Tuesday, 24 June 2025
Hard News Team

สมุทรปราการ-เอาจริง!! 'นายก อรัญญา' นายกเทศมนตรี ใช้ยาแรง พวกลักไก่แอบทิ้งขยะสร้างความเดือดร้อน ลั่น!! เจอจับปรับทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ภายในซอยแพรกษา 15/1 ถ.แพรกษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา หัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในซอย แพรกษา 15/1 หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนกรณีมีบุคคลแอบนำรถบรรทุกเศษขยะจำนวนมากแล้วนำไปทิ้งไว้ตามริมถนนภายในซอยแพรกษา 15/1 สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน

โดย นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา เปิดเผยว่า ทางเทศบาลตำบลแพรกษาได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนรวมถึงประชาชนผู้ใช้เส้นทางภายในซอยแพรกษา 15/1 เนื่องจากมีบุคคลได้แอบบรรทุกเศษขยะต่างๆ ทั้งขยะเปียกและขยะแห้งแล้วนำมาทิ้งไว้ตามริมถนนภายในซอยแห่งนี้ เป็นระยะทางกว่า 300 เมตร ซึ่งขยะทั้งหมดนี้ได้ส่งกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายไปทั่ว อีกทั้ง สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่เป็นจำนวนมากรวมถึงพี่น้องประชาชนผู้ใช้เส้นทางที่สัญจรไปมา

ซึ่งในวันนี้ทางเทศบาลตำบลแพรกษา โดยนาย สมบูรณ์ สันหยี รองปลัดเทศบาลตำบลแพรกษา นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อช่วยกันเก็บทำความสะอาดกองขยะเหล่านี้ให้สะอาดเรียบร้อย และต่อจากนี้ทางเทศบาลตำบลแพรกษาจะดำเนินการเอาจริงกับบุคคลที่แอบนำขยะมาทิ้งภายในซอยแห่งนี้ พร้อมทั้งจะประสานไปยังเจ้าของที่ให้ช่วยมาดำเนินการปิดล้อมรั้วให้เรียบร้อย พร้อมทั้งติดป้ายประกาศ ห้ามนำขยะมาทิ้งในพื้นที่บริเวณนี้เด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนถือว่ามีโทษความผิดตามกฎหมาย มาตรา 32 ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด จับปรับไม่เกิน 2,000 บาท

เลขาธิการสภากาชาดไทย เปิดโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทยฯ จังหวัดนครราชสีมา

(25 พ.ค.65) นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา และพลโท นายแพทย์อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด โครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทยฯ ในครั้งนี้จัดขึ้น เพื่อทำการตรวจรักษาและผ่าตัดตาให้แก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาสโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2565 ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองไผ่ ตำบลหนองหญ้าขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา


 
​นายเตช บุนนาค กล่าวว่า หน่วยแพทย์จักษุศัลยกรรมสภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 27 ปีแล้ว โดยเริ่มปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2538 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 40 พรรษา ปัจจุบันปฏิบัติงานทุกสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน เป็นประจำที่สถานีกาชาดที่ 6 อรัญประเทศเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดสระแก้ว โครงการนี้ได้รับการปรับปรุงและพัฒนางานมาเป็นลำดับ โดยปฏิบัติงานเชิงรุกด้วยการออกให้บริการสัญจร โดยออกปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลอำเภอในพื้นที่ห่างไกลและไม่มีจักษุแพทย์ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน และต่อมาในปี 2551 ได้เริ่มโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ฯ ปฏิบัติงานในรูปแบบการนำรถผ่าตัดเคลื่อนที่ ลงไปปฏิบัติงานเชิงลึกระดับตำบล ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ปีละ 6 ครั้ง และอีกทั้ง เมื่อปี 2554 ยังได้จัดทำโครงการที่ตรวจรักษาและผ่าตัดตา ให้แก่พระภิกษุ แม่ชี และนักบวชทุกศาสนาอีกด้วย ตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา หน่วยแพทย์จักษุฯ ให้การรักษาโดยไม่คิด ค่าใช้จ่ายไปแล้วกว่า 265,000 ราย ทำการผ่าตัดไปแล้วกว่า 67,000 ราย


