Thursday, 8 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

พังงา - รองผู้ว่าฯพังงา ตรวจเยี่ยมแผงขายสินค้า! โครงการหมูพาณิชน์ ลดราคาช่วยประชาชน

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา นายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยนายชัยรัตน์ ชื่นเจริญ พาณิชย์จังหวัดพังงา และนายพรภิรมย์ ฟุ้งตระกูล ปศุสัตว์จังหวัดพังงา ตรวจเยี่ยมโครงการหมูพาณิชน์ลดราคาช่วยประชาชน เพื่อจำหน่ายเนื้อหมูให้กับประชาชนผู้บริโภค ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 11-14 มกราคม 2565

ซึ่งโครงการดังกล่าวมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 3 จุด คือ จุดที่ 1 ร้านหมูโก้ศักดิ์ ตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดพังงา จุดที่ 2 ร้านหมูนายดิน ตลาดสดเทศบาลเมืองพังงา และจุดที่ 3 หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา

สำหรับจุดจำหน่ายที่ 3 บริเวณหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพังงา จัดจำหน่ายเนื้อหมู ราคากิโลกรัมละ 150 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 90 บาท ทั้งนี้สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.พังงา จำกัด ได้นำข้าวหอมมะลิมาจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาด เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนผู้บริโภคด้วย

ปทุมธานี - “บิ๊กแจ๊ส” ห่วงใยชาวปทุมฯ เร่งพัฒนาเป็นเมืองน่าอยู่อันดับต้น ๆ เดินหน้าโมโนเรล พร้อมสู้ภัยโควิดโอไมครอน

เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 เวลา 09:30 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี พร้อมคณะผู้บริหารได้ประชุมร่วมกับนายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง และข้าราชการเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาให้กับประชาชนเช่นการลอกคลองและปรับปรุงภูมิทัศน์ลำคลองปัญหาน้ำเน่าเสียน้ำขังในหมู่บ้านและถนนเส้นต่าง ๆ ที่เคยได้รับผลกระทบโดยเฉพาะฤดูฝน รวมถึงปัญหาการจราจรจากนั้นได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการขุดลอกคลองสวยน้ำใส ที่คลองแอนระหว่างคลอง 2 และคลอง 3 ระยะทาง 20 กิโลเมตร ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมี นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายก อบจ.ปทุมธานี , นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี , นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ (จ่ายุทธ) ที่ปรึกษาพิเศษ นายก อบจ.ปทุมธานี , นายสัญชาติ คุระนันท์  นางสาวณัฐรุจา คุ้มทรัพย์ และ นายสุริยา ธรรมธารา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และทีมงาน อบจ.ปทุมธานีร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานขุดลอกคลองกำจัดวัชพืชที่ขึ้นกีดขวางการไหลของน้ำ ซึ่งทาง อบจ.ปทุมธานีได้ดำเนินการนำเครื่องจักรลงพื้นที่ขุดลอกคลองตั้งแต่คลอง 1 ถึง คลอง 14 เพื่อปรับภูมิทัศน์ทุกคูคลอง เตรียมรับภัยแล้งในหน้าร้อนรวมถึงน้ำหลากในฤดูฝน

ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ทาง อบจ.ปทุมธานีได้ดำเนินการขุดลอกคลองส่งน้ำทุกคลอง ให้มีสภาพน้ำไหลคล่องก่อนที่เราดำเนินการแก้ไขเรื่องน้ำเน่าเสียแต่มันเกินกำลังแรงคนที่จะทำ ระยะทาง 20 กว่ากิโลเมตร จึงนำเครื่องจักรรถแบคโฮเข้ามาขุดลอกคลอง เมื่อสภาพคลองดีขึ้นก็จะมีประชาชนเริ่มมาหาปลากัน จึงได้ขอความร่วมมือทางท่านนายอำเภอคลองหลวง สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด. นายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ เมื่อเราพัฒนาพื้นที่เรียบร้อยแล้วขอให้ทุกท่านรับผิดชอบอยู่ในเขตไหนก็ช่วยกันดูแลต่อ เพื่อทำให้คลองทุกคลองสวยงามจริง ๆ ทั้งบนตลิ่งและในน้ำ ส่วนปัญหาน้ำเสีย น้ำเน่าที่เคยมีนั้นเมื่อวัชพืชหมดไปแล้วเราจะมาหาสาเหตุและแก้ปัญหาหลังจากนั้นอีกที จะมีการประสานหารือกับทางกรมชลประทานด้วย

