Saturday, 10 May 2025
NEWS FEED

“ผบ.ทร.”ห่วงใยความปลอดภัยประชาชน สั่ง เปิดศูนย์ช่วยเหลือทางน้ำวันลอยกระทง ลาดตระเวน 82 กม.ตลอดแนวเจ้าพระยา พร้อมส่งเรือตรวจการณ์-จู่โจม-เจ็ทสกี22ลำ ดูแล-ช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน 

ที่กองทัพเรือ ได้เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำเนื่องในวันลอยกระทง ประจำปี 2564 โดยมี พล.ร.ท.ก้องเกียรติ สัจวุฒิ รองเสนาธิการทหารเรือ เป็นประธาน ที่ลานทัศนาภิรมย์ หอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

โดยมีพิธีปล่อยหมู่เรือตรวจการณ์ 22 ลำประกอบไปด้วย เรือตรวจการณ์ลำน้ำ เรือจู่โจมลำน้ำ(ปลดอาวุธ) และเจ็ทสกี ที่จะลาดตระเวณ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบรรเทาสาธารณภัย เช่น ตำรวจน้ำ กรมเจ้าท่า กรุงเทพมหานคร อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย ตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยาระยะทาง 82 กม. ตั้งแต่สะพานนนทบุรี จนถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยความปลอดภัยให้กับประชาชนกรณีฉุกเฉิน

หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ประชาชนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือกับทางศูนย์ ฯ ได้ที่ กองบังคับการหมวดเรือที่ 3กองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ อู่ทหารเรือธนบุรี ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 0 2475 3093 /0 2475 3094 /0 2412 6963 หรือสายด่วน 1696

ด้านพล.ร.ต.ปรีดิวัฒน์ ดิลกนรนารถ  ผู้บัญชาการกองเรือลำน้ำ กล่าวว่า ก่อนการปฏิบัติงานทาง กอวเรือลำน้ำได้ตรวจสอบอุปกรณ์ เครื่องช่วยชีวิต และฝึกซ้อมกำลังพลในการช่วยชีวิต กู้ภัยทางน้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่กรมแพทย์ ทร. มาให้ความรู้ พร้อมร่วมกับกทม.ในการตรวจโป๊ะ ท่าเรือ ให้พร้อมรับประชาชนที่ออกมาลอยกระทง

ไม่ได้ถูกอมงบ..!!! “กอ.รมน.” ชี้ งบ  “โครงการพัฒนาพื้นที่และชีวิตความเป็นอยู่ของปชช. ได้งบลดลงเหลือ130 ล้าน ยันอยู่ในกรอบระเบียบทางราชการ 

พล.อ.สิทธิชัย มากกุญชร โฆษก กอ.รมน. กล่าวถึงกรณีที่มีผู้แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อโซเชียล ฯ  มีรายละเอียดกล่าวถึง เรื่องของงบประมาณปี 65  ในส่วนของน้ำมัน (หรือ สป.3.) ที่หน่วยหรือชุดปฏิบัติงานควรจะได้รับไปเพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจ “โครงการพัฒนาพื้นที่และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ตามชายแดน” ซึ่งอยู่ในกรอบงาน ของ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. ตามที่เห็นปรากฏในเอกสารอ้างถึงนั้น ว่า โครงการดังกล่าวอยู่ในกรอบงานของศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน  สนับสนุนงบประมาณให้ กอ.รมน.ภาค 3 สย. 1/ กกล.นเรศวร เป็นผู้ปฏิบัติ  โดยในปี 2564  ได้รับงบประมาณจำนวน 181 ล้านบาทเศษ  ส่วนในปีงบประมาณ 2565 ได้รับงบประมาณลดลงเหลือ 130 ล้านบาทเศษ  ซึ่งพบว่าตั้งแต่ ปี 63 - 65 โครงการฯ นี้ได้รับงบประมาณลดลงมาอย่างต่อเนื่องตามลำดับ

“ทาง กอ.รมน.ยังคงอยากให้การปฏิบัตินั้นครอบคลุมพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมายจำนวน 150 หมู่บ้านตามแผนเดิม   จึงทำให้เมื่อเฉลี่ยงบประมาณเทียบเป็นรายหมู่บ้านแล้วตัวเลขจึงทำให้ดูลดน้อยลงไปมากโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับในปีที่ผ่านมา”โฆษก กอ.รมน. กล่าว  

