Thursday, 12 June 2025
Hard News Team

‘ท่านใหม่’ ชมสมาชิกราชสกุล ไร้ความเกรงกลัว รวมตัวร้องเพลง ‘เราคือคนไทย’ ปลุกสำนึกรักชาติ

ม.จ. จุลเจิม ยุคล หรือ ท่านใหม่ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ผมขอชื่นชมจากใจจริงครับ ที่เหล่าสมาชิก ราชสกุล และราชินีกุล เกือบทุกมหาสาขา ในพระราชวงศ์จักรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็น คนรุ่นใหม่ หนุ่ม ๆ สาว ๆ และอาจจะมีที่อายุมากหน่อยบางท่าน ได้รวมตัวกันออกมาร้องเพลงปลุกใจ เพื่อให้คนไทยเกิดความรัก ความสามัคคี ต่อชาติ บ้านเมือง โดยไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น 

เทคนิคการจัดกระเป๋านักเรียนให้พร้อม!! เอาตัวรอดจากโควิด-19

เตรียมตัว Back to School !!

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะนำเทคนิคจัดกระเป๋านักเรียนให้บุตรหลาน เพื่อเอาตัวรอดจากเชื้อโควิด ในช่วงเปิดเรียนใหม่ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังรุนแรงในหลายพื้นที่

หน้ากากสำรอง รู้ ๆ กันอยู่ เด็กชอบลืมวางของไว้ตามที่ต่าง ๆ หน้ากากก็คงไม่รอด อันเดียวต่อวันไม่น่าพอ ไม่หาย ก็สกปรก คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมอันสำรองใส่ซองและเก็บไว้ในช่องกระเป๋านักเรียน อาจเป็นหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยก็ได้ 

เจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์แบบมีที่ห้อย นอกจากคอยเตือนให้ลูกหมั่นล้างมือให้ถูกวิธีอย่างน้อย 20 วินาที ยังควรเตรียมเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือให้ลูกพร้อมใช้ได้ทุกเวลา โดยหาแบบมีที่ห้อย ห้อยไว้กับกระเป๋า แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวหาย แต่ต้องเตือนลูก อย่าไปวางตากแดด เดี๋ยวเจลจะเสื่อมคุณภาพ ฆ่าเชื้อไม่ได้ 

ทิชชูแบบแห้งและเปียก ความซนของลูกเราไม่เป็นสองรองใคร เล่นทั้งวันจนมอมแมม ถ้ามีเตรียมไว้ ให้ลูกล้างมือก่อน แล้วค่อยใช้ทิชชูเช็ดหน้าเช็ดตา ลดความเสี่ยงเอามือสัมผัสใบหน้าโดยตรง ส่วนทิชชู่เปียกให้ใช้แบบผสมแอลกอฮอล์สำหรับไว้เช็ดสิ่งของต่าง ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ขอบชักโครก ช่วยลดความเสี่ยงจากเชื้อโรคต่าง ๆ 

‘อ.แพท’ แจงความหมาย LOST IN BANGKOK ชี้ ‘รัสเซล โครว์’ สื่อถึง ‘หลงใหล’ ไม่ใช่ ‘หลงทาง’

คุณพัฒนพงศ์ (แพท) แสงธรรม อาจารย์ คณะศิลปศาสตร์ (ภาควิชาภาษาอังกฤษ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีรัสเซล โครว์ โพสต์ภาพท่องเที่ยวชุด LOST IN BANGKOK ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่า The Meaning of Being Lost : LOST IN BANGKOK แปลผิดว่า "หลงทาง" กันเยอะ เพราะไม่เข้าใจคำว่า lost

to be lost: นอกจากจะแปลว่าหลงทางแล้ว มันแปลว่า เคลิบเคลิ้ม จนไม่รู้กาลเวลา เพลิดเพลิน ดื่มด่ำ อย่างเช่นเพลง "Lost in Love" ของ Air Supply คือตกอยู่ในภวังค์ ของความรัก ไม่รู้วันรู้คืน ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ไม่มีเวลาหรือสถานที่ ไม่รับรู้เหตุผล

Debbie Gibson มีเพลงดังชื่อ Lost in Your Eyes ไม่ได้หลงทางอยู่ในเบ้าตา แต่มองตาเธอแล้วจังงัง ทำอะไรไม่ถูก เคลิ้มในเสน่ห์