ทั้งนี้ทางอำเภอคลองหลวงมีหมู่บ้านจัดสรรเยอะ ทาง อบจ.จะวางแผนร่วมกับทางอำเภอคลองหลวง ก่อนที่จะถึงฤดูฝนเรายังมีเวลาอีก 4 เดือน จะสำรวจว่าหมู่บ้านไหนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังน้ำรอการระบาย ระบายช้า รถเข้าออกไม่ได้ จะมีการรวมข้อมูลมา เพื่อที่ทาง อบจ.จะเร่งทำความสะอาดท่อระบายน้ำทุกหมู่บ้านเพื่อเตรียมรองรับฤดูฝน พี่น้องประชาชนต้องไม่เดือดร้อนจากปัญหาเดิมน้ำท่วมขังในหมู่บ้านจนรถไม่สามารถสัญจรได้ ภายในเดือนเมษายนนี้ทุกหมู่บ้านต้องดำเนินการเสร็จสิ้น

ส่วนการจราจรในอนาคตที่จะรองรับประชาชนมีดังนี้

เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่จะขยายไปถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจะมีโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลที่มีการเสนอแนวทาง 3 เส้นทาง คือ 1.เส้นทางคูคต-ลำลูกกา 2.รังสิต-นครนายกตั้งแต่คลอง 10 มาถึงฟิวเจอร์พาร์ค 3.เส้นทางคลองหลวง ซึ่ง 3 เส้นนี้จะบรรจบกันเป็นใยแมงมุม  รวมถึงมีเลนปั่นจักรยานออกกำลังกายด้วย ทางด้านปัญหาโควิด-19 ได้ดำเนินการจัดฉีดวัคซีนเข็ม 2 และเข็ม 3 ที่ศูนย์การค้าเซียร์รังสิต แต่หลังจากปีใหม่มาแล้วมีผู้ติดเชื้อโอไมครอนทำให้จากที่เรามีจำนวนผู้ติดเชื้อต่ำกว่าอันดับ 10 ของประเทศ เวลานี้จำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มขยับขึ้นมาแล้ว 2 วันที่ผ่านมามีจำนวนผู้ติดเชื้อเกิน 100 คน ซึ่งที่ผ่านมาเรามีผู้ติดเชื้อน้อยมานานกว่า 5 เดือน จึงฝากพี่น้องประชาชนช่วยกันดูแล โดยเฉพาะโรงงาน ร้านอาหาร ที่มีกลุ่มเสี่ยงให้รีบแจ้ง อบจ. เพื่อที่จะได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ มีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อ มียาสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกันแจกให้ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าการ์ดตก ให้ช่วยเหลือกันต่อไป

 

โฆษก ตร. เตือน!! "เมาแล้วขับ" คุก 10 ปี เพิกถอนใบขับขี่ เสี่ยง "อุบัติเหตุร้ายแรง"

11 ม.ค.65 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์เริ่มต้นจากการที่มีพลเมืองดีแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบผู้หญิงรายหนึ่งขับรถไม่ไปตามทิศทางที่กำหนด (ย้อนศร) และมีอาการคล้ายคนเมาสุรา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่เจ้าของรถไม่ยินยอม จึงได้นำตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นั้น

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่นำตัวเจ้าของรถไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แล้วพบว่ามีปริมาณเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงได้จับกุมตัว และแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนว่า ห้ามขับขี่ขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น เนื่องจากจะทำให้ไม่มีสติในการขับรถ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง เกิดความเสียหายทั้งต่อตนเองและผู้อื่น จนทำให้เกิดความสูญเสีย ถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเป็นความผิดตามกฎหมาย

>> พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522

>> มาตรา 43 (2) ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถ ในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น

>> มาตรา 160 ตรี ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 43 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 100,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 6 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 บาทถึง 120,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000 บาท ถึง 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

>> พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2557

>> มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 142 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2542 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

