Tuesday, 1 July 2025
Hard News Team

สิ้น 'พิชัย รัตตกุล'!! อดีตประธานรัฐสภา – หัวหน้าปชป. ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบที่โรงพยาบาลศิริราช

พิชัย รัตตกุล’ อดีตประธานรัฐสภา-หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ขณะมีอายุ 97 ปี

(28 ..65) นายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นายพิชัย รัตตกุล อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้ารับการรักษาด้วยอาการป่วยมะเร็งปอด ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจะถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบที่โรงพยาบาลศิริราช

ทั้งนี้ก่อนที่นายพิชัย จะถึงแก่อนิจกรรมได้สั่งเสียครอบครัวไว้เรียบร้อยทุกประการ ทั้งนี้นายพิชัย เกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2469 สิริรวมอายุ 97 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 ที่บ้านพักของนายพิชัย รัตตกุล ในหมู่บ้านปัญญา เขตสวนหลวง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมกับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ได้เดินทางเข้ามอบแจกันดอกไม้และอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิด ขึ้นปีที่ 96 ของนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 4

“บิ๊กตู่” Conference เปิดโครงการบ้านเคหะสุขเกษม สมุทรปราการ “เปรย”ใครจะอยู่ ใครจะ้ป็น ขอร่วมมือทำทุกอย่างจะสำเร็จ “ย้ำ”เจอปัญหาทุกวันแต่ยิ้มสู้ แม้หงุดหงิดบ้างแต่ไม่เคยทิ้งประเทศ

ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบนโยบายด้านการอยู่อาศัยและการดูแลผู้สูงอายุของรัฐบาล (ผ่านระบบ Video Conference) ไปยังโครงการบ้านเคหะสุขเกษม ถนนเทพารักษ์ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โอยกล่าวตอนหนึ่ง ว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งและเป็นสิ่งที่นายกฯคาดหวังและรอคอยมาโดยตลอดในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ที่ได้มอบหมายเป็นนโยบายลงไป ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง

สำหรับนโยบายของรัฐบาลในด้านที่อยู่อาศัยและการดูแลผู้สูงอายุซึ่งทุกคนคงทราบว่ารัฐบาลมีความห่วงใยและใส่ใจในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคงระยะยาว เราต้องสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกันภายในสังคม สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจ ตลอดจนการสร้างความมั่นคงในเรื่องของที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน โดยรัฐบาลมีเป้าหมายให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยภายทั่วกันในปี 2579 ซึ่งต้องเป็นโครงการระยะยาวที่มีความต่อเนื่อง ที่ผ่านมารัฐบาลร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะประชาชนกลุ่มที่มีรายได้น้อย เปราะบาง กลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อให้มีโอกาสอย่างเท่าเทียมในการเป็นเจ้าของที่พักและที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมมาแล้วในหลายโครงการ และขยายไปสู่เป้าหมายอื่นๆโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ข้าราชการเกษียณ พนักงานบริษัท และประชาชนทั่วไปที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีหรือ 60 ปีขึ้นไป ให้ได้มีโอกาสความเท่าเทียมถึงสวัสดิการของรัฐ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หวังอย่างยิ่งว่านโยบายแบบนี้ที่ได้กำหนดลงไป รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่มุ่งมั่น ขอให้ทุกคนร่วมมือกันให้เกิดการสืบสานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีความสุขตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีเพียงพอ มีรายได้ที่เหมาะสม และการดำเนินการดังกล่าวนี้เพื่อประชาชนทั้งสิ้น ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราต้องดำเนินการด้วยความสุจริต โปร่งใส มีประสิทธิภาพ ผลประโยชน์ต้องเป็นของประชาชนโดยรวม โดยทั่วกันอย่างเป็นธรรม หากไม่ร่วมมือกันมันมาไม่ถึงวันนี้อยู่แล้ว “หวังอย่างยิ่งว่าเราจะได้ร่วมมือกันต่อไปในอนาคต ไม่ว่าใครจะเป็น ใครจะอยู่ ใครจะอะไรก็ตาม หวังว่านโยบายนี้จะสืบสานต่อไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งจะสำเร็จทุกอย่าง ไม่มีอะไรไม่สำเร็จหากเราร่วมมือกัน”นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หวังว่าทุกคนจะดีใจไปกับตนที่เห็นผลงานเป็นรูปธรรม การที่ประชาชนมีปัญหาในวันนี้ เราจะแก้ไขปัญหาความยากจนที่มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน อันแรกคือจนเพราะรายได้ไม่เพียงพอ เพราะหนี้สินต่างๆ อันที่สองจนเพราะที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม คุณภาพชีวิตไม่ดี และเรื่องของจนความรู้ต้องมีการให้ความรู้ใหม่ๆใส่ลงไป อีกสิ่งคือเรื่องการศึกษาและการเข้าถึงบริการภาครัฐ 