พล.อ.สิทธิชัย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทางหน่วยปฏิบัติใช้วิธีบริหารจัดการภายใน เช่น ลดการใช้ น้ำมันหรือ สป.3 จากส่วนอื่นๆ ที่จำเป็นน้อยกว่า  นำมาเพิ่มเติมให้โครงการนี้ตามความจำเป็น เพื่อไม่ให้กระทบภารกิจโครงการนี้

 

ผู้ว่าฯ สุโขทัย นำประชาชนร่วมตักบาตรสะพานบุญรับรุ่งอรุณแห่งความสุข! บวงสรวงบูรพกษัตริย์ เริ่มงาน ‘ลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ วิถีใหม่ ประจำปี 2564’

วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2564) นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยนางกนกพร พรรณเทวี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุโขทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และนักท่องเที่ยว ร่วมพิธีตักบาตรสะพานบุญรับอรุณแห่งความสุข ณ บริเวณวัดตระพังทอง ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังสุโขทัย  ซึ่งถือเป็นกิจกรรมแรกในงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย เป็นประจำทุกปี โดยประชาชนจะร่วมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ ถือเป็นการรับรุ่งอรุณแห่งความสุขของเช้าวันใหม่ เป็นการเริ่มต้นที่ดี และจะส่งผลให้เกิดความสุขตลอดทั้งวัน รวมทั้งยังได้ซึมซับบรรยากาศ และร่องรอยของความสวยงาม ความสมบูรณ์ของอาณาจักรสุโขทัยตั้งแต่สมัยอดีต จนถึงปัจจุบัน

จากนั้น นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ประธานพิธีบวงสรวงบูรพกษัตริย์สุโขทัยทุกพระองค์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย ประกอบด้วยจุดที่ 1 บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จุดที่ 2 บริเวณศาลพระแม่ย่า ตำบลธานี อำเภอเมืองสุโขทัย และจุดที่ 3 บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการเริ่มต้นที่ดี อันจะส่งผลให้เกิดความสุขตลอดทั้งวัน รวมทั้งได้ซึมซับบรรยากาศ และร่องรอยของประวัติศาสตร์มรดกโลกที่มีความสวยงาม และความสมบูรณ์ของอาณาจักรสุโขทัย

ส่วนกิจกรรมในวันนี้ พิธีเปิดเริ่ม 17.30 น. ขบวนกระทงใหญ่ 9 อำเภอ แห่ให้นักท่องเที่ยวชม มีนายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ประธานพิธีเปิดงาน นักท่องเที่ยวเข้าชมความงามประดับตกแต่งพื้นที่บริเวณโบราณสถานวัดมหาธาตุ ด้วยไฟ Light Up และตะคันดินเผา การประดับโคมไฟที่สว่างไสวโดยรอบบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย การจุดพลุไฟ และการแสดงลานวัฒนธรรมของชาวจังหวัดสุโขทัย ทั้งนี้เพื่อให้การจัดงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ วิถีใหม่ ประจำปี 2564 ระหว่างวันที่ 18 - 20 พฤศจิกายน 2564 ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

สวนนงนุชพัทยา เปิดพื้นที่จัดงาน! “MICE Business Roadshow เส้นทาง Eastern Coastal Economic Rivera”

ในวันนี้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ร่วมกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดงาน “ MICE Business Roadshow เส้นทาง Eastern Coastal Economic Rivera ” โดยมี ว่าที่ ร.ต.เอนก นุรักษ์ รองประธานอุสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ผู้แทนประจำภาคกลาง และภาคตะวันออก สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) , นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬา จ.ปราจีนบุรี , นายภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ ผู้ช่วยประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายขจรเดช อภิชาติตรากูล ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา เข้าร่วมประชุมงานดังกล่าวข้างต้น เพื่อนำไปจัดทำเป็น Package สำหรับการประชาสัมพันธ์

ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุม 80 ท่าน โดยแบบการจัดงานแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงที่ 1 Business Matching โดยมี Seller ประมาณ 30 หน่วยงาน 40 ท่าน และช่วงที่ 2 การเสวนา Debrief “Creative New Destination Eastem Coastal Rivera CVTE” ร่วมผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 80 ท่าน

