Friday, 26 April 2024
NEWSFEED

‘โบว์ เบญจวรรณ’ เปิดใจถึงอดีตแฟนหนุ่ม ‘ก๊อต จิรายุ’ เผย กำลังพยายามมูฟออน แม้ยังรักอยู่ แต่เป็นเพื่อนกันดีกว่า

(15 ก.ค. 66) เปิดใจ ‘โบว์ เบญจวรรณ’ หลังเจอมรสุมรักพังแบบไม่ทันตั้งตัวกับพระเอกชื่อดัง ไม่รู้ว่าตอนนี้ สาวโบว์ มูฟออนได้หรือยัง? พร้อมเผยเหตุผลทำไมตัดสินใจไปฝากไข่ หรือว่ามีหนุ่มใหม่มาดามใจเรียบร้อยแล้ว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่อง One 31 ที่มี ‘หนิง ปณิตา’ และ ‘ชมพู่ ก่อนบ่าย’ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

วันนี้เป็นยังไงบ้าง?
โบว์ : วันนี้โอเคนะ แฮปปี้ จริง ๆ แล้วโบว์พยายามที่จะแฮปปี้ในทุก ๆ วัน มันมีหลายอย่างที่โบว์สามารถมีความสุขกับมันได้ พยายามจะไม่ไปจมปลักกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งนานเกินไป

เหมือนเรามีเรื่องถาโถมเข้ามาในเวลาเดียวกันเลย?
โบว์ : มีอยู่แล้ว โบว์ว่ามันมีคำถามเยอะแหละในตัวเอง เพราะว่ามันมีการตั้งคำถามกับตัวเอง มีการตั้งคำถามกับสถานการณ์ แล้วมันมีความสงสัยเกิดขึ้น สับสน มันหลากหลายอารมณ์มาก ๆ ณ ตอนนั้นที่เราเองต้องจัดการ แล้วมันมาแบบเร็ว 1 ทั้งหมด โบว์ว่ามันเป็นเรื่องปกติของทุกคนแหละ ที่เราเจอสถานการณ์อะไรที่มันช็อกหน่อย ๆ มันจะยังไม่รู้ว่ามันจะต้องทำยังไงให้ตัวเองเข้าใจ และออกจากสถานการณ์นั้น ๆ ได้ ของโบว์ อันดับแรก โบว์ต้องยอมรับว่ามันเกิดขึ้นแล้ว และโบว์ต้องมีการจัดการกับมันให้ได้และให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันใช้เวลาอยู่แล้ว แต่ว่าระยะเวลาของแต่ละคนมันต่างกันกับการที่เราจะจัดการกับความรู้สึก แล้ววิธีการมันก็ต่างกัน มีหลายคนเข้ามาแนะนำ โบว์เข้าใจทุกคนอยากให้โบว์ขึ้น แต่บางทีด้วยวิธีการจัดการของคนอื่นอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์สำหรับโบว์ ณ จุดจุด นี้

สมัยก่อนอาจจะใช่ แต่ ณ ตอนนี้วิธีแบบเดิม มันอาจไม่ได้ทำให้เราดีขึ้น เร็วขึ้น เพราะฉะนั้นวิธีที่โบว์คนพบกับตัวเอง แน่นอนโบว์เป็นคนทำสมาธิอยู่แล้ว เอาตรงนี้มาใช้แบบเต็มที่ แล้วแต่ละวันมีการจดบันทึกอยู่แล้วว่าอยากขอบคุณอะไร โบว์เลยเปลี่ยนไดอารี่นั้นเป็นการจดถึงอารมณ์ตัวเอง แต่ละวันที่เรารู้สึก เพราะโบว์ไม่ยากไปโทรหาเพื่อนว่าวันนี้เป็นอารมณ์ แบบนี้ ไม่รู้ว่าเองเจออะไรๆ อยู่บ้าง โบว์เล่าพัฒนาของอารมณ์ตัวเอง ช่วงแรก ๆ อึ้งกับความรู้สึกที่มันแปลกเราจะรับมือกับมันยังไง ผ่านไปก็แบบวันนี้ดีขึ้น มันไม่ใช่ทุกเช้าที่ตื่นมาแล้วเราจะนอยด์ แล้วไม่ใช่ทุกเช้าที่ตื่นมาแล้วเราจะแฮปปี้ แต่ละวันมันจะไม่เหมือนกัน ทุกชั่วโมงมันเปลี่ยนแปลงหมดเลย บางทีเราตื่นมาโอเค แต่มานอยด์ตอนเย็นแทน

อย่างเช้านี้เป็นยังไง?
โบว์ : ดีค่ะ เขียนไปเลยวันนี้เป็นวันที่ดี วันนี้ตื่นมาขอบคุณทุกสิ่ง ทุกอย่างที่โบว์มี แล้วอารมณ์วันนี้โบว์รู้สึกว่าคงที่ขึ้นเรื่อย ๆ

แสดงว่าตลอดเวลา 2 เดือนที่เป็นโสด 100%จะเขียนไดอารี่ตลอดเวลา?
โบว์ : เขียนตลอด เขียนเพิ่มขึ้น

เหมือนเป็นการที่เราอยู่กับตัวเองแล้วให้เวลาดูตัวเอง?
โบว์ : ใช่ เหมือนเป็นที่ปรึกษาให้ตัวเองไปเลย เพราะโบว์ไม่อยากไประบายกับทุกคนเรื่อย ๆ เพราะเขาก็มีปัญหาของเขา แล้วเราก็ไม่ต้องไปยัดเยียดอะไรให้ใครด้วย

ทำให้คนรอบข้างเป็นห่วง ทำไมถึงไม่พูด ถึงไม่เล่า?
โบว์ : โบว์คิดว่าโบว์น่าจะจัดการกับตัวเองได้ดีที่สุด แต่กำลังใจจากคนรอบตัวสำคัญ เพราะว่าวันที่โบว์ตัดสินใจได้ว่าโอเค พวกยูเข้ามาเลย แล้วมันทำให้เห็นเลยนะ ว่ามันก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่มีเพื่อนอยู่รอบตัว

ยังมีอะไรมาสะกิดใจเรา แล้วยังมีน้ำตาอยู่?
โบว์ : ด้วยมันเป็นระยะเวลาที่นาน สิ่งที่เล่นตลกกับเราบ่อย ๆ คือความทรงจำ ภาพต่าง ๆ ที่เราเคยมีความสุข

เวลาไปที่เดิมๆ ซ้ำๆ?
โบว์ : มีบ้างแต่มันก็ไม่ถึงกับน้ำตาซึมหรอก แต่เราแบบ เออ… ที่นี่ก็ใช่ เราเคยมากับเขาหรือสถานที่นี้ กิจกรรมนี้ด้วย ความที่เราอยู่เราอยู่ด้วยกันมานาน มันก็มีกิจกรรม มีเพื่อนคล้าย ๆ กัน

วันนี้มูฟออนได้กี่เปอร์เซ็นต์?
โบว์ : ไม่รู้วัดยังไง มันต้องใช้เวลา โบว์ไม่อยากบอกว่าโอเค จบแล้ว แล้ววันหนึ่งมีอะไรมาสะกิดแล้วมันก็ดาวน์กว่าเดิม โบว์ค่อย ๆ ตกผลึกไปดีกว่าว่าตอนนี้เป็นยังไง วันไหนดีก็บอกว่าดี

