Tuesday, 6 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

เพชรบุรี - น้ำลด! ถนนเพชรเกษมขึ้นล่องปกติ รองผู้ว่าฯเพชรบุรี ขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่ร่วมแรงร่วมใจบริหารจัดการน้ำในครั้งนี้ ให้ผ่านพ้นวิกฤติน้ำท่วมไปได้ด้วยดี

วันที่ 11 พ.ย. นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่าขณะนี้สถานการณ์น้ำในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีอยู่ในระดับที่ไม่ล้นตลิ่ง กระทบกับพื้นที่ลุ่มต่ำอยู่บ้าง ปริมาณน้ำอยู่ในสถานการณ์ที่สามารถควบคุมได้ แต่ยังคงเร่งสูบน้ำระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด

เส้นทางการการจราจรในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเพชรบุรีสัญจรได้ตามปกติ ถนนเส้นเพชรเกษมขาเข้ากรุงเทพฯเเละขาล่องใต้สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่วนบริเวณทางลอดโรบินสัน (วัดท่าไชยศิริ) ตำบลสมอพลือ ยังคงมีน้ำท่วมขังแต่ไม่กระทบกับพี่น้องประชาชนในการสัญจรเข้าเข้ามาทำงานและจับจ่ายซื้อของในเมือง สำหรับพื้นที่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อท่วมก็จะมีเจ้าหน้าที่ลงไปให้ความช่วยเหลือเยียวยา

“ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเพชรบุรี ที่ร่วมแรงร่วมใจบริหารจัดการน้ำในครั้งนี้ ให้ผ่านพ้นวิกฤติน้ำท่วมไปได้ด้วยดี ในขั้นต่อไปจะเป็นการดูแลเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ อำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด อำเภอเมือง และอำเภอบ้านแหลม เบื้องต้นสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีนำยาและเวชภัณฑ์ป้องกันน้ำกัดเท้าไปแจกจ่ายแล้ว ประชาชนที่ได้รับผลกระทบติดต่อได้ที่ส่วนราชการในพื้นที่ได้ทันที” นายณัฐวุฒิ กล่าว

 

‘มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง’ พร้อมด้วยหน่วยงานในเครือ ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2564 ณ วัดเจริญสุขารามวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงคราม

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้ากฐินให้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โรงพยาบาลหัวเฉียว มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว นำผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี 2564 ไปถวายพระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดเจริญสุขารามวรวิหาร ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม

โดยมี นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายวิชิต ชินวงศ์วรกุล กรรมการ นายอรัญ เอี่ยมสุรีย์ กรรมการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ และคณะผู้บริหารจากโรงพยาบาลหัวเฉียว มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว เป็นประธานร่วมในพิธี โดยมีนายวุฒิชัย ยามโคกสูง นายอำเภอบางคนที

พร้อมด้วย นางศรีสมร ศรีวิชา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม และนางสาวนวพร สิงหกุล ผู้อำนวยการกลุ่มอำนวยการและกิจการพระพุทธศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมพิธี 

มาสด้าส่งแคมเปญ ‘MAZDA FIGHT TOGETHER’ คนไทยสู้ไปด้วยกัน!! ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 ฟรีของพรีเมี่ยมสุดพิเศษทุกรุ่น

มาสด้าปลุกพลังให้คนไทยลุกขึ้นสู้โดยไม่โดดเดี่ยวพร้อมประสานมือผู้จำหน่ายเพื่อให้การส่งเสริมธุรกิจของลูกค้าให้กลับมาเริ่มต้นใหม่ และสู้ไปด้วยกันกับแคมเปญ Mazda Fight Together ดอกเบี้ย 0% พร้อมเผยความสำเร็จของรถอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า CX-5 เติบโต 222% และมาสด้า CX-8 เพิ่มขึ้น 106% ผลพวงจากการแนะนำ MAZDA FAMILY SUV ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ทั้งสองรุ่น ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตอกย้ำกระแสความร้อนแรงของรถประเภทนี้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลทำให้ยอดขายสะสม 10 เดือน พุ่งทะลุ 28,327 คัน ลดลงเล็กน้อย 6% ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19

