Friday, 4 July 2025
Hard News Team

โฆษกฯ รัฐ แจงแทน “บิ๊กตู่” อ้างคนงานหนีออกจากแคมป์จำนวนไม่มาก เหตุรัฐยังไม่ชัดเจนมาตรการช่วยเหลือ “ห่วง” เอกชนไม่สนนโนบายเวิร์คฟอร์มโฮม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามแทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กรณีการปิดแคมป์งานทำให้มีแรงงานส่วนหนึ่งหนีกลับจังหวัดทำให้คนในพื้นที่ต่างจังหวัดเกิดความกลัวเรื่องการกระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า เรื่องนี้ได้รับคำชี้แจงจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเบื้องต้นจากที่ได้มีการประชุมกับสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับการยืนยันว่าการที่มีประกาศปิดแคมป์คนงานแล้วมีกระแสข่าวคนงานออกจากพื้นที่กลับภูมิลำเนานั้น ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยยืนยันว่า เป็นจำนวนน้อยเท่านั้นที่เดินทางกลับภูมิลำเนา เนื่องจากขณะนั้นอาจจะยังไม่ทราบถึงมาตรการที่รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือ บางแคมป์มีคนงาน 800-900 คน ก็ยอมรับว่ามีคนงานกลับภูมิลำเนาจริงแต่มีจำนวนเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น ดังนั้น การใช้คำว่าผึ้งแตกรัง อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นทั้งหมดนอกจากนี้ เมื่อกระทรวงแรงงานมีมาตรการเยียวยาต่างๆแล้ว จะมีการเข้าไปควบคุมดูแลร่วมกับฝ่ายความมั่นคง เข้าไปดูแลเรื่องอาหารการกิน ความเป็นอยู่ และการตรวจเช็คชื่อและจ่ายเงินสดทุกๆ 5 วัน ให้กับแรงงานและแคมป์คนงานด้วย

นายอนุชา กล่าวว่า ส่วนที่เกี่ยวกับพื้นที่ต่างจังหวัด ได้มีการประสานกระทรวงมหาดไทย และคนในพื้นที่จังหวัดนั้นๆให้พิจารณาให้ความสำคัญกับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ดังนั้น การเดินทางกลับจะมีการพิจารณาโดยกระทรวงาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทยที่ดูแลในพื้นที่อยู่ โดยที่ผ่านมาจะมีแต่ละจังหวัดประกาศให้ผู้ที่เดินทางมาจาก 10 จังหวัดเสี่ยงกักตัว และรายงานตัวกับผู้นำชุมชน หรืออสม. แต่อย่างไรก็ตาม จนถึง ณ วันนี้ เราได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคเอกชนที่ควบคุมแคมป์คนงานไม่ให้เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือออกจากแคมป์ 

เมื่อถามว่า นายกฯเป็นห่วงหรือไม่ที่มีบริษัทเอกชนหลายบริษัทเริ่มไม่ใช้มาตรการเวิร์คฟอร์มโฮม หรือทำงานที่บ้านแล้ว นายอนุชา กล่าวว่า นายกฯมีความเป็นห่วงในกรณีนี้ และอยากขอความร่วมมือจากภาคเอกชนในการให้พนักงานได้ทำงานที่บ้านเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ โดยส่วนราชการนายกฯ ได้กำชับหน่วยงานต่างๆพิจารณาอย่างเข้มงวดในการให้พนักงานราชการในหน่วยงานต่างๆดำเนินการในลักษณะเดียวกันจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน 

เมื่อถามว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น 400-5,000 คน สะท้อนว่าไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ และจะทำให้ตัวเลขลดลงได้อย่างไร นายอนุชา กล่าวว่า จากมาตรการที่รัฐบาลมีการออกประกาศมา เป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทั้งหมดต้องหวังว่าประชาชนจะเข้าใจที่ต้องดำเนินการในลักษณะเช่นนี้เพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดมีประสิทธิภาพ

