Tuesday, 18 February 2025
NEWSFEED

‘หนุ่ม สุรวุฑ’ ขอบคุณ ‘เปิ้ล หัทยา’ จ่ายค่าตัวครบทุกบาททุกสตางค์ พร้อมวอน ‘ชาวเน็ต’ คอมเมนต์ด้วยความสุภาพ อย่าระรานถึงครอบครัว

(31 ก.ค. 67) จากกรณีที่ 'หนุ่ม' สุรวุฑ ไหมกัน นักแสดงชื่อดังโพสต์ข้อความฝากถึงบุคคลปริศนา ที่เจ้าตัวเคยมีโอกาสได้ร่วมงานละครด้วย และแม้ว่าละครเรื่องดังกล่าวจะจบไปเป็นระยะเวลากว่า 1 ปีแล้ว แต่จนถึงตอนนี้เจ้าตัวก็ยังได้เงินค่าตัวไม่ครบ จนเป็นเหตุให้ต้องใช้พื้นที่อินสตาแกรมระบายความรู้สึกอัดอั้น โดยระบุว่า "เลื่อนยิ่งกว่าไส้เลื่อน ก็เงินค่าตัวกรูนิล่ะ ละครจบไปจะเป็นปีละ รวมเวลาถ่ายทำอีก รวม ๆ 5 ปีแล้ว ยังได้ค่าตัวไม่ครบ"

ต่อมา ‘เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง’ ได้ยอมรับว่า “ผู้จัดที่หนุ่ม สุรวุฑ พูดถึงเป็นตนเอง แต่หนุ่มเขาไม่ได้เอ่ยชื่อ ต้องเล่าก่อนว่า ตัวพี่เองได้เข้ามาช่วยดูละครเรื่องปาฏิหาริย์กาลเวลา ในตอนท้าย ๆ หลังจากที่พี่ตั้วเสียชีวิต ทำให้ตัวพี่เองรู้ข้อมูลน้อยมาก ไม่รู้ว่าตอนนี้มีนักแสดงคนไหนได้เงินยังไม่ครบ หรือว่าได้ครบแล้ว”

ล่าสุด 'หนุ่ม สุรวุฑ' ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางติ๊กต็อกส่วนตัว ‘noommaikan’ ออกมาขอบคุณ เปิ้ล หัทยา ได้จ่ายเงินค่าตัวนักแสดงที่ยังเหลือค้างอยู่ให้เรียบร้อยแล้วว่า…

“วันนี้พี่เปิ้ลได้มีการชำระค่าตอนที่เหลือให้ผมมาเรียบร้อยแล้ว ครบทุกบาททุกสตางค์ ขอบคุณพี่เปิ้ลด้วย ขอบคุณทุกการซัพพอร์ต ขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่เสนอข่าว”

หนุ่ม สุรวุฑ ระบุอีกว่า “อยากฝากไปบอกคนที่เข้ามาคอมเมนต์ใช้ข้อความที่สุภาพแล้วกัน ที่สำคัญที่สุด พยายามอย่าไปพาดพิงครอบครัวพี่เปิ้ลเขา โดยเฉพาะลูก ๆ เขา น้อง ๆ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ด้วย เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ตกลงกันทางธุรกิจ”

ซึ่งก็มีเหล่าชาวโซเชียลเข้ามาให้กำลังใจทั้งสองฝ่ายกันเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับหนุ่ม สุรวุฑ ที่ได้รับค่าตัวครบแล้ว

‘แฟนคลับ’ สุดทน!! YG ปฏิบัติกับ ‘ลิซ่า’ ไม่แฟร์ หากเทียบสมาชิกในวง ได้ใส่ชุดโปรโมต BORN PINK ตัวเดิม แถมเขียนชื่อค่าย LLOUD ผิด

(30 ก.ค.67) เป็นเรื่องอีกแล้วบลิ๊งค์ทั่วโลก (ชื่อแฟนคลับ) ต่างรอคอยการกลับมาของทั้ง 4 สาว ‘ลิซ่า - โรเซ่ - เจนนี่ - จีซู’ ล่าสุด YG Entertainment ต้นสังกัดเพียงในนามวงของ ‘BLACKPINK’ เตรียมปล่อยเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต ‘BORN PINK’ ครั้งยิ่งใหญ่ในรูปแบบภาพยนตร์

ภายใต้ชื่อ ‘BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] IN CINEMAS’ เรียกว่า เป็น Limited screenings เริ่มต้นฉายครั้งแรกในวันที่ 31 ก.ค. แต่กลายเป็นประเด็นร้อนไม่ใช่น้อย เมื่อแฟนคลับเห็นโปสเตอร์ และโปสการ์ดของ ‘ลิซ่า’ เมื่อเทียบกับเพื่อน ๆ คนอื่นในวง ทำให้รู้สึกไม่ยุติธรรม และเท่าเทียมกับคนอื่น 

