Saturday, 10 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

ปทุมธานี - ‘นายกแจ๊ส’ บริหารงาน 1 ปี ปปช.ประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสได้ 94.76 จากเดิมที่ไม่ผ่านสักปี!!

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09:00 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี , นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายก อบจ.ปทุมธานี , นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี , พล.ต.ท.อดุลย์ รัตนภิรมย์   ที่ปรึกษาพิเศษนายก อบจ.ปทุมธานี , นายธนศักดิ์ แป้นมุข ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี , นางจีระกิต อิศรวิชิตชัยกุล รองปลัด อบจ.ปทุมธานี , นางสาวกฤษฏาพร นาคถนอม หัวหน้าสำนักปลัด อบจ.ปทุมธานี ร่วมประชุมหารือนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อประชาชน หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยผลคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564

ซึ่งได้ดำเนินการประเมิน องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้คะแนน 94.76 ระดับการประเมิน A เปรียบเทียบปีที่ผ่านมา +33.47  ซึ่งที่ผ่านมาทาง อบจ.ปทุมธานีไม่เคยผ่านเกณฑ์การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส เช่น ปี พ.ศ. 2561 ได้ 79.37 ระดับ B ไม่ผ่านการประเมิน , ปี พ.ศ. 2562 ได้ 82.90 ระดับ B ไม่ผ่านการประเมิน , ปี พ.ศ. 2563 ได้ 61.29 ระดับ D ไม่ผ่านการประเมินในการดำเนินงานการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส มีการเก็บข้อมูลจาก 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 การเก็บข้อมูลจากบุคลากรในหน่วยงานภาครัฐ มี 5 ตัวชี้วัด ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 1 การปฏิบัติหน้าที่ , ตัวชี้วัดที่ 2 การใช้งบประมาณ , ตัวขชี้วัดที่ 3 การใช้อำนาจ , ตัวชี้วัดที่ 4 การใช้ทรัพย์สินของราชการ , ตัวชี้วัดที่ 5 การแก้ไขปัญหาการทุจริต ในส่วนที่ 2 การเก็บข้อมูลจากผู้รับบริการหรือผู้ติดต่อหน่วยงานภาครัฐ โดยสอบถามการรับรู้ และความคิดเห็นใน 3 ตัวชี้วัด ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 6 คุณภาพการดำเนินงาน , ตัวขชี้วัดที่ 7 ประสิทธิภาพการสื่อสาร , ตัวชี้วัดที่ 8 การปรับปรุงการทำงาน และส่วนที่ 3 การเปิดเผยข้อมูลทางเว็บไซต์ของหน่วยงาน เป็นการตรวจสอบระดับการเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐที่เผยแพร่ไว้ ทางหน้าเว็บไซต์หลักของหน่วยงาน มี 2 ตัวชี้วัด ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 9 การเปิดเผยข้อมูล , ตัวชี้วัดที่ 10 การป้องกันการทุจริต

