Friday, 16 May 2025
NEWS

ทบ. พร้อมรับทหารใหม่ ด้วยมาตรการป้องกัน COVID-19 อย่างเข้มงวด ระหว่าง 1-3 ก.ค.

พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกมีความพร้อมรับการรายงานตัวของ ทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2564 ที่จะเดินทางมาในวันที่ 1 และ 3 ก.ค. 64 นี้ ด้วยมาตรการที่รัดกุมเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดการแพร่ระบาดแบบกลุ่มของหน่วยฝึกทหารใหม่ทั่วประเทศ

ตามนโยบาย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่มอบให้กรมยุทธศึกษาทหารบก เป็นผู้กำหนดมาตรการในการบริหารจัดการฝึกทหารใหม่ ให้มีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อ และเป็นไปตามที่ ศบค.กำหนดนั้น จึงได้กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติ ออกเป็น 3 ขั้นตอนได้แก่

1.) ขั้นการเตรียมการก่อนการฝึก โดยจัดเตรียมพื้นที่ฝึกและพักอาศัยให้อยู่ในระบบปิด แบบ Bubble and Seal จำกัดเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการฝึกเท่านั้น สำหรับทหารที่ทำหน้าที่เป็น ผู้ฝึก ครูฝึก ผู้ช่วยครู และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยฝึกทุกนาย ได้ทำการกักตัวภายในหน่วยฝึกล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วันก่อนวันที่ทหารใหม่จะมาถึง รวมทั้งดำเนินการด้านการตรวจหาเชื้อเชิงรุก และจัดให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อให้มั่นใจว่าครูฝึกและเจ้าหน้าที่ทุกนาย ปลอดภัยจากเชื้อไวรัส

2.) ขั้นการดำเนินการ ในวันที่ทหารใหม่เข้ามารายงานตัวในหน่วยฝึกทหารใหม่ทั้ง 311 หน่วยทั่วประเทศ ได้จัดให้มีชุดแพทย์ทำการตรวจคัดกรองอย่างละเอียด หากพบผู้ติดเชื้อจะแยกออกเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา ณ รพ.ประจำค่ายทหาร ที่มีอยู่จำนวน 37 แห่ง สำหรับส่วนที่เหลือจะแยกกักตัวภายในหน่วยฝึกเป็นเวลา 14 วันเพื่อให้พร้อมทำการฝึกในขั้นต่อไป และ

3.) ขั้นการฝึกและเสริมสร้าง โดยระหว่างการกักตัว จะใช้วิธีการแยกสอนในห้องเรียน หรือใช้การเรียนแบบออนไลน์ไปก่อน เมื่อครบกำหนด 14 วัน จึงสามารถทำการฝึกในสนามฝึก ได้ แต่จะต้องเป็นไปตามมาตรการการเว้นระยะห่าง ของสาธารณะสุข (DMHTT) ทุกประการ ซึ่งทั้งครูฝึกและทหารใหม่ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ทุกคน จะถูกจำกัดให้อยู่แต่ภายในหน่วยฝึกไม่ให้ปะปนสู่ชุมชนภายนอก

สำหรับในส่วนของ กทม. และปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้กำหนดให้ใช้พื้นที่ของ มทบ.11 เป็นสถานที่แรกรับรายงานตัว​ ซึ่งจะมารายงานตัวจำนวน 2 รอบ คือ รอบวันที่ 1 ก.ค.64 จำนวน 2,716 คน โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาทหารอยู่ใน กทม. และ จังหวัดใกล้เคียง และรอบวันที่ 4 ก.ค. 64 จำนวนประมาณ 1,519 คน ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกรมแพทย์ทหารบกได้เตรียมหน่วยแพทย์คัดกรองมาดำเนินการตรวจหาเชื้อเชิงรุกทุกนาย หากตรวจพบจะแยกไปทำการรักษาที่ รพ.สนามของ ทบ.ที่เตรียมไว้ (รพ.สนามเกียกกาย และ รพ.สนาม มทบ.11-2) ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงสูง จะให้ทำการกักตัวในสถานกักตัวของหน่วย (OQ) เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วันก่อนส่งตัวเข้าสู่กระบวนการฝึกต่อไป

นอกจากนั้น ผู้บัญชาการทหารบกยังได้สั่งการเพิ่มเติมการปฏิบัติในส่วนของ ผู้ที่ต้องเดินทางมาจากภาคอีสาน โดยจะใช้ชุดแพทย์ทหารต้นทาง ทำการตรวจหาเชื้อเชิงรุกภายในจังหวัดของตนเองตั้งแต่แรก หากตรวจพบก็ให้ทำการรักษาในจังหวัดนั้น ๆ ก่อนยังไม่ต้องเดินทางเข้ามายัง กทม.

ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารบก ได้ห่วงใยและให้ความสำคัญในการดูแลทหารกองประจำการที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพบกเป็นพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีมาตรการเพิ่มเติมการดูแลด้านสุขอนามัย โภชนาการ เวชศาสตร์การกีฬา ตลอดจนการเพิ่มโอกาสในการรับราชการ เพราะถือว่าทหารกองประจำการทุกนายเป็นผู้มีความเสียสละ เข้ามาดูแลด้านความมั่นคง ช่วยเหลือประชาชนในหลากหลายภารกิจ ตลอดจนเป็นครอบครัวของกองทัพบกที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด

เพจเฟซบุ๊ก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ โพสต์ภาพนวัตกรรมใหม่ "หน้ากากอนามัยปิดจมูก" ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเม็กซิกัน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเข้าทางจมูกขณะรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับคนอื่น ซึ่งถูกยืนยันแล้วว่าใช้ได้ผลจริง

เพจเฟซบุ๊ก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ โพสต์ภาพนวัตกรรมใหม่ "หน้ากากอนามัยปิดจมูก" ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเม็กซิกัน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเข้าทางจมูกขณะรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับคนอื่น ซึ่งถูกยืนยันแล้วว่าใช้ได้ผลจริง

.เพจเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบุว่า...หน้ากาก ปิดจมูก สำหรับทานอาหารในที่สาธารณะ น่าสนใจในช่วงที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้น