เมื่อถามถึงมาตรการช่วยเหลือศิลปิน ลูกจ้างฟรีแลนซ์ และผู้ประกอบการสถานบันเทิงที่ถูกสั่งปิดมานานหลานเดือน นายอนุชา กล่าวว่า นายกฯได้มีการพูดคุยกับทางทีมเศรษฐกิจว่านอกเหนือจากการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการออกระเบียบฉบับล่าสุดแล้ว ผู้ประกอบการรายอื่นๆ นายกฯ ได้ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องพิจาณรามาตรการออกมาเยียวยาให้เร็วที่สุด 

เมื่อถามถึงกรณีบางจังหวัดระงับการฉีดวัคซีนให้กับคนอายุ 60 ปี และผู้ที่เป้นกลุ่มเสี่ยง 7 โรค โดยระบุวัคซีนไม่เพียงพอ นายอนุชา กล่าวว่า ที่ได้มีการเจรจากับผู้ผลิตวัคซีน เช่น แอสตราเซเนกา ก็ยังยืนยันที่จะส่งมอบวัคซีนให้รัฐบาลไทยในจำนวนเป้าหมายเดิมที่ได้มีการเจรจากันไว้ที่ 61 ล้านโดส ซึ่งในเดือนมิถุนายนนี้ ยืนยันแล้วว่าที่จะมีการส่งมอบ 6 ล้านโดสก็ยังเป็นไปตามที่ได้พูดคุยกันไว้ เช่นเดียวกันกับวัคซีนอื่นๆ ที่จะมีเพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่น ชิโนแว็กที่ได้รับการยืนยันจากประเทศจีนแล้ว และในที่ประชุม ครม. ก็ได้รับทราบว่าประเทศญี่ปุ่นจะส่งวัคซีนให้กับไทยจำนวน 1 ล้าน 5 หมื่นโดส ภายในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ทั้งนี้ นายกฯได้ให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ และ 7 โรคกลุ่มเสี่ยง ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เก่ยวข้องจัดลำดับความสำคัญให้ผู้ที่ลงทะเบียนในหมอพร้อมได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด

เมื่อถามว่าวัคซีนซิโนแว็กอาจจะป้องกันไวรัสสายพันธุ์อื่นได้ไม่ดีพอ จะมีการทบทวนการนำเข้าหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องนี้ นายกฯได้พูดคุย และหารือกับที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขเพื่อบริหารจัดการวัคซีนแล้ว ในการนำวัคซีนยี่ห้องอื่น ๆ เข้ามา เพื่อให้คนไทยมีภูมิคุ้มกันทั้งนี้ รัฐบาล และบุคลากรทางการแพทย์อยากให้ทุกท่านได้ฉีดวัคซีนที่รัฐบาลหามา หรือวัคซีนทางเลือกอื่น ๆ เพราะการฉีดวัคซีนจำทำให้เกิดภูมิ และเมื่อติดเชื้อแล้วการที่จะมีอาการรุนแรง และการเสียชีวิตจะน้อยลง

ครม.เคาะเยียวยาลูกจ้าง-นายจ้าง เจอปิดกิจการ 1 เดือน

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบในหลักการมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดควบคุมไวรัสโควิด-19 ฉบับที่ 25 ทั้งแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบประกันสังคม และนอกระบบ ในกิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร กิจกรรมสาขาศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ และกิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ ในระยะเวลา 1 เดือน 

สำหรับรูปแบบการช่วยเหลือ กลุ่มแรก คือ แรงงานที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สัญชาติไทย ซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากการให้ความช่วยเหลือผ่านระบบประกันสังคมที่ได้มีการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกจ้างและนายจ้างตามกฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณี ว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ. 2563 ในอัตรา 50% ของค่าจ้างรายวัน สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท ตลอดระยะเวลาที่มีคำสั่งปิดสถานที่ แต่ไม่เกิน 90 วัน