การที่เราอยู่กับตัวเองทุกวัน ที่ผ่านมาโบว์ก็หาคำตอบด้วยว่ามันเพราะอะไรถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น นี่ผ่านมา 2 เดือนแล้ว โบว์ได้เจอคำตอบนั้นหรือยัง?
โบว์ : เอาตรง ๆ ตั้งแต่ตอนนั้นที่ออกมาพูดไม่ได้มีการค้นหาเพิ่มเติมแล้ว โบว์คิดว่ามันไม่ได้ส่งผลดีกับตัวโบว์เหมือนการที่โบว์วิ่งวนอยู่ในวงกลม ถามตัวเองว่าทำไม มันไม่ได้ดีกับตัวเอง โบเลยเบนเข็มไปหาอะไรที่ทำให้เราออกมาจากตรงนี้ได้ดีและเร็วขึ้นดีกว่า มีแว๊บ ๆ ไหมมันมีแหละ แต่ไม่มีประโยชน์ที่ให้ตัวเองไปอยู่ในจุดนั้นอะไรที่เป็นความสุขของเราวันนี้ก็โฟกัสไปตรงนั้น อะไรที่ไม่ใช่ก็ต้องยอมปล่อย

มันมีสัญญาณมาบอกเราไหมว่ามันจะถึงวันนี้ ?
โบว์ : ในมุมโบว์ไม่มี เพราะว่ามันมีการพูดถึงอนาคตด้วย มีการวางแพลนบ้าง เหมือน ณ ตอนนู้นเราเลือกกันแล้วแต่แค่มาวันนี้มันไม่ใช่ โบว์ก็ต้องยอมรับว่ามันเท่านี้ ความรักเป็นสิ่งสวยงาม เรามอบความรักให้คนนี้มากกว่า แต่ก่อนเราอาจมีแบ่งปันให้ แต่ตอนนี้ก็กลับมาที่ตัวเองเยอะขึ้นเท่านั้นเอง โบว์ว่ามันเป็นอะไรที่ทุกคนทำแล้วมันดี

แต่จะมีคนอีกกลุ่มมองว่าโบว์ไม่ยอมมูฟออน เลยจะมีโมเมนต์ของความแอบเศร้าอยู่บ้าง?
โบว์ : โบว์นับถือทุกคนเลยนะที่เขามูฟออนได้เร็ว ถ้าคุณทำได้ ทำได้ดี ดีใจกับคุณ มันเป็นสิ่งที่อเมซิ่งมาก แล้วโบว์ชื่นชมมากนะ แต่ว่ามันอาจไม่ใช่โพรเซสของโบว์ เพราะว่าของโบว์มัน 10 ปี ความทรงจำมันค่อนข้างเยอะ มันดีมาตลอด เพราะความที่มันดี มันแฮปปี้นี่แหละ มันเลยทำให้เรา เอ๊ะ… มันไม่ดีตรงไหน มันไม่ใช่เราไม่ทะเลาะกันนะ มันมีการทะเลาะกัน

ได้มองไหม วันนี้มันอาจจะเป็นเรื่องของสิ่งที่เหนือธรรมชาติ เรื่องของเวรกรรม หรือพันธสัญญาบางอย่างที่มันไม่ใช่?
โบว์ : โบว์ว่าเป็นไปได้หมด แค่โบว์ไม่ได้ไปแสวงหาจุดกำเนิดมันมาจากอะไร ยังไง พยายามอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด แล้วจัดการกับตัวเอง เรียบเยงทุกอย่างใหม่มันก็โอเค ตอนนี้เราได้หันมาทำในสิ่งที่เราอยากทำ เราต้องการทำแล้วโฟกัสไปที่ตัวเองได้เต็มที่

เหตุการณ์ครั้งนี้โบว์ไม่ค่อยคุยกับคนรอบข้าง แต่เวลาเราเจอเพื่อน เราดีขึ้นแล้ว เราก็จะอัปเดตไปคร่าวๆ กำลังใจที่สำคัญของโบว์ที่ทำให้เราสามารถเดินหน้าไปแต่ละวันให้มันมีขึ้นอยู่ที่ ใคร?
โบว์ : ทั้งแฟมิลี่และเพื่อนเลย เพราะมันเป็นพลังงานที่โบว์รับแล้วโบว์รู้สึกเติมเต็มโบว์มาก ๆ โดยเฉพาะจากแม่ บอกตรงๆ ตั้งแต่เกิดเรื่องโบว์ห่วงเขามากที่สุด เพราะว่าคุณแม่อายุเยอะแล้ว 70 กว่าแล้ว โบว์ไม่อยากให้เขาห่วง หรือถ้าวันนึงเขาไม่อยู่แล้วลูกจะยังไง มีใครอยู่ด้วยหรือเปล่า โบว์ก็เป็นห่วงเขาตรงนั้น แต่ว่าพอเกิดเรื่องจริง ๆ ทำให้เห็นว่าเขาเข้มแข็งกว่าที่เราคิดเยอะมาก ๆ เขาไม่จี้ถามโบว์เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ถามอย่างเดียวเลยว่าหนูเป็นยังไง กินข้าวยังวันนี้ดีขึ้นไหม

หลังจากเหตุการณ์นี้ครอบครัวรักกันมากขึ้นด้วย?
โบว์ : ใช่ เหรียญมันมี 2 ด้น บางทีเรามัวแต่มองด้านนึงที่มันเศร้า หรือแบบทุกข์ กลายเป็นว่าเราไม่ได้มองอีกด้านนึงพอเราเห็นอีกด้านนึงคุณแม่โบว์เหมือนผ่าตัด 3 ปีที่แล้ว เขากินข้าวไม่ค่อยได้ ดูแลตัวเองไม่ค่อยต่อเนื่อง ฟิลแบบเบื่อไม่อยากทำอะไรแล้ว จะมีความหงุดหงิด แล้วเขาก็มีการพาลกับบุคคลรอบตัวนิดนึง ซึ่งพี่ชายอยู่พัทยากับคุณแม่ เขาจะเป็นคนที่รับผลกระทบอยู่เรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ก็จะมีพี่โทรมาบ่น แม่โทรมาบ่น หลังจากเกิดเหตุการณ์กลายเป็นว่าสายที่โบว์ได้รับ ยิ้มแย้ม แม่กินข้าวแล้วนะ หนูกินยัง วันนี้พี่เขาพาไปนู้น ไปนี่นะ มันดีนี่ มันเป็นอะไรที่แบบสิ่งนี้โบว์อยากฟังมาตลอดว่าเขาแฮปปี้ เสียงเขาดี ไม่มีเสียงป่วยเลย ก่อนหน้านี้จะมีเสียงปวดนู้นนี่นั่น แต่ตอนนี้เสียงเขาสดใสมากมันทำให้โบว์รู้สึก นี่แหละคือความรักของโบว์ นี่คือกำลังใจของโบว์

ถ้าคุณแม่ดูอยู่อยากให้ความมั่นใจอะไรกับท่านบ้าง?
โบว์ : แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหนู: หนูเข้มแข็งตามรอยแม่แน่นอน แม่เข้มแข็งยังไงหนูก็เข้มแข็งอย่างนั้น ความรักที่แม่มีให้หนู หนูรับรู้ได้สมอ แม่ไม่ต้องน้อยใจเลย แม่คือไอดอลของหนู หนูรักแม่ แล้วจะเข้มแข็งเพื่อแม่นี่แหละ

อีกฝ่ายออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว โบว์ได้ดูไหม?
โบว์ : โบว์เห็นเป็นบทสรุป โบว์ไม่ได้ไปดูตัวคลิปเต็ม คิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะเข้าไปดู มันมีคนส่งมาแหละ เข้าใจดูเป็นสรุปทั่ว ๆ ไปดีกว่า

พอโบว์ไม่ฟังมันก็มีดรามา ทำไมไม่ฟังล่ะจะได้รู้เหตุผล อยากบอกอะไรกับคนพวกนั้นไหม?
โบว์ : โบว์ว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิด โบว์ไม่สามารถไปบังคับหรือไปตีกรอบได้ว่าคุณต้องคิดเท่านี้นะ ต่อให้โบว์พูดความจริงทั้งหมด แต่คนเขามีความคิดอีกแบบ มันก็ต้องปล่อยให้เขาคิดแบบนั้น ต่อให้โบว์ทำดีที่สุด มันก็ยังมีคนที่เขาจะเห็นต่าง ก็ต้องยอมรับ มันไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับเรา

ก็จะมีประโยคนั่งไม่รู้ได้อ่านไหม ‘ก็ยังรักอยู่ แต่เป็นเพื่อนกันน่าจะดีที่สุดแล้ว’ คิดยังไงกับคำนี้บ้าง?
โบว์ : ก็ขอบคุณค่ะ โบว์ไม่รู้ว่าโบว์จะต้องรู้สึกกับคำพูดนี้ยังไง หลังจากวันนั้นมันไม่ได้มีการพูดคุยกัน มันไม่รู้ว่ามันจะเป็นเฟรนด์ชิพกันยังไง

ตั้งแต่เลิกกันมีการติดต่อกันบ้างไหม?
โบว์ : ไม่เลย ไม่ได้คุย ไม่ได้มีการทักหา

โบว์สามารถเป็นเพื่อนกับเขาได้ไหม?
โบว์ : เป็นได้นะ เพราะโบว์ไม่มีความคิดร้ายกับเขานะ ไม่มีความโกรธหรือเกลียดเขาเลย โบว์ไม่รู้ว่าโบว์จะพูดถึงเขาในแง่ร้ายทำไม ในเมื่อในมุมมองโบว์เบาก็คือคนดีคนนึง

ไม่โกรธ ไม่เกลียด แล้วน้อยใจบ้างไหม?
โบว์ : มี บางอย่างที่เคยพูดไว้ มันมีวกกลับไปแหละ: ตอนนั้นเคย แต่ก็กลับมาเหมือนเดิม มันไม่มีประโยชน์ที่โบว์จะไปหาคำตอบ

แล้วถ้าวันนึงมาร่วมงานกันล่ะ?
โบว์ : ดีใจที่ได้เจอ เพราะว่าเราไม่ได้เจอกันเลย คงไม่ใช่แบบไม่เอา ไม่เจอ มันไม่ใช่ฟิลนั้น

เพื่อนมีมาอัปเดตเรื่องเขาบ้างไหม?
โบว์ : ไม่มีเลย

ลึก ๆ จริง ๆ อยากรู้ไหม?
โบว์ : อยากรู้แหละ อยากรู้ว่าสบายดีไหม เป็นไงบ้างชีวิตช่วงนี้ คืออยากรู้แน่ พอมันไม่มีการเคลื่อนไหวก็เป็นไปตามนั้น ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ โบว์ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน หรืออาจจะไม่ได้มีการเจอกันเลย ก็ต้องยอมรับ

ตัดสินใจไปฝากไข่?
โบว์ : เป็นเวลาที่แปลก ๆ เหมือนกัน โบว์ 36 แล้วช่วงนี้เพื่อนโบว์ฝากไข่กันเยอะมาก โบว์ได้มีโอกาสไปช่วยเขาแบบปักยาให้ ทำรีเสิชดูว่ายังไง โบว์ไม่ได้มีแพลนว่าจะมี เพราะว่าพอมันสายนั่งสมาธิ เรารู้สึกว่าเราขอจัดการกับตรงนี้ก่อน แต่พอเห็นเพื่อน ๆ เริ่มทำก็ลองศึกษาดู จริง ๆ โบว์เป็นคนที่เหมือนฮอร์โมนผิดปกติตั้งแต่เด็ก ๆ ต้องทานยา ช่วงก่อนประจำเดือนมา มีมู้ดต่าง ๆ ปวดแบบค่อนข้างเยอะมาก จนโบว์รู้สึกว่าทำยังไงให้มันหายได้ ไปปรึกษาคุณหมอเรื่องนี้ คุณหมอก็บอกว่าต้องมีน้อง มันถึงจะกลับไปปกติ แต่โบว์บอกว่าโบว์ไม่ได้พร้อมที่จะมี หรืออยากมี เพราะฉะนั้นมันมีทางไหนได้บ้าง เขาก็เลยนี่แหละ มันอาจไปกระตุ้นให้รังไข่กลับมาทำงานปกติก็เลยลองดู

เห็นว่าตอนแรกทำได้อาทิตย์เดียวถอดใจเลย?
โบว์ : ถอดใจค่ะ สำหรับโบว์ตอนแรก โบว์ได้มา 1 เข็ม ปักไปประมาณ 5 วัน แล้วก็พอไปตรวจอีกทีขนาดไข่มันไม่ได้โตเท่าเกณฑ์ที่ควรจะโตก็เลยเป็น 2 เข็ม เข้าอาทิตย์ที่สอง พอไข่มันเริ่มโตขึ้น พื้นที่ในท้องเรามันเริ่มแน่นขึ้นแล้วอาการแบบท้องอืด แน่นทั้งหมด ไม่สบายตัว รอบเอวขึ้นมา 3 นิ้ว

พอเริ่มเข้ากระบวนการฝากไข่ ทำให้เรารักคุณแม่มากขึ้น?
โบว์ : มาก โบว์ชื่นชมคุณแม่ทั้งหมดมาก ๆ ของโบว์ทำไป 2 อาทิตย์ มีคุยกับผู้จัดการ โบว์ว่าโบว์มีไม่ได้แน่ ๆ เลยแค่ 2 อาทิตย์ยังไม่ไหวเลย แล้วคนที่ขาต้องอุ้ม 9เดือน เก่งจังเลย แล้วนึกถึงคุณแม่ แม่เราอดทนมากเลยเนอะกว่าจะเลี้ยงเราโตมาได้ มันกระบวนการหลายอย่าง เพราะคนที่ตั้งครรภ์จริง ๆ อากรแพ้ท้องมันไม่ได้อยู่แค่ 2-3 วัน บางคนอยู่เป็นเดือน อยู่ทนกันได้ยังไง เก่งมาก

สรุปกระบวนการฝากไข่ของเราสำเร็จไหม?
โบว์ : ได้เยอะด้วย เก็บเรียบร้อยแล้วค่ะ นี่ผ่านมา 2 อาทิตย์ได้แล้วค่ะ

ลึก ๆ อยากมีน้องไหม?
โบว์ : ไม่ได้อยากมี ความคิดโบว์อยากรับเลี้ยง แต่ว่าด้วยงาน ด้วยอะไร มันอาจจะยังไม่ได้ แล้วยังไม่ได้มีคนช่วยดูแล

แล้วตอนนี้ความรู้สึกมันเปลี่ยนไหม พอเราได้ฝากไข่?
โบว์ : ยังไม่เร็ว ๆ นี้

ความรักที่ผ่านมาทำให้เราเข็ดกับความรักไหม?
โบว์ : ไม่ค่ะ เพราะว่าแต่ละคนมันต่างกัน โบว์ไม่สามารถเอาประสบการณ์นี้ไปส่งให้อีกคน แล้วกลายเป็นระแวงทุกอย่าง โบว์ไม่ทำแบบนั้น ที่ผ่านมาโบว์ก็ไม่ทำแบบนั้น ไม่ได้จบดีมาเสมอ ถ้าโบว์มัวแต่ระแวง เหมือนสร้างกำแพงขึ้นมาตลอด แล้วคิดว่าคุณต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน โบว์ว่าโบว์อยู่คนเดียวไปดีกว่า ถ้าโบว์มีความคิดแบบนั้นที่จะกลัวไปทั้งหมด อยู่คนเดียวอาจจะตอบโจทย์กว่า แต่ไม่ได้มีความคิดแบบนั้น

เราอยู่กับคนคนนึงมา 10 ปี อยู่ดี ๆ อยู่คนเดียว เราไม่ได้ปิดใจตัวเอง ไม่ได้กลัวว่าใครเข้ามาแล้วจะทำให้เสียเวลา ?
โบว์ : ไม่ได้กลัวนะคะ ไม่ได้กลัวการผิดหวัง เพราะโบว์คิดว่าเราพรีเซ็นต์ตัวเองไปอย่างนี้ เราให้ไปอย่างนี้ อยู่ที่ว่าอีกคนจะตอบกลับมาแบบไหนมากกว่า คือมันต้องมีการพูดคุยกัน มันไม่ใช่อยู่ดี ๆ เจอปุ๊บแล้วให้ไปหมดเลย

