Saturday, 4 May 2024
NEWSFEED

‘เจมส์ คาเมรอน’ เฉลยปริศนา ที่คนทั้งโลกสงสัยมา 25 ปี ภายใต้การทดลอง ที่ทำให้ 'แจ็ค' ต้องตายแบบไม่คาใจ

ผ่านมาถึง 25 ปีแล้ว สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ‘ไททานิค’ สุดยอดผลงานอีกเรื่องหนึ่งที่คนทั้งโลกไม่เคยลืม จาก เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับชื่อดัง 

เชื่อว่าหลายคนที่มีโอกาสได้ดูหรือได้ย้อนกลับไปดูคงจะขัดใจไม่น้อยกับฉากเหตุการณ์ท้ายเรื่องที่ พระเอก แจ็ค ดอว์สัน (ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ) กับนางเอก โรส เดวิท บูเคเตอร์ (เคต วินสเล็ต) ลอยคออยู่ในทะเล แล้วก็เจอประตูไม้บานหนึ่ง โดย แจ็ค ดัน โรส ขึ้นไปก่อน เมื่อ โรส นอนบนประตูสำเร็จ แจ็ค ก็พยายามปีนตามขึ้นไป แต่ประตูเริ่มเอนเอียงและกระดกจน โรส เกือบตก แจ็ค เลยยอมอยู่ในน้ำ แต่ก็พยายามเกาะให้ตัวเหนือน้ำมากที่สุด แต่น่าเสียดายที่ไม่นานเขาก็แข็งตายต่อหน้าคนรัก

ฉากนี้ นำมาสูประเด็นถกเถียงจากแฟนภาพยนตร์ทั่วโลกที่ตั้งข้อสังเกตกันว่า หากช่วยกันให้ขึ้นไปอยู่บนบานประตูพร้อมกันทั้งสองคน ทั้ง แจ็ค และ โรส  อาจจะมีชีวิตรอดด้วยกันทั้งคู่ก็ได้

เชื่อว่า 'เจมส์ คาเมรอน' ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง ‘ไททานิค’ ก็คงจะรับรู้ถึงสิ่งที่แฟนภาพยนตร์คาใจ

เพราะในที่สุดเขาและทีมงานก็ได้โพสต์คลิปจำลองเหตุการณ์ของหนังออกมาเป็นวิดีโอตัวอย่างสั้น ๆ ความยาว 58 วินาที เพื่ออธิบายถึงโอกาสในการรอดชีวิตของ แจ็ค ที่ถูกหลายคนตั้งคำถาม ซึ่งโดยสรุปก็คือ เจมส์ คาเมรอน พยายามอธิบายว่า ยังไง แจ็ค ดอว์สัน ก็ไม่มีทางรอดชีวิตจากสถานการณ์ดังกล่าวได้ (ตามบท)

โดยในห้องส่งของช่อง National Geographic ที่ถ่ายทำถ่ายทอดเหตุการณ์จำลองโดยให้นักแสดงชายหญิงสองคนแต่งตัวคล้ายกับ แจ็ค – โรส พวกเขานั้นมีส่วนสูงและน้ำหนักใกล้เคียงตัวละคร นักแสดงสองคนถูกจับแช่ในสระน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นเฉียบเท่าๆ กับทะเลในภาพยนตร์เรื่องไททานิค ซึ่งสิ่งที่เห็นคือ นักแสดงชายหญิงสองคนมีอาการหนาวสั่น และแทบไม่มีเรี่ยวแรง

เจมส์ คาเมรอน กล่าวอีกด้วยว่า ก่อนที่จะลงในมหาสมุทร แจ็ค เหนื่อยกับทั้งการวิ่งและการต่อสู้บนเรือมาประมาณหนึ่งแล้ว การลงไปในน้ำทะเลที่มีความหนาวระดับติดลบ แล้วต้องว่ายน้ำที่รอบข้างเต็มไปด้วยนํ้าแข็ง ถือเป็นเรื่องเสี่ยงตายมาก ส่วน โรส มีโอกาสรอดมากกว่าเพราะเธอมีเสื้อชูชีพ ไม่ต้องเปลืองแรงว่ายนํ้า

