Saturday, 28 June 2025
Hard News Team

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซับน้ำตาผู้ประสบอัคคีภัยชุมชนบ่อนไก่ คลองเตย มอบเงินสดและเครื่ องอุปโภคบริโภค มูลค่ากว่า1.87 ล้านบาท พร้อมนำทีมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการตรวจ รักษา แจกจ่ายยาฟรี

ตามที่ได้เกิดอัคคีภัยบ้านเรือนประชาชนภายในชุมชนพัฒนาบ่อนไก่เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 65 ที่ผ่านมา ซึ่งเพลิงไหม้ในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัยเข้าร่วมระงับเหตุในทันที 

วันนี้ (วันที่ 30 มิถุนายน 2565 เวลา ระหว่างเวลา 09.00-14.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยนายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ ห่วงใยผู้ประสบอัคคีภัยบริเวณชุมชนบ่อนไก่ มอบหมายให้นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก และนายนิพนธ์ ลีละศิธร กรรมการ นำทีมฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ โดยมอบเงินสด คนละ 3,000 บาท จำนวน 500 คน พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นๆ อีกครอบครัวละ 1 ชุด ๆ ละ 2,000 บาท รวมงบประมาณไม่ต่ำกว่า 1.87 ล้านบาท โดยมี นางมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ร่วมในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิฯ / สมาคมจีนต่างๆ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ และ นางศิริพร โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์ นางสาวอัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊ อัญชลี) นางสาวพัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์ (เกรซ พัชร์สิตา) นางสาวบัณฑิตา ฐานวิเศษ (เมย์ บัณฑิตา) นางสาวไดอนา แอน คาฮิลล์ และ นางสาวกฤษณา แซ่โค้ว อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิฯ ร่วมในพิธี ณ บริเวณศูนย์เยาวชนบ่อนไก่ ซอยปลูกจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

ผบช.ภ.6 ประชุมสัญจร-กิจกรรมจิตอาสา ตำรวจในสังกัดภาค 6 ที่จ.สุโขทัย

ที่หอประชุมวรรณกลาง มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย อ.เมือง จ.สุโขทัย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรชาติ จึงดำรงกิจ รองผบช.สพฐ.ตร.ปฎิบัติราชการภ.6,พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผบช.ภ.6, พล.ต.ต.อิทธิพล สุวรรณวัฒนะ รองผบช.ภ.6 และ พล.ต.ต.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รองผบช.ภ.6 เดินทางลงพื้นที่จ.สุโขทัย ร่วมประชุมบริหารและรับฟังผลการปฎิบัติงานของหน่วยงาน ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 6 ประจำเดือนมิถุนายน 2565 เมื่อวันพุธที่ 29 มิถุนายน 2565 

โดยมี พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ ผบก.ภ.จว.สุโขทัย และข้าราชการตำรวจในสังกัด ตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัยให้การต้อนรับ และเป็นประธานกิจกรรมจิตอาสา" เราทำความดีด้วยหัวใจ" ที่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด 

‘หมอมนูญ’ เผยพบคนไข้โควิดเพิ่มขึ้น วอนทบทวนกำหนดโควิด-19เป็นโรคประจำถิ่น

หมอมนูญ ตั้งคำถามถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเด็นกำหนด (1 ก.ค.) จัดโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น วอนทบทวนใหม่หลังพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น แนะเลื่อนจนกว่าสถานการณ์คลี่คลายจะดีกว่า ชี้แม้ฉีดเข็ม 5 ตอนนี้ก็เสี่ยงติด แค่ไม่ตายเท่านั้น

วันนี้ (30 มิ.ย.) หรือ นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ‘หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC’ ในประเด็น วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 โควิด-19 จะกลายเป็นแค่โรคประจำถิ่นได้จริงหรือ โดยระบุข้อความว่า

"วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ไทยกำลังก้าวเข้าสู่การพ้นการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ไวรัสโควิด-19) เป็นโรคประจำถิ่นตามแผนของกระทรวงสาธารณสุขจริงหรือ ถ้าจะเลื่อนวันประกาศไปอีกสักพักจนสถานการณ์คลี่คลายกว่านี้ก็น่าจะดี ทุกโรงพยาบาลใน กทม.ขณะนี้รับคนไข้โรคโควิดเพิ่มขึ้น โรงพยาบาลวิชัยยุทธต้องกลับมาเปิดหอผู้ป่วยโควิดเพิ่มอีก 1 วอร์ด หลังจากที่เคยปิดไปแล้ว ผู้ป่วยที่รับมาการรักษาส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เนื่องจากได้รับวัคซีนมาก่อนหน้านี้

ขอให้ทุกคนกลับไประมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น ใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงสถานที่มีคนแออัด อากาศถ่ายเทไม่ดี เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ และพิจารณาว่าถึงเวลาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือยัง

'รร.วิเชียรมาตุ' โพสต์ภาพนร.พร้อมใจซ้อมถวายบังคม เนื่องในโอกาสวันครบรอบ 106 ปี วันก่อตั้ง

ไม่นานมานี้ เฟซบุ๊ก 'โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง' ได้โพสต์ภาพ การซ้อมถวายบังคมของบรรดาน้อง ๆ เด็กนักเรียน เนื่องในวันครบรอบ 106 ปี โรงเรียนวิเชียรมาตุ ที่จะมาถึงในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมไทยอันงดงามที่ยังคงอยู่สืบเรื่อยมา

โดยผู้ที่ได้พบเห็นภาพดังกล่าวต่างชื่นชมโรงเรียน คณะครูอาจารย์ และน้อง ๆ นักเรียนต่าง ๆ นานา ว่า...

>> งดงามน่าชื่นชมค่ะ...ทั้งครูอาจารย์นักเรียนทุกท่าน...นี่คือสิ่งดีงามเชิดชูเกียรติของตนและครอบครัว...

>> วัฒนธรรมไทยมีความสวยงาม เป็นสิ่งบอกตัวตนและบรรพบุรุษ

>>อาจารย์ ทุกคนควรทำเป็นแบบอย่างให้เด็ก ๆ เห็นด้วยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คงภาพสวยงามเหล่านี้ไว้ตลอดไป

>> รู้สึกชื่นชม และประทับใจ ในความงดงามของวัฒนธรรมที่วิเชียรมาตุถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาก ๆ

>> ขอบคุณท่านผู้บริหาร และน้อง ๆ ที่เห็นความสำคัญกับประเพณีอันดีงาม ในฐานะศิษย์เก่า รู้สึกภาคภูมิใจจริง ๆ

>> แค่เห็นภาพก็ยังขนลุก เมื่อถึงวันจริงจะขนาดไหน จบมากี่ปีก็ไม่มีวันลืมพิธีนี้ วันที่ 1 จะไปร่วมไหว้แม่แก้วด้วยกันค่ะ

'นักเขียนซีไรต์' กรี๊ด!! ชนชั้นสูงตายเหี้ยนหมด หลังผู้ว่าฯ เรียกคนกวาดถนนมากินข้าวร่วมโต๊ะ

(30 มิ.ย.2565) นางวีรพร นิติประภา นักเขียนรางวัลซีไรต์ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มแคร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Veeraporn Nitipraphaว่า... 

ผู้ว่าเรียกพนักงานกวาดถนนมากินข้าวร่วมโต๊ะ! อกอีแป้นจะแตกตาย อะไรเนี่ย แล้วอย่างนี้ชนชั้นเจ้าคนนายคนในระบบข้าราชการไทยมิฉิบหายตายเหี้ยนกันหมดเหรอคะ…ลงทำกันอีแบบนี้

‘ดร.กฤชนนท์’ เผย อุตสาหกรรมไทยยังโตต่อเนื่อง ชี้ กลุ่มเครื่องมือแพทย์ - ยานยนต์ไฟฟ้า มาแรง

เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผย ภาพรวมอุตสาหกรรมไทยช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แม้จะเกิดวิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมโลก 

โดยในไทยพบ กลุ่มอุตสาหกรรมด้านอาหาร อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์สมุนไพรไทย และยานยนต์ไฟฟ้า มีแนวโน้มการเติบโตสูง ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่นเติบโตลดลง

นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงภาพรวมอุตสาหกรรมไทย ในงาน Thailand’s Smart Awards ครั้งที่ 3