เตรียมเปิดเกมส์รุกกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปีเต็มกำลัง ด้วยการส่งแคมเปญ MAZDA FIGHT TOGETHER ปลุกพลังใจให้คนไทยสู้ไปด้วยกัน ด้วยการขอความร่วมมือให้ผู้จำหน่ายในแต่ละพื้นที่ให้ความช่วยเหลือธุรกิจ SME ของลูกค้าให้กลับมาเริ่มต้นเดินหน้าทำธุรกิจได้อีกครั้งหลังจากต้องเผชิญกับวิกฤตโควิดมาตลอดเกือบ 2 ปี พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของยนตรกรรมมาสด้าได้ง่ายขึ้น กับดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 รับของพรีเมี่ยมสุดพิเศษเมื่อจองภายในงาน ระหว่างวันที่ 6 – 14 พฤศจิกายน 2564 ที่โชว์รูมมาสด้า

โดยเฉพาะในส่วนของลูกค้าปิกอัพ ALL NEW MAZDA BT-50 ทุกท่าน มาสด้าพร้อมมอบความคุ้มค่า ด้วยข้อเสนออุปกรณ์ตกแต่งแท้ ราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 999 บาท และเมื่อรถมาสด้าทุกรุ่นมาเข้ารับบริการ รับข้อเสนอพิเศษผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน ฟรีบัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 1,000 บาท เมื่อซื้อโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – 30 พฤศจิกายน 2564 ที่โชว์รูมมาสด้า

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์การตลาดที่ยังคงมีความผันผวน จึงทำให้การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคยังคงชะลอตัว รวมถึงตลาดรถยนต์ด้วยเช่นกัน ซึ่งยอดขายรถยนต์มาสด้าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมารวมทุกรุ่นอยู่ที่จำนวน 2,513 คัน ลดลงจากเดือนกันยายนประมาณ 16% โดยแบ่งเป็นมาสด้า2 จำนวน 1,367 คัน มาสด้า3 จำนวน 114 และบีที-50 จำนวน 72 คัน แต่ทั้งนี้แล้ว ก็ยังคงมีสัญญาณบวกที่ดี เนื่องจากรถอเนกประสงค์เอสยูวีของมาสด้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีการปรับโฉมและปรับกลยุทธ์ด้านราคา ส่งผลให้ มาสด้า CX-5 เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 222% ด้วยยอดขาย 148 คัน และ มาสด้า CX-8 ก็มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 106% ด้วยจำนวน 72 คัน ในขณะที่มาสด้า CX-30 มีจำนวน 393 คัน และมาสด้า CX-3 มีจำนวนทั้งสิ้น 347 คัน ซึ่งจากตัวเลขเหล่านี้ ส่งผลให้รถอเนกประสงค์เอสยูวีของมาสด้า มียอดขายรวมอยู่ที่ 960 คัน เพิ่มขึ้น 5% จากเดือนกันยายนที่มีตัวเลขรวม 915 คัน ดังนั้นการเปิดตัวทั้ง 2 รุ่น จึงกลายเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดให้ลูกค้าเดินทางมาที่โชว์รูมมากยิ่งขึ้น