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เราพึ่งจะเข้ามาทำงานได้ 1 ปี ซึ่งการประเมินความโปร่งใสของ ปปช.จะมีเกรด A B C ที่มา อบจ.ปทุมธานีอยู่ในระดับ C ถือว่าไม่ผ่านคะแนนความโปร่งใส เราจึงได้ดูย้อนไปในปีก่อน ๆ ก็ไม่ผ่านเลย เมื่อเรามาทำงานจึงมาดูว่าสาเหตุอะไรที่คะแนนถึงตกต่ำ ตั้งแต่วันแรกที่มารับตำแหน่งจึงได้หารือกับทีมงานผู้บริหารและหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้องทุกคน มีประเด็นอะไรบ้างที่ทำให้ อบจ.ปทุมธานี ไม่ผ่านการประเมินความโปร่งใส ซึ่งคะแนนตรงนี้ไม่ใช้เพียงแค่การประเมินการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างเดียว มีหลายองค์ประกอบกัน ทั้งงานเก่าที่ตกค้าง การประสานงานกับภายนอกหลายภาคส่วน หลายกองงานที่เรียกประชุม มีการวางแผนแต่ละกอง ในการปิดจุดอ่อนตรงนี้ อะไรที่แก้ไขได้ต้องรีบแก้และให้เร็ว เมื่อมีความโปร่งใส พี่น้องประชาชนต้องสามารถตรวจสอบได้ ต้องขอบคุณพี่น้องใน อบจ. หัวหน้าทุกหน่วยงาน ที่ช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จนคะแนนไต่ขึ้นมาที่ 94.76 อยู่ระดับ A หากได้คะแนน 95 เราจะได้ AA ถือว่าสูงสุด ผมจึงขอหารือกับน้อง ๆ ตลอดจนเพื่อนร่วมงาน จากที่ผ่านมาได้ร่วมกันทำงานเพียงปีเดียวเราขยับขึ้นมาถึงขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่าพนักงานในองค์กร พร้อมแล้วที่จะร่วมเดินกันไปข้างหน้าร่วมพัฒนาเมืองปทุมธานีของเราให้เป็นเมืองที่น่าอยู่น่าอาศัย คิดว่าองค์กรของเราจะขยับไประดับ AA แน่นอน ดังนั้นความดีความสำเร็จครั้งนี้มาจากเพื่อนร่วมงานทั้งหมดที่ช่วยกัน

นางสาวกฤษฏาพร นาคถนอม หัวหน้าสำนักปลัด อบจ. ปทุมธานี กล่าวว่า การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ในปี 2564 ทาง อบจ.ปทุมธานีได้คะแนนเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ  A เนื่องมาจากว่าการปฏิบัติหน้าที่ในการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน และความโปร่งใส รวมถึงความเสมอภาคของประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วม เน้นไปที่ภายในและภายนอก โดยการตรวจสอบภายในคือข้าราชการเจ้าหน้าที่ด้วยกัน ส่วนภายนอกคือผู้ที่มาติดต่อประสานงานกับ อบจ. มีความเชื่อใจในการประเมินประสิทธิภาพของ อบจ.และผู้บริหารของเราจึงได้คะแนนเพิ่มขึ้นมาในปีนี้

สำหรับในปี 2565 ทาง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ รูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้วางนโยบายในการทำงานเพื่อให้คะแนนได้เพิ่มขึ้นมาโดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพในการทำงานต้องเพิ่มมากขึ้น นางจีระกิต อิศรวิชิตชัยกุล รองปลัด อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า การทำงานของ อบจ.ปทุมธานี  ได้ทำตามนโยบายของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ รูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ทีมุ่งเน้นตามภาพรวมของประชาชนเป็นหลักที่จะให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากภาครัฐมากที่สุด เช่นเรื่องของถนนเส้นทางต่าง ๆ ด้านสาธารณภัย ที่สำคัญคือการใช้งบประมาณของท่านนายก อบจ.ปทุมธานีที่ใช้อย่างคุ้มค่า และสามารถตรวจสอบได้ ท่านให้ความสำคัญกับภาคประชาชนที่สามารถเข้ามาตรวจสอบการทำงานของเราได้ ทุกภาคส่วนจึงยอมรับว่าท่านมีความโปร่งใสในรูปของการปฏิบัติงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างทั่วถึงง

จันทบุรี - คณะกรรมการพิจารณาโครงการก่อสร้างสิ่งล่วงลำน้ำจังหวัดจันทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบการขออนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ก่อนพิจารณาแก้ไขปรับปรุงและอนุญาตการก่อสร้าง

วันนี้ (9 ก.พ.65) ที่ พื้นที่การขออนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงลำน้ำ นายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นำคณะกรรมการพิจารณาการก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบการขออนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจำนวน 4 แห่ง ก่อนสรุปเสนอแนะแก้ไขปรับปรุงและอนุญาตปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำต่อไป ซึ่งการขออนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำต้องไม่เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อแผนพัฒนาจังหวัด ผังเมือง แลการรักษาสภาพแวดล้อมของจังหวัดรวมทั้งกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

