Thursday, 2 May 2024
Hard News Team

‘ภูมิใจไทย’ แจง!! เงินบริจาคถูกต้องตาม กม. ยัน!! ที่ผ่านมาแค่ 'ชูวิทย์' จินตนาการไปเอง

(22 มี.ค.66) ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และนายธนิต ศรีประเทศ อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หนึ่งในทีมกฎหมายพรรค ภท. ร่วมกันแถลงถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นต่อ กกต.ให้ยุบพรรคภท. อันเนื่องมาจากเงินบริจาคพรรคการเมือง ไม่เป็นไปตาม ม.72 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง

โดยนายศุภชัย กล่าวยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ทำถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ การบริจาคเงินให้พรรคการเมือง เป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ได้กำหนดรายละเอียด ว่า ถ้าหากจะมีการดำเนินการใดๆ จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ที่แบ่งเป็นสองส่วนคือการบริจาคเงินจากบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ซึ่งเมื่อมีการบริจาคจากทั้ง 2 ส่วน ทางพรรคภท.ในฐานะเป็นผู้รับบริจาค จะต้องตรวจสอบว่า แหล่งที่มาของเงินถูกต้องหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่าเราทำถูกต้องทุกประการ โดยยอดบริจาค ตั้งแต่ปี 2561 -ปัจจุบัน อยู่ที่ 355,033,639 บาท แบ่งเป็นปี 2561 จำนวน 10 ล้านบาท ปี 2562 จำนวน 161 ล้านบาท ปี2563 จำนวน 24,884,289 บาท ปี 2564 จำนวน 35,952,000 บาท ปี2565 จำนวน 123,197,350 บาท และปี2566 จำนวน 8,730,000 บาท โดยทั้งหมดบริจาคเป็นเงินสด รวมถึงมีบางส่วนที่บริจาคเป็นทรัพย์สิน ซึ่งต้องมีการลงทะเบียนแล้วแจ้งต่อ กกต. เพื่อประกาศต่อสาธารณะ และขอยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

ด้านนายธนิต กล่าวยืนยันว่า การบริจาคของพรรคเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของกกต. รวมถึงมีระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้หมดแล้ว ที่พรรคการเมืองจะต้องพึงสังวร เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายพรรคการเมือง โดนโทษจนถึงขั้นถูกยุบพรรค ขณะที่ขั้นตอนการบริจาคทั้ง ในส่วนของบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ได้กำหนดไว้ให้บริจาคไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะต้องมีหลักฐานยืนยัน อาทิ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หนังสือบริคณห์สนธิ (ตราสารที่ผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทได้ตกลงร่วมกันจัดทำขึ้น) หนังสือลงนามมอบอำนาจต่างๆ ที่จะต้องรวบรวมแล้วส่งไปยัง กกต.ทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลังจากส่งให้กกต.ตรวจแล้ว ก็จะต้องไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบในแง่ของนิติบุคคลอีกด้วย ทั้งนี้เงินบริจาคไม่สามารถนำไปใช้อย่างอื่นได้ ซึ่งจะต้องนำมาดำเนินการ เพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองและการเลือกตั้งเท่านั้น

📌ไทม์ไลน์เลือกตั้ง ส.ส. 2566 หลัง กกต. ปักหมุดลงปฏิทิน

ภายหลังราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง 2566 นั้น ทางด้านนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ได้เผยถึงกำหนดการวันเลือกตั้งใหญ่ ว่า กกต. พิจารณาแล้ว ที่ประชุมเห็นชอบตามสำนักงาน กกต. เสนอวันเลือกตั้งใหญ่ คือ 14 พฤษภาคม 2566

โดยปฏิทินเลือกตั้ง 2566 ต่อจากนี้ จะมีไทม์ไลน์สำคัญ ๆ ได้แก่...

