Sunday, 11 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

ตร.เตือน 3 ภัย!! ‘หลอกรักออนไลน์’ ช่วงวาเลนไทน์ รักมาก เปย์มาก สุดท้ายใจสลาย!!

วันที่ 14 ก.พ. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

ด้วยในวันที่ 14 ก.พ. ของทุกปี เป็นวันเทศกาลวาเลนไทน์ หรือที่เรียกกันว่าเทศกาลแห่งความรัก ที่คู่รักทั่วโลก รวมถึงคู่รักในประเทศไทยจะใช้โอกาสนี้ในการแสดงออกถึงความรัก ด้วยการส่งดอกไม้ ของขวัญ เงิน ให้คนรักเนื่องในโอกาสพิเศษนี้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่อาศัยโอกาสจากเทศกาลแห่งความรัก มาหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากพี่น้องประชาชน โดยอาชญากรรมออนไลน์ที่คนร้ายเป็นชาวต่างชาติใช้ความรักในการหลอกลวงเหยื่อหลัก ๆ มี 3 ประเภท ดังนี้

1. Romance Scam หลอกรักให้เปย์ แล้วเททิ้ง

คนร้ายเป็นแก๊งชาวผิวสี เริ่มต้นด้วยการสร้างบัญชีทางสื่อสังคมออนไลน์ปลอมโดยใช้รูปผู้อื่นส่วนใหญ่จะปลอมเป็นชาวยุโรป อเมริกัน หรือชาวตะวันออกกลาง ที่หน้าตาดี หล่อ รวย หน้าที่การงานดี มีการใช้ชีวิตที่หรูหราเข้ามาทักทายเหยื่อ(เป้าหมายคือหญิงไทยอายุ40ปีขึ้นไป)ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ แล้วสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันโดยอ้างว่าภรรยาเสียชีวิตหรือหย่าร้าง อยากใช้ชีวิตที่เหลือกับหญิงไทย โดยถูกใจเหยื่อมากใช้วิธีการแชทเรียกเหยื่อหวานหยดย้อย เช่น Darling, Sweetheart,My love พอเหยื่อหลงเชื่อและหลงรัก ก็จะเริ่มหลอกลวงเพื่อหวังเงินจากเหยื่อ

โดยจะใช้วิธีการต่าง ๆ ได้แก่ อ้างว่าจะส่งทรัพย์สินมีค่ามาให้ จากนั้นจะมีผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นคนไทยจะติดต่อเหยื่อโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรหรือบริษัทส่งของระหว่างประเทศ มีการเรียกเก็บภาษีหรือค่าปรับจากเหยื่อ , อ้างว่าป่วยแต่ประกันสุขภาพมีปัญหา ขอให้เหยื่อโอนค่ารักษาพยาบาลมาให้ , อ้างว่าได้รับมรดกจำนวนมากแต่ต้องมีการจ่ายภาษีมรดกก่อน ขอให้เหยื่อช่วยโอนเงินมาให้ และ อ้างว่าได้รับสัมปทานหรือทำสัญญากับภาครัฐ จะได้ผลกำไรจำนวนมาก ขอให้เหยื่อโอนเงินมาจ่ายให้กับภาครัฐก่อนทำสัญญา เป็นต้น เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะสูญเงินทั้งหมดไป

2. Hybrid Scam หลอกรักชวนลงทุน

คนร้ายเป็นแก๊งชาวจีน เริ่มต้นด้วยการสร้างบัญชีทางสื่อสังคมออนไลน์ปลอม โดยใช้รูปหญิงสาวสวยชาวเอเซีย น่าเชื่อถือ ลักษณะเหมือนนักธุรกิจ เข้ามาเข้ามาทักทายเหยื่อ(เป็นผู้ชายอายุ30ปีขึ้นไปที่เข้าใจระบบการลงทุนออนไลน์)ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ แล้วสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน พอเหยื่อหลงเชื่อหรือหลงรัก คนร้ายก็จะบอกกับเหยื่อว่ามีธุรกิจใหม่น่าลงทุน ผลตอบแทนสูง เช่น การเทรดค่าเงินต่างประเทศ อ้างว่าได้กำไรแน่นอน จากนั้นจะส่งลิงก์แอพพลิเคชัน มาให้เหยื่อติดตั้งในโทรศัพท์ และเริ่มมีการนำเงินมาลงทุน แรก ๆ จะได้กำไรจริง จากนั้นจะชักชวนเหยื่อให้เพิ่มวงเงินการลงทุน เมื่อเทรดแล้วได้กำไร การจะนำเงินออกจากระบบต้องจ่ายภาษี 30-40% เช่น ถ้าลงทุนได้กำไร 1,000,000 บาท ต้องโอนเงินประมาณ 400,000 บาท เจ้าระบบก่อน เมื่อเหยื่อโอนเงินเข้าระบบแล้ว ก็จะไม่สามารถถอนเงินออกได้ทำให้เหยื่อหลงเชื่อสูญเงินเป็นจำนวนมาก

