Sunday, 29 June 2025
Hard News Team

แถลงข่าว จับกุมพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 150 ล้านบาท

กองทัพเรือโดย พล.ร.ท.ภิญโญ โตเลี้ยง รองเสนาธิการทหารเรือ ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาลและสำนักงานป้องกันเเละปราบปรามยาเสพติด ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ในคดีจับนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมเครือข่าย รวมมูลค่าทรัพย์สิน กว่า 150 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 ณ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการแถลงรายงาน ผลการปฏิบัติในการปิดล้อม ตรวจค้น และจับนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ คือ นายวรวัฒน์ วงศพ่าห์ พร้อมกับจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดีสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือในการค้ายาเสพติด อีกจำนวน 4 คน และสามารถตรวจยึดทรัพย์สิน ได้หลายรายการ ได้แก่ เงินสด เงินฝากในบัญชี ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โรงแรม รีสอร์ท ทองรูปพรรณ อาวุธปืน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือประเภทต่างๆ นกแก้ว ฯลฯ รวมมูลค่าทรัพย์สิน ประมาณ 150 ล้านบาท 

ชาวบ่อปลามาเลย์ระทม น้ำท่วมฉับพลันทำลายฟาร์มยกบ่อ ขาดทุนกว่า 1.3 ล้านริงกิต

เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาในมาเลเซียกว่า 23 ราย น้ำตาตกใน เมื่อต้องสูญพันธุ์ปลาที่เลี้ยงไว้ยกบ่อรวมแล้วถึง 126 ตันภายในคืนเดียว จากเหตุน้ำท่วมเฉียบพลันในเมือง Kampung Beladau Selat และ Kampung Beladau Kepong เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายมากถึง 1.3 ล้านริงกิต

นานมอห์ด เซลาน มัท เจ้าของบ่อปลาวัย 55 ปี เล่าว่า น้ำท่วมมาไวมากและได้พัดดินโคลนจำนวนมาก ทำลายบ่อปลาสวาย และปลาหมอของชาวบ้านที่เลี้ยงไว้ในกระชังกลางแม่น้ำกว่า 59 บ่อ หายวับในพริบตา เป็นความเสียหายครั้งรุนแรงที่สุดตั้งแต่ทำฟาร์มปลามานานเกือบ 30 ปี

ชาวบ้านในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ประกอบอาชีพเพาะพันธุ์ปลามานานไม่ต่ำกว่า 10 ปี ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาก็ไม่เคยเจอเหตุน้ำท่วมที่รุนแรง จนสร้างความเสียหายให้กับบ่อเลี้ยงปลาของพวกเขาเท่านี้มาก่อน 

ศาลพิพากษายืนจำคุก 'วัฒนา เมืองสุข' 50 ปี ปิดฉากคดีทุจริต ‘บ้านเอื้ออาทร’

ปิดฉากคดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร ปิดฉากเส้นทางการเมือง วัฒนา เมืองสุข หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 99 ปี ส่งเข้าเรือนจำทันที

คำพิพากษาในครั้งนี้ถือเป็นที่สุด เพราะเป็นการตัดสินหลัง นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยื่นอุทธรณ์ จากการพิพากษาครั้งแรกให้จำคุก 99 ปี กรณีทุจริตเรียกรับสินบนจากบริษัท พาสทิญ่า จำกัด ผู้รับเหมาโครงการบ้านเอื้ออาทร ผ่านบริษัทและลูกจ้างบริษัท เพรซิเด้นท์เทรดดิ้ง จำกัด จำนวนเงิน 82.6 ล้านบาท มีฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ, ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น 11 กระทง กระทงละ 9 ปี แต่คงจำคุกจริง 50 ปี ส่วนพวกอีก 13 คน ถูกตัดสินจำคุกตามลำดับโทษที่แตกต่างกัน ในคดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร อาทิ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง นักโทษในคดีทุจริตจำนำข้าว ก็มีเอี่ยวในการทุจริตครั้งนี้ด้วย รับโทษจำคุก 66 ปี แต่จำคุกจริง 50 ปี ส่วนนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง จำคุก 4 ปี

