Monday, 9 June 2025
Hard News Team

ดราม่า​ 'บวชจนรวย'​ สะท้อนความอคติสังคมไทย อย่าทำร้ายใครเพียงเพราะเห็นตรงกันข้าม

หลังจาก​ 'พระมหาไพรวัลย์'​ ได้เตรียมจ่อฟ้อง​ 'สื่อดัง'​ หลังถูกกล่าวหาบวชจนรวย​หมื่นล้าน มีเงินดั่งมหาเศรษฐีไปก่อนหน้านี้นั้น

ล่าสุด​ 'พระมหาไพรวัลย์'​ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก​ 'ไพรวัลย์​ วรรณบุตร'​ เกี่ยวกับเรื่องนี้​ ว่า... 

จะชอบจะชังอาตมาไม่ว่า แต่อย่าทำร้ายกันด้วยความเท็จที่ไม่จริงเลย อย่าเป็นเหยื่อของความเกลียดชัง อย่าเป็นเหยื่อของความอคติ อย่าทำร้ายใครเพียงเพราะเขาเห็นตรงกันข้ามกับเรา อาตมาจะรอการขอโทษอย่างเป็นทางการนะ แล้วอาตมาจะยุติการดำเนินคดี

‘แรมโบ้’ ฟาดแรง ‘ชัยเกษม’ มีสมองหรือไม่? เป็นถึงอดีตผู้รักษากม. แต่หนุน ‘แอมเนสตี้’ 

‘แรมโบ้’ ฟาดแรง ‘ชัยเกษม’ มีสมองหรือไม่เป็นถึงอดีตผู้รักษากฎหมาย แต่สนับสนุนแอมเนสตี้ ทั้งที่รู้เป็นองค์กรมีพฤติกรรมทำลายประเทศ เข้าข้างคนทำผิดกฎหมายแล้วอ้างสิทธิมนุษยชน 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรคเพื่อไทยแสดงจุดยืนพรรคไม่สนับสนุนที่จะให้ยุบ หรือ ขับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกจากประเทศไทย และพาดพิงตนเองบอกว่าคนไล่ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิด โดยระบุว่านายชัยเกษมเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตอัยการสูงสุด อดีตอัยการอาวุโส แต่กลับมองว่าองค์กรที่สนับสนุนกลุ่มที่ทำความผิดกฎหมายเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

ขณะเดียวกันนายชัยเกษมไม่ควรมองแค่เรื่องสิทธิมนุษยชน แต่ควรมองถึงเรื่องการกระทำผิดกฎหมายด้วย ซึ่งแอมเนสตี้ออกมาปกป้องคนที่ทำผิดกฎหมาย ที่ทำให้บ้านเมืองเดือดร้อน จาบจ้วงก้าวล่วงสถาบัน จึงเป็นธรรมดาที่คนส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยแล้วออกมาขับไล่ 

'พระมหาสมปองฯ'​ กำหนดสึก​ 3​ พ.ย. 66 ตรงวันคล้ายวันเกิด 45 ปี

(29 พ.ย.64)​ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต กล่าวถึงการลาสิกขาบทของตัวเองว่า... 

เตรียมลาสึกเช่นกัน โดยกำหนดมานานแล้ว แต่ได้เลื่อนไปก่อน เพราะต้องเรียน ทำงานและญาติโยมยังนิมนต์ 

ส่วนที่อาตมาต้องสึกส่วนหนึ่งต้องดูแลโยมแม่ และส่วนหนึ่งมาจากเรื่องท่านเจ้าคุณ แต่ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนพระมหาไพรวัลย์ โดยอาตมายังมีพี่สาวช่วยดูแลโยมแม่อยู่ แต่พระมหาไพรวัลย์ไม่มีใครดูแลโยมแม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยพูดและกำหนดไว้แล้ว จะสึกในวันที่ 3 พ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันเกิดของอาตมา อายุครบ 45 ปี 

‘จุรินทร์’ ชงครม. จ่ายเงินประกันราคา กลุ่ม ‘ข้าว-ยางพารา’ เอาใจเกษตรกร

(30 พ.ย. 64) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สำหรับเงินประกันรายได้ข้าว ได้จ่ายให้ชาวนาแล้ว 2 งวด เป็นเงินประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 31 งวดก่อนหน้านี้ยังไม่ได้จ่ายไป เพราะต้องรอขยับเพดานหนี้รัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำจาก 30 เปอร์เซ็นต์ เป็น 35 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพิ่งดำเนินการไปเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 