นอกจากนี้ยังมีการจำลองว่า ถ้า แจ็ค กับ โรส ขึ้นไปอยู่บนบานประตูพร้อมกันจะเป็นอย่างไร ซึ่งผลก็คือประตูรับนํ้าหนักไม่ไหว และค่อยๆ จมลง ข้อถกเถียงเรื่อง ประตูใหญ่พอสำหรับสองคน จึงถูกปัดตกไปทันที เพราะถึงแม้ประตูจะกว้างก็จริง แต่รับน้ำหนักมากไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น การสลับกันขึ้นไปอยู่บนบานประตู ก็เสี่ยงที่จะทำให้ประตูพลิก หรือทั้งคู่อาจจะหมดแรงในการปีนขึ้นบานประตูไป เนื่องจากในคลิปดังกล่าว แค่นักแสดงชายช่วยนักแสดงหญิงให้ขึ้นไปอยู่บนบานประตูก็ยากเย็นและมีความทุลักทุเลพอสมควร อีกทั้งการอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นแล้วสลับไปอยู่ในน้ำที่เย็นเฉียบ (-2.2 องศาเซลเซียส) อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันจนช็อกได้

ดังนั้นเมื่อ โรส ขึ้นไปนอนบนบานประตูได้ และแจ็คเกาะประตูไว้ คือวิธีการที่ดีที่สุดแล้วในการรักษาชีวิต มันเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองคนได้ใช้พลังงานไปหมดแล้ว แทบจะไม่สามารถขยับตัวได้อีก ท่ามกลางสภาพอากาศเย็นเฉียบ ซึ่งอันที่จริงแล้ว การรอดชีวิตของ โรส ก็นับเป็นเรื่องปาฏิหาริย์อย่างมากด้วย

แน่นอนว่าเมื่อคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ก็มีกระแสตอบรับที่ดีมาก ตัววิดีโอมียอดการรับชมมากกว่า 10 ล้านวิว และมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก 

แฟนๆ THE STATES TIMES มีความคิดเห็นกันอย่างไรกันบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ และหากตัดประเด็นฉากจบทิ้งไป พวกคุณชอบฉากไหนในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิเศษ หรือประโยคเด็ดในเรื่องที่คุณยังประทับใจไม่ลืม สามารถเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่ช่องแสดงความคิดเห็นข้างล่างนี้

แต่ส่วนตัวแล้ว ชื่นชอบช่วงนี้ “I figure life’s giff and I don’t intend on wasting it.”

“ชีวิตก็คือ ของขวัญ ผมไม่ต้องการเสียมันไปเปล่า ๆ”

(แจ็คกล่าวกับบรรดาผู้สูงศักดิ์ ในงานเลี้ยงที่ชั้นหนึ่งของเรือไททานิค)

‘กาย-ฮารุ’ พาลูกๆ เปิดประสบการณ์ใช้ชีวิตที่ ‘ชนเผ่า Mentawai’ อยู่แบบ ‘ไม่มีน้ำ-ไฟ-สัญญาณโทรศัพท์’ ลั่น!! เหนื่อยจนเกือบถอดใจ

(12 ก.ค. 66) อีกหนึ่งครอบครัวสายลุย ชิลจัด แถมติดดินเรียบง่ายมาก ๆ สำหรับบ้าน ‘กาย รัชชานนท์’ และ ‘ฮารุ สุประกอบ’ ที่ล่าสุดพาลูก ๆ ทั้ง 3 คน น้องคิริน น้องไนร่า และน้องเอเดน เดินทางมาราธอนกว่า 11 ชั่วโมงเพื่อไปยังหมู่บ้าน 'ชนเผ่า Mentawai' ของประเทศอินโดนีเซีย

