Friday, 25 April 2025
NEWS FEED

รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ร่วมกิจกรรมจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ เนื่องในวันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ 

(25 มี.ค.68) รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ มอบหมายให้ น.อ.หญิง ปภัสร์พิมพ์ ชังเทศ หัวหน้ากลุ่มงานสารสนเทศและเวชระเบียนฯ ผู้แทน ผอ.รพ.ฯ พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสา เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ เนื่องในวันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า (วันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี)

โดยร่วมกิจกรรมจิตอาสา ทำความสะอาด และปรับปรุงภูมิทัศน์ ณ โดม 62 เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 

ตร.ร่วมภาคี แถลงผลการส่งคลิปกล้องหน้ารถ โครงการ “อาสาตาจราจร” เผยศาลลงโทษหนักคดีชนคนบนทางม้าลาย 

(25 มี.ค. 68) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา 
ผู้ช่วย ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์  ผู้บัญชาการศึกษา/หัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร  พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ แจ้งอริยวงศ์ รอง ผบช.สยศ.ตร. พล.ต.ต.สหัสสชัย  โลจายะ ผบก.ผค. พ.ต.อ.ฐิรวิทย์ บุษบัน รอง ผบก.จร. และ พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล. พร้อมด้วย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ คุณ กานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด(มหาชน) สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการขับเคลื่อนโครงการ อาสาตาจราจร ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 4โดยยังคงมอบเงินรางวัลให้กับเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่เป็นเหตุการณ์สำคัญที่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี หรือเป็นคลิปที่เป็นอุทาหรณ์สำคัญที่จะช่วยให้ประชาชนเกิดการตระหนักรู้ในการขับขี่ตามกฎจราจร โดยงานวันนี้ มีการมอบรางวัล ให้กับคลิปที่ได้รับการคัดเลือก ประจำเดือน ธ.ค.67 และ ม.ค.68 รวม 20 รางวัล เป็นเงินทั้งสิ้น จำนวนทั้งสิ้น 100,000 บาท  โดยบริษัท วิริยะประกันภัย เป็นผู้สนับสนุน

พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า คลิปจากประชาชนถือเป็นหลักฐานสำคัญในการติดตามผู้กระทำผิด รวมถึงสามารถนำไปใช้เป็นพยานในชั้นศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากไม่มีคลิปเหล่านี้ การจะชี้ว่าฝ่ายไหนเป็นผู้ทำผิดกฎจราจรอาจจะพิสูจน์ลำบาก แต่คลิปที่ประชาชนส่งมาทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าผู้ใดเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร เช่น คลิปจักรยานยนต์ที่เฉี่ยวชนคนเดินข้ามถนน บริเวณโรงพยาบาลสถาบันโรคไต ภูมิราชนครินทร์ ซึ่งบันทึกเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุและนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานให้กับทาง สน.พญาไท ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ ฟ้องศาลในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยศาลวางข้อกำหนดให้ชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 240,500 บาท  หรือคลิปจักรยานยนต์ฝ่าฝืนมาขับขี่ในช่องทางด่วนบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต เฉี่ยวชนกับรถยนต์ที่แซงช่องทางด้านซ้ายโดยผิดกฎหมาย  ซึ่งคลิปนี้เป็นตัวอย่างของการฝ่าฝืนกฎจราจรทั้งสองฝ่ายจนเกิดอุบัติเหตุ  
สำหรับโครงการนี้มุ่งหวังให้ประชาชนช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ปลอดภัย สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถส่งคลิปมายังช่องทาง เพจอาสาตาจราจร เพจตำรวจทางหลวง เพจกองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ได้แก่เพจมูลนิธิเมาไม่ขับ, สวพ.91 และ จส.100  คลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจผ่านการคัดเลือก นอกจากได้รับเงินรางวัลแล้วยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ช่วยส่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด เป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน

ทางด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันนอกจากการบังคับใช้กฎหมายแล้ว มาตรการ Social Sanction เป็นอีกมาตรการหนึ่ง ที่ช่วยสร้างการตระหนักให้ผู้ใช้ทางปฏิบัติตามกฎจราจร เพราะหากฝ่าฝืนกฎหมายเมื่อไร จะมีตาจราจรคอยบันทึกเหตุการณ์ นอกจากส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแล้ว ยังอาจมีคลิปปรากฏในสื่อโซเชียลได้อีก ดังนั้นจะทำให้เกิดความยับยั้งชั่งไม่ทำผิดกฎจราจร และยืนยันพร้อมขับเคลื่อนโครงการนี้ต่อไปเป็นปีที่ 4 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ที่จะช่วยกันสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน ขอให้ปฏิบัติตามกฎจราจรโดยเคร่งครัด  โดยเฉพาะข้อหาความผิดเน้นหนัก ได้แก่ ดื่มแล้วต้องไม่ขับ รัดเข็มขัด และสวมหมวกนิรภัย ปฏิบัติตาม สัญญาณไฟ และขับรถตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัย บนท้องถนน ร่วมกัน   

การอบรมหลักสูตรอาชีพเพื่อเลื่อนฐานะ ชั้นจ่าเอก พรรคนาวิน เหล่าทหารขนส่ง กรมการขนส่งทหารเรือ

(22 มี.ค. 68) กรมการขนส่งทหารเรือ โดย นาวาเอก เทพกร อินทร ผู้อำนวยการกองวิทยาการกรมการขนส่งทหารเรือ พร้อมคณะครู ได้นำนักเรียนหลักสูตรอาชีพเพื่อเลื่อนฐานะชั้นจ่าเอก พรรคนาวิน เหล่าทหารขนส่ง จำนวน 33 นาย เข้าศึกษาดูงานการผลิตรถยนต์โดยสาร ณ บริษัท อู่เชิดชัยอุตสาหกรรม จำกัด อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

ซึ่งการศึกษาและดูงานนอกหน่วยในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์ให้กับผู้เข้ารับการอบรมได้ทราบถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ในสายวิทยาการขนส่ง และได้รับความรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตยานยนต์  ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ในด้านงานส่งกำลังบำรุง เพื่อมาประยุกต์ใช้ในสายวิชาชีพต่อไป

#กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ
#เทิดทูนสถาบัน_ป้องกันรัฐ_พัฒนาชาติ_ราษฎร์ศรัทธา
#กรมการขนส่งทหารเรือ

เชียงใหม่-กองบิน 41 จัดพิธีส่งข้าราชการและทหารกองประจำการไปปฏิบัติราชการสนาม

(24 มี.ค. 68) นาวาอากาศเอก ปรธร จีนะวัฒน์ ผู้บังคับการกองบิน 41 เป็นประธานในพิธีส่งข้าราชการและทหารกองประจำการไปปฏิบัติราชการสนาม พร้อมทั้งให้โอวาทเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่กำลังพลในการเดินทางไปราชการสนาม โดยมีหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองบิน 41 ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ หอประชุมเดชะตุงคะ กองบิน 41
     
ทั้งนี้ ได้มีข้าราชการและทหารกองประจำการในสังกัดกองบิน 41 ที่ไปปฏิบัติราชการสนาม ณ ฝูงบิน 416 (เชียงราย) และสถานีรายงานดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ในวาระ 1 เมษายน 2568 รวมจำนวนทั้งสิ้น 38 คน โดยในพิธี ได้ทำการนิมนต์พระสงฆ์ มาประพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ข้าราชการและทหารกองประจำการที่ไปปฏิบัติราชการสนามในครั้งนี้

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนสมาคมแม่บ้านตำรวจ เยี่ยมบำรุงขวัญตำรวจฮีโร่ บาดเจ็บจากการเตะวัตถุระเบิดที่ถูกผู้ไม่หวังดีโยนเข้ามาในกองร้อยควบคุมฝูงชน เพื่อปกป้องประชาชนและเพื่อนตำรวจ

