Friday, 4 July 2025
Hard News Team

‘ศรีนวล’ แจงดราม่าติดป้ายคู่ ‘อนุทิน’ ปัดหาเสียง หวังแค่ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันฉีดวัคซีน ล่าสุดรื้อป้ายออกแล้ว หวั่นถูกเกมการเมือง-ป้ายแยงตาคนอื่น

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวชี้แจงถึงกรณีการขึ้นป้ายเชิญชวนให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่ อ.ดอยหล่อ สันป่าตอง จอมทอง และอ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีรูปของตนกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กระทั่งเป็นที่วิพากษ์ว่า ตนเองทำป้ายนี้ขึ้นมาเพื่อเชิญชวนประชาชนให้มารับวัคซีนกันเยอะ ๆ จะได้หยุดเชื้อเพื่อชาติ

โดยในพื้นที่เขต 8 ประกอบด้วย 4 อำเภอ มีประชากร 1.6 แสนคน มีประชาชนมารับวัคซีนเพียง 1,000 คน ยังไม่ถึง 1% จึงอยากช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนก็เท่านั้น นี่คือสิ่งที่ตัวเองตั้งใจ และอยากสร้างแรงจูงใจ กรณีที่ใส่รูปนายอนุทินบนป้ายประชาสัมพันธ์ด้วยนั้น เพราะเห็นว่านายอนุทินเป็นรมว.สาธารณสุข ไม่ได้มองเรื่องการหาเสียง ขอย้ำว่าเป้าหมาย คือต้องการเชิญชวนให้ประชาชนร่วมฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ

และตั้งแต่ติดป้ายประชาสัมพันธ์ไป 7 วัน ตอนนี้ประชาชนมารับวัคซีนทะลุเป้า ชาวบ้านมีความกระตือรือร้นขึ้นมาก ถ้าตนไม่ประชาสัมพันธ์ชาวบ้านก็ไม่รู้ กลัวฉีดแล้วตาย กลัวฉีดแล้วพิการ หรือบางคนคิดว่าการฉีดวัคซีนจะต้องเสียเงินเอง เราประชาสัมพันธ์ตรงนี้เพื่อบอกให้เขารู้ ซึ่งการทำป้ายดังกล่าวเป็นเงินของตนเองทั้งหมดโดยที่นายอนุทินไม่รู้เรื่องด้วย” น.ส.ศรีนวล กล่าว

ทั้งนี้ ป้ายดังกล่าวได้ประชาสัมพันธ์มา 7-8 วันแล้ว และล่าสุดได้เอาออกไปแล้ว เพราะถ้าติดป้ายไว้ต่อไปอาจจะหาย รวมอาจมีการกลั่นแกล้งหรือเล่นเกมการเมือง และกลัวไปแยงลูกตาคนอื่น จึงเห็นว่าควรจะเก็บดีกว่า

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า นอกจากนางศรีนวลแล้ว ยังมี ส.ส. และสมาชิกพรรคภูมิใจไทยอีกหลายราย มีการติดป้ายที่เป็นภาพตนเองคู่กับนายอนุทิน ในการเชิญชวนให้คนฉีดวัคซีน ซึ่งมีรูปแบบและข้อความคล้ายกัน เช่น นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย นายมณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 20 พรรคภูมิใจไทย เป็นต้น


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ความเหลื่อมล้ำ​จาก​ ‘วัคซีนพาสปอร์ต’ | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย​ อ.ต้อม -​ กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง 

คลิปนี้ชวนคิดไปกับเรื่อง 'วัคซีนพาสปอร์ต'​ ที่อาจจะทำให้เกิดชนชั้นใหม่​ แบ่งแยกผู้ที่ได้ฉีดวัคซีนและยังไม่ได้ฉีด​ จน​อาจจะนำมาสู่​ 'ความเหลื่อมล้ำ'​ บางอย่างทางสังคม

ในประเด็น​ น่าห่วง!! ‘วัคซีนพาสปอร์ต’ อาจสร้างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ให้แก่โลก’ 
.

.