- 20 มีนาคม 2566 พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566
- 21 มีนาคม 2566 กกต. ประกาศกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
- 27 มีนาคม-13 เมษายน 2566 วันลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าในเขต-นอกเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักร

'โทนี่’ เย้ย ‘บิ๊กป้อม’ แค่ที่เกาะหากินของลูกน้อง ยัน!! ไม่มีดีล 'พปชร.' ตั้งรัฐบาลแน่นอน

(22 มี.ค.66) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม ตอบคำถามผ่าน CareTalk x Care ClubHouse เลือก•เคลื่อน•ไทย 2566 EP4: เติมเงินครั้งใหญ่ คนไทยไร้จน! ไม่จกตาแน่นะวิ? เรื่องกระแส การดีลระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคพลังประชารัฐ จะจับมือกันไหม เพื่อฝ่าด่าน 250 ส.ว. ดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น นายกฯ และป้องกัน รัฐประหาร ว่า ผมว่าน่าจะยาก เพราะลุงป้อมเองวันก่อนไปที่จ.เชียงใหม่ ก็เป็นนายกฯขึ้นนายกฯลงแล้ว คือเดี๋ยวต้องยกขึ้นยกลงจากเวทีแกคงต้องพักผ่อนแล้วลูกน้องก็อยากค้ำแกไว้ เพื่อไว้เกาะทำมาหากิน ซึ่งผมสงสารแกนะ ต้องพักได้แล้ว สังขารมันไม่ได้แล้ว จะมานั่งทำงานให้ประเทศก็ไม่ไหวแล้ว ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ยากที่ใครจะไปนั่งคุยกัน

วันนี้ประชาชนเขาบอกว่า เดี๋ยวเขาเลือกให้เอง ไม่ต้องไปรบกวน ส.ว. หรอก ให้ ส.ว. ที่เขาอิสระ ไม่สังกัดใคร เขาก็จะใช้ดุลพินิจตามประชาชน ก็มีจำนวนหนึ่งอยู่แล้ว คือ เขามีอิสระ เขาจะไม่ยกให้ ก็คงช่วยไม่ได้

ส่วนที่มีการโยงคอนเน็กชั่นระหว่าง พล.อ.ประวิตร กับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า นายทักษิณ กล่าวว่า ถามว่าคุณหญิงกับป้อมรู้จักกันดีไหมก็รู้จัก แต่ไม่ได้สนิทสนมกันขนาดนั้น ส่วนกับ พล.ต.อ.พัชรวาท (น้องชาย ‘บิ๊กป้อม) ก็รู้จักกัน แต่ไม่สนิท ขนาดมาชี้นำการเมือง คุณหญิงไม่ยุ่งการเมือง ยุ่งแต่เรื่องสังคม ที่ไปมาหาสู่ ไม่บอกชี้นำการเมือง

‘ญี่ปุ่น’ พิชิตแชมป์ ‘เวิลด์ เบสบอล คลาสสิค 2023’ โค่น ‘สหรัฐฯ’ คว้าถ้วยใบที่ 3 กลับบ้านในรอบ 14 ปี

ทีมเบสบอลของญี่ปุ่นพิชิต สหรัฐฯ ในรอบชิงดำของศึก เวิลด์ เบสบอล คลาสสิค 2023 ทำให้พวกเขาได้แชมป์โลกไปเชยชมเป็นสมัยที่ 3

ทีมเบสบอลชายทีมชาติญี่ปุ่นคว้าแชมป์ เวิลด์ เบสบอล คลาสสิค ประจำปี 2023 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ หลังจากเอาชนะ สหรัฐอเมริกา ในรอบชิงชนะเลิศ 3-2 ที่สนาม โลนเดพ็อต พาร์ค ในเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอังคารที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา

ญี่ปุ่น ทำผลงานได้ดีมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มด้วยการชนะครบทั้ง 4 นัดจนทำให้ได้เข้าสู่รอบน็อกเอาต์ โดยในรอบก่อนรองชนะเลิศนั้นพวกเขาผ่าน อิตาลี มาได้ ด้วยสกอร์ 9-3 แล้วจากนั้นก็เฉือนชนะ เม็กซิโก 6-5 ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะมาพิชิต สหรัฐฯ ในรอบชิงดำ

