Tuesday, 24 June 2025
Hard News Team

‘ไอติม’ แนะ ‘ประยุทธ์’ ดูกรุงเทพฯ เป็นตัวอย่าง ผู้บริหารสูงสุดทุกจังหวัด ควรมาจากการเลือกตั้ง

‘ไอติม’ แนะ ‘ประยุทธ์’ ต่อยอดจากเลือกตั้งผู้ว่า กทม. โดยการขานรับข้อเสนอการกระจายอำนาจของคณะก้าวหน้า เพื่อให้ผู้บริหารสูงสุดของทุกจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง 

พริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายของพรรคก้าวไกล กล่าวถึง คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่แสดงความเห็นว่า ผลการเลือกตั้งใน กทม. ไม่สะท้อนกระแสนิยมของรัฐบาล เพราะเป็นเพียงการเลือกตั้งในจังหวัดเดียว ว่าเป็นคำพูดที่ชวนให้ตั้งคำถามต่อ ว่าทำไม กทม. จึงเป็นเพียงจังหวัดเดียว ที่มีผู้บริหารสูงสุดที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนในพื้นที่

เพราะแม้จังหวัดอื่นทั่วประเทศ มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่สังกัดราชการส่วนท้องถิ่น แต่อำนาจส่วนใหญ่ในการบริหารจัดการจังหวัด กลับตกอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัด ที่มาจากการแต่งตั้งโดยราชการส่วนกลาง ในขณะที่ส่วนท้องถิ่นยังต้องเจอกับข้อจำกัดเกี่ยวกับงบประมาณ ซึ่งทำให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้คนในแต่ละจังหวัดได้เท่าที่ควร

นอกจาก กทม. จะผูกขาดอำนาจ มูลค่าทางเศรษฐกิจ และบริการสาธารณะที่มีคุณภาพไว้แล้ว ความแตกต่างในเชิงโครงสร้างการบริหารจังหวัด ยังเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่าง กทม. และ จังหวัดอื่นๆ ที่เรื้อรังมายาวนาน

หนุ่มเวียดนาม โป๊ะแตก เมียจับได้ว่ามีกิ๊ก เหตุกล้องจับขณะดูบอลนัดชิงซีเกมส์ 2021

หนุ่มเวียดนามโป๊ะแตก เมียจับได้ว่ามีกิ๊ก เหตุกล้องจับขณะดูบอลนัดชิงซีเกมส์ระหว่างไทย-เวียดนาม ฝ่ายหญิงโต้ไม่รู้จัก แต่โดนจวกกลับ ไปสะกิดเขาทำไม ถ้าไม่สนิท

ควันหลงการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งได้ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการแล้ว ขณะที่ชาวเวียดนามแห่ดีใจสนั่น หลังทีมฟุตบอลเวียดนามเบียดทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองไปครอง

แต่ทว่า ท่ามกลางความยินดีก็เกิดกระแสดราม่าในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลซีเกมส์ระหว่างไทยกับเวียดนาม อันเนื่องมาจากภรรยาชาวเวียดนามรายหนึ่งจับได้คาหนังคาเขาว่าสามีตัวเองมีกิ๊ก เหตุกล้องเจ้ากรรมดันจับภาพคนคู่รักบนอัฒจันทร์ ที่ฝ่ายชายหน้าคุ้น ๆ

ในนาทีที่ 80 ของการแข่งขัน ทันทีที่แฟนบอลชาวเวียดนามพากันดีใจ จากลูกโหม่งของ Nhâm Mạnh Dũng ตากล้องถ่าย ถ่ายทอดสด ได้จับภาพบรรยากาศกองเชียร์ ก่อนจะจับภาพคู่รักสวมเสื้อสีดำ ซึ่งสาวรีบสะกิดฝ่ายชายอย่างสนิทสนม แถมยังชี้มือมายังกล้องอีกด้วย จนหลาย ๆ คนคิดว่าเป็นคู่ที่มีความสุขแบบธรรมดาเหมือนคู่อื่น ๆ