นาย กัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช พัทยา กล่าวต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุมเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ ให้กับนักท่องเที่ยว ชาวไทย เวียดนาม กัมพูชา รวมถึงนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ ที่สนใจโดยเชื่อมโยงเส้นทาง จังหวัดตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี และได้อธิบายถึงความพร้อมสวนนงนุช พัทยา นอกจากความสวยงามของสวนในฐานะที่เป็น 1 ใน 10 สวนที่สวยที่สุดในโลกและ มีสวนสวย มากกว่า 40 สวน เราได้ตระหนักถึง การดูแลสุขภาพ ซึ่งสวนนงนุชพัทยาได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก เรามีสวนเกษตร ปลูกผักอินทรีย์ เพื่อนำมาประกอบอาหาร ให้กับลูกค้า มีสวนสมุนไพร ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ สำหรับคนรักสุขภาพ มีคลินิกการแพทย์แผนไทย

 

คืบหน้าวัคซีน ‘ChulaCov19’ เตรียมเข้าเฟส 3 ชี้ กระตุ้นภูมิสูงกว่า ‘ไฟเซอร์’ คาดได้ใช้จริงปี 65

อัปเดต! วัคซีนจุฬาฯ ใกล้ความจริง ด้าน “หมอเกียรติ” เผยวัคซีน ChulaCov19 เตรียมเข้าเฟส 3 หากทุกอย่างตามแผนพร้อมผลิตใช้จริงเร็วสุด มิ.ย. 65 ขณะที่วัคซีนใบยา ยังขาดกลุ่มสูงอายุเข้าเป็นอาสาสมัคร เพื่อทดลองช่วง ธ.ค. นี้

จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 64 ได้อนุมัติโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 “ChulaCov19” mRNA เพื่อทำการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 3 และการผลิตเพื่อขึ้นทะเบียนวัคซีน เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน กรอบวงเงิน 2,316 ล้านบาท และเห็นชอบในหลักการโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (Baiya) กรอบวงเงิน 1,309 ล้านบาท ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม (อว.) โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินเพิ่มเติมฯ พ.ศ. 2564

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 พ.ย. 64 มีการเสวนาความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 ของจุฬาฯ “นวัตกรรมของไทย ความหวังของโลก” ผ่านเฟซบุ๊ก : Chulalongkorn University โดย ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ (วัคซีน ChulaCov19) กล่าวว่า ข้อมูล ณ ขณะนี้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดไปแล้วกว่า 7.5 พันล้านโดส ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย เป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมประมาณ 3 พันกว่าล้านโดสมาจากจีน บราซิล อินเดีย ซึ่งช่วยชีวิตคนได้มาก และอีกเกือบ 2 พันล้านโดสเป็นเทคโนโลยี mRNA ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศรายได้สูง และอีกประมาณ 1 พันกว่าล้านโดสเป็นไวรัลแวกเตอร์ (Viral Vector)

ศ.นพ.เกียรติ กล่าวว่า หากเรารอวัคซีนไปเรื่อย ๆ โดยไม่พัฒนาเองคงไม่ได้ ประเทศต่าง ๆ จึงต้องพัฒนาเทคโนโลยีที่ครบถ้วนของตัวเอง รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งทั่วโลกมีนักวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 มากกว่า 200 - 300 ชนิด แต่ว่า 120 ชนิดเข้าในคน และ 14 ชนิดได้รับอนุมัติให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน โดยพบว่ามี 8 ชนิดที่ให้ใช้ได้โดยไม่ต้องผ่านรัฐ ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์โลก โดยประเทศไทยปัจจุบันมี 6 เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ส่วนจุฬาฯ มี 2 เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม คือ mRNA และโปรตีนซับยูนิต (subunit vaccine) แม้ไทยจะช้า แต่เราจะพึ่งตัวเองได้

“สำหรับจุฬาฯ ที่พัฒนาวัคซีน ChulaCov19 ปัจจุบันเรามีการเตรียมวัคซีนรุ่น 2 และ 3 ไว้กรณีรุ่น 1 ไม่สามารถใช้หากโควิดข้ามสายพันธุ์ ซึ่งทดสอบในหนูแล้ว อย่างไรก็ตาม ในการทดลองอาสาสมัครระยะที่ 1 ตั้งแต่มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา แบ่งเป็น 36 คน อายุ 18-55 ปี และอีกกลุ่ม 36 คน สำหรับอายุมากขึ้น คือ อายุ 56-75 ปี หลังจากนั้นเลือกโดสที่เหมาะสมเพื่อไปสู่ระยะที่ 2 อีก 150 คน อายุ 18-59 ปี ทั้งหมดฉีดครบ 2 เข็มตามครบ 1 เดือน ข้อมูลทยอยออกมา” ศ.นพ.เกียรติ กล่าว