3. Sextortion หลอกให้ถ่ายคลิปช่วยตัวเองแล้วเอามาแบล็คเมล์ (Blackmail) 

คนร้ายเป็นแก๊งชาวฟิลิปปินส์ เริ่มต้นด้วยการสร้างบัญชีทางสื่อสังคมออนไลน์ปลอม โดยใช้รูปหญิงสาวสวย เซ็กซี่ เข้ามาเข้ามาทักทายเหยื่อ(เป็นผู้ชาย ที่มีหน้าที่การงานมั่นคง มีฐานะดี เป็นที่นับถือในสังคม เป็นคนรักครอบครัว)ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ แล้วสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน พอเหยื่อหลงเชื่อจะขอ วิดีโอคอล ชักชวนให้เหยื่อถ่ายคลิปวิดีโอ ช่วยตัวเองหรือภาพลามกของเหยื่อส่งมาให้กับคนร้าย จากนั้นจะบันทึกภาพหรือคลิปของเหยื่อไว้ นำมาข่มขู่เอาเงิน หากไม่ยินยอมจะขู่ว่าปล่อยคลิปดังกล่าวสู่สาธารณะ หรือส่งให้ภรรยา ผู้บังคับบัญชาหรือเพื่อนของเหยื่อ จนเหยื่อต้องจำใจโอนเงินไปให้คนร้ายเพราะไม่อยากเสื่อมเสียชื่อเสียง

ระยอง - ความคืบหน้าในการขจัดคราบ ‘น้ำมันรั่ว’! หลังจากพบมีปริมาณคราบน้ำมันรั่วไหล รอบ 2

ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์และความคืบหน้าในการขจัดคราบน้ำมันรั่วไหล จังหวัดระยองอย่างต่อเนื่อง หลังจากพบมีปริมาณคราบน้ำมันรั่วไหล รอบ 2 เมื่อ 10 ก.พ. ซึ่งน้ำมันลอยอยู่กลางทะเลลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มบาง เจ้าหน้าที่ได้นำ Boom ล้อมคราบน้ำมันบริเวณจุดเกิดเหตุและใช้สาร dispersant ฉีดพ่นเพื่อสลายคราบน้ำมันที่รั่วไหล ซี่งคราบน้ำมันยังคงอยู่ที่ตำแหน่งเดิมเนื่องจากไม่มีกระแสลม จุดพิกัด 12°36'36"N  101°18"23E มีระยะห่างจากชายฝั่ง 3.67 กิโลเมตร ห่างจากชายหาดแม่รำพึงประมาณ 8 กิโลเมตร และห่างจากชายฝั่งเกาะเสม็ด 15 กิโลเมตร ซึ่งมีบูมที่ทำการล้อมคราบฟิล์มน้ำมัน รวมพื้นที่ 0.36 ตารางกิโลเมตร บริเวณดังกล่าวมีเรือเฝ้าระวังประจำจุดรั่วไหล จำนวน 11 ลำ ประกอบด้วย เรือ Boom จำนวน 6 ลำ และเรือพ่นสารเคมี จำนวน 5 ลำ และมีการกั้น Boom จำนวน 3 ปาก และมีการกั้น Boom บริเวณหน้าอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จำนวน 2 ปาก

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการตรวจติดตามเส้นทางการแพร่กระจายน้ำมันทางชายหาด และ คืนที่ผ่านมา กำลังพลจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ยังคงปฏิบัติหน้าที่ สำรวจชายหาด ทำความสะอาด เก็บขยะบริเวณโดยรอบชายหาดแม่รำพึง จ.ระยอง

เชียงใหม่ - ‘ซิลเวีย’ ศิรดา โล บูลโย่ นักศึกษาแพทย์ มช. คว้ามงกุฎนางสาวเชียงใหม่!! ประจำปี 2565

