Thursday, 2 May 2024
ไฟไหม้

ปทุมธานี - “บิ๊กแจ๊ส” นายก อบจ.ปทุมฯ ลงสั่งการรถดับเพลิง เข้าช่วยดับเพลิงไฟไหม้ ร้านขายต้นไม้ดอกไม้ประดับวอดทั้งหลัง

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนบริเวณริมถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว (ติดกับการประปาส่วนภูมิภาคสาขาปทุมธานี) ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงประสานรถดับเพลิงจาก ทม.ปทุมธานีและ อบจ.ปทุมธานี จำนวน 2 คัน ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งในที่เกิดเหตุ พบว่าเพลิงกำลังโหมลุกไหม้บ้านเลขที่ 1 ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง ซึ่งปลูกอยู่หลังร้านขายต้นไม้ดอกไม้ประดับ โดยเปลวเพลิงได้ไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีลมแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงได้พยายามเร่งระดมฉีดน้ำโดยมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี และ พล.ต.ต.พงษ์สวัสดิ์ หาญสวัสดิ์ นายก ทม.ปทุมธานีเดินทางมาสั่งการในการดับเพลิงด้วยตัวเอง ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็สามารถดับไฟได้ทั้งหมดแต่บ้านก็ถูกไฟไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการสอบถามนายวิรัตน์ ลายลักษณ์ อายุ 64 ปี เจ้าของบ้าน อดีต จนท.เวรเปล รพ.ปทุมธานี ซึ่งมีโรคประจำตัวและนั่งเหม่อมองไฟไหม้บ้านตัวเองจนวอดหมดทั้งหลังต่อหน้าต่อตา

โดยมีญาติ ๆ และเพื่อนบ้านต่างมาคอยปลอบให้กำลังใจไม่ให้คิดมาก โดยกล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวตนจะอยู่กับภรรยา อายุ 62 ปี และหลานสาว แต่ช่วงก่อนเกิดเหตุทุกคนมานั่งขายต้นไม้ ดอกไม้ประดับที่หน้าร้าน ส่วนตนกำลังเก็บกวาดหน้าร้าน จู่ ๆ ก็เห็นว่ามีเปลวไฟลุกไหม้มาจากทางหลังบ้านและช่วงเวลานั้นมีลมแรงทำให้ไฟลุกลามมาทางหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคนไม่สามารถเข้าไปขนข้าวของและทรัพย์ออกมาได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว แม้จะมีรถดับเพลิงจากทั้ง 2 หน่วยงานมาช่วยดับอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ทัน สำหรับทรัพย์ที่ไหม้ไปกับกองเพลิงนอกจากจะเป็นข้าวของเครื่องใช้แล้ว ยังมีเงินสดร่วม 5 หมื่นและทองรูปพรรณอีกจำนวนหนึ่ง ตอนนี้ทุกคนก็เหลือแต่เพียงเสือผ้าที่สวมใส่ในวันนี้เท่านั้น

 

รมว.สุชาติ ห่วงเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตรองเท้า ย่านกิ่งแก้ว หวั่นตกงานกว่า 200 ชีวิต เร่งสั่งการอธิบดีกรมการจัดหางานเตรียมตำแหน่งงานรองรับ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ห่วงใยลูกจ้าง พนักงานโรงงานผลิตรองเท้า บริษัท วัฒนา ฟูตแวร์ จำกัด ในซอยกิ่งแก้ว 9 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานจนตัวอาคาร เครื่องจักรและทรัพย์สินเสียหายเกือบทั้งหมด และยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการเลิกจ้างพนักงานลูกจ้างหรือไม่ จึงได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานติดตามดูแลให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด ซึ่งตนได้สั่งการให้กรมการจัดหางาน  และกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงานลงพื้นที่พูดคุยกับตัวแทนโรงงานและพนักงาน ลูกจ้างที่ประสบเหตุ เพื่อหาทางออกและแนวทางช่วยเหลือให้ได้รับค่าชดเชยหรือหากถูกเลิกจ้าง ก็ให้กรมการจัดหางานเตรียมตำแหน่งงานในพื้นที่ใกล้เคียงรองรับ

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางงาน กล่าวว่า ได้มอบหมายนายธนภูมิ ชัยฤกษ์ จัดหางานจังหวัดสมุทรปราการ ลงพื้นที่ดูแลแรงงานที่ได้รับความเดือดร้อน เบื้องต้นทราบว่าบริษัท วัฒนาฟุตแวร์ จำกัด มีพนักงาน จำนวน 261 คน ซึ่งขณะนี้มีการหารือร่วมกันระหว่างกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน ตัวแทนโรงงาน และตัวแทนพนักงานซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ
 

สตูล - ตำรวจตระเวนชายแดน 436 จ.สตูล นำสิ่งของมอบให้ชาวบ้านอำเภอละงู ถูกไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง!!