“อนุทิน” ไม่ประมาท สั่ง สธ.จับตาสถานการณ์เวชภันฑ์ใกล้ชิด หลังเกิดสถานการณ์ในยูเครน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลออกมาให้ข้อมูลเรื่องการขาดแคลนยาฟาวิพิราเวียร์ ว่า ท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ได้แถลงว่าเรามียาเพียงพอ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ ทั้งนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ รวมถึงยาชนิดอื่น เราสามารถผลิตเองได้ ขณะเดียวกัน ได้มีการนำเข้ามาเพิ่ม ล่าสุด เอาเข้ามาเสริมอีก 2 ตัว คือ โมลนูพิราเวียร์ และแพ็กโลวิกซ์ นอกจากนั้น ยังสามารถผลิตฟ้าทะลายโจรได้ 

ขอให้มั่นใจข้อมูลจากทางทีมแพทย์ เพราะปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้างาน ขอย้ำว่า ท่านปลัด ดูแลรับผิดชอบเรื่องโรงพยาบาล ดูแลเรื่องการจัดซื้อจัดหาเวชภัณฑ์ เพื่อมารักษาผู้ป่วย ที่สำคัญ ท่านเป็นประธานคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ท่านรายงานว่ายามีเพียงพอ ไม่เชื่อหมอ แล้วจะเชื่อใคร แน่นอนว่าทุกคนมีสิทธิ์แสดงความเห็น แต่คนทำงานก็มีสิทธิ์ที่จะชี้แจง

ห้ามมีแป๊ะเจี๊ยะ!! 'ตรีนุช' เตือน โรงเรียนดัง ห้ามมีแป๊ะเจี๊ยะเด็ดขาด ลั่น ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เด็กทุกคนมีที่เรียนแน่นอน

'ตรีนุช' เตือน โรงเรียนดัง แข่งขันสูง รับนักเรียนปี 65 ห้ามมีแป๊ะเจี๊ยะเด็ดขาด ยึดหลัก โปร่งใส ตรงไปตรงมา คัดเลือกนักเรียนที่มีความสามารถแท้จริง ยันเด็กทุกคนมีที่เรียนแน่นอน

(28..65) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ประกาศปฏิทินรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2565 โดยก่อนประถมศึกษา รับสมัครวันที่ 12-15 กุมภาพันธ์ 65 จับฉลาก วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 65 ประกาศผลวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 65 รายงานตัววันที่ 19 กุมภาพันธ์ 65 และมอบตัววันที่ 26 กุมภาพันธ์ 65

ประถมศึกษาปีที่ 1 รับสมัครวันที่ 23-27 กุมภาพันธ์ 65 จับฉลากวันที่ 5 มีนาคม 65 ประกาศผลวันที่ 5 มีนาคม 65 รายงานตัว 5 มีนาคม 65 มอบตัววันที่ 12 มีนาคม 65

มัธยมศึกษาปีที่ 1 รับสมัครวันที่ 9-13 มีนาคม 65 สอบคัดเลือกวันที่ 26 มีนาคม 65 ประกาศผลวันที่ 30 มีนาคม 65 รายงานตัววันที่ 30 มีนาคม 65 จับฉลากวันที่ 1 เมษายน 65 ประกาศผลจับฉลากและรายงานตัววันที่ 1 เมษายน 65 มอบตัววันที่ 2 เมษายน