ศ.นพ.เกียรติ กล่าวอีกว่า ผลสรุปเบื้องต้นภาพใหญ่จำนวน 36 คน (อายุ 18-55 ปี) วัคซีนปลอดภัย มีอาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อย แต่จะดีขึ้นประมาณ 1-2 วันครึ่ง โดยภูมิคุ้มกันกระตุ้นทั้ง B Cell และ T Cell ได้สูง ซึ่งจุฬาฯ จับมือห้องปฏิบัติการทั้ง สวทช. และมหิดล ก็ไปในทางเดียวกัน ซึ่งข้อมูลมาจากห้องแล็บที่มีการให้วัคซีนทั้งโดสต่ำ โดสกลาง และโดสสูง และมีการเปรียบเทียบกับไฟเซอร์ รวมไปถึงดูเรื่องการข้ามสายพันธุ์ ทั้งอัลฟา เบตา และเดลตา ซึ่งป้องกันได้ ยิ่งโดสสูงก็ยิ่งป้องกันได้ นอกจากนี้ ยังทดสอบในเชื้อที่สังเคราะห์ขึ้น ก็ยืนยันไม่แตกต่างจากเชื้อจริงที่เรามีการทดลอง โดยการทดลองทั้งหมดพบว่า ข้ามสายพันธุ์ได้ทั้งหมดเช่นกัน

ศ.นพ.เกียรติ กล่าวว่า สำหรับคณะกรรมการกลางทางวิชาการที่ติดตามความปลอดภัยมีการพิจารณาว่า เมื่อโรคระบาดหนักขนาดนี้ หากใช้โดสต่ำ อาจต้องบูสเร็ว จึงตัดสินใจว่า เฟส 2 จะใช้โดสสูงเป็น 50 ไมโครกรัม ซึ่งได้ผ่านการอนุมัติจาก อย. และจะนำมาเปรียบเทียบระหว่างการฉีดวัคซีน ChulaCov19 และฉีดน้ำเกลือ (กลุ่มฉีดน้ำเกลือ 29 วัน เพื่อความปลอดภัยจะได้ไฟเซอร์) ประเด็นที่น่าสนใจคือ วัคซีนนี้กระตุ้น T Cell สูงมาก สูงกว่าไฟเซอร์ 2 เท่า แม้ภูมิฯ ตกมาหลัง 4 สัปดาห์ก็ยังใกล้เคียงกับไฟเซอร์

“ขณะนี้เราทดลองผ่านเฟส 1 และเฟส 2 มาแล้ว ซึ่งต้องขอบคุณ อย. มากที่ทำงานเชิงรุก และให้ข้อแนะนำแนวทางที่ชัดเจน โดยเราเตรียมเข้าสู่ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบกับคู่เทียบ คือ ไฟเซอร์ ว่า เราไม่ด้อยกว่า และปลอดภัยในอาสาสมัคร โดยวัคซีนขณะนี้ผลิตในประเทศไทย เป็น เมดอินไทยแลนด์ เสร็จเรียบร้อย มีการบรรจุขวดแล้ว เหลือรอตรวจประกันคุณภาพ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนจะรับอาสาสมัครได้ก่อนสิ้นปี และฉีดจริงต้นปี คาดว่าจะเสร็จภายใน มี.ค. และรวบรวมข้อมูลเพื่อขึ้นทะเบียนต่อไป” ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 จุฬาฯ กล่าว

ศ.นพ.เกียรติ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ หากได้ขึ้นทะเบียนในภาวะฉุกเฉินก็ต้องรับเงื่อนไข อย. ที่เป็นมาตรฐานสากล โดยต้องติดตามคนฉีดวัคซีน ChulaCov19 อีก 3 หมื่นคน และเก็บข้อมูลความปลอดภัย ประสิทธิผลว่าได้อย่างไร แต่ความจริงคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน อาจเหลือไม่มาก ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำคู่ขนาน คือ การฉีดกระตุ้นเข็ม 3 จึงต้องเริ่มเตรียมทดสอบในอาสาสมัครอายุน้อยลงด้วย

