซีน วัคซีนทั้งหลายขณะนี้ไม่มียาปฏิชีวนะ ไม่มีส่วนผสมของไข่ ดังนั้นผู้ที่แพ้ยา อาหาร หรือภูมิแพ้ต่าง ๆ ไม่ได้เป็นข้อห้ามแต่อย่างใด แต่ผู้ที่เคยแพ้อย่างรุนแรง หลังฉีดก็เฝ้าดูอาการอาจจะนานกว่าคนธรรมดาสักหน่อยก็ได้

2.) ผู้ที่เจ็บป่วย มีไข้ หรือเป็นโรคปัจจุบันที่ต้องการการรักษา ผู้ป่วยวิกฤต ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะสุดท้ายของโรค และผู้ป่วยที่รักษา โดยเฉพาะนอนในโรงพยาบาล ก็ให้เลื่อนไปก่อน จนกว่าทุกอย่างอยู่ในสภาพคงที่แล้ว และกลับบ้านแล้ว

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราจะเห็นว่าจะมีข้อห้ามเด็ดขาดน้อยมาก

ดังนั้นผู้ที่มีโรคประจำตัว และดูแลรักษาอยู่มีภาวะคงที่ ถึงจะกินยาประจำ ก็สามารถให้วัคซีนได้ เช่นเดียวกับการให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ถ้าทุกปีเราสามารถให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ ก็ไม่ได้มีข้อห้าม

เบาหวาน ความดัน ก็สามารถฉีดวัคซีนได้ ถ้ารักษาและดูแลอยู่ตลอดอยู่แล้ว ยกเว้นเสียแต่ความดันที่ไม่สามารถควบคุมได้ หรือเบาหวานที่ยังควบคุมไม่ได้มีน้ำตาลสูงมาก ขนาดมีอาการที่ต้องรักษาในโรงพยาบาลก็ให้เลื่อนไปก่อน

โรคประจำตัว โรคพันธุกรรมต่าง ๆ เช่น ธาลัสซีเมีย ก็ไม่ได้เป็นข้อห้าม

ยาที่รับประทานประจำ ก็ให้คงรับประทานยานั้นเหมือนปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องงดยาก่อนฉีดวัคซีน

การกินยากดภูมิต้านทาน ก็ไม่ได้เป็นข้อห้าม แต่ให้รู้ว่าถ้าฉีดวัคซีนภูมิต้านทานจะขึ้นได้ไม่ดี ถ้าจะหยุดยาก่อนควรปรึกษาแพทย์เพราะในบางครั้งถ้าหยุดยาแล้วโรคกำเริบก็ไม่ควรหยุด ฉีดไปดีกว่าไม่ฉีดถึงแม้ภูมิจะต่ำ ก็สามารถไปฉีดเพิ่มทีหลังได้ วัคซีนที่ฉีดทุกตัวเป็นเชื้อตายหรือแบ่งตัวไม่ได้อยู่แล้ว

ผู้ป่วย HIV ก็สามารถฉีดได้ ยกเว้นเสียแต่ว่ากำลังมีอาการ หรือ cd4 น้อยกว่า 200 ก็ควรจะรักษาเสียก่อน ให้ทุกอย่างดีขึ้นแล้วรีบฉีดวัคซีน

ผู้ที่กินยาละลายลิ่มเลือด ก็ให้กินต่อไป แต่หลังฉีดวัคซีน จะต้องกดรอยฉีดให้นาน 5-10 นาทีเพื่อป้องกันเลือดออกง่าย

ใครทานกาแฟอยู่เป็นประจำทุกวัน ก็ทานไป ถ้าใครทานนาน ๆ ครั้ง ก็ไม่ควรทานกาแฟวันที่ฉีดวัคซีน หรือใครไม่ทานก็ไม่ควรทานวันฉีดวัคซีน เพราะจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว และบีบเส้นเลือด ความดันจะขึ้นสูง

คนที่ทานประจำ ร่างกายปรับตัวได้อยู่แล้ว ถ้าหยุดทานกาแฟ จะรู้สึกหงุดหงิด และปวดหัวเอาได้ง่าย ๆ ไม่ได้มีข้อบ่งชี้ว่า ผู้ที่ทานกาแฟเป็นประจำทุกวันต้องหยุดกาแฟ

ผู้ที่ทานยาบีบเส้นเลือด เช่น ยารักษาปวดหัวไมเกรน ถ้าหยุดได้ก็ควรจะต้องหยุด ถ้าปวดหัววันนั้นและหยุดไม่ได้ ก็เลื่อนวันฉีดออกไป

วันฉีดวัคซีนไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ รับประทานอาหารให้เต็มที่แบบปกติ แต่ก็ไม่ต้องถึงกับกินน้ำหลาย ๆ ลิตรอย่างที่มีการพูดกัน ให้มั่นใจว่าร่างกายเราไม่ได้ขาดน้ำ ถ้าอย่างที่ส่งต่อกันให้กินวันละ 5-6 ลิตร ไม่แน่ใจว่าสถานที่ฉีด จะมีห้องน้ำให้เข้าเพียงพอหรือเปล่า ดูก็แล้วกันว่าถ้าสถานที่ไม่มีที่ปรับอากาศอากาศร้อนก็ทานน้ำให้มาก ถ้าอยู่ในห้องแอร์ที่เย็น ก็อย่าให้ขาดน้ำก็แล้วกันคงไม่ต้องถึงกับกินมากอย่างที่บอกในสื่อต่าง ๆ

