Thursday, 8 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

ตั้งสติ!! “ห้ามโอนเงินโดยเด็ดขาด” โฆษก ตร. เตือนภัยออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงิน

13 ม.ค.65 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในห้วงเวลาปัจจุบัน ได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงพี่น้องประชาชนในหลายรูปแบบ อาทิเช่น หลอกว่าได้รับรางวัล หลอกว่าเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด หรือปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วให้เพิ่มเพื่อนผ่านแอปพลิเคชันไลน์ โดยปลอมเป็นไลน์ของสถานีตำรวจ เพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว หรือหลอกให้หลงเชื่อว่าทำผิดกฎหมายเพื่อโอนเงินแลกกับการไม่ดำเนินคดี ซึ่งในขั้นตอนสุดท้ายมิจฉาชีพจะโน้มน้าวให้ “โอนเงิน” ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นั้น  ขอให้ท่านตั้งสติ และห้ามโอนเงินเด็ดขาด

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากภัยร้ายทางโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งมั่นที่จะปราบปรามอย่างจริงจัง จึงได้ตั้ง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เพื่อปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องดังกล่าว อย่างเข้มงวด เพื่อลดความสูญเสียทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น ผู้อำนวยการศูนย์ฯ

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายให้ประชาสัมพันธ์เตือนภัย และให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้รู้เท่าทันมิจฉาชีพ เสมือนเป็นวัคซีนเพื่อป้องกันภัยร้ายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Cyber Vaccinated) และได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปฏิบัติหน้าที่กวาดล้างมิจฉาชีพอย่างเข้มข้น รวดเร็ว เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอีกต่อไป จึงอยากขอเน้นย้ำกับพี่น้องประชาชนว่า หากท่านพบว่ามีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และดำเนินการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ให้สันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพ ขอให้ท่านตั้งสติ และห้ามโอนเงินโดยเด็ดขาด

 

เดินหน้า “5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย” ปี 2565 “อลงกรณ์” ลุยภาคเหนือ ตั้งบอร์ดโครงการประกันราคาลำไยรูปแบบใหม่ พร้อมมอบศูนย์ AIC พัฒนาเพิ่มมูลค่าครบวงจร เร่งปฏิรูปผลไม้ไทยเชื่อมแผน 13 ขับเคลื่อนสู่ “เกษตรมูลค่าสูง”

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดลำพูน เพื่อติดตามงานนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมี นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ผู้บริหาร ข้าราชการ และหน่วยงานภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

ในการนี้ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมภาคีเครือข่ายเกษตรกรภาครัฐและเอกชน เพื่อการขับเคลื่อนการบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือที่สำนักงานเกษตรจังหวัดลำพูและประชุมทางไกลตามข้อสั่งการของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้(Fruit Board)โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายภาษเดช  หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ผู้แทนคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร ระดับจังหวัด (คพจ.) จังหวัดลำพูน และผู้แทนคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร ระดับจังหวัด (คพจ.) จังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย ผู้แทนสภาเกษตรกรแห่งชาติ ผู้แทนหอการค้าจังหวัด ผู้แทนกรมการค้าภายใน ผู้แทนกรมการส่งเสริมค้าระหว่างประเทศ นายพงษ์ทร วิเศษสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ ประธานและ นายอมรพันธุ์ พูลสวัสดิ์ เลขานุการ คณะอนุกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยภาคเหนือ (กร.กอ.ภาคเหนือ) และหัวหน้าหน่วยราชการ และหน่วยงานภาคเอกชนด้านการขนส่ง ตัวแทนผู้ประกอบการ(ล้ง)ในจังหวัดลำพูน  ตัวแทนเกษตรกรแปลงใหญ่และศพก. และผู้ที่เกี่ยวข้องโดยมี นายขจร เราประเสริฐ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นฝ่ายเลขานุการ