นางสาวศิรดา โล บูลโย่ ‘ซิลเวีย’นักศึกษาแพทย์ มช.  คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดนางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2565 พ่วงรางวัลขวัญใจสื่อมวลชน พร้อมทำหน้าที่ทูตสายสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่

บรรยากาศช่วงค่ำวันที่  13 กุมภาพันธ์ 2565  นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานปิดการประกวด นางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2565 ปีที่ 89 ของการเฟ้นหาผู้หญิงไทยเชื่อมโยงอัตลักษณ์ความเป็นล้านนาสู่สากล ในรอบชิงชนะเลิศ ณ บริเวณลานกิจกรรมตรงข้ามสวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมกัน มาให้กำลังใจและรับชมการ ประกวดอย่างคึกคัก

นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เรามีประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมล้านนารวมถึงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ อันเป็นอัตลักษณ์ทรงคุณค่า มีเสน่ห์ที่โดดเด่น เป็นปัจจัยที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งมาสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมร่วมกัน เกิดการประชาสัมพันธ์กันในวงกว้าง จนติดอันดับต้น ๆ ในการจัดอันดับเมือง ที่น่าเที่ยวที่สุดในโลกเป็นประจำทุก ๆ ปี

จังหวัดเชียงใหม่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประกวดครั้งนี้จะเป็นกิจกรรมที่จะช่วยประชาสัมพันธ์เชียงใหม่ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ (แลนด์มาร์กแห่งใหม่ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา)ขอขอบคุณองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่จัดการประกวดนางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2565 ตามคอนเซปต์ 89 ปี นางสาวเชียงใหม่ ความงามล้านนาสู่สากลได้เป็นอย่างดี ขอแสดงความยินดีกับนางสาวเชียงใหม่คนที่ 89 และผู้ที่ได้รับตำแหน่งทุก ๆ ตำแหน่ง

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า"การประกวดนางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2565"เพื่อขับเคลื่อนการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว ของจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งรองรับนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาลและนโยบายการเปิดเมืองของ จังหวัดเชียงใหม่ (CHARMING Chiang Mai) องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มีความพร้อมอย่างยิ่งในการจัดงาน "นางสาวเชียงใหม่ 2565" การประกวดในครั้งนี้เป็นปีที่ 89 ซึ่งถือว่าเป็นเวทีการประกวดที่ยาวนานที่สุดระดับต้นๆของประเทศไทย

การประกวดในครั้ง นี้ได้เปิดรับสมัครสาวงามทั่วประเทศ ได้ลงชิงชัย และแสดงศักยภาพของผู้หญิงไทยในการเชื่อมโยงอัตลักษณ์ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ในด้านการท่องเที่ยว ในช่วงเก็บตัวได้มีการประชาสัมพันธ์สินค้า บริการ ของผู้ประกอบการท้องถิ่น ผ่านสื่อต่าง ๆ ไปยังผู้ชมทั่วประเทศ สนับสนุนเชิงพาณิชย์ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรม เมืองแห่งมรดกโลก นำไปซึ่งการกระตุ้นในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ของเชียงใหม่ต่อไป

ขอแสดงความยินดีกับนางสาวเชียงใหม่ คนที่ 89 และผู้ได้รับตำแหน่งทุกตำแหน่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับการสนับสนุนจากทุก ๆ ท่านอีกครั้ง ในโอกาสต่อไป

และผู้ชนะเลิศการประกวดนางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2565 ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 30 นางสาวศิรดา โล บูลโย่ คว้ามงกุฎเพชร พร้อมสายสะพาย ป้ายเกียรติคุณ และเงินรางวัล 100,000 บาท ไปครอง นอกจากนี้ ยังคว้ารางวัลพิเศษ รางวัลขวัญใจสื่อมวลชนไปครองอีกด้วย

สำหรับรางวัลรองอันดับ 1 นางสาวเชียงใหม่ ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 10 นางสาววิชญฎา วิชญพงษ์กุล พร้อมคว้ารางวัลขวัญใจมหาชน

รางวัลรองอันดับ 2 ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 18 นางสาวสุพรรณิการ์ จำเริญชัย

รางวัลรองอันดับ 3 ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 26 นางสาวปฏิมาภรณ์ ขยันชม