วันนี้ 9 ก.พ. 2565 พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ ศรีราชยา ผบ.ร้อย ตชด.436 มอบหมายให้ ร.ต.อ.พรเทพ หมื่นแกล้ว รอง ผบ.ร้อย ตชด.436  พร้อม ข้าราชการตำรวจจิตอาสาชุดช่างสนาม ร้อย ตชด.436 ได้เดินทางไปให้กำลังใจชาวบ้านที่โดนไฟไหม้บ้านเมื่อ วันที่ 8 ก.พ.2565 เวลา 17.30 น.สำหรับบ้านที่ถูกไฟไหม้ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านเลขที่ 651 ม.1 ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงและมีผู้อยู่อาศัยคือนายรอบาอัน มาลัยสนั่น (เจ้าของบ้าน) พร้อมสมาชิกในบ้านรวม 4 คนได้รับความเสียหายเบื้องต้นทั้งหลังไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้

ทั้งนี้ ร.ต.อ.พรเทพ หมื่นแกล้ว รอง ผบ.ร้อย ตชด.436 พร้อม ข้าราชการตำรวจจิตอาสาชุดช่างสนาม ร้อย ตชด.436 ลงพื้นที่เพื่อออกสำรวจความเสียหาย และมอบสิ่งของช่วยเหลือเบื้องต้น ให้แก่ นายรอบาอัน มาลัยสนั่น เจ้าของบ้านประสบเหตุไฟไหม้(อัคคีภัย) พร้อมทั้งหาทางช่วยเหลือตามกำลังของหน่วยงานซึ่งลักษณะเป็นบ้านไม้ยกสูง เป็นไม้ทั้งหลัง ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ของ ตร.พฐ จ.สตูลตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง

 

'โฆษก สพฐ.ตร.' ห่วงประชาชน จากเหตุไฟไหม้ ยันป้องกันได้ วอนหมั่นตรวจเช็ค-บำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2565 ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สพฐ.ตร.)

พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร โฆษกสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก สพฐ.ตร.) กล่าวว่าในช่วงนี้มีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง สร้างความเสียหายและความสูญเสีย อย่างเช่นเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 เกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในชุมชนบ่อนไก่ ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 30 หลัง ส่วนคอนโดบริเวณใกล้เคียงก็ได้รับผลกระทบจากความร้อน ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตปทุมวันและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ได้รับความเสียหายในเบื้องต้น โดยการตั้งโต๊ะรับแจ้งความในพื้นที่เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน หรือย้อนกลับไปกับเหตุสลดกลางดึกของคืนวันที่ 21 พฤษภาคม 2565 เกิดเพลิงลุกไหม้บ้านเลขที่ 28/57 หมู่ 6 ต.บ่อพลับ อ.เมืองนครปฐม ทำให้ นาง กาณต์รวี รวงผึ้ง อายุ 46 ปี เจ้าของบ้าน เสียชีวิตพร้อมลูกหลานวัย 1,5, และ 12 ปี รวม 4 ศพ  นั้น หลาย ๆ เหตุการณ์จากการตรวจพิสูจน์ของตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พบว่าสาเหตุมักเกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือสายไฟชำรุด จากการใช้งานมานาน และขาดการบำรุงรักษา

ด้าน พ.ต.อ.หญิง ศิริประภา รัตตัญญู นวท.(สบ๔) กสก.พฐก. กล่าวว่าเมื่อได้รับการร้องขอจากพนักงานสอบสวนให้ไปร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ จะมีหลักในการทำงานด้วยการสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ในหัวข้อหลัก ๆ คือ
1. สถานการณ์เพลิงไหม้ขณะนั้น เพลิงสงบหรือยัง,ควันยังมีมากหรือไม่ เป็นต้น 
2. มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่
3. สถานที่เกิดเหตุเป็นอะไร เช่น บ้าน ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ อาคารสูง ชุมชน โรงงาน ฯลฯ
4. ความปลอดภัยของสถานที่เกิดเหตุก่อนเข้าตรวจ

'ไฟไหม้' ภัยใกล้ตัวที่ป้องกันได้

“โจรปล้น 10 ครั้งไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว” คำกล่าวที่ดูแสนคร่ำครึ และถูกนำมาพูดเปรียบเปรยเตือนสติกันมาอย่างยาวนานยังคงความจริงอยู่เสมอ ไม่ว่าเทคโนโลยีในการป้องกันอัคคีภัย ความปลอดภัยจะก้าวไปไกลขนาดไหน แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะความละเลย ความประมาทของมนุษย์ได้ 