แสดงว่าความรักของโบว์ในอนาคตก็น่าจะเป็นสิ่งที่สวยงามอยู่?
โบว์ : เสมอค่ะ ความรักไม่ได้ผิดอะไร มันอยู่ที่ตัวเราเองหรือตัวบุคคลนั้นที่มันมีแรงกระแทกใส่กัน หรือว่ามันจูนกันไม่ติด มันเป็นเรื่องของความเข้าใจมากกว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับความรัก ความรักดีของมันอยู่แล้ว

มีคนเข้ามาหรือยัง?
โบว์ : ไม่ได้มีใครมาดามใจค่ะ อาจจะมีแบบพูดคุย แต่ไม่ได้เชิงรุกขนาดนั้น เพราะว่าโบว์ชัดเจนในมุมของโบว์ โบว์ต้องการจัดการตัวเองให้เต็มที่ก่อน เพราะโบว์ต้องการที่จะแฟร์กับตัวเอง แฟกับคนที่โบว์คุยด้วย ไม่อยากเพราะเหงา เพราะอยู่คนเดียว รู้สึกเศร้า อยากมี มันไม่ใช่แบบนั้น เพราะโบว์รู้สึกว่ามันเอาเปรียบเขาเกินไป ถ้าโบว์ทำแบบนั้น ขอเคลียร์ตัวเอง

มีคนเข้ามาจีบบ้างแหละ เรียกแบบนี้ได้ไหม ?
โบว์ : ได้มั้ง ผ่านเพื่อนบ้าง ผ่านคนรู้จัก

วางสเปคไว้ยังไง?
โบว์ : จริงใจแล้วก็ปากตรงกับใจ ใจเย็นกับโบว์ เป็นคนสนุก เป็นคนหลายมิติได้ เป็นคนดูแลตัวเอง เพราะโบว์เป็นคนที่ดูแลตัวเอง เพราะฉะนั้นไลฟ์สไตล์มันต้องมีความใกล้เคียงกัน

แล้วข้อห้ามล่ะ ถ้ามีแบบนี้เราไม่เอาเลย ?
โบว์ : เมาขาดสติ อันนี้โบว์เคยเจอเหตุการณ์โบว์คุยไม่รู้เรื่อง เรื่องอายุไม่สำคัญ เพราะบางคนมันดูที่ใจมากกว่า

อร่อยถึงเครื่อง(บิน) ‘Na-Oh Bangkok’ ร้านอาหารสไตล์ Fine Dining มื้อพิเศษ บรรยากาศแสนโรแมนติก กับดนตรีแจ๊ส แสนละมุน

‘นาโอแบงคอก’ ร้านอาหารสไตล์ Fine Dining บนเครื่องบิน ในโครงการช่างชุ่ย ที่เปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการให้เป็นดินเนอร์มื้อพิเศษ

ร้านนี้ใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่ก้าวแรกที่ขึ้นเครื่องบิน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะอาหาร เสียงดนตรี รวมถึงแสงไฟ ที่ทำให้สาวๆ ถ่ายรูปออกมาได้แบบเพอร์เฟกต์ ได้รูปสวยๆ อย่างแน่นอน

ในซีซันนี้ ร้านนาโอแบงคอก ก็ได้นำเสนออาหารในธีม Mother Tongue ด้วยวัตถุดิบท้องถิ่น ที่จะถูกเปลี่ยนให้เป็นจานพิเศษ จากแรงบันดาลใจ รสชาติในวัยเด็กของเชฟ ถูกปรุง และพรีเซนต์ออกมาได้อย่างสวยงาม แสดงออกถึงความใส่ใจ และความคิดสร้างสรรค์ ที่เปรียบเสมือนการสร้างงานศิลปะลงไปในจาน

‘ติช่า กันติชา’ โพสต์ซึ้ง ยุติรัก 4 ปี กับแฟนหนุ่มชาวสวิสฯ เผยความรู้สึกถึงฝ่ายชาย “ไม่ใช่แค่คู่ชีวิต แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด”

เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่ไปต่อไม่ได้ และจบกันด้วยดี สำหรับนางแบบสาวสุดแซ่บ ‘ติช่า กันติชา ชุมมะ’ ที่ล่าสุดออกมาโพสต์รูปคู่และข้อความสุดซึ้งถึงแฟนหนุ่มชาวสวิสฯ ที่ชื่อว่า ‘นิค’ พร้อมบอกว่าทั้งคู่ได้แยกทางกันแล้วหลังคบหาดูใจกันมานาน 4 ปี

โดย ติช่า ได้โพสต์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายประมาณว่า…

“ครั้งแรกและครั้งสำคัญที่สุด ฉันอยากจะบอกว่า ฉันรักคุณมากแค่ไหน ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา คุณไม่ได้เป็นแค่คู่ชีวิตของฉัน แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน และเป็นคนที่รู้จักฉันดีกว่าใคร ๆ เราได้แบ่งปันความทรงจำที่น่าจดจำมากมาย

อย่างไรก็ตาม เส้นทางของเราได้พาเราไปในทิศทางที่แตกต่างกัน แม้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ เรายังคงอยู่ในเงื่อนไขที่ดีและได้แยกจากกันมาเป็นช่วงหนึ่งแล้ว การปล่อยใครสักคนที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตฉันมันไม่ง่ายเลย คุณเป็นแหล่งกำเนิดความแข็งแกร่งของฉัน และเป็นคนที่ช่วยให้ฉันเติบโตในรูปแบบที่มากกว่าที่ฉันจะนับได้

อยากให้รู้ว่าเธอคือหนึ่งในคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน ฉันจะอยู่ตรงนี้เพื่อสนับสนุนคุณเสมอ ขอบคุณที่ยังทนเพื่อฉัน ที่รักฉัน และเป็นคนที่น่าเหลือเชื่ออย่างที่คุณเป็น เวลาที่เราอยู่ด้วยกันมีความหมายกับฉันทุกอย่าง และฉันจะหวงแหนสิ่งนี้ตลอดไป รัก, ความเงียบ

สำหรับบางท่านที่อ่านสิ่งนี้ ฉันขอให้คุณงดส่งหรือแชร์รูปภาพหรือวิดีโอใด ๆ ของเขา เราต้องการพื้นที่ในการเยียวยาและหาเส้นทางของเราเอง”

ทั้งนี้ เมื่อย้อนกลับไปไม่นาน ติช่าได้ไปออกรายการ ‘โดนเทเซมาที่แพท’ และได้พูดถึงแฟนหนุ่มคนปัจจุบัน ‘นิค นิโคล่า’ ว่าอีกฝ่ายมีอายุมากกว่าตน 5 ปี เป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ ชอบอ่านหนังสือ และนั่งสมาธิทุกวัน

สำหรับความรักกับฝ่ายชายนั้นเจ้าตัวระบุว่าระยะแรก ๆ ก็เป็นไปได้ด้วยดี อีกฝ่ายทำให้ตนเห็นข้อเสียของตนเองเยอะมาก แต่ปัจจุบันเธอยอมรับว่าเริ่มที่จะแย่ลง มีปัญหา เนื่องจากแนวคิดที่ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันแล้ว

โดยทางด้านของนางแบบคนดังเผยว่าตนเองค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับเรื่องของการมีเซ็กส์ ต้องมีเซ็กส์สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และมองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมากๆ เฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ชายที่มีฐานะเป็นคนรัก เพราะตนรู้สึกว่าถ้าไม่มีเรื่องนี้มาเกี่ยวข้องก็เป็นเพื่อนกันดีกว่ามั้ย?

