Tuesday, 18 March 2025
NEWSFEED

ประวัติ ‘กิมย้ง’ ผู้เขียน ‘มังกรหยก’ ผู้สร้างจักรวาลแห่งยุทธภพ และจอมยุทธ์ผู้กล้า สะท้อน!! ‘ภาพสังคม-ประวัติศาสตร์จีน-ปรัชญาเต๋า-ขงจื้อ’ ด้วยการต่อสู้ที่เข้มข้น

(23 ก.พ. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘All around China’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

ประวัติคุณกิมย้ง ผู้เขียนมังกรหยก 

1. ภูมิหลังครอบครัว ความชอบ และการศึกษา 

สารภาพว่าไม่ใช่แฟนตัวยงของคุณกิมย้งครับ แต่เห็นมังกรหยกกลับมาบูมอีก แล้วก็ดูเป็นวรรณกรรมอมตะที่ไม่หายไปตามเวลาเลย ผมอยากรู้จนต้องมาหาประวัติคนเขียนแล้วก็ต้องบอกว่า Wow จริงๆ ต่อไปคงต้องลองอ่านจริงๆ จังๆ ละครับ (ถ้ามีเวลา) คุณกิมย้ง 金庸 จีนกลาง - จินยง) มีชื่อจริงว่า ฉา เหลียงยง (查良镛) เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1924 ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ครอบครัวเป็นตระกูลที่มีการศึกษาอย่างดี และคุณกิมย้งก็รักการอ่านมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะวรรณกรรมจีนคลาสสิก เช่น สามก๊ก และ ซ้องกั่ง ในปี ค.ศ. 1944 ได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัย Chongqing Central Political School (重庆中央政治学校外交系) แต่ไม่ชอบรูปแบบการสอนเลยย้ายไปศึกษากฎหมายที่มหาวิทยาลัยตงอู่ ( 东吴大学Dongwu University)

2. การทำงาน
หลังจากสำเร็จการศึกษา ก็ทำงานให้กับ หนังสือพิมพ์ต้า กงเป่า (大公报) ในเซี่ยงไฮ้ และต่อมาย้ายไปฮ่องกง ปี ค.ศ. 1959 คุณกิมย้งก่อตั้ง หนังสือพิมพ์หมิงเป้า (明报) ซึ่งกลายเป็นสื่อที่มีอิทธิพลสูงมากในฮ่องกงเวลานั้น

3. ผลงานวรรณกรรมและนวนิยายกำลังภายใน
คุณกิมย้งเริ่มเขียนนวนิยายกำลังภายในในปี ค.ศ. 1955 และสร้างจักรวาลแห่ง "ยุทธภพ" ขึ้นมา โดยแต่งนิยายทั้งหมด 15 เรื่อง ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการวรรณกรรมจีน

ผลงานเด่นมีดังนี้ครับ:
• "ไตรภาคมังกรหยก" (The Condor Trilogy):
•《射雕英雄传》(มังกรหยก เล่ม 1, The Legend of the Condor Heroes, 1957-1959)
•《神雕侠侣》(มังกรหยก เล่ม 2, The Return of the Condor Heroes, 1959-1961)
•《倚天屠龙记》(ดาบมังกรหยก, The Heaven Sword and Dragon Saber, 1961-1963)
• 《天龙八部》(แปดเทพอสูรมังกรฟ้า, Demi-Gods and Semi-Devils, 1963-1966)
• 《笑傲江湖》(กระบี่เย้ยยุทธจักร, The Smiling, Proud Wanderer, 1967-1969)
• 《鹿鼎记》(อุ้ยเสี่ยวป้อ, The Deer and the Cauldron, 1969-1972)

นิยายจะเต็มไปด้วยฉากต่อสู้ที่เข้มข้น ปรัชญาเต๋า พุทธ และขงจื๊อ รวมถึงสะท้อนสภาพสังคมและประวัติศาสตร์จีน 

4. อิทธิพลและการดัดแปลงเป็นสื่ออื่น
นวนิยายของคุณกิมย้งถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์หลายครั้ง รวมถึงเกม การ์ตูน เช่น มังกรหยก และ แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วเอเชีย และยังได้รับการแปลเป็นหลายภาษา เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และเกาหลี

5. บทบาทด้านวิชาการและวัฒนธรรม
คุณกิมย้งได้รับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย Cambridge โดยงานวิจัยของเขาเกี่ยวกับ "อิทธิพลของปรัชญาขงจื๊อต่อการเมืองจีน" และเคยเป็นศาสตราจารย์รับเชิญที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง

6. บั้นปลายชีวิตและการจากไป
วันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 2018 กิมย้งถึงแก่กรรมในฮ่องกง ขณะมีอายุ 94 ปี

*นอกจากนี้หลังจากที่คุณกิมย้งประสบความสำเร็จในในงานเขียน ก็ได้ไปศึกษาต่อปริญญาเอกที่ Cambridge University โดยใช้เวลาทั้งหมด 13 ปี (1992-2005) แต่ผมเดาว่าน่าจะเรียนไปทำงานไปเพราะป.เอกที่อังกฤษแทบไม่ต้องเจออาจารย์เลยครับผม ชัวร์ 

หัวข้องานวิจัยคือ 《试论中国历史上的儒家思想与法律制度》("An Examination of the Relationship Between Confucianism and the Rule of Law in Chinese History")ซึ่งน่าสนใจมากๆเพราะเกี่ยวกับความเชื่อมโยงของลักทธิขงจื้อกับระบบกฏหมายในประวัติศาสตร์จีน 

สื่อมวลชนอาวุโส วิเคราะห์ ‘มังกรหยก’ หลังจากได้ชม ชี้!! นี่คือ ‘สีจิ้นผิง’ ในยุคปัจจุบัน ดำเนิน!! นโยบายการทูต สร้างมิตรภาพเชิงบวกกับนานาชาติ ‘ไม่รุกราน-ไม่รังแกใคร’

(23 ก.พ. 68) นายเถกิง สมทรัพย์ อดีตนายกสมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับ ‘มังกรหยก’ โดยมีใจความว่า ...