 
สำหรับการดำเนินงานโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ สภากาชาดไทยฯ ครั้งนี้ สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ส่วนราชการทุกภาคส่วน ตลอดจนภาคเอกชน มีเป้าหมายในการดำเนินงานให้บริการตรวจรักษาโรคตา ผ่าตัดโรคต้อกระจก และทำผ่าตัดโรคตาอื่นๆ เช่น ต้อเนื้อ ต้อหิน โรคของเปลือกตาในผู้ป่วยทุกรายที่จำเป็นต้องรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยโรคตาในท้องถิ่นทุรกันดารและมีฐานะยากจนได้รับบริการที่ดีเท่าเทียมกับผู้ป่วยในเมืองโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่เสียเวลาในการเดินทางมารับการรักษาในเมือง และผู้สูงอายุที่ยากไร้ในชนบทได้รับการตรวจรักษาอย่างถูกต้อง สามารถมองเห็นและช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

'ปารีณา' เปิดศึกรอบตัว ฉะ 'หมอวรงค์' เป็นกิ้งก่า

(25 พ.ค.65) นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความถึง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดีว่า…

เปลี่ยนสีเร็ว

ช่วงโควิดเราได้ยินหมอบอกว่า เชื่อหมอไม่เชื่อหมา แต่พอโควิดกลายพันธ์ ดันปรากฏมีหมอบางคนกลายเป็น #กิ้งก่า ที่ลิ้นไม่มีกระดูก

อย่าลืมว่า มีใครบ้าง ... ไปเป่านกหวีดช่วย 3 ป ให้เข้ามา และพอ 3 ป คืนอำนาจและจัดให้มีการเลือกตั้ง ก็ได้เลือกตั้งกลับเข้ามาใหม่อีก ตอนนั้นพูดอะไรไว้ประชาชนจำได้ แล้วตอนนี้ไหงพูดแบบนี้

ใครจะยินดีกับใครก็ตามสบาย แต่อย่าสะเออะ ไปพาดพิงคนอื่นได้ไหม

สุดท้าย หมอที่เปลี่ยนสีเร็วขนาดนี้ ระวังจากหมอจะกลายเป็น...นะคะ 


ที่มา: https://www.thaipost.net/x-cite-news/148355
https://www.facebook.com/parina.pacharat.9/posts/pfbid0AwFfaJL7G726aB2vVze2h7ER6fSZF52BwPpdSFqKsTuztKzKUXanyKdRz7KeJZmsl

‘ก้าวไกล’ ร้องสภาทบทวน ตัดสโมสรหรูในรัฐสภา ชี้!! ส.ส.ไม่ควรสำราญในขณะที่ประชาชนลำบาก

‘ปดิพัทธ์ - ก้าวไกล’ ขอสภาทบทวนฟังก์ชันสโมสรรัฐสภา ย้ำชัด ส.ส.ไม่ควรสบายในขณะที่ประชาชนลำบากท่ามกลางวิกฤติประเทศ ควรใช้เป็นสถานที่ทำงานในฐานะตัวแทนราษฎร มากกว่าสุขสบายบนภาษีราษฎร 

ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.จังหวัดพิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล แถลงข่าวขอให้รัฐสภาทบทวนการใช้งานสโมสรของรัฐสภา ที่จะมีห้องสันทนาการ, สปา, ลู่วิ่ง, ห้องซ้อมลีลาศ, ห้องซ้อมร้องเพลง, ห้องนวดฝ่าเท้า, นวดแผนโบราณ และห้องตีกอล์ฟ ว่า ได้หารือเรื่องนี้ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเช้า เพื่อชี้ให้เห็นถึงประเด็นที่ต้องทบทวนทั้งด้านความจำเป็นและความเหมาะสมในการใช้งบประมาณก่อสร้างสโมสรรัฐสภาทั้งหมด 

ทั้งนี้ ปดิพัทธ์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมและสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมและกิจกรรมนันทนาการวุฒิสภา ได้นำสื่อมวลชนชมสโมสรรัฐสภา ซึ่งมีสมาชิกวุฒิสภาหลายท่านร่วมชมด้วย ปรากฏว่าเป็นที่น่าตกใจ เนื่องจากมีห้องต่างๆที่ต้องบอกว่าเกินจำเป็น ซึ่งพวกตนไม่ได้เป็นผู้ติดตามแผนโครงการนี้แต่แรก แต่คิดว่าสื่อมวลชนและประชาชนคงเห็นกันอยู่ว่า ตลอดเวลาที่เปิดใช้รัฐสภาแห่งนี้มา พื้นที่สำหรับคนทำงานมันน้อยเหลือเกิน เจ้าหน้าที่รัฐสภาแทบไม่ใช่พื้นที่ในการทำงาน เอกสารกองไม่เป็นที่ สื่อมวลชนต้องอยู่ภายในพื้นที่ที่จำกัด มีน้ำรั่วจากฝนตกทุกครั้ง 

