Friday, 16 May 2025
NEWS FEED

ขอนแก่นเดินหน้าปลูกฟ้าทะลายโจร สมุนไพรพื้นบ้านต้านภัยโควิด ผนึกพลังชุมชนปลูกทุกพื้นที่ นายอำเภอพระยืน ระบุ มุ่งสู่เมืองแห่งสมุนไพรไทย ที่ผลิตได้แบบครบวงจรตามความต้องการของตลาดคนรักษ์สุขภาพ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 ส.ค. 64  ที่ บ.ดงกลาง ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น นายชินกร แก่นคง นายอำเภอพระยืน นำคณะเกษตรจังหวัด, เกษตรอำเภอ รวมทั้งผู้นำชุมชนในพื้นที่ ต.บ้านโต้น ร่วมกันปลูกต้นฟ้าทะลายโจร ซึ่งสำนักงานเกษตร อ.พระยืน ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น โดยมีเกษตรกรในเขตพื้นที่ บ.ดงกลาง เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง

นายชินกร แก่นคง นายอำเภอพระยืน กล่าวว่า ฟ้าทลายโจร พืชสมุนไพร ที่ขณะนี้ได้ถูกจัดให้เป็นยาสมุนไพรพื้นบ้านตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย ที่สามารถใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตามที่แพทย์กำหนด ทำให้ขณะนี้กระแสสมุนไพรไทย โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจร รวมไปถึง ขิง, ขมิ้น, ข่า, ตระไคร้, ใบมะกรูด และกระชาย เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ดังนั้นการที่ ชาวอ.พระยืน ได้พร้อมใจกันปลูกฟ้าทลายโจรโดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเกษตร จ.ขอนแก่น สนับสนุนต้นกล้าฟ้าทะลายโจรมาให้กับชุมชน บ.ดงกลาง แห่งนี้ได้ทำการปลูกเพื่อสร้างเกษตรแปลงใหญ่ในกลุ่มสมุนไพรไทยให้เกิดขึ้นในพื้นที่

“บ.ดงกลาง เป็นที่ตั้งของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ต.บ้านโต้น ที่มีชื่อเสียงในการผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย ดูได้จากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น ฟ้าทะลายโจรแคปซูล หรือชาฟ้าทลายโจร รวมไปถึงน้ำต้มสมุนไพรสูตรต่าง ๆ ที่แพทย์แผนไทยกำหนด ได้รับความนิยมและยอดการสั่งซื้อในจำนวนทีเพิ่มขึ้น เกษตรกรที่เดิมกำหนดกำลังการผลิตตามคามต้องการของตลาดที่คาดการณ์ไว้แต่วันนี้ยอดการสั่งซื้อมีมากขึ้นทุกวันและยังคงมีการผลิตฟ้าทะลายโจรแคปซูล และ ชาฟ้าทะลายโจร รวมไปถึงกลุ่มสมุนไพรต้านไวรัสที่ถูกนำมาแปรรูปในประเภทต่าง ๆ ที่ยังคงมีการยอดของการสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน”

นายอำเภอพระยืน กล่าวต่ออีกว่า การที่คนพระยืน พร้อมใจกัน สร้างพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ ในกลุ่มสมุนไพรพื้นบ้านที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด โดยที่ บ.ดงกลาง เป็นพื้นที่หลักของการปลูกสมุนไพรพื้นบ้านนานาชนิด ซึ่งจากนี้ไปเมื่อผลผลิตเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวตามแนวทางการปลูกที่สำนักงานเกษตร อ.พระยืนกำหนด เกษตรกรโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านโต้น จะทำการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่มีการบริหารจัดการสมุนไพรไทยพื้นบ้าน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ยกระดับสมุนไพรไทยประจำถิ่นสู่ตลาดสมุนไพรไทยในกลุ่มคนรักษ์สุขภาพ ตามศาสตร์แพทย์แผนไทยในระดับภูมิภาคที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับสภากาชาดไทย จัดพิธีลงนามความร่วมมือ “เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED)” สนับสนุนภารกิจช่วยเหลือประชาชนในภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือโครงการบริจาคเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ร่วมกับสภากาชาดไทย จากการทำกิจกรรมตามโครงการ “วิ่งกระตุกหัวใจ 125 ปี สภากาชาดไทย” และกิจกรรม “กระตุกหัวใจ Virtual Run 2,000,000 km” เพื่อจัดซื้อเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) สนับสนุนภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 262 เครื่อง

พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล / โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยข้อมูลว่า ในวันพุธ ที่ 25 ส.ค. 64 เวลา 13.20 น. ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.อ.สุบิน  ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ในพระองค์ฯ พร้อมด้วย นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย, พล.ต.อ.ปิยะ  อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, นางสุทธารักษ์  ปัญญา ผู้อำนวยการสำนักงานการคลัง สภากาชาดไทย, พล.ต.ท.ภัคพงศ์  พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับบัญชาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือโครงการบริจาคเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ระหว่างสภากาชาดไทย กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ

ซึ่งการลงนามความร่วมมือ ดังกล่าว เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภากาชาดไทยที่จัดหารายได้เพื่อซื้อเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) เป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิต กู้ชีวิตประชาชนที่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งนำรายได้จากการจัดกิจกรรมโครงการ “วิ่งกระตุกหัวใจ 125 ปี สภากาชาดไทย” และกิจกรรม “กระตุกหัวใจ Virtual Run 2,000,000 km” เพื่อบริจาคให้กับกระทรวงสาธารณสุข ไว้ใช้ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,100 เครื่อง และมอบให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 262 เครื่อง เพื่อติดตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ สำหรับในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้รับผิดชอบดูแล

โดยได้มีการจัดแบ่งจุดต่าง ๆ เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ ดังนี้

 - พื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จำนวน 27 จุด แบ่งเป็นประจำสถานีตำรวจ 9 แห่ง และประจำจุดทางร่วม ทางแยก จำนวน 18 จุด

 - พื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 25 จุด แบ่งเป็นประจำสถานีตำรวจ 11 แห่ง และประจำจุดทางร่วม ทางแยก จำนวน 14 จุด

 - พื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 จำนวน 26 จุด แบ่งเป็นประจำสถานีตำรวจ 11 แห่ง และประจำจุดทางร่วม ทางแยก จำนวน 15 จุด

 - พื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 จำนวน 19 จุด แบ่งเป็นประจำสถานีตำรวจ  8 แห่ง และประจำจุดทางร่วม ทางแยก จำนวน 11 จุด

 - พื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล  5 จำนวน 54 จุด แบ่งเป็นประจำสถานีตำรวจ 9 แห่ง และประจำจุดทางร่วม ทางแยก จำนวน 45 จุด

 - พื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 จำนวน 38 จุด แบ่งเป็นประจำสถานีตำรวจ 8 แห่ง และประจำจุดทางร่วม ทางแยก จำนวน 30 จุด

 - พื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล  7 จำนวน  25 จุด แบ่งเป็นประจำสถานีตำรวจ 11 แห่ง และประจำจุดทางร่วม ทางแยก จำนวน 14 จุด

 - พื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล  8 จำนวน  25 จุด แบ่งเป็นประจำสถานีตำรวจ 11 แห่ง และประจำจุดทางร่วม ทางแยก จำนวน 14 จุด

 - พื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 จำนวน  23  จุด แบ่งเป็นประจำสถานีตำรวจ 10 แห่ง และประจำจุดทางร่วม ทางแยก จำนวน 13 จุด

‘นฤมล’ ไฟเขียว ขับเคลื่อน 2 อุตสากรรมฯ “หุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม-การบินและโลจิสติกส์” เร่งผลิตแรงงานป้อนเป้าหมาย S-Curve

