Tuesday, 13 May 2025
Hard News Team

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2565 : หลวงปู่หา สุภโร

อย่าทำตัวเป็นไม้บรรทัด
เที่ยววัดคนอื่น แต่ไม่เคยวัดตัวเอง
อย่าเอาคนอื่นมาวัดกับเรานะ
เรากับเขา มันคนละคนกัน
การปฏิบัติธรรม...
เป็นเรื่องส่วนตัวของใครของมัน
อย่าเอามาอวดมาอ้างกัน
อย่าเอาเขามาทำให้เราทุกข์

เตรียมจัดกิจกรรมน้อมรำลึกครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาจัดกิจกรรมน้อมรำลึกครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดงานครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ครั้งที่ 2 เพื่อติดตามการดำเนินงาน และพิจารณาในการจัดกิจกรรมฯ ณ ห้อง WAR ROOM ชั้น 3 กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน

กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่กองทัพเรือ ร่วมกับมูลนิธิราชสกุลอาภากร  มูลนิธิกรมหลวงชุมพรหาดทรายรี ตลอดจนภาคประชาชนที่ศรัทธา “กรมหลวงชุมพรฯ” ทั่วประเทศ จัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงวางรากฐานกิจการทหารเรือในด้านต่างๆ ให้มีความมั่นคงตราบจนปัจจุบัน  อีกทั้งยังเป็น “หมอพร” ที่รักษาประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่แบ่งแยกชนชั้น  ตลอดจนเป็นที่รัก และศรัทธาของประชาชนทั่วประเทศอีกด้วย ดังนั้นในโอกาสครบรอบ 100 ปี วันสิ้นพระชนม์ใน 19 พ.ค.66 คณะกรรมการฯ ได้ร่วมพิจารณาการจัดกิจกรรมต่างๆ ต่อเนื่องตั้งแต่วันคล้ายวันประสูติใน 19 ธ.ค.65 ไปจนถึงวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ใน 19 พ.ค.66 โดยมีกิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย


 
- กิจกรรมเทิดพระเกียรติวันที่ 19 ธ.ค.65 โดยจัดกิจกรรมและพร้อมขับร้องเพลงพระนิพนธ์ของกรมหลวงชุมพรฯ ร่วมกับศาลกรมหลวงชุมพรฯ 36 จังหวัด ทั่วประเทศ ในกรอบ “จากสัตหีบถึงหาดทรายรี ก้องกังวานเพลงพระนิพนธ์เสด็จเตี่ย”
- กิจกรรมเทิดพระเกียรติเพื่อรำลึกถึงวันสิ้นพระชนม์ในวันที่ 19 พ.ค.66 พร้อมกับการเปิดกระโจมไฟ ณ หาดทรายรี จังหวัดชุมพร 
- กิจกรรมกองทัพเรือสัญจรเพื่อประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ โดยจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่  การแสดงดนตรีจากวงดุริยางค์ทหารเรือ และการจัดนิทรรศการแสดงพระประวัติฯ
- กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ
- การปรับปรุงบูรณะศาล/พระรูป/พระอนุสาวรีย์ พล.ร.อ. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทั่วประเทศ
- กิจกรรมสวนสนามทางทะเล โดยการจัดกำลังทางเรือจากกองทัพเรือ ร่วมกับ ทสปช.ทางทะเล ในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน  อ่าวไทยตอนล่าง และอันดามัน
- การจัดทำหนังสือพระประวัติฯ 2 ภาษา และเสวนาวิชาการ
- กิจกรรมเทิดพระเกียรติในส่วนของโรงเรียนนายเรือ

ตำรวจท่องเที่ยวกลไกสำคัญ 'ท่องเที่ยว 5 ประเทศ 1 ที่หมาย'

วันนี้ (5 พ.ย. 65) เวลา 14.00 น. พล.ต.ท. สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต. อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการฯ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ระหว่างวันที่ 2-4 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้ส่งตนร่วมคณะผู้แทนของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาซึ่งนำคณะโดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยการท่องเที่ยวภายใต้กรอบการประชุมยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง หรือ Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS ครั้งที่ 5 ณ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา 

