Friday, 16 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

กรุงเทพฯ - กองทัพเรือ โดยโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID – 19 ให้แก่ประชาชน พร้อมเปิดจองวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็ก 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ที่เป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาล

วันนี้ (18 สิงหาคม 2564 ) กองทัพเรือ โดยโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID – 19  ในการนี้กำลังพลจิตอาสา 904 สังกัดกองทัพเรือ ได้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้ารับการฉีดวัคซีน ป้องกัน COVID – 19 ณ อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพฯ โดยประชาชนที่เข้ารับการฉีดวัคซีน ป้องกัน COVID – 19 ในครั้งนี้ เป็นผู้อาศัยในพื้นที่เขตบางกอกน้อย บางกอกใหญ่ และเขตธนบุรี ซึ่งมีโรคประจำตัว รวมถึงสตรีมีครรภ์ ที่อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ พระภิกษุสงฆ์ และผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป

ในขณะที่ หมอพลอย แพทย์จีน ปรียาดา บัวสมบุญ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ขอเชิญผู้ป่วยของโรงพยาบาล อายุระหว่าง 12 ถึง 18 ปีที่มี 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ เข็มที่ 1 โดยสามารถโทรศัพท์ ลงทะเบียน เพื่อจองคิว ได้ที่ Call Center วัคซีนโควิด หมายเลขโทรศัพท์ 02 460 0216 9 ตั้งแต่วันที่ 19-20 สิงหาคม เวลา 09.00 นถึง 15.00 น จนกว่าคิวจะเต็ม  ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า จะ จัดให้มีการฉีดวัคซีน ให้แก่ผู้ที่ลงทะเบียนในวันอังคารที่ 24 และ วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม  256 4 ระหว่างเวลา 08.00 น. ถึง 12.00 น.

ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า วัคซีนไฟเซอร์ ดังกล่าวมีจำนวนจำกัด ในกรณีเด็กป่วยต้องมีโรคตรงตามข้อกำหนดเท่านั้น โดยกลุ่มโรคเสี่ยง ที่กำหนดประกอบด้วย

1.โรคอ้วน หรือเด็กอ้วนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น

2. โรคทางเดินหายใจเรื้อรังหรือโรคหอบหืด

3. โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง

4. โรคไตวายเรื้อรัง

5.โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ

6. โรคเบาหวาน

7.กลุ่มโรคพันธุกรรมรวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์และภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง

 

สุโขทัย - อบจ.สุโขทัย มอบชุดอุปกรณ์ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ แก่สสจ.สุโขทัย และกู้ภัยทั้งจังหวัด เพื่อป้องกันโควิด-19

วันที่ 18 สิงหาคม 2564 นายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยเอกเทียนชัย ทองวินิชศิลป นายเขตพงศ์ กุลนาถศิริ รองนายก อบจ.สุโขทัย นายธรรมศักดิ์ สายฤทธิ์ และนายเชนท์ ผาสุก สมาชิกสภา อบจ.สุโขทัย อำเภอเมืองสุโขทัย สมาชิกสภาฯ คณะผู้บริหาร และบุคลากรในสังกัด อบจ.สุโขทัย ร่มกันมอบเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับป้องกันและควบคุมโรคโควิด–19 ให้กับสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย และเจ้าหน้าที่หน่วยหน้า(เครือข่ายกู้ชีพ กู้ภัย) เพื่อสนับสนุนหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ใช้ประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ประกอบด้วยถุงแยกขยะติดเชื้อ(ถุงแดง) จำนวน 2,000 ถุง  น้ำยาฆ่าเชื้อโรค จำนวน 190 ขวด ชุดอุปกรณ์ฉีดพ่น (แบบแบตเตอรี่) จำนวน 38 ถัง

โดยมีดร.นพ.ปองพล วรปาณิ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย นำคณะบุคลากรและเจ้าหน้าที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย และเจ้าหน้าที่จากเครือข่ายกู้ชีพ กู้ภัยในพื้นที่ทั้ง 9 อำเภอของจังหวัดสุโขทัย และบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย มารับมอบและร่วมพิธีรับมอบในครั้งนี้ ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย

นอกจากนี้ นายกมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ. กล่าวขอบคุณ บุคลากรทางด้านสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และเจ้าหน้าที่หน่วยหน้า เครือข่าย กู้ชีพ กู้ภัยทุกท่าน ที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่อเนื่องและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนสำคัญในการป้องกันและบรรเทาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดสุโขทัย เพื่อออกปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านแทนประชาชนชาวจังหวัดสุโขทัย

ดร.นพ.ปองพล วรปาณิ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย กล่าวขอบคุณคณะ นายก และผู้บริหาร อบจ.สุโขทัย ที่ให้การสนับสนุนเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ป้องกัน และสิ่งของจำเป็นต่างๆในการป้องกันและดูแลประชาชนในจังหวัดสุโขทัยที่ประสบปัญหาและได้รับผลกระทบจากโรคโควิด–19 มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทั้ง แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า รวมทั้ง(เครือข่ายกู้ชีพ กู้ภัย) ที่ปฏิบัติงานกันอย่างหนักในช่วงเวลานี้ ซึ่งทาง อบจ.และนายก อบจ.ได้ให้การส่งเสริมสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ และจังหวัดสุโขทัย 


ภาพ/ข่าว  สุริยา ด้วงมา จ.สุโขทัย

ขอนแก่น - “ธีระศักดิ์” ผุดไอเดียขอนแก่นโมเดล เร่งฉีดวัคซีนทางเลือกและวัคซีนจัดสรร มั่นใจคนขอนแก่นร่วมมือกันและกลับสู่ภาวะปกติได้สำเร็จ

เร่งฉีดวัคซีนทางเลือกและวัคซีนจัดสรร ให้ได้ร้อยละ 70 เสนอจังหวัดขอเปิดเทอมและผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิด มั่นใจคนขอนแก่นร่วมมือกันและกลับสู่ภาวะปกติแบบนิวนอมอลได้สำเร็จ พร้อมระบุจุดฉีดวัคซีนทางเลือกมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและกำกับทุกขั้นตอน ไม่มีคุณยายรับวัคซีน 2 เข็มแบบบางจังหวัดอย่างแน่นอน

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 18 ส.ค.2564 ที่หน่วยบริการฉีดวัคซีน รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า จ.ขอนแก่น นายธีระศักดิ์  ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นำคณะผู้บริหารและสมาชิกสภาฯ รวมทั้งผู้นำชุมชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจคณะทำงานด้านวัคซีนของ รพ.ศรีนครินทร์ และ คณะทำงานของเทศบาลนครขอนแก่น รวมทั้งพบปะประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ที่ทยอยเดินทางเข้ารับการฉีดวัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์ม ตามแผนการฉีดวัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์ม วันนี้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ของรอบแรกในการฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมาย 17,000 คน โดยมีประชาชนที่ได้รับการยืนยันการฉีดวัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์มตามที่เทศบาลนครขอนแก่นได้ทำการจัดหาจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่กำหนดการฉีดรอบแรกสัปดาห์แรกระหว่างวันที่ 14-19 ส.ค.ทยอยเดินทางเข้ารับการฉีดวัคซีนตามรอบเวลาที่กำหนดอย่างต่อเนื่องท่ามกลางมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า วันที่ 3 ของการให้บริการวัคซีนทางเลือกตามที่เทศบาลฯได้จัดหามานั้นในภาพรวมยังคงเป็นไปอย่างเรียบร้อย ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด คือรอบแรก 17,000 คน ที่มีกำหนดการฉีดวัคซีน 2 ช่วงเวลาคือ 16-19 ส.ค. และ 23-25 ส.ค.ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. จำกัดวันละ 15 รอบ แยกเป็นรอบช้า 6 รอบ และรอบบ่าย 9 รอบ รอบละ 350 คน ซึ่งหน่วยฉีดวัคซีนจุดนี้จะสามารถให้บริการได้วันละ 2,650 คน ซึ่ง 2 วันที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ที่ไม่มาฉีดวัคซีนอยู่ที่ประมาณวันละ 10% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ไม่สะดวกเดินทางมา รวมทั้งผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งเทศบาลฯกำหนดแผนที่จะให้บริการเชิงรุกแบบถึงบ้าน รวมไปถึงการจัดลำดับสำรองที่เตรียมไว้ทุกกลุ่มหากมีคนสละสิทธิ์การรับวัคซีนชิโนฟาร์ม ก็จะเลือกลำดับสำรองมาเข้ารับการฉีดวัคซีนในวันที่ 24-25 ส.ค.เป็นลำดับต่อไป ขณะเดียวกันการบริหารจัดการพื้นที่ ที่มีการกำหนดช่อฉีดวัคซีนมากถึง 25 ช่อง ซึ่งแสดงถึงการเว้นระยะห่างและการให้บริการที่รวดเร็ว ลดการรวมตัวและกำหนดในเรื่องของการเว้นระยะห่างได้อย่างครบถ้วน รวมทั้งการจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกประจำจุดต่างๆ ทุกจุดอย่างรัดกุมและรอบคอบดังนั้นกรณีที่เกิดขึ้นในบางจังหวัดที่คุณยายได้รับวัคซีน 2 เข็ม จะไม่มีเกิดขึ้นที่ขอนแก่นอย่างแน่นอน

“ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแกน มีประมาณ 110,000 คน ซึ่งวัคซีนทางเลือกชิโรฟาร์มที่เทศบาลฯได้รับการจัดสรรตามที่เทศบาลฯได้ดำเนินการจัดซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งได้รับรอบแรก 17,000  คนและ รอบที่ 38,000 คน ซึ่งหากได้รับครบทุกคนจะทำให้เขตเทศบาลฯของเรานั้นมีประชากรได้รับวัคซีนถึง 55,000 คนหรืออยู่ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนประชากรในเขตเทศบาลฯ และในเดือน ต.ค.หากนับรวมวัคซีนที่รัฐจัดสรรและทำให้เขตเทศบาลฯมีประชากรได้รับวัคซีนถึงร้อยละ 70  ก็จะมีการพิจารณารูปแบบการผ่อนคลายมาตรการหรือการเปิดเมือง ซึ่งคงไม่ถึงการเป็นขอนแกนแซนบอค แต่จะมีการหารือและแนวทางการทำงานร่วมกันกับผู้ประกอบการด้านธุรกิจเอกชนต่าง ๆ ทุกองค์กร ที่จะเดินต่อไปถึงแผนการฟื้นฟูเมืองในภาพรวม ที่ทุกคนจะร่วมมือกันและเข้าสู่ระบบมาตรฐานความปลอดภัยในระดับประเทศจากหน่วยงานที่รับผิดชอบที่จะมาตรวจและประเมินเมือง ดังนั้นในเดือน ต.ค.จะมีการประเมินอีกว่าเมื่อเขตเทศบาลฯได้รับวัคซีนไปแล้วกว่าร้อยละ 70 การเปิดเมืองนั้นจะออกมาในรูปแบบใด รวมไปถึงการเปิดเรียนในส่วนของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลฯ ที่จะมีการหารือกันว่าเมื่อคณะครู บุคลากรทางการศึกษา ชุมชน และผู้ปกครองได้รับวัคซีนครบกว่า 70% แล้ว โรงเรียนในสังกัดเทศบาล 11 แห่งจะสามารถเปิดเรียนในเทอมที่ 2 แบบนิวนอมอลได้หรือไม่”

นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่าในการให้บริการวัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์ม ในรอบที่ 2 รวม 38,000 คน ที่จะกำหนดฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค. ต่อเนื่องไปจนถึง กลางเดือน ก.ย. โดยขณะนี้เทศบาลฯได้กำหนดจุดฉีดวัคซีน  5 จุด ประกอบด้วย รพ.ศรีนครินทร์ จุดฉีดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแห่งนี้ รวมทั้ง รพ.ขอนแก่น,ศุนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น,รพ.ราชพฤกษ์ และ รพ.กรุงเทพขอนแก่น ที่จะร่วมมือกันระดมการฉีดวัคซีนให้ครบตามเป้าหมายและจำนวนที่กำหนด ควบคู่กับการให้บริการเชิงรุกแบบฉีดถึงบ้านในส่วนของกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วนติดเตียง และการตามหากลุ่มคนเร่ร่อนในเขตเมืองอีกกว่า 100 คน อย่างไรก็ตามในรอบที่ 2 ที่กำหนดฉีดอีก 38,000 คนนั้น จะมีการจัดทำรูปแบบของครอบครัว คือนอกจากบุคคลที่ได้รับการยืนยันการฉีดวัคซีนจากเทศบาลฯแล้ว หากครอบครัวประสงค์ที่จะฉีดและพาคุณพ่อ คุณแม่ คุณตา คุณยาย มารับบริการการฉีดวัคซีน เทศบาลจะกำหนดให้คนในครอบครัวได้รับวัคซีนชิโนฟาร์มตามที่เทศบาลฯได้จัดหามานั้นฉีดให้กับคนในครอบครัวด้วยเพราะถือเป็นครอบครัวที่มีภูมิคุ้มกันหมู่ที่ครบถ้วนและสมบูรณ์แบบ ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวจะมีการประเมินกันอีกครั้ง

ชลบุรี - ชาวเมืองสัตหีบ แห่ลงทะเบียนจองคิววัคซีนซิโนฟาร์ม วันแรกจำนวน 3,000 คน

ตามที่เทศบาลเมืองสัตหีบ ได้ดำเนินการจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมเปิดให้ประชาชนในพื้นที่ได้ลงชื่อจอง ได้แล้ว วันแรกจำนวน 3,000 คน โดยประชาชนในพื้นที่ให้ความสนใจ มาลงทะเบียนกันตั้งแต่เช้าจำนวนมาก

โดยบรรยากาศ ที่ตลาดสหชัย อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้มีประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสัตหีบ ทยอยเข้ามาต่อคิวเพื่อลงทะเบียนจองสิทธิฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ในวันนี้เป็นวันแรกมีประชาชนยื่นเอกสารประสงค์จองสิทธิ์ฉีดวัคซีนกันตั้งแต่เช้า โดยมีกำหนดเปิดรับในวันที่ 16-20 สิงหาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. ทั้งหมด 5 จุด ได้แก่ ศาลาชายทะเล (หน้าอำเภอ) ,ตลาดสหชัย,วัดเตาถ่าน,ศูนย์ซ่อมบำรุงเทศบาลเมืองสัตหีบ(ซอยสุขุมวิท 89) และ อีฟรีสอร์ท (กม.5) โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม งานรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง(งานเทศกิจ) อสม. เมืองสัตหีบ มากำกับดูแลการจัดระเบียบให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคโควิด -19  และเมื่อครบ 3,000 คน ก็จะปิดรับลงทะเบียนทันที และรอเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนในรอบต่อไปหลังจากได้รับวัคซีนมาเพิ่มเติม

ตามที่ นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ ได้เสนอญัตติขออนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมของเทศบาลเมืองสัตหีบ เพื่อจ่ายเป็นค่าจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยได้รับการอนุมัติจาก สภาเทศบาลเมืองสัตหีบ ให้ใช้จ่ายเงินสะสมของเทศบาลเมืองสัตหีบ จำนวน 30 ล้านบาท  ล่าสุดได้มีการจัดซื้อ วัคซีนซิโนฟาร์มจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รอบแล้วจำนวน 6,000 โดส ได้ 3,000 คน  เพื่อเตรียมฉีดให้ประชาชนในพื้นที่เทศบาลเมืองสัตหีบ ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากที่สุด โดยก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศ ให้ประชาชนที่ประสงค์จะลงทะเบียน อายุ 18 ปีขึ้นไป ต้องมีทะเบียนบ้านภายในเขตเทศบาลเมืองสัตหีบเท่านั้น และต้องเตรียมเอกสาร สำเนาบัตรประชาชน , สำเนาทะเบียน และต้องเป็นผู้ไม่มีการลงทะเบียนซ้ำซ้อนผ่านแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม

ทั้งนี้ทางเทศบาลเมืองสัตหีบ ยังได้รับการสนับสนุนวัคซีนซิโนฟาร์ม จาก อบจ.ชลบุรี โดยนาย วิทยา คุณปลื้ม นายก อบจ.ชลบุรี อีกจำนวน 1,000 คน (2,000โดส) เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้คนเมืองสัตหีบ โดย นาย กำชัย ตั้งธรรมสถิตย์ ส.อบจ.ชลบุรี เป็นผู้ประสานงานมาลงในพื้นที่  