สปส.ห่วงความปลอดภัยนายจ้าง ผู้ประกันตน แนะติดต่องานประกันสังคม ห่างไกลโควิด-19 ผ่านช่องทาง SSO e-Service หรือระบบออนไลน์

นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด เช่น การปิดสถานที่บางแห่งเป็นการชั่วคราว การงดจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งให้ลดการรวมตัวกันเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำนักงานประกันสังคมได้ตอบสนองมาตรการภาครัฐ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ ให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของผู้ประกันตน ผู้ใช้บริการ และอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมกับสำนักงานประกันสังคม ลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยที่ไม่ต้องเดินทางเข้ามายังสำนักงานประกันสังคม ได้หลากหลายช่องทาง ดังนี้

กรณีผู้ประกันตน ขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ว่างงาน และชราภาพ ท่านสามารถรับแบบขอรับสิทธิประโยชน์ได้ที่ช่องทาง download แบบฟอร์มขอรับประโยชน์ทดแทนใน www.sso.go.th และส่งแบบพร้อมเอกสารได้ที่ไปรษณีย์ลงทะเบียน (AR ตอบรับ) โทรสาร (Fax) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) แอพพลิเคชั่น (Line) รายละเอียดของแต่ละหน่วยงานท่านสามารถเข้าดูได้ที่ www.sso.go.th หรือ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับงานประกันสังคม สามารถติดต่อสอบถามที่หน้าเว็บไซต์ www.sso.go.th ผ่านช่องทาง E-mail : [email protected] Webboard (กระดานสนทนา) Live Chat รวมทั้ง Facebook.com/ssofanpage สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน

กรณีนายจ้างขอทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้นายจ้างเข้าช่องทาง e-Service ในเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th ในหัวข้อบริการอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อขอ User สถานประกอบการ และ Password เพื่อการนำส่งข้อมูลเงินสมทบ แจ้งผู้ประกันตน เข้า-ออก จากงาน หรือแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ประกันตน พร้อมชำระเงินสมทบของผู้ประกันตน ผ่านระบบ e-payment ได้ตลอดเวลา

กรณีการตรวจสอบข้อมูลของผู้ประกันตน สามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ประกันตน ส่งเงินสมทบ ยอดเงินชราภาพ และการรับสิทธิประโยชน์รวมถึงเงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ทุกกรณี โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลและสิทธิประโยชน์ ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ ช่องทางระบบสมาชิก ผู้ประกันตน ในเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือทางโทรศัพท์มือถือ สามารถดาวน์โหลด Application SSO Connect หรือสอบถามผ่าน facebook Messenger ของสำนักงานประกันสังคม หรือโทรสายด่วน 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สำนักงานประกันสังคมจึงขอความร่วมมือ นายจ้าง ผู้ประกันตน ใช้ช่องทางดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการรวมตัวกัน ป้องกันการแพร่กระจายไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี สำนักงานประกันสังคม พร้อมปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่มีความมุ่งมั่นช่วยเหลือป้องกันและควบคุมโรค เพื่อความมั่นคงต่อชีวิตและความปลอดภัยต่อสุขภาพของพี่น้องผู้ประกันตนเป็นสำคัญ

โฆษกรัฐบาล ยัน 31 พค.-2 มิย.นี้ สภาเปิดถกงบฯ 65 ส่วน อังคาร 2 มิย. ไม่เลื่อนปช.ครม.

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม คณะที่ปรึกษา และรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เพื่อติดตามภาพรวมของการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ว่า การประชุมวันนี้ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องพ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาท เพราะรายละเอียดเรื่องดังกล่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ชี้แจง แต่เป็นการหารือในภาพรวมแบบกว้าง ๆ โดยเฉพาะประเด็นการเยียวยาประชาชนในอดีตเพื่อนำมาพิจารณาต่อยอดโครงการเยียวยาที่กำลังจะมีขึ้น รวมถึงพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจว่าจำเป็นจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้นั้นจะยังไม่มีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 25 พ.ค.นี้ เนื่องจากต้องรอให้โครงการ ม.33 เรารักกัน และเราชนะเรียบร้อยเสียก่อนที่จะนำโครงการดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในช่วงเดือนมิถุนายน