โดยครั้งนี้ คณะได้ลงพื้นที่การขออนุญาตปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ 4 แห่ง ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือขนาดไม่เกิน 20 ตันกรอส อ.ขลุงและท่าเทียบเรือแม่น้ำจันทบุรีบริเวณสะพานเกาะลอย ต.ตลาด อ.เมือง

การขออนุญาตปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำประเภทสะพานข้ามคลองเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ใช้ทางตามโครงการก่อสร้างโครงข่ายทางหลวงแผ่นดิน กิจกรรมก่อสร้างทางหลวงพัฒนาพื้นที่ระดับภาค เขตรอยต่อ ต.ท่าช้าง อ.เมืองและต.พลอยแหวน อ.ท่าใหม่

มุกดาหาร - นรข.เตือน!! นักท่องเที่ยวและประชาชน ไม่ออกไปตั้งวงดื่มกิน – เล่นน้ำ ตามเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง อาจเกิดอุบัติเหตุทางน้ำและอาจผิดกฎหมาย ย้ำ!พื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่ที่ท่องเที่ยว

ณ สถานีเรือมุกดาหาร นาวาโท เฉลิมศักดิ์ ไชยกิจ หน.สน.เรือ นรข.มุกดาหารเจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำเเม่น้ำโขง สถานีเรือมุกดาหาร (นรข.) ออกประกาศเตือนเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนและนักท่องเที่ยว เรื่องของสันดอนเกิดใหม่บริเวณกลางแม่น้ำโขงเนื่องจากปัจจุบันแม่น้ำโขงได้มีการลดระดับของน้ำลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีสันดอนเกิดใหม่เป็นจำนวนมากทำให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าใจว่าสามารถลงไปทำกิจกรรมเชิงการท่องเที่ยวได้เพราะเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยยังไม่ชัดเจนเสี่ยงทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศล่าสุดเจ้าหน้าที่ นรข.มองเห็นนักท่องเที่ยวพากันออกสนุกสนานกันที่สันดอนทรายซึ่งเกิดจากบริเวณกลางแม่น้ำโขง โดยไม่มีพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งติดต่อกันกับริมฝั่งโขงของประเทศไทย

ทั้งนี้ ในส่วนพื้นที่บริเวณนี้ อยากจะบอกกับประชาชนและนักท่องเที่ยวว่ามันไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวล่าสุดมีนักท่องเที่ยวบรรทุกเรือติดเครื่องยนต์ความเร็วมาที่ จ.มุกดาหารแล้วพากันขับเรือออกไปตั้งวงดื่มกินและเล่นน้ำอยู่สันดอนทรายกลางแม่น้ำโขงเนื่องจากระดับน้ำผันผวนหนักระดับน้ำจะหนุนขึ้นลดลงแต่ละวันไม่แน่นอน อาจเกิดอุบัติเหตุทางน้ำได้และสุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางน้ำและสุ่มเสี่ยงทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ

นาวาโท เฉลิมศักดิ์ ไชยกิจ หน.สน.เรือมุกดาหาร เปิดเผยว่า ในส่วนของสันดอนทรายมีสันดอนที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้นมันมีความแตกต่างกันกับหาดทราย ซึ่งหาดทรายจะต้องเป็นหาดทรายที่เกิดขึ้นจากฝั่งไทย เวลาน้ำลงก็จะเป็นหาดทรายยื่นออกมา โดยมันต่างจากสันดอนซึ่งเกิดจากบริเวณกลางแม่น้ำโขง โดยไม่มีพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งติดต่อกันกับริมฝั่งโขงของประเทศไทย ทั้งนี้ในส่วนพื้นที่บริเวณนี้ อยากจะบอกกับประชาชนว่ามันไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งล่าสุดมีนักท่องเที่ยวบรรทุกเรือติดเครื่องยนต์ความเร็วมาที่ จ.มุกดาหาร แล้วพากันขับเรือออกไปตั้งวงดื่มกินและเล่นน้ำอยู่สันดอนทรายกลางแม่น้ำโขงซึ่งสุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางน้ำและสุ่มเสี่ยงทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศย้ำพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่ที่ท่องเที่ยว เพราะอาจผิดกฎหมายระหว่างประเทศ