มัธยมศึกษาปีที่ 4 ประเภทสอบคัดเลือก สมัครวันที่ 9-13 มีนาคม 65 สอบคัดเลือกวันที่ 27 มีนาคม 65 ประกาศผลวันที่ 31 มีนาคม 65 และรายงานตัววันที่ 31 มีนาคม 65 มอบตัววันที่ 3 เมษายน 65

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพมหานคร และโรงเรียนเตรียมศึกษาภูมิภาค รับสมัครวันที่ 19-23 กุมภาพันธ์ 65 สอบคัดเลือกวันที่ 5 มีนาคม 65 ประกาศผลวันที่ 12 มีนาคม 65 รายงานตัววันที่ 15 มีนาคม 65 มอบตัววันที่ 21 มีนาคม 65 นั้น

นางสาวตรีนุช ได้กล่าวว่า ในส่วนการรับนักเรียนในปีการศึกษานี้ของ ม.1 และ 4 ตนขอฝากให้โรงเรียนทุกแห่งมีการดำเนินการที่โปร่งใสและเป็นธรรม อย่าให้มีการเรียกรับเงินเพื่อแลกที่นั่งเรียนเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะโรงเรียนดังที่มีอัตราการแข่งขันสูง ซึ่งการรับนักเรียนจะต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และคัดเลือกผู้เข้าเรียนที่มีความรู้ความสามารถ โดยยืนยันว่าเด็กทุกคนจะมีที่เรียนอย่างแน่นอน เพราะนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เนื่องจากผู้เรียนทุกคนจะต้องเข้าถึงระบบการศึกษาอย่างเท่าเทียม

ทบ. เร่งส่งทหารร่วม ทุกภาคส่วนช่วยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมประเมินสถานการณ์และเข้าช่วยเหลือทันที

จากสถานการณ์ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายจังหวัด ของภาคใต้ในขณะนี้ ซึ่ง พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้รับรายงานการเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับให้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 ได้ส่งกำลังพล 486 นาย เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ 8 ลำ และยานพาหนะ 69 คัน ประกอบด้วย รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ 24 คัน รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก 15 คัน รถยนต์บรรทุก 10 ตัน รถบรรทุกเทท้าย 11 คัน รถวางสะพาน 1 คัน รถยนต์ทางทหารอื่น ๆ 18 คัน เข้าพื้นที่ประสบภัยบูรณาการร่วมกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชน จิตอาสา บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนโดยทันที เน้นการเข้าเคลื่อนย้ายสิ่งของ มอบถุงยังชีพ และปรุงอาหารสดแจกจ่ายประชาชน รวมทั้งซ่อมแซมและเชื่อมต่อเส้นทางการสัญจรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก 

โดยล่าสุด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยและพื้นที่เฝ้าระวังใน 4 จังหวัด  ได้แก่ จ.ยะลา, นราธิวาส, ปัตตานี และ สงขลา รวม 16 อำเภอ ซึ่งอยู่ในระหว่างการเข้าช่วยเหลือ อาทิ จ.ยะลา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ร่วมกับส่วนราชการ เข้าช่วยเหลือประชาชน พื้นที่ อ.รามัน, อ.ยะหา และ อ.กรงปินัง  มอบถุงยังชีพตามบ้านเรือน จัดทีมแพทย์เข้าให้การตรวจรักษา และที่ อ.บันนังสตา กองพันทหารช่างที่ 15 กองพลทหารราบที่ 15 ทำการติดตั้งสะพานเครื่องหนุนมั่นแบบเร่งด่วน (MFB) เชื่อมเส้นทางให้ประชาชนสัญจรหลังฝนตกหนัก
จ.นราธิวาส 

