Thursday, 9 May 2024
NEWSFEED

ท้าวเวสสุวรรณ หน้าทองคำ เทวรูปศักดิ์สิทธิ์ แห่งวัดเดิมบาง โชคลาภสมปรารถนา พลังเสน่ห์เมตตามหานิยม

‘ท้าวเวสสุวรรณ หน้าทองคำ’ เทพแห่งโภคทรัพย์สมบัติ บันดาลความรุ่งเรือง ความร่ำรวย ที่สำคัญก็คือมีใบหน้าเป็นทองคำ บันดาลฤทธิ์พลัง สายเสน่ห์เมตตามหานิยมแกผู้คนที่มากราบไหว้ นอกจะได้โชคลาภ สมปรารถนาแล้ว  ยังได้พลังเสน่ห์เมตตามหานิยม ดุจดั่ง ได้รับพลังวิเศษ นะหน้าทอง จากท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณ

ท้าวเวสสุวรรณองค์นี้ ที่วัดเดิมบาง จัดสร้างโดย ท่านพระครูบาวชิริล สร้างถวายเพื่อประดิษฐานไว้ที่วัดแห่งนี้ สาเหตุที่สร้างเป็นหน้าทองคำก็เนื่องจากหลังพิธีเททองหล่อ ท่านพระครูบาฯ ได้นิมิตฝันว่า "ได้ยินเสียงดังขึ้นว่า ใบหน้าฉันเป็นทองคำนะ หน้าทอง" จึงเป็นปฐมเหตุให้สร้าง ท้าวเวสสุวรรณเป็นหน้าทองคำขึ้นมา ตามความประสงค์ของท่านท้าวเวสสุวรรณ ที่มาเข้าฝัน เพื่อเป็นศุภนิมิตมงคลสืบไป

ผู้ที่ต้องการตั้งจิตอธิษฐานไหว้ ท่านท้าวเวสสุวรรณจะนิยมไปไหว้กันในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ โดยของไหว้หลักๆ ที่จะต้องเตรียมไว้บูชานั้นก็ได้แก่ ธูป 9 ดอก และดอกกุหลาบ 9 ดอก รวมทั้งต้องเตรียมผลไม้ 5 อย่าง ที่สื่อถึงความหมายมงคล เช่น ผลไม้ที่มีสีแดง แก้วมังกร หรือทับทิมเป็นต้น และวิธีขอพราท่านท้าวเวสสุวรรณเพื่อเรียกทรัพย์นั้น ก็จะนิยมนำกระเป๋าสตางค์ที่ใช้ใส่เงินของตัวเอง ไปวนขวารอบกระบองของท่านท้าวเวสสุวรรณ จำนวน 9 รอบ หลังจากนั้นก็จะตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่ตนเองปรารถนา

รู้จัก 'ฝาท่อลายศิลปะ' แรงขับเคลื่อนจากยุคผู้ว่าฯ อัศวิน สู่การสานต่อหมุดหมายทางวัฒนธรรมในเมืองกรุง

เพจ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มีการประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) พร้อมด้วยมหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมหารือเรื่องการขยายผลงานวิจัย โดยนำเทคโนโลยีและศิลปะมาพัฒนาเมืองผ่านประติมากรรม ซึ่งมีขอบเขตพื้นที่ที่ศึกษา คือ เยาวราช-เจริญกรุง และสำเพ็ง โดยใช้แผนที่ทางวัฒนธรรม โดยมีนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.ลัษมณ อรรถาพิช ที่ปรึกษาผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) รศ.จักรพันธ์ วิลาสินีกุล นักวิจัยจากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้บริหารสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือ ณ ห้องอัมรินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร

ทั้งนี้ สำหรับแผนงานวิจัยดังกล่าวได้ดึงนักวิจัยชั้นนำของมหาวิทยาลัยศิลปากรจากหลายสาขามาร่วมดำเนินการเก็บข้อมูลภาคสนาม จนได้ข้อมูลที่ กทม. สามารถนำไปใช้ประโยชน์เพิ่มเติมจากข้อมูลของยูเนสโกเกี่ยวกับอาคารเก่าทรงคุณค่าและโบราณสถาน การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วัตถุดิบอาหาร และเทศกาลต่าง ๆ ซึ่งในส่วนของอัตลักษณ์ของย่านเยาวราช-เจริญกรุง ที่จะดึงมาใช้เพื่อสื่อสารผ่านศิลปะได้มี 4 ประเภท คือ 

