Tuesday, 20 May 2025
NEWS FEED

ดำเนินคดีถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง ปรับรายละ 10,000 บาท หากปล่อยลูกออกมาแว้น

วันนี้ (22 ก.พ.67) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผย กรณีมีการปิดถนนแข่งรถพื้นที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ที่ผ่านมานั้น พนักงานสอบสวนได้ส่งฟ้องผู้ต้องหาไปแล้ว 22 ราย ศาลฯ พิพากษาปรับคนละ 10,000 บาท จำคุก 3 เดือน โทษจำคุกรอลงอาญา นอกจากนี้ ยังได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาที่เป็นเด็กและเยาวชนไว้ได้อีกจำนวน 10 ราย  เจ้าหน้าทื่ตำรวจในส่วนของพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการส่งตัวเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวเพื่อให้ศาลดำเนินการตรวจสอบการจับกุม และเข้าสู่กระบวนการบังคับตามมาตรการพิเศษแทนการดำเนินคดีอาญา เนื่องจากเป็นเด็กและเยาวขน และความผิดมีอัตราโทษไม่เกิน 5 ปี  โดยศาลจะกำหนดแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟู ให้เด็กและเยาวชนที่กระทำผิดร่วมกับพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด ต้องปฏิบัติตามแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟูนั้น เพื่อให้โอกาสเด็กในการที่จะกลับมาเป็นคนดีของสังคม ไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำอีก แต่หากเด็กเยาวชนและบิดามารดาไม่ปฏิบัติตามแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟูที่กำหนด เด็กก็จะถูกดำเนินคดีตามปกติ จะมีประวัติการกระทำผิดติดตัวไป ซึ่งต้องใช้เวลาในการปฏิบัติตามแผนพอสมควร 

แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กนั้น นอกจากจะต้องปฏิบัติตามแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟูที่ศาลกำหนดแล้ว ยังจะต้องถูกดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ฯ พนักงานสอบสวนสามารถแจ้งข้อกล่าวหาแก่บิดา มารดา หรือผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด ส่งฟ้องศาลได้เลยทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กเยาวชนทั้ง 10 ราย มาแจ้งข้อกล่าวหา “ส่งเสริม หรือ ยินยอม ให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด” ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26 (2) ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กทั้ง 10 ราย พิพากษาปรับคนละ 10,000 บาท จำเลยรับสารภาพ ลดกึ่งหนึ่งเหลือปรับรายละ 5,000 บาท ซึ่งนี่เป็นกรณีตัวอย่างสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่านที่ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลบุตรหลาน ปล่อยให้ออกมารวมตัวแข่งรถในทางในเวลายามวิกาล สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด ครบวงจร ในทุกคดี

นอกจากนี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้คณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. ขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ทั้งการโพสต์ชักชวน เชิญชวน บนสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็ดี ทั้งการรวมตัวบนท้องถนนก็ดี โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุร้ายที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

'ศูนย์ทนายฯ' เผยอาการล่าสุด!! 'ตะวัน' พบมีภาวะเลือดเป็นกรด 'แฟรงค์' ชัก!! ต้องใช้เครื่องช่วยให้ออกซิเจน ส่วน 'บุ้ง' อ้วกเกือบทั้งคืน

เมื่อวานนี้ (21 ก.พ.67) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยความคืบหน้าการอดอาหารและน้ำประท้วง (Dry Fasting) ของ บุ้ง เนติพร กลุ่มทะลุวัง, น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ แฟรงค์ ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์

โดย บุ้ง เนติพร ยังคงเดินหน้าประท้วงเพื่อ 2 ข้อเรียกร้อง

1.เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
2.จะต้องไม่มีใครติดคุกเพราะเห็นต่างทางการเมืองอีก

ศูนย์ทนายฯ เผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา บุ้งต้องเจาะเลือดไป 4 หลอด แต่การเจาะเป็นไปอย่างลำบาก เพราะเลือดไหลออกน้อย ลักษณะหยดต่อหยดอย่างช้าๆ

