Sunday, 29 June 2025
Hard News Team

'อรรถวิชช์' เซ็ง ฝ่ายค้าน ไม่เอ่ยถึง รมว.พลังงาน ในศึกอภิปรายฯ ทั้งที่น้ำมันแพง-ค่ากลั่นสูงเกินจริง

'อรรถวิชช์' ผิดหวังฝ่ายค้าน น้ำมันแพง ค่ากลั่นสูงเกินจริง แต่ไม่มีชื่อ 'รมว.พลังงาน' ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ วอนทุกฝ่าย อย่าทำให้ธุรกิจพลังงานเป็นแดนสนธยา 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า พร้อมด้วย โค้ชกานต์ นายกานต์ เพชรบูรณ์ คณะทำงานด้านกีฬา พรรคกล้า เปิดงานแข่งขันเปตอง K-Sport Mini Open เพื่อหาทุนสนับสนุนนักกีฬาเปตองระดับเยาวชน โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมแข่งขันถึง 66 ทีม ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วที่มีจัดการแข่งขันฟุตซอล โดยกลุ่ม Kla Sport ของพรรคกล้า ใช้กีฬาสานสัมพันธ์ในพื้นที่ ผลักดันนโยบายพัฒนาเยาวชนสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ สร้างรายได้ 

'รัสเซีย-เมียนมา' ความสัมพันธ์แบบ 'มหามิตร' แม้เวลาเปลี่ยน 'เพื่อนหมี' ยังเคียงข้างเสมอ

หลังจากที่เกิดการรัฐประหารในเมียนมา ก็เริ่มมีชื่อหลายประเทศที่เข้ามาสนับสนุนรัฐบาลทหารของเมียนมา และประเทศหนึ่งที่ในอดีตแทบจะไม่มีใครพูดถึงเลย แต่แท้จริงมีความสัมพันธ์กับกองทัพเมียนมาอย่างแน่นแฟ้น นั่นก็คือ รัสเซีย

ความแน่นแฟ้นนี้สามารถย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่พม่ายังตกอยู่ใต้อาณานิคมของอังกฤษ และช่วงหนึ่งที่มีการลุกฮือขึ้นต่อต้านอังกฤษจากผู้นำที่ชื่อ 'นายพลอองซาน' จนถึงช่วงที่ได้รับเอกราชจากอังกกฤษนั้น นายพลอองซาน ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งพม่า ถึงกับถูกจารึกไว้ในงานเขียนของ โจเซฟ ซิลเวอร์สตีน ที่เขียนไว้ใน 'มรดกทางการเมืองของอองซาน' ว่า...

"นายพลอองซาน หนี้สินทางปัญญาต่อ โจเซฟ สตาลิน ผู้นำโซเวียต และผู้นำคอมมิวนิสต์คนอื่นๆ ได้ผลักดันให้เขาสามารถปลดแอกพม่าจากอังกฤษและนำพาพม่ามาเป็นประเทศสังคมนิยมในที่สุด ซึ่งในระหว่างการต่อสู้กับจักรวรรดิอังกฤษนั้น ทางโซเวียตให้ทั้งการสนับสนุนทางศีลธรรมและความช่วยเหลือทางการเงินแก่กลุ่มนักปฏิวัติชาวพม่าที่กำลังต่อสู้กับการล่าอาณานิคมของอังกฤษด้วย"

แม้ภายหลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลาย รัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ก็ยังดำเนินนโยบายกับทางเมียนมา ว่าไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศและยังยับยั้งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อช่วยเมียนมาอีกด้วย

ความสัมพันธ์ระหว่างเมียนมา กับรัสเซียยิ่งแนบแน่นมากขึ้นเมื่อรัสเซียได้มีส่วนร่วมในโครงการพลังงานนิวเคลียร์ของประเทศ และได้กลายเป็นซัพพลายเออร์ด้านการป้องกันรายใหญ่ให้แก่กองทัพเมียนมา 