แต่ความจริงทำให้ชาวเน็ตคนอื่น ๆ ช็อก หลังมีคนออกมาแฉว่าชายในคลิปดังกล่าวมีภรรยาและลูกแล้ว “โอ้ พวกเธอ เรื่องนี้ออกทีวีแล้ว พี่ชายคนนี้มีภรรยาและลูกแล้วนะ ตอนนี้ภรรยาและเพื่อนบ้านคงกำลังงุนงงว่าสาวข้าง ๆ คือใคร” ไม่เพียงเท่านั้น สาวยังเสริมอีกว่า “ฉันมีหลักฐานมากมายในมือของฉันที่ฉันไม่สามารถเปิดเผยได้ ไม่ใช่ว่าคนรู้จักไม่รู้”

ต่อมามีการเปิดวาร์ปชายหญิงในภาพ พร้อมแชร์ภาพพิธีวิวาห์ของฝ่ายชายที่ภรรยาของเขาเป็นคนละคนกับหญิงสาวที่นั่งเชียร์บอลด้วยกัน หลังจากกลายเป็นดราม่าที่มีชาวเน็ตแห่วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่น สาวได้ออกมาโพสต์อธิบายถึงเรื่องดังกล่าวในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เธอบังเอิญไปนั่งข้างฝ่ายชายแต่ไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ พร้อมตัดพ้อว่าเธอก็แค่ไปดูฟุตบอลเท่านั้น ทำไมถึงเกิดดราม่ากับชีวิตเธอ

กำจัดยุงลาย!! “อำนวย บุญริ้ว” นายกเทศมนตรี ลงพื้นที่รณรงค์ฉีดพ่นหมอกควัน ป้องกันไข้เลือดออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ภายในหมู่บ้านพฤกษา 28 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ นำคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา ลงพื้นที่ภายในหมู่บ้านพฤกษา 28 เพื่อร่วมรณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ประจำปี 2565 

โดยมี นางสาวมณิฐกานต์ บุญริ้ว สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นายณัฐพล บุญริ้ว รองนายกเทศมนตรี นายบุญธรรม อินทรแย้ม รองนายกเทศมนตรี นางสาวศิริพร ทับคล้าย รองนายกเทศมนตรี คณะสมาชิกสภาเทศบาล เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ อสม. ตำบลแพรกษาใหม่ เจ้าหน้าที่ รพ.สต.คลอง 9 ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้

ด้าน นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ กล่าวว่า ทางเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการป้องกันโรคไข้เลือดออก อีกทั้ง มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่แพรกษาใหม่ ประกอบกับ เข้าสู่ฤดูฝนอาจทำให้ยุงลายมีการวางไข่เพิ่มมากขึ้นและสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้เทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ อสม.แพรกษาใหม่ เจ้าหน้าที่ รพ.สต.คลอง 9 ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ลงพื้นที่ร่วมกัน เพื่อรณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกประจำปี 2565 

‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ ต้นแบบของผู้ใฝ่ศึกษาเรียนรู้ ทรงศึกษาบาลี-สันสกฤต เพราะอยากเข้าใจบทสวดมนต์

เพจ ข่าวสารงานพระพุทธศาสนา ได้โพสต์ข้อความถึงใฝ่เรียน ใฝ่ศึกษาของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร  ว่า 

สาเหตุที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร  มีความสนพระทัยในภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต เนื่องมาจากไม่สามารถเข้าพระทัยบทสวดมนต์ที่เป็นภาษาบาลีที่ทรงได้ยินได้ฟังอยู่เป็นประจำ ทำให้มีพระราชประสงค์ที่จะทรงศึกษาตั้งแต่ครั้งนั้นเป็นต้นมา และทรงเข้าศึกษาระดับปริญญาอักษรศาสตรบัณฑิต ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทรงเลือกวิชาประวัติศาสตร์เป็นวิชาเอก วิชาภาษาไทยและวิชาภาษาบาลี-สันสกฤตเป็นวิชาโท ทรงศึกษาไวยากรณ์พื้นฐานจนถึงขั้นสูง 