- เมื่อคืนที่ผ่านมา บุ้งกับตะวันอ้วกเกือบตลอดทั้งคืน
- ตัวร้อน ต้องเอาแผ่นประคบเย็นวางที่ศีรษะตลอด
- มีอาการตาลอย หน้ามืด เหนื่อยหอบตลอดเวลา
- แร่ธาตุโซเดียมและโพแทสเซียมในเลือดเริ่มต่ำ
- ปัสสาวะมีสีเข้ม
- มีภาวะเลือดเป็นกรด
- ปวดท้องลามไปจนถึงกระดูกสันหลังตลอดเวลา แต่ต้องอดทนจนรู้สึกว่าเหมือนชินชา

ขณะที่ ‘แฟรงค์’ และ ‘ตะวัน’ อดอาหารและน้ำประท้วงวันที่ 7 โดยมี 3 ข้อเรียกร้อง 2 ข้อแรกเหมือนกับของบุ้ง ส่วนอีก 1 ข้อเรียกร้องที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือ “ประเทศไทยไม่ควรเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งยูเอ็น”

>> อาการของ ‘แฟรงค์ ณัฐนนท์’

ศูนย์ทนายฯ ระบุว่า เมื่อคืนแฟรงค์มีอาการชัก มีอาการมือเกร็ง มือชา ต้องใช้เครื่องช่วยให้ออกซิเจนผ่านทางจมูก เพราะหายใจไม่ทัน แพทย์คาดว่าเกิดมาจากความเครียด

– น้ำหนักตัวลดลงเหลือประมาณ 39 กก.
– รู้สึกร้อนจากข้างในร่างกาย
– อ่อนแรงมาก จนไม่สามารถเดินเองได้ ต้องนั่งรถเข็น

>> อาการของ ตะวัน ทานตะวัน

วันนี้ตะวันนั่งรถเข็นออกมา มีอาการอ่อนเพลีย พูดช้า เสียงเบา ปากแห้งแตกจนลอก เมื่อคืนที่ผ่านมาอาเจียนออกมาเป็นน้ำสีใสรสเปรี้ยว 1 ครั้ง

- มีอาการคล้ายจะอ้วก แต่อ้วกไม่ออกอีกหลายครั้งทั้งคืน
- รู้สึกว่าการประมวลผลช้าลง
- มีอาการหลงลืม ไม่มีสติอยู่กับปัจจุบัน
- น้ำหนักตัวลดลงเหลือประมาณ 41 กก.
- ตัวร้อนมากจนต้องเอาน้ำมาลูบตลอดเวลา 

'บิ๊กเต่า' ยัน!! แจ้งข้อหามาตรา '157-149' แก่ 'บิ๊กโจ๊ก' แล้ว หลังพบหลักฐานเส้นเงินจากเว็บพนันไปใช้จ่ายค่าน้ำ-ไฟ-บ้าน

เมื่อวานนี้ (21 ก.พ. 67) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวแบ่งออกเป็นสองสำนวน คือสำนวนแรกที่มีผู้ต้องหาจำนวน 61 ราย สำนวนที่ 2 มีผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. อีกทั้งสำนวนนี้ยังมีผู้ต้องหาเป็นตำรวจทั้งในและนอกราชการด้วย โดยมีการร้องทุกข์กล่าวโทษในความผิดตามมาตรา 157 กับ 149 และได้ส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างการหารือว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ทำสำนวนคดีดังกล่าว เนื่องจากนายตำรวจที่เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และต้องการให้สำนวนมีความรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย

การที่ตำรวจต้องการนำสำนวนคดีนี้กลับมาดำเนินการเองนั้นเนื่องจากคดีดังกล่าวได้มีการสืบสวนสอบสวนมาเป็นเวลานานแล้ว ตั้งแต่สมัย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนก่อน อีกทั้งคดีหลักที่มีผู้ต้องหา 61 รายนั้น ยังมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยต่อว่า ทั้งนี้ตำรวจมีพยานหลักฐานเป็นเงินจากบัญชีม้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ อีกทั้งเงินจากบัญชีม้าดังกล่าวยังเชื่อมโยงไปถึงญาติพี่น้องของผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ค่ารักษาพยาบาล ซื้อบ้าน ซื้อรถ ค่าเทอม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการขยายผล และเชื่อว่ายังมีเว็บไซต์พนันออนไลน์อื่นที่เกี่ยวข้องกับตำรวจคนนี้ด้วย และหากพบพยานหลักฐานก็จะถือว่าเป็นคดีใหม่ ซึ่งหากทาง ป.ป.ช.ได้มีมติว่าจะส่งสำนวนในคดีกลับมาให้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการก็จะแจ้งข้อกล่าวหาฐานฟอกเงินเพิ่มเติมทันที ส่วนเรื่องระยะเวลาที่ ป.ป.ช.ใช้พิจารณานั้น ปกติแล้วใช้เวลาไม่นานก็จะมีผลการพิจารณาออกมาทันที