โดยก่อนหน้านี้ ฮารุ ได้โพสต์เอาไว้ว่า “จากไทย - มาเลย์ - อินโด 1 วัน 2 ไฟลท์บิน 
ปลายทางคือประเทศอินโดนีเซีย เมืองปาดัง ชนเผ่าเมนตาไว พรุ่งนี้เราจะต้อง นั่งเรือ 4 ชั่วโมง - รถ 50 นาที - เรือเล็กเข้าหมู่บ้าน 2 ชั่วโมง - เดินเท้าเข้าป่าอีก 1 ชั่วโมง น้ำไฟยังไม่มี สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่มี ถ้าครอบครัวเราไม่ได้อัปเดต 6 วัน ไม่ต้องตกใจนะพี่ ๆ เดี๋ยวเข้าเมืองอีกทีวันที่ 11 จะกลับมาเล่าให้ฟังนะ”

ล่าสุด ‘ฮารุ’ ได้อัปเดตอีกครั้ง หลังพาครอบครัวกลับเข้าเมือง พร้อมแชร์ภาพ แชร์คลิป แชร์ประสบการณ์ชีวิตช่วงเวลาที่อยู่ ‘ชนเผ่า Mentawai’ ว่า…

“กว่าจะถึงหมู่บ้าน ‘ชนเผ่า Mentawai’ ใช้เวลา 11 ชั่วโมง 4 การเดินทาง ความลำบากเต็ม 10 ให้ 100

- เริ่มจากขึ้นเรือจากท่าเรือเกาะซิเบรุต ตอน 7 โมงเช้า ถึง 12:00 (5ชั่วโมง)
- ต่อด้วยนั่งรถ 2 แถวเล็ก ถนนโคลน (1 ชั่วโมง 30)
- พักกินข้าว แล้วนั่งเรือหางยาวเข้าไปอีก (1 ชั่วโมง 30)
- เดินเข้าป่า (2 ชั่วโมง) เดินบนลำธาร ดินโคลน เหนื่อยเกือบถอดใจ แต่กัดฟันเดินต่อจนสุดท้ายถึงบ้านพักตอน 18:00

สภาพถึงบ้านคือเลอะเทอะมาก เกือบจะไม่มีแรงหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูป ความสบายที่สุดทั้งวันคือการได้อาบน้ำในลำธาร กินข้าวกับเจ้าของบ้าน และจบท้ายวันแรกหลังจากกางมุ้งคือการถือไฟฉายเดินไปเข้าห้องน้ำนอกบ้าน

การนอนแบบไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ สำหรับคืนแรก ไม่ใช่อุปสรรคเพราะเป็นการนอนหลับที่มีความสุขเหนือความสบายใด ๆ เพราะใจมันสบาย เพราะจิตนั้นเข้าใจ”

‘จาตุรงค์ มกจ๊ก’ ฝากถึงหนุ่มโสด ลูกสาวหัวใจยังว่าง ลั่น!! “ใครมีงานการทำ มาจีบได้ อยากมีหลานแล้ว”

(12 ก.ค. 66) ทั้งน่ารัก ทั้งน่าเอ็นดู สมกับสเตตัส #พ่อลูกคนดังคู่ซี้ ที่แฟน ๆ มอบให้จริง ๆ สำหรับศิลปินตลกรุ่นใหญ่ ‘จาตุรงค์ โพธาราม’ หรือ จาตุรงค์ มกจ๊ก กับลูกสาวอารมณ์ดี ‘ใบเฟิร์น พัสกร’ 

แถมล่าสุดบนอินสตาแกรม ‘@jaturong_p’ ก็ยังได้มีการโพสต์ภาพถ่ายร่วมเฟรมพ่อลูก พร้อมทั้งเขียนแคปชันติดประกาศ ส่งตรงไปถึงบรรดาหนุ่มโสดทั่วประเทศให้เข้าใจตรงกันเกี่ยวกับสถานะหัวใจของ ‘ใบเฟิร์น พัสกร’ ณ เวลานี้ว่า ยังคงโสดสนิท 100 เปอร์เซ็นต์ และตนเองก็อยากที่จะอุ้มหลานแล้วด้วย