ศาลปกครองสูงสุด รับคำร้อง คมนาคม -รฟท. สั่งรื้อคดี ค่าโง่โฮปเวลล์ พิจารณาใหม่อีกครั้ง

4 มี.ค. 65 ศาลปกครองสูงสุดโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งในคดีคำร้องที่ 394-396/2564 ระหว่าง กระทรวงคมนาคม ผู้ร้องที่ 1 และ การรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ร้องที่ 2 กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คัดค้าน อันเป็นคดีที่กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ไว้พิจารณา โดยอ้างว่า การนับระยะเวลาหรืออายุความในการยื่นข้อเรียกร้องของบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ต่ออนุญาโตตุลาการในคดีนี้ ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด รู้หรือควรรู้เหตุแห่งการฟ้องคดี คือ ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2541 ซึ่งเป็นวันที่หนังสือบอกเลิกสัญญาของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ไปถึงบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด มิใช่นับตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2544 อันเป็นวันที่ศาลปกครองเปิดทำการ ซึ่งกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย เห็นว่า ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่กล่าวอ้างเข้าหลักเกณฑ์และองค์ประกอบการพิจารณาคดีใหม่ตามมาตรา 75 (1) (4) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา คดีปกครอง พ.ศ. 2542

กรณีในคดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดง ที่ อ. 221-223/2562 ให้ยกคำร้องของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการและบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการที่ให้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าตอบแทนตามสัญญาสัมปทาน จำนวน 2,850,000,000 บาท คืนหนังสือค้ำประกัน และค่าธรรมเนียมการออกหนังสือค้ำประกัน จำนวน 38,479,800 บาท กับเงินที่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ใช้ในการก่อสร้างโครงการ จำนวน 9,000,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย แก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด

ศาลปกครองสูงสุดโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า แม้ว่าที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดเคยมีมติในคราวประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2545 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 ว่า “ในกรณีที่เหตุแห่งการฟ้องคดีเกิดขึ้นก่อนศาลปกครองเปิดทำการ แต่ผู้ฟ้องคดีมิได้นำคดีไปฟ้องต่อศาลยุติธรรมซึ่งเป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาในขณะนั้น ต่อมา หลังจากที่ศาลปกครองเปิดทำการ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2544 แล้ว ผู้ฟ้องคดีจึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง โดยขณะที่ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครอง อายุความฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมยังไม่ครบกำหนด แต่การนำคดีดังกล่าวมาฟ้องต่อศาลปกครองนั้น จะเป็นการฟ้องคดีปกครองเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดี ตามมาตรา 49 มาตรา 50 หรือมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 แล้วแต่กรณี ในกรณีเช่นนี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ให้เริ่มนับระยะเวลาการฟ้องคดีตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2544 

ซึ่งเป็นวันที่ศาลปกครองเปิดทำการเป็นต้นไป” ก็ตาม และต่อมา ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาคดีนี้ โดยวินิจฉัยว่า บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด รู้ว่ามีข้อพิพาทเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2541 อันเป็นวันที่ได้รับหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาจากกระทรวงคมนาคม เมื่อสัญญาระหว่างคู่พิพาทไม่ได้กำหนดเรื่องระยะเวลาการเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการไว้โดยเฉพาะ การเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการ จึงกระทำได้ภายในอายุความการฟ้องคดีต่อศาล เมื่อข้อพิพาทได้เกิดขึ้นก่อนที่ศาลปกครองเปิดทำการ การนับอายุความการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงเริ่มนับตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือ วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2544 เมื่อบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 อันเป็นการยื่นภายในกำหนดระยะเวลาห้าปีนับแต่วันที่มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสัญญา ข้อพิพาทนี้จึงเป็นข้อพิพาทที่เสนอต่อคณะอนุญาโตตุลาการภายในระยะเวลาโดยชอบแล้ว

จากคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว เห็นได้ว่า เป็นกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาโดยอาศัยข้อกฎหมายกรณีการเริ่มนับระยะเวลาการเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการ โดยไม่ได้เริ่มนับระยะเวลาการฟ้องคดีตั้งแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดีตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 แต่เริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการเมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2544 แม้ว่าคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวจะไม่ได้ระบุถึงมติที่ประชุมใหญ่ฯ ดังกล่าวโดยตรง แต่ก็เริ่มนับระยะเวลาการฟ้องคดีตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการตามที่กำหนดในมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545

ต่อมา ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยว่า มติของที่ประชุมใหญ่ฯ ดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ฯ เกี่ยวกับการเริ่มนับระยะเวลาการฟ้องคดีปกครองดังกล่าว ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และโดยที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญย่อมเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ตามมาตรา 211 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 

“เสกสกล” ถกคกก.เฉพาะกิจฯ สางหวยแพง เผย ตร.เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบ ลั่น เอาผิดผู้ค้ารายใหญ่-นายทุน เอี่ยวขายเกินราคา

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายเสกสกล  อัตาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล เสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด ในสลากกินแบ่งรัฐบาล ครั้งที่1/2565 เป็นประธานประชุมคณะกรรมการฯ มีพล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผบ.ตร.ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวแทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เข้าร่วม เป็นต้น ใช้เวลากว่า

นายเสกสกล กล่าวว่า กรรมการชุดนี้ เหมือนจับกุมโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับสำนักงานสลากฯจะเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่และดำเนินการกับผู้ขายสลากเกินราคา ซึ่งจะเน้นที่ผู้ขายรายใหญ่ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จะนทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำ ว่าให้ดำเนินการไม่ว่าจะเป็น ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว หรืออดีตนักการเมือง นายทุนที่เกี่ยวกับนักการเมือง หากพบเข้าไปเกี่ยวข้องกับการขายเกินราคา ต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด  สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ฝ่าฝืน คงไม่สามารถบอกก่อนล่วงหน้า เนื่องจากคนที่กระทำผิดจะทราบและรู้ตัวก่อน

จากนั้นนายเสกสกล ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ว่า คณะทำงานฯได้เร่งรัดการทำงานอย่างจริงจังและจะแก้ไขให้ตรงจุด  เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยที่ประชุมมอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงฯ  ซึ่งชุดปฏิบัติการแต่ละพื้นที่ จะดำเนินการทันทีที่ได้รับข้อมูลจากสำนักงานสลากฯ เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย และมีมาตรการลงโทษอย่างจริงจัง

 

‘แม่แตงโม’ เปิดใจเรียกเงินปอ 30 ล้าน รับให้อภัยแล้ว เพราะสุภาพ - สม่ำเสมอ 

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม นิดา ดาราสาว มาให้สัมภาษณ์ หนุ่ม กรรชัย ในรายการ โหนกระแส โดยยอมรับว่า ยังค้างใจ แอนนา ฮิปโป อร กระติก แม่ว่ามันไม่ธรรมชาติ เขาปิดบัง เขาเป็นพวกเดียวกัน วันที่มาเอาแมวก็มาเอาด้วยกัน 2-3 คนนั้น คุยกันตลอด พอเจอศพพวกแอนนา เขาถึงมาเคลียร์ขอโทษเมื่อ 2-3 วันก่อนทางโทรศัพท์ ฮิปโปแม่ยกโทษให้ 50% ไม่เข้าใจเขาออกข่าวในฐานะอะไร เรื่องงานศพควรถามแม่ก่อน เพราะตอนนี้แม่เป็นผู้จัดการมรดกแตงโมแล้ว ทุกอย่างต้องผ่านแม่หมด ปกติแม่สนิทกับแตงโมมากตั้งแต่เกิด นิสัยเขาอ่อนโยนเหมือนแม่ แต่นิสัยผู้ชายครึ่งหนึ่งมาจากพ่อ ที่คนบอกแตงโมสนิทกับพ่อไม่ได้อยู่กับแม่ คือเราไม่เคยทิ้งกัน แม่ลูกผู้หญิงคุยกันทุกเรื่องตลอด

