‘บิ๊กตู่’ สั่งเร่งดับไฟป่า จ.นครนายก-พื้นที่ภาคเหนือ จี้ ทุกหน่วยคุมเข้ม ล่าตัวคนลักลอบเผาป่าดำเนินคดี

(30 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์เหตุไฟป่า จังหวัดนครนายก, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดเชียงราย และพื้นที่ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด

พร้อมสั่งการ ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งทีมชุดดับไฟป่า เข้าปฏิบัติการเข้าดับไฟป่า พร้อมขอให้กองทัพสนับสนุนการปฏิบัติการ เพื่อดำเนินการดับไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง

นายอนุชา กล่าวว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นบริเวณเขาชะภู ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ช่วงคืน 29 มี.ค. ที่ผ่านมา ปภ. ได้นำรถสูบน้ำระยะไกล เข้าปฏิบัติการดับไฟ ร่วมกับทีมไฟป่าของกรมอุทยานแห่งชาติฯ มี ผู้ว่าฯ นครนายก ร่วมบัญชาการดับไฟป่า ทั้งนี้ พื้นที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นเขาสูงชัน ทำให้ชุดดับไฟป่าของสถานีควบคุมไฟป่าไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อดับเพลิงได้ อีกทั้งเพลิงยังได้ลุกลามไปยังเขาแหลมซึ่งอยู่ติดกัน

โดยจังหวัดนครนายก ได้ประสานขอรับการสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย พร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ ปภ.เขต 3 จังหวัดปราจีนบุรี และเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย (KA-32) จาก ปภ. เพื่อดำเนินการดับไฟป่าแล้ว ซึ่งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 จังหวัดปราจีนบุรี ได้ให้การสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย

ประกอบด้วย รถสูบส่งน้ำระยะไกล รถดับไฟป่า รถส่องสว่าง รถบรรทุกน้ำ 10,000 ลิตร รถกู้ภัย รวม 5 คัน ออกปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ตลอดช่วงคืนที่ผ่านมาแล้ว

ขณะที่การดับไฟป่าทางอากาศยานปีกหมุน หรือ เฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย (KA-32) โดย ปภ.ร่วมกับกองทัพบก จะเข้าร่วมปฏิบัติการเพื่อดำเนินการดับไฟป่าในพื้นที่ในวันนี้ ด้านศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 (นครนายก) สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศว่า กรณีไฟไหม้ป่าในพื้นที่ จังหวัดนครนายก หากพบสัตว์ป่าหนีไฟ แจ้งได้ที่เพจ ‘ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 (นครนายก)’ หรือสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายอนุชา กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ไฟป่า ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ ปภ. ร่วมกับกองทัพบก นำเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA 32-01 ขึ้นบินปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่บริเวณ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ทำการบินทิ้งน้ำดับไฟจำนวน 6 รอบ ปริมาณน้ำ 18,000 ลิตร

ขณะที่จังหวัดเชียงรายได้ขอรับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย เพื่อปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่ ซึ่ง เฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA 32-03 ได้เดินทางถึงจังหวัดเชียงรายแล้ว และจะเริ่มปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงรายในวันนี้ โดย ปภ.ร่วมกับกองทัพบก จะนำอากาศยานปีกหมุนทั้งสองลำพร้อมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง

นายอนุชา กล่าวว่า นายกฯ ติดตามสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนครนายก, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดเชียงราย และทุกพื้นที่ของประเทศอย่างใกล้ชิด โดย นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กำชับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ร่วมกับกองทัพ ระดมกำลังลงพื้นที่เร่งดับไฟป่า กระชับพื้นที่ไม่ให้ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้นกว่าเดิม

พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะส่วนท้องถิ่น จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าสอดส่องดูแลสถานการณ์การลักลอบจุดไฟเผาป่า เพื่อเตรียมพื้นที่ทำการเกษตร หาของป่าในช่วงเวลานี้ โดยปัญหาการลักลอบจุดไฟเพื่อเตรียมพื้นที่ทำการเกษตรและหาของป่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี ซึ่งจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ถ้าประชาชนไม่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐฯ ในการแก้ไขปัญหา

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำให้หน่วยงานในพื้นที่ ร่วมกันสร้างความตระหนักรู้ถึงความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า ย้ำขอความร่วมมือประชาชนให้คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก พร้อมให้เจ้าหน้าที่คุมเข้มมาตรการทางกฎหมาย บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เร่งหาตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด


ที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7586525