Sunday, 4 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

ILINK ครองสถิติโตต่อเนื่อง!! รายได้ - กำไรพุ่งแรงทุกธุรกิจ ตุนกำไร 9 เดือนบวก 27.25%

ผลประกอบการไตรมาส 3/64 ของ ILINK ทำรายได้โต 16.61% แตะ 1,551.77 ล้านบาท พร้อมกำไร 78.85 ล้านบาท พุ่งแรง 44.55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รับไฮซีซั่น และการเติบโตของเทรนดิจิทัล มั่นใจโค้งสุดท้ายของปีพุ่งสู่เป้า New High 6,000 ล้านบาท

นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และผู้นำเข้า และค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ เปิดเผยว่า “ผลประกอบการไตรมาส 3/64 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,551.77 ล้านบาท เติบโต 16.61% จากทั้ง 3 ธุรกิจ เมื่อเทียบกับ 1,330.79 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันมีกำไรสุทธิ (ส่วนที่มีอำนาจควบคุม) 78.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.55% เมื่อเทียบกับ 54.55 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้มั่นใจได้ว่า แนวโน้มรายได้และกำไรสุทธิปี 2564 นี้ มุ่งสู่จุดสูงสุดในรอบ 5 ปี”

ธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) ไตรมาส 3/64 มีรายได้จากการขายรวม 597.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.99% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้ในงวดนี้ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ เป็นผลมาจากการเติบโตของกระแสดิจิทัล รวมถึงการดำเนินธุรกิจที่ปรับตัวได้เป็นอย่างดี แม้จะประสบกับสถานการณ์ล็อกดาวน์ภายในประเทศจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง และกระทบต่อหลายธุรกิจทั่วโลก แต่สำหรับธุรกิจจัดจำหน่าย กลับสวนทางตอบรับปัจจัยการสนับสนุนและเติบโตจากเทรนเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งจำเป็นต้องพึ่งพาการเชื่อมต่อสื่อสารผ่านสายสัญญาณ และอุปกรณ์ส่งสัญญาณที่ได้มาตรฐานและมีเสถียรภาพสูงสุด จึงผลักดันให้ความต้องการในสินค้าของธุรกิจจัดจำหน่ายพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง

 

กระบี่ - 2 สามี-ภรรยา! บุกร้อง "แรมโบ้" ทวงคืน ที่ดินบรรพบุรุษหลังถูก จนท.ป่าชายเลน นำรถแบคโฮ ล้มต้นปาล์มกลางดึก ส่อพิรุธ! หลังเคยร้อง ผวจ.กระบี่ ตรวจสอบแต่เรื่องเงียบ

นายภพ สกุลสวน อายุ 55 ปี พร้อมด้วยนางสายใจ สกุลสวน อยู่บ้านเลขที่ 52/1 ม.5 ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมด้วยครอบครัว และตัวแทนสภาเกษตรกร จ.กระบี่ ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกรณีเจ้าหน้าที่ป่าชายเลนกระบี่ เข้ายึดพื้นที่โค่นทำลายต้นปาล์มน้ำมันในที่ดินทำกินที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ นับ 100 ปี รวมเนื้อที่ 17 ไร่เศษหลังทราบว่า นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเปิดศูนย์ดำรงธรรมสวนหน้ารับเรื่องร้องเรียน สนับสนุนภารกิจนายกรัฐมนตรี ในการประชุม ครม.สัญจร 15-16 นี้ หลังจากที่เคยยื่นเรื่องขอความเป็นธรรม จาก ผวจ.กระบี่ ไว้แล้ว แต่เรื่องเงียบ