นอกจากนี้ยังได้มีการหารือถึงเรื่องการพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณ 2565 ที่จะเข้าสภาวันที่ 31 พฤษภาคม-2 มิถุนายน โดยเน้นที่ประเด็นการที่การชี้แจง เรื่องการจัดสรรงบประมาณที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งนี้การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 2 มิถุนายนยังมีตามปกติ 

และมีการหารือประเด็นเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ที่จะเริ่มฉีดปูพรมในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ ว่าจะมีการจัดกลุ่มคนทำงาน ค่าบริการที่เป็นภาคบริการ ร้านอาหารโรงแรมให้ฉีดควบคู่ไปกับกลุ่มเสี่ยง เจ็ดโรค ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง

“กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย” ร่วมด้วยช่วยเพชรบุรีมอบเงินสนับสนุนโรงพยาบาลสนามจังหวัดเพชรบุรี 2 แสนบาท “ชาวเพชรฯ” ขอบคุณรัฐบาลส่งวัคซีนล็อตแรกถึงเพชรบุรีแล้ว “รมช.สาธิต” ยืนยันสธ.จะเร่งส่งวัคซีนล็อต2เพิ่มให้โดยเร็ว

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ว่า วันนี้กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยโดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมาย นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ที่ปรึกษารมช.พาณิชย์ นายอรรถพร พลบุตร คณะที่ปรึกษารมช.สาธารณสุข และดร.กัมพล สุภาแพ่ง คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ เป็นตัวแทนมอบเงินจำนวน 2 แสนบาทสนับสนุนจังหวัดเพชรบุรีสู้ภัยโควิดโดยเฉพาะโรงพยาบาลสนามที่จัดตั้งขึ้นหลายแห่งในจังหวัดเพชรบุรีเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิดโดยมีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะเป็นผู้รับมอบที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

นายอรรถพร พลบุตร ที่ปรึกษารมช.สาธารณสุขกล่าวว่า ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ. แจ้งมาล่าสุดว่าได้ส่งวัคซีนล็อตแรกมาให้จังหวัดเพชรบุรีเมื่อวานนี้และจะส่งวัคซีนล็อตต่อไปให้กับเพชรบุรีโดยเร็ว จึงขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีสาธิตและรัฐบาลแทนพี่น้องชาวจังหวัดเพขรบุรีเนื่องจากขณะนี้จังหวัดเพชรบุรีมียอดผู้ติดเชื้อโควิดจากคลัสเตอร์โรงงานแคลคอมพ์ในอำเภอเขาย้อยสูงเป็นลำดับต้นของประเทศและหวังว่ารัฐบาลเร่งส่งวัคซีนมาเพิ่มให้เพชรบุรีเพื่อระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิดโดยด่วนที่สุดโดยก่อนหน้านี้ได้ช่วยจังหวัดเพชรบุรีประสานกระทรวงสาธารณสุขผ่านดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพราะการระดมฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงจึงจะสามารถจัดการภัยโควิดในจังหวัดเพชรบุรีได้สำเร็จ

ดร.กัมพล สุภาแพ่ง คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวเพชรบุรีทุกคนและช่วยกันลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด วัคซีคทุกชนิดผ่านการรับรองจากอย.

นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยพาณิชย์กล่าวเสริมว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องเพชรบุรีและมอบหมายตนดูแลช่วยเหลือผู้ประกอบการค้าพาณิชย์ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด

ดร.ก่อนหน้านี้กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยได้มอบเงินสนับสนุนจังหวัดในภาคตะวันออกภาคเหนือภาคใต้และภาคกลางสู้ภัยโควิดได้แก่จังหวัดจันทบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดเพชรบุรีโดยสัปดาห์ต่อไปจะมอบให้กับภาคตะวันตกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดอุบลราชธานีตามลำดับ

“กองทัพบก” ยังงดสื่อมวลชนเข้าทำข่าวอย่างไม่มีกำหนด คงมาตรการจำกัดคน ป้องโควิดระบาด