นักวิทยาศาสตร์ชาวเม็กซิกัน Gustavo Acosta Altamirano จากมหาวิทยาลัย The Instituto Politécnico Nacional หรือ IPN ได้แสดงนวัตกรรมใหม่ของเขา เป็นหน้ากากอนามัยปิดจมูก ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิดได้ดีโดยเฉพาะ เวลาทานอาหาร ร่วมกับบุคคลอื่น ป้องกันละออง การแพร่เชื้อไวรัสเข้าทางจมูก ใช้ได้ผลจริง

ทั้งนี้ ยังสามารถใช้ป้องกันสองชั้น โดยสวมหน้ากากอนามัยหลักทับอีกที เวลาต้องออกไปสถานที่สาธารณะ ก็จะสามารถป้องกันโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่

 

ที่มา World Forum ข่าวสารต่างประเทศ https://www.facebook.com/WorldForumTh/posts/335636018100648


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย ได้โพสต์ผลลัพธ์ของวัคซีนแอสตร้าฯ ที่น่าสนใจจากทางสหราชอาณาจักรผ่านเฟซบุ๊ก 'หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC' ว่า

ไม่นานมานี้ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย ได้โพสต์ผลลัพธ์ของวัคซีนแอสตร้าฯ ที่น่าสนใจจากทางสหราชอาณาจักรผ่านเฟซบุ๊ก 'หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC' ว่า...

ยุทธศาสตร์ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แต่ละประเทศแตกต่างกัน แล้วแต่จำนวนวัคซีนที่หามาได้

ของไทยเน้นปูพรมฉีดเข็มแรกโดยเฉพาะวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าให้มากที่สุดอย่างน้อย 50 ล้านคนให้เร็วที่สุดใน 120 วัน ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องในภาวะที่วัคซีนขาดแคลน

โดยยืดเวลาการให้วัคซีนแอสตร้าเข็มที่ 2 ออกไปเป็น 12-16 สัปดาห์ แทนที่จะเน้นให้ทุกคนต้องฉีดคนละ 2 เข็มใน 8 สัปดาห์ เหมือนประเทศที่มีวัคซีนเหลือพอ อย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ใน 10 คน ที่ฉีดเข็มแรกไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา จะปฏิเสธเข็มที่ 2 แต่อย่างไรเสียคนที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ คือคนที่ไม่เคยรับวัคซีน

เป็นที่ทราบกันดีจำนวนคนป่วยหนักเข้านอนโรงพยาบาลและใส่ท่อหายใจเพิ่มขึ้นทุกวัน จนเตียงในไอซียูในโรงพยาบาลไม่เพียงพอ ยิ่งกว่านั้นเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุดประมาณ 80 กว่า% เป็นสายพันธุ์อัลฟ่าหรือสายพันธุ์อังกฤษ ตามมาด้วยสายพันธุ์เดลต้าหรือสายพันธุ์อินเดียเกือบ 20% เนื่องจากสายพันธุ์เดลต้าแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์อังกฤษ 60% เชื่อว่าอีกไม่นานสายพันธุ์เดลต้าจะขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แทนสายพันธุ์อัลฟ่าในประเทศไทย

>> มีการศึกษาจากประเทศสหราชอาณาจักร วัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรกสามารถลดการป่วยหนักเข้านอนโรงพยาบาลจากสายพันธุ์เดลต้า 71% เทียบกับสายพันธุ์อัลฟ่า 76%

>> ส่วนวัคซีนแอสตร้า 2 เข็มลดการป่วยหนักเข้านอนรพ. จากสายพันธุ์เดลต้า 92% เทียบกับสายพันธุ์อัลฟ่า 86%

การปูพรมฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรกให้เร็วที่สุด อย่างน้อย 50 ล้านคนใน 120 วัน เป็นการให้ ที่แข่งกับเวลาก่อนที่เชื้อสายพันธุ์เดลต้าจะขึ้นมาแทนที่สายพันธุ์อัลฟ่า เพราะวัคซีนแอสตร้าฯ แม้เพียงเข็มแรกก็ช่วยลดจำนวนคนป่วยหนักเข้านอนรพ. มากกว่า 70%

สำหรับวัคซีนซิโนแวคและซิโนฟาร์มต้องให้ 2 เข็มใน 3-4 สัปดาห์ถึงจะมีประสิทธิภาพป้องกันการป่วยหนักเข้านอนในโรงพยาบาลและเสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนแล้ว ทุกคนก็ยังต้องใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือเหมือนเดิม

ยุทธศาสตร์เมื่อกำหนดแล้วต้องทำให้ได้ ฝากความหวังกับบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ผู้ผลิตวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าสามารถทยอยส่งมอบวัคซีนให้กระทรวงสาธารณสุขมากที่สุดทันตามกำหนดเวลา

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/604030819763686/posts/1975480902618664/


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘บิ๊กตู่’ ขอชาวภูเก็ตเข้มทำตามกฎ นำร่องรับนักท่องเที่ยว ก่อนเปิดทั้งประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha’ ว่า การเปิดจังหวัดภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วให้เข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งเริ่มในวันนี้ (1 ก.ค. 64) ไม่ใช่เป็นเรื่องของจังหวัดภูเก็ตเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของทั้งประเทศ ถือเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งในการนำร่องเพื่อดูความเหมาะสมและประสิทธิภาพของมาตรการและขั้นตอนต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวและเดินหน้าไปสู่เป้าหมายการเปิดทั้งประเทศใน 120 วันตามที่ผมได้ตั้งไว้

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้การใช้ชีวิตและการทำมาหากินของพี่น้องคนไทย เริ่มกลับมาได้อีกครั้งครับ

แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยง อย่างตอนนี้ ในบางประเทศ ทั้งในประเทศใหญ่ และประเทศที่เป็นประเทศเป้าหมายที่น่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทย ล่าสุดเริ่มมีจำนวนผู้ติดเชื้อ และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มกลับขึ้นมาอีก แต่เราจำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงบ้าง สิ่งสำคัญคือเราต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อะไรที่เห็นว่าควรต้องปรับเปลี่ยน ต้องดำเนินการให้เหมาะสมทันที เพี่อไม่ให้ส่งผลกระทบไปถึงเป้าหมายใหญ่ในการเปิดประเทศใน 120 วัน

“ผมขอให้ชาวภูเก็ตทุกคนร่วมมือกัน ช่วยกันอย่างเต็มที่ ระมัดระวังอย่างที่สุด และขอให้ช่วยกันทำตามกฎกติกาอย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีการฝ่าฝืนมาตรการต่าง ๆ ไม่ให้มีการพาคนเดินทางเข้าหรือออกจากพื้นที่โดยไม่ถูกขั้นตอน ขอให้ทุกท่านคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อประเทศตลอดเวลานะครับ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่ภูเก็ต มีผลต่อทั้งประเทศ ขอให้ชาวภูเก็ตภูมิใจที่ได้ร่วมกันทำภารกิจชาติ ทั้งประเทศดูท่านอยู่ และเป็นกำลังใจให้ท่านครับ”


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถิติการใช้ฟ้าทะลายโจรจากเรือนจำเชียงใหม่ถึงกรุงเทพ ที่รัฐบาลควรประกาศออกมาได้แล้วว่า...

อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถิติการใช้ฟ้าทะลายโจรจากเรือนจำเชียงใหม่ถึงกรุงเทพ ที่รัฐบาลควรประกาศออกมาได้แล้วว่า...

เมื่อพิจารณถึงสถานการณ์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6,884 คน และมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 61 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนผู้ป่วย 0.88%

สำหรับการระบาดระลอกสอง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564 -31 มีนาคม 2564 ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉพาะช่วงนี้ จำนวน 21,979 คน มีผู้เสียชีวิตสะสมช่วงนี้ 33 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนผู้ป่วย 0.15% ซึ่งถือว่าช่วงเวลานี้ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตลดน้อยลงกว่าปี 2563 เพราะแพทย์ในประเทศไทยมีประสบการณ์มากขึ้น ด้วยอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือและบุคคลากรทางการแพทย์มีเพียงพอ

แต่การระบาดระลอกที่สาม ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2564 จนถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2564 มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉพาะช่วงนี้จำนวน 207,428 คน มีผู้ป่วยเสียชีวิตเฉพาะช่วงนี้ 1,725 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 0.83% อันสะท้อนให้เห็นว่าอัตราการเสียชีวิตกลับเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564

ช่วงเวลาเดียวกันนี้เองได้เกิดการระบาดโรคที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ ทางกระทรวงยุติธรรมได้ใช้ยาฟ้าทะลายโจรเป็นยาร่วมรักษา ผลปรากฏว่าจำนวนผู้ต้องขัง ถึง ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2564 มีนักโทษรวมทั้งสิ้น 6,562 คน ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวมทั้งสิ้น 4,169 คน รักษาหายแล้วถึง 3,980 คน มีผู้เสียชีวิต 3 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 0.072% เท่านั้น ซึ่งน่าอัศจรรย์ว่าเป็นกลุ่มคนที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในประเทศไทยในทุกช่วงเวลา

สรุปสัดส่วนผู้เสียชีวิตกับผู้ติดเชื้อแต่ละช่วงเวลาคือ...

>> ช่วงเวลา 2563 ในประเทศไทย ถ้ามีผู้ติดเชื้อ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 88 คน

>> ช่วงเวลา 1 มกราคม 2564-31 มีนาคม 2564 ประเทศไทยถ้ามีผู้ติดเชื้อ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 15 คน

>> ช่วงเวลา 1 เมษายน 2564 -25 มิถุนายน 2564 ประเทศไทยถ้ามีผู้ติดเชื้อ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 83 คน

>> แต่สำหรับเรือนจำกลางเชียงใหม่ ซึ่งมีการใช้ 'ฟ้าทะลายโจร' ในการลดอาการของผู้ป่วย ช่วงเวลา 1 เมษายน 2564-18 มิถุนายน 2564 ถ้ามีผู้ติดเชื้อ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 7 คนเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีการรายงานผลของ นายแพทย์เอนก มุ่งอ้อมกลาง สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี ซึ่งบรรยายประสบการณ์การนำยาสมุนไพรไทยไปใช้ในสถานการณ์การระบาดเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ในเรือนจำกรุงเทพมหานคร ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขจัดการสัมมนาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564

โดย นายแพทย์เอนก มุ่งอ้อมกลาง รายงานการพบว่าเมื่อใช้ 'ผงหยาบ' ฟ้าทะลายโจรในขนาดแคปซูล 400 มิลลิกรัม กิน 4 เม็ดต่อครั้งและ 3 ครั้งต่อวัน หรือประมาณ 4.8 กรัมต่อวันเป็นเวลา 5 วัน ปรากฏว่าผู้ป่วยโควิด-19 ตรวจเชื้อไม่พบเลยในวันที่ 8 ในขณะที่ยาฟาวิพิราเวียร์ต้องใช้เวลา 12 วันที่จะตรวจไม่พบเชื้อเลย

แปลว่าฟ้าทะลายโจรเหนือกว่ายาฟาวิพิราเวียร์ และไม่ต้องสกัดอะไรเหมือนกระชายขาว

ความน่าสนใจคือ ผงหยาบฟ้าทะลายโจร 4.8 กรัมต่อวัน ที่ชนะยาฟาวิพิราเวียร์ได้นั้น เป็นปริมาณใช้น้อยกว่า 'ผงหยาบ' ฟ้าทะลายโจรขั้นต่ำสุดใน 'โรคหวัดธรรมดา' ที่ต้องใช้ผงฟ้าทะลายโจรประมาณ 6 กรัมต่อวันเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นสัญญาณแสดงว่า โรคโควิดจัดการได้ง่ายกว่าและกระจอกว่าโรคหวัดเมื่อใช้ผงหยาบฟ้าทะลายโจรหรือไม่?

