Friday, 16 May 2025
ECONBIZ NEWS

‘ชาวมาเลเซีย’ แห่เที่ยวเบตงช่วงปลายปี ดันยอดขาย ‘อาหาร-เสื้อผ้า-ของฝาก’ พุ่ง

(11 ธันวาคม 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ยะลา ว่า ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และในย่านธุรกิจเมืองเบตง ยังคงคึกคัก มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวทั้งทางรถบัสเป็นกรุ๊ปทัวร์ และรถตู้โดยสาร นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมีความชื่นชอบอาหาร อากาศ แหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งมาเยี่ยมญาติพี่น้องที่อยู่ใน อ.เบตง ด้วย เพราะนักท่องเที่ยวบางคนเคยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแล้วเมื่อ กว่า 2 ปีที่ผ่านมา และไม่ได้เข้ามาอีก เพราะติดสถานการณ์โควิด-19

นอกจากนี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามาท่องเที่ยวที่อำเภอเบตง จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเกือบทั้งหมด และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก โดยเฉพาะในช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียนของมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 10-31 ธันวาคม 65 และเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ในวันจันทร์ 2 มกราคม 66

ขณะเดียวกัน ในวันนี้ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดสัปดาห์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวด้วยเช่นเดียวกัน ส่งผลให้สถานประกอบการ ร้านอาหาร สตรีทฟู้ด ขายดิบขายดี รวมทั้งร้านขายเสื้อผ้าและของที่ระลึก มีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย เข้ามาเลือกซื้อเสื้อผ้าเพื่อนำกลับไปเป็นของฝากให้ญาติพี่น้อง ทำให้ร้านค้าที่ขายเสื้อผ้าในย่านธุรกิจ ใจกลางเมืองเบตงได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่ตั้งใจมาซื้อเสื้อผ้า เนื่องจากเสื้อผ้าที่นี่ราคาถูกกว่าที่อื่นและมีแบบให้เลือกหลากหลาย มีสีสันสดใส ทั้งของผู้หญิงและผู้ชายรวมทั้งของเด็กๆ ด้วย

‘ญี่ปุ่น’ เตรียมถอยทัพออกจากจีน เบนเข็มลุยอาเซียน ส้มหล่น!! ผลโพลเผย 76% ญี่ปุ่นเลือกซบไทย

(11 ธ.ค. 65) เมื่อไม่นานมานี้ รายการ Summary Reporter ได้เผยแพร่วิดีโอบอกเล่าเรื่องราวการลงทุนของญี่ปุ่นในจีน พร้อมระบุถึงทีท่าที่ไม่สู้ดี เนื่องจากมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่ยังเข้มข้นของจีน และแนวโน้มที่จะย้ายฐานการลงทุนกลับมาที่อาเซียน และส้มอาจหล่นที่ประเทศไทย โดยระบุไว้อย่างน่าสนใจว่า…

‘ญี่ปุ่น’ เตรียมเปลี่ยนแผนถอยทัพออกจากจีน เบนเข็มกลับสู่อาเซียน โดยมีโอกาสมากถึง 76% ที่จะกลับมาลงทุนในประเทศไทย หลังนโยนบายจีนเอาแน่เอานอนไม่ได้

ดูเหมือนนโยบายการเปิดประเทศของจีนนั้นน่าจะยังอีกยาวไกล ทำให้การทำธุรกิจในจีนดูสุ่มเสี่ยงเกินไป เพราะเอาแน่เอานอนไม่ได้สักอย่าง ในขณะที่โลกหมุนไป ทั่วโลกเปิดประเทศหมดแล้วหลังจากโควิด-19 แต่จีนยังอยู่แบบเดิมๆ คนทำธุรกิจก็แย่หนัก นำเข้าก็ไม่ไหว ส่งออกก็ไม่ได้ 

ด้วยเหตุผลนี้ทำให้หลายประเทศที่เข้าไปลงทุนในจีนต้องปรับแผนกันใหม่ เตรียมถอยทัพออกจากจีนในหลายๆ กลุ่มธุรกิจ