'หมอโต' อุทิศร่างเป็น 'อาจารย์หมอ' หลังเสียชีวิตจากเหตุการณ์ช่วย นทท. จมน้ำ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ร่วมอาลัย 'หมอโต' ทำหน้าที่ช่วยชีวิตผู้อื่นจนนาทีสุดท้าย เสียชีวิตขณะลงไปช่วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจมน้ำที่หาดกะตะ จ.ภูเก็ต จนเสียชีวิตทั้งคู่ อุทิศร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ คณะแพทยศาสตร์ มช. เพื่อน ร่วมงาน ระบุเป็นคนดี

จากกรณี นายแพทย์สุรสิทธิ์ พงษ์เลาหพันธุ์ หรือหมอโต อายุ 55 ปี นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลลำปาง ได้ลงไปช่วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่กำลังจะจมน้ำทะเลที่หาดกะตะน้อย ต.กะรน จ.ภูเก็ต ขณะเดินทางไปเที่ยวกับครอบครัว

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน คือนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ และนายแพทย์สุรสิทธิ์ พงษ์เลาหพันธุ์ ความกล้าหาญของคุณหมอได้รับการยกย่อง และไว้อาลัยแก่การจากไปของคุณหมอ ในโลกออนไลน์เป็นวงกว้าง

ฮ.แม่ทัพภาค 4 ตก!! รอดหมดทั้ง 7 คน หลังลงฉุกเฉินกลางสวนยางพารา

(15 ก.ค. 65) เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์กของกองทัพภาคที่ 4 ร่อนลงจอดฉุกเฉินกลางสวนยางพาราของชาวบ้านหมู่ที่ 1 บ้านคลองยน ตำบลวังใหญ่ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ซึ่งมี พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) อยู่ภายในเครื่องรวม 7 นาย และในขณะเกิดเหตุได้มีชาวบ้านในละแวกดังกล่าวที่เห็นเหตุการณ์ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ และเข้าไปช่วยเหลือทหารที่อยู่ในเครื่องออกมาร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยที่อยู่ใกล้เคียง 

หลังเกิดเหตุกำลังเข้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้ง ฉก.สงขลา ตชด.43 รวมทั้งตำรวจ สภ.เทพา และฝ่ายปกครองอำเภอเทพา ได้เข้าตรึงกำลัง และเคลียร์พื้นที่ เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งเร่งดำเนินการช่วยเหลือทหารที่อยู่บนเครื่องทั้งหมดออกมาได้อย่างปลอดภัย เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งมีทั้งหมด 7 นาย ยังคงรู้สึกตัวดี ประกอบด้วย แม่ทัพภาคที่ 4, ช่างเครื่อง 2 นาย, นักบิน 2 นาย, ทส. 1 นาย และช่างภาพ 1 นาย 

โดยล่าสุดแม่ทัพภาคที่ 4 ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา บาดเจ็บกระดูกสะโพกขวาหัก และมีเลือดออกภายใน ส่วนทหารอีก 6 นาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเทพา และอยู่ในระหว่างการยืนยันอาการ ประกอบด้วย พ.ต.ประสาร ด้วงชาญ, ร.อ.วิสารท์ ชูสังกิจู, ร.ท.ณัท โสหากาค์, จ.ส.อ.พพิทณุ พันเต, จ.ส.อ.ธีรพงษ์ คูหาแก้ว และ ส.ท.พีระวิทย์  โอสถเจริญ 

จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์ก ลำดังกล่าว ได้นำ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ทหาร รวม 7 นาย เดินทางออกจากค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปยังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยขึ้นบินราว 08.45 น. ที่ผ่านมา และคาดว่า ในระหว่างเดินทางถึงพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา เครื่องยนต์อาจจะเกิดขัดข้อง และทางนักบินได้พยายามนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน แต่ในระหว่างที่ลดระดับลง เครื่องได้ไปเกี่ยวกับยอดต้นยางพารา และเสียการทรงตัว แต่โชคดีที่แม่ทัพภาคที่ 4 และทหารภายในเครื่องทั้งหมดแค่ได้รับบาดเจ็บ