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทางเลขานุการกองทัพบก ได้ประสานขอความร่วมมือสื่อมวลชนงดเข้ามาทำข่าว และงดใช้ห้องสื่อมวลชน ภายในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

ล่าสุดทบ.แจ้งว่ามีนโยบายแถลงข่าว​แบบออนไลน์​โดยอำน​วยความ​สะดวก​ให้กับสื่อสายทหาร​ ทั้ง​ ข่าวแจก ภาพนิ่ง และคลิปภาพประกอบ​ข่าว​ อีกทั้งภายใน​พื้นที่​บก.ทบ.เอง ยังคงมีมาตรการจำกัดจำนวนคนเข้าพื้นที่​ เพื่อป้องกัน​การระบาดของโควิด-19​ สำนักงานเลขานุการกองทัพบก (สลก.ทบ​.) จึงขอขยายระยะเวลาในการเข้าใช้พื้นที่ห้องสื่อมวลชนออกไปอีกสักระยะหนึ่ง

มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) เปิดเผยว่า รัฐบาลสิงคโปร์ได้อนุมัติการใช้เครื่องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทางลมหายใจ ซึ่งจะช่วยให้ทราบผลการตรวจหาเชื้อได้ภายใน 1 นาที

เครื่องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทางลมหายใจนี้ พัฒนาขึ้นโดยสตาร์ทอัพ Breathonix ของ NUS ซึ่งสามารถใช้งานได้ดีเหมือนกับเครื่องวิเคราะห์ลมหายใจระดับมาตรฐานทั่วไปที่ตำรวจใช้ทดสอบว่าผู้ขับขี่รถยนต์มีอาการมึนเมาเนื่องจากดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ โดยผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จะต้องเป่าลมเข้าไปในเครื่องตรวจ และลมหายใจของผู้เป่าจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับลมหายใจของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยใช้ซอฟต์แวร์ Machine Learning

หนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทมส์ของสิงคโปร์รายงานว่า สิงคโปร์จะคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้าประเทศผ่านทางมาเลเซียที่ด่านทูอัส ทางตะวันตกของประเทศ ด้วยการทดลองใช้เครื่องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทางลมหายใจ โดยผู้ที่มีผลการตรวจออกมาเป็นบวก ก็จะต้องรับการตรวจอีกครั้งด้วยวิธี PCR Swab Test เพื่อยืนยันผล

ปัจจุบัน สิงคโปร์ตรวจหาเชื้อผู้ที่เดินทางเข้าประเทศด้วยการตรวจแอนติเจนแบบรวดเร็ว (ART) ซึ่งอาจจะดำเนินควบคู่ไปกับเครื่องวิเคราะห์จากลมหายใจ

ทั้งนี้ การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ให้ผลลัพธ์แม่นยำและอย่างรวดเร็วอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้สิงคโปร์สามารถผ่อนคลายความเข้มงวดในอุตสาหกรรมการเดินทาง

 

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2021/90093


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ประธานาธิบดี บาร์ฮัม ซาเลห์ แห่งอิรัก แถลงเงินรายได้จากน้ำมันถูกปล้นไปจากอิรักประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์ นับแต่สหรัฐฯ นำกองกำลังพันธมิตรบุกโค่นรัฐบาล ซัดดัม ฮุสเซน เมื่อปี 2003

ประธานาธิบดี บาร์ฮัม ซาเลห์ แห่งอิรัก แถลงเมื่อวันที่ 23 พ.ค.64 ว่า เงินรายได้จากน้ำมัน ถูกปล้นไปจากอิรักประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่สหรัฐฯ นำกองกำลังพันธมิตรบุกโค่นรัฐบาล ซัดดัม ฮุสเซน เมื่อปี 2003

“รายได้เกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่เราได้จากการขายน้ำมันตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา มีอยู่ประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์ที่ถูกปล้นไปจากอิรัก” ซาเลห์ แถลงผ่านสื่อโทรทัศน์