โดยแฟนคลับต่างโพสต์ในแพลตฟอร์ม X เกี่ยวกับสิ่งที่ YG ปฏิบัติ หลังจาก ‘ลิซ่า’ แยกออกมาเปิดต้นสังกัดเดี่ยว และเตรียมกลับมาทำงานผลงานร่วมกับวง ได้แก่ 

- เขียนชื่อค่ายของ ลิซ่า ผิด จาก LLOUD เป็น LOUD ซึ่งแฟนคลับมองว่า ชื่อค่ายนี้เขียนง่ายมากที่สุด 
- โปสการ์ดแถมจากภาพยนตร์ที่กำลังจะปล่อยออกมานั้น สมาชิกในวงคนอื่น เป็นรูปภาพที่ใส่ชุดแตกต่างกัน แต่ของลิซ่ากลับเป็นชุดเดิม ทั้งที่ในโชว์เปลี่ยนตั้งหลายชุด แถมคอมโพสต์ภาพแสงกลับแยงตาอีก
- โปสเตอร์เดี่ยวสำหรับการโปรโมตยังใช้ชุดเดิม ภาพเดิมซ้ำกับโปสการ์ด ทั้งที่สมาชิกคนอื่นเปลี่ยนรูป แถมรูปที่ออกมายังมีไมค์ปิดบังใบหน้า 

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้คือความเห็นจากในโลกโซเชียลเท่านั้น ต้องมารอติดตามกันอีกที ว่าในรูปแบบภาพยนตร์เต็มที่ปล่อยออกมาจะเป็นอย่างไร

‘ซี ศิวัฒน์’ เดือด!! หลังเห็นโฆษณา Apple ถ่ายทำในประเทศไทย ย้ำ!! บ้านเรามีดีเยอะ พร้อมไม่ขำกับภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองเราไม่ดี

(30 ก.ค.67) กลายเป็นประเด็นดรามาร้อนแรง หลังจากที่ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ได้เผยแพร่โฆษณาตัวใหม่ The Underdogs: OOO (Out Of Office) | Apple at Work รวมสินค้าสุดล้ำสมัยหลากหลายชิ้น โดยปักหมุดถ่ายทำในประเทศไทย

กลับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนไทยไปในทิศทางลบว่า รู้สึกไม่ปลื้มอย่างแรง เพราะองค์ประกอบ สถานที่ คอสตูม ขัดกับสิ่งที่ Apple นำเสนอมาก ๆ

แถมมีการย้อมสีภาพให้ออกโทน ‘สีเหลือง’ ค่อนข้างที่จะเหยียด สื่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยได้ออกมาล้าหลัง และด้อยพัฒนา

ไม่เพียงแค่นั้น ในเรื่องของการเดินทาง ที่ค่อนข้างเก่า จนเหมือนโลเคชั่นของการถ่ายทำเป็นประเทศอื่นไปเลย ทำเอาสาวกหลาย ๆ คน ถึงขั้นอยากเลิกใช้แบรนด์ดังกล่าวทันที

งานนี้ล่าสุด พิธีกร-นักแสดงชื่อดัง อย่าง ‘ซี ศิวัฒน์’ ขอไม่ทนกับประเด็นดังกล่าวด้วยเช่นกัน ออกมาโพสต์ภาพโฆษณาตัวดังกล่าว พร้อมระบุว่า “xูไม่ขำ! บอกเลยโคตรเฮีย ถ้าไม่เสียดายตังค์นะ แx่งเขวี้ยงทิ้งจริง”

ก่อนได้ตอบคอมเมนต์รัว ๆ เอาไว้ว่า “แอบโกรธอะ ทั้ง ๆ ที่เราก็สาวก Apple มาตลอด”

“ก็เพราะ Soft Power นี่แหละครับ เราถึงดูแย่ บ้านเราไม่ได้ล้าหลังขนาดนั้น ประเทศไทยเรามีสิ่งที่ดีเยอะแยะ ทำให้ขำเข้าใจได้ แต่ผมไม่ขำกับภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองเราไม่ดี”

'รร.ไฮแอท รีเจนซี่' ชวนคอเพลงแจ๊ส ดื่มด่ำสุนทรียภาพแห่งดนตรี ผ่านภาพถ่ายนักดนตรีระดับตำนาน ในงาน 'Jazz Icons Exhibition'

โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ ชวนคอเพลงแจ๊ส ร่วมดื่มด่ำกับท่วงทำนองอันเป็นอมตะผ่านภาพถ่ายของนักดนตรีแจ๊สระดับตำนาน ผ่านนิทรรศการภาพถ่าย Jazz Icons Exhibition ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ตุลาคม 2567 

โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท จัดงาน 'Jazz Icons' นิทรรศการภาพถ่ายของนักดนตรีแจ๊สระดับตำนานจากคอลเลกชันส่วนตัวของ ท่านทูต มิเชล โบบอต อดีตนักการทูตชาวฝรั่งเศสประจำองค์การยูเนสโก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยาวนานของ ดนตรีแจ๊สและมอบประสบการณ์ทางวัฒนธรรมให้แก่ผู้มาเยี่ยมชมผ่านภาพถ่ายของช่างภาพมืออาชีพ

