Sunday, 29 June 2025
Hard News Team

“เฉลิมชัย” เร่งเครื่องดันไทยฮับออร์แกนิคอาเซียน โชว์ผลงานกระทรวงเกษตรขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 1.5ล้านไร่

เกินเป้าหมายมอบ”อลงกรณ์”เปิดแนวรุกใหม่เดินหน้าโครงการ”เกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง”สร้างคานงัดใหม่ยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมือง

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ"เกษตรกรรมยั่งยืนวิถีในเมือง จาก Post Covid-19 สู่ Next Normal"ในงานสัมมนาเกษตรอินทรีย์วิถีในเมืองจัดโดยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)โดยบรรยายถึง6ประเด็นสำคัญ 

(1) 5 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปการเกษตรของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(2) ตัวอย่างโครงการและนโยบายในหลายประเทศ แนวทางการพัฒนาเมืองสีเขียวเมืองน่าอยู่
(3)โครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง
(4) 5 สาขาเกษตรกรรมยั่งยืน
(5) โครงสร้างการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(6)แผนปฏิบัติการด้านเกษตรอินทรีย์ พ.ศ.2566-2570

นายอลงกรณ์กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน) ประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนเล็งเห็นความสำคัญการแก้ไขปัญหาภาวะความไม่มั่นคงทางอาหารในเมือง เนื่องจากในปี2562 ประเทศไทยมีประชากรในเมืองมากกว่าในชนบทเป็นครั้งแรกสะท้อนถึงการขยายตัวของเมือง(Urbanization)และชุมชนเมืองมีการผลิตอาหารได้เองไม่ถึง10% เป็นเหตุผลสำคัญที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในยุคปัจจุบันต้องเร่งขับเคลื่อนพัฒนาการเกษตรในเมือง(Urban Agriculture )โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด19และยุคต่อไป(Next normal) เป็นการพัฒนาเกษตรในเมืองควบคู่กับเกษตรในชนบทจึงได้จัดตั้งและเดินหน้าโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองมอบหมายตนเป็นประธานบูรณาการทำงานเชิงรุกร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ มีวัตถุประสงค์ 6 ประการ ได้แก่ 1. การพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง 2. การเพิ่มพื้นที่สีเขียว 3. การลด PM 2.5 และลดก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas) 4. การเพิ่มคุณภาพอากาศ 5. การอัปเกรดคุณภาพชีวิตของประชาชน 6. การสร้างเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ของสหประชาชาติ ในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ(Climate Change) ของโลก

รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนเกษตรอินทรีย์ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยเป็นผู้นำเกษตรอินทรีย์ในภูมิภาคอาเซียน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ภายในปี 2565” โดยการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปีงบประมาณ 2560 – 2564) มีโครงการเพื่อขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งสิ้น 342 โครงการ เพื่อมุ่งสู่การเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 1.3 ล้านไร่ และมีเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 80,000 ราย รวมถึงมูลค่าสินค้าเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3 ต่อปี 

ซึ่งปรากฏว่าในปี 2564 มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน (ภาครัฐและภาคเอกชน) อยู่ที่ 1.51 ล้านไร่ มีเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์จำนวน 95,752 ราย เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้และกระทรวงเกษตรฯ.กำลังขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านเกษตรอินทรีย์ พ.ศ. 2566 - 2570 ประกอบด้วย ประเด็นการพัฒนา ได้แก่ 1) ส่งเสริมการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และฐานข้อมูลเกษตรอินทรีย์ 2) พัฒนาศักยภาพการผลิต และการบริหารจัดการตลอดโซ่อุปทานเกษตรอินทรีย์ 3) ยกระดับมาตรฐานและระบบการตรวจสอบรับรองเกษตรอินทรีย์ และ 4) พัฒนาการตลาด และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์

เชิดชูเกียรติ ‘อาสาสมัครคุมประพฤติ’ รับพระราชทานเครื่องราช

กาฬสินธุ์ - ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ และส่วนราชการสังกัดกระทรวงยุติธรรมในจังหวัดกาฬสินธุ์ เชิดชูเกียรติและแสดงความยินดีกับอาสาสมัครคุมประพฤติ ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจ และเป็นต้นแบบของบุคคลที่ทำความดีเพื่อสังคม ด้วยความอดทนและเสียสละ