และปริมาณผงหยาบฟ้าทะลายโจรที่ใช้ 4.8 กรัมต่อวันนั้น เมื่อตรวจสารแอนโดรกราโฟไลด์นั้นได้เพียง 132 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่ต้องใช้มากถึง 'สารสกัด' จากฟ้าทะลายโจรที่ต้องใช้สารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า 'ผงหยาบ' ฟ้าทะลายเพียงน้อยนิดก็จัดการกับโรคโควิด-19 ได้แล้ว

สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น คือข้อมูลของคุณรสนา โตสิตระกูล มูลนิธิสุขภาพไทย ได้แจกฟ้าทะลายโจรไปในชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นชุมชนแออัด หลายคนนอนห้องเดียวกัน พบว่าผู้ที่ใช้ฟ้าทะลายโจร 4.8 กรัม หรือใช้แคปซูลขนาด 400 มิลลิกรัม จำนวนเพียงแค่ 12 เม็ดต่อวัน

ปรากฏว่ามีหลายบ้านในชุมชนคลองเตย ผู้ที่กินฟ้าทะลายโจรไม่ติดเชื้อ แต่คนที่ไม่ได้กินกลับติดเชื้อ บางคนที่ไม่ได้ใช้ฟ้าทะลายโจรกลับติดเชื้ออยู่คนเดียวในบ้าน ทั้ง ๆ ที่นอนห้องเดียวกันกับคนที่กินฟ้าทะลายโจรด้วยซ้ำไป

ที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม News1 ก็มีผู้ติดเชื้อ 2 คน ให้กินฟ้าทะลายโจรทั้งชั้น 'ทุกคน' ครั้งละ 4 แคปซูล วันหนึ่งกิน 4 ครั้ง เมื่อครบ 5 วันก็ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มแม้แต่คนเดียว จึงไม่ลุกลามกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่

และทำให้ต้องคิดกันว่าถึงเวลาที่จะต้องนำ 'ฟ้าทะลายโจร' มาเป็น 'วาระแห่งชาติ' อย่างจริงจังได้แล้ว เตรียมพร้อม 'บำบัดรวมหมู่' ด้วยฟ้าทะลายโจร 'พร้อมกัน' ดังนั้นทุกบ้านทุกที่ดินเตรียมปลูกเสียตั้งแต่วันนี้ให้มากที่สุด

 

 

ที่มา: https://www.facebook.com/123613731031938/posts/4250157078377562/


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ฟันธงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกยูโร 2020 ทีมไหนใครจะผ่านเข้ารอบ?

วันพรุ่งนี้ศึกฟุตบอลยูโร 2020 ⚽ จะกลับมาดวลแข้งกันอีกครั้ง ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย งานนี้มีทีมที่สามารถฝ่าด่านอรหันต์เข้ามาถึงรอบนี้ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์, สเปน, เบลเยียม, อิตาลี, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, ยูเครน และอังกฤษ

โดยคืนวันที่ 2 ก.ค. สวิตเซอร์แลนด์จะพบกับสเปน เวลา 5 ทุ่ม และดึกตีสอง จะเป็นการพบกันของเบลเยียมกับอิตาลี ส่วนคืนวันที่ 3 ก.ค. เริ่มต้นด้วยสาธารณรัฐเช็กพบเดนมาร์ก เวลา 5 ทุ่ม และช่วงดึกตีสอง ยูเครนจะพบอังกฤษ

งานนี้ใครมีโอกาสจะคว่ำใคร หรือใครมีดีอะไรกันบ้าง ตามไปดูรายละเอียดที่ THE STATES TIMES นำมาให้ทราบกันได้เลย...


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

องค์การเภสัชกรรม เคาะ! ราคาขายวัคซีนโมเดอร์นา โดสละ 1,100 บาท รพ. เอกชน เริ่มเปิดจอง ก.ค.นี้ ล็อตแรก 3.9 ล้านโดส เข้าไตรมาส 4 ส่วนอีก 1.1 ล้านโดส มาต้นปีหน้า ขณะที่รพ.เอกชน เคาะราคาฉีดเข็มละ 1,700 บาท

นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนโมเดอร์นา ว่า องค์การเภสัชกรรม ได้กำหนดราคาขายวัคซีนโมเดอร์นา ให้กับโรงพยาบาลเอกชน ในราคาโดสละ 1,100 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าขนส่ง และค่าประกันภัยรายบุคคล หลังจากนี้ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน จะไปกำหนดราคากลางค่าบริการฉีดที่เป็นอัตราเดียวกันต่อไป

สำหรับการเปิดจอง ทางโรงพยาบาลจะเริ่มประกาศให้ประชาชนสั่งจองหรือยืนยันการจองในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ เมื่อได้ยอดจองของแต่ละโรงพยาบาลแล้ว องค์การเภสัชฯ จะได้จัดสรรให้สอดคล้องกับจำนวนที่บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด นำเข้า โดยจะเริ่มทยอยจัดส่งวัคซีนให้ในงวดแรก ในไตรมาส 4/2564 ประมาณ 3.9 ล้านโดส และงวดที่ 2 ในไตรมาสที่ 1/2565 จำนวน 1.1 ล้านโดส

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่สมาคมโรงพยาบาลเอกชน องค์การเภสัชกรรม และบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายวัคซีนโมเดอร์นา ได้มีความเห็นร่วมกันให้กำหนดอัตราการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา ในราคา 2 เข็ม 3,400 บาท หรือตกเข็มละ 1,700 บาท

โดยค่าบริการดังกล่าวจะเป็นอัตราเดียวกันในทุกโรงพยาบาลเอกชนที่ให้บริการ เป็นราคาสุทธิที่รวมค่าวัคซีนโควิด ค่าบริการ และค่าประกันวัคซีนทั้งหมด

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/gpoth.official/photos/a.879647762423872/1648830548838919/


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ประวิตร” เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ย้ำ ให้คุ้มครองเหยื่อ-อย่าเกียร์ว่าง ช่วงโควิดระบาด สั่งฟัน จนท.เอี่ยวค้ามนุษย์ 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ครั้งที่2/2564 และการประชุมคณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมีให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ครั้งที่1/ 2564 มีนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมประชุม เพื่อขับเคลื่อนแผนและการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่รัฐบาลกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ

โดยที่ประชุมเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 เน้นให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาและป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน การป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานและการคุ้มครองแรงงานต่างด้าว รวมทั้งเน้นการยกระดับการแก้ปัญหาให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล ในประเด็นการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ และการคุ้มครองผู้เสียหาย

นอกจากนั้นรับทราบผลการดำเนินงานทางวินัยและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ตั้งแต่ปี 2555ถึงปัจจุบัน รวม 77 ราย และได้ปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยให้เพิ่มช่องทางการรับแจ้งเหตุให้สามารถดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง และกำหนดความหมายของการค้ามนุษย์ให้ครอบคลุมถึงการนำพาบุคคลเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต  