1. สถานที่สำคัญของย่านในอดีต เช่น น้ำพุวงเวียนโอเดียน ประตูสามยอด ห้างขายยา เป็นต้น 
2. สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม เช่น ลวดลายจีน อักษรที่เป็นมงคล หน้ากากงิ้ว เป็นต้น 
3. กิจกรรมทางวัฒนธรรมและกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น รถเข็นจีน รถราง เป็นต้น 
4. อาชีพและสินค้าที่เป็นที่นิยมและสร้างสรรค์ในย่าน เช่น ผลไม้จีน เครื่องยาจีน โคมไฟจีน ย่านทำตะเกียง อัญมณี เป็นต้น 

โดยประติมากรรมผ่านฝาท่อดังกล่าวจะต้องรักษาไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของเยาวราชควบคู่กับการพัฒนาเมืองในปัจจุบัน พร้อมกับข้อมูลในรูปแบบคิวอาร์โค้ดซึ่งสามารถสื่อสารได้ 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และจีน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาข้อมูลผ่านคิวอาร์โค้ดบนฝาท่อ

นอกจากนี้ยังจัดการฐานข้อมูลและพัฒนาให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปใช้งานในเว็บไซต์และแผนที่ทางวัฒนธรรม (Cultural Map) ได้ ทั้งนี้ รศ.จักรพันธ์ได้เสนอว่าระยะต่อไปเทคโนโลยีที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองน่าจะมีมากกว่าสตรีทอาร์ต ตลอดจนการเข้าไปสำรวจพื้นที่เพื่อประเมินคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรม สุนทรียศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สังคม วิทยาการและการศึกษา ซึ่งคณะวิจัยพร้อมที่จะมอบข้อมูลในคิวอาร์โค้ดและเว็บไซต์ให้กทม.เป็นผู้ดูแลต่อไป

ด้าน นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องการให้มีการสนับสนุนคนท้องถิ่นดั้งเดิมในชุมชนย่านนั้นให้รวมตัวกันเพื่อร่วมให้ข้อมูลของชุมชน รวมถึงร่วมดูแลและสร้างอัตลักษณ์ของชุมชนร่วมกันด้วย เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านฐานข้อมูลที่สำคัญและเป็นการร่วมอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ย่านดังกล่าวให้คงอยู่ ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครและนักวิจัยจะร่วมกันสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในย่านเยาวราช-เจริญกรุง เพื่อร่วมการจัดทำออกแบบฝาท่อและจุดพื้นที่วางประติมากรรมดังกล่าวอย่างเหมาะสมต่อไป

สำหรับโครงการ ‘ศิลปะบนฝาท่อสาธารณูปโภค’ เพื่อเผยแพร่แผนที่ทางวัฒนธรรมของชุมชน เป็นการต่อยอดมาจาก โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองโอ่งอ่าง และโครงการศิลปะชุมชนกิจกรรมแต้มสี กรุงเทพฯ ปี 2561 ที่ผ่านมาในสมัย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ว่าฯ กทม. โดยโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จได้รับเสียงตอบรับที่ดีทั้งจากคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวจึงนำมาสู่การสานต่อการติดตั้งฝาท่อลายศิลปะในพื้นที่ย่านเยาวราช-เจริญกรุง ต่อไป

‘ยอร์ช ยงศิลป์’ เตรียมเดบิวต์ในเกาหลีใต้ สังกัด GRID Ent. แฟนคลับร่วมแสดงความยินดี ผ่าน #yorch_yongsin

(10 ก.ค. 66) หลังจากที่ได้เดบิวต์เป็นศิลปินเดี่ยวในไทยจนปังไม่หยุดไปแล้วสำหรับ ‘ยอร์ช ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์’ และยังได้ปล่อยซิงเกิลแรกในชีวิต ‘Seven (7)’ พร้อมทั้งเปิดบริษัท YORCH ENTERTAINMENT ของตัวเองไปเมื่อกลางเดือนเมษาที่ผ่านมา

