Saturday, 5 July 2025
Hard News Team

‘นิพนธ์’ รุดติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา กำชับจัดการแก้ปัญหาทั้งน้ำท่วมฤดูฝน - มีน้ำใช้ฤดูแล้ง

‘นิพนธ์’ รุดติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา กำชับ การบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม-มีน้ำใช้ฤดูแล้ง พร้อม มอบถุงยังชีพ ให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอบางบาล จ.อยุธยา

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ที่ห้องประชุมสำนักงานชลประทานที่ 12  อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดชัยนาท เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ จังหวัดชัยนาท ปี 2565 โดยมี นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท หัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอ ร่วมให้การต้อนรับ

โดยนายนิพนธ์  ได้มอบนโยบายสำคัญหลังการรับทราบสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำจังหวัดชัยนาท ปี 2565  ดังนี้ 1. ขอให้มีการบริหารจัดการน้ำให้เหลือน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง  2. การบริหารจัดการกรณีน้ำท่วมให้คำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตประชาชนเป็นสำคัญ 3. ให้มีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ เตรียมความพร้อมกำลังพล เครื่องจักร และดูแลผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง 4. กรณีเกิดสาธารณภัยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจและรายงานให้จังหวัดทราบ เพื่อดำเนินการของบกลางจากรัฐบาล 5. การเยียวยาช่วยเหลือต้องทำอย่างรวดเร็ว อย่าให้ล่าช้า โดยให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายให้ถูกต้อง ซึ่งมีงบประมาณรองรับอยู่แล้ว และ 6. ประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางการสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง

จากนั้น รมช.มหาดไทย ได้ตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา โดยให้บริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝนที่ตกทางตอนบนอย่างเต็มศักยภาพ และหากมีแนวโน้มปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก จะมีการแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานราชการเพื่อให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

รอง ผบ.ตร. สั่งตรวจสอบเหตุรถขนแรงงานพม่า 32 คน พลิกคว่ำ พบอาจเกี่ยวโยงกับกระบวนการขนแรงงานข้ามชาติ

วันนี้ (18 ส.ค. 65) เวลา 10.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เปิดเผยกรณีเหตุรถบรรทุกกระบะขนแรงงานเมียนมาร์ 32 คน พลิกคว่ำที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บอีก 4 ราย เหตุเกิดบริเวรถนนเอเชีย 41 ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 17 ส.ค.65 ช่วงสาย ที่ผ่านมา 

ความคืบหน้าล่าสุดได้สั่งการให้ ผบช.ภ.8, ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และ ผบช.สตม. ลงไปตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ารถบรรทุกดังกล่าวได้ขนแรงงานชาวเมียนมาร์มาทั้งหมด 32 คน เป็นชาย 28 คน หญิง 4 คน มีนายนิวัฒน์ วัฒวรรร์ อายุ 29 ปี นั่งมาหน้ารถ กับคนไทยอีก 2 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี

สอบถามจาก นายนิวัฒน์ ฯ​ ยังให้การปฏิเสธ อ้างว่าตนแค่นั่งมาเป็นเพื่อนกับคนไทยอีก 2 คน ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับกับการขนแรงงานต่างด้าว และรถกระบะคันเกิดเหตุได้เช่ามาจากพรรคพวก ที่ จ.ราชบุรี แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากสอบถามแรงงานงานต่างด้าวที่นั่งมาท้ายรถ ยืนยันว่า นายนิวัฒน์ ฯ ทำหน้าที่ในการติดต่อประสานงานกับคนต่างด้าวทั้งหมดที่อยู่หลังรถ 

สำหรับชาวเมียนมาร์ ทั้งหมดให้การตรงกันว่า พวกตนติดต่อผ่านนายหน้าชาวเมียนมาร์ ให้ช่วยพาข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยตกลงกันว่าจะมีรถมารับช่วงต่อเพื่อส่งไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย โดยต้องจ่ายให้กับนายหน้าคนละ 15,000 บาท และเมื่อไปถึงปลายทางต้องจ่ายอีก 15,000 บาท รวมเป็น 30,000 บาท แต่มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน

จากการตรวจสอบคนต่างด้าวทั้ง 32 คน อยู่ในช่วงอายุประมาณ 20-32 ปี ไม่มีหนังสือเดินทาง (passport) แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากจะต้องทำการสอบสวนก่อนว่าเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์หรือไม่ โดยวันนี้ได้มีการเชิญสหวิชาชีพ อัยการจังหวัดทุ่งสง นายอำเภอจุฬาภรณ์ พม.จังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด  มาร่วมในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่ สภ.จุฬาภรณ์ เพื่อจะได้สืบสวนขยายผลในทางลึกถึงผู้ร่วมกระบวนการต่อไป

🔎ส่อง 8 กลยุทธ์เด็ด พัฒนาสินค้าใหม่ ให้โดนใจลูกค้า❤ ✨

🔎ส่อง 8 กลยุทธ์เด็ด พัฒนาสินค้าใหม่ ให้โดนใจลูกค้า❤ ✨

1.) ประโยชน์ใช้สอย
2.) ความสวยงาม
3.) คุณภาพของผลิตภัณฑ์
4.) ราคาขายและต้นทุนการผลิต
5.) ความปลอดภัยในการใช้งาน
6.) ความแข็งแรงทนทาน
7.) การบำรุงรักษา 
8.) การบริการ

ตร. เตือน มุกใหม่ SMS มิจฉาชีพ อ้างฉลองครบรอบ Central ให้แอดไลน์แจกเงิน

วันที่ 18 ส.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าหลังจากที่ได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้ทราบถึงมุกเด็ดของ SMS มิจฉาชีพทั้ง 5 แบบ ที่มิจฉาชีพมักจะใช้ในการหลอกลวงเหยื่อให้กดลิงก์หลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล หลอกเอาทรัพย์สินจากเหยื่อ หลอกให้กู้เงินนอกระบบ หรือหลอกให้เล่นพนันออนไลน์ นั้น

ปัจจุบัน พบว่ากลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวได้เปลี่ยนแผนประทุษกรรมในการหลอกลวงผ่าน SMS จากรูปแบบเดิม เปลี่ยนมาเป็นการส่งข้อความอ้างว่า เพื่อฉลองครบรอบ Central ทางบริษัทจะแจกเงินรางวัลให้กับทุกท่าน โดยให้แอดไลน์ผ่านลิงก์ที่แนบมากับข้อความ ซึ่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สอบถามไปยัง บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด หรือ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แล้ว ได้รับการยืนยันว่าบริษัทฯไม่ได้มีการจัดกิจกรรมแจกเงินรางวัลในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด โดยกรณีดังกล่าวหากเหยื่อหลงเชื่อแอดไลน์คนร้าย ก็อาจจะถูกคนร้ายหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลบัญชีธนาคาร ตลอดจนรหัสผ่านต่าง ๆ  นำไปใช้ทำให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูลได้

สถาบันพระปกเกล้า ระดมสมอง จัดระเบียบการค้าออนไลน์ มุ่งปกป้อง สร้างภูมิคุ้มกัน เยียวยาผู้บริโภค

วันที่ 17 สิงหาคม ที่ห้องประชุมสัตมรามาธิราช สถาบันพระปกเกล้า นายถนัด มานะพันธุ์นิยม เลขานุการ คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ และรองประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการคุ้มครองผู้บริโภค คนที่หนึ่ง กล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดระเบียบการค้าออนไลน์ :ความท้าทายในยุค Digital โดยกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ร่วมกับ สถาบันพระปกเกล้า

ภายในกิจกรรม ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับฟังการบรรยาย เรื่อง การจัดระเบียบการค้าออนไลน์ : ความท้าทายในยุค Digital โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยะบุตร บุญอร่ามเรือง อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พร้อมทั้งผู้เข้าร่วมการประชุม ได้ระดมความคิดเห็นเชิงปฏิบัติการ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ระดมความเห็นใน 3 ประเด็นสำคัญ

1. การเสริมสร้างกลไก มาตรการ และแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการค้าจดทะเบียนพาณิชย์

2. แนวทางการบูรณาการความร่วมมือเพื่อปกป้องคุ้มครอง และเยียวยาช่วยเหลือผู้บริโภคจากการซื้อสินค้าออนไลน์

และ3. การสร้างการรับรู้ ความเชื่อมั่นและเสริมภูมิคุ้มกันให้ประชาชนเกี่ยวกับการค้าออนไลน์

'อัษฎางค์ ' ฉะ 'ชัชชาติ' แก้น้ำท่วมแบบนี้ก็ได้เหรอ ไหนว่าศึกษามาถึง 2 ปีก่อนเลือกตั้ง

(18 ส.ค. 2565) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค" ว่า “ความสามารถพิเศษในแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่ถูกนำมาใช้แก้ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ของท่านผู้ว่าฯชัชชาติ

ท่านผู้ว่าฯ : น้ำท่วมทุกปีมั้ย
ชาวบ้าน : ปี 54 กับปีนี้ครับ

ปี 54 คือปีที่ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ และท่านผู้ว่าฯชัชชาติเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ปีนี้ 65 ท่านชัชชาติเป็นผู้ว่าฯ กทม.