และรางวัลรองอันดับ 4 ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 29 นางสาวปิยมน ปกปิงเมือง

สภาฯ ล่มซ้ำซาก!! แบบนี้การเมืองไทยจะไปต่ออย่างไร | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช EP.40

✨ กลับมาแล้ว!! Bangkok Design Week 2022 เทศกาลแสดงศิลปะบนพื้นที่กรุงเทพฯ หลังห่างหายไปนาน 2 ปี จากพิษโควิด19 ระบาด

✨ วัยรุ่นทะลัก!! ตอบรับ 'สวนเบญจกิติ' อย่างล้นหลาม

✨ สภาฯ ล่มซ้ำซาก!! แบบนี้การเมืองไทยจะไปต่ออย่างไร เมื่อบรรดานักการเมืองยังคงสนุกกับการเล่นการเมืองโดยไม่เห็นหัวประชาชนอยู่ไม่เลิก!!

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
.

.

โอลิมปิกฤดูหนาว 2022 'กีฬา - การเมือง - มิตรภาพ - คู่ขัดแย้ง' | MEET THE STATES TIMES EP.61

📌 โอลิมปิกฤดูหนาว 2022 'กีฬา - การเมือง - มิตรภาพ - คู่ขัดแย้ง' 
📌 เปิดฉาก!! มหกรรมกีฬาระดับโลก...บนสังเวียนโอลิมปิกฤดูหนาว!! 

👄 ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

💻 ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.

ประจวบคีรีขันธ์ - ‘หัวหิน’ เปิดเมือง! รับเทศกาลนักวิ่ง “ปั้นเทศกาลวิ่งหญิงไทย ให้ “ปัง” ระดับนานาชาติ” ครั้งแรก!!

เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่โรงแรมอมารี หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ร่วมกับ เทศบาลเมืองหัวหิน และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จับมือกัน “ปั้นเทศกาลวิ่งหญิงไทย ให้ “ปัง” ระดับนานาชาติ” เปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวและความมั่นใจในการสร้างสนามวิ่งมาตรฐานเพื่อผู้หญิง ตอกย้ำความมั่นใจด้วยศักยภาพของนักวิ่งหญิงและเชิญชวนทุกคนแสดงพลังเสริมสร้างความแข็งแรง ผ่านการวิ่งเพื่อเสริมสร้างกิจกรรมทางกายกับงานวิ่ง “Hua Hin Women’s Half Marathon 2022 Friendship’s Race with Nagoya Women’s Marathon” ก้าวไปสู่สนามในฝันเพื่อการวิ่งของผู้หญิงทุกคน 

โดยภายในงานแถลงข่าวมีการประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อ “หลักของการเดิน วิ่งสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะเพื่อผู้หญิง”รวมถึงการตอกย้ำถึงบทบาทของ สสส.ในการสร้างเสริมสุขภาวะ ผ่านการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในทุกกลุ่มประชากร 

โดย ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ความปลอดภัยในการเข้าร่วมงานวิ่งของผู้หญิงในมุมมองของวิทยากรที่หลากหลาย ทั้งคุณหมอ และนักวิ่งหญิง รวมถึงบทบาทผู้หญิงในการขับเคลื่อนสังคมผ่านสนามวิ่งผู้หญิงมาตรฐาน ความรู้จากคู่มือนักวิ่งสำหรับผู้หญิง และการบูรณาการงานกิจกรรมทางกาย ออกกำลังกาย กีฬา ที่แสดงออกถึงความเท่าเทียมจะสร้างโอกาสความมั่นใจให้ผู้หญิงในสถานการณ์โควิด  

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน.กล่าวว่าสสปน.ในนามผู้สนับสนุนการสร้างงานวิ่ง “Hua Hin Women’s Half Marathon 2022 Friendship’s Race with Nagoya Women’s Marathon” ให้เป็นสนามวิ่งมาตรฐานสำหรับนักวิ่งผู้หญิงในประเทศไทย ตามพันธกิจหลักของ สสปน.ในการดึงสิทธิ์งานที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างงานวิ่ง NAGOYA WOMEN’S MARATHON มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสนามวิ่งมาตรฐานที่ปลอดภัยและสร้างมิติใหม่ของมาตรฐานงานวิ่งสำหรับผู้หญิงในประเทศไทยบนพื้นที่ริเวียร่าพื้นที่ท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลไทยซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพสูงของประเทศไทยและเพื่อสร้างสรรค์ระบบนิเวศน์ของระบบเศรษฐกิจใหม่ 