โดยจากนี้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบในส่วนของเฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์ก และทำการเก็บกู้ตามขั้นตอนต่อไป อาจจะในช่วง 1-2 วันนี้

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องรางของขลังที่ท่านแม่ทัพภาค 4 นำพาติดตัวประจำก็คือ หลวงพ่อทวด ขณะที่ส่วนองค์ประธาน คือ พระกริ่งปวเรศ รุ่น 2 ปี 2530 วัดบวรนิเวศน์วิหาร

‘ปชป.’ ยันทำงานในฐานะพรรคร่วมตามภาระหน้าที่ ไม่เหมือนเห็บเหาที่สูบเลือดประเทศหมดแล้วโดดหนี

โฆษก ปชป. แย้ง ‘ธรรมนัส’ อย่าเหมารวมพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อมลำปาง เพราะรัฐบาลเสียงตก ชี้ต้องมองให้หลายมิติ พร้อมซัดกลับ ‘สุทิน’ เห็บเหาที่สูบเลือดประเทศหมดแล้วโดดหนีก็มี

(15 ก.ค. 65) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ออกมาระบุ ที่พรรคเศรษฐกิจไทย แพ้การเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง เพราะประชาชนภาคเหนือตอนบนไม่เอารัฐบาลว่าเป็นการวิเคราะห์การเมืองในแนวของ ร.อ.ธรรมนัส ที่อาจจะเหมารวมผลการเลือกตั้งว่าพี่น้องประชาชนในภาคเหนือไม่เอารัฐบาล ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วมีหลายมิติที่ควรจะพูดถึงให้รอบด้าน แต่หากการวิเคราะห์ดังกล่าวเพียงเพื่อเป็นเหตุผลในการถอนตัวทิ้งรัฐบาลดูแล้วก็จะไม่เป็นธรรมต่อรัฐบาล เชื่อว่านักการเมืองมืออาชีพมองสถานการณ์การเมืองออกในช่วงสถานการณ์ที่รัฐบาลต้องเดินหน้าทำงานให้กับประชาชน หากประเทศมีปัญหาใด ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องร่วมมือกันหาทางแก้ไขฟันฝ่าให้ผ่านพ้นไปด้วยกัน ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้น การร่วมรัฐบาลเราตระหนักในหน้าที่ที่เราต้องทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและส่วนรวมให้ได้มากที่สุดตามเงื่อนไขที่ได้มีข้อตกลงไว้เมื่อครั้งร่วมรัฐบาล ไม่ได้มีความคิดจะไปแก่งแย่งหรือแทงข้างหลังใครเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์ส่วนตน

นายราเมศ กล่าวต่อว่า สำหรับอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยืนยันมาตลอดว่าเป็นกระบวนการตรวจสอบตามระบบประชาธิปไตย ซึ่งมีการเปิดอภิปรายกันทุกปี ไม่มีความกังวลใจใดๆ พร้อมชี้แจงทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา และถ้าหากรัฐมนตรีของพรรคมีการทุจริต ก็ยินดีให้มีการตรวจสอบอย่างเต็มที่ เชื่อว่านายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีก็พร้อมที่จะชี้แจง ในส่วนของพรรค ทั้งในบทบาทฝ่ายบริหารที่ได้ร่วมรัฐบาลรัฐมนตรีของพรรคก็จะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ส.ส.ทุกคนก็เช่นกันที่จะเป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องประชาชนทำงานเพื่อส่วนรวมให้เต็มที่

ปมทางจิตที่ผู้เป็นแม่สร้างไว้ให้ลูก ความเก็บกดที่พาลไปลงกับอาเบะ

เปิดปมฆ่า 'อดีตนายกฯ อาเบะ' ลุงของมือปืนเผย!! แม่มือปืนเอาเงินไปทุ่มให้โบสถ์เอกภาพทั้งหมดกว่า 100 ล้านเยน หรือ 26 ล้านบาท จนลูกไม่มีเงินเรียนต่อมหาวิทยาลัย ตกงาน ครอบครัวล้มละลาย พี่ชายฆ่าตัวตาย จึงเลือกโทษและระบายความโกรธแค้นมาที่ ‘อาเบะ’ แทน