สำหรับดนตรีแจ๊สมีต้นกำเนิดในชุมชนชาวแอฟริกัน-อเมริกันในนิวออร์ลีนส์ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นแนวดนตรีที่มีอิทธิพลอย่างมากและถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ

สิ่งที่น่าสนใจที่คอเพลงแจ๊สไม่ควรพลาดงานนิทรรศการครั้งนี้ เพราะไม่บ่อยครั้งที่จะมีการรวบรวมภาพถ่ายหายากของนักดนตรีชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Kenny Clarke, Louis Armstrong, Ornette Coleman, Dave Brubeck และอีกมากมาย ที่ถูกถ่ายในช่วงเทศกาลดนตรีและคอนเสิร์ตที่จัดแสดงทั่วกรุงปารีส ฝรั่งเศสตอนใต้และสหรัฐอเมริกา ระหว่างช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 ไปจนถึงต้นทศวรรษที่ 1980 เพื่อเป็นการยกย่องผลงานและความคิดสร้างสรรค์ของเหล่านักดนตรีมากความสามารถ มาจัดให้ชมกันอย่างสุดใจในกลางกรุง

"หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ ดนตรีแจ๊สได้เข้ามามีอิทธิพลเป็นอย่างมากในยุโรปและเอเชีย จนกลายเป็นที่แพร่หลายอย่างรวดเร็ว ทั้งจากการจัดแสดงคอนเสิร์ต การแสดงโชว์ในคลับ การออกแผ่นเสียง และการประชาสัมพันธ์ผ่านนิตยสารต่าง ๆ ถือเป็นแนวเพลงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดแห่งยุค และในขณะเดียวกัน นักดนตรีแจ๊สหลายท่านจึงเริ่มกลายเป็นที่จับตามอง และได้ถูกนำไปตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยครั้งตามความนิยมของแฟนเพลง 

ใบหน้าที่มีเอกลักษณ์ของเหล่าศิลปิน ได้แสดงถึงความหลากหลายทางอารมณ์ความรู้สึกผสมผสานเข้ากับความคิดสร้างสรรค์และความพิเศษ แค่เพียงได้มองภาพถ่ายก็สามารถสัมผัสได้ถึงความสุข ความเศร้า และรับรู้ได้ถึงบุคลิกของเหล่านักดนตรีในภาพ แม้จะไม่ เคยฟังเพลงของพวกเขาเลยก็ตาม" ท่านทูตมิเชล โบบอต อดีตนักการทูตและนักสะสม เจ้าของคอลเลกชันภาพถ่ายที่ถูกนำมาจัดแสดงในครั้งนี้ กล่าว

นายแซมมี่คาโรลุส ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดแสดงนิทรรศการในครั้งนี้ ว่า "นิทรรศการนี้ ถือเป็นการเฉลิมฉลองความมีชีวิตชีวาและความหลากหลายของวงการดนตรีแจ๊ส อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังความหลงใหลและความคิดสร้างสรรค์ซึ่งถือเป็นคำนิยามที่ดี ที่สุดของผลงานศิลปะอันแท้จริง พร้อมทั้งเชื่อว่านิทรรศการนี้ จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ได้มาเยี่ยมชมและจุดประกายจินตนาการให้คอเพลงแจ๊สได้ดื่มด่ำกับโลกของดนตรีแจ๊สไปพร้อมกัน"

แน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นคอเพลงแจ๊สตัวจริง หรือคนทั่วไปที่สนใจประวัติศาสตร์เพลง ไม่ควรพลาดกับนิทรรศการภาพถ่ายคอลเลกชันส่วนตัวของท่านทูต มิเชล โบบอต ซึ่งเป็นครั้งแรกที่คอลเลกชันนี้ ได้ถูกนำมาจัดแสดงในประเทศไทย ที่จะนำเราย้อนวันวานไปเพลิดเพลินกับการเดินทางสู่ยุคทองของวงการดนตรีแจ๊สผ่านรูปถ่ายของบุคคลสำคัญที่มีส่วนช่วยในการผลักดันวงการแจ๊สให้เป็นที่รู้จักมาจนถึงปัจจุบันและเป็นมรดกสืบทอดต่อไปในอนาคต 

ที่สำคัญนิทรรศการภาพถ่ายที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เปิดให้ชมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ณ บริเวณล็อบบี ของโรงแรม ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2567 บอกได้คำเดียวว่า งานนี้คอเพลงแจ๊สไม่ควรพลาดโดยประการทั้งปวง!