ว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ภาพรวมการเติบโตอุตสาหกรรมไทยลดลงจากมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งในส่วนของภาคอุตสาหกรรมไทยนั้น มีการปรับตัวทำให้กลับมาเทียบเท่าก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 และยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย GDP ภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตขึ้น 5.9 % ซึ่งสูงกว่า GDP ของประเทศที่เมื่อปีที่แล้วเติบโตอยู่ประมาณ 1.6 % โดยในปีนี้คาดการณ์ว่า GDP ภาคอุตสาหกรรมจะเติบโตเพิ่มขึ้นอยู่ระดับ 2.2 – 3.2 % 

แฉ UK มีแผนปิดท่อก๊าซป้อนยุโรป หากเข้าขั้นวิกฤตขาดแคลนในประเทศ

สหราชอาณาจักร จะตัดอุปทานก๊าซที่ป้อนแก่ยุโรป หากว่าพวกเขาเผชิญกับปัญหาขาดแคลนอย่างรุนแรง ตามรายงานของสื่อมวลชนอังกฤษในวันพุธที่ (29 มิ.ย.) ที่ผ่านมา

ในขณะที่บรรดาประเทศต่าง ๆ ในยุโรปกำลังเผชิญแนวโน้มถูกรัสเซียตัดการส่งออกก๊าซ หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่าสหราชอาณาจักรมีแผนปิดท่อลำเลียงที่ป้อนแก่เนเธอร์แลนด์และเบลเยียม แม้มันเสี่ยงบ่อนทำลายความพยายามผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านพลังงานก็ตาม

การปิดท่อลำเลียงเชื่อมต่อ จะเป็นหนึ่งในมาตรการเบื้องต้นภายใต้แผนฉุกเฉินด้านก๊าซของสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจบังคับใช้โดยโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติ(National Grid) หากว่าอุปทานขาดแคลนในช่วงหลายเดือนข้างหน้าที่กำลังมาถึง

บรรดาบริษัทก๊าซทั้งหลายในยุโรป วิงวอนสหราชอาณาจักรให้ร่วมมือกับอียู และเตือนว่าการปิดท่อลำเลียงเชื่อมต่ออาจก่อไฟย้อนศรเล่นงานสหราชอาณาจักรเอง หากว่าเกิดปัญหาขาดแคลนยาวนาน ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากยุโรปในปริมาณมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงพีคสุดของฤดูหนาว

"ผมอยากแนะนำให้สหราชอาณาจักรพิจารณาทบทวนการหยุดเชื่อมต่อ (ในกรณีที่เกิดวิกฤต) เสียใหม่" ความเห็นของ บาร์ท ยาน โฮเวอร์ส ประธานเครือข่ายผู้ให้บริการระบบขนส่งก๊าซในยุโรป (European Network of Transmission System Operators for Gas) กลุ่มทรงพลังที่สมาชิกมีทั้งบริษัท Snam ของอิตาลีและบริษัท Fluxys ของเบลเยียม

"เพราะว่าในขณะที่มันประโยชน์สำหรับทวีปยุโรปในฤดูร้อน มันก็จะเป็นประโยชน์สำหรับสหราชอาณาจักรในฤดูหนาวเช่นกัน" เขากล่าว

สหราชอาณาจักรจะทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) แผนฉุกเฉินรับมือปัญหาขาดแคลนก๊าซในเดือนกันยายน โดยแม้โครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติระบุว่ามันเป็นการทดสอบประจำปี แต่ระบุการทดสอบล่าสุดนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงกรณีแวดล้อมต่างๆนานา ในขณะที่รัสเซียได้เริ่มจำกัดการส่งออกก๊าซสู่ยุโรปแล้ว

'ชนินทร์' จวก 'ประยุทธ์' ขยันสร้าง 'หนี้จน' หลังเล็งกู้เงินค้ำหนี้ กฟผ. หวั่นคนไทยจมกองหนี้

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กู้เงินเพิ่ม 85,000 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลัง ค้ำประกันเงินกู้ทั้งก้อน เพื่อตอบสนองนโยบายการบริหารภาระค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ของรัฐบาลว่า...

