Sunday, 11 May 2025
LITE TEAM

วันนี้เมื่อ 85 ปีที่แล้ว เป็นวันก่อตั้งสนามกีฬาแห่งชาติ หรือสนามศุภชลาศัย 

สนามศุภชลาศัย หรือ สนามกีฬาแห่งชาติ แต่เดิมมีชื่อว่า กรีฑาสถานแห่งชาติ (The National Stadium of Thailand) กรีฑาสถานแห่งชาติมีต้นกำเนิดจากการแข่งขันกรีฑานักเรียน ซึ่งจัดขึ้นในสนามกีฬาของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย แต่ต่อมาในปี พ.ศ. 2477 นาวาโทหลวงศุภชลาศัย อธิบดีกรมพลศึกษาคนแรก ได้มีดำริในการจัดหาสถานที่ตั้งสนามกีฬากลางกรมพลศึกษา, โรงเรียนฝึกหัดครูพลศึกษากลาง (คณะพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) และสโมสรสถานลูกเสือ (ที่ทำการคณะลูกเสือแห่งชาติ) จึงได้ทำสัญญากับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเช่าที่ดินขนาด 77 ไร่ 1 งาน

ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2480 มีพระราชพิธีวางศิลาฤกษ์ โดยคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ขณะเดียวกันก็ให้ย้ายการแข่งขันกรีฑานักเรียนไปจัดขึ้นที่ท้องสนามหลวงเป็นการชั่วคราว โดยในปีต่อมา กรมพลศึกษาจึงย้ายที่ทำการเข้ามาอยู่ภายในบริเวณกรีฑาสถานแห่งชาติ ซึ่งการใช้สนามกรีฑาสถานเป็นครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกรีฑาประชาชนชาย ประจำปี พ.ศ. 2481 ซึ่งเปลี่ยนสถานที่จัดมาจากท้องสนามหลวง

วันนี้ในอดีต มติสภาผู้แทนราษฎรได้เลือก ‘ทักษิณ ชินวัตร’ เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 โดยดำรงตั้งแต่ปีพ.ศ. 2544 ถึงปีพ.ศ. 2549

ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2537 ‘ทักษิณ ชินวัตร’ เข้าสู่วงการเมืองสังกัดพรรคพลังธรรม โดยการชักนำของ พลตรี จำลอง ศรีเมือง ต่อมาก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ. 2541 หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปปี พ.ศ. 2544 พรรคไทยรักไทยได้รับเสียงข้างมากในสภา จึงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยแรก

นโยบายเด่น ได้แก่ การขยายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การลดความยากจนและลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และการประกาศสงครามยาเสพติด ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบท

‘ทักษิณ ชินวัตร’ ดำรงตำแหน่งสมัยแรกจนครบวาระสี่ปี ผลการเลือกตั้งเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2548 ทำให้ทักษิณดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง ด้วยคะแนนเสียงสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ รัฐบาลทักษิณถูกกล่าวหาหลายอย่าง เช่น ละเมิดสิทธิมนุษยชน ฉ้อราษฎร์บังหลวง เป็นเผด็จการรัฐสภา มีผลประโยชน์ทับซ้อน และควบคุมสื่อ ส่วนข้อกล่าวหาของตัวทักษิณเอง ก็มีว่าเลี่ยงภาษี หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตลอดจนขายทรัพย์สินของบริษัทไทยให้นักลงทุนต่างชาติ เป็นต้น

รู้จัก 'อายตา' บิวตี้บล็อกเกอร์ที่ถูก 'พิมรี่พาย' ซัดแรง!! กับบทบาทการพลิกชีวิตติดลบ สู่ยูทูบเบอร์เงินล้าน

‘ยูทูบเบอร์’ อาชีพแห่งโลกยุคดิจิทัลที่ใคร ๆ ก็เป็นได้ เพียงแค่มีกล้องหรือสมาร์ตโฟนพร้อมถ่ายทอดเรื่องราวที่ต้องการนำเสนอภายในเวลาไม่กี่นาที ชื่อเสียงและรายได้กลายเป็นปัจจัยที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้หันมาประลองฝีมือด้านนี้กันมากขึ้น แต่ท่ามกลางการแข่งขันที่มียูทูบเบอร์เกิดใหม่ในทุก ๆ วัน ผู้ที่จะประสบความสำเร็จในสมรภูมินี้ได้นั้นก็ต้องมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครจริง ๆ