'พล.ต.อ.สุรเชษฐ์' แถลงสรุปผลการดำเนินคดีเด็กสูญหาย พื้นที่ สภ.บางหลวง – ดำเนินคดีผู้ต้องหา 4 ราย

จากกรณีเมื่อวันที่ 5 ก.พ.66 เวลา 08.30 น. ได้มี น.ส.พิไลภรณ์ หรือนิ่ม อายุ 17 ปี และ นายสิทธิโชค หรือพุด อายุ 19 ปี แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางหลวง ภ.จว.นครปฐม ว่า น้องต่อ อายุ 8 เดือน บุตรชายของตน ได้หายตัวออกจากบ้านไป โดยประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนติดตามตัวกลับมาโดยปลอดภัย ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้วนั้น

หลังจากได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก.สภ.บางหลวง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และออกค้นหาตัวน้องต่อ ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบได้พบข้อสงสัยมากมาย จึงได้รายงานผลต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ต่อมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ทำการสืบสวนติดตามกรณีดังกล่าวเพื่อทำความจริงให้ปรากฏและตามหาตัวน้องต่อกลับมาอย่างปลอดภัย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภ.7,  พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม ร่วมกับ ผกก.สภ.บางหลวง เข้าตรวจพื้นที่โดยละเอียดอีกครั้งโดยให้ความสนใจในทุกประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสัมพันธ์ของตัวบิดามารดา

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เริ่มทำการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุโดยละเอียดอีกครั้ง เช่น การตรวจสอบโถส้วมซึ่งพบรอยปูนใหม่ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ตรวจสอบบริเวณภายในบ้านที่เกิดเหตุ พบหมอนที่มีคราบเลือด นอกจากนี้ยังได้กำหนดพื้นที่ค้นหาเป็นระยะไข่แดง-ไข่ขาว รวมเส้นผ่านสูญกลางระยะประมาณ 10 กม. แต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ รวมทั้งยังได้นำเอาตัวพยานและผู้ต้องสงสัยมาสอบประกอบมากถึง 100 ปาก เพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานที่ที่อาจพบตัวน้องต่อได้ แต่ยังไม่พบเบาะแสเพิ่มเติม ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ก.พ.66 น.ส.พิไลภรณ์ ได้รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนได้อุ้มน้องต่อแล้วมิได้ระมัดระวัง เป็นเหตุให้น้องต่อร่วงกระแทกพื้นจนถึงแก่ความตาย ตนจึงได้นำร่างของน้องต่อไปไปทิ้งที่บริเวณแม่น้ำท่าจีน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงตรวจสอบภายในแม่น้ำท่าจีนและขุดลอกแม่น้ำเป็นระยะทางมากกว่า 10 กม. แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.พิไลภรณ์ และนายสิทธิโชค รวมทั้งผู้ต้องสงสัยไปตรวจเปรียบเทียบพบว่า ดีเอ็นเอของนายสิทธิโชคไม่ตรงกับน้องต่อ จึงได้สืบสวนเพิ่มเติมจนพบข้อเท็จจริงว่า นายสิทธิโชค ได้มีการพาเอา น.ส.พิไลภรณ์ ไปแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ โดยมีผู้ซื้อบริการจำนวน 1 ราย ได้แก่ นายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี

จากผลการสืบสวนทั้งหมดนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 4 ราย ประกอบด้วย

จับตา ‘เพื่อไทย’ ปราศรัยใหญ่ 24 มี.ค.นี้ แย้ม!! ทีเด็ด 10 นโยบายเพื่อคนกรุงเทพฯ

(22 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้ซึ่งประสงค์รับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการจัดงาน 'คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ' ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.66 นี้