(25 มี.ค.68) เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ ระดับ ตร./ประธานที่ปรึกษาโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” (ด้านตำรวจทุพพลภาพ) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 , ผศ.ดร.สุเนตร สุวรรณละออง รองประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 รักษาราชการแทนประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 , พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี , พล.ต.ต.ประเสริฐ วิจิตรทัศนา ผู้บังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 2 และคณะแม่บ้านชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมเดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจ ร.ต.อ.ธีระเดช เล็กภู่ รองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรแสนสุข ณ บ้านพัก อ.เมือง จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ ร.ต.อ.ธีระเดช เล็กภู่ ฮีโร่ผู้กล้าหาญที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน โดยการเตะวัตถุระเบิดจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่โยนเข้ามาในกองร้อยควบคุมฝูงชนที่ตั้งด่านอยู่ในพื้นที่สะพานผ่านฟ้า กรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2557 เหตุการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเสียสละและความกล้าหาญของ ร.ต.อ.ธีระเดชฯ ที่พร้อมปกป้องประชาชนและเพื่อนข้าราชการตำรวจ และรักษาความสงบเรียบร้อย แม้ต้องเผชิญกับอันตรายถึงชีวิต

ในการเยี่ยมครั้งนี้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ฯ และ คุณนภัสนันท์ฯ ได้มอบสิ่งของอุปโภคบริโภค และเงินช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , คุณกนกวรรณ พันธุ์เพ็ชร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ , สมาคมแม่บ้านตำรวจ , ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และเงินช่วยเหลือส่วนตัว เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ ร.ต.อ.ธีระเดชฯ และครอบครัว พร้อมทั้งชื่นชมในความเสียสละและทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่

พล.ต.ท.ธนายุตม์ฯ กล่าวว่า ร.ต.อ.ธีระเดชฯ เป็นตัวอย่างของตำรวจที่กล้าหาญและเสียสละ สำนักงานตำรวจแห่งชาติชื่นชมในความกล้าหาญ และขอเป็นกำลังใจให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว

คุณนภัสนันท์ฯ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้เห็นถึงความเสี่ยงและความยากลำบากในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ แต่พวกเขาก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะปกป้องประชาชนและรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม สมาคมแม่บ้านตำรวจพร้อมให้การสนับสนุนและดูแลครอบครัวของตำรวจที่เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ โดยจะอยู่เคียงข้างเสมอ

ปิด โครงการ 'แด่น้องผู้มีความหวัง' ปีที่ 32 

เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.68) น.อ.หญิง อัญชลี  ลี้พูลทรัพย์ หน.กลุ่มงานรังสีวิทยา ผู้แทน ผอ.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พร. ร่วมพิธีปิด โครงการ “แด่น้องผู้มีความหวัง” ปีที่ 32

โดยมี พล.ร.ต.นิรัตน์ ทากุดเรือ รอง ผบ.นย. เป็นประธาน ณ อาคารมะรีนฮอลล์ ศฝ.นย. ค่ายกรมหลวงชุมพร อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี 

ผบช.ภ.2 ยกย่อง 'ฮีโร่' ตำรวจสายตรวจ สภ.บ้านบึง ปั๊มหัวใจช่วยฟื้นชีวิต ด.ญ.จมน้ำ  ชื่นชมมีทักษะ ช่วยประชาชนอย่างสุดความสามารถ

(25 มี.ค.68) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2)  เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก สภ.บ้านบึง จังหวัดชลบุรี ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา ร.ต.ต.ประวัฒน์ สิงห์ผดุงศักดิ์ รอง สวป. สภ.บ้านบึง ตำรวจสายตรวจ สภ.บ้านบึง ได้ช่วยเหลือทำการ CPR ช่วยปั๊มหัวใจเด็กหญิงวัย 12 ปีที่จมน้ำ จนสามารถฟื้นคืนชีพกลับมามีลมหายใจ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลช่วยชีวิตไว้ได้ทัน ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ร.ต.ต.ประวัฒน์ ที่มีทักษะความรู้ด้านการช่วยชีวิตและเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ถูกวิธี มีสติ และมีความพยายามในการช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดความสามารถ จนสามารถช่วยชีวิตเด็กหญิงได้

