Tuesday, 24 June 2025
Hard News Team

เปิดเบื้องลึก!! ยักยอกทรัพย์ 'วัดบวรฯ' 200 ล้าน มูลเหตุที่ 'ไวยาวัจกร' ควรพึงรับผิดชอบ

นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก มีรายละเอียดดังนี้...

เบื้องลึกยักยอกทรัพย์วัดบวร 200 ล้าน!!!!

1. เมื่อวานนี้ สื่อมวลชนรายงานข่าวใหญ่ที่ทำให้ตกตะลึงกัน นั่นคือข่าวการที่ตำรวจและ ปปง. เข้าทำการจับกุมและยึดทรัพย์ลูกศิษย์ของสมเด็จพระวันรัต วัดบวรในข้อหายักยอกทรัพย์ เป็นจำนวนมากถึง 200 ล้านบาท

ข่าวดังกล่าวนี้อาจทำให้กระทบต่อเกียรติคุณและความบริสุทธิ์ของเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต และอาจกระทบชื่อเสียงของวัดบวรด้วย! ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจเบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องนี้

2. ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าจำนวนเงินที่มีการยักยอกรวมถึงทรัพย์สินหลายรายการนั้น ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวของเจ้าประคุณสมเด็จ แต่เป็นทรัพย์สินของวัดที่อยู่ในความดูแลของเจ้าพระคุณสมเด็จ

ดังนั้นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเจ้าพระคุณสมเด็จไม่ได้มีทรัพย์สินส่วนตัวดังที่เป็นข่าว

3. เจ้าประคุณสมเด็จเป็นพระมหาเถระที่เคร่งในพระวินัย ไม่จับตัองเงินทอง

เงินทองทั้งหมดจะเป็นหน้าที่ของไวยาวัจกร ที่เจ้าประคุณสมเด็จมอบหมายซึ่งเป็นไปตามพระวินัย

ดังนั้นบรรดาทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องจึงอยู่ในความครอบครองดูแลจัดการของไวยาวัจกร ซึ่งก็คือผู้ต้องหาในคดีนี้

จึงควรเข้าใจในขั้นนี้ว่า ทรัพย์สินที่มีการกล่าวหาว่ายักยอกนั้น เป็นเรื่องที่ลูกศิษย์ ซึ่งเป็นไวยาวัจกรเป็นผู้ครอบครองดูแลและจัดการ! การจัดการผิดถูกเป็นเรื่องความรับผิดชอบของไวยาวัจกรนั้น!

4. จำนวนเงินที่เกี่ยวข้องเกือบทั้งหมด เป็นเรื่องเงินในการก่อสร้างศาสนสถานสำคัญแห่งหนึ่งซึ่งประคุณสมเด็จได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ทำการก่อสร้าง เพื่อประโยชน์ในพระพุทธศาสนา

การก่อสร้างนี้มีวงเงินประมาณ 80 ล้านบาท และเงินดังกล่าวก็อยู่ในความดูแลจัดการของไวยาวัจกร ซึ่งมีหน้าที่จัดการให้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในการก่อสร้างให้สำเร็จลุล่วง

5. นอกจากเงิน 80,000,000 บาท ดังกล่าวแล้วยังมีวงเงินอีก 2-3 ยอด ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบูรณะก่อสร้างและค่าใช้จ่ายในกิจการของวัด และอยู่ในหน้าที่ดูแลรับผิดชอบของเจ้าพระคุณสมเด็จ ซึ่งเป็นหน้าที่ของไวยาวัจกรในการครอบครองดูแลรักษาและจัดการให้เป็นไปโดยถูกต้อง
 

สถาบันพระปกเกล้า' จับมือ กกต. จัด 'มหกรรมส่งเสริมความรู้การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข' แก่ประชาชน-เยาวชนทั่วประเทศ

