Tuesday, 1 July 2025
Hard News Team

“โฆษกรัฐบาล” ย้ำ 1มี.ค.ลงทะเบียน TEST AND GO - แจก ATK ให้ปชช.กลุ่มเสี่ยงฟรี ผ่านหน่วยบริการกว่า 2,000 แห่ง ยัน เดินทางเศรษฐกิจคู่กับป้องกันระบาด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใน 1 มี.ค.นี้ รัฐบาลเดินหน้านโยบายมาตรการควบคุมด้านสาธารณสุข ควบคู่ไปกับการเปิดลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์การเดินทางเข้าประเทศไทย ในรูปแบบ TEST AND GO โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเร่งกระจายชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ผ่าน โครงการกระจายอุปกรณ์ตรวจด้วยตนเอง เพื่อคัดกรองการติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งเป็นการขยายบริการให้ครอบคลุมการเข้าถึงสิทธิสร้างเสริมสุขภาพและระบบสาธารณสุข อย่างต่อเนื่อง 

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับคนไทยทุกสิทธิ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จะกระจายผ่านหน่วยบริการในระบบสปสช.กว่า 2,000 แห่ง รวมทั้งร้านยาที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 1,500 ร้านทั่วประเทศ โดยวิธีการรับบริการ ผ่านสมาร์ทโฟน เข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง,กระเป๋าสุขภาพ เลือก “ฟรี ชุดตรวจโควิด” โดยทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อน หากมีความเสี่ยง ระบบจะให้ค้นหาหน่วยบริการใกล้ฉันและโทรติดต่อสอบถาม จากนั้นให้ไปรับพร้อมมือถือที่มีแอปเป๋าตัง เพื่อใช้สแกน QR Code แอปถุงเงินของหน่วยบริการ ได้รับชุดตรวจ 2 ชุด นำกลับมาตรวจและบันทึกผลผ่านแอปเป๋าตัง กระเป๋าสุขภาพ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง สามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนได้ที่ https://krungthai.com/link/paotang-ktbwallet 

กรณีไม่มีสมาร์ตโฟน ให้โทร 1330 หรือผ่านเว็บไซต์ สปสช.เพื่อตรวจสอบข้อมูลหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
และเดินทางไปที่หน่วยบริการ พร้อมบัตรประชาชน สูติบัตร เพื่อให้ ตัวแทนหน่วยบริการ ทำประเมินความเสี่ยง หากมีความเสี่ยง จะได้รับชุดตรวจ 2 ชุด และนำกลับมาตรวจ และแจ้งผลให้ตัวแทนหน่วยบริการบันทึกผลตรวจให้ โดยตัวแทนหน่วยบริการสแกนคิวอาร์โคด แอปฯถุงเงิน ของหน่วยตนเองเพื่อบันทึกการแจกโดยแจกได้ 100คนต่อวัน และหลังจากได้รับแจกแล้ว อีก 10 วัน สามารถมาขอรับชุดตรวจได้เพิ่ม ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิกchttps://tp.consular.go.th/ เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso

นายธนกร กล่าวว่า ส่วนขั้นตอนหลักเกณฑ์การเดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบ TEST AND GO ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง วันที่ 1 มี.ค.นี้ ให้ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass ที่ https://tp.consular.go.th/ โดยจะใช้เวลาในการพิจารณา 3- 7วัน

'ผบ.ตร' เป็นประธานอบรมพนักงานสอบสวน และทีมงานสหวิชาชีพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคุ้มครองแรงงานแก่คนต่างด้าว

ที่ห้องประชุมออคิดบอลรูม  โรงแรมพูลแมนขอนแก่น จว.ขอนแก่น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ประธานพิธีเปิดโครงการอบรมสัมมนาพนักงานสอบสวน และทีมงานสหวิชาชีพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคุ้มครองแรงงานแก่คนต่างด้าว และการป้องกันการละเมิดสิทธิตามกฎหมายแรงงาน อันจะนำไปสู่ปัญหาการค้ามนุษย์
 

ขยายตัวต่อเนื่อง!! ‘สุริยะ’ เผยดัชนีผลผลิตอุตฯ เดือน ม.ค. โต 99% รับอานิสงส์ผ่อนคลายล็อกดาวน์ - เปิดประเทศ