“ส่วนกระติก แม้ว่าจะขอโทษแล้ว แต่แม่ไม่ให้อภัย เพราะคนเป็นแม่ลูกเสีย เขาควรแจ้งแม่ก่อน แต่เขาไม่แจ้ง แม่ไม่เคยรู้เลยกระติกอยู่ตรงไหน 4 วัน คุณแม่ไม่รับมาลัยกระติก ตอนนั้นเขาเถียงแม่ทุกคำ ทำไมไม่แจ้งแม่ ทำไมแจ้งคนอื่น แม่รู้จากตำรวจกับข่าวนะว่า ลูกเสีย กระติกทำให้ลูกแม่เสียชีวิต โกรธที่กระติกไม่บอก โกรธแอนนาที่ออกข่าวเรื่องงานอาลัยแตงโม แต่ไม่บอกแม่ เขาควรขอแม่ก่อน เพราะรายละเอียดการจัดงานเป็นเรื่องใหญ่ พูดเองเออเอง เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับแตงโมแม่ไม่ทราบ จริงๆ เรื่องงานควรผ่านแม่ก่อน เมื่อคืนแอนนาโทรมาขอเปลี่ยนสถานที่ ทั้งที่แม่ประชุมวางแผนกันไว้หมดแล้ว”

‘ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์’ เร่งทำลายลูกระเบิดสมัยสงครามเวียดนาม

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ มอบหมายกลุ่มงานความมั่นคงจังหวัด ร่วมกับฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ตำรวจภูธรจังหวัด และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ทหารอากาศกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี ร่วมเก็บกู้และทำลายลูกระเบิด M 117 สมัยสงครามเวียดนาม น้ำหนัก 340 กิโลกรัม หลังขุดพบบริเวณเนินเขาบ้านดงสวนพัฒนา ตำบลนาทัน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์

(4 มี..65) ภายใต้การอำนวยการของนายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ มอบหมายกลุ่มงานความมั่นคงจังหวัด ร่วมเก็บกู้และทำลายลูกระเบิด M 117 สมัยสงครามเกาหลี โดยร่วมกับฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คำม่วง เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ทหารอากาศกองบิน 23 .อุดรธานี ที่บริเวณเนินเขาบ้านดงสวนพัฒนา ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ หลังขุดพบเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ทั้งนี้ สาเหตุที่ขุดพบเนื่องจากชาวบ้านซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ได้จ้างรถขุดเพื่อทำแนวกันไฟ ก่อนที่จะขุดพบลูกระเบิดดังกล่าวในความลึกประมาณ 3 เมตร

นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่ทางจังหวัด ได้รับรายงานจากนายดำรงค์ศักดิ์ นาคีสังข์ นายอำเภอคำม่วง ว่าชาวบ้านได้ขุดพบลูกระเบิด 2 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา และหลังจากได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครองอำเภอ ตำรวจภูธรจังหวัด สภ.คำม่วง ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ เข้าตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าเป็นลูกระเบิดขนาด M 117 สมัยสงครามเกาหลี น้ำหนักประมาณ 340 กิโลกรัม หรือ 750 ปอนด์ ก่อนที่จะกำหนดทำลายในวันนี้

ปทุมธานี-นายอำเภอสามโคกเป็นประธานเปิดโครงการจิตอาสา "เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ "

ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบางกระบือ ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี นางวิพร แววศรีผ่อง นายอำเภอสามโคกเป็นประธานเปิดโครงการจิตอาสา "เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ" โดยมีนางวันเพ็ญ ก้อนทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางกระบือ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางกระบือ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบางกระบือ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่ สารวัตรกำนัน บ้านแพทย์ประจำตำบลบางกระบือและเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางกระบือให้การต้อนรับ 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางสาววันเพ็ญ ก้อนทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางกระบือ กล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า โครงการจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจเพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีของคนไทยทุกคนในการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อพัฒนาพื้นที่ในชุมชนต่างๆให้มีความเจริญเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่างถาวร เพื่อให้ประชาชนผู้มีจิตอาสา ทุกภาคส่วนได้ร่วมแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวง รัชกาลที่ ๙