พิษณุโลก - ม.นเรศวร เปิดหอเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พร้อมเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ และอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาช่างสิบหมู่

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น. ศูนย์แสดงนิทรรศการและการประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก  ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีเปิดหอเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หอพระไตรปิฎก และห้องนิทรรศการช่างสิบหมู่

โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังษี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร  พร้อมด้วย นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และผู้บริหารจากมหาวิทยาลัย ให้การต้อนรับ

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดแสดงพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช รวมทั้งเป็นการพัฒนามหาวิทยาลัยให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ และอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาช่างสิบหมู่ให้คงอยู่สืบไป ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการและการประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก

หลังจากนั้น เยี่ยมชมหอเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (King Naresuan the Great Hall of Honor) จัดแสดงพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชตั้งแต่พระองค์พระราชสมภพ ศึกเมืองคังมีแผ่พระบรมเดชานุภาพ ประกาศอิสรภาพ และสงครามยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหาอุปราชา

หอพระไตรปิฎก มหาวิทยาลัยนเรศวร (Tripitaka Hall) จัดแสดงพระไตรปิฎก ที่เป็นหลักคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และรวบรวมบันทึกหลากหลายภาษาของหลายชนชาติ เช่น ภาษาพม่า ภาษาฮินดี ภาษาจีน และอื่น ๆ  ทั้งในรูปแบบหนังสือ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ห้องนิทรรศการช่างสิบหมู่ (Ten Divisions Of Traditional Thai Crafts) จัดแสดงงานศิลปกรรมต่าง ๆ ในหัวข้อ “มหาวิทยาลัยนเรศวรกับงานช่างสิบหมู่” เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญางานช่างสิบหมู่ที่เกิดจากการวิจัย ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ มาจัดแสดงในรูปแบบของนิทรรศการ เพื่อแสดงความก้าวหน้าทางด้านศักยภาพ และพัฒนาการด้านต่าง ๆ ตามพันธกิจของมหาวิทยาลัย และชมสาธิตการดุนโลหะดอกเสลาและดอกรวงผึ้งแบบประยุกต์ การปักไทย โดยศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร

 

นครนายก - สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ จัดประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการนครนายก

ที่แก่งน้ำซับ รีสอร์ท ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นายศิริรัฐ เข็มนาค นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการนครนายก คุณวกุล เข็มนาค รองนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการนครนายก นายสว่าง ทองไพ ผู้ประสานงานสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ พร้อมคณะ จัดการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการนครนายก

โดยมีคณะกรรมการบริหารสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการนครนายก เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงระเบียบวาระในการประชุมเช่นการแต่งตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติม พิจารณาแบ่งอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการสมาคม พิจารณาการจัดทำแผนเพื่อการขับเคลื่อนสมาคมฯให้เกิดการบูรณาการทั้งจังหวัดและกลุ่มจังหวัดฯลฯ เป็นต้น

ตามที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการนครนายก โดยมีมติที่ประชุมมอบหมายให้นายศิริรัฐ เข็มนาค ตำแหน่งนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการนครนายก ได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการนครนายก ต่อนายอำเภอเมืองนครนายก เพื่อให้จังหวัดนำเสนอต่อนายทะเบียนสมาคมจังหวัดนครนายกพิจารณา บัดนี้ นายทะเบียนสมาคมจังหวัดนครนายก ได้พิจารณารับจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการนครนายกให้มีฐานะนิติบุคคลแล้ว