"ลูกสาวยังไม่มีแฟนนะ ใครมีงานการทำเป็นหลักแหล่ง มาจีบได้เลย อยากมีหลาน"

โดยหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปได้ไม่นาน ก็มีแฟนๆ เข้ามาร่วมกดไลก์ให้กับความน่ารักของคู่พ่อลูกอย่างล้นหลาม ซึ่งก็รวมถึงพิธีกรรุ่นใหญ่ ‘ป๋อง-กพล ทองพลับ’ ที่เข้ามาเขียนคอมเมนต์น่าเอ็นดู โดยมีเนื้อหาว่า "เดี๋ยวส่งลูกชายไปจีบนะ" เล่นเอาแฟนคลับที่ได้เห็นทั้งฮาทั้งยิ้มแก้มปริกันน่าดูเลยทีเดียว

‘ลิซ่า BLACKPINK’ ติดเทรน Twitter หลังมีข่าวลือเรื่องต่อสัญญา แถมไม่กี่ชั่วโมงต่อมาหุ้น ‘YG Entertainment’ ร่วงถึง!! 7%

(12 ก.ค. 66) สำนักข่าวเกาหลี Munhwa Ilbo รายงาน ความเป็นไปได้ที่ซุปเปอร์สตาร์สาวมากความสามารถอย่าง ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ สมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ป BLACKPINK จะออกจาก YG Entertainment นั้นเพิ่มขึ้น

ก่อนที่สัญญาของลิซ่าจะหมดลงในเดือนสิงหาคม หลังจากวงเข้าสู่ปีที่ 7 นับตั้งแต่เดบิวต์และการต่อสัญญาได้กลายเป็นจุดสนใจหลักทั่วโลก ซึ่งลิซ่าได้หารือกันว่าจะต่อสัญญากับ YG แต่ยังไม่สามารถหาข้อตกลงได้ ฝ่าย YG ก็หวังว่าจะบรรลุข้อตกลงและทำสัญญาได้ก่อนที่สัญญาจะหมดอายุ

ความเป็นไปได้ที่ลิซ่าจะต่อสัญญากับต้นสังกัดวายจีนั้นถูกหยิบยกขึ้นมาจากแหล่งข่าวในประเทศจีน เนื่องจากหน่วยงานของจีนซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อบอกกับสื่อว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา ว่า “เราได้ประสานงานกับค่ายวายจีถึงตารางงานของลิซ่า เพื่อดูว่าลิซ่าจะสามารถมาปรากฏตัวในรายการหรือไม่ แต่ล่าสุดทางวายจีตอบกลับว่า เป็นการยากที่จะหารือเกี่ยวกับกำหนดการหลังจากเดือนสิงหาคม เพราะการต่อสัญญากับลิซ่ายังไม่ชัดเจน”

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ทางวายจีตอบสนองต่อคำร้องขอของสื่อเกาหลีเพื่อยืนยันข้อเท็จจริง โดยกล่าวว่า “เป็นเพราะทัวร์และตารางงานส่วนตัว และไม่เกี่ยวข้องกับสถานะสัญญา (ใหม่)” แม้ว่าทางวายจีจะไม่ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนเกี่ยวกับการต่อสัญญา แต่ก็เห็นได้ว่าค่ายก็ยอมรับว่า พวกเขาจัดตารางงานของลิซ่ากับฝ่ายจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้

จากการรายงานข่าว นอกเหนือจากการเจรจากับลิซ่าแล้ว กระบวนการต่อสัญญาของค่ายวายจีกับสมาชิกที่เหลืออีกสามคนของ Blackpink ได้แก่ เจนนี่ จีซู และโรเซ่ กำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น “เราลดช่องว่างระหว่างกันและตัดสินใจต่ออายุสัญญา” คนวงในกล่าว