กลุ่มที่ 2 ผู้ประกอบการหรือนายจ้าง จะได้รับความช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน และกลุ่มที่ 3 ผู้ประกอบการหรือนายจ้างที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม แยกเป็น 3 กรณี คือ กรณีที่เป็นผู้ประกอบการที่มีลูกจ้าง ให้ลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนก.ค.64 จะได้รับเงินช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุด ไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน และลูกจ้างที่เป็นสัญชาติไทยจะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 2,000 บาทต่อคน 

กรณีที่เป็นผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้างให้ลงทะเบียน ผ่านแอปพลิเคชันถุงเงิน ผ่านโครงการคนละครึ่ง ภายในเดือนก.ค.เช่นกัน โดยผู้ประกอบการ จะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 3,000 บาท และกรณีที่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร เครื่องดื่ม ของโครงการคนละครึ่งที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม เนื่องจากไม่มีลูกจ้าง จะได้รับการช่วยเหลือในอัตรา 3,000 บาท สำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในโครงการคนละครึ่งและมีลูกจ้างแต่ยัง ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมให้ลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือน ก.ค.นี้ 

ครม.ยกเลิก 27 ก.ค. เป็นวันหยุดพิเศษ เหตุต้องปรับตามสถานการณ์โควิด-19 ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีเคยกำหนดให้วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม 2564 เป็นวันหยุดพิเศษต่อเนื่อง เพื่อให้ได้หยุดต่อเนื่องหลายวัน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ตรงกับวันอาสาฬหบูชา วันที่ 25 กรกฎาคม ตรงกับวันเข้าพรรษา วันที่ 26 กรกฎาคมเป็นวันหยุดชดเชยวันอาสาฬหาบูชา

และในวันพุธที่ 28 กรกฎาคมตรงกับวันเฉลิมพระชนพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมติครม.เมื่อปีที่ผ่านมาจึงได้เห็นชอบให้วันอังคารที่ 27 กรกฎาคมเป็นวันหยุดพิเศษ เพื่อที่จะได้มีวันหยุดระยะยาวหลายวันเพื่อให้ประชาชนเดินทางออกไปท่องเที่ยวเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

แต่นั่นคือเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว แต่เมื่อมาพิจารณาสถานการณ์ในปีนี้ จะต้องมีมาตรการเข้มงวดขึ้นในมาตรการสาธารณสุขและทาง ศบค. ได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัด ดังนั้น เมื่อพิจารณาสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว ครม. จึงมีมติเห็นชอบให้ยกเลิกประกาศที่เคยให้วันอังคารที่ 27 กรกฎาคมเป็นวันหยุดพิเศษ

ส่วนประชาชนที่เคยวางแผนเรื่องการเดินทางในช่วงวันหยุดยาวดังกล่าวนั้น ครม. กำชับให้ภาคราชการและหน่วยงานส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในเรื่องการยกเลิกตั๋วเดินทางหรือการจองที่พักเพื่อให้ความสะดวกกับประชาชนด้วย


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“เรืองไกร” ลุยยื่น “ชวน” เองขอรายละเอียดยิบปมใช้รถหลวงผิดระเบียบหรือไม่ จ่อสอบ จนท.รายอื่นอีก

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการงบประมาณ 65 กล่าวว่า ในวันที่ 30 มิ.ย. ต้นจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เพื่ ฝอขอข้อมูลรถประจำตำแหน่ง ทะเบียน ฮภ 2882 กรุงเทพมหานคร เพื่อประกอบการพิจารณางบประมาณรายจ่าย พ.ศ.2565 ของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ และเพื่อประกอบการตรวจสอบรถประจำตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐรายอื่น ๆ ต่อไปด้วย ทั้งนี้ ประธานรัฐสภาและประธานสภาฯ ตามปกติมีหน้าที่และอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ตามข้อบังคับ ตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง ขอเอกสารประกอบการพิจารณาด้วย รถทะเบียน ฮภ 2882 ถูกใช้เป็นรถประจำตำแหน่งประธานรัฐสภา หรือประธานสภาฯ ซึ่งมีเพียงคันเดียวใช่หรือไม่ รถทะเบียน ฮภ 2882 จัดซื้อโดยเงินงบประมาณปีใด ราคาเท่าใด มีการคืนเงินงบประมาณที่เหลือหรือไม่ อย่างไร เมื่อวันที่เท่าใด ขอเอกสารการเงินการบัญชีและเอกสารประกอบดังกล่าวทั้งหมดด้วย 

