Tuesday, 20 May 2025
NEWS FEED

มุกดาหาร -กองบังคับการตำรวจน้ำ เปิดยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง จับกุมผู้กระทำความผิด ยาบ้า 43 ราย ยึด ยาบ้าร่วม 1 ล้านเม็ด คนเข้าเมือง 8 ราย ผู้ต้องหา 23 คน และหมายจับจำนวน 25 ราย

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์  ที่ห้องประชุมกองกำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน. ภายใต้การอำนวยการของ 

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. 
พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก.
พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน.
พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.รน.
พ.ต.อ.ราม รสหอม รอง ผบก.รน.
พ.ต.อ.อดิศักดิ์ มีศิลป์ ผกก.10 บก.รน.
พ.ต.อ.ศษณวรรฐ รัตนเศวตรวงศ์ ผกก.11 บก.รน.
พ.ต.อ.อนรรฆ ประสงค์สุข ผกก.12 บก.รน.  

ร่วมแถลงข่าวกองบังคับการตำรวจน้ำเปิดยุทธการ “ฟ้าสางที่ฝั่งโขง” เพื่อเป็นการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ กองกำกับการ 10 - 12 กองบังคับการตำรวจน้ำ รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดเชียงรายทั้งหมด (กก.12), จังหวัดเลย, จังหวัดหนองคาย, จังหวัดบึงกาฬ (กก.11), จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัด อุบลราชธานี (กก.10) ตามแนวแม่น้ำโขง กั้นระหว่างเขตแดนรวมระยะทางทั้งสิ้น 957 กิโลเมตร โดยได้สืบสวนหาข่าวและกำหนดเป้าหมายในป้องกันปราบปรามจับกุม เป็นเป้าหมายทางบกรวม 76 เป้าหมาย เป้าหมายทางน้ำ 23 เป้าหมาย ได้ออกปฏิบัติการตามยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง ตั้งแต่วันที่ 13 - 20 กุมภาพันธ์ สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดกฎหมายตามยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขงได้จำนวน 43 คน ยึดยาบ้าจำนวน 913,723 เม็ด คนเข้าเมือง 8 ราย ผู้ต้องหา 23 คน และหมายจับจำนวน 25 ราย

ภาพ/ข่าว เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน 092-5259-777

‘ครูชาวลาว’ โดนถล่มยับ!! คอมเมนต์แรงไล่ ‘ไอซ์ ปรีชญา’ ไปตาย หลังซึมเศร้าด่ำดิ่ง ‘ชาวเน็ต’ รุมประณาม ‘อย่าเป็นเลยครู-ใช้อะไรคิด’

เมื่อวานนี้ (20 ก.พ. 67) จากกรณี นางเอกสาว ไอซ์ ปรีชญา ซึ่งมีอาการโรคซึมเศร้าอยู่แล้วด้วย โพสต์ข้อความตัดพ้อระบายความในใจว่า “แม่ขอเงิน พ่อขอเงิน มีแฟนเหมือนไม่มี จะอยู่เพื่อ โทรหาครอบครัว คนรักว่าไอซ์ไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้วนะ ทุกคนเฉยเมย ถ้าวันหนึ่งมันไม่มีไอซ์จริงๆ ขอให้รู้ว่าเป็นเพราะครอบครัว คนรัก

ไม่ใช่เพื่อนหรือแฟนคลับที่ตัดสินใจทำให้ไอซ์คิดสั้น ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย หลังจากนี้ไปทุกคนจะได้รู้ความจริงสักที ว่าชีวิตไอซ์ ไม่มีใครอยากแม้กระทั่งจะเป็นหรอกแค่หนึ่งวัน”

สร้างความเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางเอกสาว ไอซ์ ปรีชญา ทำเอาแฮชแท็ก #ไอซ์ปรีชญา ขึ้นเทรนด์ X (ทวิตเตอร์) เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่ขณะนี้

