Wednesday, 14 May 2025
Hard News Team

'มาดามแป้ง' รับปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน

'มาดามแป้ง' รับปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน

'มาดามแป้ง' นวลพรรณ ล่ำซำ CEO บมจ.เมืองไทยประกันภัย, ประธานสโมสร การท่าเรือ เอฟ.ซี. และผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เข้าพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการตลาด คณะเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ที่ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 โดยมีนักฟุตบอลหญิง ได้แก่ ขวัญฤดี แสงจันทร์, อรทัย ศรีมะณี และ วารุณี เพ็ชรวิเศษ ร่วมแสดงความยินดี

“มาดามแป้ง” เป็นบุคคล ที่มีความโดดเด่นทั้งในแง่การบริหารธุรกิจ ในฐานะ CEO บมจ.เมืองไทยประกันภัย รวมถึง วงการกีฬา ในบทบาทผู้จัดการทีม ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่เคยพาทีมสร้างประวัติศาสตร์ ไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มาแล้ว 2 สมัยติดต่อกัน ในปี 2015 และ 2019 ต่อเนื่อง ถึงการเป็นผู้จัดการทีม ฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในปัจจุบัน และ งานสังคมเพื่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นการก่อตั้ง “ครัวมาดาม” ในช่วงวิกฤติโควิด-19 และ ก่อตั้ง “มูลนิธิมาดามแป้ง” ภายใต้แนวคิด ส่งต่อน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน 

ก่อนที่ล่าสุดจะมีโอกาสเข้ารับพระราชทานปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการตลาด คณะเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ต่อจากปี 2564 ที่เพิ่งเข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ จาก วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย

“ปริญญาฯ ใบนี้ นอกจากเป็นเกียรติสำหรับตัว แป้ง และ ครอบครัวแล้ว ยังถือเป็นกำลังใจ ที่จะทำให้ แป้ง มีความมุ่งมั่น และ พัฒนาตัวเองต่อไป เพื่อทำสิ่งต่าง ๆ ออกมาให้ดีที่สุด รวมถึง การช่วยเหลือ และ ตอบแทนสังคมด้วย” มาดามแป้ง กล่าวด้วยความภูมิใจ

ผบ.ตร. ชื่นชม สิบตำรวจโท สายตรวจ สภ.ธัญบุรี สวมจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ โดดคว้ามือปืนไล่ยิงคู่อริขณะหลบหนี มอบรางวัล 'ทำดี มีรางวัล'

(9 พ.ย.65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบประกาศเกียรติคุณและรางวัล โครงการ “ทำดี มีรางวัล” ให้แก่ข้าราชการตำรวจ สภ.ธัญบุรี ที่เข้าระงับเหตุคนร้ายไล่ยิงคู่อริ ซึ่งตำรวจดังกล่าวอยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้าน หลังจากออกเวร

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่ากรณีคลิป ตำรวจสายตรวจของ สภ.ธัญบุรี  จังหวัดปทุมธานี โดดเข้าล็อคตัวมือปืนวัยรุ่น ยิงคู่อริ และกำลังจะหลบหนี บริเวณถนนเลียบคลอง 4 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว  ส.ต.ท.ธนวัฒน์ ธรรมสา ผบ.หมู่(ป.) สภ.ธัญบุรี อยู่ระหว่างเดินทางกลับที่พักหลังจากออกเวร โดยพบเหตุซึ่งหน้า คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่คู่อริ จึงได้ใช้ความกล้าหาญ ไม่เกรงกลัวอันตรายใดๆ โดดคว้าตัวคนร้าย จนรถคนร้ายล้มลง และสามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้ เป็นไปตามยุทธวิธีของตำรวจ และเจตนารมณ์ของ ตร. ตนขอชื่นชมในความกล้าหาญ การตัดใจอย่างเด็ดเดี่ยวพร้อมด้วยไหวพริบปฏิภาณและจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และทันท่วงที ในการดูแลความปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาในการทำงานของตำรวจ ตนจึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ให้เป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่และเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจและสังคมสืบไป

เชียงใหม่-งานอลังการประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ 'แสงศิลป์ ถิ่นล้านนา'

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จัดงาน อลังการประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2565 “แสงศิลป์ ถิ่นล้านนา” เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตภูมิปัญญา ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวล้านนา มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประเพณี ตอกย้ำการเป็นเมืองเทศกาลโลก

เมื่อเย็นวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงานอลังการประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2565 ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2565 เวลา 17.00 น. – 22.00 น. ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 

การจัดงานภายใต้แนวคิด “แสงศิลป์ ถิ่นล้านนา” เพื่อสืบทอดและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประเพณี เพื่อสร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับจังหวัดเชียงใหม่ โดยในปีนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้มุ่งเน้นการสืบทอดและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีเดือนยี่เป็งของเชียงใหม่ ที่มีเอกลักษณ์ของชาวล้านนา ซึ่งเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียงและที่ชื่นชอบของทั้งชาวไทยและชาวชาวต่างชาติ ตอกย้ำการเป็นเมืองเทศกาลโลก World Festival and Event City ประจำปี 2022

โอกาสนี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางกุสุมาล พงษ์สิทธิถาวร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ และ นายพิชัย เลิศพงษ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชน ร่วมขอขมาพระแม่คงคา ก่อนที่จะลอยกระทงที่ท่าน้ำ เพื่อความเป็นสิริมงคล และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม

ประชุมติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมผู้แทนกรมการขนส่งทางบก ประกอบด้วยนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดี นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดี นายปิยะ โยมา ผู้อำนวยการสำนักการขนส่งผู้โดยสาร ได้เข้าร่วมการประชุมหารือกับผู้แทน 4 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย สมาคมประสานงานรถรับจ้างสุวรรณภูมิ สมาคมผู้ขับรถแท็กซี่สาธารณะ สมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า และ บจก. โฮวา เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์ (ประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2565)

ทั้งนี้ จากการประชุมดังกล่าว สรุปข้อเท็จจริง ดังนี้ ผู้แทนทั้ง 4 สมาคมฯ เห็นว่าอัตราค่าโดยสารที่เป็นข้อสรุปจากคณะทำงานฯ (7.34%) ยังไม่สะท้อนต้นทุนการประกอบการที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แท็กซี่มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้นโดยเร็ว ทางผู้แทน 4 สมาคมฯ จึงขอยอมรับอัตราค่าโดยสารที่เป็นข้อสรุปจากคณะทำงานฯ ก่อน หากแต่เพื่อให้อัตราค่าโดยสารมีความเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของสังคม ที่ประชุมจึงได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก ตั้งคณะทำงาน/คณะกรรมการ เพื่อศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม ทั้งนี้ โดยให้มีผู้แทนจากกลุ่มแท็กซี่ทุกกลุ่ม หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และภาควิชาการ

บก.สส.สตม. จับนักลงทุนจีนสวมบัตรประชาชน

ตามที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค หรือความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) ประจำปี พ.ศ.2565 (APEC 2022 Thailand) ในห้วงระหว่างวันที่ 14 - 19 พ.ย.2565 ประกอบกับนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ที่กำชับให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการระดมกวาดล้าง สืบสวนจับกุม ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 โดยเน้นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay) และความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง

เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่กำลังจะมีขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ อีกทั้งทำให้การปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง  โดยพล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ธนิต  ไทยวัชรามาศ  ผบก.สส.สตม.  พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ  สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม. จึงได้จัดให้มีการ Operation X-ray พื้นที่ หาคนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย  