โดยหากย้อนกลับไปในปี 2003 นั้น ก็นับเป็นปีที่สหรัฐอเมริกาเริ่มนำกองกำลังพันธมิตรบุกโค่นรัฐบาล ซัดดัม ฮุสเซน เมื่อปี 2003

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ ซาเลห์ ได้เสนอร่างกฎหมายว่าด้วยการทวงคืนเงินทุนทุจริต (Corrupt Funds Recovery Act) ต่อรัฐสภา

“ร่างกฎหมายฉบับนี้จะช่วยเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่ประชาชาติอิรัก ทวงคืนเงินรายได้ที่ถูกปล้นไปจากการทำสัญญาทุจริต และนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” ซาเลห์ กล่าว

ผู้นำอิรักเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาร่วมกันอภิปรายและผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งเสนอให้มีการติดตามทวงคืนเงินที่ถูกขโมยโดยอาศัยความร่วมมือกับรัฐบาลต่างชาติและองค์กรระหว่างประเทศ

เขาเชื่อว่าวงเงินที่ถูกขโมยไปมากพอที่จะฟื้นสถานะทางการคลังของอิรักให้ดีขึ้นได้ และร่างกฎหมายใหม่ “จะช่วยแก้ไขปัญหาการทุจริตฉ้อโกงที่ลิดรอนโอกาสประชาชนในการเข้าถึงความร่ำรวยของประเทศมานานหลายปี”

“วันนี้ผมขอย้ำข้อเรียกร้องของอิรักที่เราได้กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติไปแล้วว่า ขอให้มีการตั้งกลุ่มพันธมิตรนานาชาติเพื่อต่อต้านการคอรัปชัน ในลักษณะเดียวกับพันธมิตรต่อต้าน ISIS (กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส)

“ลัทธิก่อการร้ายจะถูกกำจัดหมดไปได้ ก็ต่อเมื่อเราปิดกั้นแหล่งเงินทุนของพวกเขาที่มาจากการทุจริตคอรัปชัน” ซาเลห์ เอ่ยเสริม

ปัจจุบันอิรักยังคงล้มเหลวในการฟื้นคืนเสถียรภาพหลังตกอยู่ท่ามกลางสงครามและมาตรการคว่ำบาตรมาหลายสิบปี โดยตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมามีชาวอิรักหลายร้อยคนที่ต้องเสียชีวิตจากการเดินขบวนต่อต้านพฤติกรรมทุจริตของรัฐบาล ตลอดจนปัญหาการว่างงาน และบริการขั้นพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้าและน้ำสะอาดที่ยังไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตามสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ โจ ไบเดน มีแผนที่จะถอนทหารอเมริกันทั้งหมดออกจากอิรัก หลังจากที่กองกำลังความมั่นคงท้องถิ่นมีศักยภาพสูงขึ้น อีกทั้งภัยคุกคามจากกลุ่มไอเอสก็ลดลงมาก

โดยล่าสุดสหรัฐฯ มีทหารประจำการอยู่ในอิรักราว 2,500 นาย โดยเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังเฉพาะกิจร่วมผสม-ปฏิบัติการแก้ปัญหาจากต้นกำเนิด (Operation Inherent Resolve) ที่มุ่งขจัดกลุ่มนักรบที่ยังหลงเหลืออยู่ของ “รัฐคอลีฟะห์” ที่ไอเอสเคยสถาปนาขึ้นบนพื้นที่กว้างขวางของอิรักและซีเรียเมื่อปี 2014

 

ที่มา: https://mgronline.com/around/detail/9640000049945


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

'จีน’ ผนึก ‘รัสเซีย’ เปลี่ยนโลกด้วย ‘การทูตวัคซีน | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

News Gen Times ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย​ อ.ต้อม -​ กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง 

คลิปนี้ชวนคิดไปกับการเคลื่อนไหวแบบไม่ยอมกันของกลุ่มประเทศมหาอำนาจ​ ที่กำลังช่วงชิงพื้นที่ภูมิรัฐศาสตร์โลก​ ผ่านวัคซีน!! 