ระหว่างวันที่ 2-3 เมษายน สถาบันพระปกเกล้า จัดมหกรรมส่งเสริมความรู้  'การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข' โดยมี นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน , ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า, นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย กรรมการการเลือกตั้งฯ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง, รศ.ดร. ปกรณ์ ปรียากร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง “ภารกิจการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง (Big rock 1)” พร้อมวิทยากร และผู้เข้าร่วมการอบรมจากศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง 56 จังหวัด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และผู้แทนจากสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ปยป.) ทั่วประเทศ จับมือกันเดินหน้าเพื่อส่งต่อความรู้สู่ประชาชนทั่วประเทศ 

ศาสตราจารย์วุฒิสาร เปิดเผยว่า สถาบันพระปกเกล้า ในฐานะเป็นสถาบันวิชาการชั้นนำด้านการพัฒนาประชาธิปไตย ได้รับมอบหมายจากคณะปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สำหรับกิจกรรมปฏิรูปที่ 1 หรือ Big Rock 1 การส่งเสริมความรู้ทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ กิจกรรมปฏิรูปที่ 5 หรือ Big Rock 5 การปรับปรุงโครงสร้างและเนื้อหาของรัฐธรรมนูญเพื่อการปฏิรูป ภายใต้แนวคิดสำคัญเพื่อต้องการส่งเสริม เผยแพร่ความรู้ด้านการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้กับประชาชนและเยาวชน เพื่อให้ประชาชน และเยาวชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อเติบโตเป็นพลังที่เข้มแข็งของประเทศชาติและสังคมที่เท่าทันการเปลี่ยนแปลง เข้าใจวิถีวัฒนธรรมแบบไทย พร้อมเป็นพลเมืองในอนาคตที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น

'ยูเครน' เข้าควบคุม-ยึดพื้นที่ รอบกรุงเคียฟได้ทั้งหมด หลังรัสเซียถอนทหาร พิสูจน์ความจริงใจการเจรจา

กองทัพยูเครนสามารถเข้าควบคุมพื้นที่โดยรอบกรุงเคียฟเอาไว้ได้หมด หลังจากรัสเซียถอนกำลังทหารออกไป โดยสิ่งที่ปรากฎพบหลังยูเครนเข้าเคลียร์พื้นที่ คือ ร่องรอยความเสียหายและผู้เสียชีวิตจำนวนมากในเมืองเออร์ปิน, เมืองบูชา และฮอสโตเมล รวมถึงซากเครื่องบินลำใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งถูกทำลายลง

เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครน แถลงว่า กองทัพยูเครนสามารถยึดคืนพื้นที่รอบกรุงเคียฟทั้งหมด หลังจากยิงต่อสู้กันอย่างดุเดือดในหลายเมืองและหลายหมู่บ้านรอบเมืองหลวงของประเทศในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ 

ขณะที่ฟากรัสเซีย ระบุว่า การถอนกำลังใกล้กรุงเคียฟนั้น เป็นการแสดงเจตจำนงในการเจรจาสันติภาพ แต่บรรดานักวิเคราะห์ชาติตะวันตกกล่าวว่า การปฏิบัติการทางทหารของพวกเขาถูกต้านทานจนหยุดชะงัก

หลังเข้าเคลียร์พื้นที่ เจ้าหน้าที่ยูเครน แถลงว่า ในเมืองเออร์ปิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ มีพลเรือนอย่างน้อย 200 คนเสียชีวิต ตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมีประชาชนมากกว่า 70,000 คน ที่เคยอาศัยอยู่ในเมืองนี้ พากันหลบหนีเมื่อเดือนที่แล้ว 

ส่วนเมืองบูชา ทหารยูเครนได้เคลื่อนกำลังเข้าไปยังเมืองดังกล่าวในช่วงวันหรือสองวันก่อน หลังจากที่ไม่สามารถเข้าเมืองได้เลยในระยะเวลาเกือบ 1 เดือน 

'เฉลิมชัย' พอใจผลการส่งออกผลไม้ไทยไปจีนล็อตแรกด้วยรถไฟสาย 'จีน-ลาว'