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าทีทุกระดับที่มุ่งมั่นปฏิบัติงาน พร้อมย้ำเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของรัฐบาลเพื่อขจัดการค้ามนุษย์ให้เป็นวาระแห่งชาติ ต้องให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนร่วมกันอย่างจริงจังและมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น ต้องไม่ให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19เป็นช่องว่างหรือข้อจำกัดของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกระดับในทุกหน่วยงาน พร้อมทั้งย้ำให้เร่งรัดดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเร่งด่วน นอกจากนั้นให้นำผลงานวิจัยและรายงานข้อคิดเห็นที่ตรงกับข้อเท็จจริงไปขับเคลื่อนแก้ปัญหา หากเรื่องใดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทำข้อมูลเสนอผ่าน กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจกับองค์กรระหว่างประเทศที่เข้าใจคลาดเคลื่อนภายใน 7 วัน ขณะที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ทำงานร่วมกับตำรวจ เพื่อปกป้องและคุ้มครองเหยื่อจากการค้ามนุษย์ทั้งคนไทยและต่างประเทศทันที และแยกระหว่างคดีบังคับใช้แรงงานกับคดีค้ามนุษย์ ให้สืบต้นตอความเชื่อมโยงการค้ามนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำพาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทุกกรณี  ส่วนกระทรวงแรงงานต้องผลักดันให้นายจ้างเร่งลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้เข้าในระบบโดยเร็ว โดยต้องไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐหรือการทุจริตโดยเด็ดขาด

‘ดร.สันต์’ นักวิชาการนิด้า เตือน โควิด-19 ระลอก 4 มาแน่ ชี้ 7 วันอันตราย ต้อง "ล็อกดาวน์" ตัวเองอย่างเข้มงวด ทางเดียวที่จะรอด

ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ระบุ Covid-19 : Red Alert Wave#4 ครั้งที่ 2 : การแจ้งเตือนระดับสูงสุด 7 วันอันตราย ยืนยันสถานการณ์ระดับ Exponential ใน กทม. ครับ ขอเตือนพี่น้องชาว กทม. ทุกคนเลยนะครับ วันนี้ กทม. New High ที่ 1,826 ทำให้ยืนยันได้แล้วครับว่า ที่ผ่านมาคือส่วนของหัว Wave#4 แน่ ๆ และจากนี้จะเป็นตัวคลื่นของ Wave#4 ระดับสึนามิ ที่กำลังจะพัดเข้าชายฝั่งครับ ทุกคนใน กทม. และปริมณฑล ต้อง Lockdown (ล็อกดาวน์) ตัวเอง ทำตาม ศบค. อย่างเคร่งครัด ไม่มีทางอื่นสำหรับช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ครับ การ Lockdown อย่างเข้มงวด คือ วิธีเดียวครับที่จะรอด นี่คือช่วง 7 วันอันตรายอย่างยิ่งครับ

ตัวเลขและกราฟใน กทม. :

1.) กราฟ Super Position ของ Wave#4 ยืนยันระดับ % Increase ที่ประมาณ 13% หรือ Doubling Day ที่ประมาณ 6 วัน โดยมีแนวโน้มเป็นแบบนี้มา 2 สัปดาห์แล้วครับ กราฟ Total Case จริงสีแดงเป็น Exponential วิ่งตามเส้นการคำนวณสีส้มประอย่างชัดเจนครับ เรา Lockdown กทม. ปริมณฑล ไปแล้ว กราฟ % Increase ควรจะต้องดีขึ้นภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์ข้างหน้า ถ้าไม่ดีขึ้น เรื่องใหญ่ครับ

2.) กราฟ % Increase ใน กทม. Wave#3 ต่อเนื่อง Wave#4 กำลังยกระดับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. กำลังขึ้นจากระดับ Background ที่ 2% เข้าสู่ 3% และน่าจะไปต่อ ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็คือช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่เราวิ่งจาก Wave#2 เข้าสู่ Wave#3 ครับ

ตัวเลขและกราฟประเทศไทย :

กราฟ % Increase Wave#3 ต่อเนื่อง Wave#4 หลังจากทรง ๆ อยู่ที่ Background ระดับ 2% ตอนนี้ก็กำลังวิ่งขึ้นเข้าสู่ระดับ 3% และน่าจะไปต่อเช่นกัน ครั้งสุดท้ายที่เกิดเหตุการณ์นี้ก็คือช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่เราวิ่งจาก Wave#2 เข้าสู่ Wave#3 เช่นกันครับ

ตัวเลขที่ต้องจับตามองไปข้างหน้า 1 สัปดาห์ :

1.) กทม. ถ้าเข้มงวดกันพอและทำสำเร็จ New High ต่อวันเฉพาะใน กทม. อาจไปแตะระดับ 2,500-3,000 แต่จะหนี Exponential สำเร็จและจะค่อย ๆ ลดลง แต่ถ้าล้มเหลวก็จะได้เห็นระดับ 4 พัน 5 พันต่อวัน

2.) ต่างจังหวัดที่เดิมเป็นสีขาวและเขียว ตัวเลขมีขึ้นเยอะแน่นอน แต่ถ้าจับผึ้งแตกรังได้สำเร็จ ตัวเลขจะไม่ขึ้นไปไหนมาก สัปดาห์หน้าต้องเริ่มนิ่งครับ

คำแนะนำสูงสุด :

1.) กทม. ปริมณฑล และจังหวัดระบาดหนัก ต้อง Lockdown (ล็อกดาวน์) จริงจังที่สุด ออกไปข้างนอกต้องหน้ากาก 2 ชั้น ธุรกิจที่ยังไหว WFH ให้ได้ 80% เดินห้าง เดินตลาด เลี่ยงได้เลี่ยง

2.) ต่างจังหวัดและหัวเมือง จับผึ้งแตกรังทุกตัวให้ได้ และสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้า เฝ้าระวังโรงเรียน ถ้าพื้นที่ไหนมีคนกลับมามากผิดสังเกต และเริ่มมีติดเชื้อ ต้องเรียน Online ทันทีครับ อย่าได้ลังเล

3.) กิจการ ร้านค้าในพื้นที่ระบาดหนักที่ไม่ถูก ศบค. สั่งปิด ผมแนะนำว่า หยุดสัก 1 สัปดาห์ เพราะนี่คือ 7 วันอันตรายจริง ๆ ครับ