นายภพ และนางสายใจ สองสามีภรรยา กล่าวว่า สำหรับที่ดินแปลงนี้ เดิมเป็นที่ดินมรดก ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ทำกินมา 3 อายุคน รวม กว่า 100 ปี กว่าจะตกทอดมาถึงตนสองคน ครั้งแรกที่จำความได้ที่ดินแปลงนี้มีการทำนา และต่อมาปลูกปาล์มน้ำมันจนหมดอายุเก็บเกี่ยว ประมาณ 30 ปี และก็ได้โค่นทิ้ง และปลูกแทนใหม่ มีอายุ ได้ 13 ปี ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ป่าชายเลน เข้าไปปักป้าย ยึดที่ดินและนำรถแบคโฮ ทำลายต้นปาล์ม เมื่อเวลาประมาณ ตี 3 กลางดึก เสร็จประมาณ 7 โมงเช้า ของคืนวันที่ 20 พ.ค.64 ที่ผ่าน ซึ่งตนเองมองว่าผิดวิสัยของข้าราชการ ที่เข้าทำลายผลอาสินของชาวบ้านในยามวิกาล แล้วยังข่มขู่ห้ามไม่ให้แสดงตัว จึงได้เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม ให้ระงับการดำเนินการและสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกันนี้เตรียมรวบรวมหลักฐาน ยื่นฟ้องศาลปกครอง ม.157 ต่อไป

จากการตรวจสอบข้อมูลการถือครองที่ดินของนายภพ สกุลสวน และนางสายใจ วหุลสวน 2 สามีภรรยา เดิมเป็นของนายเฟื่อง เนื้ออ่อน เป็นตาของภรรยา ซึ่งนายเฟื่อง เนื้ออ่อน ได้ครอบครองและทำประโยซนในที่ดินดังกล่าวมาก่อน พ.ศ.2485 ซึ่งเป็นการครอบครองและทำประโยชน์มาก่อนที่จะมีประกาศของรัฐ ประกาศให้เป็นเขตป่าไม้ถาวร ประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ และประกาศให้เป็นเขตป่าขายเลน นายเฟือง ได้ทำประโยชน์ในที่ดินทำกินโดยการทำนามาอย่างต่อเนื่อง

และประมาณ พ.ศ.2530 จึงเปลี่ยนลักษณะการทำประโยชน์มาเป็นสวนปาล์ม น้ำมัน และได้ปลูกปาล์มน้ำมันเป็นรายแรก ๆ ในจังหวัดกระบี่ ซึ่งผู้เสียหายได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อจากนายเฟื่องฯ และได้ชำระภาษีบำรุงท้องที่ รวมถึงได้จดทะเบียนเกษตรกร และทำกินในที่ดินตลอดมา จนถึงปัจจุบัน และไม่มีสภาพเป็นป่า นอกจากนี้ที่ดินติดกันล้อมที่ดินของผู้เสียหายมีที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง มีถนน และไฟฟ้า มีทะเบียนบ้าน เป็นชุมชนมีราษฎรอยู่อาศัยหลายครัวเรือนและทำกินกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่จนท.กลับดำเนินการเฉพาะที่ดินของผู้เสียหาย

 

ปัตตานี - ศอ.บต. ร่วมสนับสนุนกิจกรรมทอดกฐิน ปี 64 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำนุบำรุง แหล่งศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ จชต.

นายวิสันติ์ ประเสริฐศรี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมพิธีทอดกฐินพระราชทาน พร้อมถวายปัจจัย ในนาม ศอ.บต. เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทอดกฐิน ประจำปี 2564  โดยมีพระสิริจริยาลังการ รองเจ้าคณะภาค 18 /เจ้าอาวาสวัดตานีนรสโมสรพระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนางสุดา ก่อเกียรติพิทักษ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

สำหรับพิธีทอดกฐินพระราชทาน ณ วัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน ให้ นางสุดา ก่อเกียรติพิทักษ์ ตามที่ขอพระราชทานเพื่อน้อมนำไปถวายพระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ซึ่งจากการทำบุญในครั้งนี้รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 1,111,111 บาท