‘ศรสวรรค์ ใจมั่น’ หรือ EYETA (อายตา) ยูทูบเบอร์ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเธอเริ่มจากการเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์เขียนกระทู้รีวิวผ่านเว็บไซต์ Pantip.com ในชื่อ ‘อายตาห้าบาท’ ก่อนจะหันมาผลิตคอนเทนต์ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กและยูทูบ ระหว่างนี้เองที่เธอมองเห็นโอกาสจากแพลตฟอร์มออนไลน์ จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อมาทำแชนแนลของตัวเองอย่างเต็มตัว

ในวันนี้หลายคนรู้จักอายตาในฐานะยูทูบเบอร์สาวสวยอารมณ์ดีที่ส่งมอบความสุขให้ผู้ชม แต่เบื้องหลังรอยยิ้มของเธอเต็มไปด้วยทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคในชีวิต คลิปวิดีโอของอายตามักถูกพูดถึงบนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะคลิปนำเงินสด 1 ล้านบาทไปให้แม่ รวมถึงคลิปการเปิดเผยเรื่องราวชีวิตที่ยากลำบากในวัยเด็กเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจไปยังผู้ติดตามของเธอ

“อายตามองว่าคอนเทนต์ของเรามันคู่ควรกับคน 1 ล้านคนที่จะเห็นหรือยัง มันได้ให้อะไรเขาหรือเปล่า เพราะคนเหล่านี้แหละที่ให้อาชีพอายตา ทำให้อายตามีเงินซื้อบ้านให้แม่ ทำให้อายตาได้อยู่สุขสบาย คลิปวิดีโอของเรามันคุ้มค่ากับ 10 นาทีที่เขาจะเสียเวลาเข้ามาดูหรือเปล่า”

The State Times Lite พาไปพูดคุยกับ ‘อายตา’ ยูทูบเบอร์เงินล้านตัวจริงเสียงจริง พร้อมทำความรู้จักตัวตน ทัศนคติในการใช้ชีวิต รวมถึงเคล็ดลับของการทำงานเป็นยูทูบเบอร์มืออาชีพ แล้วคุณจะรู้ว่าทุกความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!

Q: จุดเริ่มต้นของ ‘อายตาห้าบาท’ และการเขียนกระทู้รีวิวในเว็บไซต์ Pantip.com
A: คำนี้เป็นชื่อที่ใช้ในเกมออนไลน์เวลาเล่นกับเพื่อน ชื่อสั้น ๆ มีคนใช้ไปแล้ว อายตาเลยคิดว่าใช้อะไรดีให้มันคล้องจองกัน ‘อายตาห้าบาท’ ละกัน แล้วก็ใช้เป็นชื่อล็อกอินใน Pantip ด้วย ตอนนั้นเรายังไม่เป็นที่รู้จักนะ ก็เหมือนผู้ใช้ทั่วไป นาน ๆ ทีถึงจะตั้งสักหนึ่งกระทู้ Pantip มีห้องโต๊ะเครื่องแป้งที่ดังมาก เราเห็นคนอื่น ๆ ไปซื้อหรือลองใช้ผลิตภัณฑ์นู้นนี่แล้วมาเขียนแชร์กัน เรารู้สึกว่ามันเข้าถึงง่ายดี ไม่จำเป็นต้องเป็นสื่อก็เขียนกระทู้ได้เหมือนกัน ก็เลยลองเขียนบ้าง แต่ตอนนั้นทำเป็นงานอดิเรกนะคะ หลังจากออกจากงานประจำมันมีเวลาว่างเยอะขึ้น ก็เลยมานั่งเขียน ถ่ายรูป ทำมาเรื่อย ๆ เลยค่ะ 