การเตรียมตัวฉีดวัคซีน ก็เหมือนอย่างที่เราไปฉีดวัคซีนกันทุกปีป้องกันไข้หวัดใหญ่ พักผ่อนให้พอ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ผ่อนคลาย เพราะสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ หลายคนเดินเข้ามาก็เกิดความกลัว วัดความดันก็พุ่งสูงกันหมด และหลังฉีดก็มีการเป็นลมได้ เหมือนกับที่เราพบบ่อยกับการเจาะเลือด แล้วหลายคนเป็นลม การเป็นลมดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการแพ้ยาฉีดแต่อย่างใด หน้าซีดจนหลายคนกลัว ที่จริงแล้วเป็นเรื่องที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ไม่มีอันตรายอย่างใดเลย ชีวิตทุกคนต้องเดินหน้า การฉีดวัคซีนก็ให้คิดว่าเหมือนอยู่ในภาวะปกติ ที่เราให้วัคซีนกันในชีวิตประจำวัน แล้วทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี

 

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=5728597580516145&id=100000978797641


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

เกิดเหตุภูเขาไฟ Nyiragongo ระเบิด ที่เมืองโกมา ในสาธารณรัฐคองโก ซึ่งเป็นเมืองที่มีพลเมืองหนาแน่นถึง 2 ล้านคน ทางการคองโกสั่งอพยพชาวเมืองหลายพันออกนอกพื้นที่อย่างเร่งด่วน

เกิดเหตุภูเขาไฟ Nyiragongo ระเบิด ที่เมืองโกมา ในสาธารณรัฐคองโก ซึ่งเป็นเมืองที่มีพลเมืองหนาแน่นถึง 2 ล้านคน การปะทุเริ่มขึ้นตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2021 ทางการคองโกสั่งอพยพชาวเมืองหลายพันออกนอกพื้นที่อย่างเร่งด่วน

ความรุนแรงของการระเบิดทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นลูกไฟสีแดงฉานไปทั้งเมือง พร้อมลาวาไหลบ่าท่วมเมือง สร้างความเสียหายในบริเวณกว้าง ทั้งบ้านเรือง ถนนหนทางไปจนถึงสนามบินเมืองโกตา ชาวบ้านในพื้นที่ต้องรีบหนีขึ้นพื้นที่สูง บางส่วนหนีข้ามพรมแดนไปรวันดาที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน

ภูเขาไฟ Nyiragongo ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่อันตรายที่สุดในโลก อันเนื่องจากปริมาณลาวามหาศาลที่เก็บอยู่ในปล่องภูเขาไฟ ที่มีความกว้างถึง 2 กิโลเมตร นับเป็นทะเลสาบลาวาที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงทำให้มวลลาวาเคลื่อนตัวเร็วมากเมื่อมีการปะทุรุนแรง

ก่อนหน้านี้ ภูเขาไฟดังกล่าวเคยระเบิดครั้งใหญ่มาแล้วในปี 1977 ที่มีบันทึกผู้เสียชีวิตมากถึง 600 คน การประทุครั้งล่าสุดเกิดในปี 2002 ที่มีผู้เสียชีวิต 245 คน และชาวเมืองมากถึง 1 แสนคนกลายเป็นคนไร้บ้าน

แม้จะเคยเกิดเหตุระเบิดมาแล้ว แต่ชาวเมืองโกมา ที่อยู่ใกล้กับเขตภูเขาไฟ Nyiragongo ก็ยังหวาดกลัว เพราะการระเบิดครั้งนี้ ระดับความรุนแรงใกล้เคียงกับเมื่อปี 2002 และไม่มีแผ่นดินไหวเตือนล่วงหน้า การประสานงานกับเจ้าหน้าที่ก็ล่าช้า สร้างความสับสนอลหม่านไปทั่วเมือง แต่หลังจากเหตุระเบิดเริ่มสงบลงแล้ว ก็มีชาวเมืองบางส่วนเดินทางกลับเข้ามาในเมือง แม้จะมีกลิ่นสารซัลเฟอร์อบอวลอยู่ทั่วไปก็ตาม

 

อ้างอิง : https://www.bbc.com/news/world-africa-57215690

https://www.theguardian.com/world/2021/may/22/nyiragongo-volcano-erupts-in-eastern-congo

https://twitter.com/MONUSCO/status/1396217834850689029?s=19


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ทร. สั่ง ขัง 6 พลทหาร 30 วัน พร้อม ธำรงวินัยผู้บังคับบัญชา 2 นาย หลังก่อเหตุวิวาทในปั๊มน้ำมันย่านบางนา

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 พล.ร.อ.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณี มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ กำลังพลสังกัดกองทัพเรือ ก่อเหตุวิวาทกับ คู่กรณีบริเวณสถานีบริการน้ำมันย่านบางนาว่า จากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า ผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็น ทหารกองประจำการในสังกัดกองการกีฬากรมสวัสดิการทหารเรือ ซึ่งออกนอกกรมกอง โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อไปเติมน้ำมันรถที่สถานีบริการน้ำมันบางจากหน้าสนามกีฬาภูติอนันต์ แล้วเกิดทะเลาะวิวาทกับพนักงานบริการน้ำมัน ประกอบด้วย พลทหาร ศตวรรษ แป้นประโคน, พลทหาร ชยพล บุญนำ, พลทหาร ประภัทร ศรีบุรินทร์, พลทหาร สกุลวัฒน์ อ่างทอง, พลทหาร ธีรวัฒ ทิมทอง และ พลทหาร ศุภกรณ์ ป้องสีดา

ทางผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ของทหารกองประจำการทั้ง 6 นาย ได้สั่งลงทัณฑ์ทางวินัย ตามพระราชบัญญัติวินัยทหาร โดยให้ขังผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเวลา 30 วัน แยกเป็น ข้อหา ออกนอกกรมกองโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษขัง15 วัน  และ ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ก่อเหตุทะเลาะวิวาทโทษขัง 15 วัน พร้อมทั้งให้ธำรงวินัยผู้บังคับบัญชา 2 ระดับชั้นของพลทหารที่ก่อเหตุ โดยเข้ารับการฝึก ณ ศูนย์ธำรงวินัยกองทัพเรือ จนกว่าผลการสอบสวนจะแล้วเสร็จ

“กองทัพเรือขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอยืนยันว่าหากปรากฏว่าผลการสอบสวนเป็นการกระทำผิดจริง กองทัพเรือจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิดโดยเด็ดขาด และจะดำเนินการทั้งทางวินัยและทางกฏหมายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดีอาญาได้ตามกฏหมาย” โฆษกกองทัพเรือ กล่าว

โลกการเงินมุ่งหน้าสู่กระแสยุคดิจิทัลไม่หยุดยั้ง มาคราวนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED เตรียมรวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับหัวกะทิ ถกจริงจังเรื่องการสร้างเงินดิจิทัล 'ดอลลาร์' ออกสู่ตลาดในสหรัฐฯ ในปีนี้

แผนการสร้างเงินดิจิทัล ดอลลาร์ ได้เริ่มมีการศึกษาข้อมูลโดยทีมงานของ FED มานานหลายปี และในที่สุดก็เริ่มเป็นโครงการจริงจังเสียที โดย FED ได้ให้ทีมวิจัยชั้นนำจากสถาบัน Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT มาวิเคราะห์ข้อมูลในการสร้างเงินดิจิทัล ดอลลาร์ในสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปี 2020

นาย เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่าตอนนี้ทาง FED ก็ได้รับข้อมูลพร้อมเรียบร้อยแล้ว เตรียมเปิดประชุมหารือกันอีกครั้งภายในกลางปีนี้ ที่หลายฝ่ายต่างคาดหมายว่า ดิจิทัล ดอลลาร์ มาแน่!! ไม่นานเกินรอ

แต่ทั้งนี้ ทาง FED ย้ำว่า ดิจิทัล ดอลลาร์ ไม่ใช่เงิน Crypto อย่าง Bitcoin หรือ Dogecoin ที่เป็นการซื้อขายนอกระบบธนาคารใน Blockchain ซึ่งไม่อิงกับค่าเงินสกุลใด ๆ ในโลก แต่ดิจิทัล ดอลลาร์ ยังคงอยู่ในระบบเดียวกับเงินดอลลาร์ที่ใช้กันอยู่ในสหรัฐฯ และยังอยู่ภายใต้การดูแลของ FED

ทว่าเงินดิจิทัล ดอลลาร์ จะทลายข้อจำกัดหลายอย่างของธนบัตรดอลลาร์ ที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้การใช้เงินแพร่สะพัดได้รวดเร็วกว่าเดิมมาก และเข้าถึงผู้ใช้ทุกกลุ่ม แม้แต่กลุ่มคนชั้นรากหญ้าที่ไม่สามารถเข้าแหล่งทุนในระบบธนาคารได้ แถมยังเป็นการแก้ปัญหา Pain Point ใหญ่ในระบบเงินดิจิทัล คือมีค่าเงินที่เสถียรกว่าเงิน Crypto Currency นั่นเอง

สำหรับสิ่งที่ FED คาดหวังอย่างมาก กับการสร้างเงินดิจิทัล คอลลาร์ ในระบบการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของระบบการเงินของโลก คือการสกัดอิทธิพลจากเงิน ดิจิทัล หยวน ที่รัฐบาลจีนได้เริ่มทดลองปล่อยออกมาใช้แล้วตั้งแต่ปี 2020 ใน 4 เมืองนำร่อง อย่าง เสิ่นเจิ้น ซูโจว เฉิงตู และ สงอัน และในปีนี้จีนได้ปล่อยให้ใช้ในระบบเพิ่มอีก 6 เมืองสำคัญของจีน ที่ เซี่ยงไฮ้ ไห่หนาน ฉางซา ต้าเหลียน ซีอาน และ ชิงเต่า

และเมื่อใดก็ตามที่จีนสามารถปล่อยให้มีการใช้เงินดิจิทัล หยวน ได้อย่างเต็มรูปแบบ ก็จะเพิ่มศักยภาพให้กับเงินหยวนจีน ในการเป็นสื่อกลางการค้าระหว่างประเทศ และย่อมมีผลต่อการถือครองเงินดอลลาร์ในตลาดโลกที่ลดลงได้ ที่น่าจะเป็นเหตุผลหลักในการผลักดันให้ FED เร่งแผนการใช้ดิจิทัล ดอลลาร์ ให้ได้ในเร็ววันนี้

และนอกจาก ดิจิทัล หยวน และ ดิจิทัล ดอลลาร์ ที่กำลังจะออกมาฟาดฟันกันในระบบการเงินโลกแล้ว ล่าสุดกลุ่มสหภาพยุโรปเตรียมพิจารณาออก ดิจิทัล ยูโร เช่นเดียวกัน เพื่อรักษาอำนาจของเงินยูโรในท้องตลาด และคาดว่าหลายประเทศแถวหน้าของโลก ทั้งอินเดีย ญี่ปุน เกาหลีใต้ ก็มีแผนการที่จะออกเงินดิจิทัล สกุลเงินในประเทศในปีนี้

และด้วยกระแสเงินดิจิทัลที่กำลังจะมาในเร็ววันนี้ อาจจะเปลี่ยนรูปแบบการใช้เงินของมนุษย์เราไปตลอดกาลก็เป็นได้

 

อ้างอิง : https://www.cnbc.com/2021/04/19/central-bank-digital-currency-is-the-next-major-financial-disruptor.html

https://www.marketwatch.com/story/fed-will-launch-a-broad-discussion-of-a-digital-dollar-this-summer-powell-says-11621534045?mod=home-page

https://en.wikipedia.org/wiki/Digital_renminbi


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

เคาะแล้ว! ดีเดย์ 7 มิถุนายน 64 เริ่มรับลงทะเบียน ณ จุดบริการฉีดวัคซีน (On-site ไม่ใช่ Walk-in)

เคาะแล้ว! ดีเดย์ 7 มิถุนายน 64 เริ่มรับลงทะเบียน ณ จุดบริการฉีดวัคซีน (On-site ไม่ใช่ Walk-in) แบบปูพรมทั่วประเทศ

ย้ำ จังหวัดไหนมีความพร้อม ดำเนินการได้ทันที


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินที่ทำให้ ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งกันเองว่า...