“ก่อนหน้านี้ท่านนายกรัฐมนตรี ได้มาเยี่ยมที่จุฬาฯ ซึ่งท่านรับฟังปัญหาและทางออกจริงจังมาก ผมเสนอว่า หากอยากเห็นอย่างน้อย 1 วัคซีนไทยได้ขึ้นทะเบียนในปีหน้า หากโชคดีเร็วกว่านั้นจะเป็นของขวัญปีใหม่ไทย จึงควรให้งบฯ เหมือนในต่างประเทศ โดยมีงบฯ 3 พันล้านบาทต่อ 1 วัคซีน มากองไว้ และมีระบบในการอนุมัติเงินเป็นกรอบ ขั้นตอนการอนุมัติต้องมีความคล่องตัว ซึ่งท่านได้ให้ฝ่ายสำนักงานเลขาธิการประสานกับเราตลอดเวลา ว่า ปัญหาอยู่ตรงไหน ซึ่งท่านรักษาสัญญา โดยเงินที่เราขอไป 2.3 พันล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วน โดย 1.3 พันล้านเป็นส่วนพัฒนาวัคซีน ทดลองในอาสาสมัคร ส่วนอีก 1 พันล้านเป็นค่าใช้จ่ายวัตถุดิบและการผลิตหลักล้านโดสขึ้นไป ทั้งหมดทำให้การทำงานง่ายขึ้น จึงต้องกราบขอบพระคุณ และจะใช้ทุกบาททุกสตางค์อย่างรอบคอบ และใช้ตามจริง” ศ.นพ.เกียรติ กล่าว

ทบ. จัดแถวพลขับ - รถทหาร 3,700 คัน หลังรถบรรทุกขู่หยุดขนส่งสินค้าสิ้นเดือนนี้

วันที่ 18 พ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ตามที่ผู้ประกอบการรถบรรทุกบางส่วน เรียกร้องรัฐบาลเรื่องราคาน้ำมัน และระบุว่าจะหยุดการเดินรถขนส่งสินค้าในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งรัฐบาลกำลังบริหารจัดการเรื่องดังกล่าว โดยนายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาให้เตรียมระบบขนส่งรองรับการหยุดเดินรถและให้เหล่าทัพเตรียมการสนับสนุนรถยนต์ทหารเข้าช่วยในการขนส่งอีกทางหนึ่งนั้น ในส่วนของกองทัพบก พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบหมายให้กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก, กรมการขนส่งทหารบก, กองทัพภาค และหน่วยที่เกี่ยวข้อง 

ได้รวบรวมศักยภาพด้านการขนส่งและเตรียมข้อมูลยานยนต์ทางทหาร ที่สามารถนำมาใช้ในการขนส่งสินค้ารองรับตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งได้หารือถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและแนวทางปฏิบัติในการนำรถยนต์บรรทุกขนาดต่าง ๆ พร้อมกำลังพลเข้ารับภารกิจ โดยในขั้นต้นกองทัพบกมีรถยนต์ทหารที่เหมาะสมกับภารกิจด้านการขนส่งทางถนนประมาณ 3,700 คัน แยกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก, ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ มีน้ำหนักบรรทุก 1, 4 และ 8 ตันตามลำดับ 

‘สมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม - พสบ.ทอ.1 และสวนอาหาร 89’ มอบอาหารแก่บุคลาการทางการแพทย์ ณ โรงพยาบาลภูมิพล

เมื่อวันที่ 18 พ.ย.64 ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยจะดีขึ้น แต่พี่ ๆ บุคลากรทางการแพทย์ คุณหมอพยาบาล ยังคงทำงานหนัก เพราะนอกจากผู้ป่วยโควิดแล้วก็ยังมีผู้ป่วยทั่วไปเข้ารับการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องและค่อนข้างเยอะกว่าปกติ  เพราะช่วงที่ผ่านมาหลาย ๆ คนอาจจะกังวลเพราะสถานการณ์ดังกล่าว เลยชะลอไว้ก่อน

ล่าสุดวันนี้ นายกสมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม ธวัชชัย กิตติรัตนวิวัฒน์ และประธานบริษัท 88 แปซิฟิค จำกัด กล่าวว่า "คนป่วยโควิทมารักษาหายใจเหนื่อยและพอรักษาหายใจสะดวก แต่แพทย์และพยาบาลยังคงหายใจเหนื่อยไปตลอดเวลา เพื่อผู้ป่วยกี่รุ่นต่อกี่รุ่น"

พิธียิ่งใหญ่นครรังสิต!! ‘บิ๊กแจ๊ส’ ร่วมเป็นประธานในพิธี บวงสรวงวางศิลาฤกษ์อนุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10:00 น. ที่บริเวณมณฑลพิธีประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี เป็นประธานวางศิลาฤกษ์อนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) และพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลฯ งานรำลึกเสด็จพระราชดำเนินเปิดประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ 125 ปี

โดยมี ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต คณะผู้บริหารร่วมถึงพ่อค้าประชาชน ร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์อนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งในอนาคตสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและสถานที่ออกกำลังกายของประชาชนชาวรังสิต