จากฝนที่ตกหนักตลอด 4 วัน ทำให้เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.สุไหงโกลก กองพลทหารราบที่ 15 เข้าช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงตลอดจนขนสิ่งของขึ้นที่สูง, ที่ อ.ระแงะ ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว  หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 เข้าช่วยเหลือประชาชน โดยทำอาหารปรุงสุกนำไปแจกจ่ายถึงบ้านพักเนื่องจากน้ำท่วมสูงไม่สามารถเดินทางได้

จันทบุรี - สานสัมพันธ์สื่อมวลชน! ภาคเหนือ - ภาคตะวันออก เพื่อการท่องเที่ยว พร้อมจัดกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทีมสื่อมวลชนจันทบุรี และสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่

สื่อมวลชนภาคตะวันออก นำโดย นางสุภาภรณ์ นิยมกิจ นายกสมาคมสื่อมวลจังหวัดจันทบุรี / นายสมนึก วิสุทธิ์ ที่ปรึกษานายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดจันทบุรี และประธานชมรมสื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคตะวันออก ได้นำคณะสื่อมวลชนในพื้นที่ภาคตะวันออก เดินทางมาที่ ศูนย์ข่าว นิวส์ 24 ภาคเหนือ เลขที่ 29/2 ม.3 ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โดยมี นายส่งศักดิ์ พรมเอี่ยม หัวหน้าศูนย์ข่าว นิวส์ 24 ภาคเหนือ พร้อมนายสมัย นิกูลรัมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว นิวส์ 24 ทนายชัย ชัยชนะ ที่ปรึกษาทางกฏหมาย บริษัท นิวส์ 24 สื่อมวลชนอาวุโสเชียงใหม่ และคณะร่วมให้การต้อนรับ โดยได้รับเกียรติจาก นายวรญาณ บุญณราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเลอยศ พุทธชิโนรสสกุล นายอำเภอสารภี จ.เชียงใหม่ ให้เกียรติร่วมงานในวันนี้ด้วย

นางสุภาภรณ์ นิยมกิจ นายกสมาคมสื่อมวลจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า การจัดทำโครงการสื่อมวลชนมาทัศนศึกษาพื้นที่ภาคเหนือในครั้งนี้ เพื่อเป็นการมาพบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนทางภาคเหนือ เพื่อให้สื่อมวลชนที่มาร่วมโครงการนี้ ได้นำความรู้ ประสบการณ์ งานศิลปวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคเหนือ ไปเผยแพร่ให้ชาวภาคตะวันออกได้รับรู้รับทราบ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมแข่งขันฟุตบอล เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทีมสื่อมวลชนจันทบุรี กับสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย

นายวรญาณ บุญณราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีที่คณะของสื่อมวลชนภาคตะวันออก มาเยี่ยมเยือนจังหวัดเชียงใหม่ และขอให้ได้นำแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ไปประชาสัมพันธ์ให้กับพี่น้องประขาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกได้รับทราบ และหากมีโอกาสขอให้มาเยี่ยมเยือนจังหวัดเชียงใหม่ ในโอกาสต่อไปด้วย

จากนั้นได้เดินทางเข้าเยี่ยมชม และเปิดประสบการณ์ การท่องเที่ยวธรรมชาติรูปแบบใหม่ ในธรรมชาติอันงดงามและสัตว์ป่าน้อยใหญ่ ที่พร้อมมอบช่วงเวลาแห่งความสุขทุกเพศทุกวัย กับหลากหลายกิจกรรมผ่านการให้บริการแบบมืออาชีพ ณ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สวนสัตว์เปิดที่ตั้งอยู่ในตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ และ ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณด้านหลังทางทิศตะวันตกของอุทยานหลวงราชพฤกษ์ เป็นสวนสัตว์ของรัฐบาล ภายใต้การกำกับดูแลขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย

'รมว.เฮ้ง' ห่วงน้ำท่วมใต้ สั่งหน่วยงานระดมกำลังช่วยเหลือแรงงาน เร่งด่วน!