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจและ ป.ป.ช.ต้องการทำสำนวนนี้เพื่อประโยชน์ของฝ่ายตัวเองหรือไม่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เป็นการดำเนินการตามพยานหลักฐาน อีกทั้งตำรวจและ ป.ป.ช.ได้ทำงานโดยเป็นอิสระต่อกัน ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งหรือเล่นนอกเกม แต่ต้องการให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว เพราะมีหลายฝ่ายนำเรื่องนี้มาโจมตีสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำให้เกิดความเสียหาย

สำหรับในส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาความผิดตามมาตรา 157 และ 149 กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยถือว่าเข้าข่ายกระทำความผิดวินัยร้ายแรง โดยหลังจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะมอบหมายให้ 'พล.ต.อ.' ที่มีชั้นยศเท่ากันตามกฎหมายเป็นประธานในการตรวจสอบ

ส่วนกรณีที่มีคลิปเสียงพนักงานสอบสวนพยายามเกลี้ยกล่อมผู้ต้องหาในคดีเว็บพนันออนไลน์ให้ยอมกลับคำให้การนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกับทั้งสองคดีข้างต้น และเกิดขึ้นในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน แต่ต้องขอชื่นชมพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวที่มีสติในการชี้แจงกับคู่สนทนาโดยไม่หลงกลการล่อซื้อ เพราะหากชี้แจงพลาดไปนิดเดียวก็อาจตกเป็นจำเลยสังคม และขอเตือนว่าไม่ควรทำพฤติกรรมเช่นนี้อีก เพราะข้อเท็จจริงนั้นชัดเจนอยู่แล้ว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนในคดีนี้ถูกฟ้องจำนวนมากว่า ตนเองไม่มีความกังวล เพราะที่ผ่านมาการเป็นตำรวจนั้นมีความสุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว ไม่ว่าเป็นคดีเล็กหรือใหญ่ ซึ่งจากการประชุมกับพนักงานสอบสวนเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) ทุกฝ่ายยังคงมีขวัญและกำลังใจที่ดี ยังคงมีเสียงหัวเราะ ตำรวจทำตามพยานหลักฐาน และที่ผ่านมาตนเองก็ถูกดำเนินคดีมาหลายคดีแล้ว ซึ่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจคือสืบหาพยานหลักฐานอย่างละเอียด เป็นการเสริมเกราะป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีอำนาจหรืออิทธิพลฟ้องกลับได้ เป็นการทำให้พื้นที่สีดำในสำนักงานตำรวจแห่งชาติกลายเป็นพื้นที่สีขาว เพื่อให้เหลือตำรวจน้ำดีอยู่ในสังคม ตำรวจคอยดูแลพี่น้องประชาชน ส่วนที่ด่างพร้อยต้องกำจัดออกไปให้หมดแม้จะเป็นร้อยพันคนก็ตาม

ชาวสวนยางเฮ ! ยุครัฐบาลเศรษฐา ยางพาราพุ่ง 74บาท/กก.

นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) กล่าวถึง สถานการณ์ราคายางพาราในปัจจุบัน มีทิศทางที่ดีขึ้น ถ้าเปรียบเทียบราคาเฉลี่ยระหว่างเดือนกันยายน ปี 2566 กับ เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2567  ชนิดยางแผ่นรมควันชั้น 3 ขยับขึ้นไปแตะกิโลกรัมละ 74 บาท จากเดิมปี 2566 อยู่ที่กิโลกรัมละ 51 บาท ยางแผ่นดิบคุณภาพดี ราคากิโลกรัมละ 70 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 49 บาท ขณะที่น้ำยางสด (DRC 100%) และ ยางก้อนถ้วย (DRC 100%) ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน 

ซึ่งการเพิ่มขึ้นของราคายางในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายก รัฐมนตรี และ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่กำกับดูแล ได้วางมาตรการปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย โดยจัดตั้งทีมสายลับยางรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกร ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น และ ความต้องการใช้ยางมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ล้อรถยนต์ และรถไฟฟ้า ถุงมือยางและผลิตภัณฑ์ยางทางการแพทย์ ทั้งนี้ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์ว่า ปี 2567 GDP โลกขยายตัวร้อยละ 2.7 ขณะที่ผลผลิตยางพาราหลายพื้นที่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากต้นยางพาราเริ่มผลัดใบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้อุปทานยางในตลาดลดลงส่งผลบวกต่อราคายางมีราคาสูงขึ้น 

'คุณากร' เผย ก.เกษตรฯ ดัน ไก่ย่างไม้มะดัน-โคขุนวากิว ขึ้นชั้นสินค้า GI สู่ สุริทร์โมเดล ด้วยนโยบาย ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงแรมทองธารินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจาก นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เป็นประธานกล่าวเปิดการฝึกอบรม หลักสูตร "การขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) และการพัฒนาศักยภาพด้านการตลาดสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่น" โดยมีผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานส่วนจังหวัด เข้าร่วม สำหรับการฝึกอบรมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการขอขึ้นทะเบียนสินค้าเป็นสิ่งบ่งขี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) และการตลาดสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นให้กับเกษตรกร และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ รวมถึงนำความรู้ไปใช้ในการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้าโคขุนสุรินทร์วากิว และไก่ย่างไม้มะดันห้วยทับทัน ที่ส่งผลต่อการเพิ่มมูลค่า และสามารถต่อยอดด้านการตลาดได้

“กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์มุ่งมั่นดำเนินภารกิจพัฒนาด้านปศุสัตว์ให้มีการบริหารจัดการที่ดีไปจนถึง แปรรูปปศุสัตว์ให้สามารถจำหน่ายสู่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงตามนโยบายรัฐบาลตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ซึ่งการฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าว จะสามารถพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่และเกษตรกรให้มีความรู้ความเข้าใจเพื่อเตรียมความพร้อมในการขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ในพื้นที่ของตนเองได้ รวมถึงยกระดับสินค้าให้ได้รับการคุ้มครองสิทธิ์ จนสร้างความเชื่อมั่น ในคุณภาพ และคุณลักษณะพิเศษของสินค้าที่แตกต่างจากแหล่งอื่นให้เกิดการต่อยอดสู่ตลาดสากลต่อไป” ผู้ช่วยเลขานุการฯ รมว.กษ. กล่าวเพิ่มเติม

นอกจากนี้ นายคุณากร ผู้ช่วยเลขานุการเกษตรฯ ได้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานการควบคุมเคลื่อนย้ายสัตว์เพื่อการส่งออก ณ ด่านกักกันสัตว์สุรินทร์ และสำรวจพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจะมีการจัดศูนย์ฝึกและพัฒนาราษฎรไทยบริเวณชายแดนสุรินทร์ ตลาดอาเซียนช่องจอม และจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม รวมถึงตรวจเยี่ยมจุดตรวจร่วมบูรณาการสินค้าเกษตรสำหรับจัดโครงการสุรินทร์โมเดล (Surin Model) ครั้งที่ 3 อีกด้วย

‘กลุ่มเพื่อน’ แฉ!! พฤติกรรมสุดเหี้ยม ‘ทอย’ สามี ‘น้องนุ่น’ เคยกรีดหน้าตัวเองสมัยประถม - มีนิสัยโรคจิตตั้งแต่เรียน