'รัฐมนตรีเฉลิมชัย' พอใจผลการส่งออกผลไม้ไทยไปจีนล็อตแรกด้วยรถไฟสาย 'จีน-ลาว' ผ่านด่านโมฮ่านในมณฑลยูนนานแล้ววันนี้ ด้าน 'อลงกรณ์' เผยแผนต่อไปเดินหน้าจับมือ 'ลาว-เวียดนาม' เปิดประตูอีสานสู่แปซิฟิกจากนครพนมเชื่อมท่าเรือหวุงอ๋างเพิ่มช่องทางขนส่งสินค้าเกษตรทางเรือ

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะทำงานของคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยวันนี้ (3เม.ย) ว่า การขนส่งทุเรียน 2 ตู้คอนเทนเนอร์และมะพร้าวจำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ทางรถไฟจากสถานีรถไฟมาบตาพุตจังหวัดระยองในภาคตะวันออกสู่ประเทศจีนโดยมีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุขและส.ส.ระยอง เป็นประธานการปล่อยขบวนรถเมื่อวันที่27มีนาคมได้ถึงช่วงสุดท้ายที่สำคัญมากคือการขนส่งข้ามพรมแดนลาวที่ด่านบ่อเตนสู่แผ่นดินใหญ่จีนที่ด่านโมฮ่าน มณฑลยูนนานได้ในวันนี้

 

นับเป็นระบบการขนส่งหลายรูปแบบ (Multi Modal Transportation)คือใช้ทั้งระบบรางและระบบรถที่เริ่มดำเนินการเป็นครั้งแรกเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากรณีที่ยังไม่สามารถขนส่งผลไม้ทางรถไฟจากลาวข้ามแดนไปด่านรถไฟโมฮ่านโดยตรงเนื่องจากจีนกำลังก่อสร้างอาคารและลานตรวจโรคพืชที่ด่านรถไฟโมฮ่านจึงต้องไปใช้การตรวจโรคพืชที่ด่านโมฮ่านซึ่งเป็นด่านใหญ่ด่านเดิมไปพรางก่อน

“ทั้งนี้ได้รายงานให้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ทราบแล้วโดยท่านรัฐมนตรีได้แสดงความพอใจแผนโลจิสติกส์เกษตรที่ประสบผลสำเร็จจากการทดสอบการขนส่งทุเรียนและมะพร้าวน้ำหอมล็อตแรกจากไทยผ่านลาวไปจีนภายใต้พิธีสารผลไม้ไทย-จีนด้วยเส้นทางรถไฟจีน-ลาวโดยได้สั่งการให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ในวันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายนเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาทุกขั้นตอนเนื่องจากการขนส่งล็อตแรกยังมีความล่าช้ากว่าเป้าหมายรวมทั้งการจัดการเรื่องพิธีการเอกสารของหน่วยงานต่างๆ การจองขบวนรถไฟ ตารางการเดินรถ และค่าระวางการขนส่งในระบบ 'ราง-รถ' ให้สามารถเพิ่มปริมาณการขนส่งผลไม้บนเส้นทาง”หนองคาย-เวียงจันทน์-บ่อเตน-โมฮ่าน”ให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุดเพื่อเป็นอีกทางเลือกใหม่ของการขนส่งผลไม้ไทยไปจีนสำหรับฤดูการผลิตปี 2565”

รู้จัก Polar Vortex สภาพภูมิอากาศแปรปรวน ปรากฏการณ์ 'เย็นวูบวาบ' ที่คาดว่าไทยกำลังเจอ

(3 เม.ย. 65) จากกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้แล้ว ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส 

ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

ส่วนมากบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ขณะที่สภาพอากาศกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ด้าน นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา กรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ Weerasak Kowsurat โดยระบุว่า...