วันที่ 25 สิงหาคม 2564 ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพในอุตสาหกรรมเป้าหมายเอสเคิร์ฟ ครั้งที่ 4/2564 ผ่านระบบ Video Conference  เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน และพิจารณาแผนพัฒนาแรงงานและประสานการฝึกอาชีพในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (พ.ศ.2565 – 2570) ประกอบด้วยอุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์  โดยมีหม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน / นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล รองปลัดกระทรวงแรงงาน / นางสาวจิราภรณ์  ปุญญฤทธิ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เข้าร่วมประชุม และนายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ทำหน้าที่เลขานุการ ณ ห้องประชุมสมชาติ เลขาลาวัณย์ ชั้น 10 อาคารกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน

ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็นการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ของ 2 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ได้ผ่านการ Workshops สำรวจความต้องการ และประชุมหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นแล้ว อุตสาหกรรมแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม ประกอบด้วย กลุ่มผู้ผลิตหุ่นยนต์ กลุ่มผู้ใช้หุ่นยนต์ กลุ่มนักบูรณาการระบบ และกลุ่มผู้สร้างเครื่องจักรกลอัตโนมัติ  ส่วนอุตสาหกรรมที่สอง ได้แก่ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ ประกอบด้วย ด้านบริการลูกค้า ด้านการวิเคราะห์และวางแผน ด้านคลังสินค้าและการกระจายสินค้า ด้านการจัดซื้อและจัดหา ด้านเทคโนโลยีโลจิสติกส์ และด้านการขนส่ง โดยจะได้แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานที่ดำเนินการด้าน New Skills / Up Skills / Re Skills ตลอดจนหน่วยฝึกอบรม เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อแรงงานได้อย่างยั่งยืน

ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบกับแผนพัฒนาแรงงานฯ ดังกล่าว และได้เสนอให้นำข้อสังเกตบางประการจากคณะอนุกรรมการฯ ไปปรับปรุงข้อมูล เพื่อให้มีความสมบูรณ์และเกิดประโยชน์ต่อการดำเนินงานตามแผนให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังได้เสนอให้มีการทบทวนข้อมูลจำนวนความต้องการแรงงานในแต่ละปีจากส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานต่อไป

“แม้ว่าสถานการณ์ของโควิด-19 จะยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง แต่แรงงานก็ยังคงต้องได้รับการพัฒนา เพื่อยกระดับฝีมือแรงงานให้เป็นแรงงานที่มีคุณภาพ มีทักษะที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง และมีโอกาสในการประกอบอาชีพได้ทันทีตามความต้องการของตลาดแรงงาน” รมช.แรงงาน กล่าวทิ้งท้าย

ปลูกกัญชาไม่ยุ่งยาก เอื้อต่อวิถีการปลูกในชุมชน 

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เผย ประชาชนสามารถขออนุญาตปลูกกัญชาได้ 3 รูปแบบ 

ส่วนจะมีวิธีการและขั้นตอนอย่างไรบ้างไปดูกัน


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ผู้โดยสารติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตบนเรือสำราญ ทั้งที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

ผู้โดยสารรายหนึ่งของบริษัทเดินเรือสำราญ "คาร์นิวัล ครุยส์ ไลน์ (Carnival Cruise Line)" เสียชีวิตหลังติดเชื้อโควิด-19 จากการยืนยันของบริษัทในวันอังคาร (24 ส.ค.) ถือเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกนับตั้งแต่เรือสำราญกลับมาล่องเรือในแคริบเบียน และสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน

คาร์นิวัล ครุยส์ ไลน์ เปิดเผยว่า เหยื่ออยู่บนเรือคาร์นิวาล วิสตา ที่ออกเดินทางจากเมืองกัลเวสตัน รัฐเทกซัส เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม เพื่อมุ่งหน้าสู่เบลีซ ผู้โดยสารรายนี้ได้รับการรักษาพยาบาลบนเรือ และต่อมาได้รับการอพยพจากเบลีซกลับมารักษาตัวยังสหรัฐฯ พร้อมเชื่อว่าผู้โดยสารรายนี้ไม่น่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่บนเรือ