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า รถประจำตำแหน่งคันดังกล่าว มีการจัดทำทะเบียนแยกประเภทตามข้อ 9 ของระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยรถราชการ พ.ศ.2523 ครบถ้วนหรือไม่ ขอเอกสารทะเบียนแยกประเภทดังกล่าวด้วย เพื่อประกอบการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ขอทราบข้อมูลว่ารถประจำตำแหน่งทะเบียน ฮภ 2882 มีการบันทึกบัญชีทรัพย์สินถาวร รายการยานพาหนะ ที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ อย่างไร มีอายุการใช้งานกี่ปี มีการคิดค่าเสื่อมราคาปีละเท่าใด ค่าเสื่อมราคาสะสม ณ วันที่ 30 ก.ย.63 เป็นเท่าใด เก็บรักษาที่อยู่ในความควบคุมและความรับผิดชอบของใคร สภาฯ มีการซ่อมบำรุงอย่างไร ขอรายละเอียดประวัติการซ่อมบำรุง รวมทั้งเอกสารการเงินการบัญชีและใบเสร็จด้วย นอกจากนี้มีการตรวจสอบมลพิษ ทุกระยะเวลา 6 เดือน หรือทุกระยะ 15,000 กิโลเมตรหรือไม่ ขอหลักฐานการตรวจสอบมลพิษด้วย มีการทำประกันภัยอย่างไร มีการต่อทะเบียนรถครบถ้วนเป็นประจำทุกปี หรือไม่ ขอเอกสารที่เกี่ยวข้องด้วย มีการใช้โดยเป็นไปตามเงื่อนไขข้อ 13 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ.2523 โดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ เคยมีการนำไปใช้นอกเหนือหน้าที่ปกติตามข้อ 19 วรรคสาม ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ.2523 หรือไม่

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า รถประจำตำแหน่งคันดังกล่าว มีการเติมน้ำมันด้วยเงินของประธานรัฐสภาเองตามเงื่อนไขข้อ 21 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523 หรือไม่ ขอบิลค่าน้ำมันมาประกอบการพิจารณาด้วย นอกจากนี้มีการนำไปใช้แจกหน้ากากอนามัยซึ่งรับบริจาคมาในนามมูลนิธิฯ ตามคำร้องที่เกี่ยวข้องไปแล้วทั้งหมดกี่ครั้ง กี่วัน ที่ไหนบ้าง เวลาใด มีใครร่วมบ้าง มีรายงานการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจดังกล่าวแต่ละครั้งหรือไม่ จึงเรียนมาเพื่อขอให้ท่านประธานสภาฯ ได้สั่งการให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ชี้แจงและจัดส่งเอกสารข้อมูลรถประจำตำแหน่ง ทะเบียน ฮภ 2882 กรุงเทพมหานคร ให้ตนโดยเร็ว เพราะจะนำไปเป็นกรณีตัวอย่างที่สามารถตรวจสอบได้ เพื่อประกอบการพิจารณางบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2565 ของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ และเพื่อประกอบการตรวจสอบรถประจำตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐรายอื่นๆ ต่อไปด้วย

รมว.เฮ้ง ส่งมอบปลากระป๋องและไข่ไก่แก่สมาคมก่อสร้างไทย ช่วยเหลือตามมาตรการปิดแคมป์คนงาน สู้ภัยโควิด-19

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ส่งมอบปลากระป๋องจำนวน 90,000 กระป๋อง และไข่ไก่จำนวน 250,000 ฟอง แก่ นายปิติพันธุ์ ธนศรีวนิชชัย รองเลขาธิการ สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้รับมอบ โดยมี นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน 