ทั้งนี้เทศบาลเมืองสัตหีบ จะได้มีการจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ไปจนกว่าประชาชากรในเขตเทศบาลเมืองสัตหีบ จะได้รับวัคซีนครบทุกคนและต้องได้รับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยเฉพาะในประชาชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้แก่พี่น้องประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองสัตหีบโดยเร็ว โดยจะฉีดวัคซีนให้แก่ กลุ่มเสี่ยงเป้าหมายหลักก่อน คือ พ่อค้า แม่ค้า ธุรกิจโรงแรม กลุ่มรถจักรยานยนต์รับจ้าง และพ่อแม่พี่น้องประชาชน รวมทั้งคนกลุ่มด้อยโอกาส ในเขตเทศบาลเมืองสัตหีบ อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  นิราช ทิพย์ศรี / นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

แก๊งมอดไม้มุกดาหาร ไปไม่รอด!! หลังขับรถตกคูน้ำ ก่อนเผ่นหนีไป

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2564 นายวีระ ใสแก้ว เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มห.2 (ดงหลวง) อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ได้รับแจ้งว่ามีรถบรรทุกไม้แปรรูป ตกลงไปในคูน้ำข้างถนนเปรมพัฒนา สายดงหลวง - นาแก จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ออกไปทำการตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 4 ล้อยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 80 - 7151 มุกดาหาร ตกลงไปในคูน้ำข้างถนนจนพังเสียหายไม่สามารถขับต่อไปได้ เมื่อตรวจสอบที่บริเวณกระบะบรรทุกด้านหลังพบไม้แปรรูปซุกซ่อนอยู่โดยมีผ้าสแลนคลุมอำพรางไว้ จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายแม้ไม้แปรรูปดังกล่าวไปทำการตรวจตรวจสอบและนับจำนวนพบว่า เป็นไม้แปรรูปประเภทไม้มะค่าโมงจำนวน 31 แผ่น ขณะทำการตรวจสอบไม่พบคนขับรถคันดังกล่าว คาดว่าได้หลบหนีไปก่อนพี่เจ้าหน้าที่จะมาถึงที่เกิดเหตุ จึงได้ทำการตรวจยึดไม้แปรรูปและรถบรรทุกดังกล่าวไว้เป็นของกลางพร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรดงหลวง ในฐานความผิดมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และซ่อนเร้นจำหน่าย หรือพาช่วยเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำความผิด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวน สอบสวน หาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  ชุด ฉก.พญาอินทรีย์ / พวงเพชร-เดวิท โชคชัย จ.มุกดาหาร

นราธิวาส - ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก รังสรรค์เมนูข้าวไก่ทอด ไข่เจียวฮาลาล แจกประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามโครงการ ‘โรงพักโก-ลก เรา ปัน สุข’

ที่ศูนย์บริการประชาชน ป้อมจราจร หน้าสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก นำตำรวจจิตอาสา ร่วมกันรังสรรค์เมนูข้าวไก่ทอด ไข่เจียวฮาลาล แจกให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วันละ 1,000 กล่อง ตามโครงการโรงพักโก-ลก เรา ปัน สุข ระหว่างวันที่ 16-20 สิงหาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 14.00น. เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อแบ่งปันความสุขและบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  พร้อมยึดหลัก D-M-H-T-T สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือที่จุดให้บริการ

ด้านประชาชนที่มาต่อแถวรับข้าวกล่อง กล่าวว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้รับความเดือดร้อน ขาดรายได้จุนเจือครอบครัว ทราบว่าผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก จัดกิจกรรมแจกข้าวไข่เจียวให้ประชาชน จึงตั้งใจมารับข้าวกล่องไปรับประทานกับครอบครัว ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีก 1 มื้อ จึงขอขอบคุณผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ทำกิจกรรมดี ๆ ให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในครั้งนี้


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับตำรวจทางหลวง ร่วมกันสกัดจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบขนยาเสพติดกว่า 8 ล้านเม็ด คาด่านฯ ธัญบุรี

ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.,พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. และกองบังคับการตำรวจทางหลวง โดย พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดกวดขันผู้กระทำความผิดอาชญากรรมทุกรูปแบบทุกพื้นที่