‘บิ๊ก D Gerrard’ เตือนภัย หลังเจอแท็กซี่เปิดหนังสยิวดูกลางถนน ลั่น!! ไม่ว่าจะทำงานอะไร ควรให้เกียรติวิชาชีพ-ส่วนรวมมากกว่านี้

เมื่อวานนี้ (29 ก.ค.67) ทำเอานักร้องดัง ‘บิ๊ก ดี เจอร์ราร์ด’ หรือ ไบรอัน เจอร์ราร์ด อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบียล ถึงกับเดือด เมื่อเห็นแท็กซี่คันหน้า เปิดหนังสยิวดูกลางถนน ขณะรถจอดติดไฟแดง โดยระบุว่า “เตือนภัยTAXI ถ้าคุณมีลูกสาวแล้วต้องขึ้นTAXI คันนี้ คุณจะต้องรู้สึกยังไง?”

โดย นักร้องดัง บอกว่า “สำหรับผม..ผมคิดว่าสังคมเรามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ควรทำหรือไม่ควรทำครับ..ยิ่งในที่สาธารณะหรืออะไรก็ตามที่เป็นสาธารณะ..ผมคิดไตร่ตรองอยู่พอสมควรก่อนจะโพสต์คลิปนี้ว่าจะโพสต์หรือไม่โพสต์ดี..แต่ที่ต้องตัดสินใจโพสต์จริง ๆ เพราะถ้าไม่พูดก็จะไม่มีการตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้และเพราะเป็นห่วงสังคม, เป็นห่วงในความปลอดภัยของผู้หญิงที่ต้องขึ้นรถหรือโดยสารรถ Taxi คันนี้ หรือไม่ว่าจะคันไหนก็ตามที่ทำแบบนี้อยู่

ผมจึงคิดว่าควรออกมาพูดถึงเรื่องนี้และอยากให้มองถึงการให้เกียรติวิชาชีพของตัวเองให้มากกว่านี้ครับ และผมคิดว่าไม่ว่าเราจะทำอาชีพอะไรหรือเป็นใครก็ตามเราต่างเป็นแบบอย่างของกันและกัน เราจึงควรต้องให้เกียรติตนเองและส่วนรวมให้มากกว่านี้…สุดท้ายนี้ขอฝากถึงพี่คนขับรถคันนี้และวงการผู้บริการรถโดยสารสาธารณะได้โปรดช่วยกันยกระดับตนเอง เพื่อให้พวกเราสบายใจที่จะขึ้นรถของพวกคุณด้วยเถอะครับ..ขอบคุณครับ”

‘AiStudio.wedding’ จัดโปรโมชันเอาใจคู่รัก พาบินลัดฟ้าถ่ายพรีเวดดิ้ง ปักหมุด!! ประเทศสิงคโปร์ กับราคาสุดพิเศษเพียงแค่ 59,999 บาท

(26 ก.ค. 67) AiStudio.wedding ผู้ให้บริการด้านการถ่ายภาพแบบครบวงจร เอาใจคู่รักสายทราเวล จัดโปรโมชันพิเศษ ‘Ai Pre Wedding @ Singapore’ พาคู่รักที่หลงรักการเดินทาง บินลัดฟ้าถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกับแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองสิงคโปร์ อาทิ Merlion Park, Marina Bay, Gardens by the Bay และ Universal Studios เป็นต้น ในราคาสุดพิเศษเพียง 59,999 บาท รวมค่าเดินทางสำหรับ 2 ท่าน ห้องพักจำนวน 1 คืน และ ทีมงาน AiStudio.wedding พิเศษสำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจภายใน 31 สิงหาคมนี้ รับ Photobook และ E-Card มูลค่ารวมกว่า 10,000 บาท ฟรี

ทั้งนี้ สำหรับคู่รักที่สนใจสามารถจองและเลือกช่วงเวลาที่ต้องการได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 สิงหาคม 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 085-355-4449, 098-449-9992 หรือ Line ID : @aistudio.wedding ติดตามโปรโมชั่นและผลงานได้ที่ IG : aistudio.wedding

‘RS’ เปิดโปรเจกต์ ‘LONELY LOUD FEST เทศกาลเหงาตะโกน’ ‘นนท์ ธนนท์-อิ้งค์ วรันธร-PIXXIE’ นำทัพมาฮีลใจ เริ่มจองบัตร 30 ก.ค.นี้

(26 ก.ค. 67) อาร์เอส มัลติเอ็กซ์  ภายใต้ อาร์เอส มัลติมีเดีย แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป เดินหน้าโปรเจกต์ใหม่ที่จะมาฮีลใจ พร้อมปลุกไฟคนเหงาให้อ้าแขนโอบกอดรับความสุข กับงาน ‘LONELY LOUD FEST เทศกาลเหงาตะโกน’ งานรวมพลคนเหงา ที่ไม่ว่าจะอกหัก ว้าเหว่ เพื่อนเมิน ก็มาตะโกนเพลิน ๆ ให้โลกได้รู้ว่าคนเหงาก็มีความสุขได้ เตรียมวอร์มและอุ่นเครื่องร่างกายของคุณมาให้พร้อม และมาตะโกนความเหงา พร้อมกันใน วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายนนี้ ณ UNION HALL ศูนย์การค้า UNION MALL พูดเลยว่างานนี้ ถึงตอนมา จะมาคนเดียว แต่กลับไปแบบไม่เดียวดายแน่นอน คอนเฟิร์ม!