'กรมบัญชีกลาง' เผยผลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ปี 64  ประหยัดงบประมาณได้กว่า 7.8 หมื่นล้านบาท 

นางแก้วกาญจน์ วสุพรพงศ์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับ ดูแล และพัฒนาระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) เพื่อให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง และประกาศเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างในระบบสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ทำให้ผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เกิดการแข่งขันอย่างเท่าเทียม และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

อีกทั้งยังช่วยประหยัดเงินงบประมาณจากโครงการต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (ตุลาคม 2563 – กันยายน 2564) หน่วยงานของรัฐได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและก่อหนี้แล้วจำนวนทั้งสิ้น 5,247,846 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 98.34 ของจ านวนโครงการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด โดยมีมูลค่าที่จัดหาได้ 1,333,622.22 ล้านบาท สามารถประหยัดงบประมาณได้ 78,667.29 ล้านบาท หรือประหยัดได้ร้อยละ 5.57  ของวงเงินงบประมาณในการจัดหาสำหรับวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่สามารถประหยัดงบประมาณได้มากที่สุดในปีงบประมาณ พ.ศ.2564  

ได้แก่การจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) ซึ่งในปีนี้ประหยัดงบประมาณได้ร้อยละ 15.14  ของวงเงินงบประมาณในการจัดหา แต่การจัดซื้อจัดจ้างที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่การจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ซึ่งมีมูลค่าถึง 919,989.69 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55.66 ของมูลค่างบประมาณ ในการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด รองลงมาคือวิธีเฉพาะเจาะจง และวิธีคัดเลือกตามลำดับ และเมื่อจำแนกปริมาณ การจัดซื้อจัดจ้างตามวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง พบว่าหน่วยงานของรัฐจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงมากที่สุด เป็นจำนวน 5,200,064 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 97.45 ของจ านวนโครงการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด  

'พิมรี่พาย'​ คำอธิบายของความเท่าเทียม เริ่มต้นจากศูนย์เหมือนคนไทยหลายคน

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” ระบุว่า... 

"พิมรี่พาย คือคำอธิบายเรื่องความเท่าเทียม"

ความเท่าเทียมไม่ได้หมายถึง ประเทศนี้ไม่มีคนจน มีแต่คนรวย 

ความเท่าเทียมไม่ได้หมายถึง ทุกคนมีปริญญา เป็นผู้จัดการ เป็นเจ้าของกิจการเหมือนกันทั้งประเทศ

ความเท่าเทียมไม่ได้หมายถึง ทุกคนต้องมีรายได้เท่ากัน รวยเท่ากัน เรียนโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยดังเดียวกัน ทำงานบริษัทใหญ่เหมือนกัน

“แต่ความเท่าเทียมหมายถึง ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน”

มีโอกาสเท่าเทียมกัน ในการ...

เลือกที่เรียน เลือกอาชีพ เลือกเส้นทางชีวิต เลือกผู้แทนราษฎร 

แต่...ใครจะได้เข้าเรียนโรงเรียนเด่น​ มหาวิทยาลัยดัง หรือทำงานในบริษัทใหญ่ มีอาชีพที่มั่งคงหรือสูงส่ง มีเส้นทางชีวิตที่เลิศเลอ นั้นขึ้นอยู่กับตัวของตัวเอง

เพราะทุกคนมีความเท่าเทียมกัน ในโอกาสที่จะได้ทำในสิ่งที่วาดหวังเท่าเทียมกัน ส่วนใครจะคว้าได้มากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลายอย่าง รวมทั้งขึ้นอยู่กับตัวเอง ขึ้นอยู่กับ...ความสามารถ ความพยายาม ความมุ่งมั่นตั้งใจและเป้าหมายของชีวิต

นอกจากนี้ ความเท่าเทียมกันในทางการเมืองคือ การมีสิทธิ์ในการเลือกตั้งเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะมีความรู้ระดับปริญญาเอกหรือ ม.6

>> พิมรี่พาย คือ​ คำอธิบายเรื่องความเท่าเทียม!! 