"เราเสียใจอย่างยิ่งที่ได้ยินข่าวการเสียชีวิตของแขกคนหนึ่งซึ่งล่องเรือกับคาร์นิวาล วิสตา" คาร์นิวัล ครุยส์ ไลน์ ระบุในถ้อยแถลง "เราจะคอยให้การสนับสนุนครอบครัวของเธอ และไม่ขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมที่จะเป็นการซ้ำเติมความเศร้าโศกของพวกเขา"

คณะกรรมการด้านการท่องเที่ยวของเบลีซ ระบุว่า หลังจากล้มป่วย ผู้โดยสารรายนี้ได้รับอนุญาตให้ลงจากเรือเพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วนในประเทศ ก่อนอพยพทางอากาศพาเธอกลับไปยังสหรัฐฯ โดยเครื่องบินพยาบาล

นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ยังไม่สามารถติดต่อกับครอบครัวของผู้โดยสารรายนี้ได้ แต่ระบุว่าผู้โดยสารรายดังกล่าวซึ่งเป็นผู้หญิงวัย 77 ปี จากโอคลาโฮมา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม

ข่าวคราวการเสียชีวิตของเธอมีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ หลังจากเรือคาร์นิวาล วิสตา แจ้งว่าผู้คนบนเรือ 27 รายติดเชื้อโควิด-19 โดยทางคณะกรรมการด้านการท่องเที่ยวของเบลีซเผยว่า หลังจากเรือคาร์นิวาล วิสตา เดินทางมาถึง เรือได้รายงานว่ามีลูกเรือ 26 คน และผู้โดยสาร 1 คนมีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก และทั้งหมดที่ติดเชื้อนั้นล้วนแต่ฉีดวัคซีนแล้ว

เรือลำนี้บรรทุกผู้โดยสารเกือบ 3,000 คนและลูกเรือ 1,441 ราย ตอนที่เดินทางถึงเบลีซ

เทกซัสเป็นหนึ่งในหลายรัฐที่ห้ามภาคธุรกิจบังคับใช้พาสปอร์ตวัคซีนหรือข้อพิสูจน์ว่าบุคคลนั้น ๆ ฉีดวัคซีนแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางคาร์นิวัล ครุยส์ ไลน์ ยืนยันในวันอังคาร (24 ส.ค.) ว่านับตั้งเริ่มล่องเรืออีกครั้งในกรกฎาคม มากกว่า 95% ของผู้โดยสารล้วนแต่ฉีดวัคซีนแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ทางคาร์นิวัล ครุยส์ ไลน์ ยังได้ปรับนโยบายโควิด-19 เริ่มบังคับสวมหน้ากากสำหรับผู้โดยสารที่อยู่ในลิฟต์ พื้นที่บันเทิงในร่มที่กำหนด ร้านค้าปลีกและในคาสิโน ในวันที่ 7 สิงหาคม นอกจากนี้แล้วพวกเขายังเริ่มบังคับผู้โดยสารที่ฉีดวัคซีนแล้วมอบผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นลบก่อนขึ้นเรือแล้วด้วย


(ที่มา : เอ็นบีซีนิวส์)
https://mgronline.com/around/detail/9640000083681


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความซัด ระบบราชการเป็นมะเร็งร้ายอยู่ทั่วประเทศ ไร้วี่แววปฏิรูป

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กถึงกรณีผู้กำกับคนดัง ทรมานผู้ต้องหาจนถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นข่าวดังในขณะนี้ ว่า...

ยอมรับเถอะครับว่า ปัญหาคือระบบราชการที่เป็นมะเร็งร้ายอยู่ทั่วประเทศ

ยัดยา แบล็คเมล์ เก็บส่วย ซ้อมผู้ต้องหาบังคับเอาเงินล้มคดี
เอาเด็ก 12 ขวบ หลอกให้อาเสี่ยบ้ากามปี้ แล้วบุกห้องถ่ายรูปตอนแก้ผ้า แล้วแบล็คเมล์ทีละ 5 ล้าน 10 ล้านนี่เรื่องปกติ