ผลการดำเนินการ สามารถจับกุม นายเชา (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ตามหมายจับ ศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.125/2565 ลง 20 เม.ย. 64 ข้อหา  แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน,เป็นผู้สนับสนุนในการขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทยฯ โดยการนำหมายค้นศาลอาญาเข้าค้นอาคารพาณิช ย่านสุทธิสาร ถนนวิภาวดีรังสิต เขตพญาไท กรุงเทพฯ  พร้อมทั้งได้ตรวจยึดของกลาง จำนวนหลายรายการ อาทิ เช่น ชุดเครื่องแบบทหารพร้อมติดป้ายชื่อของผู้ต้องหา,คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง ,รถยนต์ จำนวน 2 คัน ,โฉนดที่ดินจำนวน  3  ใบ ,บัตรประชาชนจีน 1 ใบ ,หนังสือเดินทาง จำนวน 3 เล่ม เป็นต้น เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน ทำการตรวจสอบว่ามีการกระทำความผิดอื่นใดอีกหรือไม่  จากการสืบสวนก่อนจับกุม พบว่าผู้ต้องหามักใช้รถติดธงประจำประเทศทั้งไทยและจีน คล้ายกับรถของสถานทูต และยังมีรถตำรวจนำขบวนอีก 1 คัน โดยคาดว่าเป็นทะเบียนรถปกติ ไม่ใช่รถของสถานทูตแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าเป็นการพยายามทำให้ดูเหมือนรถของสถานทูตเท่านั้น ส่วนรถตำรวจคาดว่าเป็นรถปลอม

โดยการดำเนินการครั้งนี้ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เน้นค้นหาจับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522  และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง  รวมทั้งคนต่างด้าวที่มีหมายจับ โดยเมื่อมีการจับกุมผู้กระทำความผิดได้แล้ว จะทำการขยายผลการจับกุมทุกรายเพื่อให้ทราบถึงผู้ร่วมกระทำความผิด เครือข่ายของผู้กระทำความผิด และให้ดำเนินการติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิด/เครือข่ายของผู้กระทำความผิด ต่อไป 

ตร. บุกตรวจจับกุมค้าปืนออนไลน์ 10 จุดทั่วกทม. ยึด ‘ยาเสพติด - ปืน 40 กระบอก - กระสุน 2,000 นัด’

(9 พ.ย. 65) เวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น., พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น., พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส.บช.น., พ.ต.ท.นราธิป คงเพ็ชร์, พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล, พ.ต.ท.ชยุต ยอดยิ่งนาทกุล รองผกก.ดส.บช.น., พ.ต.ต.หญิง พรรัมภา พัฒนาวาท สว.กก.ดส พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.2 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร.ชป.2 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.บช.น. แถลงผลระดมปิดล้อมตรวจค้นผู้ค้าอาวุธปืนออนไลน์การกระทำความผิดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 10 จุด 

ได้จับกุมนายเรืองวิทย์ คุปตพันธ์ อายุ 25 ปี, นายนพเก้า สายโสภา อายุ 33 ปี, นายศิรศิลป์ ศรีมะเริง อายุ 32 ปี, นายอัฐพันธ์ คงสกุล อายุ 20 ปี, นายเอ อายุ 16 ปี และนายธัญพิสิษฐ์ บุณยธรรม อายุ 24 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนและอุปกรณ์ส่วนควบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดปืนพกสั้น 28 กระบอก ปืนลูกซอง 12 กระบอก ปืนยาวไรเฟิล 1 กระบอก แม็กกาซีน ขนาด 5.56 มม. จำนวน 5 อัน กระสุนปืนรวม 2,248 นัด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวม 48.64 กรัม ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 59 เม็ด จับกุมได้เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา 

พล.ต.ต.นิตินันท์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีนโยบายปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนทางออนไลน์ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ดำเนินการเพื่อป้องเหตุที่จะเกิดขึ้นช่วงประชุมเอเปก จากการสืบสวนทางชุดสืบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร.ชป.2 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.บช.น. ได้ทำการขออนุมัติศาลขอหมายค้น 10 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย อาวุธปืน 41 กระบอก กระสุนปืน 2,248 นัด ยาเสพติดจึงนวนหนึ่ง จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวได้มีการสั่งปืนออนไลน์จากผู้กระทำความผิดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเคยได้จับกุมไปก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงได้มีการขยายผลการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว

ผบ.ตร. ติวเข้มชุดปฎิบัติการพิเศษด้านความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่น APEC 2022 ลงพื้นที่จัดประชุม สั่งวางมาตรการป้องกันเข้ม วอนชาวไทยช่วยเป็นหูเป็นตา เพื่อภาพลักษณ์ให้ประเทศ

วันนี้ (9 พ.ย.65) เวลา 13.30 น. ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ทนงศักดิ์ สัมมารัตน์ รอง ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย (ศตก.), นายพรหเมศ พหลพลพยุหเสนา รองอธิบดีกรมอาเซียน ,ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ได้เดินทางมาตรวจความพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยและการจราจร สถานที่จัดการประชุมผู้นำ APEC 2022 ณ หอประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

ผบ.ตร. ได้ เชิญหน่วยที่เกี่ยวข้องในการรักษาความปลอดภัยและการจราจร ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติอย่างละเอียด กำชับเจ้าหน้าที่ เรื่องมาตรการการรักษาความปลอดภัยของบุคคล เส้นทาง ที่พำนัก การตั้งจุดตรวจจุดสกัด การบริหารจัดการชุมนุมสาธารณะ การต่อต้านการก่อการร้าย การตรวจหาวัตถุต้องสงสัย การรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ การเตรียมความพร้อมของชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด การเตรียมความพร้อมจากชุดปฏิบัติการพิเศษทางยุทธวิธี กรณีเผชิญเหตุกรณีเหตุฉุกเฉินและเหตุการณ์วิกฤตต่าง ๆ ตามแผนรักษาความสงบของ ตร. 

ทั้งนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในอาคารสถานที่ รอบบริเวณพื้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และบริเวณโรงแรมที่พักจำนวน 19 โรงแรม ตลอด 24 ชั่วโมง  

ด้านการอำนวยความสะดวกการจราจรเส้นทาง รัฐบาลได้กำหนดวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษและหยุดการเรียนการสอน ในวันที่ 16 – 18 พ.ย.65 (กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ) เพื่อลดปริมาณการจราจรฯ และงดการใช้เส้นทาง (ชั่วคราว) ถ.รัชดาภิเษก หน้าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่ แยกอโศกมนตรี - แยกพระราม 4 และถนนดวงพิทักษ์ ตลอดสาย ตลอด 24 ชม. และ “ปิดใช้บริการสถานี MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” ในวันที่ 16-19 พ.ย.65 โดยจัดให้มีรถบัส ให้บริการรับส่ง (shuttle bus) จำนวน 6 คัน

ต่อมาเวลา 14.30 น. ผบ.ตร. พร้อมคณะได้เดินตรวจบริเวณโดยรอบ หอประชุมฯ ชมสาธิตการปฏิบัติการรับแจ้งเหตุ การตอบสนองต่อเหตุ การปฏิบัติของชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD การตรวจวัตถุต้องสงสัยของสุนัขตำรวจหน่วย K-9 และปฏิบัติการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ ของชุด Anti-Drone โดย ตร. ได้ร่วมหารือกับ การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กำหนดเขตพื้นที่ห้ามบินอากาศยาน โดยเฉพาะอากาศยานไร้คนขับ และอากาศยานที่ไม่ได้รับอนุญาตให้บิน ในพื้นที่ กทม. ตั้งแต่วันที่ 16-21 พ.ย. 65 (No fly zone) เพราะฉะนั้นในช่วงเวลาดังกล่าวหากมีโดรนหน่วยงานราชการใดหรือของเอกชนมาบินก็จะถูกชุดแอนตี้โดรน เข้าไปดำเนินการทันที

'บิ๊กตู่' ตั้งเป้าพาไทยก้าวสู่อนาคตภายใต้บริบทโลกใหม่

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha’ เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 65 ก่อนจะเดินทางไปประชุมสุดยอดอาเซียน ระหว่างวันที่ 10-13 พ.ย. ที่ประเทศกัมพูชา โดยระบุว่า  พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ

ในช่วงวันที่ 10-13 พฤศจิกายนนี้ ผมมีภารกิจสำคัญในต่างประเทศ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และตัวแทนประชาชนชาวไทย ในการเข้าร่วมประชุมสุดยอดในกรอบอาเซียน รวมทั้งกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวม 16 การประชุม ณ ประเทศกัมพูชา ทั้งในลักษณะพหุภาคีและทวิภาคี ซึ่งนอกจากจะมีผู้นำ/ผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศคู่เจรจา อาทิ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา อินเดีย และนิวซีแลนด์แล้ว ยังมีเลขาธิการสหประชาชาติ ประธานคณะมนตรียุโรป เลขาธิการองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ตลอดจนหัวหน้า/ผู้แทนระดับสูงขององค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ ธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารพัฒนาเอเชีย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจเพื่ออาเซียนและเอเชียตะวันออก และคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ก็จะเข้าร่วมประชุมที่เกี่ยวข้องด้วย

ประเด็นสำคัญในการหารือกันในครั้งนี้ อยู่ภายใต้หลักคิด “อาเซียน เอ.ที.ซี. : รับมือความท้าทายร่วมกัน (ASEAN A.C.T. : Addressing Challenges Together)” ซึ่งครอบคลุมสิ่งที่อาเซียนและโลก ยังคงต้องเผชิญหน้าอยู่ ณ ช่วงเวลานี้ ในหลายมิติ ทั้งจากผลกระทบของโควิด-19 ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ที่ล้วนส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางในทุกภูมิภาคของโลก โดยประเทศไทยของเราจะนำเสนอหลักคิดสำคัญ คือ “สร้างปัจจุบันให้เข้มแข็ง – ร่วมแรงสู่อนาคต – เคารพวิถีอาเซียน” ในการที่จะแสวงหาความร่วมมือกันในสาขาต่างๆ อาทิ 

ผบ.ทร. ร่วมพิธีสวนสนามทางเรือฯ ที่ญี่ปุ่น พร้อมเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลของไทยทุกนาย

‘ผบ.ทร.’ ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญหน่วยเรือสวนสนามทางเรือนานาชาติ บนเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เมืองโยโกซุกะ ประเทศญี่ปุ่น

เมื่อวันที่ (9 พ.ย. 65)  พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ หน่วยเรือสวนสนามทางเรือนานาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลประเทศญี่ปุ่น ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจสวนสนามทางเรือนานาชาติ (International Fleet Review 2022) โดยมี พลเรือตรี โชคชัย เรืองแจ่ม ผบ.หน่วยเรือสวนสนาม ให้การต้อนรับ 

ฟังจากปาก ‘ต่างชาติตัวจริง’ ที่ได้มาเยือนไทย ‘ทุกอย่างที่เป็นไทย’ ดึงดูดให้อยากกลับมา

หากใครตามข่าวหรือเข้าโซเชียลบ่อย ๆ ก็คงได้เห็นข่าวที่หลาย ๆ องค์กรทั่วโลกได้จัดอันดับให้ ‘ประเทศไทย’ อยู่ในระดับสูงหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยว, อาหาร, เมืองน่าอยู่, สายการบิน หรือแม้กระทั้งระบบสาธารณะสุข 

แต่หากใครคิดไม่ออก หรือไม่คุ้น แล้วยังมีความแอบเอ๊ะ!! ไม่แน่ใจว่าเคยมีการจัดอันดับให้ไทยด้วยหรือไม่? ก็ไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวจะยกตัวอย่างมาให้ดูกัน

ตัวอย่างล่าสุดสด ๆ ร้อน ๆ ก็คือนิตยสารธุรกิจและท่องเที่ยวอย่าง ‘Business traveller’ จัดอันดับให้ ‘กรุงเทพมหานคร’ เป็นอันดับ 1 ‘เมืองที่น่าพักผ่อนหย่อนใจมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก’ (Best Leisure time city in Asia-Pacific) ต่อเนื่อง 6 ปีซ้อน!! การจัดอันดับครั้งนี้สะท้อนว่าไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกชื่นชอบ