และก่อนหน้านี้ก็ทำเอาแฟน ๆ กรี๊ดกันใหญ่ไปแล้วเมื่อหนุ่มยอร์ช ได้โผล่เซอร์ไพรส์เป็นแขกรับเชิญในคอนเสิร์ตของ ‘บีไอ’ (B.I) หรือ ‘คิมฮันบิน’ (Kim Han Bin) แร็ปเปอร์และโปรดิวเซอร์หนุ่มฮอตจากเกาหลีใต้ ทำเอาแฟน ๆ เรียกร้องให้ทั้งคู่ร่วมงานกันอีกในอนาคต

และล่าสุดก็สิ้นสุดการรอคอย เมื่อยอร์ชได้เผยโปรไฟล์ตัวเองผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมแคปชั่นว่า "My new home @fillthegrid" และเมื่อกดเข้าไปดูอินตาแกรม @fillthegrid ก็พบว่ามันคืออินสตาแกรมของ GRID Entertainment ซึ่งเป็นค่ายใหม่ที่อยู่ในเครือของค่าย 131 Label ซึ่งเป็นค่ายของแร็ปเปอร์หนุ่มสุดฮอต ‘คิมฮันบิน’ โดยค่าย GRID Entertainment ได้เปิดตัวศิลปินคนแรกคือหนุ่ม ‘ยอร์ช ยงศิลป์’ เป็นศิลปินคนแรกแถมยังเป็นคนไทยอีกด้วย เรียกได้ว่าได้กลิ่นความปังตั้งแต่เปิดตัวแล้ว

ทั้งนี้ แฟนคลับของยอร์ชได้ออกมาแสดงความดีใจผ่าน #yorch_yongsin จนขึ้นเป็นเทรนด์ในทวิตเตอร์อีกด้วย

‘เบอร์เกอร์คิง’ ออกเมนูใหม่ ‘เรียลชีสเบอร์เกอร์’ ใส่ American Cheese เน้นๆ มากถึง 20 แผ่น

เมื่อวานนี้ (9 ก.ค. 66) เพจ ‘Burger King Thailand’ ได้โพสต์ภาพสินค้าใหม่พร้อมระบุว่า…

ไม่ขายขำ นี่ขายจริง!
เรียลชีสเบอร์เกอร์ จากเบอร์เกอร์คิง! 🍔
ใส่อเมริกันชีส ถึง 20 แผ่น!!! 🧀

ราคาเพียง 109.- (จากปกติ 380.-)
ชีสเบอร์เกอร์ตะโก๊น! คนที่กดไลก์แอดมิน ถ้าไม่สั่งจะงอนมาก

Exclusive วันแรกเฉพาะซื้อที่สาขา
ชาว Delivery พรุ่งนี้พร้อมกันทั่วประเทศ!
#BurgerKingTH #เบอร์เกอร์คิงยืนหนึ่งเรื่องคุณภาพ
#CheeseBurger #ชีสเบอร์เกอร์

‘เปิ้ล ไอริณ’ โพสต์ไอจีขอบคุณทุกสิ่งที่ผลักดันชีวิต บอก หากตนไม่อยู่แล้ว ขอยกรถปอร์เช่ให้สาธารณกุศล

(10 ก.ค. 66) กลับมาครองพื้นที่วงการเพลงลูกทุ่งอีกครั้ง สำหรับนักร้องลูกทุ่งดัง เจ้าของเพลงฮิตอย่าง เบนซ์สปอร์ต เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว ที่ปัจจุบันคนก็ยังร้องตามกันได้ และผลงานล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ปล่อยเพลงออกมา ชื่อว่า ‘Money ฟังแล้วรวย’ ก็ดังไม่แพ้เพลงแรกเช่นกัน 

และแน่นอนว่าหากพูดถึง ‘เปิ้ล ไอริณ’ สิ่งที่มาคู่กันก็คงจะต้องเป็นรถหรูปอร์เช่นั่นเอง แต่ล่าสุดเธอได้ออกประกาศว่าจะขอยกรถปอร์เช่ที่ตนเองเพิ่งถอยมาให้เป็นสาธารณกุศล เมื่อวันหนึ่งที่เธอไม่อยู่แล้ว พร้อมเล่าเรื่องราวในอดีตว่าเธอจะมีวันนี้ได้มันไม่ง่าย ซึ่ง ‘เปิ้ล ไอริณ’ ก็ได้โพสต์ข้อความร่ายยาวผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า…