Q: ตอนนั้นเปิดช่อง Youtube ของตัวเองแล้วหรือยัง
A: ไม่ค่ะ อายตาเขียนเหมือนกระทู้นี่แหละ แต่ทำลงใน Facebook ทำโพสต์รูปที่เขาเรียกว่า ‘Tutorial How To แต่งหน้า’ ลงรูปสอนแต่งหน้าทีละสเตปแล้วก็เขียนบรรยาย เขียนเป็นบล็อก หลังจากนั้นเกือบปีมีการประกวดบิวตี้บล็อกเกอร์ เราต้องทำวิดีโอเข้าไปร่วมกิจกรรม นั่นเป็นครั้งแรกที่อายตาได้ทำวิดีโอ ก็ใช้มือถือถ่ายแล้วมานั่งตัดต่อ ตัดเองในคอมฯ เราก็ตัดไม่เป็นหรอก ก็เสิร์ชหาวิธีเอาว่าเขาใช้โปรแกรมอะไรที่ทำได้ง่ายๆ บ้าง เป็นครั้งแรกที่ได้โปรดิวซ์วิดีโอของตัวเอง ครั้งนั้นก็ไม่ชนะหรอก ได้เข้ารอบ 2 แต่ได้ประสบการณ์เยอะดี จากคนที่ไม่ได้ถ่ายวิดีโอเลย ไม่เคยทำตัดต่ออะไรเลย ซึ่งนั่นเป็นการเริ่มทำ Youtube ของอายตาในเวลาต่อมาค่ะ

Q: อายตามองเห็นโอกาสอะไรบนโลกออนไลน์ที่ทำให้รู้สึกว่าต้องหันมาจริงจังและหารายได้จากช่องทางนี้
A: อายตามองว่าโอกาสมันมีอยู่เยอะมาก ตอนแรกที่เริ่มทำ อายตาทำด้วยความสนุกสนาน มีไอเดียอะไรก็ทำขึ้นมาเอง ไม่ได้มีแรงกดดันอะไร แล้วพอทำได้สัก 1-2 เดือน ก็เริ่มมีเอเยนซี่มาชวน “น้องอาย! แบรนด์นี้เขาจะมีเปิดตัวผลิตภัณฑ์นะ ที่นี่ห้างนี้ น้องอายแวะไปไหม” เราเลยรู้สึกว่า ไอ้ที่เราทำอยู่ เขารู้จักเราด้วย เขารู้จักชื่อเรา แบรนด์ใหญ่ขนาดนี้ชวนเราไปงาน ก็ดีใจนะ ได้ไปเปิดโลก ได้เจอบิวตี้บล็อกเกอร์ท่านอื่น ๆ ได้เจอเอเยนซี่ ได้เจอแบรนด์ โอเค เราอาจไม่ได้ดังแบบดาราฮอลลีวูด แต่ก็มีคนรู้จักเรามากกว่าแต่ก่อน ทำให้เรามีเพื่อนในวงการนี้มากขึ้น แล้วก็เปิดโลกทัศน์มากขึ้น เวลาไปอีเวนต์ เราได้เจอเขา ได้เมาท์มอย ทำให้อายตารู้สึกว่าเออจริง ๆ บิวตี้บล็อกเกอร์มันสามารถทำให้ก้าวหน้าต่อไปได้นะ มันไม่ใช่แค่เราอยู่ในห้อง เราทำคลิปอยู่คนเดียว มันยังมีสังคม มีงานและมีเม็ดเงินของมัน