โดย นายวิชาญ กล่าวว่า แม้พรรคเพื่อไทยได้ท้วงติงและไม่เห็นด้วยกับการแบ่งเขต กทม.ว่าอาจจะก่อให้เกิดปัญหาด้านข้อกฎหมาย และสร้างความสับสนให้กับพี่น้องประชาชน เป็นการแบ่งเขตที่พิลึกพิลั่น และมีตวามกังวลว่าอาจจะเกิดการล้มบัตรกาเบอร์ในวันเลือกตั้ง แต่เมื่อมีการประกาศแล้ว พรรคเพื่อไทยพร้อมรับทุกกติกา จึงมีการจัดสรรผู้สมัคร ส.ส.กทม.ใหม่ทั้ง 33 เขต ให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ เพราะบางเขต บางแขวง มีการทับซ้อนกันบ้างในบางพื้นที่ จึงมีการเปลี่ยนป้ายหาเสียง และชี้แจงพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย กรุงเทพฯ มีความพร้อมแล้ว 100% และจะมีการเปิดตัวในเวทีปราศรัยใหญ่วันที่ 24 มี.ค.66 ภายใต้แคมเปญ 'คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ' โดยภายในงานจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ ใหม่ในอนาคต 4 ด้าน เพื่อคนกรุงเทพฯ และประเทศไทย พร้อมเปิดตัวนโยบายใหม่ 10 ด้าน ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ มลพิษ การศึกษา สิ่งแวดล้อม การรักษาพยาบาล ฯลฯ ที่สเตเดียมวัน จุฬา ซอย 6 ตั้งแต่เวลา 17.30 - 19.30 น.

นายวิชาญ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมีระบบในการจัดสรรผู้สมัคร แม้จะมีการสลับสับเปลี่ยนผู้สมัคร แต่พรรคเพื่อไทยมีฐานเดิม ซึ่งมีผู้สนับสนุนทุกเขต จากการที่เคยส่งผู้สมัคร สก.รวม 50 เขตในช่วงที่ผ่านมา และการที่พรรคเพื่อไทย มี สก.20 เขต ที่ยังคงทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง จึงไม่เป็นห่วง มั่นใจว่าผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต น่าจะทำงานได้ดีและประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินในการเลือกตั้ง

‘ตร.’ บุก มาบุญครอง ทลายเครือข่ายมาเฟีย ‘บาบู’ ปลอมสินค้าแบรนด์ดัง หลอกขายนักท่องเที่ยว

(22 มี.ค. 66) สืบเนื่องจากศูนย์ปรายปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปลป.ตร.) ได้รับรายงานว่า มีเครือข่ายขบวนการมาเฟียเชื้อสายอินเดียชื่อว่า ‘บาบู’ ลักลอบนำสินค้าแบรนด์เนม รองเท้า, กระเป๋า, เสื้อผ้า, นาฬิกา เลียนแบบสินค้าแบรนด์ดัง มาหลอกขายให้คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในมาบุญครอง และย่านปทุมวัน โดยหลอกลวงว่าเป็นสินค้าหิ้ว หรือ สินค้า Outlet โดยเครือข่ายนี้ส่งของกว่า 30 ร้านค้าในบริเวณใกล้เคียง

กระทั่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) พร้อมชุดทำงานชุด ศปลป.ตร. ขออนุมัติหมายค้นจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ประสานสนธิกำลัง 191 ปอศ. และพื้นที่เข้าตรวจค้นห้องเช่าอเนกประสงค์ ขั้น 3 ของศูนย์การค้า เอ็มบีเค เซ็นเตอร์

ธนาคารกลางยุโรป ส่งสัญญาณ ดัน 'สกุลเงินดิจิทัลแบงก์' เชื่อมต่อ 'แอปฯ ชำระเงิน-บัตร' ไม่ยึดติดเฉพาะของยุโรป

ในขณะที่ทั่วโลกมีวิกฤต Bank Run อยู่นี้ ล่าสุดก็มีความคืบหน้าสำคัญเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency : CBDC) ออกมาแล้ว

