Saturday, 7 June 2025
Hard News Team

ครม. ตั้ง อดีตปลัดแรงงาน นั่ง ขรก. การเมือง สำนักเลขานายกฯ - ไฟเขียว ให้ ลูกสุเทพ นั่งบอร์ดวิจัยแสงซินโครตรอน 

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้ 1. นายวิรัช ประวันเตา นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ (ด้านวิจัย) กรมควบคุมโรค ดำรงตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัย) กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2564 และ 2. นางอัมพร จันทวิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนัก (ผู้อำนวยการระดับสูง) สำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กรมอนามัย ดำรงตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ (ด้านสุขาภิบาล) กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป  

ครม.อนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นายธีร์ ภวังคนันท์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบเครือข่ายและการมีส่วนร่วม (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป 

ครม.อนุมัติตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอแต่งตั้ง นางสาวพัชรา เพ็ชรทวี ที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. ให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ ก.พ. สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป 

ครม.เห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายพรชัย ฐีระเวช เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก แทนประธานกรรมการเดิมที่ลาออก ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทน อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของประธานกรรมการซึ่งตนแทน 

ครม.อนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอแต่งตั้ง นายอำนวย ภู่ระหงษ์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน แทนนางสาวสุดธิดา กรุงไกรวงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว 

ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอแต่งตั้งบุคคลเป็นประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ แทนคณะกรรมการเดิมที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนี้ 1. นายสรนิต ศิลธรรม ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ 2. นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 3. นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 4. นายภุชงค์ อุทโยภาศ  ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 5. นายวีรชัย อาจหาญ ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 6. นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ดำรงตำแหน่ง  กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 7. นางสาวณัฐชา ทวีแสงสกุลไทย ดำรงตำแหน่ง   กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป 

“บิ๊กตู่” หวังบัตรเลือกตั้ง2ใบคัดส.ส.มีคุณภาพ-ทำงานเพื่อประชาชน ปัดชิ่ง พปชร.หนีซบพรรคอะไหล่ ลั่นยังไม่คิดยุบสภาตอนนี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนากร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มอบหมาย ถึงความเห็นเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ว่า เรื่องนี้พล.อ. ประยุทธ์ชี้แจงว่า เรื่องมันตราเป็นความเห็นของพรรคการเมืองที่เสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรีไม่มีความเห็นในเรื่องดังกล่าวแต่หวังว่าการเลือกตั้งจะได้ส.ส.ที่มีคุณภาพ ทำงานเพื่อประชาชนที่ได้เลือกตั้งเข้ามา และทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับประชาชนที่เลือก

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ จะชี้แจงอย่างไร ต่อกรณีมีข่าวว่าจะย้ายเข้าไปสังกัดพรรคไทยสร้างสรรค์ ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ที่ระบุว่าเป็นการรองรับพล.อ.ประยุทธ์ นายธนากรกล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวพล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่าไม่เคยมีความคิดในเรื่องดังกล่าวแต่เป็นเรื่องของการเสนอข่าวจากสื่อโซเชียล พล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) อยู่ในฐานะที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงที่ผ่านมา

ครม. อนุมัติ 1,500 ล้านบาทให้ ธ.ออมสิน เปิด “มาตรการสินเชื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ” เป็นเงินทุนเริ่มต้นในการประกอบอาชีพ หรือเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบอาชีพช่างทุกประเภท

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ธนาคารออมสินดำเนินมาตรการสินเชื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยอนุมัติวงเงิน 1,500 ล้านบาท ในส่วนที่ธนาคารออมสินขอชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ร้อยละ 30 ของวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติทั้งหมด  5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อให้ธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นเงินเริ่มทุนเริ่มต้นในการประกอบอาชีพ หรือเสริมสภาพคล่องให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้  ทั้งยังช่วยลดการพึ่งพาสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงหรือสินเชื่อนอกระบบ  โดยมีรายละเอียดมาตรการ ฯ ดังนี้

-กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่  1)ผู้เริ่มประกอบอาชีพและผู้ประกอบการรายย่อย  เช่นผู้ผ่านการอบรมอาชีพ “ช่าง” ทุกประเภท เช่น ช่างปูน ช่างแอร์ ช่างไฟฟ้าช่างเชื่อม ช่างซ่อมอุปกรณ์ เป็นต้น และผู้ที่ไม่ใช่ช่าง เช่น เสริมสวยหรือตัดผมชาย คนขายของออนไลน์ เป็นต้น โดยมีใบประกาศนียบัตรหรือวุฒิบัตรที่ผ่านการอบรมจากหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนหรือเอกสาร อื่นๆตามประเภทของอาชีพหรือมีประสบการณ์ ในการประกอบอาชีพดังกล่าว 2) ผู้ประกอบการขนาดย่อม ที่มีสถานที่จำหน่ายแน่นอน เช่นค้าปลีก ค้าส่ง โชห่วย แฟรนไชส์ เป็นต้น โดยมีทะเบียนพาณิชย์ ทะเบียนการค้า สัญญาแฟรนไซส์ หรือเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของอื่น ๆ และ 3) ผู้ขับขี่รถสาธารณะ เช่น ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ รถตู้สาธารณะ รถขนส่งสินค้า รถบรรทุก โดยมีใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะหรือเอกสาร อื่นๆตามประเภทของอาชีพ

-วงเงินรวม   5,000 ล้านบาท 
-วงเงินสินเชื่อ  ไม่เกินรายละ 300,000 บาท
-ระยะเวลาการขอยื่นสินเชื่อ   ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึง 30 กันยายน 2565
- ระยะเวลาการกู้  รวมระยะเวลาทั้งสิ้นต้องไม่เกิน 5 ปี  (ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก) 
- อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.99 ต่อปี

ครม.รับทราบรายงานการรับจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2564 พร้อมเห็นชอบปรับปรุงโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs  พร้อมขยายระยะเวลานายจ้างลงทะเบียนรอบ 2 ตั้งแต่ 21 พ.ย. - 20 ธ.ค. นี้ 

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบรายงานการรับจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2564 และให้เสนอต่อรัฐสภาต่อไป โดยสาระสำคัญของผลการดำเนินงานรับจ่ายเงินงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 ที่สำคัญได้แก่ รายรับประเภทรายได้แผ่นดิน มีการประมาณการจัดเก็บรายได้ทั้งสิ้น 2.677 ล้านล้านบาท ซึ่งมีการจัดเก็บรายรับจริงเข้าเงินคงคลัง 2.438 ล้านล้านบาท แต่รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้จากรัฐพาณิชย์และรายได้อื่นสูงกว่าประมาณการ  โดยรายรับที่มาจากรายได้แผ่นดินต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ 0.239 ล้านล้านบาท  สำหรับรายรับประเภทเงินกู้ที่ได้ประมาณการไว้ 0.609 ล้านล้านบาท แต่มีการกู้จริง 0.735 ล้านล้านบาท

ด้านรายจ่าย มีการประมาณการประเภทรายจ่ายงบประมาณไว้ 3.217 ล้านล้านบาท แต่มีการเบิกจ่ายจริงและกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี 3.181 ล้านล้านบาท ทั้งนี้งบประมาณปี 2564 ไม่มีรายจ่ายตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง ส่วนดุลของงบประมาณประจำปี เมื่อเปรียบเทียบรายได้แผ่นดินที่นำส่งคลังกับยอดรวมรายจ่ายประจำปีพบว่า รายได้แผ่นดินต่ำกว่ารายจ่ายตามงบประมาณ 0.575 ล้านล้านบาท โดยต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ 0.204 ล้านล้านบาท ส่วนดุลการรับ-จ่ายเงิน เมื่อเปรียบเทียบรายรับรวมทั้งสิ้นกับรายจ่ายตามงบประมาณประจำปี และรายจ่ายจากเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี ส่งผลให้ดุลรายรับต่ำกว่ารายจ่ายทั้งสิ้น 0.036 ล้านล้านบาท

 

นอกจากนี้ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่23 พ.ย. 64 เห็นชอบให้มีการปรับปรุงโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs เพื่อให้การดำเนินโครงการ ฯบรรลุวัตถุประสงค์ รวมทั้งธุรกิจ SMEs สามารถดำเนินการได้ต่อเนื่อง รายละเอียดในการปรับปรุงโครงการ ดังนี้
1. เงื่อนไขการจ่ายเงินอุดหนุน   

(1)  นายจ้างที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการต้องลงทะเบียนนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม  ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปโดยให้มีผลในงวดเงินสมทบเดือนพฤศจิกายน นี้เป็นต้นไป (นำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2564) 