พล.ต.ต. อภิชาติฯ อธิบายว่า การประชุม ACMECS เป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับอนุภูมิภาคอาเซียนที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างสมดุล ลดช่องว่างทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทย กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม 

การประชุมนี้ ประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพในปี พ.ศ.2561 ซึ่งในการประชุมครั้งนั้น ผู้นำ 5 ประเทศได้รับรองให้มีแผนแม่บทระยะ 5 ปี (2562-2566) ขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อในอนุภูมิภาค, ปรับปรุงกฎระเบียบกติกาด้านการค้าและการลงทุนให้สอดคล้องกัน, และพัฒนาอนุภูมิภาคนี้ให้ยั่งยืนบนพื้นฐานของนวัตกรรม ซึ่งแน่นอน เป้าหมาย 3 ประการที่กล่าวไปนี้นั้น ย่อมรวมไปถึงการท่องเที่ยวด้วย และเพื่อให้เป้าหมายด้านการท่องเที่ยวบรรลุผลตามแผนแม่บทที่ตั้งไว้ การประชุมระดับรัฐมนตรีการท่องเที่ยวจึงถูกจัดให้มีขึ้นเพื่อนำแผนแม่บท 5 ปีดังกล่าว มาพิจารณาอย่างละเอียด และกำหนดเป็นแผนปฏิบัติการเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เกิดผลเป็นรูปธรรม 

ในการประชุมรัฐมนตรีการท่องเที่ยวครั้งนี้ ที่ประชุมได้ออกแถลงการณ์ร่วมยืนยันถึงการฟื้นฟูความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวที่ทรุดตัวลงไปจากสถานการณ์โควิด-19 ให้ฟื้นกลับคืนมาโดยเร็ว โดยการฟื้นฟูที่ว่านี้จะมุ่งเน้นไปที่ 3 keywords ด้วยกัน กล่าวคือ เน้นการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืน (sustainable tourism), ต้องมีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆมาใช้ (innovation), และต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมประสิทธิภาพการท่องเที่ยว (digitalisation)

ซึ่งการจะนำ 3 keywords นี้ไปสู่ความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมได้นั้น ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า จะต้องอยู่บนแผนปฏิบัติการ 5 ปี (2566-2570) โดยมีรายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้ 

1. ต้องส่งเสริมการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพบนแนวคิด '5 ประเทศ - 1 ที่หมาย' (Five Countries, 1 Destination) โดยประเด็นนี้ ประเทศไทยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบหลัก 

2. ส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นแบบเชื่อมโยง 5 ประเทศ ประเด็นนี้ ประเทศเวียดนามได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบหลัก 

3. ส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการท่องเที่ยว ประเทศเมียนมาจะรับผิดชอบในหัวข้อนี้ 

4. ส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยวซึ่งกันและกัน ประเทศกัมพูชาจะเข้ามาดูแลในประเด็นนี้  

5. ส่งเสริมให้มีความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศเพื่อให้เพิ่มบทบาทของชุมชนท้องถิ่นให้มากขึ้น ในส่วนนี้ประเทศลาวจะเป็นผู้รับผิดชอบ 

และ 6 จะต้องจัดให้มีหน่วยงานประสานงานกลางขึ้นเพื่อประสานการปฏิบัติระหว่าง 5 ประเทศ ซึ่งกัมพูชาจะไปพิจารณาในส่วนนี้