4.) คนไทยทุกคน นึกถึงฟอร์มการเล่นแบบแชมป์ที่ตัวเองเคยทำเมื่อปลาย มี.ค. ถึงต้น พ.ค. 63 ปีที่แล้ว ถ้าทำได้แบบนั้น ชนะแน่นอนครับ ขอแค่ทุก ๆ คนที่ยังมีกำลัง ทำแบบที่ตัวเองเคยทำสำเร็จ

5.) บุคคลากรทางการแพทย์มีความสำคัญที่สุด ซึ่งตอนนี้หนักจนไม่รู้จะหนักยังไงแล้ว และกำลังใจที่ดีที่สุดคือ ดูแลตัวเองอย่าให้ติดเชื้อเพิ่ม และถ้าถึงที่สุดแล้วระบบสาธารณสุขล้มลง เราก็ต้องไปช่วยประคองพวกเขา ในฐานะเพื่อน ในฐานะคนในครอบครัว เขาก็เป็นคนธรรมดาเหมือนพวกเรา มีหัวใจ มีความเข้มแข็งได้ อ่อนแอได้ มีทุกข์มีโศก ท้อแท้ สิ้นหวังได้เช่นกัน

6.) ธุรกิจที่กำลังจะล้มหายตายจาก คนที่บ้านกำลังจะโดนยึด ผมอยากให้ธนาคาร นายห้างใหญ่ เจ้าสัวใหญ่ ท่านต้องมีเมตตาจริง ๆ จัง ๆ แล้วครับ ท่านไม่ช่วย เขาไม่รอดครับ

7.) แม่ที่ไม่มีเงินจะซื้อนมให้ลูก ไม่มีอาหารจะตกถึงท้องแล้ว ทุกคนที่กำลังสิ้นหวัง กำลังจะยอมแพ้ ขอให้อย่าได้สิ้นหวัง ขอให้ตะโกนออกมาดัง ๆ ยังมีคนอีกมากที่แข็งแรงและพร้อมจะช่วยเหลือ ผมเชื่อว่าประเทศนี้ยังไม่สิ้นหวัง ยังคงมีความดีงามคงเหลืออยู่อีกมากมายครับ

Wave#4 กลับมาหาพวกเราเร็วมาก เร็วกว่าที่ผมกังวลไว้เสียอีก ทุก Indicator ที่ผมใช้ตรวจจับ Wave รหัสแดงทั้งหมดแล้ว เราไม่ทันแล้ว แต่ก็ต้องสู้ครับ ต่อให้ Wave มันซัดมาแรงแค่ไหน เดี๋ยวมันก็จะต้องผ่านไปครับ ขอให้หลบเข้าที่กำบัง ใช้ชีวิตอย่าได้ประมาท รักษาตัวเองและครอบครัวให้รอด ดูแลสุขภาพ ช่วยเหลือผู้คนให้มากที่สุด รักษาความดีและจิตวิญญาณที่ถูกต้องเอาไว้ให้ได้ และที่สุดแล้วเมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไป ผมหวังว่าทุกคนจะยังอยู่ที่ตรงนั้นและจะได้มาร่วมด้วยช่วยกันสร้างประเทศนี้ขึ้นมาใหม่ครับ

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=6056834461023890&id=100000921874426


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

Meet THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน | ประจำวันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม 2564

ติดตามประเด็นร้อน กับรายการ Meet THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ทบ. มอบม้าทหารให้ชาวลำปาง ร่วมสืบสานเอกลักษณ์รถม้าคู่เมือง 

ร้อยเอกหญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้ความสำคัญในการสืบสานเอกลักษณ์วัฒนธรรมของประเทศไทย โดยเฉพาะเอกลักษณ์อันสำคัญของชาวลำปาง เมืองแห่งรถม้าที่มีความผูกพันกับประชาชนในพื้นที่มายาวนานร่วม 100 ปี และนับเป็นจังหวัดเดียวที่ยังคงมีการใช้ม้าเป็นพาหนะให้บริการประชาชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 

โดยผู้บัญชาการทหารบกได้มีดำริให้มณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมกับกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 3 กรมการสัตว์ทหารบก พิจารณาสนับสนุนม้าของกองทัพบกที่มีสุขภาพแข็งแรง ผ่านการดูแลฝึกฝนจนสามารถเสริมภารกิจด้านต่างๆ ทั้งงานพระราชพิธีและปฏิบัติการทางทหาร อาทิ การลาดตระเวนเฝ้าระวัง สกัดกั้นแนวชายแดนหรือพื้นที่ที่มีข้อจำกัดต่อการเข้าถึง และการช่วยขนย้ายบรรทุกสิ่งอุปกรณ์ต่างๆ ตลอดจนการช่วยเหลือประชาชนผ่านโครงการอาชาบำบัด, โรงเรียนสอนขี่ม้าและส่งเสริมด้านการกีฬาเพื่อสนับสนุนการแข่งขันของเยาวชนในระดับประเทศและนานาชาติ

โดยได้ร่วมกับส่วนราชการจังหวัดและชมรมขี่ม้า จ.ลำปาง สำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และดำเนินการส่งมอบม้าจำนวนทั้งสิ้น 12 ตัว พร้อมอาหารและเวชภัณฑ์ ณ โพนี่แคมป์ อ.เมือง จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา ภายใต้รูปแบบกิจกรรมสอดคล้องตามมาตรการ ศบค. เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และลดภาระประชาชนในการจัดหาม้าตัวใหม่ที่มาราคาค่อนข้างสูง ทดแทนตัวเดิมที่มีอายุและการใช้งานระยะเวลานาน 

ขณะเดียวกันทางหน่วยจะมีการติดตามข่าวสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างส่วนราชการในพื้นที่และประชาชน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการดูแลอนุรักษ์ม้า ส่งเสริมการประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้ชุมชนผ่านรถม้าบริการท่องเที่ยว และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการท่องเที่ยวจังหวัด เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวหากสถานการณ์คลี่คลายในอนาคต ตลอดจนร่วมสืบสานเอกลักษณ์รถม้าคู่เมืองให้คงอยู่สืบไป 

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นหนึ่งในภารกิจการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะในช่วงที่เผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ซึ่งกองทัพบกยืนยันจะดำรงการใช้ศักยภาพของทรัพยากรที่มีอยู่ในทุกมิติให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดเพื่อดูแลเคียงข้างประชาชน และร่วมฟื้นฟูบรรเทาทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบให้สามารถข้ามผ่านวิกฤตการณ์ กลับมาดำเนินตามสภาวะปกติสุขได้โดยเร็ว