“ณัฏฐ์ชนน” ฉะกลับ “มาดามเดียร์” ไม่ใช่หน้าที่จี้ รมต.ภท.ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล ซัดทำวุ่นวาย ควรรู้สถานะตัวเอง สอนให้รู้จักคำว่าหน้าที่ เป็น “มาดาม” ต้องให้เกียรติตัวเอง-ประชาชน

ที่รัฐสภา นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา และรองโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ส.ส.ภูมิใจไทย ไม่ได้มาร่วมประชุมสภาฯเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา จนทำให้องค์ประชุมสภาฯล่ม ว่า เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย บางส่วนติดโควิด - 19 และบางส่วนมีความเสี่ยงสูงต้องกักตัว แต่ขณะนี้ส.ส.พรรคภูมิใจไทยเหล่านั้นสามารถกลับเข้ามาร่วมประชุมสภาฯทำหน้าที่นิติบัญญัติให้สมบูรณ์แบบตามปกติแล้ว ขอให้ประชาชนมั่นใจ ว่าในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีส่วนที่จะทำให้สภาฯล่ม 

นายณัฏฐ์ชนน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือ มาดามเดียร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กแนะรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยที่บอยคอตประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากประเด็นการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่าควรพิจารณาตนเองควรร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่า คำว่ามาดามหมายถึงผู้หญิงหรือคุณนายหญิง ในประเทศไทยเราเรียกผู้หญิงที่ให้เกียรติหลายคน แต่ในวงการการเมืองจะน้อยมากที่จะเรียกว่ามาดาม ฉะนั้น คนที่ประชาชนให้เกียรติเรียกว่ามาดามเราก็ต้องให้เกียรติตนเอง และตำแหน่งด้วย รวมถึงต้องรู้จักตนเองด้วย วันนี้มีข่าวว่ามาดามเดียร์จี้รัฐมนตรีที่บอยคอตการประชุมครม.

ในฐานะมาดามเดียร์เป็นส.ส. ตนขอเตือนในฐานะที่เป็นส.ส.เหมือนกัน และในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล และกัลยาณมิตร โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ไม่ใช่เรื่องของส.ส. ดังนั้น เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ครม. นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หากเมื่อไหร่ที่เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯเมื่อนั้นมาดามเดียร์ในฐานะส.ส.สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ และต้องรู้จักสถานะตนเองด้วยว่าเวทีไหนเป็นเวทีของตนเอง ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็จะวุ่นวาย

“วันนี้ผมออกมาเตือนในฐานะที่เราเป็นเพื่อนกัน หากส.ส.ทั้ง 500 คนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายบริหาร ผมออกไปวิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคพลังประชารัฐ บ้านเมืองก็วุ่นวาย เราต้องรู้จักตนเอง ดังนั้นหน้าที่ใครหน้าที่มัน เราต้องทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของตนเอง หน้าที่เราคืออกกฎหมายและเตือนฝ่ายบริหาร แต่การเข้าร่วมหรือจะถอนตัวเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย และส.ส.พรรค ไม่ใช่หน้าที่ของมาดามเดียร์ ขอให้ตั้งสติทำหน้าที่ของตนเองให้ดีแยกให้ออก” นายณัฏฐ์ชนน กล่าว

เเมื่อถามว่า ทางพรรคได้มีการหารือว่าจะคุยเรื่องนี้กับนายกฯ อย่างไร นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า เรื่องนี้พรรคภูมิใจไทย โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้พูดคุยในครม.แล้วหลายรอบ และพวกตนในฐานะส.ส.ก็ทราบข่าวจากสื่อมวลชน ว่าประเด็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีการยื่นเอกสารให้ครม.ในช่วงเช้าวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเข้าครม.วานนี้ (8 ก.พ.) และหลังจากที่ทราบข่าวก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุมครม.