สื่อเกาหลีคาดว่าทิศทางของกิจกรรมในอนาคตของ Blackpink จะตัดสินใจหลังจากการประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ ไม่ว่าลิซ่าจะยังคงทำงานในฐานะสมาชิกของ BLACKPINK ต่อไปหรือไม่ แม้ว่าการต่อสัญญากับ YG จะไม่ประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด จะมีผลกระทบอย่างมากต่อทิศทางของวงในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน

อย่างไรก็ตาม คนในวงการยอมรับว่าวายจีวางเดิมพันอย่างกล้าหาญเพื่อที่จะรักษา Blackpink และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดในฐานะบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเมื่อข่าวดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำหุ้นของค่ายวายจีตกลงถึง 7 เปอร์เซ็นต์

‘อี๊ฟ พุทธธิดา’ เผย!! ลูกชายถูกครูตะคอกใส่ หลังร้องไห้ไม่หยุด พร้อมโต้กลับคอมเมนต์ “ลูกเราไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน”

(12 ก.ค. 66) คุณแม่ลูกสอง ‘อี๊ฟ พุทธธิดา ศิระฉายา’ โพสต์เล่าเหตุการณ์ยาวเหยียดขณะพา ‘น้องมีบุญ’ ไปโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ชื่อดังในห้างแห่งหนึ่ง แล้วลูกงอแงร้องไห้ สุดท้ายครูรีเซพชั่นเดินมาตะคอกใส่ลูกวัย 4 ขวบ และเปรียบเทียบกับอีกโรงเรียนที่ปฏิบัติแตกต่างอย่างดีแม้ไม่ทำให้ลูกหยุดร้องได้

ซึ่งโพสต์ดังกล่าว ก็ได้มีชาวเน็ตมาแสดงความคิดเห็นมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่มีอยู่คอมเมนต์นึงบอกว่า “ลูกของเราไม่ได้น่ารักกับทุกคน ถ้าลูกไม่พร้อม และจัดการกับลูกไม่ได้ ควรแยกไปหาที่สงบ ๆ คุยกันเอง บางทีการร้องไห้ไม่หยุด มันส่งเสียงรบกวนสมาธิในการเรียนของคนอื่น”

ทางด้าน ‘อี๊ฟ’ ได้ตอบกลับด้วยว่า “@…..ก็แค่ไม่ควรมาตะคอกเด็กค่ะ จะแจ้งผู้ใหญ่จะตำหนิหรือบอกกล่าวพูดกันแบบผู้ใหญ่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ขอให้ลูกหลานคุณไม่ต้องเจอคนที่ไม่รู้จักกันมาตะคอกใส่แบบนี้ เพราะมันไม่โอเค ยิ่งอาชีพที่ต้องรับมือกับเด็กก็ควรมีวิธีแบบมืออาชีพและจิตใจที่เมตตาค่ะ”

ขณะที่ ‘พ่อต้น เติมศักดิ์’ คุณพ่อน้องมีบุญ เข้ามาคอมเมนต์ด้วยว่า “ลูกใคร ๆ ก็รัก ดีนะผมไม่อยู่” ด้าน ‘ทนายนิด้า’ ก็บอกเช่นกันว่า “ถ้าดุลูกพี่แบบนี้ได้ทะเลาะแน่นอน”

‘ติ๋ม ทีวีพูล’ เล่าชีวิตของ ‘ใบเตย’ ขณะอยู่ในคุก เผย!! “ทุกข์ที่สุดในโลก แต่มีแม่พิ้งกี้คอยปลอบเลยอุ่นใจ”