ซึ่งหัวหินนับเป็นพื้นที่ที่ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพนั้นได้เป็นอย่างดีในหลาย ๆ งานที่ผ่านมา นับว่าเป็นการดึงดูดมวลชนเข้ามาในพื้นที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ รวมทั้งได้สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับนักวิ่งให้เกิดความประทับใจ และกลับมาใช้เวลากับพื้นที่หัวหินนี้อีกครั้ง  

ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่างานวิ่ง “Hua Hin Women’s Half Marathon 2022 Friendship’s Race with Nagoya Women’s Marathon” เป็นงานที่หลายหน่วยงานให้การสนับสนุนเพื่อย้ำชัดในการมุ่งมั่นในการเป็นสนามวิ่งมาตรฐานเพื่อผู้หญิงในระยะฮาล์ฟมาราธอน และเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจเมือง ชุมชน และผู้ประกอบการต่างๆ ให้กลับมาคึกคัก กระผมในฐานะตัวแทนของจังหวัดมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการเปิดเมืองต้อนรับนักวิ่ง รวมถึงผู้ติดตามที่เข้าร่วมงานทุกท่าน ขอให้ท่านมั่นใจและวิ่งด้วยความสุขตลอดเส้นทาง

ด้าน น.ส.บุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหัวหิน กล่าวว่าเทศบาลเมืองหัวหินมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ก้าวสู่การจัดงานจริงในพื้นที่ เพื่อย้ำชัดในความมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานดังกล่าวให้เกิดขึ้นจริง โดยเทศบาลเมืองหัวหินได้ให้การสนับสนุนทั้งด้านความปลอดภัยของเส้นทางวิ่ง การจราจร การอำนวยการด้านต่าง ๆ เป็นการเตรียมความพร้อมของพื้นที่ เพื่อต้อนรับการมาเยือนของนักวิ่งและผู้ติดตาม

“อลงกรณ์” เผย! ขบวนรถไฟสาย ‘จีน-ลาว’ ขนสินค้าเกษตรของไทย 20 ตู้ ถึงมหานครฉงชิ่งแล้วใน 6 วัน เร่งดันผลไม้ขึ้นรถไฟให้ทันฤดูกาลผลิตปี 65 รอเพียงจีนเปิดด่านตรวจพืชสถานีรถไฟโมฮ่าน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ว่า ขบวนรถไฟขนส่งสินค้าเกษตรของไทยล็อตแรก 20 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยรถไฟสายจีน-ลาว จากสถานีรถไฟเวียงจันทน์ใต้สู่ด่านรถไฟโมฮ่านของมณฑลยูนนานได้ขนส่งถึงมหานครฉงชิ่ง โดยใช้เวลารวมทั้งสิ้น 6 วันตั้งแต่เดินทางออกจากสถานีเวียงจันทน์ใต้เมื่อเวลา1 5.00 น. ของวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมาโดยใช้เวลาในสปป.ลาว 3 วัน และการเดินทางในจีนอีก 3 วัน โดยได้สรุปตารางเวลาที่ใช้ในแต่ละขั้นตอนจากไทยผ่านสปป.ลาว ข้ามพรมแดนจีนจนถึงภาคตะวันตกของจีนคือมหานครฉงชิ่ง เชื่อว่าจะสามารถลดเวลาในการขนส่งในอนาคตเหลือเพียง 4 วันเมื่อมีการปรับตัวการทำงานของทุกฝ่าย 

เป้าหมายต่อไปคือการเร่งเปิดบริการอย่างเป็นระบบ การลดเวลาการขนส่งตลอดห่วงโซ่โลจิสติกส์เพื่อขยายการขนส่งทางรถไฟสายนี้สำหรับสินค้าเกษตรที่สำคัญได้แก่ข้าว ยางพารา ผักผลไม้ มันสำปะหลัง ปาล์ม กล้วยไม้ น้ำตาลและสินค้าอุตสาหกรรมอื่น ๆโดยเฉพาะผลไม้เช่นทุเรียน มังคุด เงาะเป็นต้นโดยมีเป้าหมายให้สามารถขนส่งทางรถไฟให้ทันฤดูกาลผลิตปี 2565 ขณะนี้ฝ่ายไทยและสปป.ลาว พร้อมแล้วรอทางจีนเปิดทำการด่านตรวจพืช ณ สถานีรถไฟโมฮ่านภายใต้พิธีสารที่ได้ตกลงกันตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้วซึ่งได้ประสานขอความร่วมมือกับทางการจีนให้เร่งดำเนินการหลังเทศกาลตรุษจีนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้จะรายงานความคืบหน้าในการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้(Fruit Board)ในวันที่17 ก.พ.นี้