นอกจากนี้ ในการจัดอันดับจากที่เดียวกัน ไทยยังคว้าอันดับ 3 เมืองสำหรับธุรกิจที่ดีที่สุด (Best Business Cities in Asia) ส่วนสายการบินแห่งชาติอย่าง ‘การบินไทย’ ก็ไม่น้อยหน้า ติด Top 3 ประเภทสายการบินที่ดีที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิก ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้อีกสักหน่อย นิตยสาร ‘Time Out’ ก็เคยจัดให้ ‘เยาวราช’ ติดอันดับที่ 8 ในหมวดถนนสุดเจ๋งของโลก ที่รายล้อมไปด้วยวัฒนธรรมและสตรีตฟู้ดที่ถูกใจต่างชาติ

เท่านั้นยังไม่พอ ข้อมูลจากเว็บไซต์ ‘Travel Daily News’ ระบุว่า ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ของโลก ด้านสถานบริการเพื่อสุขภาพ (Wellness Retreats) และยังได้รับขนานนามว่าเป็น ‘เมืองหลวงของสปาแห่งทวีปเอเชีย’ อีกด้วย

ข้ามมาทางฝั่งของสถานที่ท่องเที่ยว!! หนังสือพิมพ์ ‘Daily Star’ ของประเทศอังกฤษ ได้เปิดเผยว่า หาดซันไรส์ เกาะหลีเป๊ะ ติดอันดับ 6 และ อ่าวมาหยา เกาะพีพี ติดอันดับ 12 จาก 20 อันดับของชายหาดที่สวยที่สุดในโลก

นอกจากนี้ เว็บไซต์ ‘William Russell’ ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการประกันสุขภาพ ชีวิต และรายได้ ก็จัดอันดับให้เกาะพะงัน เป็นที่ 1 ของโลกในด้านปลายทางเพื่อการ Workation 

มาดูด้านอาหารบ้าง ‘ข้าวซอย’ ก็เป็นหนึ่งในซุปที่อร่อยที่สุดในโลก หรือกระทั่งไส้กรอกอีสาน ไข่เจียวปู ก็อร่อยถูกใจ จนต่างชาติยกให้เป็นสุดยอดสตรีตฟู้ดแห่งเอเชีย

ร่ายมาขนาดนี้ อ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงคิดว่า…อวยเกินไปหรือเปล่า!! 

แน่นอนว่า คนไทยอาจจะเฉย ๆ เพราะเราคงคุ้นชินและไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร แต่หากเป็น ‘ชาวต่างชาติ’ ที่อยู่ในไทย ที่ไม่ว่าจะมาท่องเที่ยว พักผ่อนระยะสั้น หรืออยู่ยาว ๆ เขาตื่นเต้นกับสิ่งเหล่านี้ ‘อย่างมาก!!’

จากช่อง YouTube ‘YakcuteTV’ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาว 8.06 นาที โดยเป็นคลิปสัมภาษณ์ความรู้สึกของชาวต่างชาติจากทั่วโลก ที่ได้เข้ามาใช้ชีวิตในประเทศไทย ซึ่งได้ถามหลายคำถาม และได้รับคำตอบหลากมุมที่เมื่อฟังแล้วก็ต้องยิ้มตาม พร้อมยืดอกด้วยความภาคภูมิใจเลยล่ะ

โดยคำถามแรกได้มีการถามถึงความรู้สึกที่อยู่ในประเทศไทยในช่วงล็อกดาวน์ ซึ่งนักท่องเที่ยวหญิงจากประเทศอังกฤษระบุว่า…คนไทยหลายคนที่ได้เจอน่ารักมากจริง ๆ คอยถามตลอดว่าอยากได้อะไรเพิ่มไหม น่ารักมาก นิสัยดีมาก นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า “บอกตรง ๆ ว่า อยู่ที่นี่ เราได้รับความช่วยเหลือมากกว่าตอนอยู่อังกฤษอีก”