อย่างไรก็ตาม, พล.ต.ต. อภิชาติฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า, ที่ประชุมยอมรับว่า ความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวนั้นคือปัจจัยสำคัญอย่างย่ิงที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นในทุกที่และทุกเวลา ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวได้ส่งรายละเอียดแผนปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในปีงบประมาณ 2566 อันได้แก่ การสร้างศูนย์ปฏิบัติการดูแลนักท่องเที่ยวและบูรณาการข้อมูลการท่องเที่ยวแบบ real time กับ การจะจัดให้มีแอพพลิเคชั่นสำหรับให้นักท่องเที่ยวดาวน์โหลดเพื่อติดต่อกับตำรวจท่องเที่ยวได้ตลอดเวลา รวมไปถึงความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาเพื่อทำให้กล้อง CCTV มีความสามารถและใช้ร่วมกันได้มากขึ้นแม้จะต่างยี่ห้อกัน ซึ่งซอฟท์แวร์ที่จะนำใช้ควบคุมนั้นจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่จะทำให้กล้องมีประสิทธิภาพมากล้องธรรมดา ให้ที่ประชุมได้รับทราบ ซึ่งได้รับความสนใจจากที่ประชุมเป็นอย่างย่ิง ซึ่งเชื่อว่า ผลการประชุมดังกล่าวทั้งหมดนี้ จะถูกนำเสนอในการประชุมระดับผู้นำ ACMECS ในครั้งต่อไปอย่างแน่นอน 

'แม่สาย' อุทยานแห่งชาติ 13 หมูป่า ร่วมบวงสรวงเจ้าแม่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนเตรียมผลักดันเป็นอุทยานระดับโลก

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมานาย รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้ให้เกียรติมาเป็นประธานพิธีบวงสรวงเจ้าแม่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนโดยมีนาย สิทธิชัย เสรีส่งแสง นาง รุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ นาย นรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรม อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นาย วราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นาย ชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนายการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วน

ราชการรัฐสิสาหกิจ องศ์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวมทั้งนักเตะทีมหมูป่าอะคาเดมีที่ประสบเหตุติดอยู่ในถ้ำหลวงจนเป็นข่าวดังไปทั้วโลกได้เข้าร่วมงานพิธีในครั้งนี้ทางด้านนาย รัชฎา สุริยกุล ณ.อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวลื่อมวลชน 3 ประเด็นว่า

1 ความก้าวหน้าการพัฒนาถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
2 การเตรียมประกาศอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

และ3การขับเคลื่อนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนเป็นอุทยานธรณีจังหวัดเชียงรายหรือจีโอปาร์ค 

‘ส.ส.เพื่อไทย’ กระทุ้งรัฐบาล ควบคุม ‘ยาเสพติด-อาวุธ’ หวัง ‘โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู’ เป็นเหตุสลดสุดท้าย

(5 พ.ย. 65) เพจ ‘พรรคเพื่อไทย’ โพสต์ข้อความ เกี่ยวกับ ‘ญัตติปัญหากราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู’ โดยระบุว่า…

ยาเสพติดเกลื่อนบ้าน อาวุธปืนเกลื่อนเมือง โครงสร้างระบบราชการกดทับข้าราชการชั้นผู้น้อย
บ่มสร้างพฤติกรรมรุนแรง และสร้างความรู้สึกเกลียดชังตนเอง-สังคม นำไปสู่การข่มขู่ คุกคาม ทำร้ายผู้เห็นต่างตลอดจนผู้คนรอบข้าง สร้างเหตุผลชอบธรรมในการใช้ความรุนแรงเพราะความเกลียดชังสังคม จนนำไปสู่สาเหตุ #โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู

ญัตติปัญหากราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู

นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายในญัตติด่วนด้วยวาจา ปัญหากราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อส่งข้อสังเกตไปยังรัฐบาลดำเนินการ โดยที่ประชุมสภาตั้งข้อสังเกตสาเหตุและแรงจูงใจก่อเหตุว่าเกิดจากปัญหายาเสพติด อาวุธปืน การกดทับในโครงสร้างตำรวจทหาร ปัญหาสังคมในชนบท ตลอดจนปัญหาจิตวิทยา ทั้งหมดล้วนประมวลก่อรวมกันเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดจนมีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 37 ราย

[ความเกลียดชังสังคม และปัญหาจิตเวช เป็นปัจจัยในมุมมองเชิงการแพทย์]