ตร. เตือน ปลอมบัญชีคนดัง หลอกยืมเงิน ไม่ว่า หลอกจริงหรือหวังคอนเทนต์ ล้วนเสี่ยงคุก

วันที่ 25 พ.ค.65 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีผู้ไม่หวังดีนำเอาภาพของบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือบุคคลที่เป็นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ มาสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอมเพื่อใช้ในการฉ้อโกงเป็นจำนวนมาก เช่น หลอกว่าจะแจกรางวัล หลอกว่าจะมอบทรัพย์สิน หรือหลอกยืมเงิน เป็นต้น

ทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจสอบพบว่ามีหลายกรณีที่เป็นการหลอกลวงที่ประชาชนทั่วไปสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเรื่องเท็จ เช่น กรณีแอบอ้างเป็น ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ขอความช่วยเหลือกองทัพรัสเซียทำสงครามกับประเทศยูเครนโดยให้โอนเงินผ่านทรูมันนี่, กรณีแอบอ้างเป็น น.ส.ดนุภา หรือ มิลลิ คณาธีรกุล ขอยืมเงินค่าทำเพลงโดยให้โอนเงินผ่านทรูมันนี่ และ กรณีแอบอ้างเป็น นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ขอยืมเงินค่ารถเพื่อลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ซึ่งอาจไม่ได้เป็นการแอบอ้างเพื่อหลอกเอาทรัพย์สิน แต่อาจเป็นการทำขึ้นเพื่อสร้างคอนเทนต์ปลอม หวังเอายอดไลก์ ยอดวิว ของผู้ไม่หวังดี

‘สมศักดิ์’ สั่งราชทัณฑ์ทำหนังสือถึง ‘ชัชชาติ’ เร่งประสานนำผู้ต้องขังช่วยลอกท่อช่วงหน้าฝน

วันนี้ ที่กระทรวงยุติธรรม มีการประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษารมว.ยุติธรรม  ผู้บริหารและข้าราชการร่วมประชุม

โดยในวาระพิจารณาเรื่อง การส่งนักโทษเด็ดขาดออกไปทำงานสาธารณะหรือทำงานอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเห็นการเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม. ที่พึ่งผ่านพ้นไป ผู้ว่าฯ คนใหม่ที่ได้รับเลือกจากประชาชนเป็นคนที่เปิดกว้าง ตนจึงอยากให้ กรมราชทัณฑ์ ติดต่อ ผู้ว่าฯ คนใหม่ ให้เราเสนอตัวเข้าไปทำงานที่เป็นการบริการประชาชน และเป็นงานให้ผู้ต้องขังมีทักษะเพิ่มขึ้น ได้รับค่าแรงด้วย ตนเชื่อว่าผู้ว่าฯ คนใหม่น่าจะสนใจในจุดนี้ เนื่องจากขณะนี้พื้นที่ กทม. มีผลกระทบช่วงฝนจะตก หากเราเสนอไปจะรับงานได้เต็มที่ เช่น การช่วยลอกท่อระบายน้ำ ขอให้กรมราชทัณฑ์ทำหนังสือนำไปก่อน โดยเราอาจจะทำในราคามาตรฐานของราชทัณฑ์ ตนคิดว่าเป็นไปได้ 

"ผมพยายามสร้างโอกาสให้กับผู้ต้องขังได้มีงานทำ และเป็นงานบริการช่วยสังคม ที่ผ่านมาผมพยายามสร้างความแตกต่าง พยายามช่วยคนเมืองกรุง แต่ผู้ว่าฯ คนเก่าไม่ยอม ซึ่งผมหวังว่าผู้ว่าฯ คนใหม่นี้เป็นคนที่เปิดกว้าง น่าจะให้โอกาสพวกเราได้ช่วยสังคม ช่วยให้คนของเรามีงานทำ กรมราชทัณฑ์ลองให้ฝ่ายกฎหมายดูเรื่องการทำหนังสือ ขอให้รีบทำ หากเรารีบเสนอให้เร็ว อย่างน้อยเมื่อมีการเปิดประชุมสภา กทม.ในสัปดาห์หน้า พวกเขาจะได้เห็นและพิจารณาได้เลย น่าจะเป็นเรื่องที่ดี" นายสมศักดิ์ กล่าว