อากาศที่เย็นลงในไทยแบบวูบวาบนี้ สิ่งที่ต้องเร่งดูแล นอกจากคนให้มีที่นอนที่อบอุ่นเพียงพอแล้ว

สัตว์เองก็จะประสบปัญหาความหนาวเย็นที่เค้าอาจปรับตัวไม่ทันเช่นกัน

นี่คือผลของภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือ Climate Change ที่เกิดจากอุณหภูมิภายในขั้วโลกทั้งสอง เกิดอาการหนาวน้อยลงในบางจุด หรือบางจุดมาจากไออุ่นนอกพื้นที่เบียดรุกเข้าสู่แดนขั้วโลก

น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ทำให้กระแสลมที่เคยพัดวนทวนเข็มนาฬิกาด้วยความเร็วเฉลี่ย 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ปกติหมุนพัดที่ความสูง 10 กิโลเมตรจากพื้นดินรอบเขตขั้วโลกมานับล้านปีเกิดสะดุด

กำแพงลมนี้เป็นเสมือนปราการธรรมชาติที่เคยขังไอเย็นไว้ในขั้วโลก 

บัดนี้เริ่มมีจุดที่มันยืดย้วยออกเป็นห้วงๆ เพราะไออุ่นจากมหาสมุทรและแผ่นดินทวีปบางย่านที่มากขึ้นลอย ไปกระทบกำแพงลม 

ทำให้ลมหมุนถูกเบี่ยงเบน อ้อมออกจากเส้นทางเดิมๆ

ทีนี้ไอเย็นก็ขยายออกตามลงมา แล้วแต่ว่ารอยยืดนั้นไปเกิดในจุดไหน

พอจุดนั้นยืดย้วย ก็จะดันเอาอากาศชุดที่ติดกับมันให้ดันกันต่อไปสู่เขตอื่น แม้แต่เขตอากาศของเส้นศูนย์สูตร

ความเยือกเย็นจึงถูกดันมาเป็นทอดๆ

ปรากฏการณ์นี้ เรียกว่า Polar Vortex

แม้จะย้วยมาเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็ชี้ให้เราตระหนักว่า โลกใบนี้เล็กกว่าที่เราเคยรู้จัก

สิ่งที่เกิดกับภาวะโลกร้อน ที่ขั้วโลกเหนือ สะเทือนมาถึงเส้นศูนย์สูตรได้อย่างรวดเร็วเหมือนกัน

ในทางกลับกัน กำแพงลมเย็นที่ถูกไออุ่นเบียดให้แคบลงก็แปลว่าจะมีไอร้อนเบียดเข้าหาขั้วโลกเช่นกัน

ปีนี้เราคงได้เห็นสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นผลตามมา

อย่างไรเสีย เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางกรมอุตุนิยมวิทยาก็ได้มีการออกมาชี้แจงข่าวลือตามที่มีสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ข้อความและภาพ ถึงสาเหตุที่อุณหภูมิทั่วไทยลดลง อากาศแปรปรวน หนาวเย็น ฝนตกหรืออากาศหนาวเย็นช่วงฤดูร้อนเดือนเมษายน 2565 โดยผู้เชี่ยวชาญได้ชี้ว่าเป็นผลจากปรากฏการณ์ Polar Vortex ทำให้เย็นวูบวาบ กระแสลมโลกเบี่ยงทิศ ผลพวงปัญหาโลกร้อนที่ต้องเร่งแก้ไขนั้น
 

'โปแลนด์' โวย 'ฝรั่งเศส-เยอรมนี' ใกล้ชิดรัสเซียเกินไป แถมล้มเหลวหนุนอาวุธยูเครน-ไม่คว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย

สำนักข่าว AFP รายงาน รัฐบาลวอร์ซอได้กล่าวหารัฐบาลปารีส-รัฐบาลเบอร์ลิน ว่าใกล้ชิดกับรัฐบาลมอสโกมากเกินไป

โดยรองนายกรัฐมนตรีของโปแลนด์ กล่าวหาถึงท่าทีของฝรั่งเศสและเยอรมนีว่า มีความใกล้ชิดรัสเซียมากเกินไปในการให้สัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่เขาประณามพฤติกรรมของรัฐบาลเบอร์ลินที่มีต่อรัฐบาลมอสโกก่อนการรุกรานยูเครนด้วย