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนมกราคม 2565 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 อยู่ที่ระดับ 104.42 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.99 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.11 จากเดือนก่อนหน้า ด้านดัชนีแรงงานอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 1.04 รับอานิสงส์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมไทยขยายตัวใกล้เคียงกับช่วงก่อนหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมกราคมปี 2565 อยู่ที่ 104.42 ขยายตัวร้อยละ 1.99 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 นับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2564 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในสถานประกอบการยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต สะท้อนได้จากดัชนีแรงงานอุตสาหกรรม เดือนมกราคมปี 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 1.04 และอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 65.91

เศรษฐกิจภายในประเทศกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังการกระจายวัคซีนที่ดีขึ้นและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ตลาดภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวหลังได้รับการสนับสนุนผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของภาครัฐและนโยบายเปิดประเทศ รวมถึงสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตได้ แม้หลายประเทศจะเริ่มกลับมาบังคับใช้มาตรการควบคุมการระบาด แต่ยังคงสามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในรัสเซียและยูเครน ซึ่งในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด” นายสุริยะ กล่าว

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและนโยบายการเปิดประเทศส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้อุปสงค์ในประเทศทยอยฟื้นตัว สะท้อนได้จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียม ถึงแม้ผู้ประกอบการจะเผชิญกับแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาพลังงานและค่าขนส่ง ตลอดจนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่ส่งผลต่อราคาวัตถุดิบนำเข้า

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศไทยยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดย สศอ. ได้ใช้เครื่องมือระบบเตือนด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย (The Early Warning System Industry Economics : EWS-IE) ในการคำนวณ สะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแน้วโน้มขยายตัวใน 1-2 เดือนข้างหน้า ด้านเศรษฐกิจประเทศคู่ค้ามีแนวโน้มกลับมาขยายตัวเช่นกัน ทั้งนี้ จำเป็นต้องจับตาดูสถานการณ์ของรัสเซียและยูเครน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและเป็นตัวเร่งให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าว อาจเป็นอุปสรรคการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการค้าโลกอาจจะกลับมาสะดุดอีกครั้งหากสงครามยืดเยื้อ

นวัตกรรมคนไทย!! คิดค้น ‘สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูก’ ยับยั้งโควิด คาดทดลองเสร็จ พร้อมออกสู่ตลาดไตรมาส 3 ปีนี้

จุฬาฯ ร่วม 4 หน่วยงานพัฒนาต่อยอดนวัตกรรม “สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูก” ยับยั้งโควิด ศึกษาทางคลินิกในอาสาสมัคร คาดออกสู่ตลาดไตรมาส 3 ปีนี้

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.65 รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วย ผศ.ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผอ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และ น.ท.พญ.ภาพร ประสิทธิ์ดำรง กรรมการบริษัทไฮไบโอไซ จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนานวัตกรรม “สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19” เพื่อผลักดันงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมไทยสู่ระดับโลก

รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวว่า ทีมนักวิจัยได้บ่มเพาะและพัฒนาแอนติบอดีที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19 มาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการระบาด โดยได้รับการสนับสนุนทั้งจากภาคประชาชนและภาครัฐ คือ สวรส. กระทั่งสามารถพัฒนาแอนติบอดีต้นแบบได้และได้ยื่นจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อย มีความพร้อมที่จะถ่ายทอดไปสู่ภาคเอกชนเพื่อนำไปต่อยอดในการทำการวิจัยทางคลินิก เพื่อสร้างเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่น่าจะมีส่วนช่วยป้องกันหรือรักษาโควิด-19 โดยหน่วยงานที่มาร่วมมือในครั้งนี้จะทำการวิจัยทางคลินิก และผลิตให้ได้ตามมาตรฐานเพื่อขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประมาณเดือนมิถุนายน 2565 คาดออกสู่ตลาดเพื่อให้ประชาชนไทยได้เข้าถึงนวัตกรรมสุขภาพอีกทางเลือกหนึ่งในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ประมาณไตรมาส 3 ของปี 2565 และเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะมาช่วยรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ต่อไป