ที่มา : https://www.thaipost.net/x-cite-news/148464/

ส่งตรงสินค้าประมงสู่ผู้บริโภค! "เฉลิมชัย" เปิด "Fisherman Shop" พร้อมกัน 77 สาขาทั่วประเทศ กระจายผลผลิตจากชาวประมงและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำส่งตรงถึงผู้บริโภค ด้วยตราสัญลักษณ์ "ประมงธงเขียว"

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดร้าน Fisherman Shop @ Bangkhen โดยมี นายประยูร อินสกุล นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ กรมประมง กรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ ยังเปิด Fisherman Shop พร้อมกันอีก 76 สาขาทั่วประเทศ เพื่อตั้งเป็นจุดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำให้กับพี่น้องชาวประมงและเกษตรกรส่งตรงถึงผู้บริโภค โดยการันตีคุณภาพมาตรฐานด้วยตราสัญลักษณ์ "ประมงธงเขียว" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการการันตีคุณภาพของสินค้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่นำมาจำหน่ายภายใน "Fisherman shop" ที่ได้ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานจากกรมประมง เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น 5 ประการ ได้แก่ 

1) สด วัตถุดิบที่สดใหม่ 
2) สะอาด ผ่านกระบวนการผลิตที่ถูกสุขลักษณะ 
3) ได้มาตรฐาน เป็นไปตามมาตรฐานการเลี้ยง การผลิต และผลิตภัณฑ์ 
4) ปลอดภัย ได้รับการตรวจคุณภาพและผ่านเกณฑ์มาตรฐานความ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค 
และ 5) ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มาจากการทำประมงและการเพาะเลี้ยงอย่างยั่งยืน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

โดย นายเฉลิมชัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของพี่น้องชาวประมงและเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เนื่องจากขาดช่องทางในการจัดจำหน่ายผลผลิตได้ตามปกติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงมีนโยบายให้กรมประมงเร่งหาแนวทางช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ด้วยการจัดหาพื้นที่สำหรับให้ชาวประมงและเกษตรกรสามารถจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำไปสู่ผู้บริโภคได้โดยตรง พร้อมให้การสนับสนุนองค์ความรู้ที่มุ่งเน้นการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับมาตรฐานสินค้าประมง 

รวมทั้งเพิ่มทักษะทางด้านการจำหน่าย การแปรรูป การบรรจุภัณฑ์ ที่จะช่วยส่งเสริมการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และปลอดภัย โดยให้เครื่องหมายในการรับรองเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เกิดความจดจำและมั่นใจในตัวสินค้าและผลิตภัณฑ์ประมงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาช่องทางการตลาดในรูปแบบใหม่ๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อให้การกระจายสินค้าสัตว์น้ำสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายและกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้การส่งเสริมในการประกอบกิจการของชาวประมงและเกษตรกรครบวงจร สามารถผลิตได้ ขายได้ อย่างยั่งยืน และหวังว่าร้าน Fisherman Shop ในทุกสาขาของทุกจังหวัดจะเป็นที่พึ่งทั้งของผู้ผลิตและผู้บริโภคในการจำหน่ายผลผลิตที่มีคุณภาพ ราคายุติธรรม

‘พล.อ.วิชญ์’ เปิดปมร้าว ‘ธรรมนัส’ ลั่น ไม่ให้เกียรติ เห็นเป็นแค่หุ่นเชิด

‘พล.อ.วิชญ์’ ลั่น ผมเป็นหัวหน้าพรรค ไม่ใช่หุ่นเชิด หวังเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง กลับไม่ให้เกียรติ ไม่ฟังมติพรรค ก็อยู่ร่วมกันไม่ได้ แฉ เป้าหมาย ‘ธรรมนัส’ มาเพื่อไปต่อ