สำหรับยอดขายสะสมรถยนต์มาสด้า 10 เดือน ระหว่างเดือนมกราคม – ตุลาคม 2564 มีจำนวน 28,327 คัน ลดลงเล็กน้อยประมาณ 6% ซึ่งปัจจัยหลักยังคงมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้กำลังซื้อชะลอตัวลง โดยรถยนต์นั่งมาสด้ามียอดขายรวมอยู่ที่ 16,636 คัน ลดลง 11% แบ่งเป็น มาสด้า2 จำนวน 14,901 คัน มาสด้า3 จำนวน 1,732 คัน และมาสด้า MX-5 จำนวน 3 คัน ในขณะที่รถอเนกประสงค์เอสยูวีกลับเติบโตเพิ่มขึ้นสวนทางตลาด ด้วยจำนวนรวม 10,659 คัน เพิ่มขึ้น 19% (ปี 2563 มีจำนวน 8,929 คัน) แบ่งเป็นมาสด้า CX-30 จำนวน 5,757 คัน เพิ่มขึ้น 36% มาสด้า CX-3 จำนวน 3,493 คัน เพิ่มขึ้น 104% และอีก 2 รุ่นที่เพิ่งแนะนำสู่ตลาด คือ มาสด้า CX-8 จำนวน 717 คัน และมาสด้า CX-5 จำนวน 692 คัน ส่วนรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 มียอดขายรวมอยู่ที่ 1,032 คัน

ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้าใหม่สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้าได้ง่ายขึ้น และเพื่อช่วยเหลือลูกค้าในช่วงวิกฤต มาสด้าขอมอบข้อเสนอพิเศษ กับแคมเปญ MAZDA FIGHT TOGETHER คนไทย สู้ไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

 

ประจวบคีรีขันธ์ - จัดพิธีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวงประจำปี 64

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 11 พ.ย.64 ที่บริเวณห้องประชุมชั้น 1 อาคารองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานนำหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี พ.ศ.2564 โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด รอง ผอ.รมน.จังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และ ผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตร เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากด้วยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 เป็นวันที่พระองค์ทรงมีพระราชดำริที่จะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการบังคับเมฆให้เกิดเป็นฝนจนเกิดเป็นโครงการพระราชดำริฝนหลวง เพื่อขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากให้แก่พสกนิกรที่ประสบภัยแล้ง และเป็นองค์ประกอบในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศจนถึงปัจจุบัน

ชลบุรี - ประชุมใหญ่! เตรียมการน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักแห้งฯ เสด็จตามพระราชกุศล โครงการตามพระราชดำริต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน ปีที่ 26

ณ ห้องประชุมชั้น 3 กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับสมาคมประมงในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน และองค์การสะพานปลา จัดประชุมเตรียมการน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีน “จากทะเลสู่เด็กดอย” โดยเสด็จตามพระราชกุศล โครงการตามพระราชดำริให้แก่ นักเรียนในโครงการส่วนพระองค์ ในถิ่นทุรกันดารให้มีโอกาสได้รับประทานอาหารทะเล เพื่อต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน โดยก่อนการประชุมฯ พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้กล่าวให้การต้อนรับ และพูดคุยกับผู้แทนสมาคมประมง และหน่วยงานต่าง ๆ อย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง

หลังจากนั้น ได้มอบหมายให้ พลเรือตรี ขวัญชัย อินกว่าง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นประธานการประชุม เพื่อเตรียมการน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีน โดยเสด็จตามพระราชกุศล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการตามพระราชดำริต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีนประจำปี งบประมาณ 2565 โดยในปีนี้นับเป็นปีที่ 26 โดยมีสมาคมประมง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม โดยได้เรียนเชิญผู้แทนสมาคมประมง ในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน และองค์การสะพานปลา รวม 12 จังหวัด จำนวน 26 หน่วยงาน