นายสุชาติ กล่าวว่า ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงานจากกรณีที่ทาง ศบค.มีมติให้ปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง งดการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในคลัสเตอร์แคมป์คนงานนั้น และได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานดูแลแรงงานที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้โดยการจ่ายเยียวยาสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน 50 เปอร์เซ็นของค่าจ้างนั้น

“ในวันนี้กระทรวงแรงงาน ขอขอบคุณภาคเอกชนอย่างบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ที่ได้มอบปลากระป๋อง 90,000 กระป๋อง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟที่ได้มอบไข่ไก่ 200,000 ฟอง และบริษัทในเครือแสงทอง-อัครา ได้มอบไข่ไก่ 50,000 ฟอง ที่ร่วมแรงร่วมใจกับภาครัฐ สนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภค ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ส่งมอบให้แก่สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องผู้ใช้แรงงานตามมาตรการปิดแคมป์คนงานต่อไป” นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด

เตียงขาดแคลน! เปิดเงื่อนไขกลุ่มติดเชื้อโควิด อยากกักตัวอยู่บ้านต้องทำตามนี้!

จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยที่ขยายเป็นวงกว้างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งอาจทำให้การรองรับของสถานพยาบาลไม่เพียงพอต่อปริมาณผู้ป่วย 

กรมการแพทย์ จึงได้มีแนวทางปรับการรักษาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยให้กลุ่มผู้ป่วยที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ สามารถกักตัวรักษาได้ที่บ้าน ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ พยาบาล ซึ่งจะทำให้โรงพยาบาลสนาม สามารถบริหารจัดการเตียงให้กับผู้ป่วยที่มีอาการหนักได้

สำหรับกลุ่มผู้ติดเชื้อที่สามารถกักตัวได้ที่บ้าน (Home Isolation) นั้น ต้องมีอายุน้อยกว่า 60 ปี, ไม่มีอาการ (asymptomatic cases), มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง, อยู่คนเดียว หรือ มีผู้อยู่ร่วมที่พักไม่เกิน 1 คน, ไม่มีภาวะอ้วน (ภาวะอ้วน หมายถึง ดัชนีมวลกาย > 30 กก./ม.2 หรือ น้ำหนักตัว > 90 กก.) 

และที่สำคัญที่สุด ไม่ป่วย โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคไตเรื้อรัง (CKD) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ และโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ และผู้ป่วยยินยอมแยกตัวในที่พักของตนเองอย่างเคร่งครัด


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ตกรอบ แต่ฟอร์มดี 'ปอล ป็อกบา' นักเตะทรงผมเด่นจากทีมชาติฝรั่งเศส

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

เก็บกระเป๋ากลับบ้านไปอีกราย สำหรับทีมชาติฝรั่งเศส เต็งหนึ่งที่หลายฝ่ายตั้งเป้าว่าจะคว้าแชมปยูโรหนนี้ แต่สุดท้ายไม่มีอะไรที่แน่นอน โดยเฉพาะเกมที่เตะนัดเดียวตกรอบแบบนี้

ถึงฝรั่งเศสจะปิดฉากยูโร 2020 ลงไป แต่ชื่อของนักเตะคนหนึ่งในทีมกลับถูกพูดถึงค่อนข้างมาก ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่ป็อก-ปอล ป็อกบา นักเตะทรงผมดีเด่นนั่นยังไง

ไปแซวว่าเป็นนักเตะทรงผมดีเด่น ประเดี๋ยวพี่ป็อกจะโกรธเอา เพราะฟอร์มการเล่นของพี่ป็อกในทัวร์นาเม้นท์นี้ ดูดีผิดทรงผมตัวเองอย่างมาก