"เยอรมนีก็เหมือนกับฝรั่งเศส ที่มีอคติอย่างแรงกล้าที่จะสนับสนุนมอสโก” ยาโรสลอว์ คาซินสกี้ ซึ่งเป็นผู้นำพรรคกฎหมายและความยุติธรรม (PiS) บอกกับหนังสือพิมพ์รายวันของเยอรมัน Die Welt ในการให้สัมภาษณ์ โดยเขาบนเข็มต่อว่าไปทางรัฐบาลเบอร์ลินหนักกว่ารัฐบาลปารีสค่อนข้างมากอีกด้วยว่า...

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดูเหมือนรัฐบาลเยอรมันจะไม่ต้องการเห็นสิ่งที่รัสเซียกำลังทำสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้การนำของ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน แต่เราเห็นผลลัพธ์ที่จริงแล้วในวันนี้” คาซินสกี้ กล่าว

“โปแลนด์ไม่พอใจกับบทบาทของเยอรมนีในยุโรป” เขากล่าวเสริม พร้อมตำหนิเบอร์ลิน ที่พยายามเดินตามรอยสิ่งที่อดีตนายกรัฐมนตรีออตโต ฟอน บิสมาร์ก เคยทำมาในศตวรรษที่ 19 นั่นคือ "พลังอำนาจของเยอรมันที่มีรัสเซียคอยเคียงข้าง"

(ทั้งนี้ ในยุคของบิสมาร์กเยอรมนีได้กลายเป็นมหาอำนาจของยุโรปและของโลกและสามารถถ่วงดุลอำนาจในยุโรป ด้วยการไม่ทำตัวเป็นศัตรูกับรัสเซีย เพื่อให้เยอรมนีสามารถต่อกรกับภัยคุกคามจากฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรได้) 
 

'ดร.เสรี' แนะ!! ไม่ควรเลือกคนมีทัศนะขัดแย้งรัฐบาล เพราะจะทำงานร่วมกันเพื่อชาวกทม. ไม่ได้

ดร.เสรี วงษ์มณฑา ประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ และนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ไม่ควรเลือกคนที่มีทัศนะขัดแย้งกับรัฐบาล เพราะจะทำงานร่วมกันเพื่อคนกรุงเทพไม่ได้ งานจะเดินหน้าไม่สะดวก กรุงเทพจะเสียโอกาสการพัฒนา

ไม่ควรเลือกคนที่ขายฝัน พูดจาเพ้อเจ้อเหมือนตัวเองมีสามเศียรสิบกรที่จะมาพัฒนากรุงเทพ ทั้งๆ ที่สิ่งที่พูดนั้นมันทำไม่ได้อย่างที่พูด แต่โม้ว่าจะทำได้

ระวังอย่าหลงเชื่อคนที่สัญญาที่จะทำสิ่งที่อยู่นอกเหนืออำนาจของผู้ว่า กทม. ก่อนเลือกตั้งสัญญาว่าจะทำ แต่พอชนะจะบอกว่ากฎหมายไม่อนุญาตให้ทำ

ควรเลือกคนที่รู้จริง พูดเรื่องจริง สัญญาจะทำสิ่งที่เป็นไปได้ ไม่เพ้อเจ้อ ไม่สัญญาเกินจริง สัญญาสิ่งที่จะทำได้จริง เพราะ "รู้จริง" ว่ากรุงเทพควรพัฒนาไปทางใด และทำได้แค่ไหน
 

'วิโรจน์' ควง 'ผู้สมัคร ส.ก.' ลุยหาเสียงย่านฝั่งธนใต้ ขอโอกาส 'แก้น้ำท่วม-ปราบส่วย-ช่วยเพิ่มเงินสวัสดิการ'