อนึ่งทางด้านของนางแบบหญิงนั้นค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับเรื่องเพศ ด้วยการเปิดช่องยูทูบชื่อ ‘I KAN TEACHA’ เพื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้โดยเฉพาะ รวมถึงเธอเองมักจะเล่าเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ของตัวเองอย่างไม่มีปิดบัง

‘ญาญ่า’ พูดได้เต็มปาก “ณเดชน์ ของหนู” ฟุ้ง!! รักขึ้นเป็นล้านเท่า เผย แพลนงานแต่ง 2 ที่

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 66 ว่าที่เจ้าสาวคนสวย ‘ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์’ ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ มาร่วมกิจกรรมเปิดตัว มิเนเร่ ขวดรักษ์โลก ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล rPET เป็นรายแรกของตลาดน้ำดื่มในประเทศไทย ในแคมเปญ ‘Bottle Made From Bottles คืนชีวิตให้ขวดพลาสติกกับน้ำแร่มิเนเร่’ พร้อมกันนี้เธอยังให้สัมภาษณ์ถึงแพลนงานแต่ง

วันนี้แหวนก็แสบตาเหมือนเดิมใส่ตลอดเลยใช่ไหม?
“จริงๆ ไม่ได้ใส่มานานมากๆ แล้ว วันนี้เป็นวันแรกที่หยิบมาใส่ เพราะเห็นว่ามันไม่ได้มีเครื่องประดับอะไร แล้วรู้สึกว่ามันสวย ก็จะพยายามใส่ พี่แบร์ไม่ได้ขอร้องเลยค่ะ แต่ใส่เพื่อเขาด้วย”

แล้วเราระวังยังไงเพราะมันก็ใหญ่ด้วย?
“คือจริงๆ เวลาเดินก็แอบหมุนเพชรเข้า คือเราก็ไม่ได้ใส่บ่อยขนาดนั้น”

จริงๆ พี่แบร์บอกว่าไม่อยากให้เราใส่บ่อยกว่าคน focus เยอะ?
“อ้าว เหรอ บ้า รู้ เป็นคนที่ไหวพริบดี คือจริงๆ หนูเป็นคนที่ระวังตัว หนูก็เป็นคนชอบเดิน เดินไปนู่นไปนี่ แต่ว่าหนูก็จะไม่ค่อยใส่ เพราะว่ายังไม่ชินก็เลยยังไม่ได้ใส่ติดตัวตลอด แต่ว่าจริงๆ เป็นคนที่ระมัดระวังอยู่แล้ว”

กลัวไหมว่ามันจะหาย?
“ไม่ค่ะมีแล้วต้องใช้ให้คุ้มค่ะ”

ตอนนอนใส่ไหม?
“ตอนนอนไม่ได้ใส่ค่ะ วางไว้ข้างเตียงตื่นมาจะได้เห็น (หัวเราะ) คนจะได้รู้ว่าเรามีเจ้าของแล้วแล้ว จริงๆ เราก็รู้สึกดีใจที่มีแล้วมันใหญ่ดีด้วย”

ดูเหมือนเป็นคนที่ใส่ใจในเรื่องความรักมากขึ้น?
“จริงๆ ก็ระดับนึง แต่จริงๆ อ่ะก็เป็นคนที่ใส่ใจเรื่องความรักอยู่แล้ว หลังจากหมั้นก็พยายาม คือเอาจริงๆ แทบจะไม่ได้เจอพี่แบร์เลย นานๆ ทีจะได้เจอกันแต่คุยกันทุกวัน”

ดูเป็นของกันและกันมากขึ้นไหมหลังจากมีการขอแต่งงานกันแล้ว?
“ก็แน่นอนค่ะ แน่นอนค่ะ ใช่ ของหนู”

หึงห่วงเขาเพิ่มขึ้นไหม?
“เท่าเดิมนะคะ”

พูดถึงเรื่องหวงเห็นไว้ที่ภาพเขาไปออกกำลังกาย?
“ที่รัดเป้าหรอคะ จริงๆ ก็ไม่หรอกค่ะ คือมันเป็นภาพพี่ไปออกกำลังกาย เอาจริงๆ นะคะ รู้สึกหวงน้อยลงเพราะว่าเขาดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว และหวงน้อยลงค่ะเพราะว่าชัดเจนแล้วว่าเขามีเจ้าของ”

ที่เขาทำงานๆ เร่งเคลียร์คิวเพื่องานแต่งของเราหรือเปล่า?
“เราก็พยายามพุดให้ไปถึงจุดนั้น ยังไม่ได้แพลนอะไรเลย เนื่องจากงานเยอะมาก ก็คงแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก่อน ก็มีการคุยกันในระดับนึงแล้วก็ค่อนข้างมั่นใจว่ามันน่าจะอีกสักพักนึงค่ะ”

เริ่มมีความคิดเห็นไม่ตรงกันหรือยังเพราะว่าหลายๆ คู่ที่จะแต่งงานจะมีความคิดที่ขัดแย้ง?
“นิดหน่อยค่ะ”

ที่บอกว่าคุยกันคือคุยกันเรื่องฤกษ์?
“ที่คุยกันจริงๆ ยังไม่ถึงฤกษ์ด้วยซ้ำ แค่คุยว่าจะกี่งาน ที่ญ่าอยากจัดคือที่นอร์เวย์ พี่แบร์ก็น่าจะที่ขอนแก่น ก็ต้อง 2 ที่แน่นอน ยังถกเถียงกันนิดหน่อยว่าสุดท้ายแล้วจะกี่งาน”

ต้องเคลียร์คิวยาวแบบว่างไปเลยครึ่งปี?
“เอาจริงๆ ตอนนี้ยังไม่ได้เคลียร์คิวอะไรเลยด้วยซ้ำ ทำงานไปก่อน ให้พร้อมกว่านี้ก่อน ยังไม่ได้คิดไว้เลยว่าจะช่วงไหน เพราะทุกงานที่เรารับผิดชอบมันยังไม่มีวันจบที่แน่นอน ยังต้องทำงานต่อไปก่อน เราไม่ได้รีบขนาดนั้น เพราะปีนี้และปีหน้างานแต่งคนอื่นเยอะมากเลย (ยิ้ม) ก็ไม่ได้อยากรอนานขนาดนั้น ยังไม่รู้เลยค่ะ รอจังหวะ”

กับทริปที่ณเดชน์ไปกับพ่อตา?
“จริงๆ รู้สึกประทับใจมากๆ ในผู้ชายคนนี้ เพราะว่าพ่อญ่าสำเนียงเขาแรงมากๆ รวมถึงเพื่อนของพ่อด้วย ขนาดญ่ายังฟังไม่ออก เพราะฉะนั้นพี่ณเดชน์ไปคนเดียว อยู่คนเดียว แล้วอยู่นานมาก เขาเก่งมาก ทำให้รักมากขึ้นเป็นล้านเท่า เขากล้าหาญมากที่จะไป เพราะพ่อญ่าเป็นคนดุด้วย”

ได้ถามพ่อไหมว่าคุยอะไรกับลูกเขยบ้าง?
“พ่อบอกว่าพ่อรู้สึกรักณเดชน์มากขึ้น พร้อมที่จะรับเป็นลูกชายอีกหนึ่งคน ที่มีทริปเกิดขึ้นคิดว่าเขาน่าจะอยากใช้เวลาด้วยกันเพิ่มขึ้น เพราะว่าคุณพ่อไม่ได้มาเมืองไทยบ่อย ฉะนั้นเขาจะไม่ค่อยได้เจอกัน พี่แบร์ก็บอกว่าเขาตื่นเต้นทุกวัน เขาไม่ได้หลับเลยทั้งอาทิตย์”