จีนเริ่มฉุน!! เตือนสหรัฐฯ หยุดใช้ไต้หวันเป็นไพ่บีบจีน หลังไบเดนประกาศพร้อมใช้กำลังปกป้องไต้หวัน

สำนักงานกิจการไต้หวันแห่งคณะรัฐมนตรีจีนออกมาเตือนเมื่อวันจันทร์(23พ.ค.)ว่า สหรัฐฯ "กำลังเล่นกับไฟ" หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งอเมริกา ประกาศพร้อมที่จะใช้กำลังปกป้องไต้หวัน ในกรณีที่ปักกิ่งพยายามเข้ายึดครอง ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐ

"อเมริกากำลังใช้ไพ่ไต้หวันในการสกัดกั้นจีน และพวกเขาเองจะถูกไฟแผดเผา" จู เฟิ่งเหลียน โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันแห่งคณะรัฐมนตรีจีนกล่าว

คำพูดของ ไบเดน ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ถือเป็นถ้อยคำที่แข็งกร้าวที่สุดเท่าที่เคยใช้มาของเขา ในประเด็นไต้หวัน และมีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับการเติบโตของจีนทั้งในด้านเศรษฐกิจและแสนยานุภาพด้านการทหาร

สำนักข่าวซินหัว สื่อมวลชนแห่งรัฐของจีน รายงานอ้างคำกล่าวของ จู "เรียกร้องให้สหรัฐฯหยุดใช้คำพูดหรือการกระทำใดๆที่ละเมิดหลักการต่างๆที่สถาปนาขึ้นก่อนหน้านี้ระหว่าง 2 ชาติ"

เมื่อวันจันทร์(23พ.ค.) เมื่อถูกถามว่า วอชิงตันมีความตั้งใจเข้าพัวพันด้านการทหารหรือไม่ เพื่อปกป้องไต้หวัน ไบเดน ตอบว่า "ใช่ มันเป็นคำสัญญาที่เราเคยให้ไว้"

คำกล่าวนี้เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางเยือนกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น ที่ไบเดนพบปะกับนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำระดับภูมิภาคที่จะเริ่มขึ้นในวันอังคาร(24พ.ค.)

วอชิงตันและบรรดาพันธมิตร ในนั้นรวมถึงญี่ปุ่น วางกรอบมาตรการตอบโต้หนักหน่วงที่กำหนดเล่นงานรัสเซีย จากกรณีที่รุกรานยูเครน ในฐานะเป็นคำเตือนถึงประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะจีน ต่อความเคลื่อนไหวทางทหารฝ่ายเดียวใด ๆ

ความเห็นของไบเดน ว่าเขามีความตั้งใจใช้กำลังปกป้องไต้หวันจากการไต้หวัน ดูเหมือนเป็นการทำให้นโยบายของสหรัฐฯที่มีต่อเกาะปกครองตนเองแห่งนี้มีความกำกวมมากขึ้น

‘ชัชชาติ’ ถูกชาวเน็ตแซว ถึงเป็นผู้ว่าฯ ก็ไม่รอด หลังโดนแท็กซี่เท ทั้งที่เข้าไปนั่งในรถแล้ว

เมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Palm Kitthanasarn' ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความระบุว่า "เจอชัชชาติ ผู้ว่า กทม ส่วนผู้ว่าฯ กทม.เจอแท็กซี่ กทม.ไม่รับ แข็งแกร่งแค่ไหนก็แพ้แท็กซี่ส่งรถคับ"