“พาบาร์บี้ มารับลูกสาวคนใหม่ เห็น เขาว่า..ขับปอร์เช่แล้วมันฟิน ฟิน ฟิน แม้ว่า ตอนนี้ เราจะอยู่ในจุดที่มีอิสระในการใช้ชีวิตเกือบทุก ๆ ด้าน แต่ก็ไม่เคยลืมเลยว่า เราเคยมาจากไหน จากลูกคนโต พี่น้องสามคน เป็นเด็กกะโปโล ที่อายุ 16 ปี ก็โดนโลกบีบบังคับ ให้เป็นเสาหลักครอบครัวที่แตกแยก ยังจำรสชาติได้ดีถึงการต้องนั่งสองแถวไปต่อรถเมล์ แม้วันฝนตกหนัก! เพื่อไปขายของ! ไปตระเวนหางานทำ ต้องต่อสู้ดิ้นรนอะไรได้เงินก็ทำ ทำมานับสิบอาชีพ จะมีใครเข้าใจชีวิตที่ต้องกระเสือกกระสนเพื่อครอบครัว เพื่อส่งตัวเองเรียน การมาถึงวันนี้ไม่ง่ายเลย แต่พอย้อนกลับไปดูก็หายเหนื่อย มีแต่ความภาคภูมิใจมาแทนที่!!

เราเชื่อเสมอว่าที่เรามาถึงจุดนี้ได้ เพราะพลังแห่งการซาบซึ้ง กตัญญูรู้คุณ พลังแห่งการขอบคุณ ทุกเช้าและก่อนนอน ขอบคุณ กระทั่งทุกอุปสรรค ทุกปัญหา ขอบคุณทุก ๆ บทเรียน ทุก ๆ ผู้คน ที่เข้ามาเป็นจิ๊กซอว์ เป็นแบบทดสอบ ขอบคุณพลังแห่งการสำนึกรู้คุณ ความซาบซึ้ง ต่อพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ต่อแผ่นดินเกิด ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์! ขอบคุณโลก ที่ได้สร้างเรามาให้รู้คุณค่าชีวิต ให้เราไม่ได้เกิดมาง่ายดายสบาย ๆ ที่ทำให้เรามายืนอยู่ในจุดนี้ได้! รถคันนี้ เราไม่อยู่แล้ว เป็นของทุก ๆ คนนะคะ อยู่ในพินัยกรรมมรดกที่ยกให้สาธารณกุศล และมูลนิธิต่าง ๆ ท้ายนี้ ที่ขาดไม่ได้ ขอขอบคุณ ทุก ๆ แรงใจ ทุกกำลังใจดีดี ที่มีให้เราเสมอมาด้วยค่ะ”

หลังจากนั้นแฟน ๆ ที่ได้อ่านข้อความนี้ ต่างก็เข้ามาชื่น เปิ้ล ไอริณ กันอย่างคับคั่ง

‘บีโกหมอย’ ของอร่อยขึ้นชื่อของ ‘ภูเก็ต’ หวาน มัน เค็ม หนึบหนับ เข้มข้นถึงเครื่อง

‘บีโกหมอย’ เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยน โดยคำว่า บีโก แปลว่า ข้าวเหนียวดำ และคำว่า หมอย แปลว่า ต้ม บีโกหมอยจึงแปลว่า ข้าวเหนียวดำต้ม หรือ ‘ข้าวเหนียวดำเปียก’

คนภูเก็ตนิยมทาน ‘บีโกหมอย’ หลังอาหารเที่ยง หรือเป็นของหวานทานเล่นยามบ่าย เสน่ห์ของบีโกหมอย ก็คือรสสัมผัสของข้าวเหนียวดำเปียก ที่มีทั้งความเหนียวหนึบหนับ ความหอมของกลิ่นข้าว และความหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของข้าวเหนียว แม้จะเติมน้ำตาลลงไปปรุงรสบ้าง ก็ยังไม่เสียเอกลักษณ์ของข้าวเหนียว และเมื่อนำ กะทิสด ที่ปรุงรสชาติหวาน มัน เค็ม มาราด บนเหนียวดำและทานไปพร้อม ๆ กัน ก็จะยิ่งได้มิติของรสชาติและเนื้อสัมผัสอันหนึบหนับของบีโกหมอย ที่อร่อยกลมกล่อม