ผมเขียนบทความนี้ในฐานะคนดูหนังที่ไม่มีข้อมูลเชิงลึกในการสร้างหนัง แต่มีโอกาสไปจีนบ่อยๆ และอ่านโน่นนี่นั่นเอามาปะติดปะต่อกัน หลังจากที่ชม มังกรหยก เวอร์ชั่น ล่าสุดของ ฉีเคอะและเซียวจ้าน ดังนี้

1 . มังกรหยก ภาคนี้ คือหนังสงครามที่มี บรรดายอดฝีมือห้ำหั่นกันราวกับ Superhero เทคนิคอลังการ สนุกสนานตลอดเรื่อง

2 ฉีเคอะ จับเอา ก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้ง โยนเข้าไปในสงครามระหว่างมองโกล กับ ชาวกิม และชาวฮั่นในสมัยราชวงศ์ซ่ง ตัดตัวละครอื่นๆออกไปเกือบหมด เน้นสงครามของเจงกิสข่านที่จะบุกจีน

3 มังกรหยก ภาคนี้จึงเป็นหนังสงครามที่ไม่ขาดอรรถรสหนังกำลังภายในของชาวยุทธภพ ความสนุกสุดมันจึงบังเกิดทั้งฉากสงครามและฉากดวลของยอดยุทธภพ

4 ก๊วยเจ๋ง กับ อึ้งย้ง แสดงบทบาทของการเป็น ผู้รักชาติเต็มที่ ตามเนื้อเรื่องในมังกรหยก ที่ทั้งคู่ต่อต้านการรุกรานของมองโกล

5 หนังนำเรื่องพิชัยสงครามของ งักฮุย วีรบุรุษผู้ซื่อสัตย์จงรักภักดีแห่งราชวงศ์ซ่ง มาเน้นในเนื้อหาเป็นพิเศษ

6 ผมขยายความเรื่อง “งักฮุย ” นิดนึง คือ งักฮุยได้รับการเคารพนับถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ในยุคก่อน “กวนอู” เขาได้รับอิทธิพลจากแม่ที่สั่งสอนให้เขาจงรักภักดีต่อแผ่นดินและต่อต้านศัตรูจากชนเผ่านอกกำแพงใหญ่

7 งักฮุย เห็นการล่มสลายของราชวงศ์ซ่งเหนือ เมื่อโตขึ้นเขาเข้ารับราชการทหารในราชวงศ์ซ่งใต้ โดยก่อนที่งักฮุยจะออกจากบ้านไปรับใช้ชาติ มารดาได้สลักอักษรจีน 4 ตัวไว้ที่กลางแผ่นหลังของบุตรชาย ความว่า 精忠報國 จิงจงเป้ากว๋อ (ซื่อตรง ภักดี ตอบแทน ชาติ)

8 ผมดูหนังแล้ว คิดเล่นๆว่า “งักฮุย” คือ บุคคลที่กิมย้งใช้เป็นแคแรคเตอร์ “ก๊วยเจ๋ง” ทั้งเกิดในสมัยซ่ง มีแม่เป็นผู้คุ้มครองผลักดันให้รักชาติ จน ก๊วยเจ๋ง ยืดหยัดต่อต้านเจงกิสข่านด้วยจิตวิญญาณผู้รักชาติ

9 งักฮุย เป็นวีรบุรุษผู้ซื่อสัตย์ของชาวจีนมาหลายร้อยปี จนกระทั่ง “ราชวงศ์ชิงของแมนจู” เข้ายึดจีนปกครองชาวฮั่น ราชวงศ์ชิง จึงส่งเสริม “กวนอู” ขึ้นมาเป็นสัญญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ จงรักภักดี จนคนทั่วไปนับถือ กวนอูมากกว่า “งักฮุย” เพราะ “งักฮุย ต่อต้าน ชนกลุ่มน้อยที่มารุกรานชาวฮั่น” แต่ กวนอู ไม่มีการต่อต้านชนเผ่าอื่น ( กวนอู เป็นนับถือมานานแล้ว ดังจะเห็นว่าในสมัยราชวงศ์หมิง สร้างศาลเจ้ากวนอูไว้บนกำแพงด่านเจี่ยยู่กวน สุดเส้นทางสายไหม เมื่อแมนจูมาปกครอง แมนจูกลมกลืนไปกับวิถีชีวิตชาวฮั่น รับวิถีชาวฮั่นมาใช้บริหารบ้านเมือง รวมทั้งส่งเสริมการนับถือเทพเจ้ากวนอูมากขึ้น)

10 แต่ “มังกรหยก 2025” สร้างบทสรุปความสามัคคี แม้เริ่มต้น มองโกลจะมีท่าทีรุกไล่ทำสงครามกับจีน สุดท้ายก็ยอมล่าถอยในยุคเจงกิสข่าน ก่อนจะมาอีกครั้งในยุคหลังจนยึดจีนได้และก่อตั้งราชวงศ์หยวน 

11 “ก๊วยเจ๋ง” จะมีบทพูด เน้นว่า วีรบุรุษที่แท้จริง ไม่ใช่คนที่ไปรุกรานแผ่นดินอื่น ทำร้ายฆ่าฟันคนอื่น แต่วีรบุรุษแท้จริง ต้องบำรุงแผ่นดิน บำรุงสุขให้ประชาชน …

12. ถ้าเราไปจีนทุกวันนี้เราจะเห็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีของชนเผ่า 56 เผ่าในประเทศจีน อยู่ทั่วทุกแห่งหน…มองโกล ในมังกรหยก เวอร์ชั่นยุค สีจิ้นผิง จึงเป็นชนเผ่าแห่งมิตรภาพ

13 “สีจิ้นผิง” จะมีสุนทรพจน์สำคัญอยู่ประเด็นหนึ่งคือ เขายึดหลักการสร้างมิตรภาพเชิงบวกกับนานาชาติ ไม่รุกราน ไม่รังแก ใคร บางสุนทรพจน์เขาจะยกเรื่อง “แม่ทัพเรือเจิ้งเหอ” ที่นำกองทัพเรือไปสร้างไมตรีกับทุกประเทศทั่วน่านน้ำในยุคจักรพรรดิราชวงศ์หมิง โดยยึดหลัก ไปอย่างมีไมตรี ไม่รุกรานยึดครองใคร