ฉะนั้นในประเด็นนี้พวกตนในฐานะส.ส.ไม่ทราบรายละเอียด และเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีของพรรคต้องไปคุยกับนายกฯ ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนิติบัญญัติหรือฝ่ายบริหาร ตนขอฝากไปยังครม.ทั้ง 30 คน ว่าประเด็นไหนที่เป็นเผือกร้อน ในขณะนี้ท่านต้องดูกฎหมายว่าการที่จะนำเข้าสู่การครม. ก็จะเป็นปัญหาอุปสรรคให้กับนายกฯ ก็อยากให้รัฐมนตรีแต่พรรคช่วยกันพิจารณาด้วย

เมื่อถามว่า หากปัญหานี้ยังอยู่จะเป็นปัญหาต่อการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า ไม่ใช่ปัญหา ตนคิดว่าน่าจะพูดคุยกันได้ ในมุมมองของนายศักดิ์สยาม และรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยมองประโยชน์ของประชาชน
 

เชียงใหม่ - ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมสนับสนุนโครงการ ‘ป้องกันไฟป่าและหมอกควัน บ้านดอยปุย’ ประจำปี 2565

นาวาอากาศโท มัธยัณห์ ไกรสรทองศรี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายปฏิบัติการ) นำผู้บริหารและพนักงานท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมกิจกรรม “โครงการป้องกันไฟป่าและหมอกควัน บ้านดอยปุย ประจำปี 2565” ณ บ้านดอยปุย หมู่ 11 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งสนับสนุนน้ำดื่มตราสัญลักษณ์ ทอท.จำนวน 3,000 แก้ว/ขวด และงบประมาณจำนวน 5,000 บาท สมทบกองทุนในการจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นยานพาหนะหลักที่ใช้ในการเข้าถึงพื้นที่เพื่อดับไฟป่าได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที 

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการบูรณาการร่วมกันทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและประชาชนจิตอาสาในชุมชน เพื่อลดและป้องกันปัญหาหมอกควันไฟป่า ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี ด้วยการจัดทำแนวกันไฟเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งถือเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ โดยในช่วงฤดูร้อนตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี มักจะเกิดไฟป่า ทำให้ต้นไม้และทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลาย เกิดปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจของประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ และบางครั้งยังมีผลต่อทัศนวิสัยการขึ้นลงของอากาศยานอีกด้วย

กระบี่ - ‘ปลาดาวทะเล’ สีแดงอมสีส้ม นับหลายร้อยตัว!! ยังคงหาดูได้ที่ อ่าวทึง ต.หนองทะเล อ.เมือง เขตอุทยานแห่งชาติ ‘หาดนพรัตน์ธารา- หมู่เกาะพีพี’ ซึ่งมีทรัพยากรธรรมชาติอันสมบูรณ์!!

นางสาวโรจนา บุญชูวงศ์ นายสถานีวิทยุกระจายเสียงองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย จังหวัดกระบี่ หรืออ.ส.ม.ท. จังหวัดกระบี่ และรักษาการ นายสถานีอ.ส.ม.ท.จังหวัดตรัง พร้อมคณะได้เดินทางเข้าพื้นที่อ่าวทึง ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา -หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่. เพื่อติดตามดูปลาดาวทะเล ซึ่งชาวบ้านบอกว่าจะพบเห็นได้ในช่วง วันขึ้น 1- 5 ค่ำ ของเดือน ในช่วง น้ำทะเลลดต่ำสุดจะเห็นแนวปะการังน้ำตื้นใกล้ฝั่ง และหญ้าทะเลน้ำตื้นที่ทอดเป็นแนวยาว กว่า 1 กิโลเมตร