ที่เขตบางแค เขตบางบอน และเขตจอมทอง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ก. ฝั่งธนฯ เดินทางโดยการขึ้นรถเครื่องเสียงไปยัง 3 เขตพื้นที่ฝั่งธนใต้ เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนและแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ก. ซึ่งนายวิโรจน์เชื่อว่า "การทำงานที่เป็นปึกแผ่นระหว่างผู้ว่าฯ ส.ก. และส.ส. จะช่วยให้การทำงานแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนราบรื่นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขอแก้ไขหรืออนุมัติงบประมาณ เรื่องระเบียบราชการต่างๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นของพรรคก้าวไกลในศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้"

โดยจุดแรกของขบวนแห่เริ่มต้นที่ตลาดบางแค นำโดยนายอำนาจ ปานเผือก ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางแค เบอร์ 6 ซึ่งเป็นผู้สมัครที่ชูประเด็นแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ เนื่องจากเขตบางแคเป็นพื้นที่เกษตรกรรม มีน้ำท่วมซ้ำซาก ปัจจุบันพี่น้องประชาชนบางส่วนยังใช้คูคลองเป็นทางสาธารณะในการเดินทาง นายอำนาจ กล่าวว่า "พร้อมตอบสนองนโยบาย 12 ข้อ ของนายวิโรจน์ทันที โดยเฉพาะข้อที่ 9 ลอกท่อทั่วเมือง ลอกคลองทั่วกรุง เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่บางแค

จากนั้น นายวิโรจน์และนายนิธิกร บุญยกุลเจริญ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางบอน เบอร์ 2 ได้เดินทางพบปะประชาชนที่ตลาดเช้าปิ่นทอง ถนนเอกชัย ระหว่างนั้นได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ประชาชนก็ได้ให้การต้อนรับและซักถามถึงนโยบายเป็นระยะ รวมถึงเข้ามาพูดคุยและขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งนายนิธิกรเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มแจ้งปัญหาให้กับพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งน้ำท่วม แจ้งทางเท้ามีปัญหา ล่าสุดนายนิธิกรได้เปิดตัวเว็บแจ้งปัญหาส่วย ร่วมกับนายวิโรจน์ ซึ่งเป็นนโยบายข้อ ที่ 12 เจอส่วยแจ้งผู้ว่าฯ สร้างกรุงเทพโปร่งใสไร้คอร์รัปชัน ซึ่งหากได้รับเลือกตั้งก็พร้อมเปิดให้บริการประชาชนในทันที
 

'ศรีสุวรรณ' ลุยแจ้งเอาผิด 'พรบ.คอมพ์-ม.112' ข้อหา 'ไทยเวียตเจ็ท' ละเมิดสถาบัน

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย แจ้งผ่านเฟซบุ๊ค กรณีที่สายการบินไทยเวียตเจ็ท เกาะกระแสวันเอพริลฟูลเดย์ ในวันที่ 1 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นวันโกหกของพวกฝรั่ง (แต่ไม่ใช่ประเพณีไทย-เอเซีย) โดยโพสต์ทวิตเตอร์เล่นมุกสายการบินไทยเวียตเจ็ทเปิดบินเส้นทางใหม่ “น่าน-มิวนิก” เริ่มต้น 1,010 บาท พร้อมทั้งมีการติดแฮชแทก April Fool's Day ไว้ที่ช่วงท้ายของภาพ

การกระทำดังกล่าวคนไทยไม่ตลกด้วย เข้าข่ายเจตนาล่วงละเมิดสถาบันของไทย เพราะเด็กอมมือก็รู้ว่ามีเจตนาจะแซะสถาบันของไทย ซึ่งแม้ทวิตฯดังกล่าวจะถูกลบไปแล้ว และทางบริษัทได้ออกมาขอโทษและปลดพนักงานที่ดูแลเพจแล้วก็ตาม…แต่แค่นั้นยังไม่พอ
 

งานงอก!! 'ไทยเวียตเจ็ท' กลุ่มคนรักสถาบันฯ ไม่ตลกด้วย 'ดร.อานนท์-ดร.เสรี-หมอวรงค์' ปลุกบอยคอต

ผศ. ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ระบุว่า...