มันมีมาตลอด

เหมือนจ่ายใต้โต้ะเขตเวลาต่อเติมบ้านอย่างถูกกฎหมายหละครับ

เคสนี้ที่ดัง เพราะ “บังเอิญ” ตาย

เงินที่ตำรวจระดับผู้กำกับเหล่านี้หาไป เค้าหาไปทำอะไร?
ก็หาไปจ่ายผู้ใหญ่เพื่อการแต่งตั้งโยกย้ายในแต่ละปียังไงหละครับ

ผู้กำกับ สน.ต่าง ๆ ใช้เงินประมูลกันเกือบทั้งนั้น สน.ดี มีร้านค้าเยอะ มีธุรกิจแยะ ก็จ่ายสูง เพราะทำเงินได้เยอะ

เป็นมาแบบนี้หลายสิบปี แปลกใจอะไรกันเหรอครับ?

ส่วนตำรวจผู้น้อยที่ไม่มีเงินนะเหรอ?
ไม่เติบโตครับ
จน เครียด มีหนี้ กินเหล้า ลูกติดยา ฆ่าตัวตาย

ไม่เคยเห็น ผบ.ตร. หรือหน้าไหนในรัฐบาลสนใจปฏิรูป
นายกประยุทธ์พูดเรื่องปฏิรูปตำรวจเป็นวาระหลักอยู่พักนึง
ก็โยนทิ้งเหมือนหลาย ๆ เรื่อง อย่างการปฏิรูป การต้านคอร์รัปชันที่ทำอะไรไม่สำเร็จซักเรื่อง


ที่มา : https://www.facebook.com/100000004424101/posts/4586425801367522/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ปธ.คณะกรรมการพาราลิมปิกไทย สุดปลื้ม ไทยได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันถึง 74 คน จาก 14 ชนิดกีฬา เชื่อทุกคนจะนำความภาคภูมิใจกลับมาให้คนไทยอย่างแน่นอน

ปธ.คณะกรรมการพาราลิมปิกไทย สุดปลื้มที่ทัพไทยได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันถึง 74 คน จาก 14 ชนิดกีฬา ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่มีนักกีฬาร่วมแข่งมากสุด ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยสนับสนุนให้นักกีฬาไทยก้าวสู่ระดับชั้นนำของโลก เชื่อทุกคนจะนำความภาคภูมิใจกลับมาให้คนไทยอย่างแน่นอน

นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีมากที่ได้เห็นนักกีฬาพาราไทยได้เข้าไปแข่งขันในสุดยอดทัวร์นาเมนต์กีฬาของผู้พิการอย่าง พาราลิมปิกเกมส์ ซึ่งมาตรฐานกีฬาคนพิการไทยก็อยู่ในระดับแถวหน้าของโลก ทั้งนี้เป็นผลจากการร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตลอดกว่า 10 ปี ของทุกภาคส่วน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก สมาคมกีฬาคนพิการทั้ง 5 สมาคม สมาคมกีฬาคนพิการ, สมาคมกีฬาคนพิการทางสมอง, สมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญา, สมาคมกีฬาคนตาบอด, สมาคมกีฬาคนหูหนวก และ องค์กรภาครัฐ อย่าง กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานภาคเอกชน อาทิ สิงห์ โตโยต้า บริดจ์สโตน ปตท. เอฟบีที ทรู ซีพี ซิตี้แบงก์ การออกไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติครั้งนี้ เชื่อว่าจะนำความภาคภูมิใจกลับมาให้คนไทยทุกคนอีกครั้ง ซึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้นจะเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างไม่ย่อท้อเหมือนกับที่ทัพนักกีฬาของเราได้แสดงให้เห็น

"ครั้งนี้นักกีฬาของเราได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันถึง 74 คนจาก 14 ชนิดกีฬา มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จากการร่วมกันพัฒนานักกีฬาคนพิการของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทำให้มีนักกีฬาดาวรุ่งหน้าใหม่เกิดขึ้นมาหลายคน ซึ่งในอนาคตอันใกล้เชื่อว่าประเทศไทยจะมีนักกีฬาคนพิการที่โลกให้การยอมรับมากยิ่งขึ้น สุดท้ายอยากฝากกำลังใจถึงนักกีฬาทุกคนว่า ขอให้ทุกคนมั่นใจในตัวเอง และก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ผมเชื่อว่าพวกคุณทุกคนทำได้ ช่วยกันสร้างรอยยิ้มและความภูมิใจให้กับพี่น้องชาวไทย" นายจุตินันท์ กล่าว