“นับเป็นขบวนสินค้าปฐมฤกษ์ของไทยที่สามารถเปิดบริการได้เป็นขบวนแรกและเป็นการเปิดศักราชใหม่ของนโยบายอีสานเกตเวย์ เชื่อมอีสานเชื่อมโลกด้วยเส้นทางรถไฟจีน-ลาวตามนโยบายของรัฐบาลโดยเฉพาะนโยบายโลจิสติกส์เกษตรของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์โดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน”

นายอลงกรณ์กล่าวว่า สื่อมวลชนในประเทศจีนให้ความสำคัญกับการขนส่งทางรถไฟจากไทยไปจีนเที่ยวแรกอย่างมากโดยเสนอข่าวกันครึกโครมและวิเคราะห์ว่าเร็วกว่าการขนส่งทางเรือถึง 4 เท่า ดังตัวอย่างข่าวที่แปลเป็นภาษาไทยที่ยกเป็นตัวอย่างมา ณ ที่นี้

“สินค้าทางการเกษตรของไทยที่ถูกขนส่งโดยรถไฟมาถึงจีนเป็นครั้งแรก เส้นทางรถไฟจีน-ลาวทั้งสองทางเปิดให้บริการแล้ว รถไฟบรรทุกข้าวเหนียวไทยปริมาณ 500 ตัน ขบวนแรกของรถไฟสายจีน-ลาว ได้ออกจากสถานีรถไฟเวียงจันทน์ใต้ในลาวและเดินทางมาถึงด่านโมฮ่านในมณฑลยูนนานของจีนเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2565 จากนั้นใช้เวลา 3 วันขนส่งถึงเมืองฉงชิ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีน

เป็นที่รู้กันว่าการขนส่งทางรถไฟนั้นใช้ระยะเวลาในการขนส่งน้อยกว่าทางทะเลถึง 4 เท่า โดยการมาถึงของสินค้าทางการเกษตรของไทยในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการเปิดให้เส้นทางรถไฟจีน-ลาวอย่างเป็นทางการทั้งสองทาง

เติมรักให้กัน ยิ่งให้ ยิ่งได้ใจ!! เดือนแห่งความรัก ชวนคนที่รัก กุมมือกันมา ‘บริจาคโลหิต’ ช่วยผู้ป่วยทั่วประเทศ!!

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เชิญชวนคู่รัก คู่จิ้น คู่ฟิน กุมมือกันมาเป็นคู่ เป็นกลุ่ม หรือเป็นครอบครัวร่วมแบ่งปันความรักให้เพื่อนมนุษย์ด้วยการบริจาคโลหิต ในโครงการ "เติมรักให้กัน ยิ่งให้ ยิ่งได้ใจ" ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2565

รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี มีเทศกาลวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก ซึ่งหลายๆ ท่าน มักใช้โอกาสนี้ แสดงความรัก ความห่วงใย และความรู้สึกดี ๆ ให้กัน การบริจาคโลหิต เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการแสดงออกถึงความรัก ที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ สามารถแบ่งปันได้ทุกวัน ด้วยการเป็น “ผู้ให้” โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และเพื่อบรรเทาภาวะการขาดแคลนโลหิต ในสถานการณ์ COVID-19 ระลอกใหม่ ที่กำลังระบาดขณะนี้ เพื่อจ่ายให้กับโรงพยาบาลใช้รักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ

พิเศษสุด! มาร่วมลุ้นเป็นเจ้าของตุ๊กตาน้องหมี “Big Bear” มากถึง 50 รางวัล กติกาง่าย ๆ เพียง

1. เป็นผู้บริจาคโลหิตทั่วประเทศ พร้อมโพสต์ภาพถ่ายบัตรผู้บริจาคโลหิตด้านหลัง แสดงวันที่บริจาคโลหิตชัดเจน ลงFacebook Fanpage: ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ใน Comment แบนเนอร์กิจกรรม

ไม่ต้องรอมี ส.ส.!! ‘กรณ์’ นำทีมพรรคกล้า! ลงพื้นที่แก้ ‘หนี้นอกระบบ’ หวังช่วย ‘คนจนเมือง’ ลืมตาอ้าปากได้!!