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินที่ทำให้ ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งกันเองว่า...

ส่วนตัวตนเห็นใจและเข้าใจพรรคภูมิใจไทยที่ถูกนายกรัฐมนตรีเบรก โดยการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินที่พรรคภูมิใจไทยเสนอ เมื่อวิเคราะห์ปัญหานี้อย่างละเอียดแล้ว ตนคิดว่าวัคซีนเพิ่งเข้ามาเพียงนิดเดียว ทำให้ประเทศจำเป็นต้องฉีดวัคซีนตามความจำเป็นและตามแผนยุทธศาสตร์ก่อน จะทำสะเปะสะปะไม่ได้ ในสงครามชีวภาพกับโควิด-19 ขณะนี้ไทยเรากำลังเป็นฝ่ายตั้งรับ วัคซีนเป็นอาวุธสำคัญที่เราจะใช้รบกับเชื้อโควิด แต่ขณะนี้เรามีวัคซีนน้อย เปรียบเสมือนเรามีกระสุนจำนวนน้อย การยิงกระสุนทุกนัดของเราตรงเข้าเป้าจึงจะชนะในสงครามชีวภาพนี้ได้

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า ขณะนี้ต้องฉีดวัคซีนให้คนไทยให้ตรงเป้าตามลำดับความสำคัญ คือ บุคลากรทางการแพทย์, กลุ่มที่มีโรคประจำตัว, ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี และกลุ่มคนไทยตามแผนยุทธศาสตร์ที่จะส่งผลให้เปิดประเทศและระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนได้เร็ว รวมถึงกลุ่มที่จะแพร่กระจายโรคได้ง่าย เช่น ภาคการท่องเที่ยว, ภาคโรงงานอุตสาหกรรม, สำนักงาน บริษัท, ห้างสรรพสินค้า, สถานบริการต่าง ๆ , ขนส่งสาธารณะ, พื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ ฯลฯ รัฐบาลต้องทุ่มวัคซีนภายในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมสู่พื้นที่ กทม.อย่างน้อย 5 ล้านคน เพื่อยุติการแพร่ระบาดใน กทม. และต้องทุ่มวัคซีนสู่ภาคแรงงานในโรงงาน สำนักงาน บริษัทต่าง ๆ เพื่อป้องกันการระบาดกลุ่มใหญ่

“หลังเดือนสิงหาคม ถ้าเราฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ครบตามเป้าหมายแล้ว การฉีดแบบวอล์กอินก็คงจะเป็นไปได้ ผมจึงขอเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลยุติการตอบโต้กันและหันมาร่วมกันสู้กับวิกฤตโควิดจะดีกว่า และขอเสนอให้พรรคภูมิใจไทยเสียสละเพื่อชาติ เพราะผมเชื่อว่าการหยุด walk in นั้นรัฐบาลมาถูกทางแล้ว” นพ.ระวีกล่าว

 

ที่มา : https://mgronline.com/politics/detail/9640000048975


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสมีผลบังคับใช้แล้ว หลังคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งอิสราเอลเห็นชอบการหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ หลังต่อสู้กันมานาน 11 วัน ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 244 ราย

ทำเนียบนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลออกแถลงการณ์ว่า คณะรัฐมนตรีความมั่นคงเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ต่อข้อเสนอแนะของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงทุกคน...ให้ยอมรับความริเริ่มของอียิปต์ให้หยุดยิงร่วมกันโดยไม่มีเงื่อนไข

ขณะที่ คาลิล อัล-เฮย์ยา บุคคลระดับสูงของกลุ่มฮามาสยืนยันข้อตกลงหยุดยิงและประกาศว่า “นี่คือความอิ่มอกอิ่มใจของชัยชนะ”

ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว AFP รายงานว่า หลังจากประกาศหยุดยิงมีการเฉลิมฉลองด้วยการบีบแตรรถยนต์และยิงปืนขึ้นฟ้าในฉนวนกาซา ส่วนในเขตเวสต์แบงก์ประชาชนพากันออกมาฉลองบนท้องถนน

ในเวลาต่อมา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เอ่ยถึงการหยุดยิงว่า “ผมเชื่อว่าเรามีโอกาสที่จะทำให้เกิดความคืบหน้า และผมสัญญาว่าจะทำให้มันเกิดขึ้น” และยังชมอียิปต์ที่เป็นคนกลาง

ส่วน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า จะเตรียมตัวเดินทางไปอิสราเอลและตะวันออกกลางเร็ว ๆ นี้ หากนั่นจะช่วยยุติความขัดแย้งและพัฒนาชีวิตของชาวอิสราเอลและปาเลสไตน์

การตกลงหยุดยิงที่มีอียิปต์เป็นตัวกลางเกิดขึ้นหลังจากนานาชาติพากันกดดันเพื่อให้ยุติการสู้รบที่ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.

อย่างไรก็ตามยังไม่มีการกำหนดเวลาหยุดยิงที่แน่ชัด

 

ที่มา: https://www.posttoday.com/world/653494


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ผบ.ฉก.ร.7 เปิดเผยว่า ได้มีการปะทะในเมียนมา ระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ทำให้มี ‘กระสุน ค.’ ตกเข้าในไทยด้านทิศเหนือของบ้านท่าตาฝั่ง 3 นัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าไปเคลียร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พ.อ.สุจินต์ ทรัพย์สิน ผบ.ฉก.ร.7 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีการปะทะในเมียนมา ระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ทำให้มี ‘กระสุน ค.’ ตกเข้าในไทยด้านทิศเหนือของบ้านท่าตาฝั่ง 3 นัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าไปเคลียร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ทาง ฉก.ร.7 ได้แจ้งไปยังศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และได้ทำหนังสือประท้วงไปยังคณะกรรมการส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา หรือ TBC เนื่องจากพื้นที่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง มีฐานทหารเมียนมาตั้งอยู่ และยังมีกองกำลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูด้วย