อีกทั้งเป็นการแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ ในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ การขับเคลื่อนโครงการจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจให้เกิดผลสัมฤทธิ์สร้างความสำนึกรักหมู่บ้านชุมชนสร้างความรักความสามัคคีการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนประชาชนเกิดความรักความสามัคคีเกิดการมีส่วนร่วมระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลและในชุมชน

ผู้บัญชาการ โรงเรียนนายเรือ ให้โอวาทนักเรียนนายเรือใหม่ มุ่งมั่นสร้างรากแก้วของ กองทัพเรือ 

ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ ต้อนรับและให้โอวาท นักเรียนนายเรือชั้นใหม่ มุ่งมั่นที่จะสร้างรากแก้วของกองทัพเรือ ให้มีขีดสมรรถนะ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านวิชาการ ด้านวิชาชีพทหารเรือ และด้านภาวะผู้นำคุณธรรมจริยธรรม และย้ำให้นักเรียนนายเรือชั้นใหม่ เตรียมพร้อมสำหรับการฝึกภาคปฏิบัติในทะเลภายในประเทศ

เมื่อ 3 มี.ค.65 เวลา 12.45 น. พลเรือโท ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ เป็นประธานในพิธีต้อนรับและให้โอวาทแก่นักเรียนนายเรือชั้นใหม่ ที่สำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนเตรียมทหาร โดยมีคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่  ครูอาจารย์ และนายทหารปกครอง ของโรงเรียนนายเรือ ร่วมให้การต้อนรับ ณ ลานสวนสนามโรงเรียนนายเรือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

ในการนี้ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ ได้กล่าวต้อนรับและให้โอวาทแก่นักเรียนนายเรือชั้นใหม่ ซึ่งเป็นนักเรียนนายเรือรุ่นที่ 120 ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร โดยเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 63 จำนวน 91 นาย ประกอบด้วยผู้ที่สังกัดกองทัพเรือ 81 นาย และสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตำรวจน้ำ) 10 นาย

‘CG บราซิล’ ยกย่อง Thailand Pavilion ยอดเยี่ยม นำเสนอเรื่องดี ร้อยเรียงเนื้อหางานเก่ง เต็มสิบไม่หัก

กลายเป็นอีกความน่าภาคภูมิใจ หลังจากเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 65 ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทาง General Elias Rodrigues Martins Filho-Commissioner General for Brazil Pavilion ได้เข้าเยี่ยมชมอาคารแสดงประเทศไทย โดยมี ดร.รัฐศาสตร์ กรสูต รองผู้อำนวยการฯ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า (depa) ในฐานะ Thailand Pavilion Director และ ดร.จักกนิตต์ คณานุรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมกำลังคนดิจิทัล ให้การต้อนรับ

ในการนี้ General Elias Rodrigues Martins Filho ได้กล่าวแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสที่อาคารแสดงประเทศไทยมียอดผู้เข้าชมผ่าน 1 ล้านคนไปเมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมชมเชยว่าความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลจากการเตรียมการอย่างดีตั้งแต่แนวคิดในการนำเสนอ การร้อยเรียงข้อมูลที่ประยุกต์ “สายน้ำ” เป็นผู้ดำเนินเรื่องเพื่อสะท้อนการพัฒนาประเทศจากความรุ่งเรืองในอดีตสู่ปัจจุบันและต่อเนื่องไปในอนาคต รวมถึงการออกแบบอาคาร การบริหารจัดการกิจกรรมตลอดระยะเวลาการจัดงาน ตลอดจนการคัดเลือกเยาวชนไทยมาทำหน้าที่ Thailand Pavilion Ambassador เพื่อส่งมอบความประทับใจให้กับผู้เข้าชมอาคารทุกคน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top