ประกอบด้วย กลุ่มไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล เขตทัพเรือภาคที่ 1 สมาคมการประมงจังหวัดตราด สมาคมชาวประมงร่วมใจ อ.คลองใหญ่ สมาคมอวนครอบปลากะตัก(แห่งประเทศไทย) สมาคมการประมง อ.ท่าใหม่ จว.จันทบุรี สมาคมประมงระยอง สมาคมอวนล้อมปลากะตัก สมาคมประมงชลบุรี สมาคมการประมงแสมสาร กลุ่มเกษตรกรประมง ต.บางเสร่ สมาคมการประมงสมุทรปราการ สมาคมการประมงคลองด่าน สมาคมการประมงสมุทรสาคร ชมรมเรืออวนลากจังหวัดสมุทรสาคร สมาคมประมงสมุทรสงคราม สมาคมประมงเรืออวนลากคู่สมุทรสงคราม สหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด สมาคมชาวประมง อ.บ้านแหลม สหกรณ์การประมงบ้านแหลม จำกัด สมาคมประมงประจวบคีรีขันธ์ สมาคมประมงปราณบุรี สมาคมประมงบางสะพาน สมาคมชาวประมงร่วมใจปากน้ำชุมพร สมาคมชาวประมงปากน้ำหลังสวน สมาคมชาวประมเรืออวนซั้งและเรือร่วมปากน้ำชุมพร และ องค์การสะพานปลา รวมถึงกลุ่มบริษัทภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนโครงการฯ ได้แก่ บริษัท โกลบอล พาวเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) บริษัท โกลบอลกรีนเคมีคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลี่ยม (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยแท้งค์ เทอร์มินัล จำกัด ร่วมหารือและเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

ความกังวลเกี่ยวกับการเริ่มต้น - ความขัดแย้ง ในอ่าว “Bengal” หลังจากสันติภาพหลายปี!!

Dhaka / Bangladesh - อ่าวเบงกอล กำลังเผชิญกับการทดสอบจริงเมื่อเผชิญกับภัยคุกคามต่อทรัพยากรธรรมชาติในทะเลจีนใต้ หลังจากที่ปักกิ่งอ้างอธิปไตยเหนือทะเลอย่างกว้างขวาง

ความกังวลได้เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับการเริ่มต้นความขัดแย้งในภูมิภาคนี้อีกครั้ง หลังจากที่จีนพยายามขยายอิทธิพลของตนเหนืออ่าวไทยผ่านการเพิ่มกิจกรรมทางทหารและการปรากฏตัวของกองทัพเรือในภูมิภาค

จีนยังคงสร้างด่านหน้าทางการทหารและอุตสาหกรรมบนเกาะเทียมที่สร้างขึ้นในน่านน้ำพิพาทที่มีร่วมกันระหว่างไต้หวัน ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย และเวียดนาม

ในการให้สัมภาษณ์กับ RuksanaKibria ศาสตราจารย์ภาควิชาวิเทศสัมพันธ์แห่งมหาวิทยาลัยธากา เธอเน้นว่าปัญหาการเดินเรืออ่าวเบงกอลเป็นเรื่องของความขัดแย้งระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์และอินเดีย แต่ได้รับการแก้ไขผ่านศาลระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายแห่งท้องทะเล(ITLOS)

ก่อนหน้านี้ ข้อพิพาททางทะเลในภูมิภาคนี้ได้รับการแก้ไขแล้วภายใต้กฎหมายการเดินเรือ หลังจากที่รัฐบาลบังกลาเทศยื่นฟ้องถึง 2 คดีต่อศาลระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายทะเลในปี 2009 ซึ่งทั้งสองคดีได้ยุติลงในปี 2012 และ 2014

นับแต่นั้นเป็นต้นมา ประตูสู่ศักยภาพมหาศาลของบังคลาเทศในทะเลได้เปิดออก เสนอโอกาสในการทำงานมากมายตั้งแต่การสกัดน้ำมัน ก๊าซ และทรัพยากรแร่อื่น ๆ จากทะเล ไปจนถึงความมั่นคงด้านอาหาร การประมง การขนส่งผู้โดยสารและสินค้า การท่องเที่ยว และ ความมั่นคงทางทะเล บรรลุรูปแบบเศรษฐกิจแบบบูรณาการที่มีศูนย์กลางอยู่ที่สิ่งที่เรียกว่า “เศรษฐกิจสีน้ำเงิน”

ตามกฎหมายการเดินเรือ ประเทศหนึ่งมีสิทธิได้รับ 12 ไมล์ทะเลจากทะเลอาณาเขตและสูงสุด 200 ไมล์ทะเลจากการผูกขาดทางเศรษฐกิจของสัตว์ทุกชนิดและทรัพยากรที่ไม่ใช่สัตว์