Q: รู้สึกกดดันไหมที่ได้เจอยูทูบเบอร์มืออาชีพคนอื่น ๆ ในขณะที่เราเพิ่งเริ่มต้นทำ
A: อายตาไม่กดดันเลย อาจเพราะอายตาไม่ใช่คนที่มีความรู้สึกแบบ ฉันไม่ชอบคนนั้น! ฉันเกลียดคนนั้น! มันไม่ใช่ความรู้สึกแบบนั้น อายตาจะมองทุกคนแบบเป็นเพื่อน ๆ กันหมด ในชีวิตอายตาไม่เคยมีความเกลียดใครหรืออะไรแบบนั้น พูดแล้วโลกสวยมาก (หัวเราะ) อาจเพราะตอนเด็ก ๆ อายตาเติบโตมาในครอบครัวที่จนมากเสียจนอายตาไม่ได้มีคู่แข่งในชีวิต เราอยู่เบื้องใต้ที่สุดของโลกใบนี้แล้ว เราจนที่สุด เราแย่ที่สุด เราอยู่สลัมที่สุด เราเลยไม่ได้มองว่าต้องไปแข่งกับใคร เราก็ทำงานของเราไป ไม่เป็นไรหรอกถ้าเราไม่ได้ดีกว่าเขา แต่เราก็ดีกว่าตัวเราเมื่อก่อนก็พอแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่ากดดันขนาดนั้น อายตากลับรู้สึกดีใจเสียอีกที่ได้เจอคนอื่น ๆ เพราะเวลาอายตาถ่ายวิดีโอ ส่วนมากทำอยู่ที่บ้านหรือสตูดิโอ ไม่ได้มีเพื่อนร่วมงานเยอะ แล้วการที่เจอคนอื่นมันเป็นการเปิดโลกเหมือนกัน โอ้ย! เจอมนุษย์คนอื่นแล้ว เพราะปกติอยู่บ้านทำงานคนเดียวมาตลอดจนน้ำลายบูดแล้ว

Q: หลังได้เข้าสู่วงการนี้แล้ว มองว่าสิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นยูทูบเบอร์คืออะไร 
A: ช่วงเริ่มทำเป็นช่วงที่ยากที่สุดเลย เพราะการเริ่มต้นสิ่งใหม่อะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะทำ Youtube หรือทำงานอื่นก็ตามมันยากมาก คนถามเยอะมากว่า “พี่อายตา หนูอยากเป็นยูทูบเบอร์บ้าง หนูอยากเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ หนูต้องทำยังไง ช่วงแรก ๆ วิวไม่ขึ้น ไม่มีใครดูวิดีโอหนูเลย” ตรงนี้คือสิ่งที่ยากมาก แต่ก็ต้องทำ สิ่งที่อายตารู้คือ เราต้องขยัน เราต้องมีความสม่ำเสมอในงานของเรา บางคนมีไฟเยอะมาก หนูจะทำไอเดียนี้ แต่หนูมีไอเดียแค่หนึ่งคอนเทนต์ แล้วไม่ลงอะไรอีกเลย คนจะลืมเราไป เพราะบนโลกนี้มีอินฟลูเอนเซอร์ให้เขาติดตามเยอะมาก อายตามองว่าสิ่งที่ยากที่สุดก็คือความสม่ำเสมอและความขยัน โดยเฉพาะงานนี้เป็นงานอิสระ ไม่มีเจ้านายประเมินปลายปี ไม่มีการขึ้นเงินเดือน เพราะฉะนั้นจะทำยังไงให้เราอยากตื่นเช้าแล้วลุกมาทำงาน บางคนพอไม่มีใครมาคอยตรวจงานก็จะกลายเป็นขี้เกียจไปเลย

Q: เชื่อว่าก่อนหน้านี้อายตาเองก็เคยผ่านการลองผิดลองถูกในการทำคอนเทนต์มาหลายครั้ง
A: การลองผิดลองถูกเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราไม่ลอง ถ้าเราไม่ผิดพลาด เราก็จะไม่รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์กหรือไม่เวิร์ก อย่างน้อยถ้าเราลองไป 10 ครั้งแล้วมันไม่เวิร์กเลยทั้ง 10 ครั้ง เราก็จะได้รู้ว่าทั้ง 10 คอนเทนต์นี้ไม่เวิร์กสำหรับเรานะ แต่มันจะต้องมีอะไรที่มันเวิร์กสำหรับเราบ้างแหละ เราแค่ยังไม่เจอ การที่เราอาจจะยังไม่ดัง คนตามไม่เยอะหรือคอนเทนต์ยังไม่ปัง ไม่ได้หมายความว่าเราล้มเหลวหรือผิดพลาด เหมือนคนที่เรียนจบแล้วแต่งงานเลย เขาอาจเจอคนที่ใช่ได้เร็ว แต่เราอาจจะยังไม่เจอคนที่ใช่ บางคนอายุ 50, 60, 70 ปีก็ยังแต่งงานใหม่อยู่เลย 