โดย กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤศณัฎฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส. บก.สส. บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส. บช.น. ทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญพร้อมขยายผล กระทั่งทราบว่า มีกลุ่มลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ลพบุรี มีพฤติกรรมลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งขายให้กับลูกค้าในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการ โดยใช้รถยนต์ประกอบด้วย

1.รถยนต์ฟอร์ด เรนเจอร์ สีเทา หมายเลขทะเบียน บว 6745 ลพบุรี

2.รถยนต์โตโยตต้า วีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน 4กอ 3517 กทม.

3.รถยนต์ซูซุกิ เซียส สีเทา หมายเลขทะเบียน 6 กฮ 2781 กทม.

ในการลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคอิสาน พื้นที่จังหวัดเลย โดยใช้เส้นทางถนนหมายเลข 21 (พุแค-หล่มสัก) เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด ซึ่งชุดจับกุมได้ติดตามดูพฤติการณ์เรื่อยมา กระทั่งสืบทราบว่า นายธรรมธัชกับพวก  ไปรับยาเสพติดและนำมาพักไว้ในพื้นที่อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี จึงได้เฝ้าสังเกตพฤติกรรมตลอดเส้นทาง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจัดชุดสืบสวนตลอดเส้นทาง  

โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. เฝ้าติดตาม กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหามาถึงบริเวณ  กม.26 มุ่งหน้าบางนา ถนนกาญจนาภิเษก หน้าด่านเก็บเงินธัญบุรี 1 จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. สกัดจับกุมไว้ได้ ได้ผู้ต้องหา 4 ราย คือ 1.นายธนกิจ ปลูกนิกร 2.นายธรรมธัช โสภา 3.นายวรกันต์ ในชัยภูมิ และ 4.นายสันติสุข นาควัน พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 7,950,000 เม็ด หลังจากนั้นได้นำผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าว ตำรวจทางหลวง จะดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อกวดขัน  ผู้กระทำความผิดบนเส้นทางหลวงอย่างเคร่งครัด หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1193 ตำรวจทางหลวง

 

แรงงานปลื้ม! ‘พล.อ.ประวิตร’ ประชุมติดตามผลงาน รอบ 1 ปี ก.แรงงาน ขับเคลื่อนนโยบายได้ตามเป้า ชื่นชม ช่วยผู้ประกันตนได้รวดเร็ว-ทั่วถึง สะท้อนความจริงใจรัฐบาล

วันที่ 18 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมรับฟังผลงานของกระทรวงแรงงานรอบ 1 ปี ในรูปแบบการประชุมผ่านระบบ Video Conference โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน , ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน , นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน , นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน , นางธิวัลรัตน์ อังกินันท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน , นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน

พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องแสงสิงแก้ว ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้ เป็นโอกาสดีที่ได้มารับฟังผลงานของกระทรวงแรงงาน ในรูปแบบประชุมผ่านระบบ Video Conference เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ผมขอชื่นชมกระทรวงแรงงาน ที่ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลที่เร่งด่วนและสำคัญ และให้ความช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานได้อย่างทันท่วงที

โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญเป็นเชิงประจักษ์ ขอแสดงความห่วงใยสำหรับบุคลากรกระทรวงแรงงานทุกท่านที่ทุ่มเทกำลังความสามารถในการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ขอบคุณกระทรวงแรงงานที่เร่งกระจายวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยง ขอให้ดำเนินการต่อไปอย่างครบถ้วนและครอบคลุม เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐบาลได้กำหนด ให้การฉีดวัคซีนโควิด -19 เป็นวาระแห่งชาติ โดย พล.อ.ประวิตรยังได้เน้นย้ำการทำงานในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ดังนี้

1) การบริหารวัคซีน ให้เร่งดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มแรงงานให้ครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่สีแดงเข้ม สำหรับศูนย์ฉีดวัคซีนแคมป์คนงาน ขอให้เร่งดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนด

2) มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการ Lockdown พื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ทั้งนายจ้าง ผู้ประกันตน มาตรา 33, 39 และ 40 ขอให้ดำเนินการตามกำหนดระยะเวลา เพื่อช่วยให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว

3) สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มแรงงาน ป้องกัน ดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากโควิด -19 รวมทั้งบุคลากรของกระทรวงแรงงาน

4) โครงการ Blue Factory ให้บริหารจัดการอย่างครบวงจร โดยสำรวจความสมัครใจของสถานประกอบการ ตรวจคัดกรองให้ครอบคลุม หากพบผู้ติดเชื้อให้เร่งดูแลและช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีตามมาตรการด้านสาธารณสุข

5) แรงงานต่างด้าว ให้กำกับ ดูแล บริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว ให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

6) ยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและองค์การระหว่างประเทศ และต้องกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์โดยเด็ดขาด หากพบมีพฤติการณ์ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งทางวินัยและอาญาทุกราย

7) ยกระดับทักษะฝีมือแรงงานในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 โดยเน้นหลักสูตรในการพัฒนาทักษะดิจิทัล เช่น การผลิตสื่อโฆษณาและหนังสั้นด้วยสมาร์ทโฟน เทคนิคการสร้างร้านค้าและขายสินค้าออนไลน์

การประชุมในวันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ Video Conference ไปยังสำนักงานแรงงานจังหวัด และสำนักงานแรงงานในต่างประเทศด้วย รวมทั้งให้กำลังใจให้ทุกคนปลอดภัยจากโรคโควิด-19 และขอให้ตรวจสอบและช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งขับเคลื่อนมาตรการให้ความช่วยเหลือของกระทรวงแรงงานในทุกมิติ และขอให้ทุกท่านร่วมกันพัฒนาประเทศก้าวข้ามวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน

ก่อนการประชุม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้นำผู้แทนกลุ่มแรงงาน ได้แก่ นายวิฑูรย์ แนวพานิช นายกสมาคมการค้าแท็กซี่ไทย นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคาร และ นางญาดา พรเพชรรัมภา นายกชมรมหาบเร่แผงลอย มอบของที่ระลึกและกล่าวขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผ่านทาง นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในโอกาสที่ได้ให้ความช่วยเหลือ เยียวยาแรงงานทั้ง 3 กลุ่ม ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จากนั้นที่ประชุมได้รับฟังการรายงานผลงานของ ก.แรงงานในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา

ซึ่งมีผลงานที่สำคัญ อาทิ การยกระดับทักษะฝีมือแรงงานให้เป็นแรงงานคุณภาพ สามารถผ่านการอบรมแล้ว 110,110 คน มีงานทำแล้วคิดเป็น ร้อยละ 69.79 มีรายได้เฉลี่ย 14,152 บาทต่อเดือน  การส่งเสริมการมีงานทำสามารถบรรจุงานได้ 1,313,591 คน ก่อให้เกิดรายได้ 75,728 ล้านบาท  เศษ การคุ้มครองและแก้ไขปัญหาแรงงานถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ให้ลูกจ้าง 16,000 คน วงเงิน 850 ล้านบาท  การเพิ่มประสิทธิภาพ การบังคับใช้กฎหมายโดยมีการตรวจสถานประกอบกิจการ เพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ 1,211 แห่ง และจากสถานการณ์โควิด-19 ก.แรงงาน โดยนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การกำกับดูแลของ รอง นรม. สามารถเยียวยาแรงงาน ผู้ประกันตน ลดเงินสมทบกว่า 12 ล้านคน นายจ้างกว่า 480,000คน เยียวยาเหตุสุดวิสัย 50% ให้ผู้ประกันตน 198,432 คน โครงการ ม.33 เรารักกัน 8,140,000 คน รวมทั้งการเยียวยาในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ในการตรวจเชิงรุก และการรักษาโควิด-19 อย่างทั่วถึง เป็นต้น

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชม รมว.แรงงาน รมช.แรงงาน ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของ ก.แรงงาน ทุกคน ที่ได้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง เป็นธรรม มีผลงานเชิงประจักษ์ และได้ให้กำลังใจการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งได้มอบนโยบายให้ ก.แรงงาน เร่งช่วยเหลือทั้งนายจ้าง และผู้ประกันตน ม.33 ,39 และ 40 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และยังรอการช่วยเหลือให้ครบถ้วน และทั่วถึง ต่อไป รวมทั้งขอให้มีการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว และเน้นย้ำป้องกันการค้ามนุษย์โดยมีการบังคับใช้ กม.อย่างจริงจัง และมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด

 

 

‘พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ’ รอง ผบช.สตม.ตรวจเยี่ยม จุดตรวจ จุดสกัด จุดคัดกรอง การเดินทางเข้า-ออก จังหวัดสมุทรปราการ

ตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ให้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

วันที่ 17 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 16.30 น. พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. เดินทางมาตรวจเยี่ยมจุดตรวจ จุดสกัด จุดคัดกรองการเดินทางเข้า - ออก ป้องกันการแพร่ระบาด โรคไวรัสโควิด-19 จังหวัดสมุทรปราการ บริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมันเชลล์ ถ.สุขุมวิท(ขาเข้า) ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

พบ พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ , เจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครอง ว.4 ร่วมบริเวณจุดตรวจ

ทั้งนี้ ได้แสดงความห่วงใยเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน และการใช้ชีวิต เนื่องจาก ห้วงเวลานี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 และได้กล่าวขอบคุณในความเสียสละ และอวยพรให้เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงาน ปลอดภัยจากการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19

ทั้งนี้ ได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญ อาทิ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าตำรวจ ในการปฏิบัติหน้าที่

“บางกอกทูเดย์” ผนึกพลัง “โครงการติดตามด้วยความห่วงใย ศย.กลาง” ร่วมพันธกิจ “โลตัส” แจกข้าว 2 ล้านกล่องให้เข้าถึงชุมชน

ดร.จุมพล โพธิสุวรรณ บรรณาธิการข่าว สำนักข่าวบางกอกทูเดย์ ร่วมกับ ดร.นิลุบล ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานโครงการติดตามด้วยความห่วงใย สืบสานปณิธานพ่อหลวง ทำดีถวายเป็นพระราชกุศล ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ร่วมมือในพันธกิจ เพื่อเสริมสร้างเป็นกำลังใจให้ทุกคน ให้ผ่านวิกฤติโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน ด้วยการมอบอาหาร 300 กล่อง,ผลไม้, กาแฟ และ หน้ากากอนามัย แจกจ่ายแก่ แพทย์สนาม, พยาบาล, เจ้าหน้าที่ของรัฐ, เด็กและเยาวชน, แคมป์คนงาน, คนเร่ร่อน และคนในชุมชนต่าง ๆ วันละ 300 กล่อง เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

โดยในขณะนี้เดินหน้าดำเนินการแจกจ่ายไปแล้ว ที่ชุมชนพระยาสุเรนทร์ 24 ชุมชนสุทธิสาร แคมป์คนงานอโศกพระราม 9 ชุมชนสินอนันต์ 2 และในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ได้นำมอบแก่แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโรงพยาบาลศรีธัญญา โดย นายแพทย์ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีธัญญา มอบหมายให้ ดร.มานะ กำจรตรีโรจน์ รองประธานศูนย์บูรณาการความรู้กัญชา และที่ปรึกษาโรงพยาบาลฯ เป็นผู้แทนรับมอบ 

ทั้งนี้โรงพยาบาลศรีธัญญามีความประสงค์ขอรับบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์หลายชนิด อาทิ เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 5 -10 ลิตร ฯลฯ สนใจสมทบทุนการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รักษาผู้ป่วยโควิด -19 เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์สู้ภัย โควิด-19 หน่วยงานและผู้มีจิตกุศลสอบถามรายละเอียดได้ที่มูลนิธิโรงพยาบาลศรีธัญญา โทร. 081-832-7565

สำหรับพันธกิจในครั้งนี้ “โลตัส” ( Lotus’s) ได้ให้การส่งเสริมและสนับสนุนอาหารพร้อมทาน ในโครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” มอบอาหารฟรี 2 ล้านกล่อง ให้กับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยอาหารกล่องที่นำมอบให้จำนวน 1 ล้านกล่องมาจากร้านอาหารรายย่อยที่ได้รับผลกระทบ สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาประกอบอาหาร และ 1 ล้านกล่องมาจากเครือเจริญโภคภัณฑ์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top