Sunday, 28 April 2024
NEWS FEED

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (4 มกราคม พ.ศ. 2564)

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน โดยประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 745 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 8,439 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 65 ราย รักษาหายเพิ่ม 15 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 4,352 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 4,022 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 745 ราย เป็น ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จากอิตาลี 2 ราย ,รัสเซีย 1 ราย ,สหราชอาณาจักร 3 ราย ,อียิปต์ 1 ราย ,อินเดีย 1 ราย ,สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย ,ญี่ปุ่น 1 ราย ,ตุรกี 2 ราย ,เอธิโอเปีย 1 ราย ,สวีเดน 3 ราย

ผู้ติดเชื้อในประเทศ จำนวน 152 ราย

ผู้ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว (คัดกรองเชิงรุกในชุมชน) 577 ราย

ขณะเดียวกันสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการอัพเดทดังนี้

ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 172 ราย รักษาหายแล้ว 149 ราย เสียชีวิต 3 ราย

ประเทศกัมพูชา ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 382 ราย รักษาหายแล้ว 362 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศอินโดนีเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 7.65 แสน ราย รักษาหายแล้ว 6.32 แสน เสียชีวิต 22,734 ราย

ประเทศลาว ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 41 ราย รักษาหายแล้ว 40 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศมาเลเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.19 แสน ราย รักษาหายแล้ว 97,218 ราย เสียชีวิต 494 ราย

ประเทศพม่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.26 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.1 แสน ราย เสียชีวิต 2,728 ราย

ประเทศฟิลิปปินส์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 4.78 แสน ราย รักษาหายแล้ว 4.48 แสน ราย เสียชีวิต 9,257 ราย

ประเทศสิงคโปร์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 58,697 ราย รักษาหายแล้ว 58,487 ราย เสียชีวิต 29 ราย

ประเทศเวียดนาม ยอดรวมติดเชื้อ 1,494 ราย รักษาหายแล้ว1,339 ราย เสียชีวิต 35 ราย

กองทัพเรือ ส่งมอบโรงพยาบาลสนามพลเรือนแห่งที่ 2 สนามฝึกทร.บ้านจันทเขลม ให้แก่สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี ใช้งานรองรับผู้ป่วยโควิด-19

พล.ร.ท.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า พล.ร.ต.นพดล ฐิตวัฒนะสกุล ผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นผู้แทนกองทัพเรือ ส่งมอบโรงพยาบาลสนามให้แก่สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี เพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลสนามในพื้นที่จ.จันทบุรี โดยมีนายฤหัส ไชยศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และนพ.อภิรักษ์ พิศุทธิ์อาภรณ์ สาธารณสูขจังหวัดจันทบุรี เป็นผู้ร่วมรับมอบ ที่สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 16 บ้านจันทเขลม ต.จันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี

สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในพื้นที่จ.จันทบุรี มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่เนื่องด้วยโรงพยาบาลในจังหวัดเหลือจำนวนเตียงที่ใช้สำหรับรองรับผู้ป่วยติดเชื้อเพียง 31 เตียงเท่านั้น จ.จันทบุรีจึงได้ขอความอนุเคราะห์กองทัพเรือใช้สถานที่เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม

โดยผู้ป่วยที่จะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ จะเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลจนมีอาการดีขึ้น หรือไม่มีอาการรุนแรง และจะทำการรักษาในโรงพยาบาลสนามจนกว่าจะมีผลเป็นลบหรือตรวจไม่พบเชื้อ

อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลสนามนี้มีจำนวน 6 อาคาร ประกอบด้วย อาคารควบคุม 1 อาคาร อาคารรับผู้ป่วย จำนวน 4 อาคาร และอาคารประกอบเลี้ยง 1 อาคาร สามารถรองรับผู้ป่วยได้สูงสุด 232 คน ซึ่งกองทัพเรือได้จัดเตรียมสถานที่เป็นโรงพยาบาลสนาม กรณีเกินขีดความสามารถในการรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลหลักในพื้นที่จ.ระยอง ชลบุรี และจันทบุรี จำนวน 3 แหล่ง ประกอบด้วย ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า สนามฝึกกองทัพเรือ บ้านจันทเขลม และศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง

โควิด-19 ป่วนลีกบอลไทย งดเตะยาวทั้งเดือนมกราคม

โควิด-19 พ่นพิษไปทั่ว ไม่เว้นวงการฟุตบอลไทย ล่าสุดสมาคมฟุตบอลไทยประกาศเลื่อนโปรแกรมเตะตลอดเดือนมกราคมทั้งหมด โดยจะมีผลทั้งไทยลีก 1 ไทยลีก 2 และไทยลีก 3 ทั้งนี้โปรแกรมที่ถูกเลื่อนออกไป เบื้องต้นทางสมาคมจะย้ายให้ไปเตะในช่วงสัปดาห์ฟีฟ่าเดย์ (สัปดาห์ที่ลีกหยุด และเปิดให้ทีมชาติได้เตะอุ่นเครื่อง หรือกระชับมิตร) รวมถึงนำไปไว้ในช่วงกลางสัปดาห์แทน

ก่อนหน้านี้ ฟุตบอลลีกไทยถูกเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเตะใหม่ทั้งหมดมาแล้วในช่วงโควิด-19 ระบาดเมื่อช่วงต้นปีก่อน และล่าสุดนี้ ก็เพิ่งมีการเลื่อนออกไปอีก ย่อมส่งผลกระทบต่อโปรแกรมฟุตบอลทีมชาติอย่างหลีกเลี่ยงไมได้

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลั่น ไร้บ่อนในกทม. ย้อนอธิบดีกรมควบคุมโรค ถ้ามีคนติดโควิดจากบ่อน ให้มาบอก พร้อมโยนเป็นหน้าที่ตำรวจ เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีที่นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคระบุว่า สอบสวนพบผู้ติดเชื้อมาจากบ่อนพนันในกทม.นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "อันนี้ไม่ทราบต้องถามนพ.โอภาสดู ถ้ารู้ก็ต้องมาบอก เรื่องของบ่อนไม่มีแล้วเพราะผิดกฎหมาย และตำรวจท้องที่ต้องดูแลให้ไม่มี"

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงความร่วมมือของประชาชนต่อมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า "ต้องขอขอบคุณประชาชนทั่วไป ที่ช่วยกันดูแลในเรื่องนี้และให้ความร่วมมือกับทางราชการ ในการดูแลตัวเอง เพราะเราไม่อยากให้ระบาดออกไป"

ส่วนแนวโน้มการแพร่ระบาดของเชื้อยังเป็นไปอย่างต่อเนื่องหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ก็ธรรมดา เพราะมีการเดินทางกันไปไหนต่อไหน เวลานี้ก็พยายามอย่าออกจากบ้าน เพื่อดูแลไม่ให้เกิดการระบาดออกไป"

ส่วนการลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนเพิ่มขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า "ไม่มีแล้วเพราะเราใช้กำลังทหารเพิ่มมากขึ้น และความจริง การดูแลเราก็ทำมานานแล้ว ซึ่งก็เกิดมาจากจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดระยอง ที่เราจะต้องดูแลให้มากและประชาชนต้องให้ความร่วมมือกับรัฐให้มากขึ้น สำหรับเรื่องการตั้งโรงพยาบาลสนาม เวลานี้ก็เรียบร้อยแล้ว"

ครม.มีมติเห็นชอบ ผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน และเลี่ยงการนำเข้าแรงงานต่างด้าว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งในกลุ่มคนไทยและคนต่างด้าวเป็นจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลโดยการนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงกังวลเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้ทำงานอย่างถูกต้อง และมีการหลบหนีเนื่องจากเกรงกลัวความผิด จึงควรมีการกำหนดมาตรการตรวจสอบ คัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค

ทั้งนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันกำหนดมาตรการ เฝ้าระวัง ติดตาม ควบคุม และป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรค จนส่งผลกระทบต่อชีวิต และสุขภาพอนามัยของประชาชนคนไทยและแรงงานต่างด้าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ เรื่อง การผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนเพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม ควบคุม และป้องกัน มิให้ส่งผลกระทบต่อชีวิต และสุขภาพอนามัยของประชาชนคนไทย โดยการผ่อนผันให้

1.) คนต่างด้าวที่มีนายจ้าง/สถานประกอบการ ประสงค์จ้างงาน

2.) คนต่างด้าวที่ยังไม่มีนายจ้าง/สถานประกอบการจ้างงาน

และ 3.) ผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวดังกล่าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายออกประกาศกระทรวงมหาดไทยและประกาศกระทรวงแรงงาน และคนต่างด้าวทั้ง 3 ประเภทข้างต้น ต้องดำเนินการตามแนวทางที่ประกาศทั้ง 2 ฉบับกำหนด เพื่อให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566

"นายจ้าง/สถานประกอบการ ต้องดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดเพื่อขอใบอนุญาตทำงาน และจัดทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ดังนี้