ที่ประชุมได้รับทราบ (1) รายงานการคาดการณ์แนวโน้มผลผลิตภาคเหนือ ปี 2565 (2) รายงานผลการบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ ปี 2564 และปัญหาอุปสรรค และที่ประชุมได้ร่วมหารือพิจารณาในแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ ระดับพื้นที่ (AREA BASED)

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า กล่าวว่า ภายใต้โมเดลเกษตรผลิตพาณิชย์ตลาดตามยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตและ “5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย” ของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นแนวทางในการบริหารจัดการผลไม้ในสภาวะวิกฤติโควิด-19 โดยเน้นร่วมบูรณาการทุกภาคส่วน และการใช้เทคโนโลยีเพื่อยืดอายุผลผลิต และแปรรูปยกระดับสู่อุตสาหกรรมเกษตรอาหารเพิ่มมูลค่ารายได้ให้มากขึ้น ซึ่งในปี 2565 และปีต่อๆ ไปได้วางเป้าหมายพลิกโฉมภาคเกษตรไทยมุ่งเน้นการทำเกษตรมูลค่าสูง ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (2566 -2570) ในมิติภาคการผลิตและบริการเป้าหมายหมุดหมายที่ 1 ไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตร และเกษตรมูลค่าสูง มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าของสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป โดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรม การเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานของภาคเกษตร และการสนับสนุนบทบาทของผู้ประกอบการเกษตร โดยมอบหมายให้ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมหรือศูนย์AICภาคเหนือและอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือเร่งวิจัยพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมรวมทั้งการแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์ผลไม้

นายอลงกรณ์กล่าวว่าจังหวัดลำพูนเป็นศูนย์กลางลำไยภาคเหนือและเป็นเมืองหลวงลำไยโลก มีพื้นที่ปลูกลำไยกว่า 250,000 ไร่ เป็นแหล่งผลิตสำคัญในภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน จากสถานการณ์การผลิต ปี 2560 – 2564 เนื้อที่ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก 1,451,714 ไร่ ในปี 2560 เป็น 1,655,036 ไร่ ในปี 2564 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.13 ต่อปี ผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก 1,200,804 ตัน ในปี 2560 เป็น 1,437,740 ตัน ในปี 2564 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.12 ต่อปี และผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่เพิ่มขึ้นจาก 827 กิโลกรัมในปี 2560 เป็น 869 กิโลกรัม ในปี 2564 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.004 ต่อปี ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งเสริมสนับสนุนของรัฐบาล อย่างไรก็ตามเรายังเผชิญปัญหาราคาลำไยตกต่ำในบางปีบางฤดูเป็นปัญหาซ้ำซากตลอดมาจึงให้ดำเนินการโครงการประกันราคาลำไยขั้นต่ำบนความร่วมมือระหว่างภาคเกษตรกรและภาคเอกชนโดยการสนับสนุนของภาครัฐเป็นโมเดลใหม่เพื่อให้ทุกภาคส่วนเป็นหุ้นส่วนกัน(Partnership model)แบบwin-winทุกฝ่ายเช่นที่กำลังดำเนินการกับอุตสาหกรรมกุ้งโดยบอร์ดกุ้งซึ่งภาคเอกชนตกลงกับเกษตรกรในการประกันราคาขั้นต่ำ โดยจะมีการประชุมภายใน2สัปดาห์หากเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายต่อไปจะขยายผลกับทุกกลุ่มสินค้าเกษตรต่อไป

นายอลงกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ติดตามสถานการณ์ผลผลิตลำไยในพื้นที่ภาคเหนืออย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมการรองรับผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดล่วงหน้าตามแนวทางการบริหารจัดการผลผลิตลำไยปี 2565 เช่น โครงการกระจายลำไยออกนอกแหล่งผลิต จังหวัดลำพูนโดย คพจ. ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณจากเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อเตรียมการรองรับการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากและราคาผลผลิตตกต่ำ เป้าหมาย การสนับสนุนค่าบริหารจัดการกระจายผลผลิตลำไยออกนอกแหล่งผลิต การรับซื้อในราคานำตลาดตลอดจนแนวทางการบริการจัดการ ตั้งแต่ต้นทาง คือ เน้นตลาดนำการผลิต การลดต้นทุน พัฒนาคุณภาพมาตรฐานเพิ่มผลิตภาพการผลิต การทำลำไยนอกฤดูการสร้างมูลค่าเพิ่ม การพัฒนายกระดับมาตรฐานเน้นการใช้เทคโนโลยีแปรรูปเพิ่มมูลค่าให้หลากหลายตามความต้องการของตลาด การซื้อขายล่วงหน้าระบบPre-order การบริการจัดการระบบขนส่งและเพิ่มระบบ Cold Chain Logistics

สุรินทร์ - KI GROUP บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด และ บริษัท ไฟฟ้าสุรินทร์ มอบทุนสร้างโดมกีฬาอเนกประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 25 กว่าล้านบาท

ณ ห้องรับรอง มณฑลทหารบกที่ 25  KI GROUP บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด และ บริษัท ไฟฟ้าสุรินทร์ จำกัด โดยคุณยงยุทธ เสถียรถิระกุล กรรมการผู้จัดการ และคณะผู้บริหาร เข้าพบ พลตรีสาธิต  เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 และ คณะผู้บริหารของมณฑลทหารบกที่ 25 พร้อมกับได้มอบทุนสนับสนุนการก่อสร้างโดมกีฬาอเนกประสงค์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติภารกิจ และใช้ประโยชน์ในกิจกรรมต่าง ๆ ด้านกีฬา ของเหล่าทหาร และ ครอบครัว รวมถึงประชาชนที่สามารถเข้าไปใช้งานร่วมกันได้ ในพื้นที่ของมณฑลทหารบกที่ 25

โดยการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์แห่งนี้ขึ้น มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 90 ตารางเมตร ได้รับการสนับสนุนทุนงบประมาณจาก KI GROUP บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด และ บริษัท ไฟฟ้าสุรินทร์ จำกัด เป็นเงินจำนวน 1,400,000 บาท (หนึ่งล้านสี่แสนบาทถ้วน) ทั้งนี้ในปี 2564 ที่ผ่านมา KI GROUP บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด และ บริษัท ไฟฟ้าสุรินทร์ จำกัด โดย คุณยงยุทธ เสถียรถิระกุล กรรมการผู้จัดการ คุณมั่นคง เสถียรถิระกุล รองกรรมการผู้จัดการ  ยังได้มอบทุนสนับสนุนกิจกรรมหลักของทางจังหวัด อย่างต่อเนื่องอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งภาคสาธารณสุข ที่สนับสนุนหน่วยงานแพทย์ในด้านการเฝ้าระวังและป้องกันโรคระบาดโควิด-19 รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ และ องค์กรเอกชน แทบทุกหน่วยงานในจังหวัดสุรินทร์ 

สงขลา - “จุรินทร์” ย้ำชัด! ”น้ำหอม” สส.หญิงคนแรกของสงขลา ตำหนินักการเมืองบางคนไร้สติ ยกเงินสำคัญกว่าจรรยาบรรณ

บรรยากาศช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อมสส.เขต 6 สงขลา ค่ำคืนนี้ 12 ม.ค.64  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พร้อมด้วยขุนพลพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ช่วยผู้สมัคร”น้ำหอม’ นางสาวสุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครของพรรคเป็น ส.ส.หญิงคนแรกของสงขลา โดยเปิดเวทีที่อาคารผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองสะเดา จ.สงขลา โดยมีประชาชนเข้าร่วมหลายพันคน