ขณะที่ เพจอีกี้ขยี้ข่าว ตามล่าอีตุ่นน้อย แคปคอมเมนต์มีคนคอมเมนต์ถึงไอซ์ด้วยถ้อยคำแย่ๆ ไม่อยากอยู่ก็ไปตาย… พร้อมข้อความประณาม ฝากไปถึงเป็นครูสอนภาษา ซึ่งเป็นคน สปป.ลาว
แล้วเมนต์แบบนี้! อย่าเป็นครูเลยมันแสดงให้เห็นพื้นฐานการศึกษา เราเป็นคนอีสานนะ ชอบคนลาวมาก ไปลาวบ่อย แต่ไม่เคยเห็นคนแบบนี้เลย รบกวนช่วยประณาม! ด้วยนั้น

โดยเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์คอมเมนต์แรงฟาดกลับ ครูสอนภาษา คนดังกล่าว ใช้อะไรคิดด้วย อาทิ คนล้มอย่าข้าม # น่าจะเป็นที่ สด. นะค่ะกี้, เป็นคอมเมนต์ที่ใช้ … คิดแทนสมอง, เราก็ลาวค่ะพี่กี้แต่ไม่เป็นแบบป้าคนนี้นะ เป็นต้น

‘ทอย’ สามี ‘น้องนุ่น’ เปิดปมสังหารภรรยา ก่อนอำพรางศพ รับ!! แค้นสะสมหลายอย่าง ลั่น!! ขอชดใช้กับทุกสิ่งที่พลาดไป

(21 ก.พ. 67) จากกรณี นายศิริชัย (ขอสงวนนามสกุล) หรือ ทอย อายุ 33 ปี ก่อเหตุฆ่าเผา น.ส.ชลลดา (ขอสงวนนามสกุล) หรือ น้องนุ่น อายุ 27 ปี ภรรยา หลังเข้าแจ้งตำรวจว่าภรรยาหายตัว แต่เมื่อถูกเค้นสอบอย่างหนัก อีกทั้งกล้องวงจรปิดมัดตัวขณะเจ้าตัวทำร้ายน้องนุ่นริมถนน ยอมสารภาพอ้างพลั้งมือฆ่าภรรยาก่อนขับรถนำศพไปเผาอำพรางคดีตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 20 ก.พ. หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้ควบคุมตัว นายศิริชัย มาทำการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง

นายศิริชัย ได้ยกมือไหว้ขอขมาทาง น.ส.เพ็ญ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.ชลลดาที่ได้รับไหว้ขอขมา โดยมีอาการร้องไห้เศร้าโศกเสียใจอยู่ตลอดเวลา

ตอนหนึ่ง นายศิริชัย กล่าวขอขมาแม่น้องนุ่น ว่า “ไม่ว่าแม่จะให้อภัย หรือไม่ให้อภัย ผมก็จะขอชดใช้กับทุกสิ่งที่อยู่ ที่ผมได้ทำพลาดลงไปแล้ว” โดยน.ส.เพ็ญ ถามว่า “ทำกับลูกแม่ทำไม”

นายศิริชัย กล่าวว่า “มันเป็นเหมือนแค้นสะสมมาหลายอย่าง ก็ตามที่แม่ได้ยิน เวลาผมคุยกับเขา ผมจะเป็นฝ่ายง้อตลอด แต่ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหน เขาก็ไม่เคยมองว่าผมดี อคติที่เขาเอามาพูดซ้ำอีก เรื่องที่เคยเคลียร์กันไปแล้วเขาก็เอามาทะเลาะซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งโมโห สะสม เก็บกดสะสมมา

เขาไม่ยอมให้อภัยผมสักครั้ง ไม่ว่าผมจะทำดีแค่ไหน พูดอะไรไป ก็ผิดใจเขาตลอด ผมไม่เคยคิดจะฆ่า หรือทำให้เขาตาย แต่ด้วยความเมา และโมโห เลยทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น

ต่อให้ผมออกมาจากคุก ผมก็ไม่กล้าสู้หน้าครอบครัวนุ่นและครอบครัวผม ไม่มีหน้าไปเจอลูกตัวเอง ผมเลยมาบอกลาทุกคน ไม่ต้องให้เขาจำผมก็ได้ บอกว่า พ่อของเขาตายไปแล้วก็ได้”