โดยไม่นานมานี้ World Maker ได้เปิดเผยว่า ทางธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB (European Central Bank) ประกาศถึง Digital Euro ที่จะมีบทบาทสำคัญในการชำระเงินอย่างอิสระในอนาคต พร้อมเผยอีกว่าการเชื่อมต่อจะเป็นในรูปแบบกว้าง แอปฯ ชำระเงินและบัตรไม่จำเป็นต้องเป็นของยุโรปด้วยซ้ำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบการเงินทั่วโลกน่าจะมีการเชื่อมต่อกันเกือบทั่วทั้งระบบ

นอกจากนี้ มีการเปิดเผยอีกว่าจะเริ่มเสนอกรอบกฎหมายสำหรับ Digital Euro ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้  ขณะที่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะมีการดำเนินการต่อหรือไม่จะมีขึ้นในภายหลัง แต่มาถึงขนาดนี้แล้วหลายคนก็คิดว่าจะต้องมีการออก CBDC มาในที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเทคโนโลยีพื้นฐานที่รองรับระบบการเงินโลกกำลังเปลี่ยนไปสู่ระบบ Blockchain Base ที่ประมวลผลได้ดีกว่าระบบเดิมหลายเท่า

📌 Christine Lagarde ประธานของ ECB กล่าวว่าแนวโน้มหลักคือการใช้เงินสดน้อยลงในระบบ และเปลี่ยนไปสู่การชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้นอีก ซึ่งภาพในปัจจุบันเราก็ได้เห็นแนวโน้มนี้กันแล้ว เพราะแม้แต่คนไทยจำนวนมากก็หันมาใช้จ่ายผ่านการโอนหรือแสกน QR Code แทนการกดเงินสด เนื่องจากมีความสะดวกรวดเร็วมากกว่า และไม่จำเป็นต้องพกเงินไว้ในกระเป๋าจำนวนมาก ๆ อีกด้วย !

“มีจุดมุ่งหมายให้ปลอดภัย มีไว้เพื่ออำนาจอธิปไตย และตั้งใจให้พร้อมใช้งานสำหรับทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา และในราคาที่ถูกที่สุดที่เป็นไปได้ อาจไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับฟังก์ชันพื้นฐานที่สุด” Lagarde กล่าวเสริมเกี่ยวกับ Digital Euro

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราต้องยอมรับคือการเปลี่ยนไปสู่ Digital Euro จะทำให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถตรวจสอบหรือสอดส่องข้อมูลสำคัญได้ง่ายกว่าเดิมด้วย นั่นหมายความว่าความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานจะลดลงเมื่อเทียบกับระบบธนบัตรสมัยก่อน

แต่คนส่วนใหญ่ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเรื่องเหล่านี้ เพราะถ้าเราทำอาชีพสุจริตถูกกฎหมาย ไม่ได้ทำธุรกิจดำมืดหรือสีเทา และมีการเสียภาษีถูกต้อง เราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรเลย ส่วนคนที่ประท้วงถึงประเด็นนี้ส่วนใหญ่ ก็น่าตั้งคำถามว่าพวกเขามีอะไรปิดบังอยู่หรือไม่ หรือว่าได้เงินมาอย่างผิดกฎหมาย ?

‘สธ.’ เร่งเข้าช่วยเหลือเด็กชายวัย 14 ปี ติดกัญชางอมแงม ยายหวั่นถูกหลานทำร้าย เผย เคยโดนเอาน้ำสาดหน้า

(22 มี.ค. 66) จากเหตุการณ์ชาวบ้าน ชุมชนห้องแถว ย่านซอยเขาตาโล หมู่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พบเห็นครอบครัว ซึ่งเป็น 2 ยายหลาน อาศัยอยู่ในห้องแถวดังกล่าว ในทุก ๆ วันจะเห็นหลานชายมีพฤติกรรม ขอเงินไปซื้อกัญชาเสพ อีกทั้งยังแสดงอาการโมโหร้าย จนผู้เป็นยายต้องเดินหนีออกมา ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกดังกล่าว