ที่มา : https://www.siamsport.co.th/other/other/view/248603


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

มูลนิธิกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เชิดชู “ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ” เป็นนักวิทยาศาสตร์การแพทย์เกียรติยศ ประจำปี 2564

วันนี้ (24 ส.ค.) นายแพทย์สถาพร วงษ์เจริญ ประธานกรรมการมูลนิธิกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยผู้ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์การแพทย์เกียรติยศ ประจำปี 2564 ว่า มูลนิธิกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้คัดเลือกบุคคลซึ่งเป็นผู้สร้างหรือริเริ่มงาน และอุทิศตนเพื่อประโยชน์ต่อวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยมีผลงานที่มีประโยชน์ต่อการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศไทยอันเป็นที่ประจักษ์ เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม เป็นแบบอย่างให้แก่บุคคลในวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์และบุคคลทั่วไป เพื่อรับรางวัลนักวิทยาศาสตร์การแพทย์เกียรติยศ 

และผู้ที่ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์การแพทย์เกียรติยศ ประจำปี พ.ศ.2564 คือ ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งท่านเป็นผู้อุทิศตนในการศึกษาวิจัยด้านไวรัสวิทยาอย่างต่อเนื่องยาวนานโดยมีผลงานทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่นำไปสู่การดูแล รักษาและป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขจำนวนมาก

สำหรับผลงานเด่นที่ผ่านมาของศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ อาทิ เป็นผู้บุกเบิกงานวิจัยทางด้านไวรัสตับอักเสบในประเทศไทย ทำการศึกษาตั้งแต่อณูชีววิทยาไวรัสตับอักเสบ ระบาดวิทยา อาการทางคลินิก การรักษา และป้องกันด้วยวัคซีน เป็นรากฐานของการให้วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบในประเทศไทย ทำให้อุบัติการณ์ของไวรัสตับอักเสบบีลดลงอย่างมาก การศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน การตรวจวินิจฉัยโรคทางอณูชีววิทยา และแนวทางการรักษา โดยเฉพาะโรคไวรัสอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ เช่น โรคไข้หวัดนก โรคไข้หวัดใหญ่ โรคทางเดินหายใจชนิดต่าง ๆ ที่เกิดจากไวรัส โรคท้องเสียที่เกิดจากไวรัส โรคมือเท้าปาก โรคที่นำโดยยุงและแมลง ได้แก่ ไข้เลือดออก ไข้ไวรัสชิก้า ไข้ปวดข้อยุงลาย มีผลงานต่อเนื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างมาก

นอกจากนี้ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ ยังได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และสถาบันวัคซีนนานาชาติ ทำการศึกษาการให้วัคซีนป้องกัน HPV เพียงโดสเดียว ที่จังหวัดอุดรธานีและบุรีรัมย์ โดยทางศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก เป็นผู้รับผิดชอบการตรวจทางห้องปฏิบัติการ

จากการระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2562 และเข้าสู่ประเทศไทย ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 มาจนถึงปัจจุบัน ทางศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ได้ทำการศึกษาพันธุกรรมอย่างต่อเนื่อง พัฒนาการตรวจวินิจฉัยสายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการตรวจในระบบภูมิต้านทาน และการศึกษาเกี่ยวกับวัคซีน ปรับวิธีการใช้ให้เหมาะสมสำหรับประเทศไทยตามทรัพยากรที่มีอยู่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

“ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัย ที่ได้อุทิศตนให้กับการศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์อย่างจริงจังและต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานกว่า 40 ปี นอกจากนี้ท่านยังมีความซื่อสัตย์ อดทน และกตัญญู ทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ทำให้เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงาน เป็นผู้ใช้ชีวิตแบบสมถะ ดำรงไว้ซึ่งจริยธรรมของนักวิจัย อีกทั้งยังเป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยความรู้ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์ และเป็นที่เคารพรักของลูกศิษย์จำนวนมาก” ประธานกรรมการมูลนิธิกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าว 