สถิตินี้ไม่ได้บ่งบอกว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์และตัวท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติดวงซวย ที่มาบริหารราชการในปีที่มีน้ำเยอะ แต่สถิตินี้บ่งบอกว่า ท่านมีความพร้อมและมีความสามารถในการจัดการกับปัญหาเรื่องน้ำมากน้อยแค่ไหน

ชาวบ้านอีกคนถาม: ทำไมคราวนี้ ฝนตกแค่ 2 ชั่วโมง น้ำก็ท่วมแล้ว
ท่านผู้ว่าฯ : เป็นเพราะภาวะโลกร้อน

ภาวะโลกร้อนคืออะไร ? ภาวะโลกร้อน (Global warming) หมายถึงการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศใกล้พื้นผิวโลกและน้ำในมหาสมุทรตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20 และมีการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภาวะโลกร้อน ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เริ่มมีการเฝ้าสังเกตมานับ 100 ปีแล้ว และเริ่มต้นศึกษาอย่างจริงจังโดยการสังเกตการณ์การเพิ่มอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ประมาณตั้งแต่ พ.ศ. 2490) ซึ่งผลจากการศึกษาพบว่าเกิดจากการ “เพิ่มความเข้มของแก๊สเรือนกระจก” ที่เกิดขึ้นโดยกิจกรรมของมนุษย์ที่เป็นผลในรูปของปรากฏการณ์เรือนกระจก

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มีหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ การเปลี่ยนแปลงของหยาดน้ำฟ้าทั้งปริมาณและรูปแบบอาจทำให้เกิดน้ำท่วมและความแห้งแล้ง นอกจากนี้ยังเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งความถี่และความรุนแรงของลมฟ้าอากาศสุดโต่ง

แผนตะวันตกโดดเดี่ยว 'รัสเซีย' ใน UN เริ่มกร่อย หลายชาติถอดใจไม่อยากเป็นศัตรูกับรัสเซีย

นับวันความพยายามของตะวันตกในการโดดเดี่ยวรัสเซียในยูเอ็นก็อยู่ในอาการกร่อยลงเรื่อย ๆ หลายประเทศกำลังตั้งคำถามว่า การร่วมมือต่อต้านรัสเซียเป็นการกระทำที่ฉลาดจริงหรือ รวมทั้งยังสงสัยว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีสาระสำคัญอย่างแท้จริงถึงขั้นที่ต้องให้การสนับสนุนแบบไม่มีที่สิ้นสุด โดยที่ตะวันตกจัดหาอาวุธให้เคียฟ ขณะที่ไม่มีการเจรจาอย่างสันติที่แท้จริงเพื่อยุติความขัดแย้งกระนั้นหรือ

รอยเตอร์รายงานว่า คืนหนึ่งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ภายใต้โคมระย้าของรัสเซียในที่ประชุมสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในนิวยอร์ก เอกอัครราชทูตนับสิบคนจากแอฟริกา ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา และเอเชีย ร่วมงานสังสรรค์เนื่องในโอกาสวันชาติของรัสเซีย ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากกองทัพแดนหมีขาวบุกยูเครนไม่ถึง 4 เดือน

วาสสิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวขอบคุณทูตเหล่านั้นสำหรับการสนับสนุนและจุดยืนในการคัดค้านสงครามที่มุ่งต่อต้านรัสเซีย หลังจากกล่าวหาหลายประเทศโดยไม่เอ่ยชื่อว่าพยายาม 'ล้มล้าง' รัสเซียและวัฒนธรรมรัสเซีย