ในโบรชัวร์นำเที่ยว ภาษาอังกฤษ จะใช้การเชิญชวนด้วยคำว่า lost เช่นจะแนะนำว่า ให้ไปเที่ยว เกียวโต แล้ว Get lost in the subtle splendor of ancient Japan ไปเพลิดเพลินอยู่กับความอลังการอันสุขุมของญี่ปุ่นยุคโบราณ จนลืมเวลา

ตลอดมา Russell Crowe ใช้ฉันทลักษณ์ในการสื่อด้วย Twitter บอกให้รู้ว่า หลงใหลเสน่ห์ของเมืองไทยแค่ไหน เช่นใช้รูปแบบภาษา dreaming  อันแปลได้ว่า "ในฝัน" ให้ความหมายเชิงบวก ที่สะท้อนความหลงใหล เช่น Amanpuri Dreaming โรงแรมสวยดั่งฝัน  Bangkok Dreaming กรุงเทพแดนฝัน เพลง California Dreaming เกิดห้วงคำนึง ฝันถึงแคลิฟอร์เนีย ที่ไม่หนาวเหน็บเหมือนตรงนี้

ราเมศ เผย “จุรินทร์”กำชับ ส.ส.เตรียมความพร้อม เปิดประชุมสภา ลุยเต็มที่

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการเปิดประชุมสมัยสามัญที่จะถึงนี้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้กำชับสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ในส่วนของพรรค ลุยทำงานในสภาเต็มที่ และพร้อมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ของสภาอย่างเคร่งครัด

เปิดประชุมสภาสมัยสามัญนี้ส.ส.ของพรรคมีการเตรียมการในเรื่องการอภิปราย กระทู้ ญัตติต่างๆ รวมถึง ร่างกฎหมายที่สำคัญหลายฉบับ ระหว่างปิดสมัยประชุม ส.ส.ทุกคนอยู่ในพื้นที่ใกล้ชิดพี่น้องประชาชนตลอด ข้อมูลที่จะนำมาสะท้อนผ่านสภามีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาความเป็นอยู่ปัญหาปากท้อง ก็จะเป็นแนวคิดแนวทางประกอบในการทำงานของรัฐบาลเพราะ ส.ส.ในแต่ละพื้นที่จะทราบปัญหาดีที่สุด กลไกของสภาผู้แทนราษฏรก็จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยเสริมการทำงานของรัฐบาลให้ดียิ่งขึ้นตรงตามความต้องการของประชาชนได้เป็นอย่างดี 

“โฆษกรัฐบาล” ยันนโยบายเปิดภาคเรียนมีการเตรียมพร้อม วางแผนร่วม สธ.เป็นอย่างดี “ปัด” ไม่ใช่เป็นไปตามยถากรรม “มั่นใจ” พลิกฟื้นประเทศไทยได้แน่ ถ้าฝ่ายค้านกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองในสภาฯ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าการประกาศเปิดเรียนเป็นตามยถากรรม เพราะรัฐบาลไม่มีการเตรียมพร้อม เมื่อเปิดโรงเรียนไม่ได้ก็เปิดเศรษฐกิจไม่ได้ ว่า น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้พูดอย่างชัดเจนแล้วว่า การเตรียมพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2 นั้นได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจความพร้อมการเปิดเรียนรูปแบบ On Site ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ของสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้วางแผนร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข มีรายละเอียดการเปิดเรียนในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้สถานศึกษาไปปฏิบัติตาม นอกจากนี้ ขณะนี้กำลังเร่งผลักดันให้ครูได้รับวัคซีนให้มากที่สุดอีกด้วย ดังนั้น การเปิดเรียนในวันที่ 1 พฤศจิกายนจะเปิดเรียนในรูปแบบไหนนั้นจึงขึ้นอยู่กับความปลอดภัยของแต่ละพื้นที่ด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่ารัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า ไม่ได้เปิดเรียนตามยถากรรมแต่อย่างใด