ประเด็นสำคัญที่เป็นไฮไลต์ของทุกเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ในการลุยหาเสียงนั้นคือความพยายามในการสร้างประวัติศาสตร์หรือตำนานบทใหม่ให้ผู้หญิงเป็นสส.คนแรกของจังหวัดสงขลา โดยผู้หญิงคนนั้นชื่อ “น้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขุนพลหลายคนที๋ขึ้นเวทีพูดตรงกันว่าค่ำคืนนี้ไม่ได้มาหาเสียงแต่มาขอคะแนนเสียงจากประชาชนโดยตรง และไม่พลาดที่จะเอ่ยถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่กลายเป็นคู่แข่งสำคัญของสนามเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะข้อความที่พูดโจมตีกันในเรื่องของความร่ำรวยเงินทองของผู้สมัคร

 

“บิ๊กโจ๊ก” จับเข่าคุย!! ‘ประมงพื้นบ้าน’ ร่วมต้าน IUU

จากกรณีที่ประเทศไทยได้ถูกลดอันดับการรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์จากทางการสหรัฐฯ ลงเป็นอันดับประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List) โดยมีข้อสังเกตในเรื่องการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างจริงจังในทุกภาคส่วน ปัญหาการบังคับใช้แรงงานและแรงงานข้ามชาติซึ่งเกิดขึ้นในหลายอุตสาหกรรมรวมถึงภาคการประมง รวมทั้งปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ตามที่ทราบแล้ว นั้นจากกรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ                   รองนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย และการบังคับใช้แรงงานในภาคการประมง โดยมี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม เฝ้าระวังการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้แต่งตั้งชุดปฏิบัติการตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการประมง เพื่อการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวและประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่

ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการ              ตำรวจแห่งชาติ / ผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร./ รองประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) โดยเร่งด่วน

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/รองประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ได้เดินทางมาพบปะและประสานความร่วมมือกับสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย นำโดย นายสะมะแอ เจ๊ะมูดอ, นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี, นายเจริญ โต๊ะอิแต และพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน ที่กลุ่มอนุรักษ์ประมงพื้นบ้านบ้านในถุง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ในการต่อต้าน การทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) เพื่อให้การดูแลทรัพยากรทางทะเลมีความยั่งยืน อุดมสมบูรณ์ 

เกี่ยวข้อง

การทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) ทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรสัตว์น้ำในเขตทะเลประเทศไทยเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งเป็นเรือประมงขนาดเล็ก ใช้เครื่องมือประมงประสิทธิภาพต่ำในการจับสัตว์น้ำเพื่อการยังชีพ และจำหน่ายในท้องถิ่นเป็นหลัก มีวิถีการทำประมงที่ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้เกิดความมั่นคงทางอาหาร สามารถพึ่งพาตนเองได้แม้ในยามวิกฤต จนกระทั่งรัฐบาล นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาแก้ไขปัญหา IUU โดยสามารถปลดใบเหลืองจากสหภาพยุโรปได้ ผลของการทำงานดังกล่าว ทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำในเขตชายฝั่งกลับสู่ความอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยในปีพ.ศ.2561 ชาวประมงพื้นบ้านสามารถจับปลาได้ 140,037 ตัน ปี พ.ศ.2562 ได้ 161,462 ตัน, ปีพ.ศ.2563 ได้ 250,622 ตัน และปีพ.ศ.2564 เพียง 9 เดือนแรก (ถึง ก.ย.) ได้ถึง 164,054 ตัน 

อย่างไรก็ตาม ชาวประมงพื้นบ้านยังคงประสบปัญหาการลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตชายฝั่งจากเรือประมงขนาดใหญ่และเรือประมงที่ใช้เครื่องมือประสิทธิภาพสูง เช่น อวนลาก คราดหอย อวนลากคู่ ซึ่งเป็นการทำประมงผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีพ.ศ.2563 และ 2564 ที่ผ่านมา ชาวประมงพื้นบ้านได้ร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงปัญหาดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่ประการใด นอกจากนั้นยังถูกข่มขู่จากผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ซึ่งเป็นนายทุนเบื้องหลังพฤติกรรมทำประมงผิดกฎหมายเหล่านี้ ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านไม่เชื่อถือการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย โดยในรอบปีพ.ศ.2564 ที่ผ่านมา มีเรือประมงขนาดใหญ่ถูกดำเนินคดีความผิดประมงในทะเลเพียง 10 คดีเท่านั้น 