เปิดตัว “ชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ” และร่วมหารือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อ ยกระดับงานสอบสวน พัฒนาคุณภาพชีวิต แก้วิกฤติอำนวยความยุติธรรม

วันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2567) พล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ ประธานชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 ได้มีการจัดตั้ง “ชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ” ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนางานสอบสวน และพนักงานสอบสวนให้มีประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน โดยมี พล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ 
เป็นประธานชมรมฯ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ (ผู้ริเริ่มก่อตั้ง) พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร พล.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ พล.ต.ท.วุฒิ วิทิตานนท์ และ พล.ต.ท.วสันต์ วัสสานนท์ เป็นที่ปรึกษา

ในส่วนของคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ดร.มานะ เผาะช่วย พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ นิตยวิมล พล.ต.ต.เจนกมล คํานวล พล.ต.ต.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ ดีพอ พ.ต.อ.ดร.ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ พ.ต.อ.กีรติ ตรีวัย พ.ต.ท.ภูมิรพี ผลาภูมิ และผู้แทนจากกองบัญชาการที่มีอำนาจสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการบริหาร และคณะที่ปรึกษาชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหางานสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นกรณีเร่งด่วน มีมติในเสนอมาตรการถึงท่านผู้บัญชาการ
ตำรวจแห่งชาติ ดังนี้

1. เรื่องระบบตำแหน่งควบ สายงานสืบสวนสอบสวน โดยแบ่งเป็น “พนักงานสอบสวนปกติ” ที่มีการแต่งตั้ง โยกย้าย เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เหมือนกับตำรวจสายงานอื่นทั่วไป และ “พนักงานสอบสวนตำแหน่งควบ” ที่มีตำแหน่งปรับระดับเพิ่มลดได้ในตัวเอง มีแท่งเลื่อนไหลตั้งแต่ระดับ รองสารวัตร ถึงระดับรองผู้บังคับการ โดยใช้การประเมินเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

2. เรื่องการแก้ไขปัญหาพนักงานสอบสวนขาดแคลน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกวดขัน
ห้ามพนักงานสอบสวนไปช่วยราชการในสายงานอื่น

3. เรื่องการเพิ่มเงินประจำตำแหน่ง และค่าตอบแทนการทำสำนวนการสอบสวน 
โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน และการดำรงตนอยู่ในความยุติธรรมได้อย่างมีเกียรติ โดยเปรียบเทียบกับค่าตอบแทนที่รัฐจ่ายให้แก่ข้าราชการฝ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม

4. เรื่องการแก้ไขคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 419/2556 และระเบียบคำสั่งอื่นที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวน

5. เรื่องการจัดตั้งศูนย์ให้คำแนะนำช่วยเหลือประชาชนและพนักงานสอบสวน
ในการอำนวยความยุติธรรม เพื่อเปิดช่องทางให้ประชาชนและพนักงานสอบสวนสอบถามปัญหา หรือขอคำแนะนำเกี่ยวกับการอำนวยความยุติธรรมตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน

ซึ่งในวันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2567) เวลา 09.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจได้เข้าพบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี ผู้บังคับการกองอัตรากำลัง และผู้บังคับการกองทะเบียนพล เพื่อร่วมหารือ และยื่นหนังสือถึงท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขและพัฒนางานสอบสวนตามมาตรการดังกล่าว

เบื้องต้น ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความยินดีและเห็นชอบกับมาตรการดังกล่าว โดยหลังจากนี้ชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหางานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำเร็จตามวัตถุประสงค์ เพื่อยกระดับ
งานสอบสวน พัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานสอบสวน และแก้ไขปัญหาในการ
อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนต่อไป

‘ศาลฯ’ ส่งฟ้อง ‘รศ.ดร.ยุกติ’ ผิด ม.112  หลังปล่อยเฟกนิวส์เกี่ยวกับในหลวง ร.10

เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.67) พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 ได้นัดหมายส่งฟ้องคดีของ รศ.ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากกรณีที่ถูกแจ้งความโยงโพสต์ทวิตเตอร์กับปมข่าวลือ ร.10 ประชวร เมื่อปี 2564