แล้วคนเหงา จะกลับไปแบบไม่เดียวดายจริงหรือ? คำตอบนี้ ไม่มีใครจะการันตีได้ นอกจากใครที่เหงา จะต้องมาสัมผัสและมาพิสูจน์ด้วยตัวของคุณเอง เพราะภายในงาน ‘LONELY LOUD FEST เทศกาลเหงาตะโกน’ เหล่าบรรดาคนเหงา นอกจากจะไม่เหงาใจแล้ว ยังไม่เหงาหูแน่นอน เพราะจะได้พบกับศิลปินสุดขี้เหงา ที่จะทำให้คุณได้ร้องตะโกนให้ดังลั่น กับเพลงช้า เพลงฮีลใจ ปลดปล่อยความเหงาให้สุดเสียง พร้อมมาโดด แต่ไม่เดี่ยวกับศิลปินสุดฮิต แบบนันสต๊อป นำโดย นนท์ ธนนท์, อิ้งค์ วรันธร, PIXXIE, LIPTA, SERIOUS BACON และ WIM หรือ  กานต์-กษิดิ์เดช หงส์ลดารมภ์ 

เท่านั้นยังไม่พอภายในงาน ยังมีกิจกรรมแก้เหงา ให้เหล่าคนเหงาได้มาปล่อยใจ ปล่อยจอย ร่วมสร้างแอคทิวิตี้ด้วยกันอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น โซนเล่นตะโกน  มาเล่นตะโกนระบายอารมณ์กับมุมแปะ POST-IT ระบายความเหงาและ Installation ART, โซน HEAL ด้วยการหาเพื่อนใหม่แบบไม่เดียวดายด้วย QR FRINDS แลก Contact / แจกวาร์ป ช่องทาง ให้คุณไปดีลต่อแบบโดนใจ พร้อมกับกิจกรรม ฮีลใจ ด้วยการนำของเก่ามาแลกของใหม่สุดพิเศษจากงาน ภายใต้คอนเซปต์ ‘เอาแฟนเก่ามาแลกแฟนใหม่’ และแน่นอน การจะมีความรักดี ๆ เรื่องของมูเตลู ก็สำคัญกับโซน เสริมความสุข กับมูชาปอง / ของขลัง / ของมูสายความรัก และที่ขาดไม่ได้เลย กับกูรูที่จะช่วยคุณให้ Move On ให้ก้าวต่อไปแบบไม่หลงทาง มาดูหมอ หามูLOVE ดูดวง แก้ดวง แก้ชง กันจนกว่าจะสบายใจ

โดยความสุขที่คนเหงาทั้งหลายจะได้พบเจอทั้งหมดภายในงาน ‘LONELY LOUD FEST เทศกาลเหงาตะโกน’ ปักหมุดละลายความเหงา ใน วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายนนี้ ณ UNION HALL ศูนย์การค้า UNION MALL ขอเน้น และขอย้ำให้ทุกคนได้ท่องจำกันจนขึ้นใจ และรีบกดบัตรด่วน สำหรับบัตร EARLY BIRD ราคาทำถึง เพียง 567 บาทเท่านั้น (จากปกติ 789 บาท) ซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม - 30 สิงหาคม 2567 เท่านั้น ที่ THE CONCERT https://www.theconcert.com/concerts/lonely-loud-fest สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง FACEBOOK / X / Instagram /TikTok : RSMultiX ราคาจึ้งขนาดนี้ อย่าลังเล เพราะคุณจะไม่เหงาอีกต่อไป

ชาวเน็ตติง!! ‘อั๋น ภูวนาท’ เรื่องมารยาท-ดูไม่ให้เกียรติ ‘น้องแดน’ หลังไม่เรียกชื่อ-ทักชุดที่ใส่ ล่าสุดเจ้าตัวโร่แจงมันคือการแซว

เมื่อวานนี้ (25 ก.ค. 67) กลายเป็นดรามาหม้อใหญ่ร้อน ๆ ที่ทำให้เกิดเป็นประเด็นในโลกโซเซียล เป็นการถกเถียงถึงขั้นตอนการทำงานของ MC ในงาน ๆ นึง ที่เหมือนจะเป็นการไม่ให้เกียรติแขกที่มาร่วมงาน โดยชาวเน็ตมีการโพสต์ในโลกออนไลน์พร้อมตั้งคำถามว่า “มีหลายคนอยากเห็นคลิปที่ MC ในงานเอ่ยถึงคนนึงที่ถูกเชิญมาในงาน จัดที่ให้นั่งรวมกับศิลปินได้เดินแบบเหมือนคนอื่น ๆ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับไม่เหมือนศิลปินคนอื่น ๆ เพียงเพราะเขาไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียง ก็เลยไม่จำเป็นต้องให้เกียรติและมีมารยาทด้วยใช่ไหม” ซึ่ง MC ได้แนะนำศิลปินที่มาร่วมในงานนี้ แต่พอมาถึง ‘น้องแดน’ หรือ ‘คิมอินฮยอน’ น้องเล็กจากช่องยูทูบ Cullen Hateberry MC ก็ได้เปิดประโยคว่า