ในการพบปะครั้งนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ให้ความมั่นใจกับชาวประมงพื้นบ้านว่า “ชาวประมงพื้นบ้าน เป็นผู้พิทักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำให้ยั่งยืนและอุดมสมบูรณ์ ผมได้รับข้อมูลและความร่วมมือในการต่อต้านการทำประมง IUU อย่างดียิ่ง นอกจากเบาะแสของเรือประมงกลุ่มทุนแล้ว ยังรวมถึงการเลือกปฏิบัติ การละเว้นปฏิบัติของเจ้าหน้าที่อีกด้วย เห็นได้จากในรอบปี 2564 ที่ผ่านมา เรือประมงกลุ่มทุนถูกดำเนินคดีทำการประมงผิดกฎหมายในทะเลเพียง 10 คดี ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านรองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับชาวประมงพื้นบ้านมาก และได้กำชับให้ผมเข้ามาแก้ไขปัญหาผู้มีอิทธิพลในทะเล กลุ่มเรือนายทุน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ “หลับตา” ละเว้นการปฏิบัติ หรือเลือกปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมาย ทำให้พี่น้องชาวประมงพื้นบ้านไม่เชื่อมั่นการทำงานของภาครัฐ ผมได้จัดชุดปฏิบัติการ 4 ชุดระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความชำนาญ มาเพื่อแก้ไขปัญหาที่พี่น้องเสนอข้อมูลมา ผู้มีอิทธิพล นายทุนประมง เจ้าหน้าที่รัฐที่รู้เห็นเป็นใจ จะต้องไม่มีที่ยืน เบื้องต้นผมได้จัดกำลังลงตรวจเรือประมงที่แจ้งว่า “งดใช้เรือ” ไม่ออกทำประมง และขอปิดเครื่อง VMS จำนวน 620 ลำ แต่มีบางลำลักลอบออกไปทำประมงผิดกฎหมาย หรือขนของเถื่อน ขนของหนีภาษี รวมถึงค้ามนุษย์ เรือประมงเหล่านี้ ลำไหน “จอดไม่ตรงจุดที่แจ้ง ไปตรวจแล้วไม่มีเรือ” ดำเนินคดีทุกลำพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ด้วย ผมไม่ได้ทำงานเพราะเอาใจ EU แต่ตั้งใจมาทำงานนี้เพราะอยากให้ทรัพยากรสัตว์น้ำของเราอุดมสมบูรณ์ยั่งยืนไปชั่วลูกหลาน และขอขอบคุณที่พี่น้องประมงพื้นบ้านที่มาผนึกกำลังกับภาครัฐในการต่อต้านประมง IUU”

​​​​​​​

ปทุมธานี - นายก ทน.รังสิต เตรียมความพร้อม!! รพ.สนามนครรังสิต รองรับรองผู้ป่วยโควิดโอไมครอน

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต พร้อมด้วย นายแพทย์วิชัย เดชะทัตตานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต 2 และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางปะกอกรังสิต2 ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดโรงพยาบาลสนามโดยเทศบาลนครรังสิต เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโรคระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่อีกครั้ง ที่อาคาร 100 ปี เมืองธัญบุรี คลองสอง ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยเทศบาลนครรังสิตได้เคยจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่ อาคาร 100 ปี เมืองธัญญบูรี เทศบาลนครรังสิต มาแล้วเมื่อครั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จำนวน 300 เตียง เพื่อรอรับผู้ป่วยโควิดที่รอเตียงและกักตัวที่บ้าน (Home Isolation)

ยะลา - ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมกำลังพล เจ้าหน้าที่ ตชด. ทหาร ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ฝั่งอำเภอเบตง จ.ยะลา

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้สันติพงศ์ ผบ.ทบ. และคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ มาที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่445 จากนั้นได้นั่งรถยนต์ ไปตามเส้นทางถนนเลียบชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อตรวจดูตามแนวชายแดนด้านอำเภอเบตง จ.ยะลา และตรวจเยี่ยมกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด. ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่4406 บริเวณหลักเขตแดนที่ 54/83 พร้อมรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับเขตพื้นที่รับผิดชอบ สถานการณ์ต่าง ๆ ในพื้นที่ รวมถึงปัญหาข้อขัดข้องต่าง ๆ นอกจากนี้ยังได้มอบสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ตชด.