นางสาวโรจนา บุญชูวงศ์ นายสถานีวิทยุอ.ส.ม.ท. จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่าได้พบเห็นแนวปะการังน้ำตื้น วางเรียงรายเป็นจำนวนมากและในแนวหญ้าทะเลน้ำตื้นยังอุดมสมบูรณ์ กว่า 1 กิโลเมตรจะมีปลาดาวทะเลตัวสีแดงอมสีส้ม วางเรียงรายเป็นแนวยาวนับหลายร้อยตัว และยังพบปลาดาวทะเลเผือกสีเหลืองอ่อน ๆ ด้วยจำนวนหนึ่ง สร้างความตื่นตาและ ประทับใจในความสวยงามเป็นอย่างมาก จึงได้ถ่ายภาพนิ่งและบันทึกภาพวิดีโอเอาไว้เป็นที่ระลึกและเตรียมนำเผยแพร่ทางสื่อวิทยุ สื่อโซเชียล เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักทั่วไปและเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาชมความสวยงามของปลาดาวทะเล ที่อ่าวทึง ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพีจังหวัดกระบี่ 

‘มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง’ จัดพิธีเวียนธูปศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน 2565 เพื่อตั้งจิตอธิษฐานองค์เทพยดาฟ้าดินและหลวงปู่ไต้ฮง ให้ปวงชนและประเทศชาติ อยู่เย็นเป็นสุข - ปราศจากโรคภัย - เฮง ๆ ตลอดปีขาล!!

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ พร้อมด้วยคณะกรรมการ และผู้บริหารมูลนิธิฯ ร่วมในพิธีเวียนธูปศักดิ์สิทธิ์ (ภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง) เพื่อตั้งจิตอธิษฐานเทพยดาฟ้าดิน (เจ้าแห่งสวรรค์) และหลวงปู่ไต้ฮง ช่วยดลบันดาลให้ศิษยานุศิษย์และสาธุชนประสบโชคดีตลอดปีใหม่ พร้อมกับสรรเสริญและขอพรจากเทพเจ้า ให้ปวงชนอยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากโรคภัย เฮง ๆ ตลอดปีขาล ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย

“พิธีเวียนธูป” เนื่องในเทศกาลตรุษจีนนั้น เป็นพิธีที่สำคัญพิธีหนึ่ง จัดขึ้นในวันประสูติของเทพยดาฟ้าดิน (ทีกงแซ) เจ้าแห่งสวรรค์อันเป็นที่เคารพกันทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็นภาษาใดเมื่อเป็นคนจีนแล้ว ท่านเป็นเทพเจ้าที่ต้องให้ความเคารพอย่างสูงเหมือนกันหมด และเพื่อเป็นสัญญาณว่าได้สิ้นสุดงานเทศกาลตรุษจีนแล้ว

โดยในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจึงได้งดจัดพิธีเวียนธูปรอบนอกศาลเจ้าฯ และปรับเป็นจัดพิธีเวียนธูปภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง โดยกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีตามมาตรการการป้องกันโควิด-19 

ตลอดระยะเวลาจัดงานเทศกาลตรุษจีน นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการฯ ได้จัดให้มีมาตรการคุมเข้มทั้งในด้านการตั้งจุดคัดกรองเพื่อตรวจวัดอุณหภูมิโดยเจ้าหน้าที่ที่มีองค์ความรู้ด้านการช่วยเหลือฉุกเฉิน การจัดตั้งจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ตามจุดต่าง ๆ การจัดทำสัญลักษณ์การเว้นระยะห่าง (Social Distancing) รวมถึงการขอความร่วมมือประชาชนผู้มีจิตศรัทธาสวมหน้ากากอนามัย สแกน QR Code แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ ทุกครั้งก่อนเข้าศาลเจ้าไต้ฮงกง และฝั่งสำนักงาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นอกจากนี้ยังจัดให้การฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ซึ่งมูลนิธิฯ ได้ริเริ่มดำเนินการอย่างเคร่งครัดเรื่อยมา เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชน และผู้มีจิตศรัทธาที่เดินทางร่วมทำบุญสาธารณกุศลกับมูลนิธิฯ โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีน มูลนิธิฯ จะมีมาตรการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสทุกวันหลังปิดทำการในแต่ละวัน