(15 ก.ค. 65) ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง ‘ครอบครัวที่ล่มสลาย หัวใจที่พังทลายของฆาตกรที่สังหารอดีตนายกฯ อาเบะ’ โดยมีเนื้อหาดังนี้…

ปมทางจิตที่แม่สร้างไว้ให้ลูก++

ประวัติความล่มสลายของครอบครัวคนร้าย นายเท็ตสึยะ ยามากามิ (อายุ 41 ปี) ที่ฆ่าอดีตนายกฯ อาเบะ เพราะมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มลัทธิที่ตัวเขาชิงชัง

ความจริงในวัยเยาว์ เขาเป็นเด็กที่เพียบพร้อม บ้านมีฐานะ เรียนก็เก่ง เล่นกีฬาก็ดี 

แต่แล้วชีวิตต้องมาพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อมารดาเขาคลั่งลัทธินิกายใหม่

เท็ตสึยะเกิดในครอบครัวที่มีฐานะ มีพี่ชาย 1 คน น้องสาว 1 คน

>> เพื่อนโรงเรียนประถมและมัธยมต้น เล่าให้ฟังว่า…

เท็ตสึยะเรียนเก่ง กีฬาก็เยี่ยม ใจดี นิสัยดี ไม่มีที่ติเลย ครูประจำห้องมักชมเท็ตสึยะเสมอๆ

>> เพื่อนร่วมชมรมบาสเก็ตบอลเล่าให้ฟังว่า…
เท็ตสึยะหัวดีมากๆ เป็นคนขยัน ไม่แสดงทีท่าว่าชอบหรือไม่ชอบอะไรเป็นพิเศษ เขาเก่งกว่าคนอื่นในทุกๆ ด้าน ทั้งกีฬาและการเรียน แต่เขาเป็นคนที่พูดน้อย สงบเงียบๆ สอนการบ้านเพื่อนประจำ ไม่เคยมีศัตรู และไม่มีพิษภัยกับใคร

ผมยังไม่เชื่อเลยว่าฆาตกรเป็นเพื่อนตัวเอง เคยเห็นเค้าสอนการบ้านเพื่อน แต่ไม่ค่อยเห็นเค้าคบเพื่อนคนไหนเป็นพิเศษ

>> คนที่รู้จักเท็ตสึยะช่วงมัธยมปลาย เล่าว่า...
เท็ตสึยะอยู่ชมรมเชียร์ ได้ไปเชียร์การแข่งขันเบสบอลที่สนามโคชิเอ็งด้วย

>> เพื่อนอีกคนเล่าว่า...
เท็ตสึยะชอบอยู่คนเดียว ไม่สุงสิงกับใคร เวลาพักกลางวันหรือพักกินข้าวก็ไปคนเดียวตลอด

>> ด้านผู้มีศักดิ์เป็นลุง (พี่ชายของพ่อเท็ตสึยะ) เล่าให้ฟังอย่างละเอียดว่า...
พ่อเท็ตสึยะฆ่าตัวตาย ตั้งแต่เท็ตสึยะอายุได้ 4 ขวบ ตอนนั้นแม่เท็ตสึยะกำลังท้องน้องสาวเท็ตสึยะได้ 8 เดือน
ลูกชายคนโตเป็นมะเร็งตั้งแต่เล็ก หลังจากผ่าตัด สูญเสียการมองเห็นไปข้างนึง

ผมให้เงินช่วยเหลือเดือนละ 5 หมื่นเยนมาตลอด

หลังจากพ่อเท็ตสึยะเสียได้สักพัก แม่เท็ตสึยะก็เข้ากับกลุ่มลัทธิโบสถ์เอกภาพ หลายครั้งที่ปล่อยให้ลูกๆ อยู่ลำพัง ส่วนตัวเองบินไปสาขาแม่ที่เกาหลี พี่ชายเท็ตสึยะต้องโทรมาขอเงินไปซื้อข้าวกิน