นางดา ผู้เป็นยาย จับได้ว่าหลานชายติดกัญชาหนักมาก ต้องดูดกัญชาทุกวัน โดยจะต้องขอเงินวันละ 1-2 ร้อยบาท ไปซื้อกัญชามาเสพ หากวันไหน ไม่ได้เสพจะมีอาการหงุดหงิด จุกท้อง พูดไม่ชัด พูดจาโวยวาย ทำร้ายข้าวของ หนักสุด คือ ‘เอาน้ำในแก้วสาดใส่หน้ายาย’ ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทุก ๆ ครั้งที่หลาน มีอาการอยากเสพกัญชาหรือหงุดหงิด ยายจะเดินหนีไปอยู่กับเพื่อนบ้านทันที เพราะกลัวหลานจะทำร้าย

'มิจฉาชีพ' เปลี่ยนรูปแบบ 'หลอกหลอน' ชาวบ้านไม่พักเลย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร./หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมด้วยคณะทำงาน ได้ร่วมกันนำเสนอสถิติการรับแจ้งความออนไลน์รอบสัปดาห์และภัยที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้มีภูมิป้องกันภัยออนไลน์ ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-18 มี.ค.2566) รวมทั้งสัปดาห์มีผู้แจ้งความ 4,291 เคส/351,191,412.31 บาท สถิติการรับแจ้งลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 1,496 เคส/26,093,473.69 บาท โดยสถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์มากที่สุดยังเป็นคดีเดิมๆ 5 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1) คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า 1,500 เคส/14,003,677.05 บาท  2) คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม 578 เคส/71,469,279.03 บาท  3) คดีหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่เป็นขบวนการ(call center) 529 เคส/65,547,808.73 บาท 4) คดีหลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน 429 เคส/17,113,573.64 บาท  และ 5) คดีหลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน 236 เคส/10,637,571.37 บาท 

ภัยออนไลน์ที่น่าสนใจและเกิดขึ้นมากในรอบสัปดาห์ เรื่องที่ 1 คือ  คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า นม Thai-Denmark โดยมิจฉาชีพสร้างเพจ Facebook 'Thai-Denmark นมไทยแท้ ส่งทั่วไทย' คล้ายของจริง  เมื่อมีผู้หลงเชื่อมาสอบถามเพื่อขอซื้อนม เพจจะให้ผู้หลงเชื่อโอนเงินให้ก่อน แล้วปิดเพจหนีไป จุดสังเกตุ ของปลอม พบการกดปุ่มโกรธ (angry) จำนวนมาก สถานะของเพจเป็นอสังหาริมทรัพย์ เพิ่งเปิดเพจ และผู้จัดการเพจอยู่ต่างประเทศ  ส่วน ของแท้ เป็นธุรกิจท้องถิ่น และ เปิดมานานและผู้จัดการเพจอยู่ประเทศไทย จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนควรสงสัยไว้ก่อนว่าของดีและถูกเกินกว่าราคาตลาดมากๆ และบัญชีรับโอนเงินบุคคลธรรมดา น่าจะหลอกลวง 

เรื่องที่ 2 คดีแก๊งคอลเซนเตอร์ติดต่อร้านอาหารผ่านแอปพลิเคชันไลน์หลอกสั่งข้าวกล่อง และโอนมัดจำให้ร้านค้าก่อน  วันต่อมา คนร้ายได้โทรศัพท์บอกให้ร้านอาหารสั่งชุดอาหารพิเศษเพิ่ม 7 ชุด และส่ง QR Code มาให้ร้านแอด และบอกว่าจ่ายเงินเพิ่มให้ภายหลัง และอ้างด้วยว่าเป็น QR Code แอดไลน์เท่านั้น แต่เมื่อแสกน QR Code พบว่า หน้าจอค้าง เจ้าของโทรศัพท์จึงรีบเข้าแอปฯ ธนาคาร เพื่อโอนเงินออกไปบัญชีอื่นก่อน และปิดเครื่อง  จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของ  QR Code ให้ดีก่อนที่จะ Scan หรือโอนเงิน