โดยเป็นคลิปที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กำลังขึ้นรถแท็กซี่ แต่หลังจากเปิดประตูรถเข้าไปนั่งด้านหลัง ผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที นายชัชชาติ ก็ต้องลงมาจากรถแท็กซี่คันดังกล่าว ก่อนจะเดินไปหาแท็กซี่คันอื่นแทน ซึ่งคาดว่าแท็กซี่คันดังกล่าวคงจะรีบไปส่งรถ ทำเอาชาวเน็ตแซวว่า ถึงแข็งแกร่งที่สุดในปฐพี แต่ก็ต้องแพ้แท็กซี่กรุงเทพฯ

สำหรับคลิปดังกล่าว กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลเพียงชั่วข้ามคืน โดยมีชาวเน็ตแห่เข้าไปคอมเมนต์จำนวนมาก โดยคอมเมนต์บางส่วนออกไปในทางแซวว่า ไม่ใช่แท็กซี่ไม่รับนายชัชชาติ แต่แท็กซี่ไม่สามารถรองรับความแข็งแกร่งได้ บางคนมองว่า ยังไม่เคยเห็นผู้นำคนไหนใช้รถสาธารณะเลย ซึ่งหากไม่ใช้ก็อาจจะไม่รู้ปัญหาที่แท้จริง

บางคนที่เคยประสบปัญหาการถูกแท็กซี่ปฏิเสธ ก็ได้คอมเมนต์ว่า อยากให้กรมการขนส่งทางบก ได้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้กับผู้ว่าฯ กทม. และประชาชนทั่วไปที่ใช้บริการแท็กซี่ ถึงสาเหตุที่แท็กซี่ปฏิเสธรับผู้โดยสาร ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง


ที่มา : https://www.facebook.com/palm.kitthanasan/videos/3236639086615792

ตร.เตือน เข้าถึงบัญชีออนไลน์ผู้อื่นโดยมิชอบ เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ทำให้ผู้อื่นเสียหาย เสี่ยงคุก

(23 พ.ค. 65) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ประชาชนให้ความสนใจ กรณีมีบุคคลได้เข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Happy Melon Patcharaveerapong “ ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม แล้วทำการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยอ้างว่าตนเองเป็น แตงโม พร้อมโพสต์ข้อความในลักษณะที่เป็นการกล่าวอ้างใส่ความบุคคลอื่น อ้างว่ามีพยานหลักฐานสำคัญ ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความสับสนในวงกว้าง จนเกิดคำถามและข้อสงสัยในสังคมว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวสามารถกระทำได้หรือไม่ และถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย หรือไม่นั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนว่าการกระทำของบุคคลดังกล่าว มีประเด็นพิจารณาเป็น 2 กรณี คือ

1. การเข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ผู้อื่น เป็นการเข้าถึงโดยชอบหรือไม่ ถ้าเป็นการเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 

มาตรา 7 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการเข้าไปแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม ข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม มาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. กรณีเผยแพร่ข้อมูลที่มีลักษณะเป็นการใส่ความผู้อื่นและเผยแพร่ต่อสาธารณะ ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง จะเข้าข่ายเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท
  
3. กรณีเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ในลักษณะที่อาจทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย แต่ไม่ได้เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท จะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4. หากมีการโพสต์หรือเผยแพร่ข้อมูลอื่นอันมีลักษณะเข้าข่ายผิดกฎหมายในฐานความผิดอื่น ก็จะมีความผิดตามฐานความผิดที่ได้กระทำ

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมคณะ หารือผู้แทนสหรัฐฯ ร่วมแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา

จากกรณีประเทศไทยได้ถูกลดอันดับการรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์จากทางการสหรัฐฯ ลงเป็นอันดับประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List) เป็นเวลา 2 ปีติดกัน หากไม่ได้รับการแก้ไขก็จะถูกปรับระดับเป็น (Tier 3) โดยอัตโนมัติ


 
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว รัฐบาลจึงได้มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามฝ่ายคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติกระทรวงแรงงานและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ทั้งการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็กและการบังคับใช้แรงงานข้ามชาติ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ เช่น การส่งออกสินค้าไทย และยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศต่อสายตานานาประเทศอีกด้วย