(12 ก.ค. 66) หลังจากเมื่อวันที่ 10 ก.ค. ศาลนัดตรวจพยานคดีแชร์ FOREX-3D ‘ใบเตย’ ตัดผมสั้น ซูบผอม และผิวคล้ำ ร่ำไห้เจอ ‘ดีเจแมน’ โดยสามีได้โอบกอดให้กำลังใจภรรยาระหว่างที่นั่งอยู่ภายในห้องพิจารณาคดี

ล่าสุดวันนี้ ‘ติ๋ม ทีวีพูล’ โพสต์คลิปเล่าชีวิต ‘ใบเตย อาร์สยาม’ ในเรือนจำว่า…

“เมื่อไหร่จะได้ประกันตัว เมื่อไหร่จะได้ออกไป ครั้งนี้เขาออกมาที่ศาล กลับไปก็ต้องถูกกักตัวอีก 10 วัน การกักตัวก็คือจะไม่ได้เจอกับ ‘อ้อย’ แม่ของพิ้งกี้ ถ้าเขาได้เจอแม่พิ้งกี้ เขาจะดีขึ้น เพราะเขารู้จักกับแม่พิ้งกี้นะคะ เขาก็จะอุ่นใจ มีผู้ใหญ่คอยปลอบประโลมเขา คอยกอดเขา คอยลูบศีรษะเขา แต่เวลาออกมาศาล มันเป็นระเบียบของเขาที่จะต้องถูกกักตัว 10 วัน เรื่องโควิด จนกว่าปลอดเชื้อถึงจะปล่อยให้ไปอยู่รวมกับคนอื่น ซึ่ง 10 วันนี้ จะเป็นวันที่เขาทุกข์ที่สุดในโลก เพราะเขาบอกเคยถูกออกมาอย่างนี้เวลากลับเขาไปทุกข์มาก เพราะมันเหมือนจะบ้าเลย ก็บอกเขาต้องสวดมนต์ นั่งสมาธิ มันจะไม่บ้า มันจะดีขึ้นเอง”

‘หมิง ชาลิสา’ นักแสดงหญิง ดีกรีนางสาวไทย ขอมุ่งใฝ่ทางธรรม เตรียมศึกษาปริญญาเอก ‘พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต’ ที่มหาจุฬาลงกรณ์ฯ

(12 ก.ค. 66) ไม่ใช่แค่สวยและดูแลตัวเองดีเท่านั้น เรื่องของการศึกษาก็ไม่เคยทิ้งเลยทีเดียว สำหรับ ‘หมิง ชาลิสา บุญครองทรัพย์’ ที่มีดีกรีนางสาวไทยติดตัวไม่พอ ยังพ่วงคำว่า ‘ว่าที่ด็อกเตอร์’ มาด้วยแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ภาพผ่านอินสตราแกรมส่วนตัว ‘@ming.charri’ ว่าตอนนี้เตรียมตัวกลับมาเป็นนักเรียนอีกครั้ง โดยมุ่งใฝ่ทางธรรมเข้าเรียนปริญญาเอกพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

หมิง ชาลิสา กล่าวว่า “กลับมาเป็นนักเรียนอีกครั้ง ขอกำลังใจในการเรียนปริญญาเอกหน่อยค้าาา ขอขอบคุณพระอาจารย์ ครูบาอาจารย์ ท่านเจ้าคุณ และรุ่นพี่ทุกท่าน ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นในการเรียนต่อปริญญาเอกพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนะค้า… น้องเล็กคนนี้จะตั้งใจเรียน จบให้ไวเพื่อนำความรู้ที่เรียนมานำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศานาสืบไปค่ะ #moonoitumboon”

‘แบมแบม’ ประกาศเวิล์ดทัวร์ครั้งแรกในชีวิต ปักหมุดแสดงในไทย 28 ตุลาคมนี้

ศิลปินหนุ่ม ‘แบมแบม กันต์พิมุกต์’ หรือ ‘แบมแบม GOT7’ ประกาศคอนเสิร์ตเวิล์ดทัวร์เดี่ยวครั้งแรกในชีวิต ‘อากาเซไทย’ กรี๊ดรอเลย