25 พ.ค.2565 พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวถึงปัญหาภายในพรรคเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะกับกลุ่มก๊วนของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย จนเป็นที่มาของการลาออกจากหัวหน้าพรรค และ 15 กรรมการบริหารพรรคว่า ตนไม่ได้มีอะไรกับใคร เพียงแต่ว่า ตนกับ ร.อ.ธรรมนัส  มีความไม่เข้าใจที่เป็นไปในทิศทางเดียว กันต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำ ซึ่งตนก็คิดว่ามันก็ไปด้วยกันลำบาก

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือถ้าเรารับฟังทั้งสองฝ่ายก็คงจะไปได้ แต่ไปเชื่อบุคคลที่ 3 บ้าง อะไรบ้าง เราควรจะมานั่งคุยกัน  ซึ่งตนก็เห็นคนอื่นที่เพิ่งเข้ามาในพรรค เห็นถึงความตั้งใจในการทำงานเพื่อบ้านเมือง พอมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ทุกคนก็ผิดหวังกับสิ่งที่เขาได้ตั้งใจที่จะมาทำ

"เราเหมือนเป็นหุ่น ที่วางไว้เฉยๆจะหยิบไปวางตรงไหนก็ได้ มาสั่งการ มาทำอะไร ผมไม่ใช่หุ่น ผมเป็นคน และอยากทำงานให้ดี และพยายามฟังทุกคนที่เขามีข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะที่ดีแต่กลับกลายเป็นบางสิ่งบางอย่างเขาไม่เอา และจะไม่ทำตาม คือสิ่งที่ผมคิดอยู่ ว่าผมไม่ใช่หุ่นเชิด แต่มานั่งทำงาน และมีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าพรรค แต่ไม่ใช่บ้าตำแหน่ง หรือจะมามีอำนาจหรืออะไรทั้งสิ้น"

ตร. เตือน ปลอมบัญชีคนดัง หลอกยืมเงิน หลอกจริงหรือหวังสร้างคอนเทนต์ปลอม หวังยอดไลก์เสี่ยงคุก

วันที่ 25 พ.ค. 65 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าที่ผ่านมา ได้มีผู้ไม่หวังดีนำเอาภาพของบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือบุคคลที่เป็นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ มาสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอมเพื่อใช้ในการฉ้อโกงเป็นจำนวนมาก เช่น หลอกว่าจะแจกรางวัล หลอกว่าจะมอบทรัพย์สิน หรือหลอกยืมเงิน เป็นต้น

แต่ในปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจสอบพบว่ามีหลายกรณีที่เป็นการหลอกลวงที่ประชาชนทั่วไปสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเรื่องเท็จ เช่น กรณีแอบอ้างเป็น ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ขอความช่วยเหลือกองทัพรัสเซียทำสงครามกับประเทศยูเครนโดยให้โอนเงินผ่านทรูมันนี่, กรณีแอบอ้างเป็น น.ส.ดนุภา หรือ มิลลิ คณาธีรกุล ขอยืมเงินค่าทำเพลงโดยให้โอนเงินผ่านทรูมันนี่ และ กรณีแอบอ้างเป็น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ขอยืมเงินค่ารถเพื่อลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ซึ่งอาจไม่ได้เป็นการแอบอ้างเพื่อหลอกเอาทรัพย์สิน แต่อาจเป็นการทำขึ้นเพื่อสร้างคอนเทนต์ปลอม หวังเอายอดไลก์ ยอดวิว ของผู้ไม่หวังดี
      
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนว่า การแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น เพื่อหลอกยืมเงิน หรือสร้างคอนเทนต์ปลอมเพื่อหวังเอายอดไลก์ ยอดวิว จะเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายดังนี้

นายกฯ สั่งเร่งแก้หนี้ครัวเรือนทุกกลุ่มเป้าหมาย


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งผลักดันทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการการทำงานเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนในทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับถึงการสร้างความรับรู้แก่ประชาชนเพื่อรับประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ 

จากข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีที่กำหนดให้ปี 2565 เป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน” รวมถึงการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยเพื่อพิจารณาขับเคลื่อนแนวทางแก้ไขสถานการณ์หนี้ครัวเรือนให้มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม พบว่ากลุ่มปัญหาหนี้ครัวเรือนมี 6 กลุ่ม ได้แก่
 
1. กลุ่มหนี้นักเรียนหรือหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 
2. กลุ่มหนี้จากสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 
3. กลุ่มหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล
 4. กลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ 
5. กลุ่มหนี้นอกระบบ 
และ 6. กลุ่มลูกหนี้ทั่วไป 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top