1.) คนต่างด้าวที่มีนายจ้าง/สถานประกอบการ ประสงค์จ้างงาน รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวดังกล่าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี

- นายจ้าง/สถานประกอบการ ดำเนินการแจ้งรายชื่อคนต่างด้าว ผ่านระบบออนไลน์ โดยต้องยื่นเอกสารหลักฐานและรูปถ่ายคนต่างด้าว ตามที่กรมการจัดหางานกำหนด ระหว่างวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

- นายจ้าง/สถานประกอบการ พาคนต่างด้าวเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด – 19 และตรวจสุขภาพโรคต้องห้าม กับโรงพยาบาลที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และซื้อประกันสุขภาพเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยต้องดำเนินการภายในวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2564

- นายจ้าง/สถานประกอบการชำระค่าคำขอและค่าธรรมเนียมการอนุญาตทำงานผ่าน เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือ ธนาคารกรุงไทย จำนวน 1,900 บาท และยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวผ่านระบบออนไลน์ ให้กับคนต่างด้าวที่ผ่านการตรวจคัดกรองโควิด – 19 และโรคต้องห้าม พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานตามที่กรมการจัดหางานกำหนด ภายในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2564

- คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงาน จะต้องไปจัดทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่มีใบอนุญาตทำงานอยู่ด้านหลังของบัตรสีชมพู ตามวิธีการและขั้นตอนที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด ภายในวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

2.) คนต่างด้าวที่ยังไม่มีนายจ้าง/สถานประกอบการจ้างงาน รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวดังกล่าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี

- คนต่างด้าวต้องยื่นเอกสารหลักฐานและรูปถ่ายตามที่กรมการจัดหางานกำหนด ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งมี 4 ภาษา คือ ไทย กัมพูชา ลาว เมียนมา ระหว่างวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

- คนต่างด้าวจะใช้แบบแจ้งข้อมูลบุคคล ในการเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด – 19 และตรวจสุขภาพโรคต้องห้าม กับโรงพยาบาลที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และซื้อประกันสุขภาพเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยต้องดำเนินการภายในวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2564

- คนต่างด้าวที่ผ่านการตรวจโรค จะต้องไปจัดทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ตามวิธีการและขั้นตอนที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดภายในวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2564 (คนต่างด้าวจะได้รับใบจัดทำทะเบียนประวัติ (ทร 38/1) เป็นหลักฐาน โดยที่ยังไม่ได้รับบัตรสีชมพู)

- คนต่างด้าวหานายจ้าง และลงทะเบียนรายชื่อคนต่างด้าวกับกรมการจัดหางาน และใช้บัญชีรายชื่อที่ได้การอนุมัติจากกรมการจัดหางาน ชำระเงินค่าคำขอและค่าธรรมเนียมการอนุญาตทำงานผ่าน เคาน์เตอร์เซอร์วิส และ ธนาคารกรุงไทย จำนวน 1,900 บาท และให้นายจ้าง/สถานประกอบการ ยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวผ่านระบบออนไลน์ ให้กับคนต่างด้าวที่ผ่านการตรวจคัดกรองโควิด – 19 และโรคต้องห้าม พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานตามที่กระทรวงแรงงานกำหนด ภายในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2564

- คนต่างด้าวไปปรับปรุงประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ที่มีใบอนุญาตทำงานอยู่ด้านหลังของบัตรสีชมพู ตามวิธีการและขั้นตอนที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด

สำหรับคนต่างด้าวที่ทำงานในกิจการประมงทะเล จะต้องไปจัดทำหนังสือ คนประจำเรือ หรือ Seabook (เล่มสีเขียว) กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง) โดยมีค่าธรรมเนียม 100 บาท และเมื่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง) พิจารณาเรียบร้อยแล้วคนต่างด้าวจะได้รับหนังสือคนประจำเรือ หรือ Seabook (เล่มสีเขียว) เป็นหลักฐาน ใช้คู่กับบัตรสีชมพูในการอยู่และทำงานในประเทศ" นายสุชาติฯ กล่าว

ทั้งนี้ นายจ้าง/สถานประกอบการ และคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 หรือที่ไลน์ @Service_Workpermit หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน ซึ่งมีการจัดล่ามในภาษากัมพูชา เมียนมา และอังกฤษ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร และแนะนำวิธีการดำเนินการ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 12 ปี ที่ Bitcoin ได้เปิดตัวระบบ cryptocurrency เงินดิจิตอลระบบใหม่ที่เคลมว่าจะเป็นเงินแห่งโลกอนาคตที่จะสามารถใช้แทนค่าเงินสกุลต่าง ๆ ได้ทั่วโลก