ส่วนชาวต่างชาติผู้ชาย จากประเทศเยอรมนี กล่าวทั้งรอยยิ้มว่า เขาอยู่เมืองไทยตั้งแต่ช่วงต้นปี มีแผนจะไปกัมพูชาและเวียดนาม แต่ดันมาติดอยู่ที่เกาะพะงันช่วงล็อกดาวน์ ถึงแม้ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่ที่ไทยก็ชิลกว่าที่เยอรมนีหลายเท่า “ดีใจมากที่ได้มาอยู่ประเทศไทย”

ขณะที่นักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษ บอกเล่าความประทับใจว่า เธอโชคดีมากที่อยู่เมืองไทย คนไทยให้ความร่วมมือเรื่องโควิด-19 ดีมาก “ทุกคนยอมรับว่ามันแย่ แต่ก็ร่วมมือกันดี การ์ดไม่ตก” 

เมื่อถามว่าชอบที่ไหนมากที่สุดในประเทศไทย นักท่องเที่ยวชายชาวอังกฤษ ตอบคำถามอย่างกระตือรือร้นว่า เขาชอบหลายที่ในประเทศไทย เช่น บางลำพู, สวนรถไฟ, ภูเขาทอง, วัดสระเกศ (เคยพาครอบครัวไป) เขาเที่ยวในเมืองไทยเยอะมาก เช่น กาญจนบุรี, เชียงใหม่, หนองคาย, อุดรธานี, โคราช, เกาะเต่า, เกาะสมุย, เกาะพะงัน, ภูเก็ต ตรัง, ฉะเชิงเทรา พร้อมระบุด้วยว่า “ขอพูดในฐานะคนอังกฤษละกัน อย่างแรกเลย คือ เมืองไทยอากาศดีมากครับ ขณะที่การใช้ชีวิตคนลอนดอนจะยุ่งตลอดเวลา แต่จังหวะชีวิตในเมืองไทยยืดหยุ่นกว่า มีความเป็นมิตร ดูสบายๆ ส่วนธรรมชาติของเมืองไทยนั้นงดงาม เหมาะอย่างยิ่งกับชาวตะวันตกอย่างเรา ๆ ครับ” 

นักท่องเที่ยวหญิงชาวสเปน บอกเล่าว่า ถึงแม้ว่าเธอยังไม่ได้ไปเที่ยวทั่วประเทศไทย แต่ว่าที่ชอบมากๆ คือ เกาะพะงัน, เกาะหลีเป๊ะ เพราะบรรยากาศดี ทะเลสวย น้ำใสราวกับกระจก นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า “ผู้คนที่นั่น น่ารักมาก ต้อนรับขับสู้อบอุ่นดีมากค่ะ”

ขณะที่นักท่องเที่ยวชายชาวฝรั่งเศส บอกว่า เขาชื่นชอบหลายเกาะในประเทศไทยมากๆ เช่น เกาะพีพี เกาะเต่า เกาะพะงัน ช่วงที่ล็อกดาวน์ ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตได้พักหายใจ ซึ่งดีมาก ๆ 

เมื่อถามว่า ชาวต่างชาติชอบอะไรในเมืองไทย นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ พูดพร้อมรอยยิ้ม ว่า เธอชอบคนไทย เพราะคนไทยเป็นมิตรมาก ๆ ต้อนรับขับสู้ดีมากด้วย อีกทั้งคนไทยไม่เคยตัดสินฉัน และแน่นอนว่า อาหารไทยอร่อยมากค่ะ 

ส่วนนักท่องเที่ยวหนุ่มชาวสหรัฐอเมริกา กล่าวพร้อมกับยิ้มว่า วงการสเก็ตบอร์ดในไทยกำลังเติบโต และเขาชอบเล่นสเก็ตบอร์ดมากๆ อีกทั้งชอบทุกอย่างในประเทศไทย เพราะที่นี่ชิลมาก ๆ และมีคนหลากหลายเชื้อชาติ “ตอนที่อยู่เท็กซัส ไม่ค่อยได้เจอใครใหม่ ๆ เลย แต่พอมาอยู่เมืองไทยได้เจอคนหลากหลายเชื้อชาติเลย”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top