เรื่องที่ 3 คดีกลรักออนไลน์(Romance Scam) ถูกหลอกซ้ำซ้อน คือหลอกให้โอนเงิน 2 ครั้ง และหลอกให้ผู้เสียหายเปิดบัญชีม้าโดยไม่รู้ตัว  เรื่องนี้คนร้ายได้ติดต่อพูดคุยกับผู้เสียหายทาง Facebook จากนั้นอ้างว่าอยากจะมาอยู่เมืองไทย มาใช้ชีวิตคู่กับผู้เสียหาย และส่งสินค้ามีค่ามาให้ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินชำระภาษี ถือเป็นการหลอกให้โอนเงินรอบแรก จากนั้นจะหลอกว่าต้องการทำธุรกิจร่วมกับผู้เสียหาย แล้วให้ผู้เสียหายเปิดบัญชีไว้สำหรับการลงทุน จากนั้นคนร้ายได้หลอกผู้เสียหายคนที่ 2 และให้โอนเงินเข้าบัญชีผู้เสียหายคนแรก และให้ผู้เสียหายคนแรก ซื้อเหรียญคลิปโตให้คนร้าย ทำให้ผู้เสียหายคนแรก กลายเป็นผู้ต้องหาในคดี  จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ รู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนร้าย 

ด้วยความปรารถนาดีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT)

คดีหลอกลวงซื้อขายผลิตภัณฑ์สินค้า 'Thai-Denmark นมไทยแท้ ส่งทั่วไทย'
กลโกง จุดสังเกต วิธีป้องกัน
1. สร้างเพจ Facebook ขึ้นมาโดยใช้ชื่อ รูปโปรไฟล์ รูปปก ที่อยู่ ข้อความแนะนำ ใกล้เคียงกับเพจ 'Thai-Denmark' ที่เป็นของจริง  
2. สร้างเป็นเพจ Facebook หรือซื้อโฆษณาเพจเพื่อให้คนเห็นได้จากระบบอินเตอร์เน็ต
3. เมื่อมีผู้หลงเชื่อมาสอบถามเพื่อขอซื้อ เพจจะให้ผู้หลงเชื่อโอนเงินให้ก่อน 
4. เมื่อถึงวันรับสินค้า เหยื่อจะส่งข้อมูลไปสอบถาม คนร้ายจะถ่วงเวลา 
5. เปลี่ยนเป็นเพจใหม่ เพื่อหลอกขายเช่นเดิมไปเรื่อยๆ ของปลอม 
1.พบการกดปุ่มโกรธ (angry) จำนวนมาก
2.สถานะของเพจเป็นอสังหาริมทรัพย์ 
3. เพิ่งเปิดเพจ และผู้จัดการเพจอยู่ต่างประเทศ
ของแท้ 

1.สถานะของเพจเป็นธุรกิจท้องถิ่น
2. เปิดมานานและผู้จัดการเพจอยู่ประเทศไทย
1. ตรวจสอบเพจ Facebook ให้แน่ใจก่อนซื้อ โดยกด เกี่ยวกับ 'ความโปร่งใส' ก็จะเห็นว่าเปิดมานานเท่าใด  ผู้จัดการเพจอยู่ประเทศไทยหรือไม่(อยู่ต่างประเทศ ควรหลีกเลี่ยง)  
2. ดูช่องกดไลค์(มีเครื่องหมาย 'โกรธ' ดูโพสต์เป็นหลัก อย่าดูด้านใต้ชื่อเพียงอย่างเดียว เพราะสามารถซื้อ 'ไลค์' ได้  
3. ลองนำชื่อเพจนั้น ไปใส่ช่องค้นหาใน Facebook ว่ามีเพจอื่นอีกหรือไม่ แล้วนำมาเปรียบเทียบกันดูว่า เพจไหนจริง/ปลอม
4. 'ของดีและถูกเกินกว่าราคาตลาดมากๆ' ให้สงสัยไว้ก่อนว่าหลอกลวง
5. บัญชีรับโอนเงินควรเป็นบัญชีชื่อร้าน หากเป็นบัญชีบุคคลธรรมดา ให้สงสัยไว้ก่อนว่าหลอกลวง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top