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังคงต้องพิสูจน์ทราบว่าเป็นฝ่ายใด และทางการไทยต้องดูแลความเรียบร้อยพื้นที่ชายแดนอย่างเต็มที่ จึงได้ให้ประชาชนบ้านท่าตาฝั่ง อพยพไปในที่ปลอดภัยแล้ว

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ทางราษฎรบ้านท่าตาฝั่ง ได้ระบุว่า ชาวบ้านท่าตาฝั่งทุกคนเห็นทหารเมียนมาฐานด๊ากวิน ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง เป็นฝ่ายยิง ค. เข้ามาในเขตไทยอย่างชัดเจน นอกจากการยิง ค. แล้ว ยังตามด้วยการยิงปืนกลหนักเข้ามาในหมู่บ้านท่าตาฝั่ง และกระสุนได้ทะลุฝาบ้านพักของโรงเรียนบ้านท่าตาฝั่งอีกด้วย ลักษณะการกระทำของทหารเมียนมา เป็นไปตามที่พม่าได้ข่มขู่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยว่าหากให้การช่วยเหลือกลุ่มกะเหรี่ยงเคเอ็นยู จะทำการยิงโจมตีบ้านท่าตาฝั่งทันที และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจริงตามที่ขู่ไว้

ฉะนั้นความเคลื่อนไหวพื้นที่ชุมชนบ้านท่าตาฝั่งในตอนนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งให้การช่วยเหลืออพยพชาวบ้านไปในแหล่งที่ปลอดภัยและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น โดยชาวบ้านอพยพไปยังสวนนา และกางเต็นท์สร้างที่พักชั่วคราวในป่า ส่วนบางคนหลบเข้ามาข้างในหมู่บ้าน บางคนย้ายไปพึ่งพิงอาศัยญาติที่อยู่ใน อ.แม่สะเรียง ในขณะเดียวกันยังมีบางคนที่ยังนอนเฝ้าบ้านเพราะเป็นห่วงบ้านเรือนและทรัพย์สิน เช่น สัตว์เลี้ยง รถ เรือ เป็นต้น ชาวบ้านที่อพยพส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ บางคนมีโรคประจำตัวหวาดผวากับเสียงปืนจนต้องหาที่หลบไกลจากพื้นที่ชุมชนชายแดน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาในพื้นที่แจ้งเตือนให้อพยพไปยังที่ปลอดภัย โดยสถานการณ์ตอนนี้ไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งรายงานข่าวในเมียนมา พบว่า อาจมีความเป็นไปได้สูงที่ทางทหารเมียนมาจะตั้งปืนใหญ่จาก ‘ฐานเหล่อโต’ พิกัดเยื้องกับฐานเมียนมาใกล้บ้านท่าตาฝั่ง เพราะมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการโจมตีทางอากาศยาน และหากเป็นไปตามนั้นจริงชุมชนต้องอพยพทั้งหมด เพราะตำแหน่งตั้งปืนใหญ่หันมายังชุมชนอาจโดนลูกหลงได้

 

ที่มา: https://www.naewna.com/local/574581


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

"กรณ์-อรรถวิชช์" เปิด "ศูนย์สู้โควิด คลองสามวา" ช่วยประชาชนกทม.ตะวันออก สู้วิกฤตโควิด-19 ย้ำโครงการ "กล้าสู้โควิด-กล้าเติมอิ่ม-กล้าหางาน" ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค, นายสมัย เจริญช่าง ประธานคณะกรรมการจริยธรรมพรรค ร่วมงานเปิด "ศูนย์สู้โควิด คลองสามวา" ตั้งโดยนายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. และนายมนูญ อินช่วย ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ก. ที่ปั๊มน้ำมัน SUSCO ถนนหทัยราษฏร์ เพื่อไปศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือรวบรวมสิ่งของ อาหาร ฉีดพ่นในพื้นที่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ กทม. ตะวันออก โดยการสนับสนุนสถานที่จากนายภิมุข สิมะโรจน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท SUSCO จำกัด (มหาชน) 

นายกรณ์ กล่าวว่า แม้พรรคกล้ายังไม่มี ส.ส.ในสภาฯ แต่ได้ระดมสรรพกำลังทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะคนจนในเขตเมือง ระดมตัวแทนทั้ง 50 เขต นำโดยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค ตั้งแต่โครงการ "กล้าสู้โควิด" ช่วยหาเตียงให้ผู้ติดเชื้อได้นับร้อยคน และส่วนใหญ่รักษาจนหายกลับไปที่บ้านแล้ว, โครงการ "กล้าเติมอิ่ม" ตั้งโรงครัว แจกข้าวกล่อง ช่วยเหลือประชาชนที่ขาดรายได้ กักตัวไม่สามารถออกมาจากบ้านได้ และโครงการ "กล้าหางาน" ที่เพิ่งเปิดเมื่อต้นสัปดาห์ เพื่อบรรเทาผลกระทบการว่างงานจากวิกฤตโควิด-19 ช่วยประชาชนที่ว่างงานได้มีงานทำ 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจเขตนี้ ที่ช่วยกันสร้างค่านิยมการลงมือทำ ช่วงการเมือง 10 ปีแบ่งฝั่งซ้ายฝั่งขวา แต่พรรคกล้าต้องการเปลี่ยนสังคมและวัฒนธรรมทางการเมืองด้วยการลงมือทำ ไม่ต้องมีใครมาโหนใครข้างไหนทั้งนั้น และยิ่งโควิดครั้งนี้ อันตรายกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ดีใจและขอบคุณทุกคนที่มาช่วยกันวันนี้