>> มาตรา 142 เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจสั่งให้ผู้ขับขี่หยุดรถในเมื่อ

(1) รถนั้นมีสภาพไม่ถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 

(2) เห็นว่าผู้ขับขี่หรือบุคคลใดในรถนั้นได้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอันเกี่ยวกับรถนั้น ๆ

ในกรณีที่มีพฤติการณ์อันควรเชื่อว่าผู้ขับขี่ฝ่าฝืนมาตรา 43 (1) หรือ (2) ให้เจ้าพนักงานจราจรพนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ดังกล่าวว่าหย่อนความสามารถในอันที่จะขับหรือเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นหรือไม่

ในกรณีที่ผู้ขับขี่ตามวรรคสองไม่ยอมให้ทดสอบ ให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจกักตัวผู้นั้นไว้ดําเนินการทดสอบได้ภายในระยะเวลาเท่าที่จําเป็นแห่งกรณีเพื่อให้การทดสอบเสร็จสิ้นไปโดยเร็ว หากผู้นั้นยอมให้ทดสอบและผลการทดสอบปรากฏว่าไม่ได้ฝ่าฝืนมาตรา 43 (1) หรือ (2) ก็ให้ปล่อยตัวไปทันที

ในกรณีที่มีพฤติการณ์อันควรเชื่อว่าผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น หากผู้นั้นยังไม่ยอมให้ทดสอบตามวรรคสามโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นฝ่าฝืนมาตรา 43 (2) การทดสอบตามมาตรานี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎกระทรวง

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างเข้มงวด และมีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกคน ซึ่งในหลาย ๆ คดี ศาลได้มีคำพิพากษาจำคุก และเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ 

 

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ ประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อย การจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

วันนี้ (11 ม.ค. 2565) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็นประธาน ร่วมกับ พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง จตช. ประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งในครั้งแรกในวันที่ 16 ม.ค.65 เขตเลือกตั้งที่ 1 จว.ชุมพร, เขตเลือกตั้งที่ 6 จว.สงขลา รวมมีหน่วยเลือกตั้งจำนวน 495 หน่วย ส่วนในครั้งที่ 2 ในวันที่ 30 ม.ค.65 เขตเลือกตั้งที่ 9 (บางเขน) จว.กทม. มีหน่วยเลือกตั้งจำนวน 280 หน่วย

พล.ต.ท.สราวุฒิฯ กล่าวว่า ได้กำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ดังนี้

1. เป็นประชุมเตรียมความพร้อมและติดตามสถานการณ์ด้านการข่าว และกำชับการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่หน่วยเลือกตั้งโดยแบ่งภารกิจเป็นก่อนเลือกตั้ง ขณะเลือกตั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระทำผิด พรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562

2. ก่อนการเลือกตั้งให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในพื้นที่ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.65 เป็นต้นไป ที่ผ่านมาพบ 3 เหตุ ที่ จว.ชุมพร

​2.1 การทำลายป้ายหาเสียง 2 เหตุ ของผู้สมัคร พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ ผู้สมัครฯ หมายเลข 5 พรรคกล้า อยู่ในระหว่างการสืบสวนถึงสาเหตุที่แท้จริง

​2.2 เหตุยิงปืนลงพื้นถนนขณะที่รถหาเสียงของ พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ ผู้สมัครฯ หมายเลข 5 พรรคกล้า จอดอยู่ใกล้เคียง จับกุมผู้กระทำผิดได้แล้ว จากการสอบสวนเหตุการณ์เกิดจากผู้กระทำผิด   เสพยาเสพติดเกินขนาดจึงเกิดอาการประสาทหลอนและก่อเหตุดังกล่าว

ตำรวจ PCT ทลายเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ “บ้าน M” เงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท!!