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะผู้คนส่วนใหญ่มักคิดว่า “อัคคีภัย” เป็นเรื่องไกลตัว แต่แท้จริงแล้วเป็นภัยใกล้ตัวที่มักเกิดขึ้นเสมอ และบ่อยครั้งก็สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างร้ายแรง

ในรอบปี 2565 ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ อาคาร 6 ชั้น สีลมซอย 2, ชุมชนบ่อนไก่, ตึกแถวย่านบางบอน, ตึกแถวสี่คูหาย่านสำเพ็ง, ที่เก็บแบตเตอรี่สำหรับรถกอล์ฟ สมุทรปราการ, ผับชลบุรี, ตึก EnCo อาคาร A ล่าสุด สถาบันจัสแมกไทย ถนนสาธร บางเคสมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10 ราย 

เหตุการณ์ไม่คาดคิดเหล่านี้อาจไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากมีมาตรการป้องกันที่ดี และอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ก็จะช่วยบรรเทา ทุเลาความเสียหายในการเกิดเหตุ ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ควรมีความรู้ และตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกใช้อุปกรณ์และระบบดับเพลิงที่ได้มาตรฐาน เพื่อช่วยป้องกันและลดการสูญเสียต่อทรัพย์สินและอันตรายต่อชีวิต 

ข้อมูลจาก บริษัท ไฟร์เทรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)  หรือ FTE ผู้ออกแบบระบบดับเพลิง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดับเพลิงครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ระบุว่า การสร้างความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับ ที่อยู่อาศัย สถานประกอบการทุกขนาด ทั้งนี้ควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 
1. อุปกรณ์และระบบเตือนภัย อาทิ อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ตรวจจับความร้อน แจ้งเหตุเพลิงไหม้
2. อุปกรณ์และระบบดับเพลิง อาทิ เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ ระบบดับเพลิงด้วยน้ำ, โฟม, สารสะอาด, ก๊าซ เป็นต้น

ระทึก!! ไฟไหม้ บก.น.5 ย่านสาทรเหนือ เผาวอดทั้งหลัง หวั่น เอกสารคดีสำคัญเสียหาย ‘ผบช.น.’ สั่งเร่งสืบหาสาเหตุ

(4 มี.ค. 66) ร.ต.อ.มัสโรจน์ เมฆวิเชียรเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) ถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. จึงประสานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยกรุงเทพมหานคร นำรถน้ำกว่า 50 คัน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่ถนนสาทร ฝั่งขาเข้า ใกล้กับแยกนรินทร พบเพลิงกำลังลุกไหม้รุนแรง อาคารสูง 3 ชั้นทั้งหมดทุกชั้น มีเปลวเพลิงสูงกว่า 10 เมตร และเสียงระเบิดประทุดังสนั่นเป็นระยะ เจ้าหน้าที่จึงต้องปิดกั้นการจราจร ตั้งแต่สี่แยกนรินทร ผ่านบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร พร้อมระดมหน่วยดับเพลิงลากสายฉีดน้ำกว่า 50 หัวเร่งฉีดน้ำเข้าควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้ แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปภายในอาคารได้ เนื่องจากหลังคาอาจถล่มลงมา เบื้องต้นจากการตรวจสอบขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ติดค้าง หรือพักอาศัยอยู่ภายใน ส่วนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดไว้รอบอาคาร ได้รับความเสียหายจำนวน 7 คัน หนึ่งในนั้นเป็นรถยนต์ประจำตำแหน่งของ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 หมายเลขทะเบียน ตราโล่ 09806 สภาพกันชนหน้ารถละลายจากความร้อน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาฉีดน้ำควบคุมเพลิงนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสงบลง

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ ขณะกำลังจะไปออกกำลังกาย พร้อมระบุว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเวรยามรักษาการด้านหน้าอาคาร ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิด คล้ายไฟฟ้าลัดวงจรที่บริเวณชั้นล่างของตัวอาคาร จากนั้นเห็นแสงเพลิงกำลังลุกไหม้กองเอกสาร จากนั้นก็รีบนำถังดับเพลิงวิ่งเข้าไปฉีด แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้เข้ามาช่วยเหลือ โชคดีที่ใกล้จุดเกิดเหตุมีน้ำคลองสาทร จึงสามารถใช้ในการดับไฟได้