นพ.ชลน่าน กล่าวว่าในมุมมองทางการแพทย์แล้ว อาการของผู้ก่อเหตุมีลักษณะความเกลียดชังสังคม เพราะเกิดจากความไม่มั่นคงและกำลังสูญเสียสิ่งที่คุ้นเคย ซึ่งในกรณีนี้คือการที่เขาถูกให้ออกจากราชการและถูกดำเนินคดี จนวิตกกังวลและนำไปสู่ความโกรธ ความเกลียดชังทั้งคนรอบข้าง สังคม และตัวเอง

สาเหตุเกิดจากมิติโครงสร้างของสังคมไทยที่จุดระเบิดความรุนแรงจากที่มาของปัญหายาเสพติดอย่างไม่สามารถปฏิเสธไม่ได้ เพราะจุดเริ่มต้นเกิดจากการที่เขามียาเสพติดจนทำให้ถูกไล่ออกจากราชการ แม้ตอนก่อเหตุจะไม่พบสารเสพติด แต่การเตรียมการก่อเหตุการณ์ก็ดำเนินมาจนถึงจุดระเบิด

ปัญหาอาวุธปืน ประเทศไทยมีสถิติจากปืนมากที่สุด ในที่ประชุมพูดว่า ปืนถูกกฎหมาย 1 กระบอกจะมีปืนเถื่อนอีก 3 กระบอก การมีใบอนุญาตพกอาวุธปืน

ในด้านจิตวิทยา ผู้เชี่ยวชาญได้อธิบบายถึงทั้งเหตุจากการกล่อมเกลาเลี้ยงดู การรับมือต่อสภาพปัญหา การแก้ไขปัญหาบิดเบี้ยวซึ่งผู้ก่อเหตุไม่มีภูมิคุ้มกันที่เพียงพอ ซึ่งปัญหานี้ ก็เป็นปัญหาใหญ่ของคนในสังคมไทยที่ต้องดิ้นรน กดดันให้ต่อสู้เพื่อเลี้ยงชีพแต่สังคมก็ไม่เอื้อให้เขาได้ลืมตาอ้าปาก ดังนั้นจึงเชื่อว่าคนในสังคมไทยขณะนี้มีปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้น

ดังนั้น เหตุการณ์ทั้งปวงไม่ใช่อุบัติเหตุ มีการเตรียมมีด เตรียมปืน คือความตั้งใจ เจตนาที่จะก่อเหตุอันแสนเจ็บปวดนี้

[713 หมู่บ้านในหนองบัวลำภู ยาเสพติดระบาดไปแล้ว 206 หมู่บ้าน]

ทางด้านณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ส.ส.หนองบัวลำภู กล่าวว่าปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์เศร้าสลดนี้มีสาเหตุจากยาเสพติด แม้ในตัวผู้ก่อเหตุจะชันสูตรไม่พบสารเสพติด พฤติกรรมการพัวพันเกี่ยวข้องยาเสพติดตั้งแต่รับราชการตำรวจจนถึงให้ออกจากราชการ

วันนี้จังหวัดหนองบัวลำภู สถานการณ์ยาเสพติดระบาดรุนแรงมาก จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พบว่าในประชากร 5 แสนคนของหนองบัวลำภูใน 713 หมู่บ้าน พบว่า เป็นหมู่บ้านปลอดยาเสพติด 507 หมู่บ้าน แต่เป็นหมู่บ้านสีแดง พบยาบ้า ยาเสพติด ยาไอซ์ มีจำนวนถึง 206 หมู่บ้าน หมายความว่า สัดส่วนพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดสูงถึง 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

[งบประมาณปราบยาเสพติดมหาศาล แต่ล้มเหลว]