จากนั้นในเวลาต่อมา ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ได้เดินทางไปร่วมพิธีทอดกฐินสามัคคี ณ วัดกุหร่า หรือวัดเกาะอภินิหาร บ้านสวนโอน ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา พร้อมถวายปัจจัยในนาม ศอ.บต. เพื่อสมทบทุนบูรณะวัด และก่อสร้างเสนาสนะ เป็นที่พักให้กับพระภิกษุ ใช้ในการทำกิจกรรมทางศาสนา ซึ่งเป็นแหล่งศูนย์รวมจิตใจ ของพี่น้องประชาชนไทยพุทธในพื้นที่ โดยมี ข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ตลอดจนประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม ภายใต้การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

สำหรับวัดกุหร่า หรือวัดเกาะอภินิหาร เป็นวัดตามทำเนียบของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา ซึ่งสันนิษฐานว่า สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยก่อนหน้านี้เกือบ 50 ปีไม่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา และตั้งแต่ปี 2563 ได้มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา 2 รูป ประจำวัดแห่งนี้ โดยศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะสงฆ์จังหวัดสงขลา หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้จัดให้มีการทอดผ้าป่าสามัคคีขึ้น เพื่อระดมทุนสำหรับใช้ในการก่อสร้างเสนาสนะ เพื่อเป็นที่พักให้กับพระภิกษุและใช้สอยในการทำกิจกรรมทางศาสนา เป็นขวัญกำลังใจ และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทยพุทธและมุสลิมในพื้นที่ ตลอดจนฟื้นฟูให้เป็นวัดที่สมบูรณ์ตามระเบียบการปกครองของคณะสงฆ์ต่อไป ซึ่งจากการทำบุญในวันนี้ รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น กว่า 830,000 บาท

 

นราธิวาส - ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมหน่วยในพื้นที่ค่ายจุฬาภรณ์ ย้ำ!กำลังพลทำหน้าที่ด้วยความจงรักภักดี เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม

พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมด้วยนายกสมาคมภริยาทหารเรือและคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพลกองทัพเรือ กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ณ ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยมี นาวาเอกโยธิน ธนะมูล ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน / ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ให้การต้อนรับ

โดยพล.ร.อ.สมประสงค์ ผบ.ทร.ได้ถวายสักการะ พระอนุสาวรีย์ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย และตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ จากนั้นได้ให้โอวาทและทักทายกำลังพลจากหน่วยต่าง ๆ ที่เข้าร่วมในพิธี โดยใจความสำคัญที่ผู้บัญชาการทหารเรือเน้นย้ำแก่กำลังพลที่ร่วมในพิธีคือ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งเอกราช และอธิปไตยของชาติในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ สร้างความปลอดภัยและให้การช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนในด้านต่าง ๆ แก่ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ

ทราบดีว่าที่ผ่านมาทุกคนนั้น ได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ในพื้นที่เสี่ยง พื้นที่ที่มีความแตกต่างด้านวัฒนธรรม และพื้นที่ที่มีความแตกต่างทางสังคมของประชาชน แต่ก็ได้ทุ่มเทและมุ่งมั่นเสียสละ ไม่ย่อท้อในการทำหน้าที่ทำให้ได้รับความร่วมมือและความเชื่อมั่นจากประชาชนในพื้นที่ ส่งผลให้การปฎิบัติภารกิจของกองทัพเรือนั้นลุล่วงตามวัตถุประสงค์ ของหน่วยเหนือ ขอแสดงความชื่นชมและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

ขอให้ทุกท่านนั้นเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การปฏิบัติหน้าที่นั้นขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความละเอียดรอบคอบ ไม่ประมาท การที่จะทำหน้าที่ให้ได้รับความสำเร็จนั้น ต้องได้รับการยอมรับจากประชาชน ที่ผ่านมานั้นทุกท่านได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รักษาความสงบ รักษาความเรียบร้อย รักษาเอกราชและอธิปไตยใน พื้นที่ที่รับผิดชอบเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากลำบาก

อย่างไรก็ตามการดำรงไว้ซึ่ง หน้าที่และภารกิจที่ดีอยู่แล้วนั้นเป็นเรื่องที่ยากกว่า ก็ขอให้ทุกท่านดำรงความต่อเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป การยอมรับของประชาชนในพื้นที่นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากประชาชนในพื้นที่ยอมรับการปฎิบัติงาน หรือให้ความร่วมมือ นั่นคือความสำเร็จสูงสุด ของการปฏิบัติการ ก็อยากจะฝากให้ทุกท่านให้ปฎิบัติหน้าที่ต่อเนื่อง อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น และขอให้มุ่งมั่น ในอุดมการณ์ความรักชาติความเสียสละที่ทุกท่านนั้นได้ดำเนินการต่อเนื่องมาโดยตลอด

 

จับโป๊ะ!! กรณีเหยียดคนอีสาน คาด ชนวนเหตุอาจเกิดจากก๊วนป่วน ‘คนไทย’ ให้เกลียดกัน | NEWS GEN TIMES EP.28

ระวังฮีโร่จอมปลอม!!
จับโป๊ะ!! กรณีเหยียดคนอีสาน (คลับเฮ้าส์toxic) คาด!! ชนวนเหตุอาจเกิดจากก๊วนป่วน ‘คนไทย’ ให้เกลียดกัน เพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่างทางการเมือง...ก็เป็นได้

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

สะบัดเสื้อ ‘ครุย’ อาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์ เปิดกว้างทุกชนชั้นชาวสยาม | MEET THE STATES TIMES EP.38

 ???? สะบัดเสื้อ ‘ครุย’ อาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์ เปิดกว้างทุกชนชั้นชาวสยาม!! 

???? "ฉลองพระองค์บรมราชภูษิตาภรณ์" ชุดครุยสีทอง ที่พระมหากษัตริย์ใส่…

???? ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

???? ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

โลกหลังโควิด!! “Tele Health” ใกล้หมอ..แค่ปลายนิ้ว มิติใหม่ของการพบแพทย์ | Knowledge Times EP.36

???? Knowledge Times BizView | EP.36
???? โลกหลังโควิด!! “Tele Health” ใกล้หมอ..แค่ปลายนิ้ว มิติใหม่ของการพบแพทย์

เราอาจจะเริ่มคุ้นหู หรือได้เห็นแพลตฟอร์มเกี่ยวกับบริการสุขภาพทางไกล ที่เรียกว่า “Tele Health” กันมาบ้าง... ซึ่งเจ้า Tele Health นี้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การใช้งานอาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ด้วยช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมานี้ ทำให้ “Tele Health” กลับกลายเป็นตัวเร่งสำคัญ ที่ส่งผลให้ความต้องการในการใช้งานเติบโตอย่างก้าวกระโดดของวงการแพทย์  

กรณีตัวอย่างของสหรัฐฯ ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงมากในปี 2020 ส่งผลให้ผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนช่องทางการใช้บริการด้านสุขภาพ มาสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยจากงานวิจัยของ “McKinsey” พบว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ หันมาใช้บริการ Tele Health เพิ่มขึ้นจาก 11% ของผู้บริโภคในปี 2019 มาอยู่ที่ 46% ในปี 2020

เนื่องจาก Tele Health เป็นรูปแบบการให้บริการที่ตอบโจทย์ที่สุดในสถานการณ์โควิด-19 โดยผู้ป่วยมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังโรงพยาบาล ในกรณีที่ไม่ได้เจ็บป่วยฉุกเฉินที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ส่งผลให้มีการเลื่อนการรักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยไม่ฉุกเฉินออกไป

แต่ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยบางส่วนยังมีความต้องการคำปรึกษาและคำแนะนำในการรักษาอาการป่วยทั่วไป ทำให้หันมาใช้บริการผ่านแพลตฟอร์ม Tele Health ในการรักษาพยาบาลออนไลน์กันมากขึ้น