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มุ่งบริหารประเทศด้วยการกู้เงินมาใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเพียงเท่านั้นหรือ หากมีการอนุมัติการกู้เงินในครั้งนี้จริง จะนับเป็นการอนุมัติกรอบวงเงินกู้ของ กฟผ.ในปีนี้รวมสูงถึง 112,000 ล้านบาท เนื่องจากได้มีการอนุมัติไปก่อนหน้านี้แล้ว 25,000 ล้านบาทในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ในอดีตรัฐบาลต่างๆ ที่มีศักยภาพ จะใช้กลไกการกู้เงินนอกงบประมาณมาเพื่อการลงทุนขยายเศรษฐกิจ สร้างเงิน สร้างรายได้ให้กับประชาชนเท่านั้น เรียกว่า 'หนี้รวย' 

แต่ที่ผ่านมารัฐบาลพลเอกประยุทธ์พิสูจน์ให้เห็นว่า เป็นรัฐบาลที่ถนัดกู้มาแจก ขยันสร้างแต่ 'หนี้จน' เพื่อมาชดเชยความล้มเหลวในการบริหารงานของตนเองมากกว่า จึงขอตั้งคำถามไปยังรัฐบาลได้ตอบกับประชาชนว่า การอนุมัติการกู้ให้ กฟผ.ในครั้งนี้ มีความจำเป็นเร่งด่วนในตอนนี้จริงหรือไม่ และต้องกู้ไปเพื่อเหตุใดทั้งที่ยังไม่มีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ในตอนนี้ ใครจะได้ประโยชน์จากการกู้นี้ หรือเป็นเพียงพฤติการณ์ที่ทำตามความเคยชินไปแล้ว

'แม่ค้าหวย' โอด!! 'ลอตเตอรี่' ขายไม่ดี ลูกค้าเทไปซื้อออนไลน์ วอนกองสลาก!! ไม่อยากให้เพิ่มจำนวนขายออนไลน์อีก

(30 มิ.ย. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนซื้อลอตเตอรี่แบบใบหายไปเยอะมาก คนนิยมหันไปซื้อแบบออนไลน์ มากจนใจหาย แม่ค้าบ่นขายไม่ออกขายได้ในช่วงวันสุดท้ายก่อนหวยออกเท่านั้น เหลือเพียบไม่มีทางออกแม่ค้าวอนขอให้เราได้ขายบ้างไม่อยากให้กองสลากเพิ่มจำนวนขายออนไลน์แล้ว หมดทางหากินแล้วอาจจะเลิกขายคงอีกไม่กี่งวด ขาดทุนมาแล้ว 4-5 งวด

นางสุพิมล อ่อนน้อม แม่ค้าลอตเตอรี่ หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาเอื้ออารี เทศบาลเมืองเลย กล่าวว่า ตอนนี้ยอดขายมันหายไปเยอะมาก จากเมื่อก่อนที่เคยขาย 6,000- 7,000 ใบ ตอนนี้เหลือแค่ประมาณ 1,000 กว่าใบ ออกมาขายแต่เช้าวันหนึ่งได้ไม่กี่ใบ ใบสองใบเท่านั้นไม่เหมือนเมื่อก่อน 

'เหมือนเป็นการฆ่าคนขายลอตเตอรี่แบบใบ ในช่วงระยะสั้นนี้อาจจะโอเคไปช่วงหนึ่ง แต่ชื่อในช่วงระยะยาวอาจจะแย่มาก ๆ สำหรับคนขายลอตเตอรี่แบบใบ ส่วนหนึ่งประชาชนไม่มีเงินซื้อเพราะเศรษฐกิจไม่ดี แต่เมื่อมีการขายออนไลน์ประชาชนก็ไม่ต้องออกจากบ้าน เค้าก็เลยซื้อออนไลน์สะดวกกว่า ใจเราก็อยากขายออนไลน์แต่เนื่องจากเราโดนยึดโควต้าไป เนื่องจากหยุดขายงวดเดียวเพราะไม่สบายเจ็บป่วย เลยขายไปให้กับคนอื่นต่อ ที่คาดว่าจะเอาไปขายต่อไปเดินขายแต่เค้ากลับเอาไปขายให้กับทางแพลตฟอร์มออนไลน์ก่อน จากนี้ที่มีปัญหาเลยทำให้โดนยึดสลากไป หมดตัวมีจดหมายมาก็ไม่สามารถที่จะมีโคต้าได้จึงมีการส่งจดหมายไปขออุทธรณ์ แต่ไม่ทราบผลว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้จากคนขายจริงมีโควต้า แต่โดนยึดโคต้า เลยขายไม่ออกเป็นคนที่ลำบากเอง ก็อยากจะเรียกร้องว่า ในส่วนของโควต้าคนที่ขายจริง ที่อาจจะเดือดร้อนในเหตุการณ์นี้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร'