14 สาระสำคัญหนึ่งในมังกรหยก คือ นโยบายการทูตของจีนปัจจุบัน 

15 ผมสงสัยอยู่ประเด็นเดียวคือ อาวเอี้ยงฮง พิษประจิม…ถ้าเอาการเมืองระหว่างประเทศมาตีความ…อาวเอี้ยงฮง จะหมายถึงใคร

16 แล้ว อาวเอี้ยงฮง ทำศึกกับ เจงกีสข่าน วินาศสันตะโร…จนต้องจบสิ้นในสมรภูมิด้วยน้ำมือมองโกล…..หนังจะต้องการสื่ออะไร

17 หรือจะบอกว่า ใครอย่ามาครอบงำแผ่นดินมองโกลเพื่อสร้างให้มองโกลต้องมาขัดแย้งกับเพื่อนบ้านอย่างจีน (เหมือนยูเครนกับรัสเซีย)

18….ผมก็เขียนไปเรื่อยเปื่อยตีความไปตามความคิดข้อมูลที่เคยได้ยินได้อ่านมา…ถูกผิดอย่างไรช่วยแนะนำด้วยครับ

มังกรหยก สนุกเสมอ อมตะตลอดกาล

ใครจะเน้นวิเคราะห์ความรักหนุ่มสาวสามเส้า ก็ได้

ใครจะเน้นวิเคราะห์เนื้อหาที่ดัดแปลงใหม่ก็ได้

ไปชมเถอะครับ…คุ้มค่าทุกนาที

ฉีเคอะ นายแน่มาก

เซียวจ้าน …นายเป็น ก๊วยเจ๋ง ที่เจ๋งจริงๆ

‘ฉีเคอะ’ สร้าง ‘ก๊วยเจ๋ง’ ที่มิเคยต้องการเป็นวีรบุรุษ โดยจงใจไม่เอ่ยถึง ‘เอี้ยคัง’ สร้างฉากอลังการ!! ระเบิดสงคราม การรบยิ่งใหญ่ เพิ่มบทให้ ‘องค์หญิงวาเจน’

(22 ก.พ. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Syamrath Suthanukul’ โดย ‘หยามกลางแปลง’ ได้โพสต์เรื่องราว เกี่ยวกับ ‘มังกรหยก’ เวอร์ชัน ‘ฉีเคอะ’ โดยมีใจความว่า …

มังกรหยก : จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่

(1)
ก๊วยเจ๋งมิเคยต้องการเป็นวีรบุรุษ

ด้วยเกิดมาเป็นเจ้าทึ่มสมองช้า เป็นชาวฮั่นเกิดในแผ่นดินซ่งเมื่อปีเจ๋งคังอันอัปยศที่สองฮ่องเต้ซ่งถูกชาวกิมจับไป

หลีเพ้งผู้มารดาพาหนีตายจากการที่สามีคือก๊วยเซ่าเทียนถูกทหารกิมสังหาร ออกนอกด่านมาพึ่งพิงเจ็งกิสข่าน-มหาข่านแห่งมองโกล ราชันย์แห่งท้องทุ่งหญ้า เติบโตมาเป็นศิษย์อาจารย์เจอเป เป็นอันต๊ะ-พี่น้องร่วมสาบานกับเซลุยบุตรเจ็งกิสข่าน และหมั้นหมายกับวาเจน องค์หญิงบุตรีเจ็งกิสข่านทั้งที่ตัวเองมิได้มีความรัก

เจ็ดประหลาดกังหนำคืออาจารย์ของก๊วยเจ๋ง วันที่ก๊วยเจ๋งเข้าสู่ยุทธจักรจงหยวน อาจารย์เตือนมิให้คบกับอึ้งย้ง ธิดามารบูรพาอึ้งเอี๊ยะซือ โดยหารู้ไม่ว่าก๊วยเจ๋งได้รู้จักอึ้งย้งแล้ว 

เป็นเจ๋งกอกอ-พี่เจ๋ง กับ ย้งยี้-น้องย้ง จากวันนั้นจนวันสุดท้าย

วาสนาของก๋วยเจ๋งได้พบยาจกอุดร-อั้งชิกกง หัวหน้าพรรคกระยาจก ได้รับถ่ายทอดสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร ได้พบราชันย์ทักษิณ-อิดเต็งไต้ซือ ได้ฝึกวิชาจากคัมภีร์เก้าอิม

ความเข้าใจผิดที่เกาะดอกท้อ ทำให้ก๊วยเจ๋งคิดว่ามารบูรพาเป็นผู้สังหารอาจารย์ของตน จนโกรธแค้นตัดความสัมพันธ์กับอึ้งย้ง จากที่สาบานว่าชาตินี้จะไม่แยกจาก กลายเป็นชาตินี้มิต้องพบพาน

ทั้งที่ในใจทั้งสองยังโหยหากันตลอดเวลา

เวลานั้น ยังมีพิษประจิม อาวเอี๊ยงฮง พร้อมสมุนเยี่ยงเล้งตี่เซี่ยงหยิน เนี่ยจื้ออง โฮ้วท้งไฮ้ ซาทงเทียน และ แพ้เลี่ยงโฮ้ว ไล่ล่าอึ้งย้งเพื่อหวังคัมภีร์เก้าอิม ฉีเคอะ เริ่มต้นหนังมังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ตรงนี้

(2)
มังกรหยกเวอร์ชั่นนี้ เน้นช่วงสุดท้ายของนิยายของกิมย้ง เล่าเหตุการณ์ในอดีตด้วยฉากแฟลชแบ็ค

ฉีเคอะ ทำมังกรหยกเวอร์ชั่นนี้เป็นหนังสงคราม ฉากรบใหญ่โตอลังการ ฉากบู๊ประลองยุทธระดับระเบิดภูเขาเผากระท่อม 