 
โดยเมื่อวันที่ 15-18 พ.ค.65 นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้นำตัวแทนจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคม คณะผู้แทนไทย ได้เข้าพบปะหารือในเรื่องการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา


 
การเข้าหารือ ครั้งนี้ มุ้งเน้นไปที่การดำเนินการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของไทย รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือจากทางการสหรัฐ โดย ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตานีละบุตร ผบช.รร.นรต. และพล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.๑ ในฐานะผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทน


 
ทั้งนี้ คณะผู้แทนไทย ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของไทย โดยได้สรุปผลงานภาพรวมของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ รวมทั้งการดำเนินคดีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้ สหรัฐเห็นถึงความพยายาม ในการขจัดปัญหา
 
ซึ่งทางการสหรัฐ ได้ให้ความสนใจและซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการในการดำเนินการช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะการนำเสนอ แนวทางการประสานงานในการช่วยเหลือคนไทยจากประเทศกัมพูชา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งสถิติการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาค้ามนุษย์ของไทย ที่มีการดำเนินคดีที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด และยังมีจำนวนคดีที่สั่งไม่ฟ้องลดลงอย่างน่าพอใจ เป็นผลมาจากการประสานงานให้พนักงานอัยการ เข้ามาร่วมกับพนักงานสอบสวน ในการตรวจสำนวนคดีก่อนส่งฟ้อง เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ครบถ้วน ทำให้สหรัฐมีความพึงพอใจในด้านการปราบปราม และการดำเนินคดีผู้กระทำผิดค้ามนุษย์เป็นอย่างมาก
 
ขณะเดียวกัน คณะผู้แทนไทย ยังได้เสนอให้มีการพิจารณาสถานการณ์ปัญหาค้ามนุษย์ในอนาคต เป็นการแก้ไขในระดับภูมิภาค เพราะประเทศไทย อยู่ในฐานะของประเทศทางผ่าน ที่ผู้กระทำผิดมักจะใช้ในการลักลอบขนเหยื่อค้ามนุษย์ไปสู่ประเทศที่สาม มิใช่ประเทศต้นทางหรือปลายทางแต่อย่างใด อีกทั้งรัฐบาล ก็มีนโยบายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ปัญหาการค้ามนุษย์ภายในประเทศมีปริมาณลดลงอย่างมาก
 
ขณะที่ทางการสหรัฐ ได้ให้ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากการหารือครั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยให้เน้นการเพิ่มเติม การบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และการช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ทั้งระบบ แม้ที่ผ่านมา การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาค้ามนุษย์ ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่อยากให้เพิ่มเติม ด้านการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ให้เป็นระบบ และมีความจริงจัง โดยให้ประสานงานกันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ในภาพรวมให้เป็นทีมประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยสามารถจัดการปัญหาค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นได้ในระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ


 
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า การเดินทางมากรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกาของคณะผู้แทนไทยในครั้งนี้ ได้มีแลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อคิดเห็น ประสบการณ์ในการทำงานแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ที่ผ่านมา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทางการสหรัฐอเมริกา ทำให้ผู้แทนของสหรัฐได้มีความเข้าใจในความมุ่งมั่นในการดำเนินการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์อย่างจริงจังและต่อเนื่องของไทย รวมทั้งได้เห็นผลงานและความเปลี่ยนแปลงที่หน่วยงานไทย ได้ร่วมกันบูรณาการพัฒนาระบบการทำงาน การประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ และการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาค้ามนุษย์ที่มีพัฒนาการที่ดีจากปีก่อนมาก

'วิโรจน์-สก. ก้าวไกล' แท็กทีม 'ชัชชาติ' ลุยสำรวจปัญหาคลองลาดพร้าว

วิโรจน์ ควง ส.ก. ก้าวไกล ลาดพร้าว-จตุจักร เริ่มลุยงานร่วมกับชัชชาติ ผู้ว่า กทม. คนใหม่ทันทีหลังการเลือกตั้ง โดยลงเรือดูปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่รอบคลองลาดพร้าว พร้อมหารือแนวทางแก้ปัญหา พร้อมประสานความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของประชาชน

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่า กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ประสานงาน ส.ก.  พรรคก้าวไกลทั้ง 14 เขต ร่วมลงพื้นที่หารือปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากรอบคลองลาดพร้าว กับชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่า กทม. พร้อมกับณภัค เพ็งสุข ว่าที่ ส.ก. เขตลาดพร้าว พรรคก้าวไกล และอภิวัฒน์ ด่านศรีชาญชัย ว่าที่ ส.ก. เขตจตุจักร พรรคก้าวไกล ในฐานะ ส.ก. พรรคก้าวไกลในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาคลองลาดพร้าว พร้อมกับว่าที่ส.ก. จากพรรคเพื่อไทยอีกสองเขต

โดยวิโรจน์กับชัชชาติและคณะ ร่วมกันลงเรือสำรวจสภาพพื้นที่ จากจุดวัดลาดพร้าวไปจนถึงประตูระบายน้ำคลองลาดพร้าว ก่อนย้อนกลับไปถึงประตูระบายน้ำคลองบางซื่อ ชุมชนบ้านมั่นคง รวมทั้งจุดกักขยะในคลอง และดูระบบการคัดแยกขยะโดยบริษัทเอกชน โดยมี ส.ก. จากพรรคก้าวไกล ร่วมนำการสำรวจปัญหาพร้อมบรรยายลักษณะปัญหาของพื้นที่

ซึ่งทั้งว่าที่ ส.ก. เขตลาดพร้าว และว่าที่ ส.ก. เขตจตุจักร ของพรรคก้าวไกล ที่ติดตามปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่ก่อนลงสมัครเป็น ส.ก. ระบุว่าปัญหาที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจากปริมาณขยะที่อยู่ในคลอง ทำให้การระบายน้ำติดขัด ในเบื้องต้นได้หารือกับผู้ว่าฯ แล้ว ว่าสิ่งที่สามารถแก้ไขได้ในเบื้องต้นทันที คือการปรับระดับน้ำในคลอง เช่น การขุดลอกเพื่อให้สามารถรองรับการระบายน้ำได้มากขึ้น และการนำเอาสิ่งกีดขวาง เช่น ประตูระบายน้ำที่ไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว ซึ่งเป็นจุดที่มีปริมาณขยะมาสะสม ออกไปให้การระบายน้ำเป็นไปโดยสะดวกขึ้น

‘หริรักษ์’ ไขคำตอบ ทำไมโพล Top News ตีสวน หลังทุกโพลยก ‘ชัชชาติ’ นำโด่งนั่งตำแหน่งผู้ว่าฯ

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีโพลที่มีผลลัพธ์แตกต่างกัน โดยเฉพาะจาก Top News ว่า…

ที่เห็นในภาพเป็นการโพสต์ของ เพจๆ หนึ่งใน face book ที่จงใจทำให้ผู้ที่เห็นเชื่อว่า Top News เป็นสื่อที่ใช้ไม่ได้ เชื่อถือไม่ได้ โดยเอาผลโพลของสำนักต่างๆมาแสดงเทียบกับผลสำรวจของ Top News ทั้งที่รู้ว่ามันเทียบกันไม่ได้เพราะ Top News เขาให้ผู้ชมของเขาโหวตเข้ามา 

ผลที่ออกมาจึงไม่ได้มากจากกลุ่มตัวอย่างที่สุ่มโดยใช้หลักสถิติ เรียกว่า Random Sampling เพื่อให้กลุ่มตัวอย่างเป็นตัวแทนของประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด แต่ของ Top News ไม่ได้เป็นกลุ่มตัวอย่างอะไรใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงกลุ่มที่กำลังดูรายการข่าวอยู่เท่านั้น ผลจึงออกมาอย่างนั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top