ออกหลักสูตรใหม่ ๆ 'อัปเกรด' ความรู้ให้ทันโลก ไม่จบที่ 4 ปีปริญญา แต่ต้องให้เป็นลูกค้าไปตลอดชีวิต

‘ดร.สมเกียรติ’ ยกโมเดลมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ เป็นทางรอดมหาวิทยาลัยยุคใหม่ เปลี่ยนบทบาทจากสอนให้จบปริญญาตรี 4 ปี เป็นสถาบันอัปเกรดความรู้ให้คนทันสมัยทันโลกยุคใหม่ตลอดเวลา

ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Somkiat Osotsapa ว่า

บทบาท หน้าที่มหาวิทยาลัยที่เปลี่ยนไป
มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ เปลี่ยนโมเดลแล้ว ! ต่อไปลูกค้าของมหาวิทยาลัย จะไม่ใช่แค่เด็ก ๆ ที่มาเข้าเรียน 4 ปี แต่จะเป็นลูกค้าไปตลอดชีวิต

การปรับตัวของมหาวิทยาลัยเริ่มแล้วครับ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) ซึ่งเป็น มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของเอเชีย และอันดับต้น ๆ ของโลก ได้ปรับเปลี่ยนบทบาทให้ตัวเองเป็น "มหาวิทยาลัยตลอดชีวิต" ที่จะดูแลประชากร ไม่เพียงแต่ในระดับปริญญาตรี 4 ปี และโท-เอก แต่จะขอคอยดูแล คอย อัพเกรดทักษะ ความรู้ ให้ประชากรทันสมัยตลอดเวลา ... ทำให้ ลูกค้าของมหาวิทยาลัยจะขยายขนาดออกไปอีกมากโขเลยครับ

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยจะคอยออกหลักสูตรใหม่ ๆ เพื่อให้ เด็ก ๆ ที่จบไประยะหนึ่ง สามารถจะกลับมา "อัพเกรด" หรือ "ยกเครื่อง" ความรู้และทักษะได้อีกเรื่อย ๆ โดย มหาวิทยาลัย NUS ได้ออกโปรโมชั่น สำหรับศิษย์เก่า สามารถกลับเข้าไปเรียนเพิ่มทักษะได้ฟรี 2 โมดูล ภายใน 3 ปี ซึ่งก็จะทำให้ได้ลูกค้าใหม่ (ที่เป็นลูกค้าเก่า) กลับเข้าไปใช้บริการอยู่เรื่อย ๆ 

ซึ่งหากสะสมคอร์สให้เหมาะสม จนครบตามมาตรฐาน สามารถเปลี่ยนไปเป็นปริญญาได้ เช่น ปริญญาตรีใบใหม่ หรือ ปริญญาโทในสาขาต่างๆ อีกด้วย (ภายใต้มาตรฐานที่สูงของสิงคโปร์)

ขนาดสิงคโปร์มีมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของเอเชีย และเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของโลก แซงหน้าหลาย ๆ มหาวิทยาลัยที่ว่าดัง ๆ ในสหรัฐอเมริกา ... เขายังบอกว่า "ต้องรีบปรับตัว" !!

รัฐมนตรีศึกษาธิการ สิงคโปร์ ออกมาบอกว่า ในยุคแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่ หรือ ยุค Industry 4.0 การศึกษาแบบเดิม มหาวิทยาลัยแบบเดิม กำลังจะล้าสมัย จึงต้องรีบปรับตัวด่วน

โดยสิงคโปร์มีแผนการปฏิรูปมหาวิทยาลัย เน้นการสร้างผลกระทบต่อผู้เรียนมากกว่าเกรด ผลิตคนหลากหลายตามความต้องการของผู้เรียน และเป็นมหาวิทยาลัยสำหรับทุกช่วงวัยของชีวิต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top