นายสมัย เจริญช่าง ประธานคณะกรรมการจริยธรรมพรรค กล่าวว่า วันนี้คลองสามวาได้คนรุ่นใหม่อย่างนายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. และนายมนูญ อินช่วย ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ก. มาทำงานต่อเนื่องก็อยากฝากพี่น้องประชาชนว่า นายณัฐนันท์จะมีโอกาสได้ทำงานมากกว่านี้หากมีสถานภาพเป็นตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมาย และนายมนูญจะได้ทำงานระดับท้องที่ท้องถิ่นได้มากขึ้น 

นายสมัย ยังกล่าวถึงปัญหาการกระจายวัคซีนในพื้นที่คลองสามวา เป็นเขตที่มีประชากรกว่า 2 แสนคน แต่มีสถานที่ฉีดวัคซีนเพียงแห่งเดียวคือโรงพยาบาลคลองสามวา และเป็นโรงพยาบาลที่เพิ่งเปิดใหม่ เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรแล้ว แน่นอนว่าไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ และหลาย ๆ คนเข้าไปสมัครลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่าน Application หมอพร้อมไม่ได้ แม้บางรายก็ยังไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง แต่โดยภาพรวมก็ทำให้ประชาชนเกิดความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น หวังว่าพรรคกล้าจะนำบทเรียนความผิดพลาดเหล่านี้ นำไปสู่การกำหนดนโยบายแก้ไขปัญหาต่อไปในอนาคต

ที่ปรึกษาด้านสื่อสาร ศบค. ‘ดร.วรัชญ์ ครุจิต’ ยกข้อมูลโต้กรณีที่ระบุฉีดวัคซีน Sinovac เข้าประเทศ EU ไม่ได้ ชี้ การฉีดวัคซีนไม่ใช่เงื่อนไขเดียวในการเข้า EU ยืนยัน เข้าได้ หากมาจากประเทศที่ปลอดภัยจากโควิด

เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง ผู้ที่ฉีดวัคซีน Sinovac เข้าประเทศ EU ไม่ได้จริงหรือ? โดยระบุข้อความว่า

จากกรณีมีเพจหนึ่ง อ้างอิงข้อมูลจาก New York Times ว่า EU หรือประเทศในทวีปยุโรป 27 ประเทศ จะอนุญาตให้ผู้ได้รับวัคซีนเข้าประเทศได้ แต่ไม่มีวัคซีน Sinovac เพราะยังไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก ทำให้ผู้อ่านจำนวนมากสรุปว่า คนที่ฉีด Sinovac จะไม่สามารถเข้าประเทศในกลุ่ม EU ได้

ซึ่งหากลองดูตัวข่าวจาก New York Times จะพบว่า ร่างมาตรการของ EU นี้มีรายละเอียดว่าจะอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนที่รับรองโดย WHO เข้าประเทศได้จริง ซึ่ง AstraZeneca อยู่ในรายชื่อวัคซีนที่รับรองโดย WHO ดังนั้นผู้ที่ฉีดวัคซีนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร

ดังนั้นคำถามสำคัญคือ ผู้ที่ฉีด Sinovac จะเข้า EU ไม่ได้จริงหรือ?

สิ่งที่ข้อมูลจากเพจนี้บอกไม่หมดก็คือ การฉีดวัคซีนไม่ใช่เงื่อนไขเดียวในการเข้า EU แต่มีอีกหนึ่งเงื่อนไข นั่นก็คือการมาจากประเทศที่ "ปลอดภัย" จากโควิด

ซึ่งเงื่อนไขของการอยู่ใน Safe List นี้ก็คือ จะต้องมีอัตราส่วนของยอดผู้ติดเชื้อรวมกันในรอบ 14 วันที่ผ่านมา ต่ำกว่า 75 คนต่อแสนประชากร (ซึ่งถ้าประกาศใช้จริงๆคงจะวุ่นวายน่าดู เพราะจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา) ซึ่งจะได้รับอนุญาตให้เข้า EU สำหรับ Nonessential Reasons เช่นกัน (คือการเดินทางที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน) เช่นการท่องเที่ยว หรือทำธุรกิจ

คำถามต่อมาคือ ถ้ามีการประกาศมาตรการนี้จริงๆ ไทยจะอยู่ใน Safe List หรือไม่?

อันนี้ก็คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ วันที่ประกาศมาตรการ แต่สมมติว่าเรามีผู้ติดเชื้อ 2,000 คนต่อวัน ต่อเนื่องกัน 14 วัน (อันนี้ขอไม่รวมคลัสเตอร์คุกก่อนละกันนะครับ) ก็จะมียอดรวม 28,000 คน ซึ่งประเทศไทยมีประชากร 70 ล้านคน หากคิดออกมา 28,000 ต่อ 70,000,000 ก็ได้ได้สัดส่วนอยู่ที่ 40 ต่อแสนประชากร ยังห่างจากเกณฑ์เกือบครึ่ง หรือถ้าเราจะให้ถึงเกณฑ์ 75 ต่อแสน เราต้องติดเชื้อรวม 14 วันอยู่ที่ 52,500 หรือวันละ 3,750 ต่อเนื่องกัน 14 วัน ดังนั้นจึงน่าจะค่อนข้างแน่ว่าเราจะอยู่ใน Safe List ของ EU ตามเงื่อนไขนี้ ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนอะไร หรือไม่ฉีดก็ตาม

และเพื่อให้แน่ใจอีกชั้น ผมจึงได้สอบถามจากทางกรมการกงสุลแล้ว ได้รับคำตอบว่า ณ ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ใน Safe List คือคนไทยยังสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ และกฎเกณฑ์ของ EU ที่เป็นข่าวนี้ ยังเป็นเพียงข้อเสนอแนะเท่านั้น ยังไม่รู้ว่าจะออกมาจริงหรือไม่ และเมื่อไหร่

อ้อ แล้ว Sinovac ไม่ใช่ WHO พิจารณาว่าไม่รับรองนะครับ แต่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ซึ่งส่วนตัวผมเชื่อว่าน่าจะผ่านการรับรอง เพราะผลของคณะที่ปรึกษาที่ทำการประเมินบอกว่า มีความมั่นใจในประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการป้องกันการเจ็บป่วยหนักหรือเสียชีวิต