(4 มี..65) ที่ห้องประชุมอาคารเรียนรวมและปฏิบัติการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ นายฤกษ์ชัย คทวณิชกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมสมัยประจำปี 2565 อาสาสมัครคุมประพฤติกระทรวงยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ สังกัดกระบวนการยุติธรรม และอาสาสมัครคุมประพฤติ ร่วมงาน พร้อมแสดงความยินดีกับอาสาสมัครคุมประพฤติ ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จำนวน 3 คน

นายฤกษ์ชัย คทวณิชกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า อาสาสมัครคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม เป็นบุคคลที่เสียสละ และมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาผู้กระทำผิดในชุมชน ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนภารกิจของกรมคมประพฤติ รวมถึงการมีส่วนร่วมในการป้องกันอาชญากรรมในชุมชน และสร้างสังคมแห่งความปลอดภัยจากผู้กระทำผิด ในระบบการควบคุมความประพฤติอย่างเป็นรูปธรรม ที่จะช่วยให้ผู้กระทำความผิด สามารถดำรงชีวิตในสังคมอย่างเป็นปกติสุข และไม่หวนกลับไปกระทำความผิดซ้ำอีก

รัสเซีย-ยูเครน ตั้งโต๊ะ เจรจาสันติภาพ รอบ 2 เห็นพ้อง เปิดเส้นทางให้ประชาชนอพยพ

รัสเซียและยูเครนได้ข้อตกลงเพิ่มเติมหลังร่วมเจรจารอบ 2 เห็นพ้องต้องจัดตั้ง “ฉนวนมนุษยธรรม” และอาจมีการหยุดยิงเพื่อเปิดทางให้ประชาชนอพยพได้

วันนี้ 4 มี.ค. 65 รัสเซียและยูเครน แถลงหลังการเจรจาสันติภาพรอบสองในวันพฤหัสบดีว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงเห็นพ้องต้องกันถึงความจำเป็นในการจัดตั้ง “ฉนวนมนุษยธรรม” ขึ้น และมีความเป็นไปได้ว่าจะหยุดยิงเพื่อเปิดทางให้พลเรือนหลบหนี ซึ่งถือเป็นสัญญาณความคืบหน้าครั้งแรกในการแก้ปัญหาตั้งแต่รัสเซียยกกำลังบุกยูเครน

อย่างไรก็ตาม แม้ วลาดิเมียร์ เมดินสกี หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของรัสเซียจะระบุว่า การเจรจามี “ความคืบหน้าสำคัญ” แต่กองกำลังรัสเซียก็ยังคงเดินหน้าปิดล้อมและโจมตีเมืองต่างๆ ในยูเครนเป็นสัปดาห์ที่ 2 สมาชิกคณะผู้แทนเจรจารายหนึ่งของยูเครนระบุว่า การเจรจายังไม่บรรลุผลตามที่ยูเครนต้องการ เช่น การหยุดยิงโดยทันทีและการพักรบ แต่ทั้งสองฝั่งรับทราบตรงกันถึงการอพยพประชาชน

มีไคโล โพโดลีแอค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน กล่าวหลังการเจรจาครั้งนี้ว่า พวกเขาเห็นว่าอาจมีการหยุดยิงชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้ประชาชนอพยพได้ รวมถึงเพื่อเปิดเส้นทางขนส่งเพื่อมนุษยธรรมด้วย

พร้อมระบุว่า การหยุดยิงชั่วคราวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกที่ และอาจเกิดขึ้นเพียงในพื้นที่ที่จะมีการเปิดเส้นทางดังกล่าวเท่านั้น และจะหยุดแค่ช่วงเวลาที่เปิดให้มีการอพยพประชาชน

วิกฤตด้านมนุษยธรรมเลวร้ายลง โดยสหประชาชาติ หรือยูเอ็น บอกว่า มีประชาชน 1 ล้านคนทิ้งบ้านเรือนหลบหนีในขณะนี้ ส่วนใหญ่เข้าไปขอลี้ภัยในโปแลนด์และประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ทางตะวันตกของประเทศ ส่วนคนที่ยังอยู่ในหลายเมืองของยูเครน ต้องเผชิญกับการโจมตีทั้งจากปืนใหญ่และจรวด ซึ่งมักเป็นพื้นที่เขตที่พักอาศัย เช่นเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครนที่มีประชาชน 1.5 ล้านคน ก็ถูกโจมตีอย่างหนักเหลือแต่ซาก