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือกรณีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจากข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ วันที่ 28 ก.พ.65 เวลา 06.00 น.รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 25-28 ก.พ.65 มีฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใน 7 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย นราธิวาส ยะลา นครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี สงขลา และตรัง ได้รับความเสียหาย 30 อำเภอ 127 ตำบล 440 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 12,129 ครัวเรือน ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี 
ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยผู้ใช้แรงงานและประชาชนทั่วไปทุกคนที่ประสบปัญหาอุทกภัยได้รับความเดือดร้อน 

โดยได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วน ทั้งการขนย้าย อพยพ เร่งระบายน้ำ การมอบสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน รวมถึงจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ผมจึงได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดแต่ละจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ เร่งบูรณาการสนับสนุนความช่วยเหลือผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้างผู้ประกันตน และประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนกับทางจังหวัดในแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายประชาชนไปในสถานที่ที่ปลอดภัย จัดที่พักพิงชั่วคราว และสนับสนุนถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคของใช้ที่จำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
          
นายสุชาติ ยังกล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกระทรวงแรงงาน ว่า ล่าสุดผมได้สั่งการให้หน่วยงานจัดเตรียมถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคของใช้ที่จำเป็นไปสนับสนุน ทั้งจากส่วนกลางและจังหวัดใกล้เคียง ในส่วนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสงขลาเป็นศูนย์อำนวยการให้ความช่วยเหลือ ให้สำนักงานแรงงานจังหวัดในพื้นที่ของบประมาณจัดทำโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ดำเนินการจ้างงานช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยให้มีรายได้

ช่วงนี้แค่ตกใจ!! 'กรณ์' วิเคราะห์สงครามต่อบทบาท ‘คริปโต’ ชี้!! ได้รับผลกระทบช่วงแรก แต่จะมีบทบาทในอนาคต

(28 ..65) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย – ยูเครน ต่อบทบาทของคริปโต และผลกระทบต่อธุรกิจไทย ว่า...

ระยะหลายวันที่ผ่านมาราคาเหรียญคริปโต #Crypto ทุกชนิดปรับลดลงหมด ทิศทางและพฤติกรรมไม่ต่างกับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ จึงเกิดคำถามว่า นอกเหตุผลทางอารมณ์แล้วทำไมต้องเป็นเช่นนั้น คริปโตไปเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย ซึ่งพอมานั่งคิดดู รัสเซียโดนโดดเดี่ยว และถูกตัดออกจากระบบ SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication) ซึ่งเป็นระบบการส่งข้อความระหว่างธนาคารเพื่อยืนยันการโอนเงินข้ามประเทศ มีธนาคารของรัสเซียอยู่ในระบบนี้ประมาณ 300 แห่ง ทำให้โอนเงินผ่านระบบธนาคารยากขึ้นมาก ซึ่งจะส่งผลอย่างแรงกับเศรษฐกิจของรัสเซีย (ผลต่อ GDP อย่างน้อย 5%) แต่ก็จะส่งผลกับเศรษฐกิจยุโรปและทั่วโลกด้วย อย่างเช่นเรื่องก๊าซ ซึ่ง 30-40% ของก๊าซของยุโรปมาจากรัสเซีย จากนี้จะซื้อ/ขายกันหรือไม่อย่างไร และจะมีผลต่อราคาก๊าซและราคาน้ำมันที่ไทยต้องซื้ออย่างไรด้วย ส่วนผู้ประกอบการไทยที่รอการชำระเงินจากคู่ค้ารัสเซีย ต้องรีบสะสางโดยเร็ว

งูพิษในคราบเพื่อน!! ส่องนิยาม 'Frenemies' เมื่องูพิษอยู่ในคราบเพื่อน ความเจ็บปวดที่เกิดจากคนที่เราโคตรไว้ใจ

'ท้อฟฟี่ แบรดชอว์' หรือ 'ชญาน์ทัต วงศ์มณี' นักเขียนชื่อดัง เจ้าของผลงานหนังสือหลายเล่ม และบทความรสชาติจัดจ้านบนโลกออนไลน์ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก 'ท้อฟฟี่ แบรดชอว์' ระบุว่า...