การไปร่วมงานเลี้ยงคราวนี้ของเอกอัครราชทูตเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นความยากลำบากที่พวกนักการทูตตะวันตกต้องเผชิญ ในการพยายามธำรงรักษามาตรการแข็งกร้าวของนานาชาติมุ่งโดดเดี่ยวรัสเซียเอาไว้ หลังจากที่ระยะแรก ๆ สามารถผลักดันยูเอ็นออกมาประณามการรุกรานยูเครนได้หลายครั้ง

ขณะที่รับรู้ถึงความสับสนและความกังวลของบางชาติที่ว่า สงครามยูเครนเรียกร้องต้องการความสนใจของทั่วโลกมากเกินไป เป็นระยะเวลาเกือบ 6 เดือนแล้ว โดยยังไม่มีแนวโน้มว่ายูเอ็นจะทำอะไรได้นั้น พวกนักการทูตตะวันตกก็ยอมรับว่า นอกเหนือจากการพยายยามเรียกประชุมนานาชาติแล้ว วิธีการอื่น ๆ ซึ่งสามารถพุ่งเป้าจัดการกับรัสเซียก็ดูจำกัดเหลือเกิน

ริชาร์ด โกแวน ผู้อำนวยการฝ่ายยูเอ็นของกลุ่มคลังสมอง อินเตอร์เนชันแนล ไครซิส กรุ๊ป เป็นผู้หนึ่งซึ่งยอมรับว่า การหาวิธีที่มีความหมายในการลงโทษรัสเซีย กำลังทำได้ยากขึ้นทุกที ขณะที่สงครามยังคงยืดเยื้อต่อไป

พวกนักการทูตและผู้สังเกตการณ์หลายคนสำทับว่า ในบางกรณีชาติตะวันตกต้องหลีกเลี่ยงการดำเนินการเฉพาะเจาะจงบางอย่าง เนื่องจากกลัวว่า จะได้รับการตอบรับอย่างเฉยชา ขณะที่มีประเทศมากขึ้นงดออกเสียงในการลงมติซึ่งส่งสัญญาณถึงความไม่ยินดีต่อต้านมอสโกอย่างเปิดเผย

เมื่อเดือนมิถุนายน สหภาพยุโรป (อียู) ต้องพิจารณาทบทวนแผนการที่จะให้แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญยูเอ็นทำหน้าที่ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในรัสเซีย และสุดท้ายก็ตัดสินใจระงับเพราะกลัวว่า สมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนเกือบครึ่งจากทั้งหมด 47 ชาติอาจคัดค้าน

โอลาฟ วินต์เซค ผู้อำนวยการมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ของเยอรมนีประจำเจนีวา ชี้ว่า หลายประเทศกำลังตั้งคำถามว่า การร่วมมือกันต่อต้านรัสเซียเป็นการกระทำที่ฉลาดจริงหรือ

ด้านนักการทูตรัสเซียประจำยูเอ็นในเจนีวา สำทับว่า ประเทศตะวันตกรู้ดีว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะโดดเดี่ยวรัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในมหาอำนาจโลก

'เพื่อไทย' ซัด!! งบกลาโหม 8.5 หมื่นล้านบาท ประเคนกองทัพซื้ออาวุธ แบบไม่เห็นหัวประชาชน

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ส.ส. พรรคเพื่อไทย ระดมพลอภิปรายขอให้สภาผู้แทนราษฎรปรับลดงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคงในส่วนของหน่วยงานภายใต้กำกับของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมีแนวโน้มในการคุกคามและแทรกแซงประชาชน รวมไปถึงขอให้ปรับลดงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหม ที่ยังคงมุ่งหน้าในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมหาศาล ซึ่งขัดแย้งกับสถานการณ์ประเทศที่กำลังวิกฤต ประชาชนต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้องอย่างหนักในขณะนี้

[+พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย]

ในมาตราที่ 7 ซึ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายของสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานในกำกับ จะต้องปรับลดลง เนื่องจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีหน่วยงานในกำกับอยู่ถึง 27 หน่วยงาน มีงบประมาณรวมถึง 2.2 หมื่นล้านบาท รวมกับงบกลางเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินจำเป็น สำรองจ่ายได้อีก 9.2 หมื่นล้านบาท เป็น 1.1 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังรวมถึงหน่วยงานของ กอ.รมน. ที่เข้าไปล้วงลูกสั่งการหน่วยราชการในอีก 77 จังหวัดอีกด้วย ซึ่งใน 27 หน่วยงานนี้ก็มีบางหน่วยงานที่น่าจะตัดงบประมาณทั้งหมด เช่น สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์กรมหาชน) เพราะทุกวันนี้ประชาชนก็ถูกหน่วยงานเหล่านี้คุกคามทางไซเบอร์อยู่ ยังไม่นับที่หน่วยราชการต่าง ๆ ที่ถูกล้วงลูกแทรกแซงอีก