สำนักข่าว Belta ของทางการเบลารุส ยังรายงานคำกล่าวของ โพโดลีแอค ที่ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายรับทราบตรงกันถึงการจัดส่งยาและอาหารไปยังบริเวณที่มีการสู้รบรุนแรง โดยทั้งสองฝ่ายจะเจรจาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า รัสเซียยังคงเน้นย้ำว่า ข้อตกลงสันติภาพกับยูเครนใดๆ ก็ตาม จะต้องกำหนดให้ยูเครน “ปลอดทหาร” โดยรัสเซียยังส่งสัญญาณว่า ต้องการให้ยูเครนรับ “สถานะเป็นกลาง” และตกลงที่จะยุติความพยายามเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต

‘ผบ.มทบ.32’ รุดเข้าพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านประชาชนพร้อมสนับสนุนกำลังพลและรถบรรทุกน้ำช่วยสกัดเพลิงทันที

(4 มี..65) ลำปาง - พบเหตุไฟไหม้บ้าน ในหมู่บ้านวังหม้อ หมู่ 2 ตำบลต้นธงชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ติดถนนลำปาง-แจ้ห่มขาเข้าเมือง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมมีการประสานขอรถบรรทุกน้ำเพื่อช่วยสกัดเพลิงไหม้ และเพื่อมิให้ลุกลามสร้างความเสียหายหลังอื่นๆ

พลตรีอโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 / ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 32 จึงรุดเข้าพื้นที่ทีนที พร้อมได้สั่งการ รถบรรทุกน้ำจำนวน 3 คัน และกำลังพลจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 32 รวมทั้งเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ร่วมช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกบริเวณที่เกิดเหตุทันที โดยได้ร่วมสกัดเพลิงร่วมกับ รถรถดับเพลิงเทศบาลตำบลต้นธงชัย อบต.ทุ่งฝาย เทศบาลเมืองพิชัย เทศบาลนครลำปาง ร่วม 10 คัน ช่วยกันระดมฉีดน้ำดับไฟที่กำลังโหมไหม้แต่ไม่ทัน ทำให้บ้านหลังดังกล่าวถูกไฟไหม้วอดทั้งหลังและยังลุกลามไหม้บ้านข้างเคียงได้รับความเสียหายไปด้วย

เพื่อไทย จี้ รบ. เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร หยุดเอาเปรียบชาวนา ฉวยงบประเทศ หาเสียงล่วงหน้า

นายปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย และคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎรเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรอย่างจริงใจ ไม่ควรทำเพียงเพื่อที่จะได้ใช้งบประมาณแผ่นดินหาเสียงล่วงหน้าช่วงปลายอายุขัยรัฐบาล โดยระบุว่า รัฐบาลต้องจริงใจกับเกษตรกรในการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตร ไม่ควรหวังเพียงใช้งบประมาณประเทศเพื่อปูฐานทางการเมืองในอนาคต การที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบกลาง วงเงิน 2,000 ล้านบาท จากเงินสำรองจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรไปนั้น จะต้องมีความจริงใจที่จะช่วยเหลือเกษตรอย่างแท้จริง เพราะเรื่องหนี้สินเกษตรกรนั้นเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน ทำให้พี่น้องเกษตรกรหลายล้านคนต้องตกอยู่ในวังวนหนี้สิน ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมารัฐบาลก็ไม่เคยให้ความสำคัญแก้ไขปัญหาในส่วนนี้

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สารภาพเองว่าไม่ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูอาชีพให้เกษตรกร เห็นได้จากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตั้งแต่ปี 2563-2565 กองทุนฯ ไม่เคยได้รับการจัดสรรงบสนับสนุนจากรัฐบาลแต่อย่างใด จึงทำให้กองทุนฯ มีงบประมาณไม่เพียงพอในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินพี่น้องเกษตรกร

นครนายก – 'เท่ง เถิดเทิง' พร้อมครอบครัว สุดดีใจได้บวชโหงวเฮ้ง 'นายอัครพงษ์ พงษ์สุวรรณ' ลูกชายสุดที่รัก ณ วัดอุดมธานี พระอารามหลวง