นอกจากนี้ รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ MunshiFaiz Ahmed กล่าวว่า “ในปัจจุบันพรมแดนของบังคลาเทศเกือบจะเท่ากับเขตแดนของอีกส่วนหนึ่ง นี่เป็นประโยชน์มหาศาลสำหรับบังคลาเทศ และด้วยเหตุนี้ " Sunil economy " ที่เรากำลังพูดถึงในวันนี้จึงถูกเปิดเผย และประตูสู่ความเป็นไปได้นั้นก็เปิดออก"

 

ชลบุรี - ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกำลังพลร่วมกิจกรรมจิตอาสา เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี อีกทั้งยังแสดงออกถึงความสามัคคี ความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานในพื้นที่

ตามที่เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้จัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ปรับปรุงภูมิทัศน์ทำความสะอาด วัดใหม่อยู่สงัด  หมู่ 9 ต.บางเสร่  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีนายอำเภอสัตหีบเป็นประธานในพิธี

ในการนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ 

นอกจากนี้ ยังเป็นการแสดงออกถึงความร่วมมือร่วมใจ ความสามัคคี ความสัมพันธ์อันดีกับหน่วยงานในพื้นที่

 

‘ฟิลิปปินส์ - อังกฤษ’ ย้ำจุดยืน!! ‘ไม่แบนบุหรี่ไฟฟ้า’ เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าแนะไทย ดูเป็นแบบอย่าง

เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า เผยความเคลื่อนไหวจากการประชุมยาสูบโลก ชี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ลุกขึ้นแถลงจุดยืนกลางที่ประชุมฯ ว่าจะเน้นนโยบายควบคุมยาสูบแบบสมดุล ทั้งทางด้านกฎระเบียบและการเก็บภาษี และจะไม่แบนบุหรีไฟฟ้า เพื่อป้องกันผลเชิงลบ ขณะที่อังกฤษระบุอัตราผู้สูบบุหรี่ลดต่ำสุด เป็นผลมาจากมาตรการที่ครอบคลุมรวมถึงการสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า แนะประเทศไทยเดินตามรอยสองประเทศ เพื่อประโยชน์ประเทศและผู้สูบบุหรี่

นายอาสา ศาลิคุปต เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ และเพจ "บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร" เผยความเคลื่อนไหวจากการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ ขององค์การอนามัยโลก ครั้งที่ 9 หรือ FCTC COP 9 ระบุว่า “กระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์เป็นตัวแทนของประเทศลุกขึ้นเรียกร้องให้องค์การอนามัยโลกพิจารณาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทดแทนการสูบบุหรี่ เพื่อทำให้มาตรการควบคุมการสูบบุหรี่กลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง ฟิลิปปินส์ยอมรับว่าการเก็บภาษีบุหรี่ทำให้รัฐบาลมีรายได้จำนวนมาก เพื่อใช้บริหารประเทศและทำกิจกรรมรณรงค์เลิกบุหรี่ แต่ฟิลิปปินส์รู้ว่าการเก็บภาษีอย่างสุดโต่งไม่ทำให้การเลิกบุหรี่สำเร็จได้ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมยาสูบแบบสมดุลทั้งทางด้านกฎระเบียบและการเก็บภาษี และย้ำอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีการแบนบุหรี่ไฟฟ้าแน่นอน”

นายเทอโดโร ลอคสิน จูเนียร์ รมว.ต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมระหว่างการเปิดประชุม FCTC COP 9 ว่าการแบนบุหรี่ไฟฟ้ายิ่งทำให้เกิดตลาดใต้ดินและการลักลอบนำเข้าในประเทศมากขึ้น ซึ่งฟิลิปปินส์เสนอว่าการแก้ปัญหาบุหรี่และตลาดใต้ดินบุหรี่ไฟฟ้าจำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย และการปรึกษาหารืออย่างครอบคลุมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด

ขณะที่ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขประเทศอังกฤษกล่าวว่า อัตราการสูบบุหรี่ในประเทศอังกฤษลดลงอย่างต่อเนื่องมาตลอด 20 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการควบคุมการบริโภคยาสูบอย่างครอบคลุม ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษีบุหรี่ การห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะ และการสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่ได้รับการควบคุม

นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายลาขาดควันยาสูบ อีกรายกล่าวเสริมว่า “ฟิลิปปินส์ให้ความสำคัญกับงานวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งสรุปตรงกันว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ จึงเพิ่งผ่านร่างกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อเป็นกรอบควบคุมยาสูบรูปแบบใหม่ที่จะช่วยให้ดอันตรายให้กับผู้สูบบุหรี่ได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันการขายผลิตภัณฑ์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์ ส่วนอังกฤษก็เป็นประเทศต้นแบบที่สนับสนุนเรื่องการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อการเลิกบุหรี่ สองประเทศนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการพิจารณาอย่างรอบคอบและรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย มาตรการที่ออกมาจึงมีการศึกษาข้อดีและผลกระทบอย่างรอบคอบแล้ว”

 

‘ศรีสุวรรณ จรรยา’ รับหนังสือคัดค้าน ต่อต้านการก่อสร้างคอนโดยักษ์ ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ตัวแทนชาวประชานุกูล ซอยรัชดาภิเษก 66-68 ที่ใด้รับความเดือดร้อนจากการสร้างคอนโดยักษ์ ยื่นหนังสือถึงสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ผ่านนายศรีสุวรรณ จรรยา คัดค้านต่อกต่อต้านการก่อสร้างคอนโดของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งจำนวน 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ สูง 18 ชั้น ยาวติดกันเกือบ 300 เมตร บนเนื้อที่ 9 ไร่ 3 งาน 66.8 ตร.ว. ภายในซอยรัชดา 66 กับ 68 ซึ่งเป็นซอยแคบ.จำนวนหัองพักทั้งสิ้น 1302 ห้อง

พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่พักอาศัยของชาวชุมชน ที่อยู่กันมานาน 40-50 ปี การที่คณะกรรมการ คชก. เห็นชอบรายงาน EIA ของโครงการ ชาวชุมชนไม่เห็นด้วยเพราะส่งผลกระบบต่อมลพิษเสียง ฝุ่นละออง และสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขกฏกระทรวง ฉบับที่ 33 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ออกตาม พรบ. ควมคุมอาคาร 2522 และ 2544

นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ของโครงการดังกล่าวปรากฏว่าข้อมูลไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริงในพื้นที่ เช่น ไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ.2535)  และที่แก้ไขเพิ่มเติม ออกตามความ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 และไม่เป็นไป ตามข้อบัญญัติ กทม.เรื่องควบคุมอาคาร 2544 และเป็นอาคารสูงที่บังแดด บังลมบ้านเรือนที่พักอาศัย รวมทั้งก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง เสียงดัง จากการจราจร จากการก่อสร้าง จากยานยนต์และปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม ที่จะตามมาอีกมากมายจากผู้ที่จะเข้ามาพักอาศัยอีกนับพันคนด้วย

คุณศิริ เหมือนศรี กล่าวว่า โครงการคอนโดที่จะเกิดขึ้นจะทำให้ตนเดือดร้อน และทรมานแน่นอน เคยเสนอให้สร้างแบบ 3ชั้น เขาก็ทำกันได้ แต่นี้ 30 ชั้น อีไอเอก็ไม่ผ่าน มติชาวบ้านก็ไม่เห็นด้วย จะลดมาเหลือ18ชั้นก็เดือดร้อนเช่นเดิม บ้านฉันห่างแค่8เมตร ถ้าเริ่มสร้างจะเกิดผลกระทบกับความเป็นอยู่มาก ที่กลัวมากเรื่องเครนใครรับผิดชอบถ้าหล่นพังลงมา เรื่องเสียงตอกเสาเข็ม ฝุ่นละออง ฉันเองเป็นโรคปอดอยู่ด้วยถูกตัดไปข้างหนึ่ง จะอยู่กันไม่ได้แน่นอน แล้วใครจะรับผิดชอบ