แต่ที่น่าจับตามองคือ ‘ญี่ปุ่น’ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าว Nikkei ของญี่ปุ่น ได้ไปสำรวจผู้ประกอบการธุรกิจหรือนักลงทุนที่เข้าไปลงทุนในจีน จากผลสำรวจระบุว่า จาก 100 แห่ง มี 78 แห่งบอกว่า ความเสี่ยงในการจัดหาชิ้นส่วนและอุปกรณ์วัตถุดิบในจีนมันเพิ่มมากขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

อีกทั้งบริษัทญี่ปุ่นประมาณร้อยละ 53% บอกว่า จะเตรียมลดการพึ่งพาในการจัดซื้อหรือการพึ่งพาอุปสงค์และอุปทานในจีนลง อย่างที่รู้กันว่าจีนเป็นโรงงานขนาดใหญ่ของโลก และโรงงานของญี่ปุ่นไปตั้งในจีนเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มบริษัทที่ผลิตเครื่องจักร จะมีการลดการพึ่งพาจีนลงถึง 60% 

ขณะที่บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ เคมีภัณฑ์ จะลดการพึ่งพาจีนลงถึง 57% ส่วนบริษัทด้านอิเล็กทรอนิกส์จะลดการพึ่งพาจีนลง 55% ดูจากตัวเลขพวกนี้ถือว่าลดลงครึ่งๆ เลยทีเดียว

ทะลุเป้าปี 65!! ททท. ฉลองต่างชาติเที่ยวไทยครบ 10 ล้านคน พร้อมเดินหน้าดันยอดสู่ 20 ล้านคนในปี 66

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่งการบ้านรัฐบาล จัดงาน ‘Amazing Thailand 10 Million Celebrations’ เฉลิมฉลองโอกาสสำคัญ
ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ครบ 10 ล้านคน (ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ตามเป้าหมายส่งเสริมตลาดต่างประเทศของปี 2565 ของ ททท. ณ ท่าอากาศยานสำคัญ 7 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ สนามบินสมุย และด่านพรมแดนทางบก 2 แห่ง ได้แก่ ด่านพรมแดนสะเดา และด่านพรมแดนหนองคาย 

อีกทั้ง เป็นการขอบคุณนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่ให้ความเชื่อมั่นในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และประกาศความสำเร็จแบรนด์ Amazing Thailand ตอกย้ำความเชื่อมั่นประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในใจนักท่องเที่ยว เตรียมเดินหน้าดันยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติสู่ 20 ล้านคนในปี 2566

ทั้งนี้ การจัดงาน ‘Amazing Thailand 10 Million Celebrations’ ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้รับเกียรติจาก นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท. นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ททท. นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเชียงใหม่ นายณัฐวุฒิ ทาอินต๊ะ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายปฏิบัติการ) นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวเพ็ญภัสสร คงสิริ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และนายพรเทพ อรรถกิจไพศาล ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ เข้าร่วมให้การต้อนรับและมอบของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยวเวียดนาม จำนวน 180 คน ที่เดินทางด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 907 จากเมืองดานัง ถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 12.30 น. และนักท่องเที่ยวฮ่องกง จากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง จำนวน 180 คน ที่เดินทางด้วยสายการบินฮ่องกงเอ็กซเพรส เที่ยวบิน UO 754 จากฮ่องกง ถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 18.50 น. ซึ่งวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง

‘บิ๊กตู่’ ร่วมต้อนรับนทท. คนที่ 10 ล้านจากซาอุฯ พร้อมอวยพรให้มีความสุขในดินแดนสยามเมืองยิ้ม

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ชั้น 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ อาทิ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ร่วมกิจกรรม ‘Amazing Thailand 10 Million Celebrations’ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวคนที่ 10 ล้าน คือ นางนาจูด อัลไควเตอร์ และนายไฮซัม อัลมัดลึจ ชาวซาอุดีอาระเบีย