Q: แสดงว่าเคล็ดลับของอายตาคือการค้นหาสไตล์ของตัวเอง
A: บางทีคนเราสมัยนี้กดดันตัวเองว่าทำอันนี้แล้วจะต้องได้ยอดผู้ติดตามเท่านี้ ยอดแชร์เท่านี้ แล้วก็กดดันตัวเองจนสูญเสียความเป็นตัวเองไป แต่อายตาอยากจะแนะนำว่าสิ่งที่ดีที่สุดของการเป็นยูทูบเบอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์คือ ต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง แน่นอนว่าการลองนู่นลองนี่มันดี เพื่อให้เรารู้ว่าอะไรที่ใช่และอะไรที่ไม่ใช่สำหรับตัวเอง อายตาเองก็เคยลอง บางทีไปเห็นของคนอื่น อุ้ย! เขาทำอันนี้เก๋ว่ะ เดี๋ยวเราลองบ้างว่าทำแล้วจะสนุกไหม เราทำแล้วจะถูกจริตกับเราไหม เราก็ต้องเอามาปรับใช้ แต่อย่าเปลี่ยนไปเรื่อยจนลืมว่าเราเป็นยังไง บุคลิกเราเป็นยังไงหรือว่าไอเดียที่แท้จริงที่เราอยากทำมันเป็นยังไง เพราะท้ายที่สุดถ้าเราพยายามเปลี่ยนจนเสียความเป็นตัวเอง เราจะทำสิ่งนั้นได้ไม่นาน แต่ถ้าเรามีความสุขกับการทำคอนเทนต์แบบตัวเอง เฮ้ย! เราทำแบบนี้แล้วเริ่ด คนดูชอบ เราจะอยู่ได้นานและมีความสุขมากในทุกๆ วัน อายตาไม่เคยตื่นมาวันไหนแล้วรู้สึกว่าไม่อยากเป็นยูทูบเบอร์ แม้บางทีวิวมันน้อย บางที Engagement มันน้อย แต่อายตารู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่อายตาชอบและอายตาหาสิ่งที่อายตาชอบเจอแล้ว อายตามีความสุขในทุก ๆ วัน ก็เลยอยากให้ทุกคนหาสไตล์ของตนเอง ถ้าวันหนึ่งเราเจอ เราจะมีความสุขกับการทำงานมากค่ะ 

8 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ตรงกับ ‘วันขอแต่งงาน’ วันสำคัญวันหนึ่งของชาวอินเดีย

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ นับว่าเป็นช่วงเดือนแห่งเทศกาล แน่นอนว่าเทศกาลแรกๆ ที่คนนึกถึงคงไม่พ้น ‘วันวาเลนไทน์’ วันแห่งความรักที่เราจะเห็นผู้คนมากมายแสดงความรักต่อกัน และเฉลิมฉลองกันอย่างแพร่หลายในทั่วโลก

แต่รู้หรือไม่ว่าในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกุมภาพันธ์เอง ก็มีวันสำคัญเช่นเดียวกัน แถมยังเป็นวันที่คนต่างแสดงความรักให้กัน ไม่ต่างไปจากวันวาเลนไทน์อีกด้วย!!!

‘พินอคคิโอ’ ภาพยนตร์แอนิเมชันรางวัลออสการ์ ออกสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรก

พินอคคิโอ (Pinocchio) เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันขนาดยาวเรื่องที่สองของวอลท์ ดิสนีย์ โดยได้ออกฉายครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2483 โดยฝีมือการกำกับโดย Ben Sharpsteen

ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องพินอคคิโอ เป็นเรื่องราวการผจญภัยของหุ่นไม้ที่มีชีวิต กับพ่อผู้ยากจนของเขา เจปเปตโต ซึ่งเป็นช่างไม้ โดนลักษณะเด่นของหุ่นไม้มีชีวิตพินอคคิโอ มีที่รู้จักกันดี คือ เมื่อใดที่พูดโกหก จมูกของเขาจะยาวขึ้น