ในประเด็น​ >> จับตา ‘จีน’ ผนึก ‘รัสเซีย’ เกมเปลี่ยนการเมืองโลก ผ่านสงคราม ‘การทูตวัคซีน’ 
.

.

'ล็อกเป้า เล็งทิศ' เศรษฐกิจระยะสั้นและภาพเศรษฐกิจไทย ใน 5​ ปี พร้อมแผนจุดติดเศรษฐกิจไทย หลังยุคโควิด

(24 พ.ค. 64) สัมมนาวิชาการ ประมาณการเศรษฐกิจระยะสั้นและภาพเศรษฐกิจไทยใน 5 ปีข้างหน้า “EEC Macroeconomic Forum” ในรูปแบบออนไลน์ (VDO conference) โดยมี ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นผู้ดำเนินการ และมีผู้เข้าร่วมสัมมนา ได้แก่...

ดร. ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเสถียรภาพระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ดร.พิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง นายพงศ์นคร โภชากรณ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และนายสุวิทย์ สรรพวิทยศิริ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง พร้อมกลุ่มผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชน และผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมกว่า 600 คน

สัมมนาวิชาการฯ ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในช่วงโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่นักวิชาการเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ร่วมหารือแนวทางเตรียมพร้อมแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับ 13 (พ.ศ. 2566-2570) เพื่อผลักดันเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติก่อนโควิด-19 แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำให้เศรษฐกิจไทยก้าวไปข้างหน้าและเติบโตอย่างยั่งยืน

โดยการสัมมนาวิชาการฯ ได้นำเสนอภาพเศรษฐกิจไทยว่าจะเติบโตจากปัจจัยใดหลังโควิด-19 อาทิ...

>> การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ต้องเร่งปรับตัวไปสู่อุตสาหกรรมและบริการที่สร้างมูลค่าสูงขึ้น เพิ่มเทคโนโลยีการผลิต และส่งออกสินค้าให้เท่าทันโลก

>> ความจำเป็นของข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับประเทศอื่น ๆ รวมทั้งการกระจายความเท่าเทียม สร้างโอกาสทางรายได้และการศึกษา

>> การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อลดความเหลื่อมล้ำอันจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

สำหรับประเด็นสำคัญ สัมมนาประมาณการเศรษฐกิจระยะสั้นและภาพเศรษฐกิจไทยใน 5 ปีข้างหน้า พบว่า...

เศรษฐกิจไทยปี 2564-2565 และการบริหารภายใต้สถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยที่ต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้น โดยประมาณการเศรษฐกิจปี 2564 กรอบการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยอยู่ระหว่าง 1.0-2.0% และปี 2565 จะขยายตัวระหว่าง 1.1-4.7% ซึ่งการเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จะเป็นเงื่อนไขสำคัญของการฟื้นตัว และมาตรการการคลังของภาครัฐมีความสำคัญช่วยบรรเทาเยียวยาได้ ให้ระดับหนี้สาธารณะยังอยู่ในเกณฑ์ รวมทั้งนโยบาย

ด้านการเงิน ซึ่งได้ดำเนินการเต็มที่ ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดประวัติการณ์ และมาตรการช่วยเหลือประชาชน เอสเอ็มอี ผ่านสถาบันการเงิน จะช่วยคลายความกังวล อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ให้มีแนวโน้มลดต่ำลง และช่วยลดการซ้ำเติมปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยจากโควิด-19

มาตรการเยียวยา กระตุ้นเศรษฐกิจ และประมาณการความยั่งยืนทางการคลังในระยะปานกลางจากมาตรการบรรเทาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ จาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท รัฐบาลได้อนุมัติโครงการแล้ว 8.3 แสนล้านบาท คิดเป็น 83% ของวงเงิน และครอบคลุม ด้านสาธารณะสุข ด้านผลกระทบระยะสั้น และด้านการฟื้นฟูระยะยาว