มีสถิติที่บ่งชี้ว่า ป็อกบาทำผลงานในยูโรครั้งนี้ได้ดีจริงอะไรจริง โดยสามารถทำประตูได้ 1 ประตู แอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูไปอีก 1 ประตู การจ่ายบอลแม่นยำคิดเป็น 86% ความพยายามในการยิงประตู 8 ครั้ง เข้าสกัดสำเร็จ 7 ครั้ง และแย่งบอลมาครองได้ถึง 11 ครั้ง

เรียกว่าฟอร์มหรูดูมีชาติตระกูลเอามาก ๆ ซึ่งข้อสันนิษฐานหนึ่งที่บ่งชี้ว่า สาเหตุที่ทำให้ฟอร์มป็อกบาเด็ดสะระตี่แบบนี้ เพราะพี่แกเปลี่ยนทรงผม ไม่ช่าย! เรื่องนั้นมันปกติอยู่แล้ว

แต่เหตุที่ป็อกบาทำผลงานได้ดี เรื่องของเรื่อง เพราะมีเพื่อนร่วมทีมที่มีฝีเท้าจัดจ้านทั้งนั้น โดยเฉพาะแผงมิดฟิลด์ที่แข็งแกร่งอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ อาเดรียง หรือโกร็องแต็ง โตลิสโซ่ ไม่นับรวม อ็องตวน กรีซมันน์ เพื่อนซี้ที่มองตาก็รู้ใจ

ด้วยเหตุนี้เลยทำให้พี่ป็อกดูเล่นสบาย คลายกังวล และเคลื่อนที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีเสมอ แม้ฝรั่งเศสจะไปไม่ได้ไกลอย่างที่คิด แต่ผลงานส่วนตัวของพี่ป็อกก็พอจะกลบความพลาดหวังในครั้งนี้ไปได้

ที่สำคัญ มันยังส่งผลไปถึงเรื่องค่าตัว ที่หากมีแนวโน้มว่า เจ้าตัวจะย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์นี้ พี่ป็อกก็คงได้ ‘อัปค่าเหนื่อย’ มาปรับแต่งทรงผมอีกไม่น้อยเลยทีเดียว (เข้าใจเลือกฟอร์มดีนะเพ่!)


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ศิริกัญญา’ ร้องหยุดเยียวยาเหลื่อมล้ำลักลั่น จี้รัฐบาลหยุดล้วงกระเป๋าผู้ประกันตน เอาเงินกองทุนประกันสังคมไปจ่ายเยียวยาล็อกดาวน์ ถาม! เงินกู้สำหรับเยียวก็มีทำไมไม่ใช้???

วันที่ 29 มิถุนายน 2564 นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยต่อสื่อมวลชน วิจารณ์มาตรการการเยียวยาล่าสุดหลังรัฐบาลออกคำสั่งล็อกดาวน์แคมป์คนงานก่อสร้างและไม่อนุญาตให้นั่งในร้านอาหารในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

โดยนางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า มาตรการเยียวยาล่าสุด ที่เขียนออกมาได้ซับซ้อน มีเงื่อนไขซ้อนเงื่อนไขเต็มไปหมด เงื่อนไขสำคัญ คือบริษัทอยู่ในระบบประกันสังคมหรือไม่ ทำให้การจ่ายเงินเยียวยาเกิดอาการลักลั่นโดยไม่จำเป็น กลายเป็นว่าลูกจ้างใหม่จะไม่ได้รับเงินเยียวยา เพราะเงื่อนไขการเยียวยาของประกันสังคมคือต้องส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือน ส่วนคนที่นายจ้างไม่ได้เข้าประกันสังคมจะได้เงินแค่ 2,000 บาท

ถามว่ามันเป็นความผิดอะไรของลูกจ้างประกันสังคมไหม? ถามว่ามันเป็นความผิดอะไรของลูกจ้างที่นายจ้างไม่ยอมเข้าระบบ? ถามว่าแรงงานข้ามชาติที่สมทบประกันสังคม จะได้เงินเยียวยาหรือไม่? ยังไม่ต้องพูดถึงร้านอาหารที่ไม่ได้เข้าประกันสังคม ยินดีด้วยคุณจะได้เงิน 3,000 บาทถ้วน