และตามนิสัยฉีเคอะ บิดเรื่อง เพิ่มบท ลดบทแบบไม่สนใจต้นฉบับ แต่ไม่ถึงขนาดบิดเบือนเพศสมัยสร้างเดชคัมภีร์เทวดา คนไม่เคยอ่าน ไม่เคยดูมังกรหยกมาก่อนเลย อาจงงกับฉากแฟลชแบ็ค แต่ก็ดูให้สนุกได้แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก

บทที่ดีที่สุดของหนัง กลับเป็นบทองค์หญิงวาเจน

เขียนบทเพิ่ม บุคลิกชัดเจน กล้ารัก กล้าแค้น กล้าให้อภัย โดดเด่นเกินบทอึ้งย้งเสียอีก

แต่แฟนพันธุ์แท้มังกรหยก ถึงฉากอลังการแค่ไหน บทแต่งเพิ่มดีแค่ไหน ก็ยังหงุดหงิด ตัวละครเอกหายไปชนิดไม่มีการเอ่ยถึง ยิ่งหนังเริ่มต้นจากบทท้ายๆของหนังสือ ทำให้ไม่เห็นการพัฒนาของตัวละคร โดยเฉพาะสองตัวเอกและแกนหลักที่ว่า ทำไมก๊วยเจ๋งอึ้งย้งถึงรักกันขนาดนี้ และที่หนักหนาสาหัสที่สุดคือมังกรหยกฉบับนี้ จงใจไม่มีเอี้ยคัง 

ทำให้ความเป็นลูกจีนรักชาติของก๊วยเจ๋ง ชาวฮั่นแผ่นดินซ่งที่เติบโตในทุ่งหญ้ามองโกลแต่ใจยังเป็นชาวฮั่น ยอมสละทุกอย่างเพื่อชาวฮั่น ขาดน้ำหนักไปอย่างมาก เพราะขาด เอี้ยคัง ชาวฮั่นที่คิดว่าตัวเองเป็นองค์ชายชาวกิม เสวยสุขมาตลอด ถึงแม้ทราบชาติกำเนิดตัวเองก็ยังขอเป็นชาวกิมมิต้องการเป็นชาวฮั่น บีบจนพ่อแม่ตัวเองฆ่าตัวตาย

ก๊วยเจ๋งที่ไม่มีเอี้ยคัง อย่างไรก็มิอาจเป็นก๊วยเจ๋งโดยสมบูรณ์

(3)
ก๊วยเจ๋งมิเคยต้องการเป็นวีรบุรุษ

และฉีเคอะก็ไม่สามารถปั้นเซียวจ้านให้เป็นวีรบุรุษที่แท้อย่างก๊วยเจ๋งในนิยายได้ ถึงแม้จะแสดงดีขนาดไหน เพราะบทมันไม่ได้ 

จวงต๋าเฟย เล่นดีแค่ไหนก็ไม่ใช่อึ้งย้งที่เราคุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย—-อึ้งย้งที่ไม่ขี้งอน ไม่เอาแต่ใจตัวเอง ย่อมมิใช่อึ้งย้งตัวจริง

ฉีเคอะ เก็บแก่นของเรื่องที่ท่านกิมย้งบรรจงแต่งไว้มาไม่หมด ได้มาแค่เปลือก

หนังให้ความบันเทิงตลอด 145 นาที ช่วงต้น ช่วงท้าย สนุก ช่วงกลาง มีหลับ

เสียดายที่มันไม่ใช่ 'มังกรหยก' ที่ผมรู้จักและรักมาตั้งแต่ได้อ่านครั้งแรก

#หยามกลางแปลง

✨ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

✨ประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568

รางวัลที่ 1 รางวัลละ 6,000,000 บาท
847377

รางวัลเลขหน้า 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท
268  613

รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท
652  001

รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 2,000 บาท
50

รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท
847376  847378

ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 2 จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 200,000 บาท
464953  822419  572417  403022  234582

ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 3 จำนวน 10 รางวัล รางวัลละ 80,000 บาท
497867  405988  424303  645024  273711  
467127  126320  907658  657401  642152  

ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 4 จำนวน 50 รางวัล รางวัลละ 40,000 บาท
139733  706119  785084  077913  376516  
724366  575954  173448  742179  293096  
940805  325152  870601  735617  731665  
073045  021660  403627  638899  037244  
099058  560894  322129  855651  404509  
179357  696028  467561  824459  366488  
344581  913399  085810  228271  164088  
642332  151964  100287  797797  248640  
231605  439018  803962  478552  094541  
168378  192006  573676  256518  100051  

‘ลิซ่า’ ยกทีมนักแสดง White Lotus ร่วมโปรโมทที่ประเทศไทย สุดภูมิใจ!! แต่งผ้าไหมสีชมพูกลีบบัวรับ ‘วาเลนไทน์’

(15 ก.พ. 68) หลังจากที่ ลิซ่า ได้เดบิวต์เต็มตัวในฐานะนักแสดงประเดิมซีรีส์สุดโด่งดัง The White Lotus ซีซัน3 ที่ถ่ายทำกันที่เกาะสมุย ประเทศไทย

ล่าสุดก็ได้ฤกษ์ดีวันวาเลนไทน์จัดงานโปรโมทสุดยิ่งใหญ่ที่แดนสยาม โดยมีนักแสดงนำมาร่วมงานคับคั่งทั้ง ไมค์ ไวท์ ผู้เขียนบท แพทริก ชวาสเนกเกอร์, เจสัน ไอแซค, นาตาชา รอธเวลล์, เทม ทับทิมทอง, ดอม เหตระกูล, ภัทราวดี มีชูธน ฯลฯ

นอกจากนั้นบังมีบรรดาเซเลบของไทยเข้าร่วมงานอีกมากมายทั้ง แอน ทองประสม, อนันดา เอเวอร์ริงแฮม,ไบรท์ วชิรวิทย์, แต้ว ณฐพร, อร สมฤทัย, กวาง เดอะเฟซ, โยชิ รินรดา ฯลฯ