“โฆษกรัฐบา” เผย  “Thailand Pass" ลดขั้นตอนเอกสาร รับนทท.เข้าประเทศ รอผลตรวจโควิด-19 แล้วเดินทางได้เลย ตั้งแต่ 1 พ.ย. นี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยเดินหน้าเตรียมความพร้อมเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยรูปแบบ "Thailand Pass" แทนระบบ COE (Certificate of Entry)  ลดขั้นตอนการอัปโหลดเอกสาร อำนวยความสะดวกรวดเร็วแก่นักท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวและชาวไทยที่ประสงค์เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย สามารถลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ tp.consular.go.th ก่อนเดินทาง และรอการอนุมัติเป็นเวลา 1-3 วัน ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย 1. การตรวจโดยระบบอัตโนมัติสำหรับผู้ยื่นเอกสารวัคซีนที่มี QR Code และประเทศที่ออกเอกสารได้ให้ Public Key สาหรับการตรวจสอบเอกสารแก่ทางการ ไทยแล้ว (สามารถอนุมัติเอกสารให้ผู้เดินทางได้ทันที) 2. การตรวจโดยกรมควบคุมโรคด้วยตาเปล่าตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุข กําหนด โดยมีระบบกํารตรวจสอบการจองที่พัก SHA+ ผ่านระบบ SHABA และ AQ ผ่าน การยืนยันผู้เข้าพักจากโรงแรม AQ

จากนั้นเมื่อได้รับการอนุมัติ ผู้เดินทางสามารถดาวน์โหลด Thailand Pass QR Code ได้ทันทีเพื่อนำไปแสดงต่อสายการบินและเจ้าหน้าที่คัดกรอง พร้อมกับผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทาง โดยไม่ต้องกรอก ตม.8 และ ตม.6 เมื่อเดินทางถึงไทย และดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน  “หมอชนะ” เท่านั้น โดยสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่เข้าข่ายไม่ต้องกักตัว จำนวน 45 ประเทศ  และเขตบริหารพิเศษฮ่องกงหรือนักท่องเที่ยวแบบ Test and Go สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทันทีหลังจากการรอผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ในโรงแรมที่กำหนดไม่ต่ำกว่า 1 คืน ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าข่ายไม่ต้องกักตัวจะต้องพำนักอยู่ในประเทศที่ได้รับอนุญาตไม่ต่ำกว่า 21 วัน ยกเว้นเดินทางมาจากประเทศไทย และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ที่เดินทางพร้อมผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนตามเกณฑ์แล้ว สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ภายใต้เงื่อนไขไม่ต้องกักตัวเช่นเดียวกับผู้ปกครอง

“สงคราม” อัด “บิ๊กตู่” ปล่อยผู้ค้าน้ำมันขึ้นราคาตามใจชอบ ชี้ รัฐปล่อยราคาน้ำมันขึ้นต่อเนื่องกระทบต่อค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน  

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปล่อยให้ผู้ค้ามันในประเทศไทย ปรับราคาน้ำมัน อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการซ้ำเติมวิกฤตประเทศ อย่างแท้จริง ทั้งๆที่ปัจจุบันคุณภาพชีวิตของประชาชนก็แย่อยู่แล้ว แต่รัฐบาลกลับไม่ให้ความสำคัญ การปล่อยให้ผู้ค้าน้ำมันปรับราคาน้ำมันต่อเนื่องหลายรอบในเดือนตุลาคม ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตของประชาชน เพราะต้นทุนสินค้าทุกอย่างขึ้น ในขณะนี้รายได้ประชาชนลดลง 

นอกจากนี้ การปรับราคาน้ำมันขึ้นอีก 60 สตางค์ ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเรื่อยๆ เช่นนี้ย่อมกระทบต่อค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน เพิ่มต้นทุนการขนส่ง เพิ่มต้นทุนภาคการผลิตพลเอกประยุทธ์ มีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยประชาชน แต่ทำไม่เป็นใช้งานไม่เป็น เลยไม่ทำอะไร ปล่อยให้นายทุนพลังงานกดขี่คนไทย โยนภาระทั้งหมดให้ผู้บริโภค ส่วนผู้ประกอบการโกยกำไรเป็นกอบเป็นกำ  

นายสงคราม  กล่าวด้วยว่า  การที่พลเอกประยุทธ์อ้างว่าการปรับราคาน้ำมันเป็นไปตามกลไกตลาด เป็นการพูดเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น ทั้งๆที่รัฐบาลสามารถที่จะตรึงราคาน้ำมันที่ผันผวน ไม่ให้กระทบกับพี่น้องประชาชนมากนัก โดยต้องเร่งลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตลงลิตรละ 5 บาทและพิจารณางดเว้นการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ซึ่งจะช่วยตรึงราคาน้ำมัน ไม่ให้แพงมากเกินไปได้ แต่รัฐเลือกที่จะไม่ทำ 