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.​ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT, พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ , พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท. และ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ “บ้าน M ” และ เครือข่ายค้าอาวุธปืนผิดกฎหมาย

 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไปและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ 25 ธ.ค.64  - 3 ม.ค.65 เพราะเป็นช่วงที่พี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้าน และมีการสังสรรค์ เกรงจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งจากผลการระดมกวาดล้าง สามารถจับกุมการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ทั้งสิ้น จำนวน 3,634 ราย

 รอง ผบ.ตร. กล่าวว่าได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ฯ รอง ผบช.น. หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 4 สืบสวนจนทราบว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 18.00 น. กลุ่มผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.วัชรา สงวนนามสกุล  ผู้ต้องหาซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพฤติการณ์ชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาระดมทุนเล่นแชร์ โดยการเปิด Facebook และกลุ่มไลน์ชื่อ “CM Gold” และ “บ้านแชร์ M” แล้วหลอกให้ประชาชนที่หลงเชื่อเข้ามาเล่นแชร์โดยปกปิดวิธีการเล่น อ้างว่ามีการเปียแชร์รวมถึงการจะจ่ายผลตอบแทนสูงกว่าอัตราที่ดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินพึงจ่ายได้ หากแต่กลับนำเงินดังกล่าวมาหมุนจ่ายให้กับสมาชิกรายอื่น และไม่ได้มีการเปียแชร์หรือจ่ายดอกเบี้ยจริง ทำให้มีประชาชนเสียหายหลงเชื่อเข้าจ่ายดอกด้วยหวังว่าจะได้เปียแชร์ในรอบต่อไป แต่ต่อมาเมื่อถึงกำหนดจากเงินสมาชิกได้ปิดกลุ่มแล้วหลบหนีไป ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อหน่วยงานต่างๆ ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยเบื้องต้นพบว่ามีเหยื่อคนหลงเชื่อสมัครเล่นแชร์ดังกล่าวกว่า 300 ราย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” ซึ่งสามารถจับกุม นางสาววัชราฯ ผู้ต้องหา ได้ที่บ้านเอื้ออาทร ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร ทั้งนี้ได้มีผู้เสียหายกว่า 50 รายมายืนยันตัวผู้กระทำความผิดและเรียกร้องค่าเสียหายมูลค่ากว่า 10,000,000 บาท

นอกจากนี้ ยังสามารถจับกุมคดีค้าอาวุธปืนออนไลน์ โดยเมื่อวันที่ 2 ม.ค.65 เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ชุดเดียวกันร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล สืบสวนทราบว่า นายกฤษดา สงวนนามสกุล มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ชื่อ “QB Thailand” และ “เศษเหล็กกิโลละแสน” เพื่อชักชวนให้ผู้สนใจเข้าซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และจัดส่งสินค้าอาวุธปืนผิดกฎหมายผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT และ นครบาล ได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 42/50 ซ.หมู่บ้านจามจุรี ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนจริงและอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 6 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ตลอดจนอุปกรณ์ในการผลิตปืนกว่า 17 รายการ ภายหลังการจับกุม พบว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นบุคคลเดียวกันกับคนร้ายที่เมื่อปี 63 ขณะมีภูมิลำเนาอยู่ที่หนองบัวลำภู ได้ก่อเหตุขับรถยนต์หรูแหกด่านเคอร์ฟิวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ต่อมารถคันดังกล่าวได้เสียหลักชนแบริเออร์ข้างทางทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ แต่คนร้ายได้ทิ้งรถหลบหนี ต่อมาตรวจสอบพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.พร้อมเครื่องกระสุนในรถคันเกิดเหตุ ส่วนรถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์สวมทะเบียนปลอม ทั้งนี้ ชุดจับกุมยังตรวจสอบพบอีกว่ามีหมายจับของศาลจังหวัดเลย ที่ 82/2563 ลง 27 เม.ย.63 ในความผิดฐาน “มีอาวุธปืนติดมือ และพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต” และหมายจับของศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ จ.115/64 ลง 16 ส.ค.64 ในความผิดฐานเดียวกัน

 

‘บุหรี่ไฟฟ้า’ อาจช่วยให้ผู้สูบบุหรี่ เลิกบุหรี่ได้!! ถึงแม้ว่าผู้สูบจะไม่ได้ตั้งใจเลิกก็ตาม

ผลการศึกษาซึ่งตีพิมพ์โดย JAMA Network Open พบว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกวันช่วยกระตุ้นให้ผู้สูบบุหรี่ค่อย ๆ เลิกสูบบุหรี่ได้ แม้ว่าพวกเราจะไม่มีแผนที่จะเลิกบุหรี่ก็ตาม