2. วิธีดำเนินงาน  

(2) เพิ่มช่องทางการลงทะเบียน ทั้งผ่านเว็บไซต์ส่งเสริมการจ้างงาน เอสเอ็มอี.doe.go.th  และยื่นแบบฟอร์มพร้อมหลักฐาน ณ สำนักงานจัดหางานหรือหน่วยเคลื่อนที่ของสำนักงานจัดหางาน  เพื่อให้เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลลงในระบบแทนนายจ้าง
(3) ขยายระยะเวลาการลงทะเบียน โดยผู้ลงทะเบียนรอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. -  20 ธ.ค. 2564 จะได้รับเงินอุดหนุนตามจำนวนการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทย ไม่เกิน 200 คน ระยะเวลา 2 เดือน (ธันวาคม 2564 และมกราคม 2565)  
(4) ปรับปรุงรูปแบบการจ่ายเงินอุดหนุน หลังจากวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หากรัฐยังจ่ายเงินอุดหนุนยังไม่ครบถ้วนอีก ให้สามารถจ่ายเงินเพิ่มเติมได้จนกว่าจะครบถ้วนตามสิทธิ์ที่นายจ้างพึงได้รับ

มือดีแอบพ่นสีสเปรย์จัดระเบียบเอง จับจองที่จอดรถบนถนนสาธารณะ

เกิดคำถามขึ้นมาทันที หลังจากที่เพจเฟซบุ๊ก "อีซ้อขยี้ข่าว2" ได้โพสต์ภาพการจัดระเบียบจับจองที่จอดรถบนถนนสาธารณะ ทำเอาชาวเน็ตงงกันไปเลยงานนี้ แล้วใครเป็นคนทำ เป็นฝีมือใคร แบบนี้ก็ได้เหรอ ทำให้เกิดคำถามตามมาจากชาวเน็ตมากมาย แต่ที่แน่ ๆ การพ้นสีสเปรย์บนถนนสาธารณะนั้นผิดกฎหมายแน่นอน

“วิษณุ” คาด กกต. ส่งร่าง พรป.เลือกตั้ง ส.ส. ให้ ครม. เดือน ธ.ค.นี้ เล็ง ยื่นสภาต่อช่วง ม.ค. 65 ชี้ ยุ่งแน่! ถ้ายุบสภาก่อนประกาศใช้กม.ลูก ภาวนาอย่าให้เกิด

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในส่วนของรัฐบาล ว่า ตอนนี้ร่างที่กกต.ดำเนินการยกร่างพปร.ดังกล่าวนั้นได้ถูกเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ของกกต. เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆแล้ว โดย กกต. ต้องเปิดรับฟังความเห็นเป็นเวลา 15 วัน จากนั้นจึงนำความคิดเห็นที่ได้ไปใช้ปรับปรุงตัวร่างอีกครั้ง ก่อนส่งกลับมายังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าจะส่งมาให้ ครม. พิจารณาได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยครม. จะรีบพิจารณาเรื่องนี้แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาอีกภายใน 4-5 วัน ก่อนจะส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งควรจะเป็นต้นเดือนมกราคม 2565 โดยทุกอย่างเป็นไปตามปฏิทิน 

นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนร่างของพรรคร่วมรัฐบาลนั้นเป็นการดำเนินการอีกส่วนหนึ่ง ไม่ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมครม. เพราะเขาสามารถเสนอต่อสภาได้เลย อย่างไรก็ตาม ได้มีการพูดคุยเป็นการภายในเมื่อวันที่ตนได้เจอกับคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ว่า เพื่อไม่ให้มีปัญหาความขัดแย้งกันมากนัก ควรมีการประชุมร่วมกันระหว่างรัฐบาล กกต. และพรรคการเมือง ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมาร่วมด้วยหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่หากพรรคร่วมฝ่ายค้านอยากมาร่วมด้วยก็สามารถเข้ามาได้ ซึ่งการประชุมนี้จะทำให้เราได้ปรับจูนทำความเข้าใจกันในประเด็นที่พอจะปรับให้กลมกลืนกันได้ แต่หากมีประเด็นใดที่ไม่สามารถปรับเข้าหากันได้ก็รอให้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ 

เมื่อถามว่า แสดงว่าจะนำร่างของรัฐบาลและร่างที่ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเสนอไปประกบกันในชั้น กมธ. ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ โดยแต่ละทางต่างนำเสนอเข้ามาที่สภาฯ ซึ่งการพิจารณาจะใช้ร่างของรัฐบาล หรือร่างที่กกต.เป็นผู้จัดทำมาเป็นหลัก ขณะที่ฝ่ายค้านก็สามารถเสนอร่างกฎหมายลูกในนามพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เช่นกัน 