ผมพบบันทึกของภรรยาผม ที่โน้ตไว้ว่าเงินที่ช่วยเหลือครอบครัวเท็ตสึยะ ถูกถ่ายโอนไปที่โบสถ์เอกภาพมาตลอด 9 ปี รวมๆ แล้ว หลายล้านเยน

นั่นทำให้ผมรู้ว่าน้องสะใภ้ได้เข้าไปในกลุ่มลัทธินี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว

หลังจากที่น้องชายผมเสียชีวิต แม่เท็ตสึยะได้โอนเงินค่าสินไหมจากการเสียชีวิต เป็นจำนวนเงิน 50 ล้านเยน (13 ล้านบาท) ให้กับโบสถ์เอกภาพ

นอกจากนี้ ยังมีค่าปลอบวิญญาณผู้ล่วงลับอีก เกือบ 3 ล้านเยน (8 แสนบาท) 

>> โบสถ์เอกภาพคงเป็นทางออกจากความทุกข์ทางเดียวสำหรับแม่เท็ตสึยะ

เดือนสิงหาคม ปี 1998 แม่เท็ตสึยะขายที่ดินที่ตาให้ไว้ ตั้งแต่นั้นมาความสัมพันธ์พ่อลูกก็สั่นคลอน และสองเดือนให้หลัง ตาก็จากไป

แม่เท็ตสึยะได้เป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้างต่อจากตา

เดือนมีนาคม ปี 1999 แม่เท็ตสึยะขายบ้านและอาคารอื่นๆ ที่เป็นสมบัติของตา โดยโอนเงินทั้งหมดให้โบสถ์เอกภาพ

ลุงเท็ตสึยะลำบากใจมาก แต่ก็ต้องตัดใจเลิกให้เงินช่วยเหลืออีก เพราะรู้ว่าเงินที่ให้แม่เท็ตสึยะ นางจะเอาไปทุ่มให้โบสถ์เอกภาพทั้งหมด

เท่าที่ลุงเท็ตสึยะรู้ แม่เท็ตสึยะได้บริจาคให้กับโบสถ์เอกภาพไปมากกว่า 100 ล้านเยน (26 ล้านบาท)

หลังจากเท็ตสึยะจบมัธยมปลาย เขาไม่มีเงินเรียนต่อ ลุงเท็ตสึยะให้ความช่วยเหลือ แต่เท็ตสึยะตัดสินใจเลิกเรียนมหาวิทยาลัยกลางคัน

เท็ตสึยะสมัครเข้าเป็นทหารในกองกำลังป้องกันตนเอง ระยะเวลา 3 ปี ระหว่างนั้น เขามีเรื่องกับคนในกองทัพ เจ้าตัวถึงกับจะฆ่าตัวตายด้วยการกรอกน้ำมันเบนซินผสมเหล้า แต่แล้วเขากลับเรียกรถพยาบาลมาเอง เขาก็เลยไม่ตาย

ก้าวไกลขับ ‘อานุภาพ’ พ้นสมาชิกพรรค พร้อมขอให้เจ้าตัวลาออกจาก ส.ก. ด้วย

พรรคก้าวไกลมีความเห็นให้ ส.ก. เขตสาทร พิจารณาตนเองลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง

จากกรณีที่นายอานุภาพ ธารทอง ส.ก. เขตสาทร พรรคก้าวไกล ถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานอนาจารเมื่อวันที่ (12 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา พรรคได้มอบหมายคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณพรรคให้สอบสวนข้อเท็จจริงโดยด่วนที่สุด โดยได้มีการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง และในวันนี้ (15 กรกฎาคม 2565) คณะกรรมการวินัยฯ ได้เรียกนายอานุภาพมาสอบข้อเท็จจริง ซึ่งนายอานุภาพได้ยอมรับว่าตนมีพฤติการณ์ผิดต่อจริยธรรมพรรคและสร้างความเสื่อมเสียให้แก่พรรคอย่างร้ายแรง คณะกรรมการวินัยฯ จึงมีความเห็นให้คณะกรรมการบริหารพรรคลงโทษขั้นสูงสุดคือการให้นายอานุภาพพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรค

อย่างไรก็ตาม นายอานุภาพได้แสดงความจำนงขอลาออกจากสมาชิกพรรคในวันเดียวกัน

แม้นายอานุภาพจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลแล้ว แต่ยังคงดำรงตำแหน่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครอยู่ เนื่องจากกรณีนี้เป็นความผิดร้ายแรงต่อจริยธรรมพรรค จริยธรรมสังคมอย่างมาก คณะกรรมการบริหารพรรคจึงมีความเห็นให้นายอานุภาพพิจารณาตัวเอง ลาออกจากตำแหน่ง ส.ก. เพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง

'ดร.นิว' จี้ 'ผู้ว่าฯ ชัชชาติ' หารือสภากทม. ลงมติขับ ส.ก. คุกคามทางเพศ พ้นตำแหน่ง

'ดร.นิว' จี้ 'ชัชชาติ' ฟัน ส.ก.พรรคก้าวไกลที่มีพฤติกรรมล่อลวงและคุกคามทางเพศเยาวชน ชี้ในฐานะเป็นหัวหน้าการปกครองส่วนท้องถิ่นจะนิ่งเฉยไม่ได้ ควรหารือกับสภา กทม. และให้มีมติ 2 ใน 3 ขับออกตามกฎหมาย

(15 ก.ค. 65) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า...

ท่าน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะนิ่งเฉยไม่ได้เด็ดขาด เมื่อสีดาไม่มาลุยไฟ ท่านชัชชาติต้องไปลุยมัน

ประชาชนชาวกรุงเทพมหานครคงได้แต่ฝากความหวังไว้กับท่านชัชชาติ ผู้เป็นหัวหน้าการปกครองส่วนท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร สืบเนื่องจากกรณีที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานครคนหนึ่งจากพรรคก้าวไกล มีพฤติกรรมล่อลวงและคุกคามทางเพศเยาวชนจนปรากฏเป็นเรื่องฉาวโฉ่ต่อสาธารณชน

'บัวขาว บัญชาเมฆ' ยิ่งใหญ่กลาง Times Square นักมวยไทยคนแรกขึ้นไลฟ์บิลบอร์ดกลางนิวยอร์ก

เพจ Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) โพสต์ข้อความ มวยไทยในไทม์สแควร์ ระบุว่า...

Times Square, New York, MuayThai, Soft Power 

กระหึ่มกลาง Times Square ; บัวขาวจะกลับมาเวทีราชดำเนินในรายการ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ ประเดิม 19 สิงหาคมนี้

กระหึ่มไทม์สแควร์ นักมวยไทยคนแรกที่ได้ขึ้นไลฟ์บิลบอร์ดในย่านธุรกิจสำคัญที่สุดของโลกกลางมหานครนิวยอร์ก...มีนักกีฬาสักกี่คนที่จะได้ขึ้นบิล บอร์ดในไทม์สแควร์ แต่ "บัวขาว" นักมวยไทยขวัญใจคนทั่วโลกทำได้ โดยเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา ภาพการออกอาวุธหนัก ๆ ตามแบบฉบับมวยไทย ของบัวขาว บัญชาเมฆ สะกดทุกสายตาของคนในย่านธุรกิจสำคัญที่สุดของโลก "ไทม์สแควร์" พร้อมข้อความประกาศก้องว่าบัวขาวกำลังจะกลับมาสร้างความเกรียงไกรอีกครั้งบนผืนผ้าใบของเวทีมวยไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก นั่นคือเวทีราชดำเนินซึ่งบัวขาวไม่ได้กลับมานาน โดยครั้งนี้กลับมาในรายการ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ ที่พึ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน กับกฎกติกาที่เรียกได้ว่าจะมาปฏิวัติรายการมวยไทย แว่วว่าไฟต์แรกของบัวขาวกับราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ จะประเดิมกันวันที่ 19 สิงหาคม ซึ่งการกลับมาครั้งนี้กับการเปิดตัวแบบนี้ น่าจะเป็นการกลับมาที่ไม่ธรรมดาแน่นอน จะเจอใคร จะมาทำอะไร คงต้องจับตารอกับการประกาศครั้งต่อไปอย่างใจจดใจจ่อกันเลย