โดยเนื้อเรื่องแต่เดิมนั้น กอลโลดี นักประพันธ์ชาวอิตาเลียนนั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะเขียนเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องสำหรับเด็กตั้งแต่แรก เพราะในเนื้อเรื่องดั้งเดิม พินนอคคิโอ ปิดฉากลงด้วยการถูกแขวนคอตาย เนื่องจากทำความผิดนับครั้งไม่ถ้วน 

77 ปี กำเนิด ‘บ็อบ มาร์เลย์’ ราชาดนตรี ‘เร็กเก้’ ผู้พลิกวงการดนตรี

‘รอเบิร์ต เนสตา มาร์เลย์’ อาจจะเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูนัก แต่ถ้าพูดชื่อ ‘บ็อบ มาร์เลย์’ ขึ้นมาเชื่อว่าหลายคนต้องร้อง อ๋อ! โดยในวันนี้เมื่อ 77 ปีที่แล้ว ‘บ็อบ มาร์เลย์’ ได้กำเนิดขึ้นเกิดในเขตชนบทของประเทศจาเมกา โดยเขามีความสนใจและลุ่มหลงในดนตรีพื้นบ้าน (เร็กเก้) ของตนเองเป็นอย่างมาก ซึ่งดนตรีชนิดนี้เป็นที่นิยมในพวกผู้ใช้แรงงานผิวดำในประเทศ อีกทั้งเนื้อเพลงส่วนใหญ่กล่าวถึงการแสวงหาเสรีภาพ สะท้อนมุมมองทางด้านการเมือง การแบ่งแยกสีผิวและความไม่เท่าเทียมกันในสังคม

แน่นอนว่าความลุ่มหลงสนใจในดนตรีพื้นบ้านของเขา ได้หล่อหลอมให้เขากลายมาเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และนักดนตรีชาวจาเมกา ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกเพลงแนว 'เร็กเก' ให้กับชาวโลกได้รู้จัก อีกทั้งอาชีพนักดนตรีของเขามีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยการผสมผสานองค์ประกอบของเร็กเก สกา และร็อกสเตดดีเข้าด้วยกัน รวมถึงรูปแบบการร้องและการแต่งเพลงที่แตกต่างจากคนอื่น การมีส่วนร่วมในดนตรีของมาร์เลย์ช่วยทำให้ดนตรีจาเมกาและตัวเขาเป็นที่รู้จักในวัฒนธรรมประชานิยมในระดับสากลมานานกว่าทศวรรษ

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระกรุณาโปรดเกล้าฯ สร้าง ‘ถนนเจริญกรุง’ เป็นถนนหลักสายแรกของไทย!! 

‘ถนนเจริญกรุง’ เป็นถนนที่ ‘พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ’ ให้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2404 แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2407 มีความยาวจากถนนสนามไชยถึงดาวคะนอง 8,575 เมตร การก่อสร้างถนนเจริญกรุงนั้น เนื่องจากในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีชาวต่างประเทศเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ มากขึ้น และมีพวกกงสุลขอให้สร้างถนนสายยาวสำหรับขี่ม้าหรือนั่งรถม้าตากอากาศ 

ในปี พ.ศ. 2404 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค ต่อมาคือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ที่สมุหพระกลาโหมเป็นแม่กอง พระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมืองเป็นนายงาน รับผิดชอบในการก่อสร้างถนนช่วงตั้งแต่คูเมืองชั้นในถึงถนนตกริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตำบลบางคอแหลม เรียกว่าถนนเจริญกรุงตอนใต้ (แต่ชาวบ้านมักเรียกว่าเจริญกรุงตอนล่าง) กว้าง 5 วา 4 ศอก (ประมาณ 10 เมตร หรือเทียบได้กับถนน 4 เลน) โดยมีนายเฮนรี อาลาบาศเตอร์ (ต้นสกุลเศวตศิลา) เป็นผู้สำรวจแนวถนนและเขียนแผนผังถนน 

States TOON EP.47

ขอ ‘ผลลวง’ ด่วน!!

ติดตามการ์ตูนอัปเดตได้ทุกสัปดาห์…

“วันมะเร็งโลก” 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี มีเป้าหมายเพื่อรวมพลังช่วยชีวิต และปกป้องผู้คนหลายล้านคนจาก ‘โรคมะเร็ง’!!