ทำเซอร์ไพรส์ ‘อากาเซ’ ทั่วโลก (อากาเซ่ : ชื่อแฟนคลับศิลปินวง GOT7) สำหรับศิลปินเกาหลีชื่อดังสายเลือดไทย ‘แบมแบม - กันต์พิมุกต์ ภูวกุล’ หรือ ‘แบมแบม GOT7’ ที่ประกาศเวิล์ดทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกแล้ว หลังแฟน ๆ เฝ้ารอกันมานาน

โดย ‘แบมแบม’ ได้แจ้งข่าวดีด้วยการโพสต์โปสเตอร์แรกลงโซเชียลส่วนตัว ทำเอาเหล่า ‘อากาเซ’ หวีดกันสนั่นไทม์ ดัน #BamBam_TOUR_AREA52 พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว

ซึ่งคอนเสิร์ตครั้งนี้ ทางค่าย ABYSS Company ต้นสังกัด รวมไปถึง ‘แบมแบม’ ร่วมจับมือกับ ‘ไอมี่กรุ๊ป’ (iMe Group) ผู้จัดงานมืออาชีพ เปิดเซอร์ไพรส์ประกาศข่าวดีกับงาน ‘2023-2024 BamBam THE 1ST WORLD TOUR [AREA 52]’ ศิลปินหนุ่มคอนเฟิร์มจัดเต็มทุกพื้นที่ เพราะเขามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ดังนั้นความสนุก และความพิเศษที่เตรียมมาให้กับแฟน ๆ อย่างคุ้มค่า

สำหรับเวิล์ดทัวร์ครั้งนี้ จะจัดขึ้นในหลายเมืองเริ่มที่ประเทศเกาหลี จากนั้นต่อด้วย มะนิลา, มาเก๊า , กัวลาลัมเปอร์ ต่อด้วยบ้านเกิดของ ‘แบมแบม’ ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย ในวันที่ 28 ตุลาคม 2566 ณ ธันเดอร์โดม สเตเดี่ยม (Thunderdome Stadium)

งานนี้ ‘แบมแบม’ แอบกระซิบมาว่า มีเซอร์ไพรส์ ซ้อนเซอร์ไพรส์ และเซอร์ไพรส์ ที่ไม่ว่าคุณจะอากาเซ่ที่ปักโพลูก โพแฟน หรือโพอื่นๆ ก็ต้องร้องกรี๊ดและคาดไม่ถึงแน่นอน และขอกระซิบให้ทุกคนรีมาร์ค ‘AREA 52’ เอาไว้เลย รอลุ้นว่าจะเกี่ยวข้องกับอะไร? หรือมีความพิเศษยังไง? ต้องรอไปหาคำตอบด้วยตัวเอง

รอติดตามรายละเอียด และความเคลื่อนไหวอื่นๆ รวมถึงรายละเอียดการขายบัตรเพิ่มเติมได้ที่ Facebook @imethailand, IG และ Twitter @ime_th

‘หนุ่มญี่ปุ่น’ ตั้งใจบินมาไทย ซื้อ ‘กระบอกตั๋วรถเมล์’ ชาวเน็ตแห่แซว ยกเป็น ‘ของฝากใหม่จากเมืองไทย’

กลายเป็นไวรัลสนั่นทวิตเตอร์ เมื่อหนุ่มชาวญี่ปุ่นตั้งใจบินมาประเทศไทย และปักหมุดไปย่านเทเวศร์ เพื่อซื้อ ‘กระบอกตั๋ว’ อุปกรณ์คู่กายกระเป๋ารถเมล์

จุดเริ่มต้นของเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อ หนุ่มชาวญี่ปุ่นทวีตข้อความผ่าน ทวิตเตอร์ @Kouhei50 ว่าตั้งใจบินมาที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย เพื่อซื้อ ‘กระบอกตั๋วรถเมล์’ โดยเฉพาะ ซึ่งเจ้าตัวได้ทวีตเป็นภาษาญี่ปุ่น แปลเป็นไทยคร่าว ๆ ได้ว่า