หลังจากผ่านมา 12 ปี วันนี้ Bitcoin ก็สร้างปรากฏการณ์พุ่งทะลุผ่าน 34,000 ดอลลาร์/ 1 บิทคอยน์ สร้างความฮือฮาในหมู่นักลงทุนเป็นอย่างมาก และเป็นมูลค่าสูงสุดตั้งแต่เปิดตัวสกุลเงินทีเดียว ซึ่งเป็นมูลค่าที่พุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ Bitcoin พุ่งผ่านเพดาน 20,000 ดอลลาร์/บิทคอยน์ ไปเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม 2020 และใช้เวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์ ที่มูลค่าของ Bitcoin ขึ้นมาทำ New High ใหม่ ที่ 34,000/บิทคอยน์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนฟันธงแล้วว่า ปีนี้ 2021 Bitcoin มาแน่ และมันจะกลายเป็นเงินสกุลหลักที่ใช้อย่างแพร่หลายอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้

แต่ก็มีความเห็นอีกฝ่ายออกมาบอกว่า การที่มูลค่าของ Bitcoin พุ่งทะยานอย่างก้าวกระโดดนั้น มาจากการที่ Paypal กระโดดเข้ามาร่วมวงโดยให้ทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันผ่านทางเว็บไซท์ Paypal ได้ง่ายๆ ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ที่ตกต่ำ ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะไปถือ Bitcoin กันมากขึ้น

ดังนั้นอนาคตของ Bitcoin ยังต้องดูกันอีกในระยะยาว เพราะ Bitcoin ก็เคยมีช่วงที่มูลค่าดิ่งเหวเกือบ 50% เหลือเพียง 6,000 ดอลลาร์/บิทคอยน์ เท่านั้นตอนปี 2018 ที่ว่ากันว่าเป็นยุคฟองสบู่แตกของ Bitcoin

แต่ก็มีนักลงทุนก็ยังยืนยันว่า ยังไง Bitcoin ก็มาแน่ รวมถึงเงินสกุลดิจิตอลอื่น ๆ ที่จะกลายเป็นยุคเปลี่ยนผ่านสู่โลกแห่งเศรษฐกิจการเงินยุคใหม่

แต่ทั้งนี้ทุกอย่างก็เป็นเพียงการคาดเดา และทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ในปี 2021 Bitcoin จะมาแน่หรือไม่ ไม่มีใครทราบแต่ที่แน่ๆ คือแมลงเม่ามาแล้ว


แหล่งข้อมูล

https://www.theguardian.com/.../bitcoin-hits-record-high...

https://newsroom.paypal-corp.com/2020-10-21-PayPal...

https://en.m.wikipedia.org/wiki/Cryptocurrency_bubble

เครดิต : หรรสาระ By Jeans Aroonrat

เวียดนามฉลองปีใหม่ 2021 สุดคึกคัก

1 ปีที่เกิดโควิด-19 ..

แต่ไม่สามารถหยุดจิตวิญญาณของผู้คนไปร่วมตัวกันนับพัน

เพื่อรอต้อนรับปี 2021 บนท้องถนน

ในฮานอย โฮจิมินห์ และ ท้องถิ่นอื่น ๆ

ประชาชนต่างหลั่งไหลไปยังสถานที่ในตัวเมืองจำนวนมาก

เพื่อเพลิดเพลินกับคอนเสิร์ตกลางแจ้งและการแสดงพลุที่สุดยอด

ในการเฉลิมฉลองช่วงปีใหม่


เครดิต VnExpress International

เรื่องโดย: หนุ่มโคราช

สมาคมธนาคารไทยชี้แจง หากประชาชนต้องการแลกเปลี่ยนธนบัตรที่ระลึกเป็นธนบัตรหมุนเวียนปกติ สามารถติดต่อขอแลกหรือนำฝากได้ที่สาขาธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง

สมาคมธนาคารไทย โดยนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ชี้แจงกรณีมีข่าวประชาชนนำธนบัตรที่ระลึกไปแลกที่สาขาธนาคารและสาขาธนาคารไม่รับแลก ดังนี้

1.) ธนบัตรที่ระลึกชนิดราคา 1000 บาท และ 100 บาท สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเช่นเดียวกับธนบัตรหมุนเวียนปกติทุกประการ