ผศ.ชัยชาญ กล่าวว่า คณะเภสัชศาสตร์ ม.ศิลปากร ได้ร่วมศึกษาวิจัยกับทีมวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบสเปรย์แอนติบอดีสำหรับพ่นจมูกเพื่อป้องกันโควิด-19 ซึ่งจากผลการทดลองเบื้องต้นในระดับห้องปฏิบัติการและการศึกษาวิจัยในสัตว์ทดลอง แอนติบอดีพ่นจมูกที่พัฒนาขึ้นมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นพ.นพพร กล่าวว่า สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19 ที่กำลังจะถูกพัฒนาขึ้นมาและมีการศึกษาประสิทธิภาพในมนุษย์นั้น เป็นการต่อยอดจากงานวิจัยที่ สวรส.ได้ให้การสนับสนุนในโครงการพัฒนา Monoclonal antibody cocktail ต่อเชื้อ SAR-CoV-2 จากผู้ป่วยโควิด-19 ที่หายจากโรค พร้อมกันนี้ สวรส. ยังได้สนับสนุนทุนวิจัยในด้านนวัตกรรม เพื่อเป้าหมายในการเติมเต็มความมั่นคงด้านสุขภาพ รวมทั้งการเข้าถึงบริการสุขภาพของคนไทยอย่างเท่าเทียม และนวัตกรรมด้านสุขภาพจะช่วยให้คนไทยเกิดการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพมากยิ่งขึ้น

พิษโอมิครอนฉุดเศรษฐกิจเดือน ม.ค. ชะลอตัว

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจและการเงิน เดือนม.ค. 2565 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคม มีการชะลอตัวลงบ้าง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับลดลง จากการระงับการลงทะเบียนเข้าประเทศผ่านระบบ Test & Go ในช่วงวันที่ 21 ธ.ค.2564 - 31 ม.ค. 2565 หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 

ส่วนการบริโภคและลงทุนของภาคเอกชนปรับลดลง จากความกังวลต่อการระบาดของโอมิครอน โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน ที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนในเกือบทุกหมวด โดยเป็นผลจากสถานการณ์การระบาดในประเทศที่กลับมารุนแรงขึ้น และการเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการควบคุมการระบาด ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมและความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลงบ้าง 

รบจริง - เจ็บจริง – ตายจริง!! ‘ยูเครน’ เปิดรับสมัครนักรบต่างชาติ ใครอยากลองรบสนามจริงเชิญทางนี้

โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนเปิดแคมเปญใหม่ รับสมัครอาสาสมัครนักรบจากทั่วโลกมาสู้รบกับกองทหารรัสเซียในยูเครน หน่วยกล้าท้าตายคนใดสนใจ สามารถลงชื่อสมัครได้ที่สถานทูตยูเครนทั่วโลกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

แผนเกณฑ์นักรบต่างชาติของเซเลนสกี้ จะได้รับการบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพยูเครน ในกองรบพิเศษที่ชื่อว่า “International Brigade of the Territorial Defense of Ukraine” ซึ่งผู้นำยูเครนย้ำว่า นี่ไม่ใช่การรบเพื่อป้องกันดินแดนยูเครนเท่านั้น แต่จะเป็นแผ่นดินยุโรปทั้งผืนจากการรุกรานของรัสเซีย

และทันทีที่มีประกาศแคมเปญนี้ ที่หน้า Facebook ของสถานทูตยูเครนทั้งโลก รวมถึงประเทศไทย ก็ได้ลงประกาศรับสมัครนักรบ ไปลงสนามจริงที่ยูเครนด้วยกัน

นอกจากการรับสมัครนักรบต่างชาติเพิ่มแล้ว ยังมียอดบริจาคจากต่างประเทศหลั่งไหลไปที่ยูเครนเป็นจำนวนมาก เพื่อให้เอาไปใช้จ่ายบำรุงกองทัพ และจัดหาอาวุธมายันทัพรัสเซีย รวมทั้งชาติมหาอำนาจตะวันตกอย่าง สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน ก็ได้จัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ล็อตใหญ่ไปส่งให้ยูเครนถึงบ้าน

อวดไทยให้ต่างชาติมอง!! ‘นายกฯ’ กำชับเพิ่มศักยภาพพื้นที่อีอีซี ดันสู่ศูนย์กลางลงทุนในภูมิภาค