ทางด้านไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู กล่าวว่าทุกวันนี้ยาเสพติดเกลื่อนเมือง หาง่ายตามร้านขนมยิ่งกว่าลูกกวาด สวนทางกับงบประมาณของรัฐบาลที่จัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในแต่ละปี โดย 8 ปีที่ผ่านมาใช้งบไปไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท แต่สิ่งที่ได้เห็นคือการจับยาเสพติดครั้งละนับล้านเม็ด สมัยก่อน เมื่อได้ยาเสพติดมาก็จะทำลาย แต่ทุกวันนี้แทบไม่ค่อยได้เห็นการทำลายยาเสพติด จนเกิดคำถามว่ายาเสพติดของกลางมันหายไปไหนหรือไหลกลับไปวนอยู่ในตลาด เหตุการณ์ซ้ำๆ อย่างนี้ไม่มีวันจบสิ้น ยาเสพติดนั้นทำให้ผู้บริสุทธิ์กลายเป็นเหยื่อ และยาเสพติดยังทำให้ผู้ที่รักษาความปลอดภัยกลายเป็นผู้ที่เป็นภัยต่อสังคม และสุดท้ายยาเสพติดนั้นทำให้ครอบครัวที่สงบสุข กลายเป็นขุมนรกทำลายล้างสังคมไทย

รวบพนักงานสาวอ้างตกงาน รับจ้างเปิดบัญชีม้า เพียงแค่ 4 เดือน พบเงินหมุนเวียนกว่า 5 ล้านบาท

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น ให้เร่งปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ อันส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนและส่งผลกระทบแก่พี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง

ชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบสวนนครบาล IDMB โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผู้เดือดร้อนเป็นจำนวนมากว่า ถูกกลุ่มแก็งค์ CALL CENTER กลุ่มนี้ หลอกลวงให้ร่วมลงทุนง่ายๆ แต่ได้รับค่าตอบแทนสูง โดยเพียงแค่ลูกค้าโอนเงิน แล้วรอรับเงินปันผลตามอัตราและระยะเวลาที่แจ้งไว้  โดยพบว่ามีเหล่าผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก จึงลงพื้นที่สืบสวน ติดตามเส้นทางจากเหล่าบัญชีม้าที่ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ จนกระทั่งสืบทราบว่าพบเส้นทางบัญชีต้องสงสัยโดยเพิ่งเปิดบัญชีได้เพียงแค่ 4 เดือน แต่ปรากฏว่ามีเงินเข้าออกหมุนเวียนเพียงบัญชีเดียวกว่า 5 ล้านบาท โดยมีลักษณะหากมีเงินเข้าบัญชี เงินในบัญชีจะถูกถอนออกจากบัญชีทั้งหมดเพียงไม่เกิน 5 นาที เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เกาะติด สืบสวนเส้นทางการเงินของบัญชีดังกล่าว จนแน่ชัดว่าบัญชีดังกล่าวเป็นบัญชีที่เหล่าแก็งค์ CALL CENTER ใช้เป็นบัญชีม้า

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.65 เวลาประมาณ 13.45 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์รอง ผบก สส.บช.น., พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.อำนวย เงินนา สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.สส.1 บก.สส.บช.น.เข้าจับกุมตัว 

นางสาวณัฐชา ดาแอร์ อายุ 29 ปี ภูมิลำเนา ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ พนักงานออฟฟิศแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 689/2565 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 

สืบนครบาล รวบพงศ์บะฮี เปิดบัญชีม้าหลอกขายอะไหล่มือสองอ้างส่งข้อมูลส่วนตัวรับฟรี 50 บาท

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เร่งปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สนองนโยบายสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กวดขัน (ปูพรมสแกน) การกระทำความผิดโดยใช้ช่องทางออนไลน์อย่างจริงจัง เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชาชน

สืบเนื่องจาก 'ชุดลาดตระเวนออนไลน์' สืบสวนนครบาล IDMB ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผู้เดือดร้อนว่า คนร้ายใช้เฟสบุ๊คชื่อว่า 'พงศกรอะไหล่ โตโยต้า (Autopart)' ได้โพสต์ขายสินค้าประเภทอะไหล่รถยนต์ ในกลุ่มเฟสบุ๊ค 'EG 3D-4D ห้องซื้อ/ขายอะไหล่' เมื่อผู้เสียหายสนใจ โอนเงินชำระค่าสินค้าไปยังบัญชีของคนร้าย คนร้ายจะทำทีเป็นส่งภาพการส่งสินค้า แจ้งสลิปการส่งสินค้าที่ทำปลอมขึ้น จากแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ โดยใช้ชื่อนายพศกร พลเมือง เป็นผู้ส่งสินค้า พร้อมแจ้งให้ลูกค้าทราบ เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบในระบบขนส่งกลับไม่พบข้อมูลการจัดส่งและไม่ได้รับสินค้าตามที่ตกลงกันไว้ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่หากินสุจริตจำนวนมาก 