อย่างไรก็ตาม ทาง ททท. ได้มอบของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวจาก 2 เที่ยวบิน คือ เที่ยวบิน TG923 การบินไทย ผู้โดยสาร จำนวน 348 ราย เดินทางจากท่าอากาศนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 13.45 น. และ เที่ยวบิน SV 846 สายการบินซาอุดีอาระเบียน แอร์ไลน์ : ซาอุเดีย (Saudi Arabian Airlines : Saudia) จำนวน 357 ราย เดินทางจากกรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 15.00 น. โดยของระลึกคือกระเป๋าผ้า ภายในบรรจุ หมวก ผ้าพันคอผ้า ผ้าขาวม้า ผ้าขนหนู และตุ๊กตา ‘น้องสุขใจ’ มาสคอตของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ตัวน้อยที่จะพานักท่องเที่ยวออกเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าวันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่เราได้มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานเฉลิมฉลองการต้อนรับนักท่องเที่ยวครบ 10 ล้านคนในวันนี้ และยินดีที่ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมายังประเทศไทย

'ทิพานัน' ชี้ กระแส 'เอเปค' ปังไม่หยุด ดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มปีหน้า 20-24 ล้านคน

(10 ธ.ค.65) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยออกมาคาดการณ์ว่าในปี 2566 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยน่าจะมีจำนวนประมาณ 20-24 ล้านคน โดยกลับมาคิดเป็นสัดส่วน 50-60% เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2562 ขณะที่การใช้จ่ายของชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวไทย จะสร้างรายได้สู่ธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง จะมีมูลค่าประมาณ 0.84-1.01 ล้านล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉลี่ยต่อทริปอยู่ที่ประมาณ 42,000 บาทต่อคนต่อทริป เพิ่มขึ้นจากประมาณ 40,000 บาทต่อคนต่อทริป ในปี 2565 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าปัจจัยที่สนับสนุนการท่องเที่ยว นอกจากการทำแคมเปญการตลาดกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศ รวมถึงมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว ได้แก่ มาตรการขยายระยะเวลาพำนักของชาวต่างชาติ ทั้งกลุ่มประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า จากไม่เกิน 30 วัน เป็นไม่เกิน 45 วัน และกลุ่ม Visa on Arrival จากไม่เกิน 15 วัน เป็นไม่เกิน 30 วัน (เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2565-31 มีนาคม 2566) แล้ว อีกหนึ่งปัจจัย คือ การจัดงานเอเปค 2022 ที่เผยแพร่ในสังคมออนไลน์ของผู้นำประเทศ ทำให้ประเทศไทยได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติมากขึ้น

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากรายงานผลการวิเคราะห์ดังกล่าว สะท้อนถึงประสิทธิภาพและผลสำเร็จของการจัดประชุมเอเปค 2022 ที่ช่วยกระตุ้นภาคท่องเที่ยว ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อนำไปสู้การสร้างงาน สร้างรายได้ในธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะวิสัยทัศน์ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เลือกกรุงเทพฯ เป็นเมืองสำหรับการจัดการประชุม ซึ่งนอกจากกรุงเทพฯ จะเป็นเมืองที่ติดอันดับ 1 ในเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกชื่นชอบมากที่สุด (Best City) ในการท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิก จากการเปิดเผยของนิตยสาร DestinAsian และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวระดับโลก ยังจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับโลก

ปตท. - Envision ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มจัดการพลังงานอัจฉริยะ ผลักดันสังคมไทยปลอดก๊าซเรือนกระจก

กลุ่ม ปตท. ร่วมกับ Envision พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ มุ่งผลักดันเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

เมื่อวานนี้ (9 ธันวาคม 2565) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ENVISION DIGITAL INTERNATIONAL PTE. LTD. บริษัทชั้นนำด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อลดคาร์บอน ภายใต้กลุ่มบริษัท Envision ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) Collaboration in Future Energy Transition by Decarbonization Platform ศึกษาและทดลองการใช้งานแพลตฟอร์มบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ ภายในพื้นที่ของกลุ่ม ปตท. เพื่อบริหารและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี2050 โดยมี ดร. บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน คุณเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ Mr. Ko Kheng Hwa ประธานกรรมการ Envision Digital ร่วมในพิธีลงนาม