“อ่ะ แล้วนั่งอยู่หัวมุม ไม่อ่านไลน์กลุ่มเพื่อน แต่งตัวไม่เข้าสี แต่ไม่เป็นไร ให้อภัยได้ ใครมาเชียร์ผู้ชายคนนี้ อ้าว…นี่นั่งอยู่ตรงนี้แล้ว (MC ผายมือไปที่ ‘น้องแดน’) สวัสดีเขาหน่อยสิ (น้องแดน ยกมือสวัสดี) ยืนทักทายทุก ๆ คนหน่อย นี่ ๆ ๆ (น้องแดน ลุกขึ้นทักทาย) ต้องบอกว่านี่คือเบอร์ต้น ๆ ของประเทศตอนนี้เลย ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ”

ถ้ามองอีกมุมก็เป็นการแนะนำแขกที่มาร่วมงานปกติ อาจจะมีการหยอก การแซว แต่ที่มันกลายเป็นประเด็นจนเกิดการตั้งคำถามว่า ‘เพียงเพราะเขาไม่ดัง เลยไม่ต้องให้เกียรติเขาเหรอ?’ ซึ่งในประโยคสุดท้ายก่อนขอบคุณ MC ก็ยังอวยยศว่า ‘นี่คือเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ’ แต่คนที่ได้ดูคลิปนี้ ก็งงว่าถ้าเขาดังระดับเบอร์ต้น ๆ ทำไม MC ถึงไม่เอ่ยชื่อ ‘น้องแดน’ เหมือนที่เอ่ยชื่อคนอื่นล่ะ! หรือถ้าไม่รู้จักจริง ๆ ในสคริปต์ไม่มีชื่อเลยเหรอ? 

งานนี้หลายคนอยากรู้ว่า MC คนนั้นคือใคร มีการไปไล่ดูย้อนหลังในเพจของงานวันนั้น ซึ่งก็คือ ‘อั๋น ภูวนาท คุณผลิน’ ซึ่งชาวเน็ตก็ย้อนกลับไป เพราะ ‘อั๋น’ ก็เคยพูดถึงเรื่องค่าตัวของ ‘พี่จอง-คัลแลน’ จนกลายเป็นดรามาว่า ‘ค่าตัวทำคอนเทนต์สองคนนี้ 1 ล้านบาทไม่ใช่จ้างเป็นพรีเซนเตอร์นะ ค่ามาออกรายการ’

และการที่ ‘น้องแดน’ ใส่ชุดสีม่วง ซึ่งไม่เป็นไปตามของสีงานที่เป็นสีเขียว เพราะเป็นพรีเซนเตอร์ ของแบรนด์ ‘Daeng Gi Meo Ri’ ซึ่งเป็นสีม่วงนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ภายหลังทางคุณอั๋นก็ได้ออกมาชี้แจงประเด็นดรามาดังกล่าวที่มีหลายคนมองว่า ไม่ให้เกียรติน้องแดน โดยทางคุณอั๋นมองว่า "มันคือการแซว เพราะทุกคนในงาน ได้รับบรีฟให้ใส่สีของอีเวนต์ แล้วเขาใส่สีม่วงคนเดียวในงาน แล้วเขาเด่นมาก และพี่ก็ยังให้เครดิตว่านี่คือตัวท็อป ขอเสียงกรี๊ดให้หน่อย"

‘อากาเซ่ทั่วโลก’ ร่วมส่งกำลังใจให้ ‘แบมแบม GOT7’ หลังโพสต์เศร้า ‘อยากหลับไม่ต้องตื่น-กดดัน-เครียด’

(25 ก.ค.67) ทำเอาเหล่าอากาเซ่ (ด้อมแฟนคลับของ GOT7) เป็นห่วงไม่น้อย เมื่อ ‘แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล’ หรือ ‘แบมแบม GOT7’ ได้โพสต์ข้อความตัดพ้อชีวิต จนทำแฟน ๆ หวั่นใจ

โดยแบมแบมได้โพสต์ข้อความลงในสตอรี่อินสตาแกรม ระบุข้อความว่า “I just want to sleep and don’t wake up so I can finally rest“ (ผมแค่อยากหลับ และไม่ต้องตื่น ผมจะได้พักสักที )