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568 เวลา 15.10 น. ตำรวจ สภ.บ้านบึง รับแจ้งเหตุมีเด็กจมน้ำในพื้นที่สระน้ำส่วนบุคคล ตำรวจสายตรวจมาบไผ่ สังกัด สภ.บ้านบึง กับอาสาสมัครกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง  จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พบเด็กหญิงวัย 12 ปี ถูกช่วยขึ้นมาจากสระน้ำอยู่ในอาการหมดสติ จึงเข้าไปช่วยทำ CPR ปั๊มหัวใจ จนเด็กหญิงมีสัญญาณชีพฟื้นคืนมา กระทั่งรถกู้ชีพ รพ.บ้านบึง ไปถึงที่เกิดเหตุนำตัวเด็กหญิงขึ้นรถนำตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาล ขณะนี้ทราบว่าอยู่ในการดูแลของแพทย์และอาการดีขึ้นตามลำดับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของผู้ปกครองที่เฝ้าลุ้นระทึกหวังให้ลูกหลานของตัวเองปลอดภัย โดยได้แสดงความดีใจ และขอบคุณตำรวจบ้านบึงที่เป็นเหมือนฮีโร่ให้การช่วยเหลือช่วยชีวิตเด็กหญิงในครั้งนี้

“ต้องชื่นชม ร.ต.ต.ประวัฒน์ ที่ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ เป็นแบบอย่างที่ดีของตำรวจในการทำหน้าที่ช่วยเหลือดูแลประชาชนให้พ้นภัย และที่สำคัญมีทักษะความรู้ด้านการทำ CPR กู้ชีพซึ่งเป็นทักษะ ความรู้ที่ตำรวจทุกนายต้องมี เพื่อสามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างถูกวิธี” ผบช.ภ.2 กล่าว 

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวด้วยว่า ฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่านช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน เด็กมักเที่ยวเล่นน้ำ คลายร้อน และพบว่าช่วงเวลานี้ของทุกปี มีสถิติเด็กจมน้ำจำนวนมาก จึงขอให้ผู้ปกครองดูแลใส่ใจกวดขันเด็กในการดูแลของท่านเป็นพิเศษ มิให้ไปเล่นน้ำในพื้นที่เสี่ยงอันตราย น้ำลึก เชี่ยว ควรมีอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ห่วงยาง เสื้อชูชีพ เพื่อความปลอดภัย และอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่อยู่เสมอ ทั้งนี้หากมีเหตุฉุกเฉินต้องการความช่วยเหลือให้โทรหาตำรวจได้ที่ โทร.191 ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมดูแล ประชาชนด้วยความเต็มใจ

ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดี - ฟันวินัยเด็ดขาด ด.ต.หัวร้อน ภ.2 แจ้งข้อหาหนัก ชื่นชม “รองสารวัตร” เข้าระงับเหตุรวดเร็ว กล้าหาญ

(25 มี.ค. 68) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) เปิดเผยว่า จากกรณี ด.ต.กิตติศักดิ์ ฯ  สังกัด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับอดีตแฟนสาว และทำร้ายตำรวจสายตรวจ สภ.สัตหีบ ที่เข้าไประงับเหตุ จนทำให้ ร.ต.ต.พาสกร ภาชูระเบียบนา รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.สัตหีบ จว.ชลบุรี ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจตู้ยามเตาถ่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส นั้น ได้รายงาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ทราบ ซึ่ง ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ตรงไปตรงมา พร้อมกำชับให้ดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด ตรงไปตรงมา พร้อมกำชับให้ดำเนินการทางวินัยอย่างเฉียบขาดด้วย

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีว่า หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.คมสรร คำตุ่นแก้ว ผกก.สภ.สัตหีบ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งคุมตัวผู้ก่อเหตุ กระทั่งเวลา 05.00 น. ด.ต.กิตติศักดิ์ เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ จึงได้ทำการสอบสวนเบื้องต้น ดำเนินคดีข้อหา “เข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข โดยใช้กำลังประทุษร้าย ในเวลากลางคืน, ทำให้เสียทรัพย์, ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส” โดยตนกำชับให้ดำเนินคดีอย่างรอบคอบ ย้ำว่าแม้เป็นตำรวจก็ไม่มีการช่วยเหลือกัน ยิ่งเป็นตำรวจแล้วทำผิดเสียเองต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ส่วนการดำเนินการทางวินัย เป็นเรื่องของหน่วยต้นสังกัดที่จะดำเนินการต่อไป
 