เมื่อเวลา 08.09 น.ของวันที่ 4 มีนาคม 2565 ที่วัดอุดมธานี ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เท่ง เถิดเทิง หรือนายพงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ์ และนางมาลา พงษ์สุวรรณ์ ได้จัดงานบรรพชาอุปสมบท โหงวเฮ้ง นายอัครพงษ์ พงษ์สุวรรณ์ อายุ 26 ปี ณ ที่วัดอุดมธานี พระอารามหลวง โดยมีการจัดตั้งขบวนแห่นาคหน้าซุ้มประตูวัดอุดมธานี โดยมี หม่ำ จ๊กมก ตุ๊กกี้ ชิงร้อย ต๋องชวนชื่น ศิลปินดารา นักแสดง และเพื่อนๆนาค มาร่วมในงานจำนวนมาก ตั้งริ้วขบวนแห่รอบพระอุโบสถ 3 รอบ และนำนาคกราบพัทสีมาหน้าพระอุโบสถพร้อมโปรยทาน จากนั้น เท่ง เถิดเทิง นางมาลา บิดา- มารดา และญาติได้จูงนาคผ่านซุ้มประตูเข้าไปในพระอุโบสถทำพิธีบรรพชาอุปสมบท

เพชรบูรณ์-กองพลทหารม้าที่ 1 ปล่อยชุดปฏิบัติการป้องกันไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์

ที่บริเวณสนามหน้าแหล่งสมาคมนายทหารค่ายพ่อขุนผาเมือง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ พลตรีนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 เป็นประธานพิธีตรวจความพร้อมและปล่อยแถวชุดป้องกันไฟป่าและหมอกควัน กองพลทหารม้าที่ 1 ประจำปี 2565 โดยมี พ.ท.บุญญฤทธิ์  แจ้งแสงทอง  หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน กองพลทหารม้าที่ 1 กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายอำนาจ แย้มศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์   หัวหน้าส่วนราชการ กำลังพลทหาร เข้าร่วม

พ.ท.บุญญฤทธิ์ แจ้งแสงทอง หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน กองพลทหารม้าที่ 1 กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มเข้าสู่หน้าแล้งทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว รัฐบาลได้ให้หน่วยงานของภาครัฐ และภาคเอกชน บูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ

กองทัพบกจึงได้มอบให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานและส่วนราชการในการดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยใช้กำลังพลและยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่สนับสนุนการปฏิบัติอย่างเต็มขีดความสามารถ

หนุ่มวัย 20 ทะเลาะกับเพื่อน เถียงเรื่องข่าวแตงโม ก่อนเครียดจัด ดิ่งตึกชั้น 4 ย่านห้วยขวางดับสลด

วันนี้ 4 มี.ค. 65 เวลา 00.30 น. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.สุชาติ ราษฎร์ดุษดี รอง สว.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร รับแจ้งมีผู้ตกจากที่สูงเสียชีวิต ภายในอาคารพักอาศัยแห่งหนึ่ง ถนนลาดพร้าว ซอย 48 แยก 3 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นอะพาร์ตเมนต์ สูง 7 ชั้น บริเวณที่จอดรถจักรยานยนต์ข้างอาคาร 1 พบศพ นายชัย (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล สภาพคางแตก ขาซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ พร้อมนำรถติดไฟส่องแสงสว่างมาอำนวยความสะดวก ก่อนเร่งรัดสำรวจสภาพศพเบื้องต้น และให้หน่วยอาสากู้ภัยนำร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช รพ.รามาธิบดี ในทันที

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 3 มี.ค. 65 ที่ผ่านมา ผู้ตายได้เดินทางมาหา นายบิ๊ก (นามสมมุติ) เพื่อนชายคนสนิท ซึ่งเป็นเจ้าของห้องพักบนชั้นที่ 4 ประกอบอาชีพเป็นพนักงานควบคุมระบบขนส่งสินค้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ปัจจุบันทำงานแบบเวิร์กฟรอมโฮม โดยเจ้าของห้องและผู้ตายรู้จักกันผ่านโซเชียลมีเดียได้ประมาณ 2-3 เดือน และนัดหมายพบเจอกันที่ห้องนานๆ ครั้ง

“จุรินทร์ ”เปิดตัว 4 ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง ลั่นได้เพชรน้ำดีที่มีความพร้อมทำหน้าที่