ข้อมูลจากกลุ่มผู้สูบบุหรี่จำนวน 1,600 คน ที่ไม่ได้ตั้งใจที่จะเลิกบุหรี่ในช่วงเริ่มต้นของการศึกษาวิจัย โดย 28% ของผู้สูบบุหรี่ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกวัน สามารถหยุดสูบบุหรี่แบบเดิม ๆ ได้ภายใน 12 เดือน ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ไม่ได้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกวัน สามารถเลิกสูบบุหรี่แบบธรรมดาได้เพียง 6%

นักวิจัยกล่าวว่า จากการศึกษาผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ารายวันมีโอกาสเลิกบุหรี่แบบเดิม ๆ ได้ถึง 8 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกวัน

คาริน คาสซา นักวิทยาศาสตร์ จากศูนย์วิจัยและรักษามะเร็งครบวงจร รอสเวล พาร์ค ในบัฟฟาโล นิวยอร์ก และผู้ร่วมทำการวิจัยกล่าวว่า "ผลการวิจัยของเราชี้ให้เห็นว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกวันอาจทำให้ผู้ที่สูบบุหรี่แบบธรรมดาเป็นประจำทุกวัน มีแนวโน้มที่จะเลิกสูบบุหรี่ได้ ซึ่งถือเป็นหนทางที่ดีในการเลิกบุหรี่ เนื่องจากผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าตระหนักว่าพวกเขาสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องสูบบุหรี่เพราะได้รับนิโคตินจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว”

ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค มีผู้สูบบุหรี่เป็นประจำในสหรัฐอเมริกาประมาณ 45 ล้านคน รวมถึงวัยรุ่น วัยกลางคน และเด็กมัธยมประมาณ 5 ล้านคน จากการประเมินระบุว่า 1 ใน 4 ของผู้สูบบุหรี่กลุ่มนี้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า

นอกจากนี้การศึกษาถึงประโยชน์ที่เป็นไปได้ของบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเครื่องมือในการช่วยให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบบุหรี่ด้วยผลลัพธ์ที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่นงานวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้วพบว่า บุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้ผู้ใหญ่เลิกบุหรี่ได้ แต่อาจทำให้คนหนุ่มสาวเริ่มติดบุหรี่ไฟฟ้าได้

สำหรับการศึกษาครั้งนี้ คาสซาและทีมได้ทำการศึกษาผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีผลกระทบต่อผู้ที่สูบบุหรี่ทุกวันและไม่ได้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า และไม่มีแผนที่จะเลิกสูบบุหรี่ในช่วงเริ่มต้นของการวิจัย จากกลุ่มผู้ใหญ่เกือบ 2,500 คน โดย 38% ของผู้เข้าร่วมสูบบุหรี่ 20 ถึง 29 มวนต่อวัน และ 13% สูบบุหรี่ 30 มวนขึ้นไปต่อวัน โดยผู้เข้าร่วมเกือบ 2,300 คนเริ่มใช้บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ทุกวันในช่วงเริ่มต้นของการศึกษา ขณะที่ส่วนที่เหลือไม่ได้ใช้ เมื่อสิ้นสุดโครงการนักวิจัยพบว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพียง 6% เท่านั้นที่เลิกสูบบุหรี่ได้

 

ทร.เตรียมพร้อม!! รพ.สนาม รับมือการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอมิครอน

พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 สายพันธุ์โอมิครอ ที่กำลังระบาดอยู่เป็นวงกว้างในขณะนี้ พลเรือเอก สมประสงค์  นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้หน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล/สถานพยาบาล/โรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับการแพร่ระบาด ดังนี้

 1. ให้โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เป็นโรงพยาบาลหลัก สามารถให้บริการตรวจทางห้องปฏิบัติการ มีหอผู้ป่วยวิกฤต ห้องแรงดันลบ หอผู้ป่วยรวม และห้องแยก มีขีดความสามารถในการตรวจวินิจฉัย และให้การรักษา ตั้งแต่อาการเล็กน้อย จนถึงขั้นวิกฤติ