(21 ก.พ.67) จากกรณีเหตุการณ์นายศิริชัย รักทอง อายุ 33 ปี สามีน้องนุ่น เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่า น.ส.ชลลดา อายุ 27 ปี หรือน้องนุ่น ภรรยา หายตัวไปหลังมีปากเสียงทะเลาะกันในรถ แล้วภรรยาเปิดประตูลงรถไปเรียกแท็กซี่ ก่อนหายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา และต่อมาชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้คุมตัวนายศิริชัยจากบ้านพักมายัง สภ.ปากเกร็ด และเค้นสอบอย่างหนักจนปริปากยอมรับสารภาพเบื้องต้นว่า ได้พลั้งมือทำร้ายร่างกาย น.ส.ชลลดา จนเสียชีวิต ก่อนนำร่างไปเผาอำพรางคดีที่สวนยางพาราดังกล่าว แล้วกลับมาแจ้งความเพื่อกลบเกลื่อนความผิด

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโซเชียลมีการเผยแพร่คอมเมนต์ข้อความกลุ่มเพื่อนของทอย ที่มาพูดถึงพฤติกรรมของผัวโหดรายนี้ หลังก่อเหตุฆ่าเผาน้องนุ่น ภรรยาตัวเอง

โดยเพื่อนคนหนึ่งได้ระบุถึงพฤติกรรมในอดีตที่ผ่านมาของทอย ผัวโหด ด้วยว่า “โรคจิต ตั้งแต่สมัยเรียนประถมตอนเรียนด้วยกัน ไม่คิดเลยว่าจะทำจริงตอนโต กรีดหน้าตัวเองตอนนั้น ยังติดตาอยู่เลย มีแต่เลือด”

โดยยังคอมเมนต์อีกว่า “โตมายังโรคจิตเหมือนเดิม ขอเชิญรับกรรม ศิริชัย เสียดายและเสียใจที่ร่วมชั้น ร่วมโรงเรียนกับคนอย่างxึง”

นอกจากนี้ยังมีเพื่อนอีกคนโพสต์ข้อความถึงพฤติกรรมทอยด้วยว่า “ตอนอยู่ด้วยกันเห็นพฤติกรรมหมด กล้าแต่กับเมีย ปกติจะเป็นคนห้ามตลอด บอกให้ไอ้นุ่นหนีไป แต่เหตุการณ์วันนี้สุดเกินและเกินคน ห้ามมาตั้งกี่ครั้ง เตือนตั้งกี่ครั้ง เป็นพ่อคนแล้ว”

ตำรวจท่องเที่ยวระดมกำลังร่วมบูรณาการหน่วยที่เกี่ยวข้อง ปราบปรามรถรับจ้างผิดกฎหมาย

วันนี้ (21 ก.พ. 67) เวลา 16.00 น. กก.2 บก.ทท.3 นำโดย พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.2 บก.ทท.3 , พ.ต.ท.บรรณพงศ์ เก่งเรียน รอง ผกก.2 บก.ทท.3 , พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สวญ.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 บูรณาการกำลังกับ ภ.จว.ภูเก็ต,ตม.จว.ภูเก็ต, ขนส่งจังหวัดภูเก็ต, การท่าอากาศยานภูเก็ต และฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายกองเอก อดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต , นายอัดชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ร่วมมอบนโยบายและปล่อยแถวออก ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต 

หลังจากนั้นได้มีการร่วมกันตั้งจุดตรวจบริเวณขาออกอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สนามบินนานาชาติภูเก็ต ซึ่งเป็นด่านแรกที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจสอบจับกุมรถรับจ้างสาธารณะที่กระทำความผิดกฏหมาย 

พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.2 บก.ทท. กล่าวว่า การปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจ เน้นการจัดระเบียบช่วงไฮซีซัน ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก ให้ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวในทุกมิติ และข้อสั่งการของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.ได้สั่งการให้สถานีตำรวจท่องเที่ยวทุกแห่ง ดำเนินการบูรณาการกำลังกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อร่วมกันปราบปรามรถรับจ้างผิดกฎหมายโดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหลัก ซึ่งจังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลักที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ประมาณ 50,000 คนต่อวัน และยังพบมีปัญหารถรับจ้างสาธารณะผิดกฎหมาย  ทำให้เกิดปัญหาและความเสียหายต่อนักท่องเที่ยงจำนวนมาก

ผบ.ศูนย์สงครามพิเศษ ประดับปีกร่ม ให้กับนักศึกษา มส.16 เข้าเป็นครอบครัวพลร่มป่าหวาย 