ผบช.ภ.2 กล่าวด้วยว่า ต้องชื่นชม ร.ต.ต.พาสกร ที่เข้าระงับเหตุอย่างทันท่วงที โดยวันนี้ได้ มอบหมายให้  พ.ต.อ.อรรถพล  พงษ์สุพรรณ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบรี เป็นผู้แทนมอบเงินช่วยเหลือจากกองทุน Police Award และมอบกระเช้าเยี่ยมไข้เป็นการให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่และขอให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยไว 

“ชื่นชมในการทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่เข้าไปช่วยเหลือแก้ปัญหา ระงับเหตุความเดือดร้อนของประชาชนอย่างรวดเร็ว ด้วยความกล้าหาญ แม้ว่าตัวเองจะเสี่ยงอันตราย และจากนี้กำชับให้ตำรวจสายตรวจเพิ่มความระมัดระวังในการเข้าระงับเหตุ โดยเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย” ผบช.ภ.2 กล่าว

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจ สภ.สัตหีบ ที่บาดเจ็บจากการระงับเหตุทะเลาะวิวาท

(25 มี.ค. 68) เวลา 16.30 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ ระดับ ตร./ประธานที่ปรึกษาโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” (ด้านตำรวจทุพพลภาพ) พร้อมด้วย ผศ.ดร.สุเนตร สุวรรณละออง รองประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 รักษาราชการแทนประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 , พ.ต.อ.อรรถพล พงษ์สุพรรณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และคณะแม่บ้านชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจ ร.ต.ต.ภาสกร ภาชูระเบียบนา รอง สวป.สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ขณะเข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาทและช่วยเหลือหญิงสาวคนหนึ่ง ที่บ้านพักในพื้นที่หมู่ 4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและชิงอาวุธปืน แล้วหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ 

ในโอกาสนี้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ฯ พร้อมด้วย คุณนภัสนันท์ฯ , ผศ.ดร.สุเนตรฯ และคณะแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 ได้มอบสิ่งของอุปโภคบริโภคและเงินช่วยเหลือ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ ร.ต.ต.ภาสกรฯ ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว

จีน-ไทย เตรียมซ้อมรบทางทะเล ปลายมีนาคมนี้ ยกระดับความร่วมมือทางทหาร เสริมศักยภาพป้องกันภัยคุกคาม

(24 มี.ค. 68) กระทรวงกลาโหมของจีนได้เปิดเผยในวันนี้ว่า จีนและไทยกำลังเตรียมจัดการซ้อมรบทางทะเลร่วมกันใกล้กับเมืองจ้านเจียง ในมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของจีน ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนนี้

การซ้อมรบดังกล่าวจะเป็นการฝึกฝนร่วมกันระหว่างกองทัพเรือของทั้งสองประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงและการป้องกันภัยคุกคามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเป้าหมายหลักในการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานร่วมกันในภาวะสงครามทางทะเลและการจัดการกับภัยคุกคามทางทะเลในอนาคต

กระทรวงกลาโหมจีนระบุว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะมีการฝึกปฏิบัติทางยุทธวิธี การฝึกซ้อมการป้องกันภัยคุกคามจากเรือดำน้ำ การป้องกันจากการโจมตีทางอากาศ รวมถึงการฝึกการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในสถานการณ์ฉุกเฉิน

และครั้งนี้ถือเป็นการขยายความร่วมมือด้านการทหารระหว่างจีนและไทย ซึ่งทั้งสองประเทศต่างมองว่าความมั่นคงในภูมิภาคเป็นเรื่องสำคัญ การฝึกซ้อมร่วมกันจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในด้านยุทธศาสตร์และปฏิบัติการร่วมในสถานการณ์จริง

ทั้งนี้ การฝึกซ้อมครั้งนี้มีความสำคัญในการแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างจีนและไทย โดยเฉพาะในด้านการทหารและการรักษาความสงบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ การซ้อมรบทางทะเลร่วมกันจะเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งสองประเทศสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีทางทหาร พร้อมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียและโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top