เมื่อถามว่า ถ้ามีการยุบสภาก่อนประกาศใช้กฎหมายนี้จะยุ่งหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวทันมีว่า “ยุ่ง” และ “อย่างนึกเลย”

เมื่อถามย้ำว่า ได้เตรียมทางออกไว้แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “อย่าพูดเลย ได้แต่ภาวนาขออย่าให้มันเกิด”

เมื่อถามถึงรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมเสนอแก้รัฐธรรมนูญอีกครั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า ก็แล้วแต่เขา จะแก้หลายครั้งก็ได้ 

‘สุริยะ’ หนุนอุตฯ เครื่องมือแพทย์ ชี้ 9 เดือนโต 22% ดันไทยสู่ Medical Hub

กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์สมัยใหม่ หลังพบช่วง 9 เดือน การส่งออกเครื่องมือแพทย์ โตร้อยละ 22.2 คาดทั้งปี แตะร้อยละ 29.6 ชี้การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี IoT, 5G, AI รวมถึงนวัตกรรมสู่สังคมดิจิทัล และการแพร่ระบาด COVID-19 เป็นปัจจัยหนุน Digital Healthcare โตเร็ว พร้อมรองรับ Smart Hospital ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องมือแพทย์ในอาเซียน ในปี 2570

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และบริการการแพทย์ครบวงจรเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต (S-Curve) ที่รัฐบาลมุ่งเน้นในการเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (New Engine of Growth) โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์มีอัตราการส่งออกเติบโตร้อยละ 22.2 หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2563 มูลค่า 24,988 ล้านบาท 

และทั้งปี 2564 คาดว่าอุตสาหกรรมนี้จะมีการเติบโตจากการส่งออกอยู่ที่ร้อยละ 29.6 หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 205,664 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ได้เข้ามามีบทบาทในวงการแพทย์ รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการที่สังคมไทยได้เข้าสู่สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์แบบ หรือ Complete Aged Society ในปี 2564 จึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้ความต้องการสินค้าและเครื่องมือแพทย์เพิ่มสูงขึ้น

ดังนั้น รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรม จึงเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) เพื่อเป็นปัจจัยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และสุขภาพของไทยมีความโดดเด่น มีศักยภาพในการแข่งขันในเวทีโลก และยังเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางด้านสุขภาพของประชาชน ตอบโจทย์ Digital Healthcare ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เร่งดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเร็ว ๆ นี้

รู้จักร้าน 60 Plus Bakery & Cafe โครงการดีๆ ที่เดินหน้าด้วยพลังของผู้พิการ

60 Plus Bakery & Cafe 

แค่เห็นชื่อผ่าน ๆ ก็คงพอทราบว่าเป็นร้านขายเบเกอรี่และขนมทั่ว ๆ ไป

หากแต่สาเหตุที่ทำให้ 60 Plus Bakery & Cafe เป็นสินค้าและบริการที่ไม่ธรรมดา จนต้องหยุดดู!! เพราะทั้งหมดที่ทำขึ้นในร้านนี้ เกิดขึ้นโดยคนพิการและออทิสติก!!

60 Plus Bakery & Cafe เป็นร้านเบเกอรี่คาเฟ่ อยู่ใกล้ ๆ โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งปัจจุบันได้เปิดเป็นศูนย์ฝึกอาชีพสอนงานครัวและงานบริการแก่ผู้พิการ ซึ่งอันที่จริงแล้ว 60 Plus+ Bakery & Cafe เป็นโครงการที่จัดขึ้นโดยมูลนิธิศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิก (APCD) ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งจัดทำขึ้น เพื่อช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้คนพิการและออทิสติก โดยขนมทั้งหมดในร้านจะอยู่ภายใต้การดูแลจากร้าน Yamazaki อีกทีหนึ่ง

ที่นี่มีคุณคริส ‘คริสโตเฟอร์ เบญจกุล’ อดีตพระเอกหนุ่มอนาคตไกล ที่ชีวิตต้องพลิกผัน หลังลงไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจนตนเองถูกจักรยานยนต์เมาแล้วขับชน จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและร่างกายของพระเอกหนุ่มก็กลับมาไม่สมบูรณ์ 100% ซึ่งปัจจุบันเขาได้รับหน้าที่เป็นประชาสัมพันธ์ให้กับมูลนิธิ APCD แห่งนี้อีกด้วย 