โดยอีกประเด็นที่สำคัญ คือการที่รัฐบาลเลือกใช้มาตรการเยียวยาจากกองทุนประกันสังคม แทนที่จะใช้จากงบประมาณตาม พ.ร.ก.เงินกู้ฯ

“จากการลดสมทบกองทุนประกันสังคม 4 ครั้ง รวม 88,831 ล้านบาท และจากเยียวยาจากเหตุสุดวิสัย 2 ครั้ง รวม 11,400 ล้านบาท รวมแล้วใช้ไปกับโควิดประมาณ 100,321 ล้านบาท รวมครั้งนี้ด้วยก็จะเป็นเงินกว่า 103,731 ล้านบาท

ต้องย้ำอีกครั้ง เงินประกันสังคมเป็นการสมทบระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล เพื่อดูแลสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทำงานในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ใช่งบประมาณที่จะนำออกมาใช้เยียวยาในยามวิกฤติ ดังนั้นบอร์ดประกันสังคมที่นั่งอยู่ตอนนี้แล้วอนุมัติเงินให้รัฐบาลใช้ควรตระหนักไว้ด้วยว่าคุณกำลังขูดเลือดเนื้อผู้ประกันตนทั้งประเทศเพื่อนำเงินไปใช้ในสิ่งที่ผิดวัตถุประสงค์

ที่ผ่านมา รัฐล้วงเอาเงินกองทุนประกันสังคมไปมากแล้ว ทั้ง ๆ ที่ก็มีเงินกู้จาก พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 2 ฉบับคือ 1 ล้านล้าน และ 5 แสนล้าน พร้อมจ่ายเยียวยาให้ตรงวัตถุประสงค์อยู่แล้ว” นางสาวศิริกัญญากล่าว

โดยรองหัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากจะไม่วี่แววว่ารัฐบาลจะคืนเงินให้กองทุนประกันสังคมแล้ว ในร่างกฎหมายงบประมาณประจำปี 2565 ประกันสังคมยังถูกตัดงบลงอีกเกือบ 2 หมื่นล้านบาท


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ’ เรียกร้องรัฐบาลทำ 5 ข้อ จัดหาวัคซีนให้เพียงพอทั้งปริมาณและคุณภาพ กระจายวัคซีนอย่างเป็นระบบ ไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลการเมือง

นายแพทย์อนุตตร จิตตินันทน์ ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ออกประกาศ เรื่อง “วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ฉบับที่ 2 โดยเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ดำเนินดังนี้...

1.) รัฐบาลควรใช้ความพยายามอย่างสูงสุดในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้มีใช้อย่างเพียงพอทั้งปริมาณและคุณภาพ และประสิทธิผลต่อเชื้อกลายพันธุ์มาใช้ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่โดยเร็ว โดยมุ่งเน้นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเป็นอันดับแรก

2.) รัฐบาลควรใช้ความพยายามอย่างสูงสุดและเร็วที่สุด ในการนำเข้าวัคซีนทางเลือกทุกชนิดที่ได้รับการอนุมัติโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยปรับกฎระเบียบและระบบราชการที่ทำให้เกิดความล่าช้า รวมถึงสนับสนุนการวิจัยวัคซีนและผลิตวัคซีนภายในประเทศ

3.) รัฐบาลควรบริหารจัดการกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้ดีขึ้นอย่างเป็นระบบ มีความชัดเจนและโปร่งใส ให้ความสำคัญกับหลักการทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลทางการเมืองหรือผลประโยชน์ใด ๆ รวมทั้งต้องสื่อสารทำความเข้าใจเรื่องวัคซีนโควิด-19 โดยเฉพาะเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นหลังการได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างเปิดเผยและรวดเร็ว

4.) ประชาชนควรเข้ารับวัคซีนโดยเร็วที่สุด ทั้งที่รัฐบาลจัดหามาให้และวัคซีนทางเลือก โดยยังต้องให้ความสำคัญของมาตรการการป้องกันโรค ได้แก่ งดเว้นกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่ม การเว้นระยะห่าง ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย อย่างเคร่งครัด ถึงแม้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบแล้ว