ต่อมาพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้สันติพงศ์ ผบ.ทบ. และคณะ ได้เดินทางไปยัง กองร้อยป้องกันชายแดนที่1 ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านอัยเยอร์เบอร์จัง ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพลเจ้าหน้าที่ทหาร ป้องกันชายแดนที่1 โดยมี ร.อ.เอกชัย ไชยสารี ผบ ร้อย ปชด.1 พร้อมกำลังพลเจ้าหน้าที่ทหาร คอยต้อนรับ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ต่าง ๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ก่อนที่จะมอบสิ่งของเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งเดินตรวจดูความเป็นอยู่ของกำลังพล ก่อนที่จะเดินทางกลับ

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้สันติพงศ์ ผบ.ทบ. กล่าวว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนให้กับพี่น้องประชาชน ด้านอำเภอเบตง ด้วยความเสียสละ และอดทน ตลอดมา และถือโอกาสแวะมาเยี่ยมเยียนกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน และมาให้กำลังใจในการปฏิบัติงานของกำลังพล ในห้วงเทศกาลปีใหม่ปี2565 ที่ผ่านมา รวมทั้งเน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วย และส่วนที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการปฏิบัติงานของกำลังพล เพิ่มความระมัดระวัง เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง ทั้งกองกำลังป้องกันชายแดน

 

“ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่” มีโทษจำคุก! โปรดอย่าหาทำ! โฆษก ตร.ขอเตือน

12 ม.ค.65 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในห้วงเวลาที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ระงับเหตุ สืบสวน หรือจับกุมผู้กระทำผิด ซึ่งบ่อยครั้งที่ผู้กระทำความผิดบางรายไม่พอใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการสบประมาท ดูถูก อันเป็นการดูหมิ่น เหยียดหยามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติตามหน้าที่ซึ่งทำให้มีพฤติกรรมเลียนแบบเกิดขึ้นหลายครั้ง นั้น

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม เพื่อความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน ซึ่งอาจสร้างความไม่พอใจต่อผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย จนถึงขั้นด่าทอหรือใช้ถ้อยคำหยาบคาย พูดจาดูหมิ่น เหยียดหยามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งในหลาย ๆ คดี ศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษไปแล้ว จึงอยากเตือนไปยังผู้ที่กระทำดังกล่าว หรือผู้ที่อาจจะมีพฤติกรรมเลียนแบบว่า อาจมีความผิดตามกฎหมาย

ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 136 ผู้ใดดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

มองโกเลีย - นิทรรศการรวบรวมโบราณวัตถุ จากรัฐเร่ร่อนแห่งแรก!ของมองโกเลีย

อูลานบาตอร์/มองโกเลีย - ภูเขา Noyon เป็นหลุมฝังศพและที่ฝังศพของขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ของรัฐ Xiongnu ซึ่งเป็นรัฐเร่ร่อนแห่งแรกของมองโกเลีย

ในปี พ.ศ. 2467-2468 "หน่วยวิจัยมองโกเลีย - ทิเบต" นำโดยนักวิจัยชาวรัสเซีย PKKozlov ได้ทำการขุดค้นทางโบราณคดีครั้งแรกที่อนุสาวรีย์ Noyon Mountain เพื่อค้นพบมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของ Xiongnu ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของ 20 ศตวรรษ ร่วมกับ สถาบันโบราณคดีแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์มองโกเลียและ IAET SB RAS (สถาบันโบราณคดีและชาติพันธุ์วิทยาสาขาไซบีเรียของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งรัสเซีย) ได้ขุดหลุมฝังศพของขุนนางซงนูสี่แห่งและสุสานดาวเทียมสี่แห่งที่อนุสาวรีย์ Noyon Uul ระหว่าง 2549 และ 2558 และค้นพบสิ่งประดิษฐ์มากกว่า 1,300 รายการ