Frenemies” : งูพิษในคราบเพื่อน

>> เคยเจ็บเพราะคนที่เราคิดว่าเป็นเพื่อนไหมครับ?

Frenemy” คือคนที่ทำตัวเหมือนเพื่อน แต่จริงๆ แล้วไม่มีความจริงใจ และคิดร้ายเหมือนเป็นศัตรู

เป็นการนำสองคำคือ “Friend” ที่แปลว่าเพื่อน มารวมกับ “Enemy” ที่แปลว่าศัตรู

ที่จริง Frenemy ใช้ความเป็นเพื่อนบังหน้าเพื่อผลประโยชน์ ไม่ได้รักเรา แต่อยู่กับเราด้วยเหตุผลบางอย่าง

Francis Bacon เคยพูดว่า “Champaign for my real friend. Real pain for my sham friends” แปลได้ความประมาณว่า แชมเปญมีไว้ดื่มฉลองกับเพื่อนแท้ แต่ถ้ามีเพื่อนปลอมๆ ก็มีแต่เจ็บกับเจ็บ

Frenemy อาจอยู่ในที่ทำงาน อยู่ในกลุ่มเพื่อน อยู่ได้ทุกที่

แล้วเราจะสังเกต Frenemy ได้อย่างไรบ้าง?

>> ข้อแรกคือ Frenemy จะพูดลับหลังคุณ

ถ้าเราทำอะไรไม่ดี เพื่อนที่รักเราจริงๆ จะบอกเราให้รู้ต่อหน้า ไม่ใช่เอาไปพูดลับหลัง

Frenemy ไม่เพียงแต่เมาท์ลับหลัง แต่อาจเลยเถิดไปถึงการกุข่าวลือที่สร้างความเสียหายให้กับคุณ หรือเอาความลับของคุณไปบอกคนอื่น

รู้แล้วเหยียบไว้นะ” คือเหยียบให้จม ขยี้ให้เจ็บ

>> ข้อที่ 2 Frenemy จะเอาแต่ขอความช่วยเหลือจากเรา แต่ไม่เคยให้ความช่วยเหลือเรา

เวลาที่ Frenemy ต้องการความช่วยเหลือ เขาจะโผล่มาหา ถลาเอาหน้ามาให้เห็น

แต่เมื่อเราเดือดร้อน Frenemy จะแกล้งตาย หายไปเลย หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...

ความสัมพันธ์ที่แข็งแรงคือการที่ต่างฝ่ายต่างเป็นผู้ให้และผู้รับ

ไม่ใช่การที่ฝ่ายหนึ่งให้อยู่ฝ่ายเดียว หรือมีฝ่ายที่รับอยู่ฝ่ายเดียว

>> ข้อที่ 3 Frenemy จะเอาแต่พูดถึงตัวเอง

Frenemy จะไม่สนใจว่าคนอื่นพูดอะไร แต่สนใจว่าเขาจะพูดอะไรมากกว่า

ลึกๆ แล้วคนแบบนี้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสำคัญ ก็เลยลดความสำคัญของคนอื่น

จนลืมไปว่าถ้าอยากให้คนอื่นให้คุณค่า ต้องมอบคุณค่าให้คนอื่นก่อน

>> ข้อที่ 4 Frenemy จะอิจฉา ไม่มีความสุขเมื่อคุณมีก้าวหน้าในชีวิต

ที่จริง Frenemy ต้องการแข่งขันกับคุณ และในการแข่งขันนี้ เขาไม่ต้องการเป็นคนแพ้

ดังนั้น เขาอาจจะแสดงออกด้วยการบลัฟว่าเขามีความสำเร็จที่เหนือกว่า หรือพูดให้ความสำเร็จที่คุณไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจอะไร ไปจนถึงเทคเครดิตว่าเขามีส่วนในการทำให้คุณประสบความสำเร็จ