สำหรับแนวโน้มในระยะต่อไป แม้ว่าสถานการณ์การระบาดจะคลี่คลายแล้วแต่ Tele Health ยังเป็นรูปแบบของการให้บริการด้านสุขภาพที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งจากผลสำรวจของ McKinsey ดังกล่าวข้างต้นยังพบว่า ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ราว 76% ตอบว่ายังสนใจจะใช้บริการ Tele Health ต่อไป แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายแล้ว เช่นเดียวกันกับในหลาย ๆ ประเทศที่ Tele Health เข้ามามีบทบาทมากขึ้น  

ขณะที่ ‘Statista’ ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดชั้นแนวหน้าของโลก ได้มีการคาดมูลค่าตลาด Tele Health ของโลกในช่วงปี 2019 ถึงปี 2026 จะเติบโตราว 21% ต่อปี มาอยู่ที่ 1.76 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณเกือบ 6 ล้านล้านบาทไทย

สำหรับในไทย Tele Health ถูกนำมาใช้มากขึ้นโดยเฉพาะในด้านการรักษาพยาบาลทางไกล หรือที่เรียกว่า “Telemedicine” ซึ่งในช่วงแรกจะเน้นไปที่การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น รวมถึงการรักษาผู้ป่วยโรคทางจิตเวชที่ต้องได้รับการรักษาและควบคุมอาการอย่างต่อเนื่อง แต่โควิด-19 นับเป็นตัวเร่งที่สำคัญที่ส่งผลให้ Telemedicine เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ไม่เพียงแต่การให้คำปรึกษาการรักษาพยาบาลขั้นต้น เช่น อาการปวดหัว ตัวร้อน ปวดท้อง เท่านั้น

แต่ Telemedicine มีแนวโน้มจะถูกนำมาใช้ในการรักษา สำหรับกรณีที่ต้องมีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง ซึ่งผู้ป่วยต้องมีการนัดพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ และจำนวนผู้ป่วยในกลุ่มโรค NCDs (กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง) นี้ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับเทรนด์การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เพราะฉะนั้น Telemedicine จึงเป็นรูปแบบที่ตอบโจทย์การรักษาอย่างดีในหลายด้าน

นอกจากนี้ยังมีทั้งความสะดวกสบาย ที่ผู้ป่วยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปโรงพยาบาลเกินความจำเป็น และลดความแออัดของสถานพยาบาล โดยเฉพาะสถานพยาบาลของภาครัฐที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ในต่างจังหวัดที่อยู่ห่างไกลยังสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ดียิ่งขึ้นด้วย 

แม้ว่า Tele Health จะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีความท้าทายสำคัญที่ส่งผลต่อการเติบโต เนื่องจากการตรวจของแพทย์ผ่านทาง VDO ยังมีข้อจำกัดในการตรวจวินิจฉัยที่ต้องอาศัยเครื่องมือแพทย์ร่วมด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมให้ Tele Health ประสบความสำเร็จจากการให้บริการสุขภาพทางไกลแบบครบวงจรอีกด้วย ซึ่งแพลตฟอร์ม “Ping An Good Doctor” เป็นตัวอย่างของแพลตฟอร์มด้าน Health Tech ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในจีน จากการมีบริการที่ครบวงจรครอบคลุมทั้งในด้านการรักษาพยาบาล การดูแลสุขภาพ ตลอดจนการมีเครือข่ายโรงพยาบาลหลายแห่งเพื่อส่งต่อผู้ป่วยในกรณีที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

นอกจากนี้ ยังมีระบบที่ผู้ป่วยสามารถรับยาได้อย่างรวดเร็วผ่านเครือข่ายร้านขายยาทั่วประเทศด้วย ซึ่งจุดแข็งอีกด้านหนึ่งของ Ping An Good Doctor คือ การมีบริษัทย่อยเป็นบริษัทประกัน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าของบริษัท สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลที่ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มกับบริษัทประกันได้ ทำให้ผู้ป่วยหันมาใช้บริการมากขึ้น และยังได้มีการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในการคัดกรองผู้ป่วยในเบื้องต้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเป็นตัวเร่งให้บริการ Telemedicine ในไทยเกิดเร็วขึ้น และกลายเป็น New Normal ของการให้บริการทางการแพทย์ในอนาคต ซึ่งสิ่งนี้เองภาครัฐจึงควรให้ความสำคัญในการผลักดัน และสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึง “Tele Health” ให้มากขึ้น เพื่อประโยชน์ด้านสาธารณสุขในระยะยาว ลดต้นทุน - ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ภาครัฐต้องแบกรับภาระสูง และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขโดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลด้วย