สำหรับกระบวนการนัดฟ้องคดีในครั้งนี้ ยุกติได้ให้ความเห็นโดยระบุว่า ตนไม่ผิดคาดที่จะมีการฟ้องดำเนินคดีในวันนี้ จริง ๆ แล้วการแจ้งความดำเนินคดี ม.112 กับประชาชนเป็นนโยบายในยุคสมัยของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ซึ่งจากรูปคดีของตน ไม่ควรที่จะมีการดำเนินคดีแต่แรกด้วยซ้ำ แต่พอเปลี่ยนรัฐบาลมาก็ยังมีการดำเนินคดีอยู่ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ก็ไม่ได้มีความจริงจังในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายนี้หรือไม่ได้มีความจริงจังเกี่ยวกับผู้ต้องขังทางการเมืองที่ถูกคุมขังอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งทำให้กระบวนการยุติธรรมมันผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม ยุกติกล่าวเสริมว่า การที่บรรยากาศทางการเมืองเป็นไปในลักษณะเช่นนี้ จะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปเรื่อย ๆ ดังนั้นตนจึงหวังว่าจะมีการนิรโทษกรรมเกิดขึ้น ซึ่งครอบคลุมคดีการเมืองในทุกลักษณะ เพื่อเป็นการคลี่คลายปมปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมมาอย่างยาวนาน

อีอีซี ร่วมมือ มูลนิธิเสนาะอูนากูลม.บูรพา พร้อมภาคีเครือข่าย เปิดเวทีสัมมนา “บริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก” สร้างความมั่นคงทรัพยากรน้ำผลักดันลงทุนเศรษฐกิจสีเขียวสู่การพัฒนาพื้นที่ อีอีซีและชุมชนอย่างยั่งยืน  

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)หรืออีอีซี ร่วมกับมูลนิธิเสนาะ อูนากูล มหาวิทยาลัยบูรพา สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA)และศูนย์ศึกษาการพัฒนาที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจพอเพียง สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) จัดงานสัมมนาวิชาการประจำปี เรื่องสถานการณ์ภาคตะวันออก พ.ศ. 2567 หัวข้อ “ระบบนิเวศของภาคตะวันออก และการบริหาร จัดการน้ำ”ณ หอประชุมธํารงบัวศรีมหาวิทยาลัยบูรพา โดยมีดร. ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานมูลนิธิเสนาะ อูนากูล เป็นประธาน ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ อีอีซี ร่วมปาฐกถาพิเศษ ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวให้การต้อนรับ พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมเสวนา และนำเสนอกรณีศึกษาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ดร.ปรียานุช ธรรมปิยา กรรมการมูลนิธิเสนาะ อูนากูลดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการ TDRI ดร.ดิชพงษ์ ภูมิเกียรติศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาระบบนวัตกรรม GISTDA นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช ประธานสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน ส.อ.ท.เป็นต้น และมีดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธาน TDRI ร่วมดำเนินการเสวนา 
 ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานมูลนิธิเสนาะ อูนากูลกล่าวว่า งานสัมมนาฯ ครั้งนี้เพื่อเป็นเวทีกลางแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกให้มีใช้อย่างยั่งยืน ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนรวมทั้งภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาสังคม ตลอดจนสถาบันการศึกษาและเยาวชน อีกทั้งเพื่อนำเสนอ“รายงานการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน ภาคตะวันออกพ.ศ. 2565”เรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ให้สาธารณชนโดยรวมได้รับทราบสถานภาพปัญหาและข้อเสนอแนะ โดยมูลนิธิเสนาะ อูนากูล ได้จัดทำรายงานชิ้นนี้เพื่อติดตามสถานการณ์การพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกตามแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน และนำเสนอข้อมูลโดยสรุป หรือDashboardเรื่อง State of the Eastern Regionเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงใน 3 ด้าน ได้แก่ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงข้อมูลจากการสำรวจความคิดเห็นประชาชนและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการพัฒนาในพื้นที่

ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ อีอีซี กล่าวถึง การบริหารความพิเศษเพื่อโอกาสของ อีอีซี ซึ่งเป็นการพัฒนาภายใต้แนวคิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยได้ใช้ข้อมูลเดียวกับแนวคิดการพัฒนาอีอีซี กลไกในการขับเคลื่อนการลงทุนและการบริหารงานใน สกพอ. การส่งเสริมการให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ การพัฒนาพื้นที่เพื่อจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจ การเตรียมโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อีอีซี รวมถึงสิทธิประโยชน์ และมาตรการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนที่ สกพอ. พร้อมให้บริการมาตั้งแต่วันที่1 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำการขับเคลื่อนการพัฒนาตามแผนภาพรวมเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก 
2566 – 2570 

สำหรับงานสัมมนาวิชาการฯ ครั้งนี้ ได้นำเสนอกรณีศึกษาในการจัดการน้ำในพื้นที่ทั้งที่ใช้ระบบเทคโนโลยีขั้นสูงและพลังของชุมชน เช่นระบบ Actionable Intelligence Policy (AIP) ที่ GISTDA ได้พัฒนาและทดลองดำเนินการเพื่อเสริมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อีอีซีและกรณีศึกษาชุมชนในท้องถิ่นที่บ้านมาบจันทร์ จังหวัดระยอง ซึ่งมีความเข้มแข็งในการจัดการทรัพยากรน้ำด้วยตนเอง เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพและทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำในพื้นที่

นอกจากนี้ ภายในการเสวนาโต๊ะกลมเรื่องการจัดการน้ำในภาคตะวันออกซึ่งมี ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์  ประธาน TDRI ดำเนินการเสนวนา ได้เจาะลึกถึงข้อเสนอหลักจากรายงานการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน ภาคตะวันออก พ.ศ. 2565 ดังกล่าวรวมทั้งได้มีการอภิปรายจากมุมมองของหน่วยงานภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญ และองค์กรผู้ใช้น้ำโดยเฉพาะภาคเอกชน รวมทั้ง TDRI GISTDA สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืนของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
โดยในรายงานฯ ได้มี4ข้อเสนอหลัก ถึงเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกได้แก่
1)ปรับวิธีคิดของภาครัฐในการจัดการทรัพยากรน้ำ ทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน โดยให้คำนึงถึงการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ 2)เสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งของท้องถิ่น ชุมชน และองค์กรผู้ใช้น้ำ โดยพัฒนาบุคลากรและเพิ่มทักษะความรู้ ให้กับบุคลากรในองค์กรทุกระดับ 3)พัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ หรือที่เรียกว่า Integrated Area-based Water Resource Management (IWRM)โดยอาจดำเนินการในลักษณะSandboxในอีอีซี4)เตรียมแผนรองรับ ป้องกัน และลดผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเผชิญกับภัยภูมิอากาศ ในเขตพื้นที่อีอีซีรวมถึงพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศไทย

เสธ.เปิ้ล 'พลโท เจียรนัย วงศ์สอาด' ผงาด!! นั่งบอร์ด กฟผ. ร่วมทีมสร้างพลังงานไทยเป็นธรรม เพื่อประชาชน

(20 ก.พ. 67) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติ/เห็นชอบ การแต่งตั้ง ดังนี้...

ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รวม 10 คน แทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์และขอลาออก ดังนี้...