อยู่ด้วยก็รู้สึกเหนื่อย นี่เพื่อนหรือคู่แข่ง

ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดอีก 2.2 หมื่น ตาย 42 ราย กทม.พบคลัสเตอร์โรงเรียน 18 คลัสเตอร์ วอนผู้ป่วยสีเขียวรักษาที่บ้าน สงวนเตียงให้ผู้ป่วยหนัก เตรียมช่วยคนไทยกลับจากยูเครนแบบ Test and go 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22,311 ราย ติดเชื้อในประเทศ 22,148 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 21,958 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 190 ราย มาจากเรือนจำ 27 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 136 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 17,470 ราย อยู่ระหว่างรักษา 213,645 ราย อาการหนัก 980 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 280 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 42 ราย เป็นชาย 23 ราย หญิง 19 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 29 ราย มีโรคเรื้อรัง 11 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย

ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,891,927 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,655,349 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 22,933 ราย ส่วนยอดฉีดวัคซีนวันที่ 27 ก.พ. 106,340 โดส ยอดฉีดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 จำนวน 123,568,670 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 435,984,567 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 5,697,986 ราย 

  พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในจำนวนผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษา เป็นการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลถึง 38,479 ราย และจำนวนกว่า 98% เป็นผู้ป่วยอาการสีเขียว ปัจจุบันผู้ป่วยเกิน 90% เป็นการติดเชื้อโอมิครอน กระทรวงสาธารณสุขจึงเน้นย้ำให้ผู้มีอาการน้อยรักษาตัวที่บ้าน สงวนเตียงให้ผู้ป่วยอาการสีเหลืองและแดง หรือที่มีความจำเป็นจริงๆ ทั้งผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ผู้ที่ต้องทานยากดภูมิ คนกลุ่มนี้แม้อาการจะน้อยแต่ก็อาจกระทบกับโรคหลักได้ ทางโรงพยาบาลจึงจะพิจารณาให้อยู่ในโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เรามีเตียงเพียงพอ จึงให้ผู้ป่วยสีเขียวรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่เมื่อมีผู้ติดเชื้อมากจึงอยากขอสวงนสิทธิ์ให้กับผู้ป่วยสีเหลืองสีแดง ส่วนกรณีที่มีนักวิชาการออกมาคาดการณ์ตัวเลขรายวันจะสูงมากขึ้น ยืนยันศบค.ติดตามตัวเลขอย่างใกล้ชิด อยากให้นักวิชาการเหล่านั้นให้ข้อมูลด้วยว่าภาครัฐรวมถึงแต่ละภาคส่วนควรมีบทบาทอย่างไร อย่าให้ข้อมูลเพียงแค่ตัวเลข และจากการติดเชื้อตอนนี้จะเห็นว่าติดเชื้อเยอะในจังหวัดสีฟ้าที่มีการผ่อนคลายกิจกรรม ดังนั้นอยากขอให้งดการเดินทางและการรวมกลุ่มไปก่อน เราไม่สามารถล็อกดาวน์ได้อีก แต่ต้องปรับตัว 

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดได้แก่ กทม. 2,779 ราย ชลบุรี 1,275 ราย นนทบุรี 1,0951 ราย สมุทรปราการ 1,068 ราย นครศรีธรรมราช 957 ราย นครราชสีมา 717 ราย ภูเก็ต 652 ราย นครปฐม 605 ราย สมุทรปราการ 585 ราย ปทุมธานี 577 ราย ส่วนขณะที่คลัสเตอร์ต่างจังหวัด พบคลัสเตอร์ร้านอาหารที่ จ.มหาสารคาม ขอนแก่น สงขลา คลัสเตอร์บุคคลากรทางการแพทย์พบที่ชลบุรี ปัตตานี คลัสเตอร์โรงเรียนพบที่ร้อยเอ็ด สกลนคร คลัสเตอร์ตลาดพบที่ ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภู คลัสเตอร์พิธีกรรมพบที่อานาจเจริญ สระแก้ว กาฬสินธุ์ สกลนคร เลย ศรีสะเกษ ขณะที่ในกทม.พบคลัสเตอร์โรงเรียนถึง 18 คลัสเตอร์ด้วยกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top