 

นครพนม - ปฏิบัติการฟ้าสางที่ฝั่งโขง!! ลุยจับผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ‘ยาเสพติด - อาวุธปืน’

ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ และผู้ทรงคุณวุฒิป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วย นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พลเรือตรี สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พันเอก ปราโมทย์ เนียมสำเภา รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พลตำรวจตรีธนชาติ รอดคลองตัน ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นายพรต ภูภักดิ์ ปลัดจังหวัดนครพนม และคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานตามยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง ที่ร่วมกันระดมกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่แบบต่อเนื่อง

โดยภายหลังการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งมีการจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ตรวจยึดยาบ้าได้ 440,054 เม็ด กัญชา 200 กิโลกรัม ไอซ์ประมาณ 100 กรัม รถมอเตอร์ไซค์ 1 คัน และเรือกีบ 1 ลำ ปรากฏว่าในช่วงเย็นเวลา 19.30 น. หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงได้รับการประสานงานข่าว ว่าจะมีกลุ่มขบวนการเคลื่อนไหว โดยให้เน้นตรวจสอบรถกระบะสีขาวติดลูกกรงและมีผ้าใบสีดำคุมอยู่ด้านหลัง เจ้าหน้าที่จึงได้มีการบูรณาการวางจุดสกัดและเฝ้าระวังกระทั่งเวลา 21.00 น. ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒฐ 6484 กทม.บริเวณสามแยกบ้านต้อง จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าตรวจค้น แต่บุคคลที่อยู่ในรถได้พยายามขัดขืนขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งเครื่องติดตาม เมื่อเห็นว่าจวนตัวบุคคลต้องสงสัยได้จอดรถทิ้งไว้ริมทางแล้ววิ่งหลบหนีหายไปในความมืดบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2104 บ้านดอนพัฒนา ตำบลพิมาน อำเภอนาแก เจ้าหน้าที่พยายามค้นหาแต่ไม่พบบุคคลต้องสงสัยจึงย้อนกลับมาตรวจสอบรถคันดังกล่าวปรากฏว่าบนรถมีของกลางเป็นกัญชา 25 กระสอบ รวมน้ำหนัก 1,056 กิโลกรัม

ขณะเดียวกันฝ่ายปกครองจังหวัดนครพนมร่วมกับกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดยกองบังคับการควบคุมที่ 1 ฝ่ายความมั่นคงอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิก อส. ก็ได้มีการลงพื้นที่ออกลาดตระเวน ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย และจัดระเบียบสังคมตามสถานที่ต่าง ๆ จนนำไปสู่การจับกุมและตรวจยึดใน 3 พื้นที่ ประกอบไปด้วย พื้นที่อำเภอท่าอุเทน ซึ่งเป็นการออกลาดตระเวนแล้วตรวจพบ รถจักรยานยนต์ที่คนขับมีท่าทางน่าสงสัยเมื่อเจอเจ้าหน้าที่ประกอบกับท้ายรถจักรยานยนต์มีกระสอบบรรทุกวัตถุบางอย่างไว้ ที่บริเวณสามแยกบ้านท่าดอกแก้ว ตำบลท่าจำปา จึงพยายามเรียกให้จอดเพื่อสอบถาม แต่คนขับได้พยายามเร่งเครื่องหลบหนี เมื่อจวนตัวก็ได้โยนวัตถุใส่หน้ารถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ที่กำลังขับติดตามทำให้รถเสียหลักและผู้ต้องสงสัยได้อาศัยจังหวะดังกล่าวหลบหนีไปได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบวัตถุปรากฏว่าเป็นยาบ้าจำนวน 72,000 เม็ด และฝิ่น 1,026 กรัม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top