อะไรที่ทำให้ณเดชน์พิชิตใจพ่อเราได้?
“ญ่ารู้เกือบเป็นคนสุดท้ายเลยว่าเขาจะไปทริปนี้ คือพ่อชวน เขาก็โอเคไป ญ่าว่าแค่การที่เขากล้าที่จะไป พ่อก็รักเขาแล้ว พี่แบร์เป็นคนน่ารักอยู่แล้ว ใครเจอก็รักเขา”

ณเดชน์ได้มาบอกวิธีเอาตัวรอดของเขา?
“ยิ้มไว้ก่อน หัวเราะ แล้วก็เยส เขาไม่มีมาถามอะไรญ่าเลย เขาเก่งมา เขาเอาตัวรอดได้”

เรารู้สึกยังไงบ้าง เขาเรียกพ่อเราว่าพ่อตาแล้ว?
“ก็ดีค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ ที่บ้านทุกคนก็ชื่นชมณเดชน์กันอยู่แล้ว เลยไม่ได้เป็นอะไรที่แปลกใจ”

ไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรแล้วเนอะ?
“ไม่มีเซอร์ไพรส์แล้ว มันต้องไม่มีแล้ว เพราะว่าเขาขอแล้ว เรายังไม่ได้คุยเรื่องงานแต่งเลย ถ้าจะทำอะไรเราต้องคุยกันแล้ว ถ้ามีเซอร์ไพรส์โกรธนะ เผื่อหนูไม่ชอบ”

แล้วแม่แก้วเขาต้อนรับเรายังไงบ้าง?
“ญ่าเป็นลูกสาวบ้านนั้นมานานมากแล้วค่ะ ก็ดีใจที่มันออฟฟิเชียลมากขึ้น”

กับมิตติ้งครอบครัวฉลองที่เราไปขอกันมาที่ต่างประเทศ?
“จริงๆ แค่เป็นการฉลอง เพราะทุกคนรู้กันอยู่แล้ว แม่ๆ คือเก็บความลับกันเก่งมาก แม่ๆ ก็รอวันจริงกันค่ะ”

ร้านอาหารอิตาเลียนกลางกรุง บรรยากาศอบอุ่น พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนู จากฝีมือเซฟชาวอิตาลี

ใครชอบรับประทานอาหารอิตาเลียน หรือกำลังมองหาอาหารตะวันตกมาลิ้มลอง ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ THE STATES TIMES ขอแนะนำร้าน ‘House of Tango’ ร้านอาหารอิตาเลียนที่บรรจงสร้างสรรค์หลากหลายเมนู โดยเน้นสีสันและรสชาติ ให้ถูกปาก ติดใจผู้คนที่ได้ลิ้มรส

ขอบอกก่อนว่า ‘House of Tango’ เกิดขึ้นจากฝีมือ คุณชัยยศ เพชรดาษดา (คุณยศ) นักออกแบบแห่งแบรนด์ TANGO ที่ตัดสินใจผันตัวมาทำร้านอาหาร แรกเริ่มจะเปิดแค่เล็ก ๆ แต่ไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นร้านอาหารเต็มรูปแบบ แถมยังได้ Chef Frederic Farina เชฟหนุ่มใหญ่ชาวอิตาเลียนที่เคยเป็น Head Chef จากโรงแรมแกรนด์ฮแอทเอราวัณแบงค็อก (Grand Hyatt Erawan Bangkok) ผู้มีประสบการณ์มาเกือบ 30 ปี มาเป็นผู้วาง Concept ให้กับร้านด้วย

ภายในร้าน ‘House of Tango’ จะตกแต่งด้วยของที่ระลึกของคุณยศที่สะสมจากหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก โดยวางไว้ที่มุมต่าง ๆ ของร้าน คล้ายเป็นแกลอรีให้ลูกค้าได้ชื่นชม นอกจากนี้ยังตกแต่งร้านให้เกิดบรรยากาศที่อบอุ่น เสมือนอยู่ที่บ้านกับครอบครัว แต่ก็แฝงไปด้วยความหรูหรา สวยงาม เหมือนหลุดเข้าไปในมุมหนึ่งของอิตาลีด้วย

และสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เมื่อมาถึง ‘House of Tango’ ก็คือ ‘อาหาร’ ที่เป็นพระเอกนางเอกของร้าน ซึ่งมีหลากหลายเมนูขึ้นชื่อ เช่น

-Mixed Tomatoes Salad สลัดมะเขือเทศ เพิ่มเติมรสชาติให้กลมกล่อมมากกว่าเดิมด้วยแตงโม และทับทิม ปรุงรสเปรี้ยว ๆ เค็ม ๆ จุดเด่นคือมะเขือเทศ สายพันธุ์ดั้งเดิมจากอิตาลี นำมาปลูกในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

-Blue Mussel หอยแมลงภู่จากชิลีนึ่งซอสไวน์ขาว อร่อยกลมกล่อม

-Sweet Pumpkin Ravioli, Truffle Cream Sauce ราวิโอลีแป้งสดทำเอง แต่เติมสีสันชวนลิ้มลองด้วยลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากแพตเทิร์น แพทเวิร์ค ใช้สีธรรมชาติจากผัก เสิร์ฟพร้อมซอสทรัฟเฟิล ได้รสหวานเล็กน้อยจากไส้ฟักทอง

-Thai River Prawn สปาเกตตีกุ้งแม่น้ำ ได้กลิ่นและรสชาติจากกระเทียม น้ำมันมะกอก ไวน์ขาว เส้นหมึกดำจากแป้งซีโมลินาที่นำเข้าจากอิตาลีตอนใต้ 

-Beef Wellington เนื้อสันในจากออสเตรเลีย ห่อด้วยสมุนไพรและแป้งพัฟ หั่นโชว์เนื้อนุ่มในระดับ Medium Rare ชุ่มฉ่ำด้วยซอสไวน์แดง

นอกจากอาหารคาวรสชาติอร่อยที่ยกตัวอย่างไปแล้วบางส่วน ทางร้าน ‘House of Tango’ ก็ยังมีของหวานให้รับประทานตบท้าย เช่น Milles Feuilles ขนมอบรสชาติหวานกำลังดี หรือจะเป็น Waffle with Chalongbay Cherry Jubilee วาฟเฟิลกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยซอสเชอร์รี่ตุ๋นโฮมเมดเปรี้ยวหวานสุดลงตัว

สำหรับใครที่อยากตามไปลิ้มลอง ร้าน ‘House of Tango’ ตั้งอยู่ที่ ซอยเจริญกรุง 107 แยก 44 บางคอแหลม กรุงเทพฯ ร้านเปิดเวลา 17.00 -23.00 (อ.-อา) และ 12.00 - 15.00 (ส.-อา) ปิดทุกวันจันทร์ หรือโทรจองได้ที่เบอร์ 063-141-0999

เทพเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติ  ‘ท้าววิรูปักโขนาคราช’ พญานาค องค์สีดำ ‘วัดเขาลังพัฒนา’ หลายคนมากราบไหว้ แล้วได้โชคกลับบ้าน ร่ำรวยเงินทอง

วัดเขาลังพัฒนา จังหวัดลพบุรี เป็นที่ประดิษฐานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ประชาชนนิยมมากราบไหว้ เพื่อขอให้ร่ำรวย มั่งคั่ง ‘ท้าววิรูปักโขนาคราช’ พญานาค องค์สีดำ แห่งวัดเขาลังพัฒนา มีชื่อเสียงมากในการบันดาลโชคลาภ วันนี้ The states times จะขอพาทุกท่านไปกราบไหว้สักการะกัน