ดร. บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการพัฒนาระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะเพื่อตรวจสอบและควบคุมการใช้พลังงาน รวมถึงประเมินความสามารถในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในพื้นที่ทดลองของโครงการ โดยได้ริเริ่มนำแพลตฟอร์ม EnOSTM ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ AloT ของ Envision Digital มาใช้ในการบริหารจัดการระบบพลังงานหมุนเวียนภายในอาคารต้นแบบ M4 ที่สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) จ.ระยอง ได้แก่ แผงเซลล์แสงอาทิตย์ลอยน้ำ แผงเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา ระบบกักเก็บพลังงาน รวมถึงสถานีชาร์จไฟฟ้าภายในวิทยาเขตของสถาบันฯ โดยสามารถตรวจสอบและควบคุมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และนำมาปรับใช้งานทดแทนการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิลได้อย่างเหมาะสม จึงทำให้อาคารดังกล่าวเป็นอาคาร Zero Import ทั้งหมด ซึ่งในอนาคต หากประสบความสำเร็จก็จะขยายผลไปยังพื้นที่อื่นต่อไป

'อลงกรณ์' แนะรัฐส่งเสริมการแปลงรถยนต์สันดาปเป็นรถอีวี ดันไทยเป็นฮับรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงของอาเซียน

'อลงกรณ์' ดันไทยเป็นฮับรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงของอาเซียน (ASEAN EV Conversion Hub) เสนอแผนปั้นอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าแนวใหม่ แนะรัฐออก 8 มาตรการส่งเสริมการแปลงรถยนต์เบนซินดีเซลเป็นรถไฟฟ้า

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้ก่อตั้งและประธานที่ปรึกษามูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย ให้เกียรติกล่าวปาฐกถาพิเศษ 'อนาคตประเทศไทยภายใต้ความท้าทายใหม่' ในงาน 'We Change ... BEV Conversion' โดยมุ่งเน้นถึงทิศทางแนวโน้มอุตสาหกรรม แนวทางสนับสนุนของภาครัฐ องค์กร เพื่อลดปัญหาอุปสรรค ข้อจำกัดของอุตสาหกรรมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และการดัดแปลงยานยนต์ไฟฟ้าของไทย ซึ่งมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย (AEITF) ร่วมกับ บริษัท สื่อสากลจำกัด ตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค ได้รับทราบถึงทิศทางการพัฒนาของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจการพาณิชย์ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล แผนการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2558-2579 ของกระทรวงพลังงาน ตลอดจนสร้างกระแสความรับรู้มาตรการส่งเสริมภาครัฐ มุมมองการดัดแปลงยานยนต์ไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับธุรกิจรายย่อยและประชาชนทั่วไป 

โดยงานมี นายสุเมฆปัณฑรานุวงศ์ ประธานมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ในการจัดงาน, นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานบริษัทสื่อสากล จำกัด และประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ กล่าวเปิดงานและกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการเสวนา ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 The 39 th Thailand International MOTOR EXPO 2022 ห้องประชุมจูปีเตอร์ 8-9 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็คเมืองทองธานี

นายอลงกรณ์ ได้กล่าวปาฐกถาถึงศักยภาพและอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าประเทศไทย โอกาสและความท้าทายของสถานการณ์สำคัญของโลก และการตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศของโลก (Climate Change)โดยรัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมให้เกิดการผลิตการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ โดยคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) กำหนดนโยบาย 30@30 >> การผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ. 2030 โดยมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) และการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลกหรือศูนย์กลางของภูมิภาค (EV Hub) 

เงินเดือนปริญญาตรีจบใหม่ย้อนหลัง 10 ปี เทียบกับราคา อาหารตามสั่ง

หลังจากพรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายพรรคว่าจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนเด็กจบใหม่ 25,000 บาทต่อเดือนในปี 2570 หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลชุดต่อไปนั้น ก็มีเสียงกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ เห็นชอบเห็นต่างกันออกไป

‘อลงกรณ์’ ดันไทยเป็นฮับรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงของอาเซียน (ASEAN Ev Conversion Hub) เสนอแผนปั้นอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าแนวใหม่ แนะรัฐออก 8 มาตรการส่งเสริมการแปลงรถยนตร์เบนซินดีเซลเป็นรถไฟฟ้า