เนื้อสัมผัสของขนมบีโกหมอยนั้นจะมีความเหนียวหนึบ ทานกับส่วนผสมอื่น ๆ แล้วจะอร่อยพอดี เป็นขนมหวานที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน แต่ถ้าไปถึงเมืองภูเก็ตแล้ว ก็แนะนำว่าให้ลองไปชิมกัน รับรองติดใจแน่นอน

ที่ร้าน Torry's ice cream ซอยรมณีย์ ใจกลางย่านเมืองเก่าของภูเก็ต ได้นำบีโกหมอยมาจับคู่กับไอศกรีมอัญชันสูตรโบราณ แล้วเสริฟ ลงในกระทะทองเหลือง ออกมาเป็นจานที่ความสวยงามน่ากินมาก รสชาติเข้มข้น อร่อยถึงเครื่อง กินแล้วฟินสุด ๆ ในราคาแค่ 95 บาท

‘ดีเจแมน-ใบเตย’ ร่ำไห้ขึ้นศาล ดูซูบผอมและคล้ำขึ้น ทั้งคู่จับมือกันตลอดเวลา หลังเจอกันในรอบ 2 เดือน

(10 ก.ค. 66) ความคืบหน้าคดี หลังจากที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ส่งฟ้อง ‘นายพัฒนพล กุญชร’ และ ‘ใบเตย นางสาวสุธีวัน กุญชร’ ภรรยาสาว และพวกรวม 6 คน ใน 3 ข้อหา ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ คดีแชร์ FOREX-3D เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ศาลอาญาพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า จำเลยถูกฟ้องว่าร่วมกับพวกกระทำความผิดหลายกรรม ลักษณะการกระทำเป็นขบวนการ อันมีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่งผลเสียในวงกว้าง พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จึงให้ยกคำร้อง ทั้งหมดจึงถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวไปคุมขัง โดย ‘ดีเจแมน’ ถูกนำตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ส่วน ‘ใบเตย’ ถูกนำตัวไปที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

ล่าสุดวันนี้ บรรยากาศที่ห้องพิจารณาคดี 809 ซึ่งเป็นห้องที่ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดี โดยมีกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานช่วงเวลา 09.30 น. ต่อมาเมื่อเวลา 09.25 น. จำเลยฝ่ายชายถูกควบคุมตัว เข้ามาภายในห้องพิจารณาคดี โดยดีเจแมน เป็นจำเลยฝ่ายชายคนสุดท้ายที่เข้ามาภายในห้อง ซึ่งลักษณะภายนอกดูซูผอมลง รวมไปถึงผิวดูคล้ำขึ้น สีหน้าแววตาดูมีความกังวล

หลังจากที่ดีเจแมนเข้ามาแล้ว ไม่ถึง 1 นาที ใบเตย ก็เดินตามเข้ามา โดยใบเตยมีอาการร้องไห้ตั้งแต่เดินเข้ามาภายในห้องพิจารณาคดี ซึ่งใบเตยได้ตัดผมสั้นเท่าติ่งหู ซูบผอม และผิวคล้ำ เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องพิจารณาคดีก็ได้นั่งข้างดีเจแมน โดยดีเจแมน ก็โอบกอดใบเตยจากด้านหลัง และลูบศรีษะเพื่อปลอบใจภรรยาก่อนที่ตัวเองก็หลั่งน้ำตาตาม หลังจากนั้น ใบเตย ก็เช็ดน้ำตาให้ ซึ่งระหว่างที่นั่งอยู่ภายในห้องพิจารณาคดีทั้งคู่ มีการพูดคุยกันและจับมือกันตลอดเวลา

ขณะเดียวกัน ‘น้องชาย’ ของใบเตย ซึ่งเดินตามเข้ามาในห้องพิจารณาคดีด้วย ได้นั่งมองพี่สาวและพี่เขยอยู่จากด้านหลัง โดยมีการพูดคุยกันเป็นระยะ ซึ่งก็มีการให้กำลังใจกัน ก่อนที่พ่อของใบเตย จะเข้ามาภายในห้องพิจารณาคดี ซึ่งน้องชายของใบเตย จึงลุกจากที่นั่งเพื่อให้พ่อได้เข้ามานั่งด้านหลังของใบเตย