ลิซ่า ปรากฏตัวในชุดที่สั่งทำขึ้นพิเศษโดยเฉพาะจากแบรนด์ Louis Vuitton เป็นผ้าไหมสีชมพูกลีบบัว โดยมีกิมมิคเป็นข้อมือพวงมาลัยสีชมพูและที่ติดผมเป็นรูปดอกบัวเล็ก ๆสีชมพู ต่างหูทับทิมจาก Bvlgari

เรียกได้ว่าโดดเด่นทุกครั้งที่เดินพรมแดงเพราะใส่ใจทุกรายละเอียด

นอกจากนั้นยังมีคนตาดีเห็น เฟเดอริก อาร์โนลต์ มาร่วมให้กำลังใจ ลิซ่า ด้วย

‘ดอกบัวสีทอง’ ในมือ ‘ลิซ่า’ ผลงานคนไทย จากแบรนด์ SARRAN จำลอง!! แสงแรกที่สะท้อนสู่ผิวน้ำ ด้วยแสงอาทิตย์ สีเหลืองทอง

(12 ก.พ. 68) ผ่านไปแล้วสำหรับการเปิดตัวนักแสดง   The White Lotus Season 3  ณ Los Angeles สหรัฐอเมริกา โดยงานนี้นอกจากนักแสดงฮอลลีวู้ดแล้ว ยังมีนักแสดงไทยชื่อดังหลายคน รวมถึง  ‘ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล’

ภายในงาน ลิซ่า ได้ปรากฏตัวในชุดเดรสสีเหลืองปักมุกสุดหรูจากแบรนด์เกาหลี MISS SOHEE พร้อมกับ ‘ดอกบัวสีทอง’ ในมือ ผลงานคนไทยจากแบรนด์ SARRAN  ซึ่งสั่งทำพิเศษสำหรับ ลิซ่า

โดย เพจ  sarranofficial  ได้เผยภาพพร้อมความหมายว่า ‘Light of Lotus แนวคิดของการออกแบบในครั้งนี้คือการจำลองแสงแรกที่สะท้อนสู่ผิวน้ำและดอกบัวสีขาวยามเช้า ด้วยแสงอาทิตย์สีเหลืองทอง แล้วดอกบัวที่กำลังเบ่งบาน บอกเล่าสู่การเดินทางและการเริ่มต้นในทุกเช้าวันใหม่’

ซีรีส์แนววัยรุ่น สุดปัง!! ทางช่อง ‘Thai PBS’ ทุกวัน ‘ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์’ เวลา 20.30 น. ฉากบู๊สุดมันส์!! สาวหวาน ‘มิวสิค BNK 48’ โดนฟันเป็นครั้งแรก เจ็บจริง แต่สู้ไม่ถอย

(8 ก.พ. 68) ‘ฝันของฉัน คือฟันดาบ’ ซีรีส์แนววัยรุ่น เรื่องใหม่ล่าสุดที่ฉายออกอากาศทางช่อง ‘Thai PBS’ โดยซีรีส์เรื่องนี้ บอกเล่าเรื่องราวความฝันในกีฬาฟันดาบ ของวัยรุ่นที่สนุกน่าติดตาม

ซีรีส์เรื่อง ‘ฝันของฉัน คือฟันดาบ’ บอกเล่าเรื่องราวของ ‘ซัน’ นักกีฬาฟันดาบสากลที่มีความสามารถ มีสไตล์โดดเด่น แต่เขานั้นต้องเจอกับปัญหามากมายรอบตัว ทำให้เขามักจะพะวงอยู่เสมอ และต่อมาโชคชะตาก็ทำให้เขาได้เจอกับ ‘เวฬา’ สาวในชมรมฟันดาบสากลของมหาวิทยาลัย โดยเวฬาเองเธอก็มีรุ่นพี่ที่สนิมคือ ‘ทาม’ นักกีฬาฟันดาบที่กำลังลุ้นติดทีมชาติ ซึ่งการเจอหน้ากันของครั้งแรกของทั้งสองก็ไม่สวย แถมยังมีเรื่องกัน ทั้งยังโดนดูถูก เรื่องราวจะสนุกและชวนลุ้นแค่ไหนก็ต้องไปติดตามกัน

ในเรื่องนี้ ก็ได้รวบรวม ดารานักแสดงวัยรุ่นไว้มากมาย อาทิ

พีค ภีมพล แสดงเป็น 'ชัน' เขานั้นเป็นนักเก่งกีฬาฟันดาบที่ถนัดทั้งไทยและสากล เป็นคนที่ใจร้อน ชอบกังวล ค่อสข้าวมองโลกลบ แต่หากตั้งใจแล้วจะทำได้เสมอ

มิวสิค แพรวา แสดงเป็น 'เวฬา' เธอเป็นลูกสาวร้านขายนาฬิกา เป็นสาวแก่นมีเสน่ห์ มองโลกในแง่ดี เห่ฝและชอบกีฬาฟันดาบไทย เธอเป็นคนที่ซันตกหลุมรัก

มอส ภาณุวัฒน์ แสดงเป็น 'ทาม' เขาเป็นนักกีฬาดาบเซเบอร์มือ 1 ของมหาวิทยาลัย เก่ง ขยัน มุ่งมั่น และเขาเองอยากเป็นนักกีฬาฟันดาบทีมชาติ

ครีมมี่ พลอยปภัส แสดงเป็น 'ทราย' สาวสวยที่เธอเป็นนักกีฬาดาบเซเบอร์ ดูเข้าถึงยาก แต่จิตใจดี และชอบช่วยเหลือคนอื่น

แน่นอนว่า ฉากเด็ดในเรื่องนี้ ก็ต้องอยู่ที่ การโชว์ลีลาฟันดาบ ซึ่งขอบอกเลยว่า นักแสดงวัยรุ่นในเรื่องนี้ ‘เล่นถึงมาก’ มีความสมจริงทั้งแอ๊คติ้ง ทั้งมุมกล้อง อย่างในฉากที่ต้องลงสนามแข่งขัน บอกเลยว่าลุ้นตามสุดๆ 

ไม่เพียงเท่านั้นในซีรีส์ยังมี รายละเอียดอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ มู้ดโทนของเรื่องราว การพรีเซ้นท์เล่าเรื่องที่มีความเป็นมา ผูกปมไวดูเพลิน แถมคอสตูมของนักแสดงแต่ละคนยังเข้ากับลุคและคาแรคเตอร์อีกด้วย

เรียกได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ ‘ฝันของฉัน คือฟันดาบ’ สนุกน่าติดตามสุดๆ

ไม่ดู ไม่ได้แล้ว!!

‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ แจ้งเอาผิด ‘หนุ่ม กรรชัย-อี้ แทนคุณ’ หมิ่นประมาททำให้ชื่อเสียงเสียหาย

‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ พร้อม ‘ทนายประมาณ’ เดินทางเข้าแจ้งความตำรวจ สน.ห้วยขวาง เอาผิดกับ ‘หนุ่ม กรรชัย-อี้ แทนคุณ’ หมิ่นประมาทนำชื่อเผยแพร่สาธารณะทำให้เสียหาย

(31 ม.ค. 68) ที่สน.ห้วยขวาง นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม รัฐภูมิ พร้อมด้วยนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช หรือทนายประมาณ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อแจ้งความเอาผิด 2 บุคคล ที่มีการนำชื่อ ฟิล์ม รัฐภูมิ เผยแพร่ต่อสาธารณชนทำให้เกิดความเสียหาย

โดยทนายประมาณ เปิดเผยว่า วันนี้พาฟิล์ม รัฐภูมิ มาแจ้งความเอาผิด 2 บุคคล ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีที่มีการนำเรื่องที่ไม่เป็นความจริงมาสร้างกระแสนำไปออกรายการข่าวช่องดัง หรือนำไปแถลงต่อสื่อให้คนเกลียดชัง โดยบุคคลแรกคือ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ แทนคุณ จะแจ้งดำเนินคดี 8 กรรม ที่มีการกล่าวอ้างว่ามีหลักฐานซึ่งไม่เป็นความจริง ในหลายกรณี อาทิ กรณีคดีที่ จ.ตรัง ที่เป็นคดีเกี่ยวกับการลงทุนเทรดหุ้นดูไบ 60 ล้านบาท ที่มีการตัดสินคดีจบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาฟิล์ม รัฐภูมิ แต่อย่างใด แต่คู่กรณีกลับมากล่าวอ้างว่ามีหลักฐานต่าง ๆ ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชนไม่รู้กี่ครั้งกี่หน เพื่อหากระแสให้แก่ตัวเอง

ส่วนบุคคลที่สอง ที่จะดำเนินการเอาผิดคือ นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือ หนุ่มกรรชัย พิธีกรชื่อดัง ประมาณ 3-4 กรรม จาก 6 กรรม ที่มีการนำคลิปเสียงระหว่างน.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ บอสปัน ดิไอคอน กับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ และมีการเชื่อมโยงมาถึงฟิล์ม รัฐภูมิ โดยอ้างว่า ฟิล์ม รัฐภูมิมีการตบทรัพย์เหล่าบอสดิไอคอน กรุ๊ป จำนวน 20 ล้านบาท เรื่องนี้ทำให้ฟิล์ม รัฐภูมิเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ตนถือว่า ”พวกคุณนั้นจัญไร ในการกล่าวหาอย่างรุนแรง“ ส่วนคนอื่นที่มีการกระทำในลักษณะเดียวกันก็เตรียมตัวโดนเป็นรายต่อไป แต่ในวันนี้จะมาแจ้งความเอาผิดเพียง 2 คนก่อน

ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นคดีอะไรก็แล้วแต่ ขอยืนยันในความบริสุทธิ์ว่าฟิล์มรัฐภูมิ ไม่มีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และมั่นใจในพยานหลักฐานที่ฝั่งตนเองมี

ขณะที่ฟิล์ม รัฐภูมิ กล่าวว่า ตนไม่ได้อยากมาทำอะไรแบบนี้ เพราะตนชอบความสงบ แต่มองว่าขณะนี้มันเกินควรไปแล้ว เนื่องจากมีบางคนมาโจมตีด่าถึงบุพการี ว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน รวมถึงบอกว่าไม่มีครูบาอาจารย์ เป็นคนไม่ดีของสังคม อีกทั้งยังมีการกล่าวหาว่าตนไปพรากผู้เยาว์ ทำให้แฟนคลับของตนเกลียดชังตนกว่าเดิม ตั้งตัวเป็นศาลเตี้ยเป็นผู้มีอำนาจตัดสินความผิดตน ทำให้สังคมคล้อยตาม

ตนมองว่าจะให้สังคมดำเนินไปแบบนี้ไม่ได้ เราอยากอยู่ในสังคมที่น่าอยู่ ในสังคมที่ทุกคนเคารพกฎหมายเดียวกัน ตนเคารพกฎหมายเป็นที่ตั้ง และเชื่อมั่นว่ากฎหมายบ้านเราศักดิ์สิทธิ์ที่สุด แต่มันมีการสร้างวาทกรรมแปลก ๆ ว่าตนไม่เคารพกฎหมายเพื่อเป็นการดิสเครดิตตน

ในส่วนของอี้แทนคุณ ตนมองว่าการที่มาขอโทษลับหลังสื่อนั้นไม่แมน เพราะมีการหาแสงทำลายชื่อเสียงตนต่อหน้าสื่อ แล้วค่อยส่งคนมาขอโทษส่วนตัว ที่ผ่านมาทางอี้แทนคุณมีการส่งคนมาพูดคุยเจรจาขอโทษหลายครั้งแล้ว โดยทุกครั้งที่มีการส่งคนมาขอโทษ ตนก็ได้เก็บหลักฐานไว้ทุกอย่าง แต่ตนยืนยันว่าจะไม่เจรจาใด ๆ ทั้งสิ้น

นอกจากนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สถานะระหว่างฟิล์ม รัฐภูมิกับหนุ่มกรรชัย ยังสามารถกลับมาเป็นพี่น้องกันได้หรือไม่นั้น ฟิล์ม รัฐภูมิไม่ได้ตอบคำแถม เพียงแค่ส่ายหน้า