ที่จ.สมุทรสาครนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ผู้อำนวยการพรรค นายกุลวัชร หงษ์คู อดีตนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร  เดินทางไปพบปะสมาชิกพรรคในการประชุมใหญ่สามัญ ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 และ 2 จ.สมุทรสาคร  ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีสมาชิกรอต้อนรับและขอถ่ายภาพร่วมกันเป็นจำนวนมาก โดยได้ให้กำลังใจและสนับสนุนนายจุรินทร์ ให้ได้เป็นนายกฯ คนต่อไปและสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้า

โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา จ.สมุทรสาคร มีเขตเลือกตั้ง 3 เขต และเนื่องจากมีการแก้รัฐธรรมนูญ ปรับมาเป็น ส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งหน้าจึงทำให้จ.สมุทรสาคร มีแนวโน้มที่จะเพิ่มเขตเลือกตั้งเป็น 4 เขต เนื่องจากมีประชากรเพิ่มขึ้น ดังนั้นการจัดประชุมตัวแทนเขต จึงมีความสำคัญ หากไม่มีตัวแทนเขต หรือตัวแทนจังหวัดจะทำให้พรรคไม่สามารถส่งผู้สมัครได้ แต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น ขณะนี้มีผู้เสนอตัวแล้วอย่างน้อย 4 คน ประกอบด้วย นายนิติรัฐ สุนทรวร อดีต ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ,นายชวพล วัฒนพรมงคล  นักการเมืองรุ่นใหม่  เป็นรองนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร เป็นรองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ,นายภูดิส แก้วตระกูลโชติ  วิศวกรหนุ่ม อดีตรองนายก อบต.ท่าทราย  และนายธนวัฒน์ ทองโต  (สจ.ช้าง) ทนายความ  พร้อมกับขอให้พี่น้องชาวประชาธิปัตย์ได้ช่วยกันสนับสนุนให้ได้มีโอกาสทำหน้าที่ต่อไป 

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการสู้ศึกการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นว่า การที่พรรคมีการเตรียมเรื่องตัวว่าที่ผู้สมัครหรือผู้สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคสำหรับในการเลือกตั้งครั้งหน้านี้ต้องถือว่าเป็นความพร้อมส่วนหนึ่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นเรื่องการเตรียมตัวบุคคล ส่วนเรื่องนโยบายและเรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องที่ส่วนกลางจะเป็นผู้ดำเนินการ และได้มีการเตรียมการสำหรับนำเสนอไว้แล้ว รวมไปถึงการเตรียมนโยบายระดับภาคด้วย สำหรับจ.สมุทรสาครอย่างน้อย 4 ท่านนี้ ถือว่าเป็นบุคคลที่มีศักยภาพ พร้อมที่จะเป็นผู้แทนราษฎร เพราะมีทั้งที่เป็นอดีต ส.ส., อดีต ส.จ. นักการเมืองท้องถิ่น, อดีตรองนายกฯ อบต. และทุกคนจบการศึกษาดี ทั้งทนายความ วิศวกร การที่พรรคเตรียมวางตัวไว้ถึง 4 คน หากจ.สมุทรสาครมี 4 เขต ก็ถือว่าขณะนี้พรรคมีความพร้อมที่จะเสนอตัวกับพี่น้องชาวสมุทรสาครเป็นอย่างดี

‘มท.1’ ลงพื้นที่ ต.คลองแห รับฟังผลการดำเนินงาน “คืนคลองสวย น้ำใส ให้คลองแห จังหวัดสงขลา” พร้อมร่วมโยน EM Ball บำบัดน้ำเสีย

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ เดินทางมาตรวจราชการ ณ พื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ ในกิจกรรม “คืนคลองสวย น้ำใส ให้คลองแห จังหวัดสงขลา” โดยนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และส่วนราชการในจังหวัดสงขลา ร่วมให้การต้อนรับคณะฯ

ในการนี้พลตรี สิรภพ ศุภวานิช ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 4 ได้ชี้แจ้งผลการปฏิบัติภารกิจและความคืบหน้าของการดำเนินการโครงการ “คืนคลองสวย น้ำใส ให้คลองแห จังหวัดสงขลา” ณ ศาลาเอนกประสงค์ วัดคลองแห ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top