จากข้อความดังกล่าวทำเอาหลายคนหวั่นใจ จึงรีบส่งข้อความแสดงความเป็นห่วงไปยังเจ้าตัวผ่านทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งทำให้แบมแบมต้องออกมาโพสต์ข้อความอีกครั้งเพื่อให้แฟน ๆ คลายกังวล โดยระบุว่า

”Is been a long run from last year till now and still long way to go, it was alot of pressure and stress and since my body not really feel so well for a long time now sometimes. I’m getting sensitive and emotional

i'll do my best on this year and will find my time to rest i'll be okay sorry if i caused any worry have a good day“

(มันยาวนานมาตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงตอนนี้และยังคงยาวต่อเนื่องออกไป มันมีแรงกดดันและความเครียดมากมาย และนับตั้งแต่นั้นร่างกายของผมรู้สึกไม่ค่อยดีมาสักพักหนึ่งแล้ว ผมเริ่มอ่อนไหวและสะเทือนใจง่ายมาก ปีนี้ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดและจะพยายามหาเวลาพักผ่อน ผมจะไม่เป็นอะไร ขอโทษด้วยนะครับถ้าทำให้ทุกคนต้องเป็นห่วง ขอให้มีวันที่ดีนะครับ)

ทั้งนี้ ทำเอาหลาย ๆ คนเริ่มโล่งใจแล้ว หลังจากที่แบมแบมโพสต์ล่าสุด ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุดและหาเวลาพักผ่อน ก่อนจะพร้อมใจส่งกำลังใจให้รัว ๆ กันต่อไป

'บุ๋ม ปนัดดา' ทุ่มเงินเก็บซื้อที่ดิน สร้างมูลนิธิช่วยเหลือประชาชน เผยจุดเปลี่ยนชีวิตที่หันมาทำงานเพื่อสังคม เพราะ 'ลูก'

(25 ก.ค.67) นักแสดงและพิธีกรมากความสามารถที่มีความสุขในการต่อสู้เพื่อสังคม ‘บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี’ มาเปิดใจในรายการ WOODY FM เล่าจุดเปลี่ยนชีวิตที่ผันตัวทำงานเพื่อสังคมจนก่อได้ตั้งมูลนิธิองค์กรทำดี โดยปัจจุบันขอใช้ชีวิตคู่อย่างเรียบง่าย และล่าสุดได้เปิดเผยว่าทุ่มเงินเก็บซื้อที่ดินช่วยคนอื่น สร้างมูลนิธิให้เป็นสมบัติของประเทศ โดยระบุว่า..

>> จุดเปลี่ยนจากเดิมที่ทำงานเพื่อตัวเอง เปลี่ยนเป็นทำงานเพื่อผู้อื่น คือตอนไหน?
บุ๋ม ปนัดดา : จุดเปลี่ยนคือปี 2557 คือก่อนหน้านั้นก็ทำงานในมุมของนางงามคนหนึ่งที่ช่วยงานการกุศลหรืออะไรอยู่แล้ว คือในปี 2557 มีข่าวข่มขืนบนรถไฟแล้วหันไปมองลูกสาวตัวเองแล้วก็คิดว่าทำไมมีเรื่องร้ายแรงแบบนี้ได้ แล้วอนาคตของลูกสาวจะมีใครปกป้องเขาได้

ถ้าวันหนึ่งเราไม่อยู่ คนที่เป็นแม่อย่างเราจะสามารถทำอะไรเพื่อปกป้องอนาคตเขาได้ ก็เลยหันมาดูกฎหมาย ศึกษาจริงจังทุกอย่างเลย ชีวิตเปลี่ยนเลย ก็เลยมาดูว่ากฎหมายเกี่ยวกับผู้หญิงไม่มีเปลี่ยนมา 30 ปี

ซึ่งก่อนหน้าบุ๋มไม่ใช่ว่าไม่มีใครขอเปลี่ยนนะ เขาไปประท้วงหน้าสภา คือเขาพยายามทำแล้ว เพียงแต่ว่าในมุมของบุ๋มวันนั้น เรามีพลังของสื่อ ความเป็นดาราด้วยก็เลยทำให้พลังมันแรงมาก กลายเป็นว่าน่าจะเป็นดาราคนแรกเลยมั้งที่ทำเรื่องเปลี่ยนกฎหมาย ก็เลยมีเรื่องอื่น ๆ ตามมา ความช่วยเหลือจากผู้หญิงด้วยกัน เรื่องของคดีความอะไรอย่างนี้เข้ามา

กลายเป็นว่าเราเริ่มอินกับมัน แล้วรู้สึกดีที่ได้ช่วย รู้สึกดีที่เป็นพลังให้พวกเขา รู้สึกดีที่บางทีเขาแจ้งความมาเป็นปีแต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเลย กลับกลายเป็นว่าแสงสว่างที่เรามี หรือเสียงดังที่เรามีมันกลายเป็นพลังให้กับเขา หาความยุติธรรมเพิ่มเติมให้กับเขา รู้สึกดีจัง เราเลยต้องทำในวันที่ฉันยังดังอยู่ เลยกลายเป็นมูลนิธิที่ใหญ่ระดับประเทศ ชื่อว่า มูลนิธิองค์กรทำดี