‘ไทด์ เอกพันธ์’ เปิดใจรักใหม่!! หวานใจนางเอกคนดัง ‘ทับทิม อัญรินทร์’ เผยความสัมพันธ์!! จากเล่นละครเป็นพ่อลูกกัน จนสนิทกันจริง 15 ปี

(26 ม.ค. 68) จากเล่นเรื่องไหนเป็นพ่อลูกกันตลอด เซอร์ไพรส์มาก ไทด์ เอกพันธ์ เปิดใจรักใหม่ นางเอกคนดัง บิณฑ์ แซวเตรียมแต่งงาน เข้าใจลูกโตเป็นสาวหมดแล้วใครเข้ามาก็ต้องละเอียดอ่อน

ช่อง7 เผย คลิป ไทด์ เอกพันธ์ เปิดใจรักใหม่หวานเวอร์ เปิดโมเมนต์หวานน่ารักกับนางเอกสาวคนสนิท ทับทิม อัญรินทร์

ล่าสุดถามถึงช่วงนี้ทำคอนเทนต์เต้นด้วยกันบ่อยๆ ความสัมพันธ์เป็นอย่างไร ไทด์ บอกว่า “เล่นเรื่องไหนเขาเป็นลูก เราเป็นพ่อ คลุกคลีกัน 10 กว่าปีแล้ว 15 ปีได้ น้องเขาก็น่ารัก เรารู้สึกมีความผูกพัน (ถามว่าตอนนี้เป็นพี่ชายคนสนิท ใช้คำนี้ได้ไหม) ได้”

พร้อมทั้งเผยโมเมนต์หยอกล้อกันหวานไปอีก ไทด์ แกล้ง ทับทิม จนนางเอกสาว บอกว่า “โดนแกล้งตลอด ตั้งแต่สมัยถ่ายรายการ ”

ด้าน ไทด์ บอกเลย “แม่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องมองตาปริบๆ”

ขณะที่ รายการ นิว พาซ่า ซึ่งมีพี่น้องแฝดพระเอกสายบุญ บิณฑ์ – เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ มาเปิดใจเรื่องความรักตอนหนึ่ง บิณฑ์ แซวน้องชายว่า “เอกพันธ์ เขาจะเป็นคนที่หัวใจสีชมพูตลอด เขาจะมีความรักของเขาตลอด (เอกพันธ์ เอามาตีหัวพี่ชายบอกเหรอๆ) เขาจะกุ๊กกิ๊กของเขาตลอด”

เอกพันธ์ ยอมรับว่า “คุยๆอยู่ ”

บิณฑ์ ถามว่า “เห็นว่าจะแต่งงานกันแล้วเหรอ (เอกพันธ์ หัวเราะ) ยังๆ ปีนี้ยังไม่ได้แต่ง เพราะยกช้างไม่ขึ้น ”

เอกพันธ์ กล่าวว่า “ดูๆ กันไปก่อน คบกันไปก่อน ถ้าใช่ก็ใช่ ยังไม่ฟันธง 100 เปอร์เซ็นต์ อาจจะใช่หรือไม่ใช่ ต้องดูให้กาลเวลา เรื่องแบบนี้ ละเอียดอ่อน เราอายุมากแล้ว วางแผนก้าวเดินต้องระวัง เอาคนโน้นคนนี้มาเป็นของเรา ถ้าไม่ใช่ จะเสียหายน้องเขา (บิณฑ์ : เขามีลูกสาวโตเป็นสาวหมดแล้ว ถ้าใครเข้ามา ทั้งเขาทั้งลูกละเอียดอ่อน)”

‘น้าหงา คาราวาน - โอ้ ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์’ โชว์เรียกน้ำย่อย แถลงข่าว!! คอนเสิร์ต ‘ROAD FOR LIFE 3’ ที่เขาใหญ่

(25 ม.ค. 68) เรียกได้ว่าเป็นมหกรรมดนตรีเพื่อชีวิตที่แฟนเพลงต่างเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ! โดยเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา บรรยากาศร้านเขาใหญ่คาวบอยสเต็กเฮ้าส์ร้อนแรงขึ้นทันที เมื่อสองตำนานศิลปินรุ่นใหญ่เพื่อชีวิต ‘หงา คาราวาน’ และ ตำนานผู้บุกเบิก Hard Rock เมืองไทย ‘โอ้ ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์’ ตัวแทนศิลปิน ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ ‘ROAD FOR LIFE 3’ จัดโดย Pazan Music Festival มหกรรมดนตรีที่ทุกคนรอคอย และในปีนี้เรามีเครื่องดื่มคาราบาว และ ตะวันแดงเป็นผู้สนับสนุนหลักร่วมผลักดันให้มหกรรมนี้เป็นจริงขึ้นมา!!

กับเวทีสุดยิ่งใหญ่ที่ Pazan Music Festival พร้อมมอบความสุขและประสบการณ์ดนตรีเหนือระดับ ในวันที่ 1 มีนาคมที่จะถึงนี้ รวมพลศิลปินระดับตำนาน 13 วง ขึ้นเวที โดยครั้งนี้ 'น้าหงา' สุรชัย จันทิมาธร พร้อมเพื่อนศิลปินสุดเก๋าทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ จะมาร่วมสร้างสีสันให้กับเวที ‘ROAD FOR LIFE 3’ หวังเปิดประสบการณ์ฟังเพลงแบบใหม่ให้กับมิตรรักทุกคน

นำทีมโดย : หงา คาราวาน, พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ, คาราบาว, มาโนช พุฒตาล & The Lamb, พงษ์สิทธิ์ คำภีร์, หิน เหล็ก ไฟ x โอฬาร พรหมใจ, เสือ ธนพล, สีเผือก คนด่านเกวียน, ทอม ดันดี, ไววิทย์ สันติภาพ, คณะขวัญใจ, มนต์แคน แก่นคูน, ก้อง ห้วยไร่ x เบิ้ล ปทุมราช