“บอยคอตต์ อย่าไปใช้บริการสายการบินแกวแกว สามกีบ โลว์คอสต์ และโลว์คลาสต่ำตมสุดๆ

เมื่อวานนี้ April fools day มันเล่นมุกถ่อยๆ แซะสถาบัน จัดโปรโมชันบนเส้นทางบินที่ยังไม่ได้เปิด และลดราคาเหลือ 1010 สายการบินนี้ขอให้มันเจ๊ง ให้มันพินาศ อย่าให้มันตั้งอยู่ต่อไปบนแผ่นดินไทยได้”

ขณะเดียวกัน ดร.เสรี วงษ์มณฑา ประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ในรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด โพสต์เฟซบุ๊กว่า...

“เป็นสายการบินต่างชาติ มาหากินในประเทศไทย แต่มีพฤติกรรมแซะ ส่อเสียดสถาบันที่ประชาชนคนไทยเทิดทูนและจงรักภักดีเช่นนี้แล้ว เราคนไทยควรสนับสนุนไหมคะ

ขออภัยที่ไม่ได้นำเสนอภาพ Poster ที่ต่ำตมรสนิยมของเขาได้ เอาเป็นว่า ถ้าหากเราเป็นคนไทยที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ควรขึ้นเครื่องบินสายนี้

ถ้าหากมีกฎหมายใดเอาผิดได้ เราก็อยากให้กฎหมายจัดการกับสายการบินสายนี้ อย่าให้มาหากินในเมืองไทย แต่ถ้าคนไทยเราไม่ใช้บริการเขา สายการบินนี้คงต้องม้วนเสื่อกลับประเทศ

หยุดสนับสนุน หยุดใช้บริการสายการบินที่ต่ำทรามสายนี้นะคะ”

ด้าน “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ก็โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom เช่นกัน ว่า...

“ถ้าผมมีอำนาจ ผมจะตั้งกรรมการสอบสวนสายการบิน สัญชาติเวียดนาม ที่มาทำธุรกิจในประเทศไทย แต่มาโพสต์โปรโมตในสิ่งที่ไม่เหมาะสม

ถ้าไม่ยึดมั่น การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะให้หยุดกิจการในประเทศ”

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 2 เม.ย.65 ทาฃสายการบินไทยเวียตเจ็ท ก็ได้ชี้แจงว่า ตามที่มีการเผยแพร่ไวรัลโพสต์ทางช่องทางทวิตเตอร์จากสายการบินในวันที่ 1 เม.ย. 65 ซึ่งเป็นวันเอพริลฟูลส์เดย์ (April fool's day) เกี่ยวกับเส้นทางบินจากจังหวัดในประเทศไทย ไปยังเมืองหนึ่งในทวีปยุโรป ทำให้เกิดการตีความในหลายด้าน จนเป็นกระแสสังคม สายการบินขอชี้แจง ดังนี้...

โพสต์ดังกล่าว ถูกเผยแพร่ทางทวิตเตอร์ของสายการบิน โดยมีเจตนาร่วมสนุกในวันเอพริลฟูลส์เดย์ และสร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้พบเห็น โดยปรากฏว่า เส้นทางบินที่เผยแพร่นั้นไม่มีความเป็นไปได้ และได้ระบุข้อความเฉลยว่า เป็นโพสต์เกี่ยวกับวันดังกล่าวไว้ในรูปภาพ

อย่างไรก็ดี ได้เกิดการตีความอย่างแพร่หลาย และมีการนำไปพาดพิง ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ เกินกว่าที่จะคาดการณ์ได้

สายการบินกราบขออภัยต่อประเด็นที่เกิดขึ้น และได้ระงับการเผยแพร่โพสต์ดังกล่าว สายการบินขอน้อมรับข้อคิดเห็นทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อปรับปรุงแก้ไขในโอกาสต่อไป
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top