'กอบศักดิ์' เผยราคาน้ำมันโลกลดมาอยู่ช่วงก่อนเกิดสงคราม คาดจะช่วย 'เฟด' บริหารจัดการเงินเฟ้อได้ง่ายขึ้น

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกล่าสุด โดยระบุว่า 

ภาพประวัติศาสตร์

เริ่มกลับไปที่เดิม !!!!  ข่าวดี  !!!!

หลังราคาน้ำมันโลกได้พุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ไปอยู่ที่ 130-140 ดอลลาร์/บาเรล

ทำให้หลาย ๆ คนกังวลใจว่าจะเกิดปัญหา Stagflation นั้น

มาถึงวันนี้ ราคาน้ำมันโลกได้ลดลง กลับมาที่จุดเริ่มต้นก่อนเกิดสงครามอีกครั้ง 

ราคาน้ำมัน Brent ต่ำสุดวันนี้ที่ 94.5 ดอลลาร์/บาเรล 

ราคาน้ำมัน WTI ต่ำสุดวันนี้ที่ 90.56 ดอลลาร์/บาเรล

ต่ำกว่าระดับจุดเริ่มต้น !!! 

ก่อนปรับตัวขึ้น 

สะท้อนว่า ราคาน้ำมันโลกขึ้นได้ ก็ลงได้เช่นกัน

และหมายความต่อไปว่า สิ่งที่ทุกคนกังวลใจ "ราคาน้ำมันโลกจะเป็นปัจจัยกดดันให้เงินเฟ้อโลกพุ่งไปเรื่อย ๆ" ตอนนี้ได้คลี่คลายไปบ้างแล้ว

ภาวะความไม่สมดุลระหว่าง Supply และ Demand ในตลาดน้ำมันโลก เริ่มดีขึ้น 

ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก การที่น้ำมันของรัสเซียซึ่งถูก Sanctions จากสหรัฐและพันธมิตร ได้ถูกส่งไปประเทศอื่น ๆ แทนได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจีน อินเดีย และตะวันออกกลาง ทำให้ปริมาณน้ำมันส่งออกในโลกกลับเป็นปกติมากขึ้น และจากความกังวลใจว่าจะเกิด Global Recession ในอนาคต ซึ่งจะช่วยลดความต้องการใช้น้ำมันลง

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะราคาน้ำมันโลกเป็นต้นตอหลักของเงินเฟ้อในประเทศต่างๆ ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา 

ถ้าราคาน้ำมันปรับตัวดีขึ้น การ Peak ของเงินเฟ้อก็จะตามมาในช่วงต่อไป

มาลุ้นกันนะครับว่า ราคาน้ำมันโลกในครึ่งหลังของปี จะปรับขึ้นไปสูงเหมือนช่วงแรกของสงครามอีกรอบ ได้หรือไม่ 

หากราคาน้ำมันโลกไม่ขึ้นสูงไปเช่นเดิม ยังวิ่งอยู่ที่ประมาณ 100 ดอลลาร์/บาเรล แรงกดดันต่อเงินเฟ้อในประเทศต่าง ๆ ในครึ่งหลังของปีก็จะค่อย ๆ ลดลง 

สงครามของเฟดกับเงินเฟ้อก็จะบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น

ซึ่งในเรื่องนี้ หากไม่มีอะไรพลิกผันจนเกินไป คงต้องบอกว่า 

สถานการณ์ตลาดน้ำมันโลกในช่วงครึ่งหลังของปี จะต่างจากช่วงครึ่งแรก 

ที่เป็นเช่นนี้เพราะ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top