และขอเชิญรับฟังปาฐกถาเกียรติยศศาสตราจารย์นายแพทย์เฉลิม พรมมาส โดยองค์ปาฐก นักวิทยาศาสตร์การแพทย์เกียรติยศ ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ เรื่อง COVID-19 : บทบาทของวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหาสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจไทย วันพุธที่ 25 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00-11.00 น. ในงานประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ครั้งที่ 29 ทางเฟซบุ๊ก Live ได้ 4 ช่องทาง คือ Fan page การประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ Food_safety และผู้เข้าร่วมประชุมเข้าชมทาง Fan page สามารถเก็บคะแนนจำนวนหน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่องทางเภสัชศาสตร์/เทคนิคการแพทย์ รวม 3 วัน 13.5 หน่วยกิต


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ผบ.ตร. สั่งดำเนินคดี ‘ผู้กำกับโจ้’ ร่วมกันฆ่าโดยเจตนา สั่งให้ออกจากราชการ ทรมานผู้ต้องหา รีด 2 ล้านจนตาย

ผบ.ตร. สั่งดำเนินคดี ‘ผู้กำกับโจ้’ ร่วมกันฆ่าโดยเจตนา สั่งให้ออกจากราชการ ทรมานผู้ต้องหา รีด 2 ล้านจนตาย ผบ.ตร.สั่งแล้ว ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน แจ้งข้อหา ผู้กำกับโจ้ "พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนพล" ดำเนินคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ที่ 409/2564 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน โดยให้ ผู้กำกับโจ้ หรือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนพล ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ออกจากราชการไว้ก่อนจากการถูกกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรง และตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย กรณีถูกร้องเรียนว่า ทรมาน นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เรียกเงิน 2 ล้านบาท จนเสียชีวิตและถูกดำเนินคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร.กล่าวถึง กรณีคลิปชายรุมทำร้ายชายคนหนึ่งอย่างทารุณ ใช้ถุงพลาสติกครอบหัวจนแน่นิ่ง โดยระบุว่าเป็นคลิปของ ‘ผู้กำกับโจ้’ ว่า หลังจากที่ทางพล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้ลงไปตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวตั้งแต่ก่อนหน้านี้ บวกกับคลิปดังกล่าวที่มีการเผยแพร่ จึงเตรียมจะลงนามให้ ผู้กำกับโจ้ ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะนี้รอเพียงการทำรายงานและเอกสารทางธุรการเท่านั้น โดยยืนยันว่า คดีดังกล่าวจะต้องทำให้จบภายในวันนี้ และไม่ใช่เพียงตัวของผู้กำกับโจ้เท่านั้น ยังรวมถึงผู้ร่วมในเหตุการณ์ดังกล่าวอีก 13 นาย จะมีคำสั่งอื่น ๆ ออกมาหลังจากนี้

"ดูคลิปแล้วมองแบบวิญญูชนทั่วไป ตอนนี้ยังไม่บอกว่าเขา ผิด แต่จากพยานหลักฐาน เราเชื่อ และเมื่อตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงก็ให้ออกจากราชการได้ คลิปที่ออกมา เชื่อว่าคลิปจริง ทางจเรฯ ก็เชื่ออย่างนั้น"

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ผู้กำกับโจ้และพวกอาจหลบหนี ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ติดตามตัวอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้หลบหนีออกนอกพื้นที่ได้ นอกจากนี้ยังให้จเรตํารวจแห่งชาติตรวจสอบประวัติการร้องเรียนในอดีตของผู้กำกับและทีมงานว่า มีพฤติการณ์เป็นอย่างไร รวมถึงสืบต่อลงไปยังเส้นทางการเงินและที่มาของเงินทั้งหมดที่ผู้กำกับโจ้ใช้จ่าย 