‘ศักดิ์สยาม’ รับนโยบาย ‘บิ๊กตู่’ เร่งจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ ลดการพึ่งพาเรือต่างชาติ เพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพบริการขนส่งทางทะเล

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันพุธที่ 30 มิถุนายน 2564 ผ่านการประชุมทางไกล (Video Conference) ด้วยระบบ Zoom Cloud Meetings โดยมีนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง) อธิบดีกรมเจ้าท่า ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย และสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมประชุม โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ทำหน้าที่ ฝ่ายเลขานุการ 

นายศักดิ์สยามฯ กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้กระทรวงคมนาคม จัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ เพื่อพัฒนาการขนส่งทางทะเลของไทยให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้น กระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายที่จะให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติขึ้นมาใหม่ เนื่องจากอดีตถึงปัจจุบัน กองเรือพาณิชย์ของไทยที่ทำการขนส่งสินค้าทางทะเล มีขนาดเล็ก มีระวางบรรทุกน้อย ไม่สามารถขนส่งระยะไกล เรือสินค้าไทยมีสัดส่วนในการขนส่งสินค้าเข้า-ออกจากประเทศเพียงร้อยละ 9 และไทยต้องพึ่งพาเรือสินค้าต่างชาติถึงร้อยละ 91 ทำให้ไทยขาดดุลค่าระวางขนส่งสินค้าสูงถึงประมาณร้อยละ 90 คิดเป็นเงินประมาณ 1.33 ล้านล้านบาทต่อปี 

เมื่อกระทรวงคมนาคมมีแผนการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาค ตำแหน่งที่ตั้งของประเทศ ความเป็นศูนย์กลาง การเป็นทางผ่านของการขนส่งระหว่างภูมิภาคของโลก ย่อมเป็นความได้เปรียบและเป็นโอกาส ในขณะที่กระทรวงคมนาคม ได้เร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมาอย่างต่อเนื่อง การผลักดันการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ จะช่วยให้ไทยลดการพึ่งพาเรือต่างชาติ ลดต้นทุนการขนส่ง ลดการขาดดุลค่าระวาง และเสริมศักยภาพ การแข่งขันให้กับเรือไทย ตลอดจนช่วยให้มีการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งให้คุ้มค่า การขนส่งสินค้านำเข้าส่งออกทางทะเลจะมั่นคงและมีเสถียรภาพมากขึ้น

ดังนั้น กระทรวงคมนาคม จึงแต่งตั้งคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติขึ้น และได้กำหนดให้มีการประชุม ครั้งที่ 1 ในวันนี้ เพื่อให้คณะกรรมการ เป็นกลไกเร่งรัดการดำเนินงาน และการขับเคลื่อนเพื่อจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติให้สำเร็จโดยเร็วต่อไป 

นายศักดิ์สยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมในวันนี้ ได้พิจารณากรอบแนวทางในการดำเนินงานจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ และทางเลือกรูปแบบการดำเนินงาน รวมทั้งเห็นชอบแผนการดำเนินงาน (Action Plan) เพื่อเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งได้มอบหมายให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมในการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ และนำเสนอผลการศึกษาให้คณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเตรียมการจัดตั้งบริษัท สายการเดินเรือแห่งชาติ จำกัด โดยมีนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะทำงาน เพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล แนวทางและรูปแบบการจัดตั้งบริษัท สายการเดินเรือแห่งชาติ จำกัด ที่มีความเหมาะสม รวมทั้งประเด็นข้อกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยบข้อง เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติต่อไป

ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ได้มีข้อสั่งการให้นำเสนอความก้าวหน้าของการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ ภายใน 1 เดือน และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ 

1.) มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคม ร่วมกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย และกรมเจ้าท่า เชิญสถาบันการศึกษา เพื่อหารือเกี่ยวกับความพร้อมในการจัดเตรียมบุคลากรด้านพาณิชย์นาวี สำหรับรองรับ จัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ 

2.) มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร จัดตั้งคณะอนุกรรมการในแต่ละด้านเพื่อขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติต่อไป 

3.) มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบ การลงทุนและการถือหุ้นของบริษัทเดินเรือในประเทศต่าง ๆ เพื่อนำมาเป็นแนวทางและรูปแบบการจัดตั้ง สายการเดินเรือแห่งชาติต่อไป 

4.) มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ศึกษาแนวทางการกำหนดสิทธิประโยชน์ และการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อจูงใจให้เกิดการลงทุนและจดทะเบียนเรือในประเทศไทย

5.) มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในรูปแบบการดำเนินงานของ บริษัท สายการเดินเรือแห่งชาติ จำกัด ในกรณีที่รัฐบาลถือหุ้นบุริมสิทธิ เพื่อให้มีความคล่องตัว ในการดำเนินงานและมีอำนาจในการตัดสินใจ 

รมว.เฮ้ง ลงพื้นที่เตรียมกำลังแรงงานพร้อมเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”

รมว.เฮ้ง ลงพื้นที่เตรียมกำลังแรงงานพร้อมเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เตรียมความพร้อมกำลังแรงงาน สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล ในการเปิดประเทศเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว 

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดภูเก็ต ณ ห้องประชุมตึก 3 ชั้น สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 21 ภูเก็ต โดยมี นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายพิเชษฐ์  ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสุทา  ประทีป ณ ถลางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จังหวัดภูเก็ต 

นายประทีป ทรงลำยอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย โดย รมว.แรงงาน กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และท่านรองนายกรัฐมนตรี ท่านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงานมีความห่วงกังวลและต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลายประเทศใช้มาตรการการล็อกดาวน์หรือปิดเมือง เพื่อจำกัดการเคลื่อนที่ของผู้คนและลดการสัมผัสใกล้ชิด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อบุคคลที่อยู่ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างกะทันหัน ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงาน จึงได้กำหนดมาตรการและการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องผู้ใช้แรงงาน จึงได้เร่งรัดให้ทุกจังหวัดสำรวจความต้องการการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตน เพื่อเป็นการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการมีงานทำให้กับผู้จบการศึกษาใหม่ การพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อรองรับวิถีใหม่ โดยการ Up skill และการ Re skill การคุ้มครองสิทธิแรงงาน และการสร้างหลักประกันทางสังคม รวมถึงมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการอีกด้วย ในวันนี้ผมจึงได้ลงพื้นที่มาเพื่อประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามรายงานสถานการณ์ด้านแรงงาน และการดำเนินงานตามภารกิจกระทรวงแรงงานเพื่อเตรียมการรองรับการเปิดเมืองภูเก็ต และตรวจเยี่ยมกิจกรรมที่สอดรับการเปิดเมือง เช่น การประเมินความรู้ความสามารถสาขาช่างไฟฟ้า ทดสอบมาตรฐานสาขาช่างไฟฟ้า มอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้ผ่านการประเมินความรู้ความสามารถสาขาช่างไฟฟ้า สาธิตบาริสต้า อบรมภาษาอังกฤษผ่านระบบซูม 