1.นายประเสริฐ สินสุขประเสิริฐ ประธานกรรมการ
2.รองศาสตราจารย์กุลยศ อุดมวงศ์เสรี กรรมการ
3.พลโท เจียรนัย วงศ์สอาด กรรมการ
4.รองศาสตราจารย์ฐากูร ศิริยุทธ์วัฒนา กรรมการ
5.นางสาวนิรมาณ ไหลสาธิต กรรมการ
6.นายปกรณ์ อาภาพันธุ์ กรรมการ
7.นายพรพจน์ เพ็ญพาส กรรมการ
8.ศาสตราจารย์พิสุทธิ์ เพียรมนกุล กรรมการ
9.นายวรากร พรหโมบล กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงพลังงาน)
10.นายอัครุตม์ สนธยานนท์ กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง)

โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป 

สำหรับ เสธ.เปิ้ล พลโท เจียรนัย วงศ์สอาด เคยเป็นแกนนำ ตท.29 เป็นผู้ทรงคุณวุฒิสำนักปลัดกลาโหม และเคยเป็น ประธานบอร์ดการเคหะฯ ในยุครัฐบาลบิ๊กตู่ ซึ่งมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรม และเร่งรัดการปฏิบัติราชการในขณะนั้น

สมุทรปราการ-จัดใหญ่ !! “นันทิดา” จับมือภาครัฐ ภาคเอกชน หวนรำลึก ร.ศ.112 เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยกว่า 130 ปี “ปราการเวลา The Theatre”

นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ พล.ร.ท.กำจร เจริญเกียรติ รองเสนาธิการทหารเรือสายงานกิจการพลเรือน ร่วมแถลงข่าวการจัดงานการแสดงแสง เสียง สื่อผสมในรูปแบบมิวสิคัล รำลึกเหตุการณ์ ร.ศ.112 ตอน “ปรากาลเวลา The Theatre” ภายในชั้น 24 หอชมเมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ  

โดยทางด้าน นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ประธานการจัดงาน กล่าวว่า โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรปราการ มีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ทรงวางรากฐาน สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่คนไทย และระลึกถึงวีรบุรุษผู้เสียสละปกป้องอธิปไตยรักษาดินแดนของชาติ ตลอดจนร่วมรำลึกเหตุการณ์ ร.ศ.112 เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ผ่านมา กว่า 130 ปี มีการแสดงละครเวที แสง เสียง สื่อผสมในรูปแบบมิวสิคัล ตอน”ปราการเวลา The Theatre”

พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรปราการ และยังเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัดสมุทรปราการได้อีกด้วย ภายในงานมีเหล่านักแสดงมากฝีมืออย่าง นพพล โกมารชุน, แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์, สองพระเอกหนุ่มช่อง 7 HD โอ๊ด รัฐธีร์ วรโรจน์โยธิน, หลุยส์ เฮส, มิลลี่ อภิสรา วงศ์ทัศนีโย, สปาย ภาสกรณ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์ พร้อมนักแสดงรับเชิญ ทหารเรือ นักเรียน นักศึกษาในจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมถ่ายทอดเรื่องราว พร้อมเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมฟรี 4 รอบการแสดง 14 มี.ค.- 17 มี.ค.2567 ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า

ด้านนายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในจังหวัดสมุทรปราการ ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการตอบสนองนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลที่ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน อาหาร และของดีประจำท้องถิ่นช่วยสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัดสมุทรปราการอีกด้วย

ด้าน พล.ร.ท.กำจร เจริญเกียรติ รองเสนาธิการทหารเรือ สายงานกิจการพลเรือน กล่าวว่า กองทัพเรือ ในฐานะผู้ดูแลป้อมพระจุลจอมเกล้า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เอื้อเฟื้อสถานที่กำลังพลมีส่วนร่วมทำการแสดง รวมถึงอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยว ในการเข้ามาร่วมทำกิจกรรมและเข้ามาศึกษาเรียนรู้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ควรค่าแก่การจารึกไว้ในความทรงจำ นอกจากนี้ก่อนการแสดงยังสามารถเข้าชมนิทรรศการป้อมพระจุลจอมเกล้าและ ชม ชิม ช็อป สินค้าคุณภาพใน เขื่อนขันธ์มาร์เก็ต ชุมชนคนสมุทรปราการ ได้ตั้งแต่ 15.00 น. โดยมีรถบัสอำนวยความสะดวกตามจุดสำคัญตลอดงาน ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง Facebook Page:ปราการเวลา The Theatre