สำหรับเรื่องการคุ้มครองพยานในคดี โดยเฉพาะตำรวจที่นำคลิปดังกล่าวมาเปิดเผย ตามปกติแล้วพยานในคดีจะมีมาตรการในการคุ้มครองดูแลพยานอยู่แล้วจึงขอให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง 

ขณะเดียวกัน ในกรณีดังกล่าว ทางพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีค่อนข้างไม่สบายใจกับคลิปวีดีโอดังกล่าวที่มีการเผยแพร่ และสั่งการให้ตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา พร้อมดำเนินการกับผู้ที่กระทำความผิดตามขั้นตอนโดยไม่ละเว้น

ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังเปิดใจหลังจากได้เห็นภาพคลิปดังกล่าวรวมถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่อาจเป็นการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อข้าราชการตำรวจว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าเสียใจเพราะมีผู้สูญเสีย และฝากเป็นอุทาหรณ์ให้กับข้าราชการตำรวจทุกนาย ให้ดูไว้เป็นตัวอย่าง ทำอะไรผลที่ตามมามันรุนแรงกว่าที่คิดไว้ และต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีทางหนีพ้นได้ รวมทั้งยอมรับว่ากระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจทุกนาย คดีนี้ยืนยันว่านิ้วไหนที่เสียก็ต้องตัดทิ้งไม่ละเว้น เพื่อให้คนอื่น ๆ เดินต่อได้ แต่ก็เชื่อว่าตำรวจที่ดีก็ยังมีอยู่ คนเลว ๆ ที่ทำไม่ดีก็ต้องรับผลกรรมที่ทำเอาไว้ เราไม่สามารถเอาคนแบบนี้ไว้ได้ และจะตรวจสอบย้อนหลังด้วย


ที่มา : https://www.facebook.com/396732480397137/posts/5908094169260913/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

พิธีมอบประกาศ 'สำนักนายกรัฐมนตรี' เรื่อง พระราชทานวิสุงคามสีมา แก่วัดในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัด'ยโสธร' ณ วัดมหาธาตุ

เมื่อวันจันทร์ ที่ 23 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ณ วัดมหาธาตุ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร พระเดชพระคุณ "พระธรรมราชานุวัตร" (สุทัศน์วรทสฺสีป.ธ.9) เจ้าคณะภาค 10 เจ้าอาวาส "วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร" เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย"พระมหาอภิลักษณ์ ปญฺญาวโร" (ป.ธ.9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหา เลขานุการเจ้าคณะภาค 10 และคณะทำงานกองงานเลขานุการเจ้าคณะภาค 10 มอบประกาศ "สำนักนายกรัฐมนตรี" เรื่อง พระราชทานวิสุงคามสีมา แก่วัดในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัด "ยโสธร"

ในการนี้ พระเดชพระคุณ "หลวงพ่อพระเทพวงศาจารย์ " เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ (พระอารามหลวง) เจ้าคณะจังหวัดยโสธร / พระเถระชั้นผู้ใหญ่ / รองเจ้าคณะจังหวัดยโสธร / เจ้าคณะอำเภอเมืองยโสธร / คณะสงฆ์วัดมหาธาตุ (พระอารามหลวง)  / ผู้อำนวยการพระพุทธศาสนาจังหวัดยโสธ / ดร.พนธ์พันธ์ เลิศจันทรางกูร ผู้ช่วยเลขานุการหม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ และตำแหน่งที่ปรึกษาสมเด็จพระสังฆราชราชอาณาจักรกัมพูชา และที่ปรึกษา "วัดบ้านโพนงอย" อ.เมือง จ.ยโสธร / พุทธศาสนิกชน ญาติโยม และคณะสงฆ์ วัดบ้านโพนงอย ต.ขั้นไดใหญ่ อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร / วัดโพนขวาว ต.ขั้นไดใหญ่ อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ซึ่งเป็นวัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ครั้ง​ที่ 2 ประจำปี 2563 ในครั้งนี้ ร่วมแสดงมุฑิตาจิต อนุโมทนาบุญร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top