โรคมะเร็งถือเป็นวายร้ายคุกคามสุขภาพอันดับต้นๆ ในศตวรรษที่ 21 โดยใกล้จะแซงหน้าโรคระบบหลอดเลือดและหัวใจเต็มที ทุกวันนี้เราแทบทุกคนมีคนใกล้ตัวที่เคยเผชิญหรือเฉียดใกล้กับโรคมะเร็ง การรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจในหมู่ประชาชนทั่วไปจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อปี ค.ศ. 2000 ในงานประชุม World Summit Against Cancer ที่ปารีส ตัวแทนจากประเทศต่างๆ ได้ร่วมกันกำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันมะเร็งโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อรวมพลังกันช่วยชีวิตและปกป้องผู้คนหลายล้านคนจากโรคมะเร็ง ด้วยการรณรงค์ให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโรคมะเร็งในทุกๆ ด้าน และร่วมกันผลักดันให้เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของรัฐบาลหรือหน่วยงานในภาครัฐของแต่ละชาติ

จากสถิติพบว่าในช่วงปี 1990 มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 8.1 ล้านคนในแต่ละปี จนเป็น 18.1 ล้านคนต่อปี ในปี 2018 และยังคงเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยมะเร็ง 3 อันดับแรก คือ มะเร็งปอด, มะเร็งเต้านมในผู้หญิง และมะเร็งลำไส้ และคาดการณ์ว่าหากทั่วโลกยังไม่ลงมือแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ภายในปี 2030 จะมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งจะมากกว่า 13.1 คนต่อปี
 

ดีแทค ช่วยร้านค้าย่อยกลับมายิ้ม เปิดรับเข้าร่วมโครงการสิทธิพิเศษ ‘ดีแทค รีวอร์ด’

ครั้งแรกจาก ดีแทค รีวอร์ด เปิดให้ร้านค้าเข้าร่วมโครงการเพื่อรับสิทธิพิเศษ และส่วนลดเพิ่มเติม ช่วยให้ร้านค้าเล็กๆ ได้กลับมายิ้ม และฟื้นตัวโดยเร็ว ภายใต้แคมเปญ ‘#ดีทั่วดีถึง’

นายฮาว ริเร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า วิกฤตโควิด-19 กว่า 2 ปีมานี้ไม่เพียงแต่ทำให้ร้านค้าหลายแห่งต้องถูกสั่งปิดจนเกิดความเสียหายเท่านั้น แต่ผลกระทบหลังการกลับมาเปิดตัวกิจการก็หนักหนาไม่แพ้กัน โดยเฉพาะร้านเล็กๆ ด้วยกำลังและต้นทุนที่ไม่อาจสู้รายใหญ่ได้ การกลับมาฟื้นตัวเหมือนเดิมต้องใช้เวลา ใช้แรงที่มากกว่า

ดีแทคจึงรวบรวมร้านเล็กๆ มาไว้ใน #ดีทั่วดีถึง reward ร้านเหล่านี้ไม่ได้เป็นร้านแบรนด์ใหญ่ หรือแฟรนไชส์ที่ทุกคนรู้จัก แต่เป็นร้านค้าที่ทุกคนไม่เคยรู้ว่าร้านเหล่านี้มีของอร่อย คุณภาพดี บริการด้วยความตั้งใจของเจ้าของร้านและพนักงาน โดยได้นำเอาจุดขายของสินค้าบริการในร้านมาเล่าเรื่องราวที่ชวนให้ทุกคนเข้ามาอุดหนุนด้วยรอยยิ้ม

ดีแทคขอร่วมเป็นหนึ่งแรงผลักดันให้ ร้านค้าเล็กๆ ได้กลับมายิ้ม กลับมาฟื้นตัวได้เร็วที่สุด จากแคมเปญ #ดีทั่วดีถึง reward ได้เล่าเรื่องราวความน่ารักของร้านค้า ผ่านวิดีโอ ออนไลน์ ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้รู้จัก และชวนกันมาอุดหนุนร้านเล็กๆ เพื่อให้พวกเขากลับมาฟื้นตัวได้เร็วที่สุด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top