“ในที่สุดก็ได้แล้ว!! ฉันมากรุงเทพก็เพื่อซื้อสิ่งนี้ ราคา 650 บาท (ประมาณ 2,600 เยน) แพงกว่าที่คิดไว้ แต่คิดซะว่าซื้อเป็นของฝากให้ตัวเอง นี่คือกระบอกเก็บค่าโดยสารที่พนักงานรถเมล์ถือไว้”

หลังจากโพสต์ดังกล่าวแพร่ออกไป ต่างมีคนให้ความสนใจจำนวนมากจนกลายเป็นภาพไวรัล ด้านชาวเน็ตในญี่ปุ่นต่างรู้สึกสนใจกับกระบอกตั๋วรถเมล์และอยากจะได้มันมาบ้าง เจ้าของทวิตเตอร์จึงได้ปักหมุดไปว่าสามารถมาซื้อได้ที่ย่านเทเวศร์

งานนี้เรียกว่าได้เปิดตัว ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ น้องใหม่ของไทยขึ้นมาแล้ว ไม่แน่ว่าต่อไป ‘กระบอกตั๋วรถเมล์’ อาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งของฝากขึ้นชื่อ ที่หากใครมาเที่ยวไทย ต้องซื้อกลับไปก็เป็นได้ เหมือน กางเกงช้าง, ยมดมยาหม่อง และน้ำมันสมุนไพรต่างๆ

‘มดดำ คชาภา’ ตอบชัดความสัมพันธ์ ‘แอฟ ทักษอร-พิธา’ หลังกระแสจิ้นมาแรง ลั่น!! “เขาเป็นเพื่อนและรู้จักกันมานานแล้ว”

(12 ก.ค. 66) เรียกว่าเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เนื้อหอมที่สุดในตอนนี้สำหรับ ‘แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ’ ที่กระแสมาแรงไม่แพ้กันในตอนนี้แถมโดนจับตามองเป็นพิเศษ นั่นก็คือ ‘ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล 

แถมวันก่อน พิธา ได้ไปออกรายการโหนกระแส และโดน ‘หนุ่ม กรรชัย’ ได้ถามขยี้เรื่อง แอฟ ทักษอร จนพิธาเขินเสียอาการไปหลายช็อต และในรายการ 3 แซ่บ หนุ่ม กรรชัย ได้ถามว่าตอนนี้ข่าวลือแรงมากเลย ซึ่ง แอฟ ทักษอร ก็ตอบว่า “อันนั้นก็ข่าวค่ะ” แล้วความสัมพันธ์กับ ‘นนกุล’ แอฟได้ตอบเพิ่มเติมว่า “อันนั้นพระเอกอีกเรื่อง” ทางด้าน หนุ่ม กรรชัย ยังถามต่อว่า โสด 100%ไหมตอนนี้ ซึ่ง แอฟ ก็เลิ่กลั่กตอบโสดเต็ม 100 บ้าง ไม่ 100 บ้าง เป็นอันชัดว่าตอนนี้แอฟโสดไม่เต็ม 100% นั่นเอง ส่วนหนุ่มคนไหนจะได้หัวใจแม่ไปครองเป็นใครนั้นก็คงต้องรอดูกันต่อไปจ้า

ล่าสุด ‘มดดำ คชาภา’ ออกมาเผยชัดความสัมพันธ์ ‘แอฟ ทักษอร-ทิม พิธา’ ซึ่งมีเอี่ยว ‘สงกรานต์ เตชะณรงค์’ อดีตสามีของแอฟ ผ่านรายการแฉว่า “เขาเป็นเพื่อนรู้จักกันกันมานานมากแล้ว เมื่อก่อนทิมกับสงกรานต์เป็นเพื่อนรักกัน ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top