ความเจ๋งของร้าน 60 Plus+ Bakery & Cafe ไม่ใช่แค่ศูนย์ฝึกอบรมผู้พิการ รวมถึงสินค้า/บริการจากผู้พิการเท่านั้น แต่ที่นี่จะให้โอกาสแก่ผู้พิการและออทิสติก ได้เข้าไปทำงานประจำยังร้าน Yamazaki สาขาต่าง ๆ ที่ต้องการคนและสะดวกต่อการเดินทางของผู้ที่จะไปประจำตำแหน่งนั้น ๆ เมื่อมีทักษะที่ดีพอ

ส่วนตำแหน่งที่แต่ละคนได้รับนั้นก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความเหมาะสม อย่างเช่น ผู้พิการทางหูก็สามารถทำขนมได้ หรือผู้พิการทางขาก็สามารถมาทำงานเป็นแคชเชียร์ได้เช่นกัน หรือบางคนก็อาจจะสามารถทำได้หลายตำแหน่ง หมุนเวียนกันไปขึ้นอยู่กับความต้องการในขณะนั้น

'เสกสกล' ซัด 'ณัฐชา' ก่อนเสี้ยมพรรคอื่นแตกคอ ให้ย้อนดูพรรคตัวเอง ขัดแย้ง-งูเห่า

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนาย​ณัฐชา​ บุญไชยอินสวัสดิ์​ โฆษกพรรคก้าวไกล วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรีนั้นรวบอำนาจ ว่า นายณัฐชา เป็นถึง ส.ส. ที่มาจากประชาชน ควรจะสนับสนุนนโยบายการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ไม่ไช่ว่าจะออกมาขัดขวางการทำงานของรัฐบาล กีดกันไม่ให้ประชาชนได้รับการแก้ไขปัญหา หรือได้รับประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล การทำงานหลายกระทรวงร่วมกัน เป็นการบูรณาการช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ยืนยันพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่น ไม่ได้มีปัญหาอะไร อย่ามาพูดใส่ร้าย ยุยง เสี้ยมให้พรรคร่วมแตกคอกัน ไม่มีทางเกิดขึ้น ขอให้นายณัฐชา ย้อนมองดูพรรคการเมืองตัวเองก่อนว่าแตกคอกันมากน้อยแค่ไหน เห็นมีแต่งูเห่าเต็มไปหมด เพราะไม่มีใครอยากอยู่กับพรรคการเมืองที่จ้องแต่จะจาบจ้วง ก้าวล่วง ล้มล้าง โดยไม่สนใจความเป็นอยู่ของประชาชน

สหรัฐฯ เผยวัคซีนบริจาคอีก 1 ล้านโดส เดินทางถึงไทยแล้ว ย้ำเคียงข้างไทยสู้โรคร้าย

เฟซบุ๊กเพจ U.S. Embassy Bangkok แจ้งว่า วัคซีนโมเดอร์นา จำนวน 1 ล้านโดส ที่สหรัฐอเมริกามอบให้ประเทศไทยถึงแล้ว 

พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า จนถึงปัจจุบัน สหรัฐฯ ได้มอบวัคซีน mRNA ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ให้แก่ไทยรวมแล้ว 2.5 ล้านโดส การจัดส่งวัคซีนโมเดอร์นาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพจำนวน 1 ล้านโดสในวันนี้จะสานต่อความร่วมมือด้านสุขภาพอันใกล้ชิดของเราขณะที่เราทำงานร่วมกันเพื่อให้ชาติของเราทั้งสองฟื้นตัวจากการระบาดของโรคโควิด-19 ให้กลับแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ด้าน ไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “การจัดส่งวัคซีนครั้งใหม่นี้เน้นย้ำถึงการสนับสนุนที่สหรัฐฯ มีให้แก่ไทยขณะที่เราทั้งสองชาติยืนเคียงบ่าเคียงไหล่เพื่อเอาชนะการระบาดใหญ่ทั่วโลกนี้ วัคซีนล็อตแรกของเราได้ช่วยไทยควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 และล็อตที่สองนี้จะช่วยให้ไทยบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนประชากรให้ได้ร้อยละ 70 ภายในเดือนมกราคม อันเป็นการปูทางสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ” 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top