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ศูนย์สงครามพิเศษ จ.ลพบุรี พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ ประธานมูลนิธิการจัดการเพื่อความมั่นคง และประธานหลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง (มส.) พร้อมด้วยพล.อ.ดร.มารุต ปัชโชตะสิงห์ ผู้อำนวยการหลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคง
ขั้นสูง (มส.) ผศ.พล.อ.ต.หญิง ดร.พัชรี พิพิธสุขสันต์ รองผู้อำนวยการฯ ดร.วรวุฒิ ไชยศร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฯ พร้อมอาจารย์ประจำหลักสูตร นำนักศึกษาหลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง (มส.) รุ่น 16 ศึกษาดูงานและเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ โดยมี พล.ต.เดชา ศรีมงคล  (ผบ.ศสพ. )ผบ.ศูนย์สงครามพิเศษ ให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปถึงความเป็นมาของหน่วย 

พร้อมกันนี้ พล.ต.เดชา ศรีมงคล เป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายร่มสัมพันธ์ ให้นักศึกษาหลักสูตร มส.รุ่น 16 เข้าเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ 

จากนั้น คณะนักศึกษาร่วมฟังการบรรยายพิเศษจาก คุณสมนึก เต็งชาตะพันธุ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สุรินทร์ ออมย่า เคมิคอล (ประเทศไทย) จำกัด ฐานะรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก่อนจะเดินทางกลับ 

สำหรับหลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง ( มส) จัดโดย มูลนิธิการจัดการเพื่อความมั่นคง ภายใต้วิสัยทัศน์ 4 สร้างคือ สร้างความมั่นคงแห่งชาติ สร้างความมั่นคงของมนุษย์ สร้างความรับผิดชอบต่อสังคม สร้างคุณธรรมจริยธรรม 

เป็นหลักสูตรเดียวที่นำผู้เข้ารับการอบรมศึกษาดูงานด้านความมั่นคงครบทั้ง 4 เหล่าทัพ คือ กองทัพอากาศ  กองทัพบก กองทัพเรือ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เรียนรู้ เข้าใจ เข้าถึงบทบาทหน้าที่ภารกิจของกองทัพแต่ละกองทัพ แลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อร่วมกันพัฒนาสังคม ประเทศชาติให้เกิดความมั่นคงในทุกมิติ ตามวิสัยทัศน์ 4 สร้างของหลักสูตร มส.

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งความสุข และกำลังใจ มอบอั่งเปา ชุดของขวัญ และจัดเลี้ยงอาหารแก่ผู้สูงวัย ในสถานสงเคราะห์คนชรา และสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง รวม 8 แห่ง เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567

วันนี้ (วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย พร้อมด้วยนางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ นำทีมฝ่ายสังคมสงเคราะห์ฯ นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ลงพื้นที่มอบเงินอั่งเปาคนละ 1,000 บาท  พร้อมชุดของขวัญ และจัดเลี้ยงอาหาร ให้กับผู้สูงวัยในสถานสงเคราะห์คนชราปากน้ำ (มูลนิธิวัยวัฒนานิวาส) สถานสงเคราะห์คนชราบางเขน (มูลนิธิธารนุเคราะห์) และสถานสงเคราะห์คนชราปทุมธานี (มูลนิธิมิตรภาพสงเคราะห์) เพื่อเป็นการเยี่ยมเยียนและเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้สูงวัย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567  โดยมีมูลนิธิจีน 4 แห่ง ประกอบด้วย มูลนิธิสามัคคีการกุศลสงเคราะห์ มูลนิธิส่งเสริมวัฒนธรรม มูลนิธิส่งเสริมศีลธรรมสงเคราะห์ และ มูลนิธิศรัทธาสงเคราะห์ ร่วมดำเนินการ พร้อมด้วย นางชญาน์นันท์ สรพลจิโรจเดชา หัวหน้าแผนกสื่อสารองค์กร(จีน)  พร้อมทีมงาน และนางสาวอัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊-อัญชลี) ร่วมลงพื้นที่มอบสิ่งของ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น 

และในวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดลงพื้นที่ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบางละมุง จ.ชลบุรี สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี จ.นนทบุรี ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุปทุมธานี จ.ปทุมธานี สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิงธัญบุรี จ.ปทุมธานี และ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อมอบเงินอั่งเปาคนละ 1,000 บาท  พร้อมชุดของขวัญ และจัดเลี้ยงอาหาร  เพื่อเป็นการเยี่ยมเยียนและเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้สูงวัย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567

โครงการป่อเต็กตึ๊ง จัดเลี้ยงอาหารคนชรา เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มูลนิธิได้ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นเวลา 57 ปี โดยในปี 2567 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และมูลนิธิอีก 4 แห่ง  สถานสงเคราะห์คนชรา ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการ และสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง  รวม 8 แห่ง  รวมงบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 755,000 บาท (เจ็ดแสนห้าหมื่นห้าพันบาทถ้วน)

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

เปิด 3 รายชื่อผู้โชคดีได้รับทุนเรียนโท ม.ซีอานเจียวทง ประเทศจีน ทุนใหญ่ประจำปี 2567 ตามพระราชดำริ 'กรมสมเด็จพระเทพฯ'

เมื่อไม่นานมานี้ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุนไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง (Xi'an Jiaotong University : XUTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ (ค.ศ. ๒๐๒๔) ระดับปริญญาโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ 

ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้มีประกาศลงวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๖ เรื่อง รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง (Xi'an Jiaotong University: XJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ (ค.ศ. ๒๐๒๔) ระดับปริญญาโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ และประกาศลงวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๗ เรื่อง ขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง (Xi'an Jiaotong University: XJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ (ค.ศ. ๒๐๒๔ ระดับปริญญโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ และประกาศลงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เรื่อง รายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการสัมภาษณ์เพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยชีอานเจียวทง (Xi'an Jiaotong University : XJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ (ค.ศ. ๒๐๒๔) ระดับปริญญาโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ นั้น

บัดนี้ คณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง (Xi'an Jiaotong University : XJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ดำเนินการสัมภาษณ์ผู้สมัคร และประมวลผลการประเมินความเหมาะสมของบุคคลเพื่อรับทุนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุนดังกล่าว ดังต่อไปนี้

๑. นายสรวิชญ์ แวววีรคุปต์
๒. นายพัชรดนัย สมบัติเสถียร
๓. นายโภคิน พรหมวิจิตรการ
ไม่มีผู้ได้รับคัดเลือกสำรอง

ทั้งนี้ ขอให้ผู้มีรายชื่อเป็นผู้มีสิทธิได้รับทุนข้างต้นนี้ รายงานตัวเพื่อยืนยันการรับทุนกับมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผ่านระบบออนไลน์ ในวันเสาร์ที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๕.๐๐ น. ทาง URL https://meeting-nstda.webex.com/meet/renuka และกรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มยืนยันการรับทุนการศึกษาในเอกสารแนบท้าย แล้วส่งให้มูลนิธิฯ ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] ภายในวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เวลา ๑๗.๐๐ น.

หากผู้มีสิทธิได้รับทุนไม่มารายงานตัวตามกำหนดดังกล่าว โดยมิได้แจ้งให้มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทราบ จะถือว่าสละสิทธิ์การรับทุนในครั้งนี้

อนึ่ง มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
จะพิจารณาเพิกถอนการให้ทุนแก่ผู้มีสิทธิได้รับทุน หากเข้ากรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้

๑. ผู้มีสิทธิได้รับทุนไม่สามารถดำเนินการสมัครเข้าศึกษาตามเงื่อนไขของมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทงได้ภายในวันที่มหาวิทยาลัยกำหนด

๒. หากคณะกรรมการตรวจสอบภายหลังพบว่า ผู้มีสิทธิได้รับทุนเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามที่กำหนดในประกาศรับทุน

๓. ผู้มีสิทธิได้รับทุนหลีกเลี่ยงและละเลย การรายงานตัวหรือปฏิบัติตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กำหนด

๔. ผู้มีสิทธิได้รับทุนหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงกำหนดการเดินทางไปศึกษาต่อเมื่อมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง ตอบรับแล้ว

๕. ผู้มีสิทธิได้รับทุนไม่ได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาจากมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top