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้มีการดำเนินการของหน่วยงานในพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับมาตรการดังกล่าว ได้แก่ การเตรียมตำแหน่งงานว่างรองรับสำหรับผู้ว่างงาน การฝึกอาชีพอิสระ โดยเฉพาะภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ การ Up - skill/Re - skill/New - skill เพื่อยกระดับศักยภาพกำลังแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ สร้างความรับรู้ความเข้าใจ ให้คำปรึกษาด้านแรงงานแก่สถานประกอบการเกี่ยวกับใช้ระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง การดูแลสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีผู้ถูกเลิกจ้างว่างงานจากผลกระทบโควิด-19 ตลอดจนการส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล ในการเปิดประเทศตามโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว 

รมว.แรงงาน ยังได้กล่าวส่งความห่วงใยและให้กำลังใจข้าราชการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดชายแดนภาคใต้และทุกจังหวัดในภาคใต้ที่เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom  โดยขอให้ทุกคนระมัดระวังดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงปลอดภัยจากการที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่ในตรวจแรงงานต่างด้าว การตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ ซึ่งกระทรวงแรงงานมีหน้าที่ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานให้ทันสมัย ทั้งการรับสมัครงาร อบรมฝึกอาชีพ แรงงานสัมพันธ์ การสร้างหลักประกันความมั่นคง ความปบอดภัยในการทำงานอีกด้วย

"บิ๊กตู่" ห่วงเฟกนิวส์คนป่วยโควิดภูเก็ต ทำลายบรรยากาศเปิดประเทศ วอนตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะเดินทางไปดูความเรียบร้อยในวันแรกที่จะเปิด "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" ซึ่งนายกฯ มีความกังวลเรื่องเฟกนิวส์ที่ออกมาล่าสุดว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด 5 ราย ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ได้ชี้แจงแล้วว่า ผู้ติดเชื้อดังกล่าวไม่ใช่ผู้ที่อยู่ใน จังหวัดภูเก็ต แต่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากกทม. และผ่านการคัดกรองตามระเบียบของจังหวัด ขณะนี้ผู้ป่วยทั้ง 5 รายที่ติดเชื้อก็ดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่างแล้ว

นายอนุชา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ขอให้มีการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เพื่อไม่ทำลายบรรยากาศการเตรียมความพร้อมเปิดประเทศ เพื่อให้เข้าใจตรงกันทุกอย่าง และดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการ เพื่อให้สามารถเปิดประเทศนำร่องที่จังหวัดภูเก็ตได้ จึงเป็นเรื่องที่นายกฯ อยากให้สื่อสารให้ประชาชนทุกคนได้เข้าใจ


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รมช.แรงงาน เดินหน้าปรับปรุงแผนการดำเนินงานด้านพัฒนากำลังคนของประเทศ รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve รับสถานการณ์โควิด-19

วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพในอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve ครั้งที่ 3/2564 โดยมีหม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมประชุม และนางสาวจิราภรณ์ ปุญญฤทธิ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ทำหน้าที่เลขานุการ ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ ชั้น 10 กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน

ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ เป็นการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน ตามแผนการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพในอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve เพื่อให้เกิดการผลิตและพัฒนากำลังคนรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศอย่างบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก การรวบรวมแผนงานโครงการด้านการผลิตและพัฒนาแรงงาน การวิเคราะห์ตำแหน่งงานและความต้องการแรงงาน และการจับคู่ระหว่างแผนโครงการและความต้องการแรงงาน เพื่อหาช่องว่างของการพัฒนา นำไปสู่แผนงานโครงการในอนาคต นอกจากนี้ยังได้มีการปรับแผนปฏิบัติงาน เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้งดจัดการประชุม และห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของบุคคลจำนวนรวมกันมากกว่า 20 คน ทำให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานไม่สามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้ได้ โดยในที่ประชุมได้เสนอให้มีการประชุมกลุ่มย่อยแต่ละอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ประสานข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อให้ข้อมูลมีความสมบูรณ์และเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน รวมถึงให้รายงานความก้าวหน้าในทุกสัปดาห์ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด

รมช.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมา ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve ทบทวนและเพิ่มเติมแผนงานโครงการในปี พ.ศ. 2564-2471 ให้เป็นปัจจุบันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้วิเคราะห์ตำแหน่งงานและความต้องการแรงงานเชิงปริมาณในอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve ประกอบด้วย ข้อมูลทักษะเพื่ออนาคตและตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการของแต่ละอุตสาหกรรม ข้อมูลความต้องการแรงงานใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายปี พ.ศ. 2563 ซึ่งขณะนี้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้จัดทำร่าง 2nd Function Map โดยได้หารือร่วมกับผู้แทนกลุ่มอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมดิจิทัล เพื่อพิจารณาร่างแผนตำแหน่งงานและความต้องการแรงงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“แม้ว่าในช่วงนี้สถานการณ์โควิด-19 ยังระบาดอย่างอย่างต่อเนื่อง แต่ภารกิจในการเตรียมแรงงานให้มีความพร้อมในอุตสาหกรรม S-Curve ยังคงเดินหน้าต่อไป โดยต้องปรับรูปแบบและแนวทางการดำเนินงานให้สอดรับกับสถานการณ์อย่างเหมาะสม เพื่อให้แรงงานมีทักษะ มีความรู้ความสามารถ และแข่งขันในตลาดแรงงานได้ ” รมช. แรงงงาน กล่าวทิ้งท้าย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top