>> ใช้เวลากี่เปอร์เซ็นต์ของชีวิตเรา?
บุ๋ม ปนัดดา : ตอนนี้ 70% เลยค่ะ เพราะว่าตื่นมาหรือขณะที่นอน มันกลายเป็นว่าเคสวันนี้วิ่งรถกี่คัน ไปต่างจังหวัดโรงพยาบาลขอความร่วมมือมา หรือมีเคสขมขื่นจัดการยังไง มันหลายอย่างมากเลย

>> เวลาเอาเรื่องของชาวบ้านมาใส่สมองของเรา มีวิธีระบายยังไงได้บ้าง เพราะคุณก็อินกับทุกเรื่อง?
บุ๋ม ปนัดดา : อินจริงแต่ตัดได้เร็วค่ะ เพราะว่าถ้าตัดไม่เร็วนะ ซึมเศร้าแน่นอนค่ะ เหมือนน้องหลาย ๆ คนที่เคยเข้ามาช่วย พอรับฟังเรื่องราวเยอะ ๆ ตัดไม่ได้ แม่หนูขอหยุดนะ มีเยอะเลย แต่สำหรับตัวเรากลับกลายเป็นว่าตัดได้ง่ายมาก เพราะว่าเรารู้สึกว่าทุกเคสสำคัญหมด

เราแสดงความเสียใจนะ แต่ชีวิตยังต้อง Go On ยังต้องมีเคสอื่นที่เราต้องมีสติในการดูแลรักษาเขา และดูแลครอบครัวของเราเองด้วย มองว่าเรื่องเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา

>> ทำไมคุณถึงกลายเป็นคนที่เรียบง่าย ทั้งที่สมัยก่อนต้องเป็นข่าว?
บุ๋ม ปนัดดา : สมัยก่อนหรือสมัยนี้บางทีโพสต์อะไรก็เป็นข่าวแล้ว เพียงแต่ว่าพอเป็นเรื่องของคุณก๊อต (สามี) เขาบอกว่าเขาเป็นคนนอกวงการบันเทิง ไม่อยากอยู่ในแสงสีเท่าไหร่ ขอใช้ชีวิตเงียบ ๆ ขอเลี้ยงลูกด้วยความสงบ เราก็เข้าใจ มันขึ้นอยู่กับอีกฝ่ายหนึ่งด้วย ว่าเขาอยากอยู่ในแสงสีมากแค่ไหน ไม่ใช่ว่าไม่มีรายการเชิญเขาไปนะ มีเยอะมากเลย

>> ที่ผ่านมาบุ๋มทำเพื่อคนอื่นเยอะมาก เคยให้อะไรกับตัวเองไหม?
บุ๋ม ปนัดดา : พอเอาจริง ๆ ก็นึกไม่ออกว่าตัวเองอยากได้อะไรกับชีวิต เคยนั่งมองนาฬิกาหรู ๆ นั่งมองแบรนด์เนม สวยนะยากซื้อ แต่เรากลับรู้สึกว่าเอาตังค์ไปช่วยเด็กดีกว่า ลูกบุญธรรมยังต้องเรียน มูลนิธิยังต้องสร้าง เอาไปตรงนั้นก่อนคิดอย่างนี้ เดี๋ยวของฉันไว้ทีหลัง

คือเหตุผลหนึ่งที่คุณสามีที่เขามาขอเราแต่งงาน เพราะเขาบอกว่าชีวิตบุ๋มเหมือนทำเพื่อคนอื่นเยอะมากเลย เพื่อครอบครัวของบุ๋มเอง เพื่อคนรอบข้าง เพื่อลูกน้อง เพื่อมูลนิธิ และเพื่อประชาชนอีก แต่ไม่มีอะไรเลยที่บุ๋มเคยพูดว่าจะทำอะไรเพื่อตัวเอง แต่มาวันนี้บุ๋มมีแล้วนะ

>> ทีมงานบอกว่าวันนี้บุ๋มจะประกาศให้พี่น้องชาวไทยรับทราบเกี่ยวกับเรื่องอนาคตที่วางเอาไว้และตัดสินใจว่าจะทำ?
บุ๋ม ปนัดดา : บุ๋มเพิ่งเอาเงินเก็บก้อนที่เก็บเอาไว้ไปซื้อที่ดินตรงรังสิตคลอง 8 จะทำมูลนิธิองค์กรทำดี แบบที่มี Shelter สำหรับผู้หญิง มีโรงทาน มีสวนปฏิบัติธรรม แล้วก็เป็นมูลนิธิที่ใช้วิ่งรถช่วยเหลือประชาชน จะทำตรงนั้นแล้วก็ทิ้งไว้ให้เป็นสมบัติของประเทศชาติค่ะ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top