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับอาคารหลังนี้ ขณะนี้เพลิงลุกไหม้เต็มพื้นที่ ทำให้ส่วนของหลังคาและพื้น ที่มีไม้เป็นส่วนประกอบ ถูกไฟเผาจนหมดสิ้น ส่วนบริเวณพื้นที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในความดูแลของตำรวจ จึงอยากฝากให้ประชาชนระมัดระวัง เนื่องจากช่วงนี้อากาศแห้ง และขอให้ระวังเรื่องการใช้ไฟฟ้า เศษขยะอันจะก่อให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้

ต่อมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ ระบุว่า จากการสอบถามเวรยามรักษาการทราบว่า มีเพลิงลุกไหม้ที่บริเวณชั้นหนึ่ง จากนั้นตำรวจรักษาการเห็นเปลวเพลิง และรีบนำถังดับเพลิงมาฉีดสกัด จำนวน 2 ถัง แต่เนื่องจากจุดที่ไฟไหม้เป็นกองเอกสาร ทำให้ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จึงรีบโทรแจ้งรถดับเพลิงมาที่เกิดเหตุ ก่อนที่ไฟจะลุกลามไปยังชั้น 2 และ 3 อย่างรวดเร็ว จนตัวหลังคาได้รับความเสียหายทั้งหลัง

ไฟไหม้ ‘ตลาดเก่า 100 ปี’ จ.ราชบุรี เผาตึกแถววอด 8 คูหา กองพิสูจน์ฯ เร่งตรวจสอบ คาด อุ่นกับข้าวแล้วลืมปิดเตาแก๊ส

(7 มี.ค. 66) เมื่อเวลา 07.00 น. นายชูเกียรติ วงษ์พิทักษ์โรจน์ นายกเทศบาลตำบลห้วยกระบอก ตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าหลายคูหาในตลาดห้วยกระบอก ซอยเทศบาล 1 จึงรุดให้ความช่วยเหลือพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กรับใหญ่ และมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวไม้เก่าอายุกว่า 100 ปี ต้นเพลิงเกิดจากห้องแถวหลังหนึ่งแล้วลุกลามอย่างรวดเร็ว จนเจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำดับเพลิงจากหน่วยงานใกล้เคียงกว่า 10 คัน ชาวบ้านต่างเร่งช่วยกันขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ให้พ้นจากแรงเพลิง ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถความคุมเพลิงไว้ได้ โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีห้องแถวได้รับความเสียหาย 8 คูหา เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้

พริบตาเดียววอด!! หนุ่มคลั่ง!! ขอไฟแช็ก อ้างจุดแก๊สต้มมาม่า เผลอแวบเดียวไหม้ทั้งหลัง จนท. คุมตัวเข้าซังเต

หนุ่มคลั่ง ขอไฟแช็กแม่ค้าสลาก อ้างจะจุดแก๊สต้มมาม่า เผลอแว่บ เผาจยย. ลามเข้าบ้าน วอดวาย ลุกลามไปทั่ว อลหม่าน ล้อมจับกันวุ่น ส่งเข้าซังเต

วันที่ 12 มี.ค.2566 ตำรวจสภ.เมืองอ่างทองจับกุมนายอภิวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี หลังก่อเหตุคลั่งเผาบ้าน ในพื้นที่ต.ตลาดหลวง ทางดับเพลิงต้องเข้าคุมสถานการณ์ บ้านมอดไฟทั้งหลัง อีกหลังประตูบ้านเสียหาย จยย.ถูกไหม้ไปแล้ว 4 คัน

จากการสอบสวนทางนายอภิวัฒน์ ยังให้การวกไปวนมา โดยผู้ก่อเหตุเผาบ้านเช่าของแม่ โดยได้ปีนรั้วเข้ามาเผาจยย.แม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลก่อนลามไปบ้าน และทรัพย์สินอื่น ๆ

‘บิ๊กตู่’ สั่งเร่งดับไฟป่า จ.นครนายก-พื้นที่ภาคเหนือ จี้ ทุกหน่วยคุมเข้ม ล่าตัวคนลักลอบเผาป่าดำเนินคดี

(30 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์เหตุไฟป่า จังหวัดนครนายก, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดเชียงราย และพื้นที่ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด

พร้อมสั่งการ ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งทีมชุดดับไฟป่า เข้าปฏิบัติการเข้าดับไฟป่า พร้อมขอให้กองทัพสนับสนุนการปฏิบัติการ เพื่อดำเนินการดับไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง

นายอนุชา กล่าวว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นบริเวณเขาชะภู ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ช่วงคืน 29 มี.ค. ที่ผ่านมา ปภ. ได้นำรถสูบน้ำระยะไกล เข้าปฏิบัติการดับไฟ ร่วมกับทีมไฟป่าของกรมอุทยานแห่งชาติฯ มี ผู้ว่าฯ นครนายก ร่วมบัญชาการดับไฟป่า ทั้งนี้ พื้นที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นเขาสูงชัน ทำให้ชุดดับไฟป่าของสถานีควบคุมไฟป่าไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อดับเพลิงได้ อีกทั้งเพลิงยังได้ลุกลามไปยังเขาแหลมซึ่งอยู่ติดกัน

โดยจังหวัดนครนายก ได้ประสานขอรับการสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย พร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ ปภ.เขต 3 จังหวัดปราจีนบุรี และเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย (KA-32) จาก ปภ. เพื่อดำเนินการดับไฟป่าแล้ว ซึ่งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 จังหวัดปราจีนบุรี ได้ให้การสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย

ประกอบด้วย รถสูบส่งน้ำระยะไกล รถดับไฟป่า รถส่องสว่าง รถบรรทุกน้ำ 10,000 ลิตร รถกู้ภัย รวม 5 คัน ออกปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ตลอดช่วงคืนที่ผ่านมาแล้ว

ขณะที่การดับไฟป่าทางอากาศยานปีกหมุน หรือ เฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย (KA-32) โดย ปภ.ร่วมกับกองทัพบก จะเข้าร่วมปฏิบัติการเพื่อดำเนินการดับไฟป่าในพื้นที่ในวันนี้ ด้านศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 (นครนายก) สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศว่า กรณีไฟไหม้ป่าในพื้นที่ จังหวัดนครนายก หากพบสัตว์ป่าหนีไฟ แจ้งได้ที่เพจ ‘ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 (นครนายก)’ หรือสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายอนุชา กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ไฟป่า ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ ปภ. ร่วมกับกองทัพบก นำเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA 32-01 ขึ้นบินปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่บริเวณ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ทำการบินทิ้งน้ำดับไฟจำนวน 6 รอบ ปริมาณน้ำ 18,000 ลิตร

ขณะที่จังหวัดเชียงรายได้ขอรับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย เพื่อปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่ ซึ่ง เฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA 32-03 ได้เดินทางถึงจังหวัดเชียงรายแล้ว และจะเริ่มปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงรายในวันนี้ โดย ปภ.ร่วมกับกองทัพบก จะนำอากาศยานปีกหมุนทั้งสองลำพร้อมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง

‘ทอ.’ ส่ง ‘UAV’ วิเคราะห์แนวโน้มการลุกลามไฟป่า จ.นครนายก เพื่อส่งข้อมูลให้ จนท.วางแผน-เร่งคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็ว

(31 มี.ค. 66) จากเหตุการณ์ไฟป่าบริเวณเขาแหลม อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ และได้สั่งการให้หน่วยทหารสนับสนุนการคลี่คลายสถานการณ์อย่างเต็มที่นั้น พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้สั่งการให้คณะทำงานด้านบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ เสริมกำลังเข้าสนับสนุนการควบคุมไฟป่า เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว

โดยเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 66 คณะทำงานศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก, กอ.รมน.จังหวัดนครนายก และส่วนปฏิบัติการส่วนหน้า เพื่อหารือถึงการนำอากาศยานและขีดความสามารถของกองทัพอากาศ เข้าร่วมปฏิบัติการควบคุมไฟป่า ตามเจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารอากาศ และร่วมดำเนินการ ดังนี้

เวลา 09.30 น.จัดเครื่องบิน DA-42 ฝูงบิน 604 กองบิน 6 ทำการบินลาดตระเวนด้วยสายตา ค้นพบพื้นที่ไฟป่าบริเวณด้านหลังโรงเรียนนายร้อย จปร.

เวลา 11.00 น. จัดอากาศยานไร้คนขับ (UAV) แบบ Aerostar BP ฝูงบิน 302 กองบิน 3 ทำการบินลาดตระเวนค้นหาพื้นที่ไฟป่า ค้นพบพื้นที่ไฟป่า 3 เป้าหมาย โดยอยู่บริเวณด้านหลังโรงเรียนนายร้อย จปร. 2 เป้าหมาย และพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในเขตจังหวัดสระบุรี 1 เป้าหมาย โดยได้ VDL (Video Down Link) ส่งข้อมูลให้กับส่วนปฏิบัติการส่วนหน้า


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top