[+ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม] 

ในงบประมาณ มาตรา 8 ในส่วนของกระทรวงกลาโหม ได้รับงบประมาณทั้งสิ้น 8.5 หมื่นล้านบาท โดยได้ระบุว่ามีความจำเป็นต้องปรับลด 10% ที่ได้ไปนำไปจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน แต่ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจขนาดนี้ไม่สอดคล้องกับการซื้อเรือดำน้ำที่ไม่มีเครื่องยนต์ นอกจากนี้เครื่องยนต์ที่ทางการจีนต้องไปจัดหาสำหรับเรือดำน้ำที่ไทยตั้งใจจะซื้อต่อนั้น ยังเป็นเครื่องยนต์ที่ไม่มีทหารคนไหนบนโลกเคยใช้มาก่อน

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมยังมีความพยายามจะจัดซื้อเครื่องบินรบ F-35A เป็นเครื่องบินใหม่ล่าสุดที่มีนวัตกรรมทางทหารและทางอวกาศที่ล้ำสมัย อย่างไรก็ตามการจัดซื้อเครื่องบินรบที่มียุทโธปกรณ์สูงเช่นนั้นไม่เหมาะสมกับวิกฤตเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับงบประมาณแผ่นดินในเวลานี้ที่ต้องจำกัดจำเขี่ย ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการตั้งงบประมาณไว้ลอยๆ อย่างไม่จำเป็น เพราะการจะซื้อเครื่องบินรบ F-35A นั้นจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส สหรัฐอเมริกาเสียก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีวี่แววใดๆ ว่าทางสหรัฐฯ​ จะอนุมัติขายให้

[+ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส. เชียงใหม่]
ขอปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม 10% โดยเฉพาะงบที่จะใช้ในการเช่ารถหรูประจำตำแหน่ง Mercedes-Benz S500 ถึง 30 คัน ประเทศไทยมีนายพลจำนวนที่เยอะเกินกว่าที่จำเป็น หากนับย้อนไป 2561-2563 มีนายพลแต่งตั้งโยกย้ายมากกว่า 10,000 คน เท่ากับ 1 ต่อ 166 นาย ส่งผลให้งบประมาณรายจ่ายสูง อีกทั้งสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมยังมีงบลับจำนวนมาก ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งการตั้งงบประมาณที่ไม่เกี่ยวข้องกับสายงานและไม่มีความจำเป็น เช่น การตั้งงบไอโอเพื่อโจมตีประชาชนที่มีความเห็นต่าง เป็นต้น

“ตั้งงบซื้ออาวุธทุกปี ถ้าไม่ซื้ออาวุธสักปี ประเทศไทยจะเสียเอกราชให้ใครหรือเปล่าคะ? หรือถ้าไม่ซื้อ ท่านนายกฯ จะตายหรือเปล่า ถ้าท่านนายกฯ จะเป็นจะตาย ดิฉันก็ยอมให้ท่านแล้วค่ะ จะได้เป็นบุญ แต่นี่ไม่ใช่ เพราะงบประมาณเป็นเงินภาษีประชาชน กองทัพที่ใหญ่โต งบประมาณที่เลอะเทอะ ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่ประชาชนกำลังหิวโหย ตั้งงบประมาณไม่เห็นหัวประชาชน จึงขอลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม 10% เพื่อไปเพิ่มสวัสดิการและแก้เศรษฐกิจให้แก่ประชาชน”

[+วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. เชียงราย]
ขอปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหมลง 9% ด้วยเหตุผล 2 ประการ

1.) ประเทศไทยมีโครงการทุนพัฒนาศักยภาพนักวิจัยด้านยุทโธปกรณ์เพื่อเพิ่มศักยภาพของกองทัพและการป้องกันประเทศ แต่กองทัพกลับไม่สนับสนุน กองทัพมุ่งแต่จะซื้ออาวุธทำให้เกิดปัญหาเงินไหลออก และประเทศขาดโอกาสในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปัจจุบันการซื้อขายอาวุธระหว่างประเทศได้มีนโยบายการซื้อสินค้าระหว่างประเทศที่ระบุให้ผู้ซื้อและผู้ขายอาวุธจะต้องมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านอาวุธ มีการลงทุนร่วมกันทั้งในภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาทักษะและพัฒนาอาวุธ ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านเราต่างใช้นโยบายนี้ แต่ไม่ทราบว่ากองทัพไทยได้ดำเนินการในเรื่องนี้หรือไม่