2.) สาขาธนาคารสามารถให้บริการรับฝาก แลก และรับชำระหนี้ได้ตามปกติ เช่นเดียวกับธนบัตรหมุนเวียนปัจจุบัน

3.) ธนบัตรที่ระลึกรุ่นนี้ ปัจจุบันไม่สามารถใช้กับเครื่องรับฝากเงินอัตโนมัติได้ เพราะแต่ละธนาคารต้องมีการแก้ไขและปรับปรุงโปรแกรม ให้สามารถตรวจสอบธนบัตรที่ระลึกที่เครื่องรับฝากเงินอัตโนมัติทั่วประเทศ

เนื่องจากธนบัตรที่ระลึก มีการจัดพิมพ์ในปริมาณจำกัด ดังนั้น หากประชาชนต้องการฝากธนบัตรที่ระลึก สามารถติดต่อขอฝากได้ที่สาขาของธนาคารทั่วประเทศ

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สาขา หรือ Call Center ของธนาคารที่ท่านใช้บริการ

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (3 มกราคม พ.ศ.2564)

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน โดยประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 315 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 7,694 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 64 ราย รักษาหายเพิ่ม 38 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 4,337 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3,293 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 315 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จากบาร์เรน 1 ราย ,ปากีสถาน 3 ราย , คูเวต 1 ราย,สหรัฐอเมริกา 4 ราย ,รัสเซีย 2 ราย ,อิตาลี 1 ราย,อินโดนีเซีย 1 ราย ,กาตาร์ 2 ราย ,อียิปต์ 3 ราย,เอธิโอเปีย 1 ราย , อินเดีย 1 ราย ,สหราชอาณาจักร 1 ราย

ผู้ติดเชื้อในประเทศ จำนวน 274 ราย

ผู้ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว (คัดกรองเชิงรุกในชุมชน) 20 ราย

ขณะเดียวกันสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการอัพเดทดังนี้

ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 157ราย รักษาหายแล้ว 149 ราย เสียชีวิต 3 ราย

ประเทศกัมพูชา ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 381 ราย รักษาหายแล้ว 362 ราย  ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศอินโดนีเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 7.58 แสน ราย รักษาหายแล้ว 6.26 แสน เสียชีวิต 22,555 ราย

ประเทศลาว ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 41 ราย รักษาหายแล้ว 40 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศมาเลเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.17 แสน ราย รักษาหายแล้ว 94,492 ราย เสียชีวิต 483 ราย

ประเทศพม่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.26 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.09 ราย เสียชีวิต 2,711 ราย

ประเทศฟิลิปปินส์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 4.77 แสน ราย รักษาหายแล้ว 4.4 แสน ราย เสียชีวิต 9,253  ราย

ประเทศสิงคโปร์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 58,662 ราย รักษาหายแล้ว 58,476 ราย เสียชีวิต 29 ราย

ประเทศเวียดนาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1,482 ราย รักษาหายแล้ว1,337 ราย เสียชีวิต 35 ราย

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (2 มกราคม พ.ศ.2564)

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน โดยประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 216 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 7,379 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 64 ราย รักษาหายเพิ่ม 26 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 4,299 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3,016 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 216 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จากอินเดีย 1 ราย ,สหรัฐอเมริกา 1 ราย

ผู้ติดเชื้อในประเทศ จำนวน 182 ราย

ผู้ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว (คัดกรองเชิงรุกในชุมชน) 32 ราย

ขณะเดียวกันสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการอัพเดทดังนี้

ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 157ราย รักษาหายแล้ว 149 ราย เสียชีวิต 3 ราย

ประเทศกัมพูชา ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 379 ราย รักษาหายแล้ว 362 ราย  ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศอินโดนีเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 7.51 แสน ราย รักษาหายแล้ว 6.18 แสน เสียชีวิต 22,329 ราย

ประเทศลาว ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 41 ราย รักษาหายแล้ว 40 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศมาเลเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.15 แสน ราย รักษาหายแล้ว 91,171 ราย เสียชีวิต 474 ราย

ประเทศพม่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.25 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.08 ราย เสียชีวิต 2,697 ราย

ประเทศฟิลิปปินส์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 4.76 แสน ราย รักษาหายแล้ว 4.4 แสน ราย เสียชีวิต 9,248 ราย

ประเทศสิงคโปร์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 58,629 ราย รักษาหายแล้ว 58,449 ราย เสียชีวิต 29 ราย

ประเทศเวียดนาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1,474 ราย รักษาหายแล้ว1,325 ราย เสียชีวิต 35 ราย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top