พิมรี่พาย ไม่ได้เกิดมาจากครอบครัวมหาเศรษฐี แถมเคยปากกัดตีนทีบมาก่อนเหมือนคนส่วนใหญ่ของประเทศและของโลก

พิมรี่พาย เคยวิ่งหาที่ขายของเหมือนแม่ค้าคนอื่น ๆ เคยขาดทุน เคยถูกโกง เคยหมดตัวเหมือนทุกคน

พิมรี่พาย มีโอกาสรวยหรือจนเหมือนเราทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

แต่ในที่สุด พิมรี่พายก็ประสบความสำเร็จในการขาย จนโด่งดังเป็นมหาเศรษฐีในเวลาเพียงไม่กี่ปี

โดยที่ พิมรี่พาย ไม่ได้มีอะไรที่ไม่เท่าเทียมกับคนอื่นเลย

"สุเทพ"  มั่นใจใช้ข้อเท็จจริงสู้คดีทุจริตโรงพัก 396 แห่ง มั่นใจ ทำตามมติ ครม.ยันไม่ได้ยุ่งการจัดซื้อจัดจ้าง ตั้งข้อสังเกตเหตุใด ป.ป.ช.ฟ้องเอง เพราะอัยการสั่งไม่ฟ้อง

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงแหน่งทางการเมือง   นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินมาศาลฏีกาแผนกอาญาผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง สนามหลวง ตามนัด ที่ป.ป.ช.ส่งตัวฟ้องศาล  กรณียื่นฟ้องในคดีทุจริตสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่งทั่วประเทศ และแฟลตตำรวจ 163 หลัง  รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5,200 ล้านบาท 

โดยนายสุเทพยืนยันต่อสู้คดีด้วยข้อเท็จจริง และชี้ว่าถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ชี้แจงข้อกล่าวหาการทุจริตโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ หลัง ป.ป.ช.สอบสวนคดีมานายนับ 10 ปี ส่งผลต่อชื่อเสียง ทั้งที่ได้ต่อสู้เรื่องต้านการทุจริตมาตลอด แต่มาถูกกล่าวหาการทุจริตเสียเอง  และยืนยันข้อต่อสู้คดีว่าไม่ได้กระทำการใดที่ผิดจากมติ ครม. 

และการสั่ง การและ พิจารณาต่างๆ อยู่บนพื้นฐานของข้อกฎหมายระเบียบปฏิบัติ ในฐานะที่กำกับดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตัดสินใจในแง่ของนโยบาย การปฎิบัติตามอำนาจหน้าที่ และไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยอนุมัติตามที่มีการเสนอได้ในราคาต่ำกว่าราคากลางกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่แต้งง่าผ่านการประมูลชอบตามกฎหมายแล้วจึงได้ลงนาม ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์อะไรกับบริษัท การสร้างสถานีตำรวจไม่แล้วเสร็จเป็นเรื่องของการบริหารจัดการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จับตาครม. เคาะโครงการประกันรายได้พืชเกษตรแสนล้าน

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  มีวาระที่เกี่ยวข้องกับทางด้านเศรษฐกิจเสนอให้กับที่ประชุมพิจารณา โดยเฉพาะโครงการประกันรายได้เกษตรพืชเกษตรตามนโยบายรัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์ เสนอโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพิ่มเติม หลังจากได้เสนอครม.ขออนุมัติการจ่ายเงินแล้วในงวดแรก รวมทั้งยังเสนอโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิต เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/2565 ขณะที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางระยะที่ 3 คิดเป็นวงเงินรวมกว่า 1.4 แสนล้านบาท 

ทั้งนี้ภายหลังจากผ่านการเห็นชอบแล้ว ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะเร่งจ่ายเงินลงไปยังบัญชีเกษตรกรทันที เพราะที่ผ่านมาการดำเนินโครงการนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ  เห็นชอบให้ขยายเพดานก่อหนี้ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง มาตรา 28 จาก 30% เป็น 35% ชั่วคราว 1 ปี ทำให้รัฐบาลมีวงเงินกู้เพิ่มขึ้น 1.55  แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้กับโครงการได้ต่อเนื่อง


 

'สาธิต' เผย สธ. ชง ครม. แก้มติศบค. กลับไปใช้วิธีตรวจแบบ RT-PCR นทท.เข้าประเทศ ป้องโอไมครอน ชี้ ไฟเขียว ขยายเยียวยา อสม. อีก 6 เดือน 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เนื่องจากปัญหาการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน ในการประชุมครม. วันเดียวกันนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะนำเสนอให้ที่ประชุมครม. ทบทวนมติศบค. เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ให้มีการตรวจหาเชื้อโควิด- 19 จาก RT-PCR เหลือเพียงการตรวจแบบ ATK ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 16 ธันวาคม โดยกระทรวงสาธารณสุขจะขอให้กลับไปใช้วิธีแบบ RT-PCR เหมือนเดิม โดยเป็นการใช้มติครม. แก้ไขมติศบค. เพื่อให้มีคัดกรองอย่างเข้มข้น สำหรับผู้ที่เดินทางมาจาก 63 ประเทศ และจะไม่มีการพิจารณาให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มนอกจาก 63 ประเทศนี้ 