 2. ให้มีความพร้อมของโรงพยาบาลสนามของกองทัพเรือ 3 แห่งที่จัดตั้งมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วให้การสนับสนุนสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยได้รวม 1,109 เตียง ประกอบด้วย

 - โรงพยาบาลสนาม ศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (เกล็ดแก้ว) อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จำนวน 544 เตียง

 - โรงพยาบาลสนาม ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จำนวน 180 เตียง

 - โรงพยาบาลสนาม สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 16 บ้านจันทเขลม จังหวัดจันทบุรี จำนวน 385 เตียง

ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ยังได้เน้นย้ำให้ข้าราชการกองทัพเรือ เพิ่มความระมัดระวังทั้งแก่ตนเองและสมาชิกในครอบครัว ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ระบาดเพิ่มขึ้นนี้ โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคระบาดตามที่รัฐบาล กำหนดและมาตรการตามที่กองทัพเรือ ได้สั่งการอย่างเคร่งครัดอีกด้วย

ทั้งนี้ โรงพยาบาลสนามของกองทัพเรือทั้ง 3 พื้นที่ อยู่ภายใต้การบริหารจัดการและกำกับดูแลของหน่วยงาน สาธารณสุขจังหวัดใน แต่ละพื้นที่ ที่ผ่านมาได้ปิดการใช้งานชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ลดลงในช่วงปลายปี 2564 อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกับ โรงพยาบาลสนามทั้ง 3 พื้นที่ ทราบว่า พร้อมให้การสนับสนุนสาธารณสุขจังหวัด ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2565 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป

 

 

สงขลา - “นิพนธ์” เสริมทัพช่วย ‘สุภาพร’ หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 6 มั่นใจ!! ชาวสงขลาไม่ทอดทิ้งพรรคประชาธิปัตย์

ที่สนามกีฬาสุขภาพ ต.พะตง บ้านทุ่งครุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต 6 จังหวัดสงขลา นำทีมโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ พร้อมด้วย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้  นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล และส.ส.คนรุ่นใหม่ อาทิ น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต 6 จังหวัดสงขลาเพื่อขอเสียงประชาชนให้สนับสนุน น.ส. สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครส.ส.สงขลา เขต 6 เบอร์ 1 โดยมีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยจำนวนมาก

นายนิพนธ์ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้เหลืออีก 7 วัน จะถึงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อม ตนขอฝากคนที่มาแอบถ่ายคลิปการปราศรัยของพรรค ขอให้ไปรายงานให้ถูก ๆ หน่อยว่าคนมา 3 หมื่นกว่า ไม่ใช่ 5 พันคน วันนี้ตนมาหาเสียงพี่น้องชาวทุ่งลุงชาวสงขลา เขต 6 ซึ่งอีก 7 วันสุดท้ายนี้ใครมี รถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ นับแต่พรุ่งนี้เอารถออกจากบ้านมาช่วยหาเสียงให้กับ น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครส.ส.สงขลา เขต 6 เบอร์ 1 ช่วยกันบอกกับญาติพี่น้องให้ช่วยเลือกน้องเบอร์ 1 เข้ามาเป็นส.ส. ส่วนใครที่ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ แต่มีโทรศัพท์มือถือก็ขอให้ใช้สังคมโซเชียลมีเดียช่วยรณรงค์หาเสียงเลือกพรรคประชาธิปัตย์เข้ามา

 

เชียงใหม่ - คณะพยาบาลศาสตร์ มช. รับสมัครเข้าศึกษาต่อ 'หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล' (ภาคพิเศษ) ประจำปีการศึกษา 2565

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า เป้าหมายในการผลิตผู้ช่วยพยาบาลแต่ละปีเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการให้บริการด้านระบบสาธารณสุขของประเทศไทย หลักสูตรดังกล่าวได้การรับรองจากสภาการพยาบาล โดยผู้ช่วยพยาบาลที่สำเร็จการศึกษาทุกคนจะสามารถช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยขั้นพื้นฐาน ในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ด้านการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากอันตรายต่าง ๆ สามารถติดตามและบันทึกความเปลี่ยนแปลงอาการแสดงของโรค

รวมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์และสิ่งแวดล้อม ในการตรวจรักษาพยาบาล ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตลอดจนมีทัศนคติและมนุษยสัมพันธ์ที่ดีในการปฏิบัติงานร่วมกับผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลในหน่วยงานสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องได้

สำหรับคุณสมบัติ

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาหรือสำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าตามหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการรับรอง

2. อายุไม่ต่ำกว่า 16 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันเปิดเรียน

3. มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ทั้งร่างกาย จิตใจ และปราศจากโรค อาการของโรค หรือมีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาระยะเวลาของการเรียน หลักสูตรละ 1 ปี

>> ภาคทฤษฎี เรียนทุกวันพุธ–วันศุกร์ เวลา 16.30–20.30 น. และ วันเสาร์–วันอาทิตย์ เวลา 08.30–16.00 น.

>> ภาคปฏิบัติ ณ โรงพยาบาล และ แหล่งฝึกต่าง ๆ ภายในจังหวัดเชียงใหม่ สำเร็จการศึกษาได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีงานรองรับทันที

 

สุโขทัย - เทศบาลเมืองบางขลังสุโขทัย สร้างงานวิจัยสู่การท่องเที่ยวโดยชุมชน ที่มาของประเทศไทย

สถานการณ์ในปัจจุบันมีแนวโน้มส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน คือการพัฒนาการท่องเที่ยวให้เกิดความน่าสนใจควบคู่กับการมีความรับผิดชอบต่อทรัพยากรทางการท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม การคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของแต่ละแหล่งท่องเที่ยว “การท่องเที่ยวโดยชุมชน” เป็นการท่องเที่ยวทางเลือกที่สามารถกระจายรายได้ให้กับคนในพื้นที่ กลายเป็นรายได้เสริมให้กับชุมชน  ที่มาพร้อมกับทำให้คนในชุมชนเกิดความตระหนักเห็นความสำคัญ และคุณค่าของทรัพยากรในพื้นที่ ดำเนินการโดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนที่มีการบริหารจัดการและความพร้อมในการให้บริการแก่ผู้มาเยือน 

งานวิจัยเมืองบางขลังของเทศบาลตำบลเมืองบางขลังในปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชน นักวิจัยได้แก่ชาวบ้าน พนักงานเทศบาล พระสงฆ์ ครูอาจารย์ โดยได้รับส่งเสริมจาก ผศ.ดร.ชุลีรัตน์ จันทร์เชื้อ, ผศ.ดร.ศุภลักษณ์ วิริยสุมล, ผศ.วัลลิกา โพธิ์หิรัญ, ผศ.ดร.ขวัญชนก นัยจรัญ, กมลรัตน์ บุญอาจ และทีมงานจาก ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม  มีนายวิทยา เกษรพรหม ปลัด ทต.เมืองบางขลัง และรองปลัด นส.สุวรรณ ทรัพย์ศิริกาญจนา เป็นหัวหน้าโครงการ  

เมื่อปี 2556 สกว.สนับสนุนการวิจัย “การศึกษาอัจฉริยลักษณ์ชุมชนโบราณเมืองบางขลัง เพื่อพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน และ ทต.เมืองบางขลัง” ปี 2557 วช. สนับสนุนการวิจัย “การสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้มรดกวัฒนธรรมโดยเครือข่ายชุมชนโบราณเมืองบางขลัง 9 หมู่บ้าน” ปี 2559  สกว. สนับสนุนการวิจัย“การพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นเพื่อการท่องเที่ยวมรดกวัฒนธรรมเมืองบางขลัง” ปี 2562 สกว.สนับสนุนการวิจัย “การท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้วิถีชาวนาเมืองบางขลัง” ปี 2563 สกว. สนับสนุน ให้ ศ.ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีและมนุษยวิทยาของประเทศไทย พร้อมด้วย สุดารา สุจฉายา, เมธินีย์ ชอุ่มผล พร้อมคณะจาก มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์ และนิตยสารเมืองโบราณ ทำการวิจัย “ประวัติศาสตร์สังคมเมืองบางขลัง” อย่างรอบด้าน 