12 ก.พ.2565 เวลา 09.00 น. นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายนที ศิริธรรมวัฒน์ , นายธีรพงศ์ พงษ์ศิริเดชา ทีมพรรคกล้า กทม. จัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ชุมชนอินทามระ 29 แยก 4 โดยมีประชาชนร่วมรับฟัง โดยเฉพาะคนในชุมชน พ่อค้าแม่ค้า ที่มีปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งส่วนใหญ่จำเป็นต้องนำเงินมาหมุน เนื่องจากรายได้ลดลง เพราะสถานการณ์โควิด-19 

นายกรณ์ กล่าวกับชาวบ้านว่า วันนี้พรรคกล้ามารับฟังความต้องการของพี่น้องที่เจอปัญหา เพื่อประสานกับสถาบันการเงินให้เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือ ช่วยหาวิธีปลดภาระหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ทำให้รายได้ลดลงแม้รัฐบาลพยายามออกมาตรการเยียวยาต่าง ๆ แต่เป็นแค่การอุดช่องโหว่ ไม่ได้มาแก้ปัญหาสะสมที่มีอยู่ 

"สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันไม่มีใครมีไม่มีปัญหาเรื่องหนี้ ซึ่งตนเองเมื่อ 10 ปีก่อน ตอนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เคยออกนโยบายที่ยิงตรงแก้ปัญหาระดับประชาชน โดยหนึ่งในเรื่องที่ทำคือการแก้หนี้นอกระบบ ชาวบ้านรับภาระดอกเบี้ยที่สูงเกินสมควร ตั้งแต่ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ร้อยละ 10 หรือร้อยละ 20 ต่อเดือน ดังนั้น การช่วยชาวบ้านอันดับแรกต้องปลดหนี้ให้ หรือหาวิธีทำให้ภาระหนี้สามารถแบกรับได้ด้วยอาชีพปกติ ซึ่งวิธีการที่เคยใช้ คือการเอาเงินจากธนาคารของรัฐ โอนเข้าบัญชีเจ้าหนี้นอกระบบโดยตรง และโอนหนี้มาเป็นของรัฐ โดยลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ1 เพื่อให้ประชาชนมีกำลังจ่าย แบกรับภาระหนี้ได้ โดยปี 2552 มีประชาชนได้รับการช่วยเหลือถึง 5 แสนกว่าคน มีหนี้เสียไม่ถึงร้อยละ 1" นายกรณ์ กล่าว 

นายนที ศิริธรรมวัฒน์ ทีมพรรคกล้า กทม. ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการ กล่าวว่า วิธีแก้หนี้นอกระบบ ต้องปิดหนี้ดอกเบี้ยสูง หาเงินหมุนที่ดอกเบี้ยต่ำ โดยให้ประชาชนในชุมชนแจ้งจำนวนหนี้ ดอกเบี้ย รายได้ เงินหมุนทำมาหากิน โดยพรรคกล้าจะเป็นสื่อกลาง ประสานแจ้งปัญหาต่อสถาบันการเงิน 

Meet THE STATES TIMES 'เดอะ ดีเบต' | EP.1

📌ร่วมถกประเด็นร้อนในรอบสัปดาห์ ผ่านมุมมองสร้างสรรค์ และคมคิดที่น่าสนใจ ในรายการ Meet THE STATES TIMES ‘เดอะ ดีเบต’

🔥 ในประเด็นร้อน 🔥
1.‘สภาล่ม’ ล้มรัฐได้จริง? 
2. แสงสว่าง ปชต.! แก้ ‘ม.272’  ปิดสวิตช์ ส.ว.โหวตนายกฯ! 
3. ขายออนไลน์ต้องปากจัด?

🔥ไปกับ ‘โบว์ - ณัฏฐา มหัทธนา’ ดำเนินรายการโดย ‘หยก THE STATES TIMES’

ในรายการ Meet THE STATES TIMES ‘เดอะ ดีเบต’ ร่วมถกประเด็นสุด​ Exclusive​ ระหว่าง​ THE​ STATES​ TIMES​ และ​ 'โบว์​ ณัฏฐา'​

.

.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top