‘สุริยะ’ ลุ้นเปิดประเทศ หนุนดัชนี MPI ขยายตัว แต่ต้องจับตาราคาน้ำมัน - ค่าเงินบาทผันผวน

กระทรวงอุตสาหกรรม เผย ดัชนีผลผลิตอุตฯ ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.49 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ภาพรวม 9 เดือน ขยายตัวร้อยละ 6.10 ส่งออกโตต่อเนื่อง ร้อยละ 17.90

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาคการผลิตอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI เดือนกันยายน 2564 กลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย เห็นได้จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง ประกอบกับการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนและแรงงานในภาคอุตสาหกรรม โดยสะท้อนได้จากดัชนีแรงงานอุตสาหกรรม และดัชนีการส่งสินค้าในเดือนกันยายน 2564 เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสำคัญที่ดัชนีแรงงานขยายตัว เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องปรับอากาศ และอุตสาหกรรมแปรรูปผักและผลไม้ เป็นต้น ส่งผลให้ภาครัฐสามารถผ่อนคลายกิจกรรมเศรษฐกิจได้มากขึ้น ประกอบกับภาครัฐยังได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน 

ขณะเดียวกันนโยบายการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 นี้ เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญที่จะทำให้ดัชนี MPI ขยายตัวต่อไปได้ นอกจากนี้กระทรวงอุตสาหกรรมโดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ สศอ. จะมีการปรับประมาณการณ์ตัวเลขดัชนี MPI ปี 2564 ใหม่อีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่ทั้งนี้ ยังคงต้องจับตาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่มีความผันผวนด้วยเช่นกัน

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนกันยายน อยู่ที่ระดับ 93.72 หดตัวลงเล็กน้อยร้อยละ 1.28 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าขยายตัวร้อยละ 7.49 โดย 9 เดือนแรกขยายตัวร้อยละ 6.10 โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมหลักของประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับไตรมาส 3/2564 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 90.43 จากสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของแรงงานในสถานประกอบการมีทิศทางที่ดีขึ้น สะท้อนจากดัชนีแรงงานอุตสาหกรรมเดือนกันยายนที่ปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีแรงงานในอุตสาหกรรมสำคัญหลายกลุ่มยังคงขยายตัว อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวร้อยละ 10.85 แปรรูปผักผลไม้ขยายตัวร้อยละ 5.86 เครื่องปรับอากาศขยายตัวร้อยละ 9.76 และยางล้อขยายตัวร้อยละ 3.42  

แต่อย่างไรก็ตาม การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังส่งผลต่อการขาดแคลนชิปและชิ้นส่วนรถยนต์บางรายการ แต่ในเดือนกันยายนสถานการณ์เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น โดยโรงงานผลิตรถยนต์ได้รับส่งมอบชิปและชิ้นส่วนรถยนต์ได้มากขึ้น ด้านสถาบันการเงินเริ่มผ่อนคลายความเข้มงวดในการอนุมัติ ทำให้คาดว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศน่าจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปีที่ 750,000 คัน ซึ่งจะส่งผลให้การผลิตขยายตัวต่อเนื่องตามกัน ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดของประเทศ ไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ แต่ทั้งนี้อาจส่งผลกระทบบ้างในด้านโลจิสติกส์ รวมถึงอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพิงวัตถุดิบทางการเกษตรอาจจะได้รับผลกระทบบ้างในระยะถัดไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับการส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มของการขยายตัวที่ดี โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเดือนกันยายน 2564 ขยายตัวร้อยละ 15.75 มูลค่า 18,424.90 ล้านเหรียญ การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถังและอากาศยาน) ขยายตัวร้อยละ 17.90 มูลค่า 18,093.70 ล้านเหรียญ โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ในส่วนการนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวร้อยละ 16.06 ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ รวมถึงการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 43.56 ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น 

โออาร์ ร่วมมือ GC ผลิตน้ำมันดีเซลสูตรพิเศษ กำมะถันต่ำเทียบเท่ามาตรฐานยูโร 5 ช่วยลดฝุ่น PM 2.5 พร้อมจำหน่าย ในราคาเท่าเดิม ตาม พีทีที สเตชั่น กว่า 400 แห่ง ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564 - 31 มี.ค. 2565