“สวนรุกขชาติ” สวนนงนุชพัทยา  โครงการปลูกป่าเพื่อการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ บริเวณที่ราบเชิงเขาบันไดกฤษ

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กับแนวคิดเชิงสร้างสรรค์เพื่อส่งต่อความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ไปยังเยาวชนคนรุ่นหลัง โดยได้จัดทำโครงการปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์พันธุ์ไม้ด้วยการขออนุญาตกับกรมป่าไม้ในการขอเช่าพื้นที่บริเวณที่ราบเชิงเขาบันไดกฤษ จำนวนกว่า 43 ไร่ เพื่อดำเนินโครงการในลักษณะของ “สวนรุกขชาติ’ โดยทำการรวบรวมพันธุ์ไม้และปลูกไม้ยืนต้นชนิดต่าง ๆ ทั้งที่มีมูลค่าและหายากมาปลูกไว้ 

ซึ่งได้ดำเนินการปลูกครบ 14 ไร่ และปรับพื้นที่เพิ่มเติม ถางป่าหญ้าวัชพืช, ไม้เล็กและไม้คลุมดิน ยกเว้นต้นไม้ขนาดใหญ่ เพื่อปลูกพันธุ์ไม้เพิ่มเติมให้ครบตามจำนวนพื้นที่ที่ได้ขออนุญาตไว้กับกรมป่าไม้ ซึ่งค่าใช้จ่ายและค่าดำเนินการในการรวบรวมและการปลูกพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ตลอดจนค่าดูแลรักษาทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของสวนนงนุชพัทยา 

"ผบ.ตร." จัดทำ E-BOOK “Smart Safety Zone" ให้ 100 สถานี นำไปใช้ให้เป็น "เมืองอัจฉริยะ" ตามแผนป้องกันอาชญากรรม ยุค 4.0 

เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 64 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ให้จัดทำ หนังสือ “Smart Safety Zone 4.0 เพื่อสร้างความเชื่อมั่น อุ่นใจ ปลอดภัยในชุมชน” ซึ่งเป็นรูปแบบมิติใหม่ของการเปลี่ยนพื้นที่เปลี่ยวให้เป็นพื้นที่ปลอดอาชญากรรม ด้วยกลไก เทคโนโลยี และเครื่องมือที่ทันสมัย ทั้งการเปลี่ยนผ่านจากระบบราชการแบบเดิม ๆ สู่ “ระบบราชการ 4.0” บวกการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วน รวมถึงจะช่วยให้ทุกเมืองสำคัญทั่วประเทศไทย สู่การเป็น “เมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City” ต่อไป 

สำหรับโครงการดังกล่าว ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ 9) ในขณะนั้น ไปขับเคลื่อนและดำเนินโครงการ โดยมี พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.(ปป) เป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยโครงการระยะแรกประกอบด้วย 15 สน. นำร่องทั่วประเทศ

'คนมีความสุข' ไม่ใช่คน 'มีมากที่สุด' แต่เป็นคนที่ 'ต้องการน้อยที่สุด'

'คนมีความสุข' ไม่ใช่คน 'มีมากที่สุด'
แต่เป็นคนที่ 'ต้องการน้อยที่สุด'

ยิ่งมีความต้องการน้อยลง สิ่งของที่มีอยู่ 
ก็จะดูเหมือนมีมากขึ้น

- มรดกธรรม หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม- 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top