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้ก่อตั้งและประธานที่ปรึกษามูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย ให้เกียรติกล่าวปาฐกถาพิเศษ ‘อนาคตประเทศไทยภายใต้ความท้าทายใหม่’ ในงาน ‘We Change ... BEV Conversion’ โดยมุ่งเน้นถึงทิศทางแนวโน้มอุตสาหกรรม แนวทางสนับสนุนของภาครัฐ องค์กร เพื่อลดปัญหาอุปสรรค ข้อจำกัดของอุตสาหกรรมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และการดัดแปลงยานยนต์ไฟฟ้าของไทย ซึ่งมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย (AEITF) ร่วมกับ บริษัท สื่อสากล จำกัด ตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค ได้รับทราบถึงทิศทางการพัฒนาของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจการพาณิชย์ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล แผนการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2558-2579 ของกระทรวงพลังงาน ตลอดจนสร้างกระแสความรับรู้มาตรการส่งเสริมภาครัฐ มุมมองการดัดแปลงยานยนต์ไฟฟ้าและจักรยายนต์ไฟฟ้าสำหรับธุรกิจรายย่อยและประชาชนทั่วไป โดยมี นายสุเมฆ ปัณฑรานุวงศ์ ประธานมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ในการจัดงาน นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานบริษัทสื่อสากล จำกัด และประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ กล่าวเปิดงานและกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการเสวนา ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 The 39th Thailand International MOTOR EXPO 2022 ห้องประชุมจูปีเตอร์ 8-9 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็คเมืองทองธานี

นายอลงกรณ์ ได้กล่าวปาถกถาถึงศักยภาพและอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าประเทศไทย โอกาสและความท้าทายของสถานการณ์สำคัญของโลก และการตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศของโลก (Climate Chang) โดยรัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมให้เกิดการผลิตการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ 

โดยคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) กำหนดนโยบาย 30@30 >> การผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ. 2030โดยมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) และการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลกหรือศูนย์กลางของภูมิภาค (EV Hub) 

'รัฐบาล' ชวนแรงงาน 'วัดระดับทักษะ-พัฒนาฝีมือ' การันตีใบรับรองเพื่อยื่นขอรับอัตราค่าจ้างเหมาะสม

(9 ธ.ค. 65) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายยกระดับรายได้หรือค่าแรงขั้นต่ำให้สอดคล้องกับการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน รวมถึงสนับสนุนการปรับเปลี่ยนทักษะและเปลี่ยนสายอาชีพให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานอุตสาหกรรมเป้าหมายและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เช่น ดำเนินโครงการฝึกอบรมความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อพัฒนากำลังแรงงานหรือพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความรู้และทักษะฝีมือสอดคล้องกับอุตสาหกรรม 6 กลุ่มเป้าหมาย (ดิจิทัล ระบบอัตโนมัติ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ชีวภาพ ปัญญาประดิษฐ์ และหุ่นยนต์) สามารถใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการต่อยอดด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โครงการยกระดับเพื่อเพิ่มศักยภาพฝีมือและสมรรถนะแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและความก้าวหน้าทางเทโนโลยีและนวัตกรรม รองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีของภาคอุตสาหกรรม/บริการ มีผู้ได้รับการฝึกอบรมรวมหลายหมื่นคน ยังมีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ/ผลิตภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบ SME กลุ่ม OTOP กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ จำนวน 17,407 คน รวมถึงมีการสำรวจข้อมูลความต้องการแรงงานของสถานประกอบการที่มีแรงงานต่ำกว่า 50 คนลงมา และบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลอุปสงค์และอุปทานกำลังคนเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 17,359 แห่ง

น.ส.รัชดา กล่าวว่า รัฐบาล โดยกระทรวงแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ขับเคลื่อนนโยบายดำเนินการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ณ สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานในแต่ละจังหวัด เมื่อพัฒนาทักษะฝีมือของตนเองจนผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งมี 3 ระดับแล้ว จะได้รับใบรับรองที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานออกให้ เพื่อใช้แนบยื่นเป็นหลักฐานในการขอรับอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือได้ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติแล้วทั้งสิ้น 88,675 คน จากการเข้าทดสอบ 272 สาขา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top