‘โอลีฟ’ วิ่งขึ้นเวทีประกวด Mister Smart ห้ามหนุ่มถอดเสื้อ  ฟาก ‘อ้วน รีเทิร์น-ป้อม วินิจ’ ปรี๊ดแรง!! บอก “ไม่มีมารยาท”

(10 ก.ค. 66) กลายเป็นประเด็นดรามาทันที ในการไลฟ์สดบรรยากาศรอบออดิชั่น Mister Smart Thailand ซึ่งช่วงหนึ่ง ผู้เข้าประกวดหนุ่มหล่อหมายเลข 19 ที่มีความสามารถในด้านการว่ายน้ำ แต่ที่นี้ไม่มีสระ เลยจะโชว์เป็นชุดว่ายน้ำแทน แต่จู่ๆ ‘โอลีฟ โตเกียวเนยกรอบ’ ก็วิ่งขึ้นเวทีไปถึงตัวผู้เขาประกวด โดยบอกว่า “อย่าถอดมันโป๊”

เหตุการณ์นี้ทำให้ ‘อ้วน รีเทิร์น’ ที่เป็นกรรมการก็ถึงกับด่า ‘โอลีฟ’ ว่า “มึงขึ้นมาเ-ือกอะไรบนเวที ลงไปเลย รู้ว่ารู้จักแต่ขึ้นมาบนนี้ไม่ได้ ยังไม่ถึงเวลา เดี๋ยวจะลงไปจัดการ แฟนเหรอ”

ด้าน ‘ป้อม วินิจ’ ที่เป็นกรรมการด่าเช่นกัน ว่า “แถวบ้านเรียก สรน. นะลูก คนดีๆเขาไม่ทำกันแบบนี้นะ ใครเชิญนางมา”

โดยผู้จัดการประกวดต้องช่วยพูดให้ใจเย็นลง โดยบอกว่าเชิญโอลีฟมาเอง น้องเขาไม่ได้ตั้งใจ ด้าน อ้วน ก็บอกว่า “ไม่ได้ตั้งใจก็ต้องรู้ เขากำลังทำงานกันอยู่วิ่งขึ้นมา”

ส่วน ป้อม ก็บอกเช่นกัน ว่า “เขาไลฟ์สดกันอยู่ ผู้ใหญ่นั่งกันอยู่บนเวที กิริยาที่ขึ้นมาน่าเกลียดมาก”

ซึ่ง ‘ป้อม วินิจ’ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตอนแรกนึกว่าการแสดง นึกว่าหิวแสง แต่ถ้าเป็นการแสดงก็ไม่ควร ไม่เคยรู้จักน้องเขาด้วย และหลังจากน้องลงไปแล้ว ก็ยังดูไม่สลด ทำท่าดุ๊กดิ๊กเหมือนชอบใจ จึงมองดูว่าไร้มารยาท หรือไม่ก็หิวแสง

หนึ่งถ้อยคำสัมภาษณ์ที่ชี้ให้เห็นถึงชนวนเหตุให้ 'เจ' ธนาธิป สรงกระสินธ์ โบกมือลา 'คาวาซากิ ฟรอนตาเล่'

มีแมตช์หนึ่ง ในลูวานคัพ ผมแบกกระเป๋ามา ใส่เสื้อผ้าของทีมมา ไปซ้อม คิดในใจ วันนี้ กูต้องได้เล่น เพราะเป็นบอลถ้วย ส่วนใหญ่ชุดสำรองต้องได้เล่น ประกาศชื่อออกมา ผมไม่มีแม้ชื่อสำรอง

ผมก็รู้สึกว่า ผมไม่ทนแล้ว ผมว่า ผมก็ทนมาพอสมควรแล้ว แล้วก็ผมไม่เคยขาดซ้อม และงอแงกับโค้ช ผมมืออาชีพทั้งหมด ผู้ใหญ่ก็เรียกไปคุยว่าทุกอย่างมันเป็นยังไงทำไมถึงอยากย้ายออก ทุกคนที่นี้ก็รักชนา เราก็คุยด้วยเหตุผล

ผมบอกว่าอายุผมเริ่มเยอะขึ้น ผมอยากเล่น เขาบอกทนอีกนิดได้ไหม เหมือนไม่สามารถทำให้ชนาเป็นชนาได้ ด้วยระบบทีม ความเกรงใจของชนา