'แก๊งเด็กมะกัน' รุมทำร้ายหญิงชราชาวเอเชีย สุดช็อก!! 1 ในแก๊งมีอายุเพียง 11 ปี

เด็ก 3 คน อายุ 11, 13 และ 14 ปี กับชายอายุ 18 ปีรายหนึ่ง ก่อเหตุรุมทำร้ายและปล้นหญิงชราชาวเอเชียวัย 70 ปี ภายในอพาร์ตเมนต์ที่เธอพักอาศัย ในซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว และเวลานี้ 2 คนอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ จากการเปิดเผยของตำรวจในช่วงต้นสัปดาห์ ในเหตุการณ์ที่ตำรวจถึงขั้นเอ่ยปากว่าน่าเศร้าและเป็นเรื่องช็อกอย่างยิ่ง

บิล สกอตต์ ผู้บัญชาการตำรวจซานฟรานซิสโก เปิดเผยว่าผู้หญิงรายดังกล่าวกำลังอยู่นอกอาคารที่พักอาศัยของเธอในย่านไชนาทาวน์เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ระหว่างนั้นพวกผู้ต้องสงสัยเดินเข้ามาหาและพูดคุยกับเธอ

ด้วยที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกผู้ต้องสงสัยพูด เนื่องจากอุปสรรคทางภาษา เธอจึงหลบเข้าไปในบริเวณล็อบบี้ของตัวอาคาร แต่พวกผู้ต้องสงสัยยังเดินตามเธอไป จากนั้นพวกผู้ต้องสงสัยลงมือทุบตีทำร้ายและปล้นสะดมเธอ ก่อนหลบหนีไป อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลนี้ถูกกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้

"เหยื่อถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง และขอบคุณพระเจ้า อาการบาดเจ็บของเธอไม่อันตรายถึงขั้นเสี่ยงต่อการเสียชีวิต" สกอตต์กล่าว แต่เขาไม่ได้เปิดเผยชื่อผู้หญิงรายนี้

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ เลขาฯ ศอ.บต. เผย เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จชต.ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ยัน! รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาทุกมิติ พร้อม! เร่งช่วยเหลือภาคเอกชน และปชช. ที่ได้รับผลกระทบ

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เข้าเยี่ยมนางประทุม นักทอง อายุ 55 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด ที่บริเวณสวนยางพาราของประชาชนในพื้นที่บ้านโคกโก ตำบลโต๊ะเด็ก อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ขณะที่กำลังเข้าไปกรีดยางในสวนของตนเองจนทำให้ขาทั้ง 2 ข้างขาดและแพทย์ได้ทำการตกแต่งบาดแผลเรียบร้อยแล้วขณะนี้รู้สึกตัวดีแต่จะต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ยังได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุด EOD ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวระหว่างเข้าตรวจสอบพื้นที่จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต 1 ราย และได้บาดเจ็บอีก 10 ราย เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา

ในการนี้พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยว่าวันนี้เป็นการลงพื้นที่เยี่ยม และให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งไม่อยากกล่าวคำว่าเสียใจ แต่จำเป็นต้องกล่าวให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทุกคน ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีเอง ได้สั่งการและเน้นย้ำให้ดูแลอย่างดีไม่เพียงแค่เยี่ยมให้กำลังใจมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเท่านั้น แต่ต้องดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บรวมถึงครอบครัวของผู้เสียหายให้ดีที่สุด ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บนั้นเชื่อว่า..ไม่ได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อแต่คาดว่าเกิดจากการดัดแปลงและวิธีการทำลายล้าง ดังนั้นจึงขอให้ทุกส่วนร่วมกันผนึกกำลังช่วยกันแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่เกิดนี้ เชื่อว่าหากทุกคนช่วยกันเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดจะสามารถคลี่คลายลงตามลำดับ และในนามรัฐบาลขอโดยให้คำมั่นสัญญาว่า จะไม่ทิ้งและจะช่วยดูแลกันต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top