สาเหตุที่รูปปั้นของท่านท้าววิรูปักโข นั้นเป็นสีดำก็เพราะมีความเชื่อกันว่า ท่านได้อาศัยในแหล่งน้ำบาดาล ตัวจึงเปื้อนโคลน แต่จะสังเกตเห็นได้ว่าช่วงครีบและท้องของท่านนั้นจะมีสีทอง เพราะจริงๆแล้วท่านมีเนื้อตัวเป็นสีทองนั่นเอง ประวัติของพญานาคท้าววิรูปักษ์โขนั้น เป็นตระกูลของพญานาคที่เป็นตระกูลใหญ่ที่สุดในหมู่ของตระกูลพญานาค และตระกูลวิรูปักษ์โข เป็นเทพแห่งบาดาลพิภพ เป็นตระกูลของพญานาคที่มีสีทอง

ที่วัดแห่งนี้มีถ้ำที่จำลองขึ้นมา ให้เราเข้าไปชม เมื่อเดินเข้ามาแล้วก็จะรู้สึกเหมือนกับว่า อยู่ในถ้ำเมืองบาดาลของพญานาคจริงๆ ดูมีมนต์ขลังมาก ในถ้ำนี้มีมุมสวยๆให้ได้ถ่ายรูปเช็กอินกันหลายมุมเลย รับรองว่ามาแล้วได้ภาพไปโพสต์ ig กันรัวๆ แน่

ในชุดดอกไม้ของไหว้ท่านท้าววิรูปักษ์โขนาคราช จะมีธูปมาให้จุดเสี่ยงโชคกันด้วย ไหว้เสร็จแล้วจะจุดที่วัดเลย หรือจะนำกลับมาจุดที่บ้านก็ได้ ถูกใจสายมูที่ชอบลุ้นเสี่ยงโชคกันอย่างแน่นอน

‘ต่าย ชุติมา’ เล่าถึงความรักครั้งเก่าสุดโรแมนติก อดีตคนรัก ‘จูบเท้า’ ด้วยความรักทะนุถนอม

ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนหรือทำอะไร ก็ถูกจับตามองอย่างหนัก สำหรับนักแสดงลูกหนึ่ง ‘ต่าย ชุติมา’ ที่ถูกโฟกัสความสัมพันธ์กับอดีตสามี ‘ทิม พิธา’ ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้มีโมเมนต์ครอบครัวสุดน่ารักร่วมกัน พร้อมหน้าลูกสาวสุดที่รัก ‘น้องพิพิม’ ทำให้แฟนๆ หลายคนต่างส่งเสียงเชียร์คู่ ‘ทิม-ต่าย’ กลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้ง แม้ว่าทั้งคู่จะออกมายืนยันสถานะในตอนนี้ว่า เป็นเพียงพ่อแม่ที่ดีของลูกสาวเท่านั้น

ล่าสุดสาว ต่าย ชุติมา ได้ไปเป็นแขกรับเชิญในรายการ ‘ซานิเบาได้เบา’ ของ ‘ซานิ นิภาภรณ์’ งานนี้เปิดเรื่องราวรักครั้งเก่า แม้จะจบลงไม่สวย แต่ตอนนี้ทั้งคู่ก็สามารถเจอหน้า ทักทายกันได้ตามปกติ 

>>ช่วงที่ต้องทำหน้าที่แม่และภรรยาที่ดี จนหายหน้าไปจากวงการ เป็นอย่างไรบ้าง 

ต่าย : “10 ปีที่ผ่านมา กิจวัตรประจำวันคือ ทำอาหารเช้า ดูแลลูก ดูแลบ้าน เราต้องอยู่ในระบบระเบียบ เพราะเขาอยากให้เป็นอย่างนั้น กลับบ้านต้อง 6 โมงเย็น เราเคยคิดว่าน่าจะเกิดจากความหึงหวง เรื่องรับงาน พวกบทมองตากันก็ไม่ได้ ทำให้เรารับเล่นไม่ได้อีก คือเราเป็นคนตามใจแฟนไง เลยตัดสินใจไม่รับงานเลย”

>>เรียกว่ากับอดีตสามี ไม่มีทางรีเทิร์นเลย

ต่าย : “ไม่มี มั้ง (หัวเราะ) ถามว่ามีขอคืนดีไหม มีแนวแบบชวนไปเที่ยว ครอบครัวพร้อมหน้า แต่ไม่น่ามีอะไร”

>> ข่าวที่ผ่านมา อาจมองว่าเราไม่น่าคุยกันได้แล้ว แต่วันนี้กลับมาคุยกันได้
ต่าย :  “เราเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วมาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่เล่าหรือวันนี้มานั่งเล่าอะไร คือเล่าด้วยความไม่รู้สึกอะไรแล้ว ถามว่าเขาเคยเห็นที่เราพูดออกไปแล้วโกรธ น้อยใจ แล้วเคยพูดบ้างไหม เขาไม่เคยพูด แต่ลึก ๆ เรารู้ เพราะรู้นิสัย”

>>โมเมนต์สุดโรแมนติก อดีตสามีคลั่งรักไม่แพ้กัน 

ต่าย : “เห็นเราคลั่งรักแบบนี้ แต่ตอนที่อยู่คนละประเทศ เราก็คุยกันวันละชั่วโมงเองนะ แต่ตื่นมาถ้ามีข้อความทิ้งไว้ว่าไปไหน ทำอะไร เราก็โอเค สิ่งที่เขาทำแล้วรู้สึกว่าโรแมนติก เป็นการ ‘จูบเท้า’ จูบด้วยความทะนุถนอมนะ ไม่ใช่แนว 18+ เราก็ลูบหัวกลับ เราชอบดูการ์ด แต่ก็ไม่รู้อีกว่าเขียนจากใจหรือเปล่า ประมาณเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า เวลาที่ฉันคิดถึงเธอ จะมีดอกไม้ขึ้นมาดอกหนึ่ง ตอนนี้ดอกไม้มันคงเป็นสวนแล้ว เหมือนมีครั้งหนึ่ง ให้การ์ดปกเดียวกัน คนหนึ่งซื้ออังกฤษ อีกคนซื้อไทย แล้วมาแลกในวันเดียวกัน แบบใจตรงกัน อันนี้น่ารัก

ส่วนเรื่องแย่ ๆ เราลืมเก่งมาก แต่ก็มีคนบอกว่าแบบนี้มันคือควาย แบบกินหญ้าอะ ในตอนนั้นเขาก็พยายามทำให้ครอบครัวกลับมาเหมือนเดิม ส่วนเราคือไม่ เพราะรู้สึกว่าสุดแล้ว ทุกวันนี้เราแบ่งกันเลี้ยงลูกชัดเจน ซึ่ง ต่าย เป็นคนเสนอเรื่องโมเมนต์พ่อแม่ลูก เพราะอยากทำให้ลูกตั้งนานแล้ว ซึ่งตอนแรกเขาอาจจะยังไม่พร้อม ถามว่าจะมีให้เห็นอีกไหม น่าจะเป็นวันสำคัญ ๆ เช่นวันเกิดลูก คนเชียร์ให้กลับมาเยอะมาก เยอะจนคนไม่กล้าเข้ามาอะ

แต่กว่าเราจะมูฟออนได้ก็ 3 ปีนะ คนที่เรียกว่าแฟนเลย มีคนเดียว คนคุยที่ผ่านมาก็ประมาณ 5 คน คนที่เป็นแฟน เพราะเขาทำให้เราลืมอดีตได้เลย อันนี้คือรู้สึกว่าใช่ หน้าตาก็สเปกอยู่นะ ขาวๆ ตี๋ๆ อ้วนผอมได้หมด”

น้ำตาลเรียกพี่!!  ‘แดน’ กลั่นความรู้สึกจากใจอวยพรวันเกิด ‘แพทตี้’ แฟนๆ ร่วมอวยพร - ชื่นชมความหวานโรแมนติ

หวานปานน้ำเชื่อมไปเลยสิคะ สำหรับภาพและข้อความอวยพรวันเกิดสุดสวีตที่คุณสามี ‘แดน วรเวช’ มอบให้คุณภรรยา ‘แพทตี้ อังศุมาลิน’ ที่มีวันคล้ายวันเกิดตรงกับวันที่ 13 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา

โดย ‘แดน’ ได้โพสต์ภาพสุดสวีตผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @danworrawech พร้อมข้อความอวยพรที่หวานไม่แพ้กันว่า “จะกลางคืนกลางวันเราก็จะอยู่ข้างกันตลอดไป สุขสันต์วันเกิดนะคะที่รัก @pattieung 💞🌕” 

ใช้วัยเด็กให้คุ้ม!! ‘ลิเดีย-แมทธิว’ เล่าวิถีชีวิต ‘บ้านดีน’ และการรับงานให้ลูก ยัน!! จะไม่ยัดเยียดอะไรให้ลูก เพื่อให้เด็กยังเป็นเด็ก

(14 ก.ค. 66) เผลอแป๊บๆ ตอนนี้ลูกๆ ของ ‘แมทธิว ดีน’ และ ‘ลิเดีย ศรัณรัชต์’ ก็โตพอจะออกงานอีเวนต์ได้แล้ว โดยลิเดียบอกว่า ตอนนี้เริ่มพาดีแลนกับเดมี่มาทำงานด้วยได้ ทั้งยังบอกหัวเราะๆ ว่า “นี่ยังนึกไม่ออกว่าถ้ากระเตง 3 คน จะเป็นยังไง”

เมื่อถามถึงเรื่องงาน แมทธิวตอบว่า ได้รับการติดต่อมาพอสมควร ซึ่งถ้าเป็นในส่วนงานโฆษณาก็จะเลือกโปรดักต์ที่เหมาะสมและสมาชิกในครอบครัวใช้จริง

“ก็ให้เด็กไปเจอประสบการณ์กับสิ่งที่เราเคยทำมาเป็น 10 ปีแล้ว” แมทธิว กล่าว

เป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้!! เคลียร์ชัด!! ‘แกรนด์ เดอะสตาร์’ เปิดใจหลังเลิกแฟนหนุ่ม ‘เด่นคุณ’ ยัน สาเหตุไม่ใช่เรื่องแต่งงาน เผย แม้เลิกกันแล้วก็ยังเป็นเพื่อนกันได้

เป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ แม้จะเลิกรากันไป แต่ยังเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ นักร้องสาว ‘แกรนด์ กรณ์ภัสสร’ เปิดใจครั้งแรก หลังลดสถานะพระเอกหนุ่ม ‘เด่นคุณ งามเนตร’ ฝ่ายชายดูซูบผอมลงไปมาก พร้อมเผยสาเหตุที่ต้องยุติความสัมพันธ์ รวมทั้งยังเคลียร์ชัดประเด็นที่หลายคนเชื่อมโยงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเพราะตนไม่อยากแต่งงาน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 66 มีโอกาสเจอ ‘แกรนด์ กรณ์ภัสสร’ ที่ควงคู่มากับพี่สาว ‘เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า’ ในงาน ‘Disney+ Hotstar Open House’ ณ ลานพาร์ค พารากอน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังเลิกรากับ ‘เด่นคุณ’ มากว่า 5 เดือนแล้ว สภาพจิตใจดีขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังสามารถเป็นเพื่อนกับอดีตแฟนหนุ่มได้ พูดคุยถามไถ่เป็นห่วงกัน งานนี้ทำเอาพี่สาวอย่าง เกรซ ถึงกับงง แต่ก็ให้กำลังใจ ปลอบใจน้องสาวมาโดยตลอด

นานๆ คู่พี่น้องจะได้ออกงานด้วยกัน ช่วงหลังออกงานด้วยกันบ่อย?
เกรซ : “Money”
แกรนด์ : “เงินเท่านั้นที่ knock everything”
เกรซ : “ไม่ใช่ มันก็นานๆ ทีจะมีงานที่ได้แสดงออกถึงความเป็นคู่พี่น้องที่รักกัน”
แกรนด์ : “รักกันแบบกาสะลอง ซ้องปีบ”

ตอนนี้สามารถดึงน้องออกจากบ้านมาทำงานได้?
เกรซ : “ที่ผ่านมาเขาจะแอบซุ่มทำเพลง เดี๋ยวเดือนหน้าเขาจะปล่อยเพลงแล้ว เราก็รู้สึกว่าอยากให้เขาออกมาเจอพี่ๆ สื่อ ออกมาทำงานร่วมกัน ไหนๆ ก็โสดแล้ว”
แกรนด์ : “เปิดประเด็นเลยเหรอ”

ตอนนี้แกรนด์ออกมาเจอคนเยอะขึ้น?
แกรนด์ : “ใช่ค่ะ ก็ตั้งแต่ตัวคนเดียวเนอะ”
เกรซ : “อุ้ย ดึงเศร้าเลย”
แกรนด์ : “(หัวเราะ) ไม่ได้ดึงเศร้า คือตั้งแต่เราโสด ก็ได้มีโอกาสออกไปเจอเพื่อนมากขึ้น จากแต่ก่อนอาจจะไม่ค่อยได้เจอ”

ตอนนี้จิตใจโอเคขึ้นแล้วใช่ไหม?
แกรนด์ : “โอเคนะ โอเคขึ้นเยอะค่ะ ตอนนี้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ ถามว่าอะไรที่ช่วยฮีลใจเรา คนรอบข้างค่ะ อย่างพี่สาว หรือเพื่อน และก็ครอบครัวค่ะ (พี่เกรซช่วยเราได้เยอะเลย?) ได้บ้างค่ะ ได้อยู่”
เกรซ : “หรืออาจจะไม่ช่วยเลย อาจจะทำให้รำคาญให้หมดๆ วันไปอะไรแบบนี้”

เรื่องความรัก เราดูแลให้คำแนะนำช่วยเหลือกันยังไงบ้าง?
เกรซ : “คือเรื่องความรัก เกรซจะปล่อยให้ความรักของเขานำทาง ใช้หัวใจนำทางไปก่อน ไม่ดี เดี๋ยวค่อยกลับมาร้องไห้กันเอง ไม่เป็นไร ก็มีการปลอบใจกัน ก็เข้าใจถึงเรื่องความเป็นจริง ทิศทางที่มันอาจจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม”

ใครเซนซิทีฟมากกว่ากันกับเรื่องความรัก?
แกรนด์ : “น่าจะแกรนด์นะ แกรนด์เป็นคนเซนซิทีฟกับทุกเรื่องอยู่แล้วค่ะ ไม่ฟูมฟายนะ แต่ว่ามันก็ตกใจบ้าง แต่ก็โอเค ตอนนี้ผ่านมา 5 เดือนกว่าแล้ว”

ตอนตัดสินใจคุยกันว่าจะจบความสัมพันธ์ ลำบากใจไหม?
แกรนด์ : “ก็ไม่ได้ลำบากใจอะไรนะคะ เพราะว่ามันเป็นการคุยกัน ปรึกษากัน ในช่วงแรกเราก็ยังรู้สึกว่าลองห่างกันไปดูก่อน แต่ว่าหลังจากนั้นเราก็รู้สึกว่าตัดสินใจแล้ว ว่าลองเปลี่ยนสถานะไปเลย”

ปัญหาจริงๆ มันคืออะไร?
แกรนด์ : “มันคือตัวตนของแต่ละคนที่เริ่มเปลี่ยนไปค่ะ บวกด้วยไลฟ์สไตล์ด้วย จริงๆ แกรนด์กับเด่นอย่างที่บอกมีอะไรที่เหมือนกันค่อนข้างเยอะ แต่ว่าก็มีแตกต่างกันเยอะเหมือนกันในเรื่องของไลฟ์สไตล์ที่เราพยายามปรับแล้ว เรารู้สึกว่าวันหนึ่งความสุขของแต่ละคนมันหายไป แล้วตัวตนของแต่ละคนเปลี่ยนไป ความคิดเปลี่ยนไปจากตอนแรก”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top