ด้านนายสมศักดิ์ พร้อมเชื้อแก้ว ผู้อาศัยติดโครงการ กล่าวว่า ร่วมประชุมมีคำถาม 3 อย่าง ไม่เคยตอบได้เลย อย่างแรก เรื่องการจราจร ที่จอดรถรับได้เพียงร้อยละ 60 เท่านั้น แล้วที่เหลือ ไปจอดที่ไหน ซอย 66 ที่เป็นซอยใหญ่สุดและคนอยู่มากที่สุด ต่อไปนี้จะมีรถมาจอดตามหน้าบ้านเต็มไปหมด แล้วจะเกิดปัญหาจราจรติดขัดแน่นอน

 

ตำรวจจับมือ ศธ. เปิดโครงการ! "นักเรียนจิตอาสา สถานศึกษาปลอดภัย" เพื่อสร้างนักเรียนต้นแบบ ณ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พร้อมโชว์นวัตกรรมเครื่องคัดกรองโควิด-19 อัจฉริยะ รับเปิดเทอม

ที่โรงเรียนบ้านคลองใบพัด อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา คุณอรพินทร์ เพชรทัต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พ.ต.อ.พีรพงศ์ ธนโพธิ์ชัย ผกก.สภ.วังน้ำเขียว, คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด บ.วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ นายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดโครงการ "นักเรียนจิตอาสา สถานศึกษาปลอดภัย" โดยมีนายอำเภอวังน้ำเขียว และรอง ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 3 ให้การต้อนรับ

โดยโครงการนี้จัดอบรมให้เป็นต้นแบบกับนักเรียนและสถานศึกษา เพื่อปลูกฝังให้พี่ดูแลน้อง รวมถึงเป็นการปลูกจิตสำนึกให้นักเรียนมีจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และได้มีการมอบเข็มจิตอาสาน้อยให้กับนักเรียนชั้น ป.5 ป.6 ที่ผ่านการอบรมในครั้งนี้ จำนวน 22 คน

อีกทั้ง บ.วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้นำกระเป๋า, เครื่องเขียน, หมวกกันน็อค, หน้ากากอนามัย และสเปร์ยแอลกอฮอล์ มามอบให้กับนักเรียนในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว อีกด้วย จากนั้นเลขาฯรมว.ศธ. และ รองโฆษก ตร.  จึงได้ร่วมกันทอดไก่เป็นอาหารกลางวัน ให้น้อง ๆ นักเรียนด้วย

ด้าน พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล เปิดเผยว่า ภารกิจหลักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เน้นดูแลเรื่องความปลอดภัยของประชาชน และทาง ศธ. ได้มีโครงการโรงเรียนปลอดภัย ดังนั้น สภ.วังน้ำเขียวจึงคิดโครงการ "นักเรียนจิตอาสา สถานศึกษาปลอดภัย" ขึ้น เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้กับน้องๆ และเป็นต้นแบบที่ดี เพราะเด็กคืออนาคตที่ดีของชาติและในวันนี้ได้มีการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบของให้กับโรงเรียนตามชายขอบ ของอ.วังน้ำเขียวจำนวน 5 โรงเรียน

นอกจากนี้ ได้มีการการเปิดตัว “เครื่องคัดกรองโควิด-19 อัจฉริยะ” ที่ช่วยคัดกรองวัดอุณหภูมินักเรียนก่อนเข้าโรงเรียน โดยนำไม้กั้นมาประยุกต์ใช้ เพื่อลดภาระครู และเก็บสถิติของนักเรียนที่อุณหภูมิร่างกายผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์ โดยผู้คิดค้น คือ นายจักรกฤษณ์ อินทสงค์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบุไผ่ และในอนาคตก็จะพัฒนาต่อยอดเก็บข้อมูลของนักเรียนผูกกับบัตรนักเรียนสมาร์ทการ์ด เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top