จากผลงานวิจัยทั้ง 5 เรื่องที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านเกิดการตื่นตัว รับรู้ถึงของดีมากมายที่มีอยู่ในท้องถิ่นตน เกิดความภาคภูมิใจ ในถิ่นฐานบ้านเกิด อยากเปิดบ้าน เปิดเมืองถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ พูดคุยให้ข้อมูลด้วยร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะ และมีความยินดีที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองบางขลัง

นายชาตรี สุขแจ่ม นายกเทศมนตรีตำบลเมืองบางขลัง พร้อมคณะผู้บริหาร เห็นว่า “การสร้างบ้านแปลงเมืองด้วยฐานงานวิจัยผ่านการท่องเที่ยวโดยชุมชน” มีความเป็นไปได้ภายใต้ปัจจัยที่มี  จึงได้หารือกับผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น คณะสงฆ์ ส่วนราชการ ผู้นำชุมชน นำองค์ความรู้มรดกวัฒนธรรมที่เป็นผลจากการวิจัย มาสร้างความหมายและการบูรณาการความรู้ของชุมชนกับการท่องเที่ยว เพื่อให้ชุมชนมีรายได้เสริมจากการท่องเที่ยว และเป็นการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดย ดำเนินการจัดตั้งกลุ่มโฮมสเตย์, จัดตั้งชมรมท่องเที่ยววิถีเมืองบางขลัง, ขับเคลื่อน “เมืองบางขลังสะอาดไร้ถัง” ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า, การพัฒนาทักษะอาชีพโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) 

เป็นที่น่ายินดีที่มีการรวมกลุ่ม “เมืองบางขลังโฮมสเตย์” ภายใต้การนำของ หทัยวรรณ โสรัจประสพสันติ (ครูบัว) จนได้รับมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย จากกรมการท่องเที่ยว  ผู้ประกอบการโฮมสเตย์เกิดการตื่นตัว อยากได้มาตรฐานโฮมสเตย์ไทย เกิดการเรียนรู้ ลงมือปรับปรุงโฮมสเตย์ของตน  ปัจจุบัน โฮมสเตย์บ้านแจ่มจ้า ได้รับการประเมินมาตรฐานเพิ่มมากขึ้น ผ่านเกณฑ์ คุณภาพที่พักนักเดินทาง HOME LODGE จากกรมการท่องเที่ยว มีการรวมกลุ่มจัดตั้ง “ชมรมท่องเที่ยววิถีเมืองบางขลัง” มีการจัดกิจกรรมในงานประเพณีของตำบลปีละ 2 ครั้ง ๆ ละ 3 วัน,  มีการนำสินค้าผลิตภัณฑ์ ออกไปขายร่วมกับชมรมท่องเที่ยวจังหวัดสุโขทัยอย่างต่อเนื่อง มีปราชญ์ชาวบ้าน ทั้งแดง ยศวิชัย, อุเทนลำไย, ประพันธ์ ฟุ้งเฟื่อง และอรณี พูลเลิศ เข้ามาให้การส่งเสริมภาคภูมิปัญญาท้องถิ่น     

ผลสำเร็จของคนชุมชนกับงานวิจัยสู่การท่องเที่ยวโดยชุมชนครั้งนี้ หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ของเทศบาลฯได้รับการคัดเลือกผ่านเข้ารอบ ชุมชนสะอาด “Zero Waste” ปี 2564 จากคนชุมชนมีทักษะอาชีพสร้างรายได้ให้แก่ตนเอง และครอบครัว โดยการนำวัสดุในท้องถิ่น วัสดุเหลือใช้มาทำดอกไม้จันทน์ ทำผลิตภัณฑ์จากเชือกกล้วย ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ ผลิตภัณฑ์จากผักตบชวาที่แก้ปัญหาน้ำเน่าเหม็นด้วย อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ต้อนรับ และขายให้แก่นักท่องเที่ยว เป็นจุดเรียนรู้ที่ให้นักท่องเที่ยวมาเรียนรู้ลงมือทำอีกด้วย ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง เห็นคุณค่า ความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถนำมาสร้างคุณค่าทางจิตใจ สร้างมูลค่าเป็นเงินรายได้ให้แก่ตนเอง แก่คนในชุมชนได้ ได้รับคัดเลือกจาก กสศ. เป็น 1 ใน 5 แห่ง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top