ผมกับโค้ชไม่มีปัญหา คุยกันด้วยเหตุผล ผมบอกโค้ช ผมไม่ได้เกลียดโค้ช วันนี้ที่ผมต้องออก แต่ถามว่าโกรธโค้ชไหม ในการเป็นนักบอลคนหนึ่งมันโกรธอยู่แล้ว ผมพูดตรงๆ 

แต่ด้วยเหตุผล บอกโค้ชครับ ทีมชนะ ผมยินดีกับทีมเสมอ แต่ทีมแพ้ ผมพร้อมแล้วนะ อยากเล่นแล้วนะ แต่ผมไม่ได้โอกาส

โค้ชบอกขอโทษที่คิดเยอะไป ขอโทษชนา ที่ไม่สามารถทำให้ลงเล่นสม่ำเสมอ เขาบอกเสียดาย ในทีมนี้ ชนาเป็น 1 ใน 3 ที่เทคนิคดีที่สุด อากิฮิโระ อิเอนากะ, เรียวตะ โอชิมะ แล้วก็ผม ผมคิดในใจ ถ้าผมดีขนาดนั้น ทำไมไม่ให้ผมเล่น

'ชนาธิป สรงกระสินธ์' นักฟุตบอลชาวไทย ปัจจุบันเล่นให้กับบีจี ปทุม ยูไนเต็ดในไทยลีก และทีมชาติไทย เผยฟางเส้นสุดท้ายก่อนกลับมาค้าแข้งในเมืองไทย

ที่มา: คนดูบอล By.PP

‘แมน การิน’ เอาใจสายมู แชร์ทริค!! ‘ดูแลรถยังไงให้รวย’  ชี้!! ‘ห้ามรก-ห้ามเหม็น-ห้ามปล่อยพัง-ห้ามวางตังค์ไปทั่ว’ 

(10 ก.ค. 66) นอกจากจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านศาสตร์ของตัวเลขแล้ว อย่างหนุ่ม ‘แมน การิน’ ก็มักจะมีเคล็ดลับดีๆ มาฝากแฟนๆสายมูอยู่เสมอ อย่างล่าสุดได้ออกมาแชร์ทริคดีๆ ในการดูแลรถยนต์ให้ปังและรวย ในคลิปที่มีชื่อว่า “ใช้รถแบบนี้ ขับกี่ปี ก็ไม่รวย” พร้อมแคปชันว่า "ห้ามรก ห้ามเหม็น ห้ามปล่อยพัง ห้ามวางตังค์ไปทั่ว ห้ามกลัวฝนจนไม่ล้างรถ ถ้าห้ามได้ ขับยังไงก็รวย #ชอบเรื่องมูดูช่องแมน"

โดยในคลิป ‘แมน การิน’ กล่าวว่า ถ้าอยากจะขับรถแล้วรวย จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำ 6 ข้อ ดังนี้

1. ห้ามรก เพราะรถที่รกจะเป็นอุปสรรคของการหาเงิน เช่น การวางรองเท้าไว้ที่พื้นรถ ไม่ควรทำ จะต้องเก็บใส่กล่องไว้ท้ายรถให้ดี
2. หลังรถก็ไม่ควรวางของรกเหมือนตู้เก็บของ จะต้องมีเพียงของที่จำเป็น และจัดให้เป็นระเบียบ เรียบร้อย
3. กลิ่นของรถ สำคัญคือ ห้ามเหม็น รถทั้งคันควรจะหอมเป็นกลิ่นอโรม่า ซึ่งจะช่วยเรื่องฮวงจุ้ย ได้ ถ้าเหม็นจะทำร้ายความโชคดี
4. ห้ามปล่อยให้รถพัง ถ้ามีร่องรอยของอุบัติเหตุ ต้องดูแลรักษาและนำไปซ่อมทันที ถ้าเราผลัดผ่อน เงินก็จะไม่เข้ากระเป๋าเราสักทีเหมือนกัน รถก็เสมือนร่างกาย ดังนั้นต้องดูแลให้ดี
5. ความสะอาด ยิ่งรถขับไปหาเงินบ่อยๆ ยิ่งจะต้องล้างรถ ดูดฝุ่นบ่อยๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ
6. เศษเหรียญ ไม่ควรวางกระจัดกระจายในรถ ควรหาที่เก็บให้ดี หรือนำไปยอดกระปุก รวบรวมไปทำบุญ ก็จะเป็นสิ่งที่ดีมาก


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top