นายบุญมา พลธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR) เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่จะกลับมาสูงเกินค่ามาตรฐานอีกครั้งในช่วงปลายปี โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โออาร์ เห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว และในฐานะผู้บริหารแบรนด์สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น โออาร์ พร้อมจำหน่ายน้ำมันอัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล (UltraForce Diesel) สูตรพิเศษที่มีกำมะถันต่ำเทียบเท่ากับน้ำมันยูโร 5

โดยมีค่ากำมะถันต่ำเฉลี่ยประมาณ 10 PPM ซึ่งต่ำกว่าค่าที่กฎหมายกำหนด (50 PPM) ถึงประมาณ 5 เท่า ซึ่งเป็นการร่วมมือกับโรงกลั่นน้ำมันของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ในการกลั่นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วกำมะถันต่ำและนำมาผลิตเป็นน้ำมันอัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล สูตรพิเศษที่คลังน้ำมันพระโขนงเพื่อจ่ายให้กับสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมกว่า 400 สถานี ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 - 31 มี.ค. 2565 รวมทั้งจ่ายให้กลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม และหน่วยงานราชการ

'ซีพี' พร้อมเก็บเกี่ยวฟ้าทะลายโจร เตรียมแจกล็อตแรกวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม

โครงการปันปลูก ฟ้าทะลายโจร ตามนโยบายประธานอาวุโสเครือซีพี พร้อมเก็บเกี่ยวแล้วเตรียมแจกล็อตแรกวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564 มั่นใจคุณภาพได้มาตรฐาน เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงยาสมุนไพร และเสริมภูมิคุ้มกัน

27 ตุลาคม 2564 นายสุเมธ ภิญโญสนิท ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด (CPP) เปิดเผยว่า โครงการปันปลูก ฟ้าทะลายโจร มีผลการดำเนินงานที่ก้าวหน้าและเป็นไปตามนโยบายของประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) นายธนินท์ เจียรวนนท์ ที่มีความตั้งใจช่วยเหลือสังคม เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงยาสมุนไพรไทยและใช้เสริมภูมิคุ้มกัน ในยามที่ขาดแคลนสมุนไพรฟ้าทะลายโจร โดยจัดให้มีการปลูกฟ้าทะลายโจรบนเนื้อที่ 100 ไร่ที่ฟาร์มแสลงพัน และฟาร์มคำพราน จ.สระบุรี 

สถานีวิจัยแสลงพัน ของกลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือซีพี ซึ่งได้เริ่มปลูกในวันแม่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันได้ทยอยเก็บเกี่ยวเพื่อนำไปผลิตเป็นยาสมุนไพรภายใต้ชื่อ “ปันปลูก” โดยจะแจกฟรีแก่ชุมชน สถานพยาบาล องค์กรต่าง ๆ รวมถึงประชาชนกลุ่มเปราะบางได้ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาติ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 พ่อหลวงของแผ่นดิน และเป็นการร้อยเรียงความดีเพื่อประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ สอดคล้องตามค่านิยม 3 ประโยชน์ของเครือซีพีอีกด้วย

โครงการปันปลูก-ฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ มีที่ตั้งอยู่ที่ จ.สระบุรี แบ่งเป็น 2 แปลง แปลงแรกตั้งอยู่ที่ฟาร์มแสลงพัน บนเนื้อที่ 30 ไร่ และอีกแปลงอยู่ที่ฟาร์มคำพราน บนเนื้อที่ 70 ไร่ โดยใช้ต้นกล้าฟ้าทะลายโจรจำนวน 1 ล้านต้นจาก 6 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม ปราจีนบุรี สุโขทัย กาญจนบุรี อุบลราชธานี และ พิจิตร โครงการนี้ผ่านการศึกษาวิจัยทั้งเรื่อง พันธุ์ ลักษณะดินที่เหมาะสม ปริมาณน้ำ ที่พืชต้องการ ขั้นตอนการเพาะปลูกที่เหมาะสม ทั้งเทคนิควิธีการจัดการแปลง อายุการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม ให้ปริมาณสารสำคัญสูง โดยศึกษาร่วมกับเกษตรกรคนเก่งจากทุกพื้นที่ และมีเป้าหมายที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ต่าง ๆ ให้กับเกษตรกรที่สนใจ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top