ผลการศึกษาเผยให้เห็นสิ่งประดิษฐ์หายาก เช่น สิ่งทอ เครื่องประดับเงินจากจักรวรรดิโรมัน และอุปกรณ์ม้าสีเงินที่แสดงภาพยูนิคอร์นในตำนาน สิ่งนี้เรียกว่า "การค้นพบ" เป็นแหล่งข้อมูลใหม่สำหรับการศึกษาของ Xiongnu

นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016 ที่นักวิจัยได้นำสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวออกสู่สาธารณะ มีการจัดแสดงสินค้าประมาณ 400 รายการจากการเลือกมากกว่า 200 รายการจากสุสานของขุนนางซงหนูจนถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565

จากการศึกษาอนุสาวรีย์ซงหนู แหล่งโบราณคดีมองโกเลียสูงที่สุดในโลก G. Eregzen ผู้อำนวยการสถาบันโบราณคดีแห่งมองโกเลีย เน้นย้ำว่าการวิจัยเกี่ยวกับอนุสรณ์สถานของชนชั้นสูงในอูลานบาตอร์มีความครอบคลุมและสูงกว่าที่ใดในโลก

“การวิจัยที่ดำเนินการในประเทศมองโกเลียโดยนักมานุษยวิทยาชาวยูเรเชียนเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจมาโดยตลอด ดังนั้น งานวิจัยเหล่านี้จึงมีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นขั้นตอนในการนำโบราณคดีมองโกเลียมาสู่โลก”

 

“เฉลิมชัย” เร่งรับมือผลไม้ฤดูการผลิตปี 65 ล่วงหน้า! มอบ “อลงกรณ์” ลุยเหนือติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดพร้อมตรวจด่านเชียงแสน - เชียงของ เผย! ‘ไทย’ ได้เปรียบดุลการค้าผักผลไม้จีนกว่า 3 เท่าตัว

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดมาตรการที่เข้มงวดโดยเฉพาะด่านนำเข้าจีน และส่งผลต่อการส่งออกผลผลิตทางการเกษตรผลไม้ของไทย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการและบริหารการจัดการผลไม้ (Fruit Board) มีความเป็นห่วงสถานการณ์และได้เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรและภาคการเกษตรของไทย จึงได้มอบหมายให้ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ ลงพื้นที่ภาคเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่เชียงใหม่ ลำพูนและเชียงรายระหว่างวันที่ 11-15 ม.ค.

โดยจะติดตามความคืบหน้าในหลายด้านได้แก่การบริหารจัดการผลไม้ของภาคเหนือ ฤดูการผลิตปี 2565(ลำไย) ความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.)ภาคเหนือ การขับเคลื่อนศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center :AIC) จังหวัดเชียงใหม่ลำพูนและเชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมด่านเชียงของและด่านเชียงแสนในการส่งออกผลไม้และสินค้าเกษตรทางบกและทางเรือลำน้ำโขง โดยเฉพาะมาตรการ SPS และโควิดฟรี(Covid Free) และแนวทางแก้ไขปัญหาการขนส่งผ่านด่านบ่อเตนและด่านโมฮ่าน

การประชุมหารือกับวิสาหกิจชุมชนเพื่อพัฒนากาแฟอาราบิก้า(Arabica) ตลอดห่วงโซ่อุปทาน การบริหารจัดการน้ำของโครงการชลประทานภาคเหนือตอนบนและการขับเคลื่อนโครงการเกษตรกรรมยั่งยืนภาคเหนือ เพื่อพัฒนาการเกษตรในเมืองและส่งเสริมเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อแก้ปัญหา pm.2.5และลดก๊าซเรือนกระจกตอบโจทย์ Climate Change ตามแนวทาง COP26

 

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top