และเอาจริงๆ คนไทยส่วนใหญ่ที่จองคิวผ่านหมอพร้อม และจะฉีดในเดือน มิย.นี้เป็นต้นไป ก็จะเป็นวัคซีนของ Astra-Zeneca อยู่แล้วครับ

ดังนั้นท่านใดจะต้องเดินทางไปในประเทศ EU ก็คงพอจะสบายใจกันได้ครับ

ปล. จริงๆมีอีกเงื่อนไขหนึ่งนะครับในมาตรการนี้ คือไม่จำเป็นต้องเป็นวัคซีนที่ WHO รับรองก็ได้ แต่เป็นวัคซีนที่ประเทศนั้นๆรับรอง

ปล 2 ซึ่งมาตรการนี้จริงๆก็ยังไม่รู้ว่าจะออกมาได้หรือไม่ เพราะเกณฑ์ 75 ต่อแสนประชากรนี่ มีแค่ 3 ประเทศเท่านั้นในยุโรป คือ ฟินแลนด์ มอลตา และโปรตุเกส ที่ผ่านเกณฑ์ ที่เหลืออีก 24 ประเทศเกินหมด!

 

ที่มา : https://www.nytimes.com/.../world/europe/travel-vaccine.html

https:/www.facebook.com/story.php?story_fbid=4603906806291589&id=100000169455098&_rdc=2&_rdr


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

‘พล.ต.อ.อดุลย์’ ปธ.กมธ.แรงงาน วุฒิสภา มอบเงิน หน้ากากอนามัยแก่จังหวัดนครพนม สู้โควิด-19

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภาในนามโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนบน) และ มูลนิธิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว มอบเงินและหน้ากากอนามัยแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำไปส่งมอบแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันโควิด-19

เมื่อวันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา ในนาม โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนบน) และ มูลนิธิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ได้มอบเงิน หน้ากากอนามัย ให้กับ บุคลากรทางการแพทย์ ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครพนม เพื่อใช้ป้องกันไวรัสโควิด-19 ประกอบด้วย เงินสด จำนวน 135,000 บาท หน้ากากอนามัย จำนวน 75,000 ชิ้น มูลค่า 150,000 บาท รวมมูลค่ากว่า 285,000 บาท

โดยมี นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พล.ต.สามารถ จินตสมิทธ์ ผบ.มทบ.210 พล.ร.ต.จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผบช.นรข. พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม นายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม นายจรูญ เหง่าลา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครพนม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และผู้นำชุมชน เป็นผู้แทนรับมอบเพื่อแจกจ่ายตามวัตถุประสงค์ต่อไป

“ส.ส.ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคจำเป็น ให้ประชาชนในหมู่บ้านผาผึ้ง อ.วังเจ้า จ.ตาก หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สามารถหยุดการระบาดของโรคโดยเร็ว 

ตามที่นายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้ออกคำสั่งล็อกดาวน์ พื้นที่หมู่ที่ 6 บ้านผาผึ้ง ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวไทยชาติพันธุ์ม้ง เนื่องจากพบชาวบ้านติดเชื้อโควิด-19 จำนวนหนึ่งและอยู่ระหว่างตรวจเชิงรุกและนำส่งรักษาในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง โดยห้ามผู้ใดเข้าออกในพื้นที่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็น และได้รับอนุญาตจากนายอำเภอวังเจ้าในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตั้งแต่วันที่ 17-30 พฤษภาคม พ.ศ.2564 นั้น

ล่าสุด  นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส. เขต.1 จังหวัดตาก พรรคพลังประชารัฐ และคณะทีมงาน ได้มีความความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชน จึงได้ลงพื้นที่เพื่อไปพบผู้ใหญ่บ้านผาผึ่ง เพื่อนำสิ่งของจำเป็นอุปโภคบริโภค เข้าไปมอบให้อย่างเร่งด่วน เพื่อให้นำไปมอบบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในเบื้องต้น ประกอบด้วย ไข่ไก่ จำนวน 6,000 ฟอง หน้ากากอณามัยที่ใช้ทางการแพทย์จำนวน 2,000 ชิ้น แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อที่ใช้ในทางการแพทย์ จำนวน 300 ขวดใหญ่ รวมถึงบะหมี่กึ่งเร็จรูป และน้ำดื่ม เป็นต้น

นายธนัสถ์ กล่าวว่า ได้มาสอบถามว่าชาวบ้านเดือดร้อนและต้องการความช่วยหลืออย่างเร่งด่วนในเรื่องใดบ้าง เพื่อจะประสานกับทาง ศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินสถานการณ์โควิด-19 (ศปฉ.พปชร.) และรัฐบาล หรือทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของจังหวัด เพื่อดำเนินการช่วยเหลืออย่างตรงจุดต่อไป

“หมู่บ้านผาผึ้ง มีจำนวนประชากร 2,892 คน ทั้งหมด 550 ครัวเรือน ที่ต้องกักตัวอยู่ในพื้นที่ตามาตรการล็อกดาวน์เพื่อตรวจสอบโรค และคัดกรองเพื่อทำการรักษา ทำให้ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของการสัญจร เรื่องการดำรงชีพ และในด้านอาชีพต่าง ๆ รวมถึงความเป็นอยู่และเรื่องอาหารการกินอีกด้วย ซึ่งเบื้องต้นได้ประสานงานกับ นายสมบูรณ์ พรหมคำ ปลัดอำเภอวังเจ้า ฝ่ายความมั่นคง และนายจักรกฤษณ์ สุขเกษม (ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลเชียงทอง) เจ้าหน้าที่ผู้ปกครองพื้นที่โดยแล้ว เพื่อรับทราบรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และลงมาตรวจเยี่ยมเเป็นขวัญและกำลังใจให้ชาวบ้าน พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป” นายธนัสถ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายธนัสถ์ ยังขอขอบคุณ พ.ต.อ.ณัฐพล บุบผะศิริ ผกก.สภ.วังเจ้า เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่ อสม.และอาสาสมัคร ตลอดจนผู้นำหมู่บ้าน ที่ร่วมกันปฏิบัติการยุดยั้งโรคระบาดในหมู่บ้านผาผึ้ง และขอให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ที่กำลังประสบภัยโรคระบาดโควิด-19 ในครั้งนี้ด้วย และหวังว่าจะหยุดการระบาดของโรคนี้ได้อย่างรวดเร็ว เราจะไม่ทิ้งกันเราจะดูแลกัน ดุจคนในครอบครัวของเราอย่างนี้ตลอดไป