นายสาธิต กล่าวว่า ส่วนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยในปัจจุบันเรายังไม่พบโอไมครอน ยังคงใช้การตรวจแบบ ATK เช่นเดิม แต่กรณีที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จำเป็นต้องตรวจแบบ RT-PCR  ซึ่งหากพบว่าเป็นบวก ก็จะต้องไปตรวจว่าเป็นโอไมครอน หรือไม่ ส่วนนักท่องเที่ยวที่การเข้าประเทศแบบวิธี Test&Go ยังยึดวิธีแบบเดิม ที่จะต้องรอผลตรวจ RT-PCR ให้เป็นลบก่อน 

 

'ไบเดน' รับหวั่น!! Omicron​ แต่ยังไงก็ไม่ล็อกดาวน์ แนะ!! ปชช.สหรัฐฯ​ อย่าตื่นตระหนกเกินเหตุ 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เผย​ ตัวกลายพันธุ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ Omicron​ เป็นบ่อเกิดแห่งความกังวล แต่แนะพลเมืองอเมริกาอย่าได้ตื่นตระหนก และเผยว่าอเมริกากำลังจัดทำแผนฉุกเฉินกับบริษัทยาทั้งหลายหากว่าวัคซีนใหม่มีความจำเป็น

ไบเดนระบุว่าสหรัฐฯ​ จะไม่กลับเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของ​ Omicron​ และจะเปิดตัวกรอบยุทธศาสตร์ในวันพฤหัสบดี​ (2 ธ.ค. 64) สำหรับต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ในช่วงฤดูหนาว พร้อมเรียกร้องประชาชนเข้ารับวัคซีน ฉีดเข็มกระตุ้นและสวมหน้ากาก

"ตัวกลายพันธุ์นี้เป็นบ่อเกิดแห่งความกังวล แต่ไม่ได้ก่อความตื่นตระหนก" ไบเดนกล่าวที่ทำเนียบขาว หลังประชุมร่วมกับคณะทำงานด้านโควิด-19 ของเขา "เรากำลังจะสู้และเอาชนะตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้" ไบเดนระบุ

ทั้งนี้​ Omicron​ กำลังกระตุ้นให้ประเทศต่าง ๆ​ ทั่วโลก รวมถึงสหรัฐฯ จำกัดการเดินทางจากภูมิภาคทางใต้ของทวีปแอฟริกา หลังจากพบไวรัสตัวดังกล่าว ผนวกกับในวันจันทร์​ (29 พ.ย.) องค์การอนามัยโลกเตือนว่า​ Omicron​ มีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อพุ่งพรวดขึ้นในหมู่นานาประเทศ แม้จนถึงตอนนี้จะยังไม่พบผู้เสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับตัวกลายพันธุ์ล่าสุดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ดังกล่าวก็ตาม

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไบเดน​ ยอมรับว่า​ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เคสผู้ติดเชื้อ​ Omicron​ จะเกิดขึ้นในสหรัฐฯ แต่ เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวยืนยันว่าตัวกลายพันธุ์นี้ไม่ควรเป็นสาเหตุให้ชาวอเมริกันชนเปลี่ยนแผนการเดินทางช่วงวันหยุดยาว ตราบใดที่พวกเขาฉีดวัคซีนแล้วและสวมหน้ากาก

ไบเดนเชื่อว่าวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะยังคงปกป้องการติดเชื้ออาการรุนแรง แต่ระบุรัฐบาลของเขากำลังทำงานร่วมกับบรรดาผู้ผลิตวัคซีน ไม่ว่าจะเป็นไฟเซอร์, โมเดอร์นา​ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เพื่อร่างแผนฉุกเฉิน

"ในกรณีที่...ซึ่งหวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น วัคซีนรุ่นอัปเดตหรือเข็มกระตุ้นมีความจำเป็นสำหรับตอบโต้ตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้ เราจะเร่งพัฒนามันและใช้งานมันร่วมกับทุกเครื่องไม้เครื่องมือที่สามารถหยิบหาได้" เขากล่าว พร้อมระบุว่าเขาจะสั่งการไปยังสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ​ (เอฟดีเอ) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ​ (ซีดีซี) เพื่อให้วัคซีนเหล่านี้หยิบหาได้โดยเร็วที่สุด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top