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

‘สว.วีระศักดิ์’ ร่วมเวทีสนทนา ‘มรดกจากธรรมชาติ การสืบทอดและรักษา’ พร้อมร่วมชมภาพยนตร์ ‘มหัศจรรย์เมล็ดพันธ์ุเหนือมิติ The Magic Seeds’

เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 67 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมเวทีสนทนาในหัวข้อ ‘มรดกจากธรรมชาติ การสืบทอดและรักษา’ ร่วมกับ พ่อคำเดื่อง ภาษี ปราชญ์ ชาวบ้านจากแดนอีสาน ผู้สร้างตำนานการปลูกป่าในนาข้าว, ปาน ธนพร, โอ อนุชิต, จ้ะจ๋า แดนดาว ยมาภัย ดารานักแสดง, คุณวันเพ็ญ มีศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และคุณพวงเพชร สุพาวานิชย์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ‘มหัศจรรย์เมล็ดพันธ์ุเหนือมิติ The Magic Seeds เมล็ดพันธ์ุมหัศจรรย์เหนือมิติ สู่มหัศจรรย์ความยั่งยืน’ ภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อถ่ายทอดความรู้และความรักในธรรมชาติของวัยรุ่นหนุ่มสาวผ่านการเรียนรู้จากกลุ่มปราชญ์ชุมชนที่ทำเกษตรธรรมชาติ รักษาความหลากหลายและการสร้างความยั่งยืนให้แก่ชีวิตและชุมชน ตลอดถึงคืนความสมบูรณ์แก่นิเวศสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่

จากนั้นร่วมกับผู้บริหารของ เพลาเพลิน เดอะเจอนีย์ บริการกิจกรรมชุมชนด้วยการฉายหนังกลางแปลง เรื่อง ‘มหัศจรรย์เมล็ดพันธ์ุเหนือมิติ’ ความยาว 120 นาที ในบริเวณ แคมปิ้งมาร์เก็ต ลานกลางหมู่ต้นจามจุรีใกล้อุทยานแห่งชาติ มรดกโลกแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

สำหรับองค์กรหรือสถาบันการศึกษา ตลอดจนชุมชนที่สนใจขอนำภาพยนตร์เรื่องนี้ไปฉายเพื่อการเรียนรู้ สามารถติดต่อได้ผ่านกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กระทรวงวัฒนธรรม หรือติดต่อได้ที่ 092-271-2494 คุณพวงเพชร หัวหน้าโครงการภาพยนตร์

 

ความปรารถนาดีและกำลังใจดีๆ จาก ‘โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ ถึงเยาวชนไทย

ความปรารถนาดีและกำลังใจดีๆ จาก ‘โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ ถึงเยาวชนไทย

ภาพจำที่ชัดเจน ‘โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ ผู้ใหญ่ใจดีที่มอบสิ่งดีๆ ให้แก่สังคมไทย ล่าสุดได้สนับสนุนการศึกษาเด็กไทยทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อโครงการ ‘Aerosoft Give Scholarships มอบทุน 100 ล้าน สานฝันให้เด็กไทย’ พร้อมทั้งฝากความปรารถนาดี ความหวังดี และส่งกำลังใจถึงลูกหลาน เยาวชนไทย ไว้ว่า…

“คุณตาโกมลคนนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับหลาน ๆ ทุกคนที่ได้รับทุนการศึกษาในครั้งนี้ และขอให้ทุกคนอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พวกเหล้ายาของไม่ดีอย่าลองอย่างเด็ดขาด รวมถึงการพนัน ซึ่งตอนนี้การพนันออนไลน์มีเยอะมากและเข้าถึงได้ง่าย ขอฝากไว้ว่าอย่าได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะถ้าหากหลงเข้าไปในบ่วงการพนันแล้วจะทำให้ชีวิตมีแต่ความเดือดร้อน ขอให้มุ่งพัฒนาตัวเองและตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ด้วยความมานะอดทน เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ซึ่งเป็นพื้นฐานสร้างโอกาสในชีวิตและมีรายได้ที่สูงขึ้น สามารถเลี้ยงดูตอบแทนพ่อแม่และมีชีวิตที่ดีในอนาคต”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top