นายกรัฐมนตรี กำชับทุกภาคส่วนเร่งผลักดันให้ประเทศไทย โดยเฉพาะ EEC เป็นจุดหมายสำหรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้าน ‘สุริยะ’ ย้ำความพร้อมรองรับการขยายตัวอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เชื่อหากโครงการฯ แล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถรองรับการขนถ่ายกลุ่มสินค้าเหลวและสินค้ากลุ่มพลังงาน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานกล่าวเปิด ‘โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1)’ ผ่านระบบออนไลน์ จากห้อง PMOC ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลว่า โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) เป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักที่สำคัญ 1 ใน 5 ของโครงการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอด มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้รองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและวัตถุดิบเหลวสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ตลอดจนรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมเหล็กครบวงจร และอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมี

การดำเนินโครงการดังกล่าว ยังเป็นการยืนยันเจตจำนงของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งจะก่อให้เกิดการลงทุนในด้านต่าง ๆ ที่ครอบคลุมทุกมิติ ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้ง S-Curve และ New S- Curve สู่พื้นที่ EEC ทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทุกคน ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวสำเร็จลุล่วงจะก่อให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่ ในการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ทางน้ำ และเป็นประตูการค้าเชื่อมโยงกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียนสู่เศรษฐกิจนานาชาติ ตลอดจนมีส่วนในการพัฒนาพื้นที่และท้องถิ่นให้เกิดการจ้างงาน สร้างเศรษฐกิจชุมชน เพิ่มรายได้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่

ผมขอเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมและใช้โอกาสในการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย ผลักดันและส่งเสริมผลประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และประชาชนคนไทยในทุกด้าน ทำให้ EEC และประเทศไทยเป็นจุดหมายสำหรับนักลงทุน และนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นฟันเฟืองสำคัญสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการต่าง ๆ รวมทั้งโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ต้องคำนึงถึงความเชื่อมโยงในทุกมิติ สร้างสมดุลในทุกด้าน ทั้งการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม และสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy ทั้งนี้ ผมมั่นใจอย่างยิ่งว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในวันนี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการพัฒนาประเทศให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว

สิ้น 'พิชัย รัตตกุล'!! อดีตประธานรัฐสภา – หัวหน้าปชป. ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบที่โรงพยาบาลศิริราช

พิชัย รัตตกุล’ อดีตประธานรัฐสภา-หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ขณะมีอายุ 97 ปี

(28 ..65) นายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นายพิชัย รัตตกุล อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้ารับการรักษาด้วยอาการป่วยมะเร็งปอด ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจะถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบที่โรงพยาบาลศิริราช

ทั้งนี้ก่อนที่นายพิชัย จะถึงแก่อนิจกรรมได้สั่งเสียครอบครัวไว้เรียบร้อยทุกประการ ทั้งนี้นายพิชัย เกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2469 สิริรวมอายุ 97 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 ที่บ้านพักของนายพิชัย รัตตกุล ในหมู่บ้านปัญญา เขตสวนหลวง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมกับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ได้เดินทางเข้ามอบแจกันดอกไม้และอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิด ขึ้นปีที่ 96 ของนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 4

“บิ๊กตู่” Conference เปิดโครงการบ้านเคหะสุขเกษม สมุทรปราการ “เปรย”ใครจะอยู่ ใครจะ้ป็น ขอร่วมมือทำทุกอย่างจะสำเร็จ “ย้ำ”เจอปัญหาทุกวันแต่ยิ้มสู้ แม้หงุดหงิดบ้างแต่ไม่เคยทิ้งประเทศ

ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบนโยบายด้านการอยู่อาศัยและการดูแลผู้สูงอายุของรัฐบาล (ผ่านระบบ Video Conference) ไปยังโครงการบ้านเคหะสุขเกษม ถนนเทพารักษ์ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โอยกล่าวตอนหนึ่ง ว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งและเป็นสิ่งที่นายกฯคาดหวังและรอคอยมาโดยตลอดในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ที่ได้มอบหมายเป็นนโยบายลงไป ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง

สำหรับนโยบายของรัฐบาลในด้านที่อยู่อาศัยและการดูแลผู้สูงอายุซึ่งทุกคนคงทราบว่ารัฐบาลมีความห่วงใยและใส่ใจในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคงระยะยาว เราต้องสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกันภายในสังคม สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจ ตลอดจนการสร้างความมั่นคงในเรื่องของที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน โดยรัฐบาลมีเป้าหมายให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยภายทั่วกันในปี 2579 ซึ่งต้องเป็นโครงการระยะยาวที่มีความต่อเนื่อง ที่ผ่านมารัฐบาลร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะประชาชนกลุ่มที่มีรายได้น้อย เปราะบาง กลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อให้มีโอกาสอย่างเท่าเทียมในการเป็นเจ้าของที่พักและที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมมาแล้วในหลายโครงการ และขยายไปสู่เป้าหมายอื่นๆโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ข้าราชการเกษียณ พนักงานบริษัท และประชาชนทั่วไปที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีหรือ 60 ปีขึ้นไป ให้ได้มีโอกาสความเท่าเทียมถึงสวัสดิการของรัฐ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หวังอย่างยิ่งว่านโยบายแบบนี้ที่ได้กำหนดลงไป รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่มุ่งมั่น ขอให้ทุกคนร่วมมือกันให้เกิดการสืบสานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีความสุขตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีเพียงพอ มีรายได้ที่เหมาะสม และการดำเนินการดังกล่าวนี้เพื่อประชาชนทั้งสิ้น ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราต้องดำเนินการด้วยความสุจริต โปร่งใส มีประสิทธิภาพ ผลประโยชน์ต้องเป็นของประชาชนโดยรวม โดยทั่วกันอย่างเป็นธรรม หากไม่ร่วมมือกันมันมาไม่ถึงวันนี้อยู่แล้ว “หวังอย่างยิ่งว่าเราจะได้ร่วมมือกันต่อไปในอนาคต ไม่ว่าใครจะเป็น ใครจะอยู่ ใครจะอะไรก็ตาม หวังว่านโยบายนี้จะสืบสานต่อไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งจะสำเร็จทุกอย่าง ไม่มีอะไรไม่สำเร็จหากเราร่วมมือกัน”นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หวังว่าทุกคนจะดีใจไปกับตนที่เห็นผลงานเป็นรูปธรรม การที่ประชาชนมีปัญหาในวันนี้ เราจะแก้ไขปัญหาความยากจนที่มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน อันแรกคือจนเพราะรายได้ไม่เพียงพอ เพราะหนี้สินต่างๆ อันที่สองจนเพราะที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม คุณภาพชีวิตไม่ดี และเรื่องของจนความรู้ต้องมีการให้ความรู้ใหม่ๆใส่ลงไป อีกสิ่งคือเรื่องการศึกษาและการเข้าถึงบริการภาครัฐ 

“อนุทิน” ไม่ประมาท สั่ง สธ.จับตาสถานการณ์เวชภันฑ์ใกล้ชิด หลังเกิดสถานการณ์ในยูเครน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลออกมาให้ข้อมูลเรื่องการขาดแคลนยาฟาวิพิราเวียร์ ว่า ท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ได้แถลงว่าเรามียาเพียงพอ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ ทั้งนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ รวมถึงยาชนิดอื่น เราสามารถผลิตเองได้ ขณะเดียวกัน ได้มีการนำเข้ามาเพิ่ม ล่าสุด เอาเข้ามาเสริมอีก 2 ตัว คือ โมลนูพิราเวียร์ และแพ็กโลวิกซ์ นอกจากนั้น ยังสามารถผลิตฟ้าทะลายโจรได้ 

ขอให้มั่นใจข้อมูลจากทางทีมแพทย์ เพราะปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้างาน ขอย้ำว่า ท่านปลัด ดูแลรับผิดชอบเรื่องโรงพยาบาล ดูแลเรื่องการจัดซื้อจัดหาเวชภัณฑ์ เพื่อมารักษาผู้ป่วย ที่สำคัญ ท่านเป็นประธานคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ท่านรายงานว่ายามีเพียงพอ ไม่เชื่อหมอ แล้วจะเชื่อใคร แน่นอนว่าทุกคนมีสิทธิ์แสดงความเห็น แต่คนทำงานก็มีสิทธิ์ที่จะชี้แจง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top