ช่วยคนพิการพื้นที่แดงเข้ม!! รวมพลคนพิการไทยยุคใหม่​ หัวใจเดียวกัน มอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือคนพิการ และครอบครัวคนพิการ ในช่วงสถานการณ์โควิค-19

นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และตำแหน่งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและด้านแรงงาน ลงพื้นที่นำถุงยังชีพที่ได้รับมาจาก อ.ชูศักดิ์ จันทยานนท์ ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย โดยความอนุเคราะห์จาก "คุณกัญจนา ศิลปอาชา" ประธานมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย มอบให้กับ "คนพิการ" ในเขตพื้นที่สีแดงเข้ม กรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล 5 จังหวัด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ บรรเทาความเดือดร้อน และดูแลคุณภาพชีวิตของคนพิการในช่วงสถานการณ์เชื้อไวรัส Covid-19 ที่กำลังแพร่ระบาดระลอก 3 อยู่ในขณะนี้ 

ในการนี้นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมฯ ได้ลงพื้นที่ ณ วัดจากแดง ต.ทรงคะนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และได้เดินทางไปยัง "สมาคมศูนย์การเรียนรู้ฟื้นฟูคนพิการโดยครอบครัว" (ALRF) พร้อมด้วย คุณนภาพร วัฒนสิงหะ (ครูต้อย) คุณชงคา กองวงศ์ คุณสุชานันท์ ใจปราณี และ อาสาสมัครช่าวเหลือคนพิการและผู้สูงอายุ (ทีมงานครูต้อย) เพื่อมอบถุงยังชีพ ให้กับน้อง ๆ คนพิการและครอบครัวคนพิการ เพื่อใช้ดำรงชีวิตในประจำวันเบื้องต้น ตามเจตนารมณ์ของ "คุณกัญจนา ศิลปอาชา" ที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง 

อีกทั้งนายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล ยังได้กล่าวให้กำลังใจกับ ผู้นำคนพิการ ผู้นำจิตอาสา คนพิการและครอบครัวคนพิการ ให้ต่อสู้ร่วมกันอย่างปลอดภัยในช่วงสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิค-19 และยังได้แนะนำการล้างมือ การใช้เจลแอลกอฮอล์การใส่หน้ากากอนามัย หรือผ้าหน้ากากอนามัย กินร้อนช้อนกลาง เพื่อช่วยลดปัญหาการสุ่มเสี่ยงที่อาจจะได้รับเชื้อไวรัสได้อีกทางหนึ่งด้วยความห่วง

#คนละไม้_คนละมือ

ประกันสังคม ยันพร้อมกระจายวัคซีน ให้แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 นำร่องในเขตพื้นที่ กทม. 45 จุด ดีเดย์เริ่มฉีด มิ.ย.นี้ พร้อมเผยมีผู้ประกันตนลงทะเบียนฉีดวัคซีนกว่า 80%

รัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายให้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานที่มีความสำคัญกลุ่มหนึ่ง และมีความเสี่ยงในอาชีพที่ต้องสัมผัส ต้องเจอคนจำนวนมาก อีกทั้งเป็นกลไกสำคัญของระบบเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เตรียมการฉีดวัคซีนให้กับ กลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยให้บูรณาการร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง และภาคเอกชน โดยจะพร้อมเริ่มต้นฉีดตั้งแต่ ต้นเดือน มิ.ย. 64 เป็นต้นไป

ด้าน นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคม ได้เตรียมความพร้อมเร่งกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมผู้ประกันตนมาตรา 33 ให้ทั่วถึงอย่างเร่งด่วน โดยให้สำนักงานประกันสังคม บูรณาการร่วมกับภาคเอกชนทุกภาคส่วน และ สปสช. กลุ่มผู้ประกันตนเสี่ยงที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วยในกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ส่งขอมูลให้ทางกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวได้ลงทะเบียนหมอพร้อมไปแล้ว

สำหรับในด้านการบริหารจัดสรรวัคซีนให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ในระยะแรก โดยจะเริ่มดำเนินงานฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตน ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครก่อน ในต้นเดือนมิถุนายน 2564 สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง ได้ประสานไปยังสถานประกอบการให้ส่งข้อมูลรายชื่อผู้ประกันตนที่ต้องการฉีดวัคซีน ผ่านระบบ Web-Service โดยมีผู้ประสงค์ฉีดทั้งหมดมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ พร้อมจัดหาสถานที่เพื่อฉีดวัคซีน ในขณะนี้ 45 แห่ง โดยจัดเตรียมอุปกรณ์ในการฉีดวัคซีน พร้อมแพทย์ พยาบาลในสถานพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมเรียบร้อยแล้ว ในระยะถัดไปในเดือนกรกฎาคม 2564 จะดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตนใน 9 จังหวัดเศรษฐกิจ อีก 22 แห่ง จากนั้นจะดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตนในจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า สำนักงานประกันสังคม พร้อมร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่มุ่งมั่นในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเต็มความสามารถ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและควบคุมโรคด้วยการฉีดวัคซีน ให้กับผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบได้กลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็ว ประกอบกิจการและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top