5.) สมาชิกราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ ทุกคนควรเข้ารับวัคซีนเมื่อมีโอกาสได้รับการฉีดเร็วที่สุด เพื่อลดการเจ็บป่วย ลดการกักตัว ลดการนำเชื้อไปสู่ผู้ป่วยและผู้ร่วมงาน ลดการระบาดภายในสถานพยาบาล รวมทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับแพทย์สาขาอื่น ๆ บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนในการยอมรับวัคซีนโควิด-19

 

ที่มา: https://www.topnews.co.th/news/32482


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เริ่มแล้ว! ‘มหกรรมพลิกล็อก’ ในศึกฟุตบอลยูโร 2020

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

เริ่มแล้ว! มันกำลังเริ่มขึ้นแล้ว!! เรากำลังพูดถึง ‘มหกรรมพลิกล็อก’ ที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำในศึกฟุตบอลยูโร งานนี้บรรดา ‘พี่ ๆ ทีมรอง’ ทั้งหลาย เริ่มจับมือกันเป็นภาคีเครือข่าย สร้างปฏิบัติการหักปากกาเซียน คนละป๊อก สองป๊อก!

ย้อนความกันสักหน่อย ถ้าคุณยังจำทีมอย่างเดนมาร์ก ในยูโร 1992 ทีมอย่างกรีซ ในยูโร 2004 หรือแม้แต่โปรตุเกสในยูโร 2016 ครั้งที่แล้ว ทั้งหมดนั้นถูกจัดว่าเป็นทีมแคทรียา อิงลิช หรือทีมนอกสายตา (ถ้าเกิดไม่ทันเพลงนี้ก็ข้ามไปนะ) ที่สุดท้ายคว้าแชมป์ไปเฉย!

กระทั่งมาถึงยูโร 2020 แม้ในรอบแรก บรรดาทีมใหญ่-ทีมเต็งจะยังรักษามาตรฐาน ตบเท้าเข้ารอบกันแบบไม่มีรถผ้าป่าคว่ำกลางทาง แต่พอมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น ภาพเดิมที่เคยคุ้นตา ก็เริ่มวนกลับมาอีกครั้ง

เดนมาร์ก, สาธารณรัชฐเช็ก และสวิตเซอร์แลนด์ เริ่มปฏิบัติการ ‘ตบทีมเต็ง’ และเริ่มมีออร่าที่น่ากลัว คือน่ากลัวว่าจะไปยาวยันรอบชิงฯ นี่ยังไม่นับสวีเดนและยูเครนที่จะลงดวลกันเอง ทั้งหมดคือทีมที่ประมาทไม่ได้ โปรดลืมภาพในรอบแรกไปให้สิ้น!

ถามว่า อะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้จู่ ๆ บรรดาทีมทั่นรองเหล่านี้เกิดฟอร์มดุ มีความแข็งแกร่งขึ้นมาซะอย่างนั้น คำตอบง่าย ๆ คือ บอลน็อกเอาต์ นัดเดียวตกรอบ ขอแค่มีพลัง ความสด ความตั้งใจ และไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้

เดนมาร์กเผาเครื่องเวลล์, เช็กขย่มเนเธอร์แลนด์ และสวิสตบเต็งหนึ่งฝรั่งเศสตกรอบ ยัง! เชื่อว่าจะยังไม่หมดเท่านี้ และที่สำคัญ ห้ามกาชื่อพวกพี่ ๆ ทั่นรองเหล่านี้ออกจากทีมลุ้นแชมป์ เด็ดขาด!

ตามดูกันต่อไปว่า ทีมไหนจะไปได้ยาวที่สุด และถ้าฟุตบอลยูโรจะมีชื่อเล่น คงต้องตั้งชื่อให้ว่า ศึกฟุตบอลปราบเซียน!


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top