ทั้งนี้ ในส่วนหนี้สาธารณะของไทย ณ สิ้นเดือนมีนาคม อยู่ที่ระดับ 54.3% ต่อ GDP ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์กรอบวินัยการเงินการคลังที่ไม่เกิน 60% และอยู่ในวิสัยที่ประเทศไทยเคยเผชิญจากวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 ด้านการก่อหนี้ภาครัฐ ส่วนใหญ่เป็นการกู้เงินในรูปแบบเงินบาท ไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติ โดยการกู้เงินเพิ่ม 7 แสนล้านบาท นั้น อาจส่งผลต่อหนี้สาธารณะขั้นต้น (Gross debt) เกินกว่า 60% ต่อ GDP เล็กน้อย แต่จะไม่กระทบต่อความยั่งยืนของการคลังในระยะปานกลาง ทั้งนี้ ประเทศไทยยังจำเป็นต้องมีหนี้สาธารณะระดับไม่น้อยกว่า 30% ต่อ GDP เพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาดพันธบัตร (Bond) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ และสร้างเสถียรภาพด้านการเงิน

ความเหลื่อมล้ำ : โจทย์สำคัญหลังโควิด-19 ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยจะมีโจทย์สำคัญ 3 ด้าน ที่ต้องเผชิญ ได้แก่

การเติบโตที่ไม่สมดุลเชิงพื้นที่ จากความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นก่อนโควิด-19 เมืองหลักที่เป็นเมืองเศรษฐกิจมีเพียง 15 จังหวัด คิดเป็น 70% ของ GDP ประเทศ เมืองรองยังคงเป็นจังหวัดที่ยากจน โดยโควิด-19 ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานกลับด้าน (Reverse trend) ย้ายออกเพราะตกงาน และย้ายเข้าเมืองหลวง เพื่อหางานทำ ความยากจนเหลื่อมล้ำเรื้อรัง โควิด-19 ทำให้คนจนเพิ่มขึ้นทั่วโลก 15 ล้านคน เป็นคนไทย 1.5 ล้านคนจากฐานคนจนเดิม 4.3 ล้านคน ส่งให้ผลคนจนในไทยเพิ่มขึ้นรวม 5.8 ล้านคน (เท่ากับจำนวนคนจนปี 2559)

การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เต็มรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมี 30 จังหวัด ที่เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยแล้ว​ โดยสหประชาชาติประเมินว่า ในปีหน้า 2565 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Aged society) และในปี 2573 จะเข้าสู่อย่างเต็มที่ (Super aged society) และในอีก 10 ปี ประชากรและวัยแรงงานของไทยจะลดลงต่อเนื่อง ส่งผลต่อภาระการคลัง และการขยายตัวของเศรษฐกิจที่จะมีศักยภาพลดลง

ในส่วนของประมาณการศักยภาพของประเทศ ในแผน 13 (5 ปีข้างหน้า) นั้น​ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้รายได้ของประเทศ หายไปสูงถึง 2.2 ล้านล้านบาท และเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ เป็นชนวนสำคัญเร่งเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยหลังโควิด-19 จะขยายตัวต่ำกว่า 2% ต่ำกว่าช่วงปกติก่อนโควิด-19 ที่ประมาณการไว้เพียง 3-4 % ซึ่งเป็นเกณฑ์ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น

ทั้งนี้ การจัดทำแผน ฯ 13 ในปี 2565 ที่ต้องการให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวจาก 2.5% เป็น 4.5% จำเป็นต้องเกิดการลงทุนเพิ่มปีละ 6 แสนล้านบาท ซึ่งมีข้อจำกัดแหล่งเงินในการสนับสนุนลงทุนในประเทศ และภาครัฐไม่สามารถก่อหนี้เพิ่มได้อีก จึงจำเป็นต้องพิจารณาแหล่งเงินอื่น เช่น สภาพคล่องส่วนเกินที่มีในระบบ และการเร่งดึงเงินลงทุนจากภาคเอกชน และต่างประเทศ โดยเงินลงทุนในระยะยาวของประเทศต้องดำเนินการอย่างมีระบบในพื้นที่เป้าหมายที่มีศักยภาพ และจัดลำดับความสำคัญที่ชัดเจน


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top