โดยพิธีพราหมณ์เริ่มบวงสรวงดวงพระวิญญาณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ประธานได้เจิมรูปหล่อจำลอง ร.5 และจุดธูปเทียนเพื่อสักการะดวงพระวิญญาณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งวางพวงมาลา หลังจากนั้น พระธรรมรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต พระอารามหลวง  ประธานฝ่ายสงฆ์ เริ่มพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5 งานรำลึกเสด็จพระราชดำเนินเปิดประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ 125 ปี ซึ่งได้พระราชทาน นามประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการรำลึกเสด็จพระราชดำเนินเปิดประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ 125 ปี

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ของจังหวัดปทุมธานีที่เกิดขึ้นในพื้นที่เทศบาลนครรังสิต 125 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2439 พระองค์ท่านเคยเสด็จมาประทับที่นี่เปิดประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ทรงมีพระเมตตาใช้พระนามมาเป็นชื่อประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ถือว่าที่นี่เป็นประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีอนุสาวรีย์ของพระองค์ท่านขึ้นมาให้ยิ่งใหญ่ให้สมกับที่พระองค์ท่านได้เสด็จมาทำเพื่อประชาชน  นับเป็นนิมิตรหมายที่ดี แล้วที่จะต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่แห่งนี้

โดยต้องขอบคุณกรมชลประทานที่อนุญาตให้ใช้สถานที่นี่ดำเนินการสร้างเป็นอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5  ต่อจากนี้ไปจะต้องมีการทำ MOU กับกรมชลประทาน เพื่อที่จะดูแลสถานที่แห่งนี้ให้สวยงานตลอดไป และเป็นที่พักผ่านของพี่น้องชาวนครรังสิต เป็นแลนด์มาร์คที่น่าภาคภูมิใจของชาวนครรังสิต วันนี้เป็นวันสำคัญของชาวปทุมธานี ฝากทางเทศบาลนครรังสิตทุก ๆ ปีควรต้องมีงานสมโภชประจำปี นำสิ่งต่าง ๆที่เคยมีกลับมา ให้เป็นสถานที่ลอยกระทง มีตลาดน้ำ รวมถึงมีการแข่งขันเรือพาย ต้องเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาวนครรังสิตและชาวปทุมธานีต่อไป

 

 

เยาวชนปลดแอก โพสต์ ทะลุแก๊สหลายคนลำบาก ตกงาน ไร้บ้าน ฆ่าตัวตาย โบ้ยฝีมือบิ๊กตู่

น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรือ อั๋ว แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม แกนนำเยาวชนปลดแอก และม็อบที่เรียกตัวเองว่า ราษฎร โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า... 

เยาวชนที่เคยออกไปม็อบดินแดงหลายคนกำลังลำบากอย่างมากจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ หลายคนต้องตกงาน บางคนต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน เท่าที่ทราบมามีคนพยายามฆ่าตัวตายไม่ต่ำกว่า 7 คน ตอนนี้สำเร็จไปแล้ว 2 คน อีกคนช่วยทันแต่อยู่ในไอซียู

ทหารสตูล ลุยพื้นที่น้ำท่วม!! เร่งช่วยชาวบ้านขนของขึ้นที่สูงหนีน้ำ และนำรถแม็คโคลงขุดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ขณะมวลน้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือน

วันนี้ 18 พ.ย.2564 พ.อ. เรวัตร เซ่งเข็ม ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 / ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 พร้อมด้วยทหาร ร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านขนของขึ้นที่สูงหนีน้ำพร้อมทั้งได้นำรถแม็คโคเร่งขุดลอกเอากิ่งไม้ และเศษขยะที่ถูกน้ำพัดพามากีดขวางทางน้ำ อยู่ที่คอสะพาน ทำให้มวลน้ำเกิดการไหลช้า และไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน เนื่องจากสภาพอากาศท้องฟ้าในจังหวัดสตูล ยังมืดครึ้ม บางพื้นที่มีฝนตก

ในขณะที่มวลน้ำจากตามภูเขาที่ได้สะสมกับน้ำฝนที่ตกมาหลายวันไหลเข้าท่วมบ้านชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดสตูล ที่เป็นเส้นทางน้ำในขณะนี้ล่าสุดน้ำได้เข้าท่วมพื้นที่อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล หลายหมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน ทางอำเภอควนโดนประเมินบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากท้องถิ่น จำนวน 300 ครัวเรือน

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top