นอกจากนี้ยังได้พิธีกรระดับตำนานอย่าง มาโนช พุฒตาล, ภิญโญ รุ่งสมัย และ บอย รถไฟดนตรี มาร่วมปลุกความสนุกบนเวทีอีกด้วยไฮไลต์สุดพิเศษที่ห้ามพลาด

งานนี้ ‘น้าหงา สุรชัย จันทิมาธร’ เผยถึงความประทับใจที่ได้กลับมาร่วมเวทีครั้งที่ 3 ว่า “คอนเสิร์ตนี้ถือว่าเป็นงานใหญ่ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในนามของ Pazan Music Festival ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแฟนเพลง และก่อให้เกิดสังคมของนักฟังเพลงรุ่นใหม่ๆ ที่ได้มาทำความรู้จักกัน งานนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี

ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ พร้อมกับศิลปินท่านอื่นๆ ซึ่งโอกาสที่พวกเราจะได้พบปะกันนั้นค่อนข้างน้อย ต้องเป็นงานใหญ่อย่างนี้เท่านั้นถึงจะได้เจอกัน และทุกปีเรามีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เรามีการประสานงานและประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางในการขับเคลื่อนวงการดนตรีไปข้างหน้า รู้สึกดีใจที่มีแนวเพลงหลากหลายมาร่วมแจมในงาน เพราะเราเปิดกว้างสำหรับคนที่อยากสัมผัสดนตรีอย่างแท้จริง การได้ศิลปินแนวลูกทุ่งมาร่วมงานครั้งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะถึงแม้จะไม่ได้เป็นญาติกันจริงๆ แต่ความสัมพันธ์ของเราก็เหมือนญาติพี่น้อง วงการดนตรีไม่ว่าจะเป็นแนวไหน เราก็พร้อมต้อนรับอย่างไม่มีข้อจำกัดครับ”

สำหรับ ‘โอ้ ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์’ ได้กล่าวว่า

“ผมได้เป็นเกสต์ของวงหินเหล็กไฟ เป็นสมาชิกเคยเล่นด้วยกันมาก่อน อยากเชิญชวนทุกคนให้มาคอนเสิร์ต ช่วยยกระดับความรู้สึก อารมณ์ของพวกเราให้มันชื่นบาน ฟังดนตรีในช่วงเวลานี้ และอยากเล่นแบ็กอัพให้วงน้าหงา” พร้อมแซวน้าหงาอย่างอารมณ์ดี

ด้านผู้จัดงาน คุณพงษ์พัฒน์ เพ็ญโชติรส กล่าวว่า “ทางทีมงาน Pazan Music Festival ได้ประสานงานกับโรงแรมและรีสอร์ตในพื้นที่เพื่อจัดทำโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองที่พัก เราให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกและเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหัวใจหลัก ครั้งนี้เรายกระดับความอลังการไปอีกขั้น ด้วยการนำระบบเสียงใหม่ล่าสุดมาใช้ เสียงกระหึ่มคมชัดทุกมิติ พร้อมด้วยเวทีขนาดใหญ่ที่รับรองว่าอลังการตระการตา นอกจากนี้ เรายังใส่ใจในรายละเอียดการดูแลผู้เข้าชมอย่างเต็มที่ มีการเตรียมห้องน้ำถึง 200 ห้อง พร้อมแม่บ้านที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนระบบแสง สี เสียง จัดเต็มแบบเหนือระดับ และยังเพิ่มขนาดจอภาพให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ทุกคนสามารถรับชมโชว์ได้อย่างชัดเจนไม่ว่าคุณจะอยู่มุมไหนของงาน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่นี้ไปด้วยกันครับ”

งานนี้ ‘น้าหงา’ นำกีต้าร์คู่ใจร่วมแจมเพลงเพราะๆ กับ ‘พี่โอ้ ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์’ รวมสองตำนานเพลงไว้บนเวทีเดียวกัน ทำเอาเหล่าแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนอิ่มเอมไปกับบรรยากาศสุดฟิน เริ่มต้นด้วยบทเพลงไพเราะอย่าง ‘เดือนเพ็ญ’, ‘ดอกไม้ให้คุณ’ และปิดท้ายด้วย ‘หนุ่มพเนจร’ เป็นออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยก่อนเสิร์ฟเมนูหลักในวันแสดงจริง

โดยเฉพาะช่วงที่ ‘พี่โอ้’ โชว์สกิลไลน์ริฟฟ์ระดับเทพร่วมกับ ‘น้าหงา’ ที่มีสำเนียงกีต้าร์สะกดใจคนดู บอกเลยว่าเรียกเสียงปรบมือกระหึ่ม เพราะฝีมือยังคงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ทุกคนในงานต่างทึ่งและชื่นชมในความสามารถสุดเฉียบคม เชื่อเลยว่าแฟนเพลงต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เพราะการแสดงจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นรับรองว่าเต็มอิ่ม ทั้งเพลงฮิตในความทรงจำและโชว์ที่สร้างความประทับใจให้แฟนเพลงอย่างแน่นอน!!

ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรม Road for Life 3 โดย Pazan Music Festival ในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 เริ่มตั้งแต่ 13.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานกิจกรรมเขาใหญ่มาราธอน ถนนธนะรัชต์ กม.21 เตรียมตัวมาสัมผัสความยิ่งใหญ่และสร้างความทรงจำที่เขาใหญ่ ขอบคุณเครื่องดื่มคาราบาว และ ตะวันแดง ที่ร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ครั้งนี้! พร้อมขับเคลื่อนวงการดนตรีไทยให้ก้าวไกลไปด้วยกัน แล้วพบกันในค่ำคืนที่เสียงดนตรีจะเป็นดั่งสายลมเย็นพัดผ่านใจ!!

ซื้อบัตรผ่านช่องทางออนไลน์ Pazan Music Festival

แชตเฟซบุ๊ก: http://m.me/pazanmusicfestival 

LINE Official Account: @pazanmusicfestival 

THE CONCERT: https://www.theconcert.com/concert/3813 

All Ticket by Counter Service: https://www.allticket.com/event/ROADFORLIFE3 

All Ticket และ 7-Eleven ทุกสาขา หรือ โทร : 09-8828-2187


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top