ภายหลังรับเรื่องดังกล่าว 'ชุดลาดตระเวนออนไลน์' สืบสวนนครบาล IDMB ได้สืบสวนติดตามสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว 1 ราย คือ นายวัชระ นาคสุข ซึ่งเป็นตัวการก่อเหตุโดยสร้างบัญชีเฟซบุ๊กโพสต์หลอกขายอะไหล่รถยนต์มือสองในกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ กว่า 200 กลุ่ม เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา  

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 10.25 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ  ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.ธนพล มโนสร รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., ด.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล, ด.ต.วุทธิไชย มูลสาร, จ.ส.ต.ประดับ สีสัน, จ.ส.ต.กิตติภูมิ จีนแปลงชาติ, ส.ต.อ.ปรัชญ์ กมลพัฒนะ, ส.ต.อ.ประกิต ภูมิวงศ์, ส.ต.อ.ศวร เหมหงษา, ส.ต.อ.เกริกพล กันแก้ว, ส.ต.อ.พงษ์ภัค ประทีปทอง ผบ.หมู่.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายพงศกร พลเมือง อายุ 20 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 238 หมู่ 4 ตำบลบะฮี อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 551/2565 ลงวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2565   

โดยกล่าวหาว่า “โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฉ้อโกง”  

สถานที่จับกุมตัว หน้าบ้านเลขที่ 238 หมู่ 4 ตำบลบะฮี อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร กล่าวคือ คดีนี้ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB ชุดจับกุมได้ทำการขยายผลติดตามจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีม้ารับโอนเงินที่หลอกได้จากผู้เสียหาย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เข้าตรวจค้นและจับกุม นายวัชระ นาคสุข (คนร้ายซึ่งเป็นตัวการก่อเหตุสร้างบัญชีเฟซบุ๊กเข้าไปโพสต์หลอกขายอะไหล่รถยนต์มือสองในกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ กว่า 200 กลุ่ม) เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา

มีสุนัขเมื่อพร้อม!! 'ตำรวจ' เตือน!! ปล่อยสุนัขกัดผู้อื่น มีความผิด โทษหนักจำคุกสูงสุด 10 ปี

วันที่ 5 พ.ย. 65 เวลา 08.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่าที่ พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษก ตร. เปิดเผย ถึงกรณีที่มีข่าวสุนัขสายพันธุ์ 'พิตบูล' ไล่กัดคนได้รับบาดเจ็บ เหตุจากเจ้าของปล่อยปละละเลยมีโทษทั้งแพ่งและอาญา 

รองโฆษก ตร. กล่าวว่า จากเหตุการณ์หนุ่มวัย 17 ปี ชาวจังหวัดสมุทรสงคราม ถูกสุนัขพันธุ์พิตบูล 2 ตัว รุมไล่กัดถึงภายในบ้าน เมื่อช่วงบ่าย วันเสาร์ที่ 29 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่า สุนัขของบ้านหลังนี้ ก่อเหตุซ้ำซ้อนมาแล้วหลายครั้ง 

ซาอุฯ เตรียมขน 200 นักธุรกิจ ร่วมลงทุนในไทย ล็อกเป้า ‘EEC’ จ่อลงทุนใน 3 อุตสาหกรรมหลัก

รัฐมนตรีกระทรวงการลงทุนซาอุดิฯ นำทัพ 200 นักธุรกิจบุกไทย ลุยจับคู่ร่วมลงทุน 3 ธุรกิจใหญ่ ‘ท่องเที่ยวโรงแรม-สร้างเมืองใหม่-พลังงาน’ เอกชนชี้เป็นโอกาสดีสุด ๆ รอบ 32 ปีหลังฟื้นสัมพันธ์ เล็งเป้าดึงลงทุนระลอกใหญ่ลงอีอีซี ขณะ 3 อุตฯ ไทยเนื้อหอม เวลคัมร่วมลงทุนในซาอุดิฯ

(5 พ.ย. 65) รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือสำนักงานอีอีซี เผยว่า ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 นี้ Mr.Khalid Abdulaziz Al-Falih รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนแห่งซาอุดิอาระเบียจะนำคณะภาคเอกชนที่เป็นนักธุรกิจ และนักลงทุนของซาอุดิฯ รวมกว่า 200 คน ร่วมงาน ‘Thai - Saudi Investment Forum’ ในประเทศไทย

ไฮไลต์สำคัญ จะมีการลงนาม MOU ร่วมกันในธุรกิจเป้าหมาย ไทย-ซาอุดิฯ, การนำเสนอภาพรวมกลยุทธ์การลงทุนร่วมไทย-ซาอุดิฯ โดย นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และนายคณิศ แสงสุพรรณ ประธานที่ปรึกษาอีอีซี 

นอกจากนี้จะมีเวทีเสวนาร่วมระหว่างผู้บริหารของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และหอการค้าซาอุดิฯ โดย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย และ Mr. Bads Aldadr, Deputy Minister of Investor Outreach, MISA

นอกจากนี้จะมีการเสวนาและจับคู่ธุรกิจ (บิซิเนส แมชชิ่ง) ร่วมลงทุนธุรกิจเป้าหมายภาคเอกชนและนักธุรกิจของไทย-ซาอุดิฯ ใน 3 เวทีได้แก่ ในธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม, ธุรกิจการสร้างมืองใหม่ และธุรกิจด้านพลังงาน ซึ่งจะเป็นการเปิดมิติใหม่ในการร่วมลงทุนไทย-ซาอุดิฯ ในรอบ 32 ปี หลังฟื้นความสัมพันธ์

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เผยว่า ไทยและซาอุดิฯ ได้แลกเปลี่ยนการเดินทางเยือนของคณะภาครัฐ-เอกชนกันหลายรอบแล้วในรอบปีนี้ หลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้นำคณะเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย เมื่อปลายเดือนมกราคม 2565 และประกาศการฟื้นความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ

สำหรับการเดินทางเยือนไทยและร่วมเวทีเชื่อมสัมพันธ์ด้านการลงทุนกันในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้นตามลำดับ โดยทั้งสองฝ่ายได้เชิญชวนในการแลกเปลี่ยน และร่วมลงทุนทั้งในไทยและในซาอุดิฯ

ในส่วนของไทยมีเป้าหมายเชิญชวนทางซาอุดิฯ มาลงทุนในไทย โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานรองรับ ในเบื้องต้นมีธุรกิจที่ซาอุดิฯ ให้ความสนใจลงทุน หรือร่วมลงทุนในอีอีซี เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ เครื่องใช้ไฟฟ้า การแพทย์ เกษตรชีวภาพ อาหารแปรรูป อัญมณีและเครื่องประดับ ก่อสร้าง ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และภาคการเงิน เป็นต้น

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จัดทีมลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และอุบลราชธานี แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช น้ำปลา ฯลฯ ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดจังหวัดศรีสะเกษ และอุบลราชธานี รวม 2 จังหวัด 2,500 ชุด คิดมูลค่าเครื่องอุปโภคบริโภคทั้งสิ้น 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ  มูลนิธิฯ / สมาคม  ประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ โรงเรียนบ้านเพียนาม ตำบลหนองไผ่ อำเภอเมือง ชุมชนบ้านหัวสะพาน ชุมชนหัวนา และชุมชนหนองหวาย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ และ หอประชุมประชาคมวาริน อำเภอวารินชำราบ หอประชุมที่ว่าการอำเภอดอนมดแดง อำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี

โดยเมื่อช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคม 65 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดอยุธยา อ่างทอง ระยอง และปทุมธานี รวม 4 จังหวัด 2,800 ชุด  โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ  มูลนิธิฯ / สมาคม ประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top